ตอนที่ 871 ความสับสนของสงครามในทุกทิศ
โกวเฉิงเวิ่นเต้าอ่านรายงานอย่างเฉยเมย
แม้ว่าเขาจะคาดเดาได้ถึงการรูปแบบการโจมตีต่อไปของสัมพันธมิตรใต้ได้ แต่เมื่อเกิดขึ้นจริงยังคงหงุดหงิด
เส้นทางลำเลียงถูกโจมตีอย่างต่อเนื่องและจากวิธีที่เขาเห็น เขาคาดได้ว่าเป็นกองทัพเล็กสองกอง หนึ่งในนั้นคือกองกำลังปีศาจทวีปโยวโจวซึ่งมีหลายคนรู้จักสัมพันธมิตรใต้มีหน่วยรบที่ทรงพลังมากก็คือกองกำลังปีศาจทวีปโยวโจว หน่วยรบของกองกำลังปีศาจทวีปโยวโจวนี้ดึงดูดความสนใจคนนับไม่ถ้วน เนื่องจากพวกเขาเป็นกองกำลังที่ตกต่ำและกลับมารุ่งเรืองอีกครั้งหนึ่งในมือของสัมพันธมิตรใต้
เทียบกับกองกำลังปีศาจทวีปโยวโจวที่ร่ำรวยประวัติศาสตร์แล้ว หน่วยรบอื่นอย่างกองกำลังน้ำแข็งเงินไม่ถือว่ามีอะไรจริงๆ กล่าวกันว่านี่เป็นกองทัพที่สร้างใหม่ที่แม้แต่นายกองก็ยังเป็นมือสมัครเล่น แต่กองทัพมือใหม่นำโดยแม่ทัพนายกองมือสมัครเล่นกลับทำให้เส้นทางลำเลียงไม่ปลอดภัยได้จริงๆ
โกวเฉิงเวิ่นเต้าไม่มีความคิดอะไรเพิ่มอีกต่อไป
กองเรือของเขาได้รับความเสียหายหนักและเขาออกมาพร้อมกับเรือรบขนาดเล็กที่มีจำนวนน่าสมเพชซึ่งถ้าเขาขืนส่งออกไปมีแต่จะกลายเป็นงานเลี้ยงฉลองให้ศัตรู สัมพันธมิตรใต้เชี่ยวชาญในการเดินทางในทะเลพลังงานและการต่อสู้ในนั้น แสดงให้เห็นว่าพวกเขาผ่านการฝึกฝนมาก่อน ก่อนหน้านี้โกวเฉิงเวิ่นเต้าไม่เคยเชื่อว่าจะมีคนที่ฝึกเช่นนี้อย่างต่อเนื่อง ทะเลพลังงานเป็นโลกของเรือรบนั่นเป็นความรู้พื้นฐานที่สุด
สัมพันธมิตรใต้พังทลายองค์ความรู้ทั่วไปนี้ ตั้งแต่การโจมตีอย่างรุนแรงในภูมิภาค ดูเหมือนว่าสัมพันธมิตรใต้ยังพยายามแสดงตนเองอย่างต่อเนื่องแสดงวิธีที่กองทัพสามารถสู้กับเรือรบในทะเลพลังงาน กลยุทธเหล่านี้ที่แย้งกับความรู้ทั่วไปถูกนำมาแสดงได้อย่างไม่ธรรมดาในเงื้อมมือของสัมพันธมิตรใต้ที่ซึ่งโกวเฉิงเวิ่นเต้าพบเจอมาด้วยตัวเองอย่างซาบซึ้ง ความสามารถควบคุมวังวนพลังงาน ความสามารถในการซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่กระแสพลังแฝงเร้นห้าวันเต็มกลยุทธทั้งหมดนี้ฟังดูแล้วไม่ว่าใครก็คาดไม่ถึง เพราะทั้งหมดนี้ไม่เคยปรากฏมาก่อน
ตอนนี้แม้แต่กองกำลังน้ำแข็งเงินและกองกำลังปีศาจทวีปโยวโจวก็ทำให้โกวเฉิงเวิ่นเต้าได้พบกับสิ่งที่เรียกว่าไม่สามารถกินได้หรือพักอย่างสงบ
สิ่งที่ทำให้โกวเฉิงเวิ่นเต้ากังวลมากยิ่งขึ้นไม่ใช่สถานการณ์การสู้รบแต่เขาตระหนักได้ทันทีว่าพวกเขาประเมินความแข็งแกร่งของสัมพันธมิตรใต้ผิดเพี้ยนไปมาก
โกวเฉิงเวิ่นเต้ารู้เหตุผลว่าทำไมถึงมีข้อผิดพลาดมากมายขนาดนั้น
เมื่อเห็นไพ่ของสัมพันธมิตรใต้เทียบกับทวีปกวงหมิงมีแต่ไพ่แย่ในมือ ในกองทัพสัมพันธมิตรใต้ทั้งหมด มีเพียงคนเดียวที่อาจนับได้ว่ามีชื่อเสียงอย่างแท้จริง ก็คือไป๋เยี่ย!
