ตอนที่ 867 ผสานเป็นหนึ่ง
ในโลกคัมภีร์
เย่ว์หยางไม่ได้ทำอะไรเลยตลอดเวลาครึ่งวัน ปล่อยวางเรื่องยุ่งยากในหุบเขาอสูรและเพลิดเพลินเคลิบเคลิ้มกับการนวดของสาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์ เขาเย้าหยอกแพนดอราผู้ช่างสงสัย
ไม่มีความจำเป็นต้องคิดถึงการผ่านทดสอบที่ยากลำบาก และไม่จำเป็นต้องคิดถึงการเผชิญกับศัตรูต่างๆ ในโลกคัมภีร์ของเขาเอง เหมือนกับอยู่ในบ้านที่สงบสุข เมื่อใดก็ตามที่เขากลับมา เขาจะพบกับสาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์ผู้น่ารักคอยทักทายด้วยรอยยิ้มอยู่เสมอ ใบหน้าที่ร่าเริงของนางมีประกายแห่งความสุข นอกจากนี้นางยังจัดเตรียมอาหารและน้ำร้อนโดยไม่จำเป็นต้องสั่ง นางคอยนวดเฟ้นเขาด้วยนิ้วมือที่ราวกับไร้กระดูก บรรเทาความเมื่อยล้าได้อย่างสมบูรณ์
ถ้าอยู่ในช่วงเวลาสงบสุขมีทั้งน้องสาวและพี่สาวที่เข้าใจดี มีภรรยาอยู่ใกล้ก็คงดี หลังจากที่ห่างเหินมาสักระยะหนึ่งเย่ว์หยางชักคิดถึงพวกนาง รอให้ผ่านด่านหุบเขาอสูรก่อน เขาจะต้องกลับไปแน่ๆ ไปอยู่ด้วยกันกับพวกนาง
ความคิดของเย่ว์หยางค่อยๆ สงบลงและเปลี่ยนมาคิดถึงแพนดอรา
แพนดอรารู้เช่นกันว่าเขาเหน็ดเหนื่อยอยู่ข้างนอก จึงไม่รบกวนเขา แต่ก็หวังว่าจะหาเวลา หาโอกาสพูดคุยเรื่องของตัวนางเองกับสาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์
เมื่อนางคลี่คลายปัญหาในใจ สาวใช้เอลฟ์เอาผ้าห่มคลุมร่างให้เย่ว์หยาง ทุกครั้งที่เจ้านายเหนื่อย สาวใช้เอลฟ์จะเห็นท่านหญิงอู๋เหิน หรือไม่ก็ท่านหญิงโล่วฮัวนอนกับเขาด้วย พวกนางนอนในอ้อมกอดของเขาเพื่อที่ว่าเขาจะได้ไม่รู้สึกเปลี่ยวเหงาในเวลาหลับ
เมื่อเขาตื่น เขาจะได้มีความมั่นใจว่าหลับอย่างผ่อนคลายที่สุด
ความเปลี่ยวเหงา ไม่มีใครเข้าใจได้
มีแต่ช่วงเวลานี้ที่ความในใจส่วนลึกจะถูกปลดปล่อยออกมา
แม้แต่ในเวลาหลับ เขายังขดตัวเหมือนกับเด็กที่เดียวดาย ในช่วงเวลานี้ใบหน้าของเขาจะเผยให้เห็นความบริสุทธิ์ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
ทุกคนที่เห็นจะไม่มีความสงสัย ในทางกลับกันทุกคนจะเข้าใจ ในความเป็นจริง เขาไม่ได้เกิดมาเพื่อก่อสงคราม ไม่เห็นคนอื่นดีพอจะให้ความสนใจ
ในช่วงกลางวันทุกอย่างที่เขาทำไม่มีอะไรมากไปกว่าปกป้องจิตวิญญาณตนเอง.. ยกเว้นคนที่ไว้วางใจได้มากที่สุด ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่มีทางหลับได้อย่างสงบสุข และจะไม่มีทางเปิดเผยด้านที่สำคัญที่สุด สาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์เรียนรู้จากแม่หญิงอู๋เหิน นางจูบหน้าผากเย่ว์หยาง
“คนที่หยิ่งผยองและทระนง คาดไม่ถึงเลยว่าเวลาหลับจะดูเหมือนกับเด็กได้!” แพนดอราอดถอนหายใจไม่ได้
“เอ๋?” สาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์พบว่ามีอีกเสียงหนึ่งดังขึ้นในใจ
“ข้าตื่นแล้ว ข้ายังไม่ตายนะ แค่หลับไปเท่านั้น” แพนดอรารีบอธิบาย
“เหรอ” สาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์ตอบด้วยความดีใจ “แพนดอรา! ดีจริงที่เจ้าไม่ตาย ข้าคิดว่าเจ้าตายไปแล้ว ข้าแอบร้องไห้ตั้งหลายครั้ง! จะบอกนายท่านเลยดีไหม? ถ้าเขารู้ เขาจะต้องมีความสุขมากแน่นอน!”
