ตอนที่ 870 ต้องมีคนยืนหยัดต้านทาน
เงาร่างนับสิบที่ยังคงยืนนิ่งหายไปในทันที
และขึ้นไปอยู่ในอากาศ!
ขณะนั้นเมฆดำม้วนตัวลงมาเหมือนกับมีชีวิต แผ่ขยายไปทั่วพื้นโลก และทุกอย่างถูกเมฆดำคลุมมืดมองไม่เห็นอะไร แม้แต่สุดยอดสิ่งมีชีวิตอย่างพญาเหยี่ยวที่มีสายตาดี แม้ยื่นมือออกก็ยังมองไม่เห็น
เหล่าอสูรปีศาจและผู้พำนักหลบหนีจากอันตรายมากมายของคลื่นมรณะจากกาฬสุริยันต์ ทันใดนั้นพวกเขาถูกแสงดำในเมฆสีดำโจมตีทันที ในท่ามกลางความมืดมิดไม่มีแสงสว่างแม้แต่น้อย เสียงร้องโหยหวนขึ้นไม่ขาดสาย
เสือหน้ามนุษย์สร้างคลื่นพลังงาน
คลื่นพลังแสงในโลกมืด ถูกเมฆดำปกคลุมก็ส่องแสงได้เป็นครั้งคราว
อย่างไรก็ตามกาฬสุริยันต์ในท้องฟ้าคือรัศมีแสงดำและพลังแสงสว่างของเสือหน้ามนุษย์ถูกแสงสีดำกลืนกินจนพลังลดลง
โลกตกอยู่ในความมืดอีกครา... หลงหม่าเจ้าปัญญาและวีเซลหางดาบใช้เวลาช่วงไม่กี่วินาทีช่วยอสูรแรดและอสูรแมวลิงซ์และอสูรอื่นหนีไปทางด้านเสือหน้ามนุษย์, นางพญาผึ้งพิษ และด้านข้างพญาเหยี่ยวกับสามผู้นำ ในเวลานี้ข้างผู้นำทั้งสามย่อมปลอดภัยที่สุดอย่างมิต้องสงสัย หากอยู่ลำพังคนเดียวคาดว่าจะต้องเดินตามรอยพวกที่ตายไปแน่นอน
เคลื่อนกำลังไปทางตะวันออก” สถานการณ์แย่มากพญาเหยี่ยวตัดสินใจอย่างไม่ลังเล
“ข้าจะคุ้มกันให้” เสือหน้ามนุษย์และนางพญาผึ้งพิษนำไปทางทิศตะวันออก เป็นทางเลือกที่ไม่เลว
ไกลออกไปทางทิศตะวันออกสามพันเมตรมีสระน้ำใสซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของอสูรน้ำและใช้เป็นที่หากิน กาฬสุริยันต์สาดส่องรัศมีเข้มอยู่ในท้องฟ้า และแทบเป็นพลังที่ไร้เทียมทาน เป็นไปไม่ได้ที่จะเผชิญต้านทานแสงของมันได้
ความเป็นไปได้เพียงประการเดียวก็คือลงไปในน้ำ
ไม่ว่าจะเป็นแสงใดๆ ทันทีที่ฉายแสงลงน้ำ แสงจะถูกหักเหและพลังจะลดลงไปมาก
หากสามารถหนีลงไปในสระน้ำทางทิศตะวันออกได้ แสงอาทิตย์ที่กล้าแข็งนี้ อาจจะสูญเสียพลังโจมตีไปก็ได้
จ้าวคางคกได้ยินคำสนทนาระหว่างพญาเหยี่ยวและเสือหน้ามนุษย์แล้วก็หัวเราะลั่น “ดี, ความคิดดี ก็แค่สอนคนโง่ให้ปรบมือได้ น่าชื่นชม! ปัญหาก็คือพวกเจ้าจะหนีไปยังบ่อที่อยู่ห่างออกไปสามกิโลเมตรได้หรือ? ภายใต้พลังคลื่นมรณะ ภายใต้แสงมรณะ หนีไปเลย! ฮ่าฮ่า จงคร่ำครวญอย่างน่าเวทนาในขณะที่หลบหนีไปอย่างเจ็บปวด ข้าจะเติมเชื้อเพลิงให้กับพวกเจ้า! เราหวังว่าหลังจากฆ่าพวกนี้แล้ว พวกเจ้าที่เหลือคงหนีลงบ่อได้ทัน!”