แต่ไพ่แย่ในมือนี้ สัมพันธมิตรใต้กลับเปลี่ยนเป็นไพ่ดีในมือได้
เซี่ยอวี่อันผู้เคยเป็นเพียงแม่ทัพธรรมดาผู้มีความสำเร็จรุ่งเรืองอย่างดีที่สุดก็คือรักษาความสงบตามกฎหมายทั่วไป สิ่งที่แย่ก็คือกองพลนางแอ่นและเขาถูกถังเทียนซื้อไป! และราคาก็แสนถูก ถูกขนาดที่อาจทำให้คนอื่นบ้าได้
อีกหน่วยที่ถูกซื้อมาก็คือหน่วยกะโหลกกองทหารรับจ้างที่ไม่เคยอยู่ในสายตาของทวีปกวงหมิงเลย แต่เป็นเพราะกองทัพทหารรับจ้างที่ไม่ธรรมดานี้ที่แสดงเส้นทางที่โหดร้ายและขมขื่นในทวีปป่าหินทรายความดึงดันและจิตวิญญาณนักสู้ของพวกเขานับว่าน่าเกรงขาม
ไม่มีความจำเป็นต้องอธิบายเรื่องกองกำลังปีศาจทวีปโยวโจว พวกเขาตกต่ำจนถูกลืมเลือนมานาน ในสายตาของทุกคนพวกเขากลายเป็นขยะราคาถูก แต่ภายใต้คำสั่งของถังเทียนพวกเขากลายเป็นกองทัพที่น่ากลัวที่ทำให้ศัตรูต้องสั่นสะท้านเสียวสันหลัง ทวีปโยวโจวในปัจจุบันที่ถูกลืมไปนานเกี่ยวกับการทดสอบของกองกำลังปีศาจกลับรุ่งเรืองเต็มไปด้วยความตื่นเต้นอีกครั้ง สายเลือดใหม่นับไม่ถ้วนทำให้กองกำลังปีศาจทวีปโยวโจวแข็งแกร่งมากขึ้น
และยังมีห้าตระกูลเกาะใต้ที่หนีตาย และอาเฮ่อที่ไม่รู้จักและกองกำลังน้ำแข็งเงิน หรือจิ่งหาวผู้ซ่อนตัวอยู่ในวังวนพลังงานทั้งหมดนี้เปล่งรัศมีแพรวพราวเจิดจรัสสั่นสะเทือนไปทั้งดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์
โกวเฉิงเวิ่นเต้าเป็นคนที่บ้าคลั่งและมั่นใจในตนเองคนหนึ่ง แต่เขาไม่ใช่คนโง่
ด้วยคนแค่กลุ่มนี้เขาต้องผ่านความยากลำบากมากเพื่อให้มุ่งหน้าไปได้ แต่ก็ยังจบลงกับสถานการณ์ดังกล่าว เมื่อเห็นระดับความเติบโตของพวกเขาโกวเฉิงเวิ่นเต้ารู้สึกหนาวถึงขั้วกระดูก เขาไม่รู้ว่าถังเทียนไปรับกลุ่มคนแบบนั้นมาได้ยังไง แต่เบื้องหลังของพวกเขาทุกคนกลับเป็นเงาร่างลึกลับอีกร่างหนึ่ง
ปิง ผู้บัญชาการสูงสุดของสัมพันธมิตรใต้ผู้บัญชาการที่เป็นขุนพลวิญญาณคนแรกในประวัติศาสตร์ อาจเป็นเพราะปิงนั่งอยู่ในตำแหน่งนี้จึงใช้งานกองทัพของเขาส่งภารกิจให้พวกเขานั่นจึงนำมาซึ่งความลำบากให้กับโกวเฉิงเวิ่นเต้า
แม้แต่คนหยิ่งอย่างโกวเฉิงเวิ่นเต้าต้องยอมรับว่าปิงเป็นผู้บัญชาการที่โดดเด่น อาจกล่าวได้ว่าปิงใช้พลังของตัวเขาเองนำสัมพันธมิตรใต้มาถึงจุดที่เป็นอยู่
ทันใดนั้นเขาได้ยินเสียงฝีเท้าของเคนที่นอกประตู ‘เคน! โกวเฉิงเวิ่นเต้าสั่นเล็กน้อย ความคาดหวังเกิดขึ้นในใจของเขา ‘หรือว่าพวกเขาพบทางเข้าสวรรค์วิถี?’
เคนเดินเข้ามาและเมื่อโกวเฉิงเวิ่นเต้าเห็นสภาพทุลักทุเลของเคน ถึงกับใจหายวูบ
“เราโดนคนแคระน้ำเงินโจมตี!”
น้ำเสียงของเคนเหน็ดเหนื่อย
“คนแคระน้ำเงิน?” โกวเฉิงเวิ่นเต้าตกใจ แต่เขาลอบถอนหายใจโล่งอกโดยไม่รู้ตัว เขารู้สึกถึงอารมณ์ที่แปลกประหลาดของเขาได้อย่างรวดเร็ว และอดยิ้มขมขื่นไม่ได้ ‘ดูเหมือนความกลัวที่ข้ามีต่อสัมพันธมิตรใต้จะมีมากกว่าที่ข้าคิดเสียแล้ว’
“ขอรับ”เสียงเคนแหบแห้ง “มีคนแคระน้ำเงินมากมายต้องบอกว่าเป็นกองทัพคนแคระน้ำเงินขอรับ การโจมตีของพวกมันมีระเบียบมาก และทำให้เราสูญเสียอย่างหนัก”
“กองทัพคนแคระน้ำเงิน!” โกวเฉิงเวิ่นเต้าหรี่ตา เขาอยู่ในอาการตกใจ
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาเผชิญกับคนแคระน้ำเงินในทะเลน้ำเงิน เนื่องจากเป็นโลกของพวกมัน และการไม่เผชิญกับพวกมันนั่นแหละเป็นเรื่องแปลก ไม่ใช่เรื่องแปลกที่พวกเขาจะสูญเสียพ่ายแพ้หนักเพราะกองทัพคนแคระน้ำเงิน เนื่องจากเป็นที่ไม่เหมาะสมที่ทหารทวีปกวงหมิงจะต่อสู้ในทะเลน้ำเงิน ขณะที่คนแคระน้ำเงินสามารถปลดปล่อยพลังพวกเขาได้เต็มที่ โกวเฉิงเวิ่นเต้าคาดการณ์ถึงความสูญเสียนั้นไว้แล้ว
แต่ชื่อกองทัพคนแคระน้ำเงินทำให้โกวเฉิงเวิ่นเต้าประหลาดใจ
ดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ประสบเจอกับคลื่นน้ำเงินมาหลายปีแล้วและค่อยๆ ได้รับประสบการณ์ความรู้เกี่ยวกับคนแคระน้ำเงิน คนแคระน้ำเงินภายในทะเลน้ำเงินดูเหมือนมีไม่หมดสิ้นปรากฏตัวออกมาเหมือนคลื่น ส่วนใหญ่ของพวกมันจะไม่มีปัญญาหรือความรับรู้รายบุคคล พวกมันอาศัยจำนวนเข้าสู้รบและบุกใส่ศัตรูของพวกมัน
คนแคระน้ำเงินที่ตื่นรู้หาได้ยากและกองทัพคนแคระน้ำเงินก็หาได้ยาก กองทัพคนแคระน้ำเงินปฏิบัติอย่างพื้นฐานและเคลื่อนไหวอยู่ในใจกลางทะเลแสงน้ำเงิน และในประวัติศาสตร์ทั้งหมดไม่เคยปรากฏกองทัพคนแคระน้ำเงินขึ้น
เป็นสถานการณ์ไม่ธรรมดาสำหรับพวกเขาเมื่อเผชิญกับกองทัพคนแคระน้ำเงิน
“ขอรับ,เป็นกองทัพแน่นอน, และเราสามารถบอกได้ว่าพวกมันฝึกฝนมาแล้ว ถ้าเราสู้บนแผ่นดินหรือในทะเลพลังงานเราจะต้องชนะแน่นอน แต่ภายในทะเลแสงน้ำเงินเราเสียเปรียบ” เคนกล่าวเขาขยายความเกินจริงและไม่ปิดบังอะไร
โกงเฉิงเวิ่นเต้าเงยหน้าขึ้นและแสดงให้เห็นสีหน้าที่ไร้ชีวิตชีวา “เราไปกันต่อได้ไหม?”