พญาเหยี่ยวแทบระเบิดอารมณ์โมโห แต่เขาไม่รู้จะเถียงยังไง
แม้ว่าดวงตาจะมองไม่เห็นคนชั่วคราว แต่เขารู้ได้ว่ามีสุดยอดสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังอยู่ข้างหน้าพวกเขา
แม้ว่าพวกมันไม่อาจเทียบกับกาฬสุริยันต์ แต่ก็คงเป็นอสูรที่ไม่ธรรมดา
ถ้าพวกเขาเข้าใจไม่ผิดนั่นควรเป็นอสูรที่หลานฟงและว่านหมอฝึกขึ้น มังกรไฟกรดและจ้าวแมลงกู่ทอง อสูรทั้งสองไม่เพียงแต่มีสติปัญญาเท่านั้นแต่ยังมีพลังถึงปราณฟ้าระดับห้า พญาเหยี่ยวมั่นใจว่าถ้าเป็นเขาสู้กับอสูรตัวเดียวก็ยังรู้สึกยากจะทนได้ แต่ถ้าถูกอสูรทั้งสองกดดันได้ น่ากลัวว่าสถานการณ์คงจะเลวร้าย
เสือหน้ามนุษย์ก็มีความรู้สึกแบบเดียวกัน
ความคิดแต่แรกเริ่มสูญสลายไปหมด
พอเพิ่มมังกรไฟกรดและจ้าวแมลงกู่ทอง กลายเป็นว่าพวกเขาถูกล้อมโดยอสูรที่ทรงพลัง
พลังของพวกเขาไม่แข็งแกร่งมาก แต่ยังห่างจากกาฬสุริยันต์ ใกล้เคียงกับมังกรไฟกรดและจ้าวแมลงกู่ทองประกอบกับข้อจำกัดอีสองสามอย่างจึงยากจะจัดการได้
จะทำยังไงดี?
ต้องมีบางคนยืนหยัดคอยป้องกันคลื่นพลังโจมตีก่อนเพื่อให้พวกเขาหนีไปได้มากขึ้น
ถ้าทุกคนป้องกันกันเองผลที่ตามมาก็คือจะถูกทำลายกันหมด
สิ่งที่เสือหน้ามนุษย์กังวลที่สุดก็คือระเบิดไร้เสียงของนางพญาผึ้งพิษ ถ้าในบรรเจ้าอสูรที่น่ากลัวที่สุด ถ้าเสือหน้ามนุษย์ต้องเลือกเขาคงไม่เลือกพญาราชสีห์ ไม่เลือกจ้าวคางคก แต่จะเลือกนางพญาผึ้งพิษผู้นี้ นางไร้น้ำใจ โหดร้าย และเด็ดขาดที่สุด ไม่เชื่อถือใคร มีแต่บริวารที่ภักดีที่สุดเพียงไม่กี่คน นางไม่เคยพบคนที่นางจะเชื่อใจได้อย่างแท้จริง คนอย่างนางพญาผึ้งพิษหากบอกว่าไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับจ้าวคางคกเสือหน้ามนุษย์ไม่เชื่ออย่างแน่นอน
ถ้านางพญาผึ้งพิษเป็นหมากตัวหนึ่งที่ถูกวางไว้ในกลุ่มพวกตน
อย่างนั้นก็จบกัน
เสือหน้ามนุษย์สามารถเชื่อใจพญาเหยี่ยวได้ สามารถเชื่อใจใครก็ได้ แต่เขาไม่สามารถเชื่อนางพญาผึ้งพิษ
“ตอนนี้ บางคนต้องการยืนหยัดร่วมกับข้าสู้กับศัตรู ทั้งอสูรปีศาจและผู้พำนักก็ได้ พวกเจ้าจำเป็นต้องเหลือคนไว้สักสองหรือสามคนไว้ช่วยเรา” เสือหน้ามนุษย์กลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก เขากำลังกีดกันไม่ให้นางพญาผึ้งพิษเสนอตัวสู้ “จงให้ความสำคัญกับความสามารถเป็นพิเศษ!”
“นี่....”
ถ้าเป็นการต่อสู้ตามปกติ หลายคนคงขันอาสาลุกยืนขึ้นก่อน
แต่บัดนี้ต้องรั้งอยู่ข้างหลังเพื่อต้านศัตรูให้โอกาสสหายได้หนีไป อย่างนั้นก็เท่ากับว่าตายในที่สุด
ปัญหาก็คือ ถ้าไม่มีใครรั้งอยู่เพื่อต้านทานศัตรู อย่างนั้นก็จะถูกศัตรูกำจัด ซึ่งเป็นผลที่เลวร้ายกว่ามาก
พญาเหยี่ยวกลืนน้ำลายอย่างกระวนกระวาย
ตามเหตุผลบอกว่าให้รั้งอยู่ แต่ภายใต้เงาแห่งความตายนั่นเป็นเรื่องสั่นคลอนปณิธานของพวกเขา ไม่มีใครอยากตาย ในกรณีนี้ทุกคนต้องการหลบหนี ต่อให้เป็นพญาเหยี่ยวก็ไม่ยกเว้น
หุบเขาอสูรไม่ใช่สถานที่แสดงความยิ่งใหญ่ ตรงกันข้าม ที่นี่เป็นสถานที่ชุมนุมปีศาจที่เห็นแก่ตัว
ไม่มีใครเชื่อถือใคร!
ไม่มีใครต้องการเสียสละเพื่อคนอื่น....
จ้าวอสูรทั้งสามยังไม่ทันเอ่ยปากพูด หลงหม่าและวีเซลหางดาบเริ่มรู้สึกว่าอากาศแน่นหายใจไม่ออก ศัตรูกำลังจะมาถึง และสหายที่หลบหนีไปทีละคนนี้จะถูกกาฬสุริยันต์แผดเผาและถูกความมืดกลืนกิน อสูรปีศาจและผู้พำนักที่หลบหนีไปตามลำพังถูกกำจัดและตายเหมือนกัน รอจนกาฬสุริยันต์สังหารคนพวกนี้และวกกลับมาก็จะถึงคราวตายของพวกเขาเอง
อสูรปีศาจ ผู้พำนัก อสูรแมวลิงซ์และอสูรแรดพากันเงียบทั้งหมด
ไม่มีใครกล้าพูดว่าเขาจะรั้งอยู่
นางพญาผึ้งพิษกระแอมทันที “ในเมื่อต้องมีคนอยู่ ข้าก็จะอยู่!”
“อะไรนะ, ว่าไงนะ?” เสือหน้ามนุษย์ตกใจ ความจริงนั่นควรเป็นคำพูดของพญาเหยี่ยว ไม่ใช่ตำแหน่งที่นางพญาผึ้งพิษควรจะพูด ในใจของเขานั้นนางพญาผึ้งพิษคงจะไม่เสนอตัวมาเพื่อให้จ้าวคางคกโจมตีนางเอง นั่นไม่ใช่เรื่องแย่... ใครจะรู้กันเล่าว่านางพญาผึ้งพิษจะรั้งอยู่เพื่อต้านศัตรู เป็นเรื่องที่เขาไม่เชื่อหูจริงๆ
“เอาจริงหรือนี่? แม่นางผึ้ง เจ้าตั้งใจรั้งอยู่จริงๆ หรือ?” พญาเหยี่ยวเข้าใจผิดไม่ต่างจากเสือหน้ามนุษย์เลย
“ข้ารู้ว่าในความเป็นจริงทุกคนค่อนข้างหวั่นเกรงข้า และคิดว่าข้าเป็นคนทรยศ บางทีในอดีตที่ผ่านมาข้าอาจทำตัวเองน่าละอายไปบ้าง แต่ตอนนี้ข้าทิ้งทุกอย่างไปแล้ว บางทีเราอาจจะตายในไม่ช้าก็ได้ และกลายเป็นอาหารบำรุงเลี้ยงในการฝึกฝนให้อสูรอื่น แล้วเรายังจะทะเลาะไปกันทำไม? นั่นไม่มีประโยชน์อะไรแม้แต่น้อย ทำไมข้าถึงต้องอยู่ด้วย? ไม่ใช่ว่าข้าเป็นผู้เสียสละที่ใหญ่แน่ แต่เป็นเพราะข้าจำเป็นต้องเลือก ข้าจะเผชิญหน้าและต้านทานศัตรูให้ เจ้าถอยออกไป แต่ก็ต้องเผชิญหน้ากับศัตรูด้วย เพียงแต่การต่อสู้ของพวกเจ้าเกิดขึ้นที่ใกล้สระ ข้าไม่ใส่ใจนักหรอกถ้าข้าจะสู้ที่นั่น แต่เจ้าเสือ! เจ้าคุ้นเคยกับการต่อสู้ทางน้ำเจ้าควรไปที่สระน้ำและแสดงพลังให้มากขึ้น...นอกจากนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือจ้าวแมลงกู่ทองเป็นอสูรประเภทหนอนแมลง ข้ารับมือมันได้ง่าย ท่านเสือ ท่านเหยี่ยว ถ้าข้าคาดการณ์ได้ไม่ผิด ผลในท้ายที่สุดจะต่างกัน ข้าจึงตัดสินใจอยู่” คำพูดของนางพญาผึ้งพิษทำให้เสือหน้ามนุษย์และพญาเหยี่ยวตะลึงและรู้สึกผิด
ใครจะคาดคิดกันเล่าว่าในช่วงตัดสินเป็นตาย กลับกลายเป็นนางพญาผึ้งพิษที่เห็นแก่ตัวที่สุดที่ออกมาสู้เพื่อทุกคน
พญาราชสีห์ผู้เป็นเหมือนร่มไม้ก็ยังไม่ปรากฏตัว
เสือหน้ามนุษย์รู้สึกนัยน์ตาร้อนผ่าว “ท่านผึ้ง...”