เคนรู้ว่าเจ้านายหมายความว่ายังไง เขาสูดหายใจลึกและตอบ “ขอรับ!”
เคนรู้ว่าจะต้องอันตรายเพียงไหน พวกเขาไม่มีทางให้ถอย แต่ไม่ใช่เวลาที่พวกเขาจะต้องมาสนใจเรื่องการพ่ายแพ้หรือความตาย นอกจากเดินหน้า พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น
เขามองขุนพลมือขวาของเขาอย่างลึกซึ้งและผงกศีรษะ “ไม่สนใจความตาย ข้าจะใช้ทหารทั้งหมดที่ข้าสามารถระดมมาได้แม้แต่บริวารสายตรงของข้าก็ตาม คำร้องขอเสริมกำลังของเราถูกส่งไปที่สภาฯ แล้ว ทหารกำลังเสริมน่าจะมาถึงโดยเร็ว”
โกวเฉิงเวิ่นเต้าคาดไม่ผิด สภาอาวุโสได้รับข้อความจากเขาแล้ว แต่เขาไม่เคยคาดเลยว่าพวกเขาก็ตกอยู่ในความยากลำบากพอกัน
*******************
การฟื้นขึ้นมาของแดนบาปเป็นเรื่องใหญ่มาก และพวกเขาเห็นพวกแดนบาปเป็นศัตรูใหญ่และตกอยู่ในสภาพตึงเครียด ถ้าการกลืนสวรรค์วิถีเป็นความฝันของทวีปกวงหมิงมาหลายชั่วอายุคน อย่างนั้นการกลับจากแดนบาปเข้าสู่ทวีปกวงหมิงจะเป็นอันตรายต่อรากฐานการควบรวมของพวกเขา
เป็นเหตุผลที่สภาฯ จะต้องกังวล
คอลลินได้รับเลือกให้รับผิดชอบอย่างหนักภายใต้สถานการณ์เช่นนั้น
นอกจากนายพลโทสองสามคนแล้ว พรสวรรค์ของคอลลินไม่อาจเทียบกับแลนซ์ได้และได้รับการแต่งตั้งอย่างคาดไม่ถึง แต่เขาก็ทำหลายอย่างได้หนักแน่นและมีเสถียรภาพ เขาเป็นคนขยันและไม่เคยทำอะไรผิดพลาด
คอลลินรู้เหตุผลที่เขาเป็นตัวเลือกแรกของสภาฯ และรู้ว่าสภาฯเผชิญหน้ากับสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก หลังจากเขาได้รับคำสั่ง เขาไม่เคลื่อนทัพออกไปในทันที หลังจากส่งคนสอดแนมออกไปทวีปทุ่งขาวกองกำลังส่วนใหญ่ของเขาเคลื่อนไหวอย่างมั่นคงและโจมตีอย่างหนักตามรายทางที่มีการปล้นในกองทัพท้องถิ่น
สายตานับคู่ไม่ถ้วนในทวีปกวงหมิงจับตาอยู่ที่คอลลิน การเคลื่อนไหวของคอลลินพิสูจน์ให้เห็นถึงความระมัดระวังและประสบการณ์ของเขาพวกเขาหลายคนลอบพยักหน้าพอใจ แม้ว่าแดนบาปจะกลับมา ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามมากมายเพียงไหน แต่สภาอาวุโสมีพลังแข็งแกร่งมากกว่าพวกเขาแน่นอน ในสถานการณ์อย่างนั้น ไม่ว่าแผนหรือกลยุทธอะไรย่อมไม่ได้ผลเท่ากับพลังกดขี่ข่มขวัญที่มาจากความแข็งแกร่งที่แท้จริง
ทุกคนสภาอาวุโสเชื่อมั่นว่าท่านคอลลินจะกลับมาพร้อมกับชัยชนะ
**************
จงหลีไป๋หันกลับไปมองเทือกเขาและหุบเขารู้สึกถึงอารมณ์ไม่มีที่สิ้นสุด ‘ในที่สุดเราก็ออกจากไอ้ที่บ้าๆนี่เสียที’ ไม่มีภาพศัตรูให้เห็นในที่นั้น และนั่นเป็นที่กันดารและหนาวเย็น