เหมือนกับจะบอกว่าเขาเสียใจ
ถ้าเขารู้ว่านางพญาผึ้งพิษมีจิตใจกล้าหาญขนาดนั้น อย่างนั้นเขาคงคบนางพญาผึ้งพิษเป็นสหายไปแล้ว
เมื่อครู่นี้เขายังสงสัยว่านางพญาผึ้งพิษจะเป็นผู้ทรยศหรือไม่ และต้องการโจมตีก่อน ตอนนี้เสือหน้ามนุษย์เต็มไปด้วยความละอาย
เขาคือลูกผู้ชายคนหนึ่ง!
แต่กลับมิอาจเทียบได้กับสตรีที่เห็นแก่ตัวอย่างนางพญาผึ้งพิษ
พญาเหยี่ยวรู้สึกร้อนใจเช่นกันเขาตะโกนลั่น “ท่านผึ้ง! ข้าจะอยู่สู้ร่วมกับเจ้าให้ท่านเสือนำทุกคนจากไป ชีวิตข้าจะร่วมสู้กับเจ้าจนถึงที่สุด ถ้าไม่ตายเสียก่อนข้ายินดีจะเป็นสหายแท้กับเจ้า ไม่ต้องหวาดระแวงกันอีกต่อไปในอนาคต จะไม่มีการต่อสู้ทะเลาะกันอีกต่อไป!”
นางพญาผึ้งพิษปฏิเสธคำขอของพญาเหยี่ยว “ข้ารู้ซึ้งน้ำใจของเจ้า แต่ต้องมีคนนำกลุ่มถอยกลับไปต้องมีคนเบิกเส้นทางและคนคุ้มกันหลัง เจ้ากับท่านเสือเหมาะสมที่สุดในระดับผู้นำแล้ว ไม่ต้องเสียเวลาอีกแล้ว ไปรีบไปเถอะ! ถ้ามีคนยินดีจะอยู่ด้วย ข้าต้องการสหายสักสองสามคนช่วยข้าขัดขวางศัตรูด้วยกัน ข้าได้แต่รั้งจ้าวแมลงกู่ทองและมังกรไฟกรดได้ชั่วคราวเท่านั้น หวังว่าจะมีสหายช่วยยืนหยัดขัดขวางอสูรตัวต่อไป...”
วีเซลหางดาบตื่นเต้นจนมิอาจระงับได้อีกต่อไป
อารมณ์ปะทุขึ้นราวกับภูเขาไฟ สร้างความประทับใจให้กับหลายคน “คนอย่างข้าเริ่มจะเบื่อหน่ายชีวิตแล้ว จะตายเร็วตายช้าก็ช่าง ขอตายในการต่อสู้ดีกว่าอยู่อย่างกลัวตาย ใครจะรั้งอยู่กับข้า!”