หน้าของจงหลีไป๋เต็มไปด้วยเคราครึ้มเหมือนกับมนุษย์ถ้ำ เขาไม่สนใจ ม่านตาของเขาที่คล้ายกับหมาป่าหิวโหยมีแววอันตราย เขาใช้ลำธารกำจัดศัตรูซึ่งหมายความว่าเขาถือความได้เปรียบโจมตีก่อนอีกครั้ง
สำหรับบุรุษนักทำลาย โอกาสเช่นนั้นหาได้ยากมากเนื่องจากมีถ้ำหนึ่งที่นำเขาไปโผล่ที่ใดก็ได้ที่เขาต้องการ และสามารถลงมือโจมตีได้จากที่ใดก็ได้ที่เขาวางแผนไว้
เขาเป็นเหมือนดาบที่อันตรายและคมกริบพร้อมที่จะเสียบท้องอ่อนของศัตรูให้ทะลุ
จงหลีไป๋ไม่ยอมเสียเวลา เขารีบนำกองพลสัตว์ประหลาดของเขาและเริ่มโจมตีหนึ่งในค่ายทหารท้องถิ่นของสภาอาวุโส ค่ายทหารนี้ยึดครองโดยกองทัพท้องถิ่นติดอาวุธและปกครองควบคุมอย่างง่ายๆ และพวกเขาไม่เคยคิดว่าพวกเขาจะเผชิญกับศัตรูที่แข็งแกร่งทรงพลังขนาดนั้น และเพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาเตือนศัตรู จงหลีไป๋ออกคำสั่งเป็นพิเศษให้สัตว์ประหลาดใช้ทักษะการบินที่อ่อนด้อยน่าสงสารบินไปชายขอบของค่ายอย่างเงียบงัน
เมื่อสัตว์ประหลาดทะลักเข้าไปในค่ายทหาร ทหารทุกคนกำลังนอนหลับไม่มีเวลาได้ต่อต้านทุกคนถูกจงหลีไป๋จับตัวได้
เขาไม่ปล่อยให้ใครรอดชีวิต
จงหลีไป๋ไม่มีความตั้งใจใดๆจะถอยกลับอยู่แล้ว ในช่วงเวลาสั้นๆ เขาโจมตีอย่างต่อเนื่องและโจมตีค่ายทหารเล็กๆ เขาไม่ปล่อยให้ใครในค่ายรอดชีวิต ทั่วทั้งทวีปกวงหมิงตกตะลึงกับความป่าเถื่อนของจงหลีไป๋!
ทวีปกวงหมิงเองไม่ได้พบกับสงครามมาเป็นเวลานานแล้ว และการกระทำที่โหดเหี้ยมอำมหิตนั้นถือว่ามากเป็นประวัติการณ์ ในประวัติศาสตร์ของทวีปกวงหมิงมักจะสร้างความเจ็บปวดไว้กับฝ่ายอื่น
จงหลีไป๋เหมือนกับจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ ความเคลื่อนไหวของเขาเร็วและยากจะเข้าใจสิ่งที่ทำให้เขาดูเจ้าเล่ห์มากขึ้นก็คือเขาเพียงแต่หากองทัพท้องถิ่นที่อ่อนแอจากนั้นฆ่าพวกเขา กองทัพท้องถิ่นตายในเงื้อมมือเขามากขึ้นทุกที และการเข่นฆ่าที่ต้องเสียเลือดเนื้ออย่างนี้สร้างความประหลาดใจให้กับทวีปกวงหมิง และทำให้พวกเขากังวลมากขึ้น กองทัพท้องถิ่นทั้งหมดตกอยู่ในความหวาดกลัวและรู้สึกไม่ปลอดภัย การเผชิญหน้ากับกองทัพที่ทรงพลังอย่างนั้น พวกเขากลัวว่ากองทัพของทวีปทองจะมาฆ่าพวกเขาในบ้านตนเอง
ความกลัวฝังแน่นต่อไปจนกระทั่งโจรทวีปทองสู้จากภูมิภาคตะวันตกเข้าไปยังพื้นที่ภาคกลาง
เมื่อสถานที่ในพื้นที่กลางซึ่งเรียกว่าทวีปหย่งหมิงล่มสลายความกลัวก็เพิ่มขึ้นถึงระดับสูงสุด