หลงหม่าใช้ชีวิตอยู่ในหุบเขาอสูรมาหลายพันปีแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าจิตใจระอุกรุ่น
ก่อนที่วีเซลหางดาบจะพูด เขายังลังเลเล็กน้อย เขาบอกว่าเขายังคงเป็นผู้พำนักและยังมีชีวิตได้อีกหนึ่งครั้ง อาจมีโอกาสได้อีกครั้ง แต่วีเซลหางดาบคำราม เขารู้สึกว่าเลือดกำลังจะเดือด เขายืนขึ้นตะโกนลั่น “ถูกต้อง จะเป็นจะตายก็ปล่อยให้สวรรค์ตัดสิน! ถ้าพวกเจ้าต้องการชีวิตของข้า ก็เอาไปได้เลย แต่เจ้าต้องจ่ายคุณค่าทดแทนบ้าง!”
นอกจากหลงหม่าและวีเซลหางดาบแล้ว ยังมีอสูรแมวลิงซ์และอสูรแรดพวกเขายอมรั้งอยู่
ขณะนั้นทุกคนดูเหมือนจะลืมไปว่าหลักการเอาตัวรอดในหุบเขาอสูรก็คือความเห็นแก่ตัว
ดูเหมือนพวกเขาจะลืมไปแล้ว
เมื่อพวกเขาถูกฆ่า พวกเขาจะตายจริงๆ
หลังจากทะเลาะกันสั้นๆ อย่างดุเดือดจึงได้ข้อสรุปให้นางพญาผึ้งพิษ หลงหม่าและวีเซลหางดาบจะรั้งอยู่ ขณะที่อสูรปีศาจที่เหลือมีพญาเหยี่ยวและเสือหน้ามนุษย์พากันหนีไปทางสระน้ำอย่างรวดเร็ว เสือหน้ามนุษย์ตั้งใจว่าเมื่อไปถึงที่นั่นเขาต้องใช้คลื่นน้ำและพลังน้ำวนกลับมาช่วยนางพญาผึ้งพิษ หลงหม่าและวีเซลหางดาบจากสถานการณ์อันตรายให้ได้ทันที
“ข้ารู้แผนหลบหนีของพวกเจ้าแล้ว มันดีมาก แต่ตัดสินใจไม่ทิ้งศัตรูร้ายกาจเอาไว้อย่างนั้นหรื? ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าเข้าใจผิดไปเอง ข้าไม่ควรถามคำถามปัญญาอ่อนแบบนี้เลยจริงๆ ทุกคนก็รู้ว่าคนที่อยู่ในหุบเขาอสูรนั้นเห็นแก่ตัวที่สุด กลัวตายที่สุด ฮ่าฮ่า! พวกเจ้ารู้หรือเปล่าว่าทำไมข้าถึงน่ากลัวกว่าพวกเจ้า? ทำไมข้าถึงสามารถฆ่าพวกเจ้าได้ และทำให้พวกเจ้ากลายเป็นหนอนน่าสมเพชคร่ำครวญอย่างน่าเวทนา? เหตุผลนั้นแสนง่าย เพราะว่าข้าฉลาดมาก รู้จักการสร้างพันธมิตร รู้จักหาสหายที่จะให้ความร่วมมือ ต่างจากพวกเจ้าแต่ละตนที่ไร้เดียงสา เอาแต่ห่วงปกป้องตัวเองหวังจะให้ตัวเองมีชีวิตยืนยาวนานอีกนิด ฮ่าฮ่า..... น่าขันจริงๆ พวกเจ้าต้องการมีชีวิตยืนยาว แต่ไม่เคยเชื่อใจคนอื่น และในที่สุดพวกเขาก็เหมือนต้องฆ่าตัวเองตายไปอย่างไร้มิตร!” จ้าวคางคกเข้าร่วมสังหารหมู่ครั้งนี้ด้วยความกระตือรือร้น
เขาไม่รู้ว่าแค่เพียงเวลาสั้นๆ ไม่กี่นาที
พญาเหยี่ยว เสือหน้ามนุษย์และนางพญาผึ้งพิษรวมทั้งอสูรปีศาจและผู้พำนักที่เหลือเกิดความเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง
ในประสบการณ์ที่ผ่านมาในอดีตของจ้าวคางคก ไม่ต้องพูดถึงว่าเขาไม่ได้ยินการสนทนา ต่อให้เขาได้ยิน เขาก็คงไม่เชื่อว่าเป็นความจริง มีคนโง่อยู่ในหุบเขาอสูรที่ยอมเสียสละเพื่อคนอื่นด้วยหรือ? ถ้ามีจริง เขาเกรงว่าคงตายไปเมื่อหมื่นปีที่แล้ว?