“ไม่, ให้เขาได้พักผ่อนเถอะ!” แพนดอราพบว่านางเองก็มีความสุขมากที่ได้เห็นเย่ว์หยางหลับ และพบว่านี่เหมือนกับเป็นคนสองคน
“เกิดอะไรขึ้น? รีบบอกข้าเร็วๆ!” สาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์ประหลาดใจและเช็ดน้ำตา
“ขอบคุณ....” แพนดอรารู้สึกว่าหัวใจมีพลัง
นางกลัวว่านางจะหลับอยู่ในความเงียบเหงาเพราะเป็นหนึ่งเดียวกับสาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์ เสียงร้องไห้ของสาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์ก้องกังวาลทำให้แพนดอรารู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็น จิตวิญญาณที่บริสุทธิ์ของสาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์ทำให้เทพธิดาแห่งโชคร้ายที่แต่เดิมไม่พอใจอดตื่นเต้นไม่ได้ ไม่มีสหายใดที่ปฏิบัติต่อนางแบบนี้ ยกเว้นสาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์ผู้น่ารักนี้
นางพูดเพราะนางได้รับผลกระทบ
แม้ว่าจะไม่ชัดเจนมากนักว่าใครช่วยนางไว้ แต่นางรู้ว่าเบื้องหลังของเย่ว์หยางมีเทพอุปถัมภ์แน่
แพนดอราไม่พูดอะไรมากเกี่ยวกับความลับที่สาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์ไม่จำเป็นต้องรู้ และนางรู้ว่านางได้รับความช่วยเหลืออย่างไรก่อนที่สำนึกศักดิ์สิทธิ์จะหายไป ถ้าไม่ใช่เพราะนางเป็นเทพธิดาแห่งโชคร้าย เป็นแค่เพียงคนธรรมดานาง นางคงจะต้องสับสนคาดเดาไม่ออกแน่นอน
สาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์เรียนรู้มาจากเย่ว์หวี่นางนั่งอยู่ข้างเตียงและปลอบโยนเย่ว์หยาง นางจับมือของเขาและพูดกับเขา
ขณะเดียวกันนางฟังเรื่องราวของแพนดอราไปด้วย
ในที่สุดเมื่อนางได้ยินว่าแพนดอราจะรวมเป็นหนึ่งอยู่ในตัวนาง นางเห็นด้วยโดยไม่ลังเล “ไม่ว่ายังไงก็ตาม ข้าก็ยังเป็นสาวใช้ตัวคนเดียว ถ้านายท่านไม่อยู่ด้วยข้าเหงาจริงๆ ถ้าแพนดอราอยู่ด้วยกันได้อย่างนั้นข้าก็ไม่ต้องเปลี่ยวเหงาต่อไป มีแพนดอราอยู่ด้วยข้าไม่ต้องกังวลเรื่องรับใช้นายท่าน มีกันสองคนย่อมดีกว่าคนเดียว สิ่งที่สำคัญที่สุดข้าอ่อนแอไม่สามารถช่วยนายท่านได้มากนัก ถ้าได้พลังของแพนดอราช่วยข้าก็คงไม่ต้องกังวลเวลาอยู่กับนายท่านในอนาคต...” แพนดอราเมื่อได้ยินเอลฟ์ลูกครึ่งพูด แม้ว่านางจะเป็นเพียงร่างวิญญาณ แต่นางก็อดร้องไห้ไม่ได้
นางตื้นตันใจจริงๆ
คราวนี้กลับตรงกันข้ามสาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์กลับปลอบโยนเทพธิดาแห่งโชคร้ายบ้าง
หญิงสาวทั้งสองสื่อสารกันในใจและต่างพูดถึงความเป็นตัวตนของตนเองและพยายามหลอมรวมทางจิตวิญญาณ
“เมื่อร่างกายสามารถปรับสภาพเข้ากับพลังเทพได้เต็มที่ เราจะผสานใจเข้ากันได้แน่ และแน่นอนว่าแม้ว่าเราจะแบ่งร่างใช้กัน แต่เรามีสองวิญญาณในร่างเดียว เรายังมีความเป็นตัวตนของตนเอง เหมือนกับแฝดในร่างเดียวกันที่อยู่ด้วยกัน...บางทีนี่อาจจะเป็นชีวิตนิรันดร์ที่เทพเจ้าโบราณเคยพูดถึงก็เป็นได้ ข้าจะไม่มีวันแยกจากเจ้าและเขาแน่นอน เจ้าจะไม่เดียวดายอีกต่อไปแล้ว เจ้าจะได้รับชีวิตนิรันดร์อย่างนี้” แพนดอราปีติยินดีอย่างมาก
“งั้นเริ่มกันเลย รอให้นายท่านตื่นขึ้นเราจะทำให้เขาประหลาดใจ!” ในใจของเอลฟ์ลูกครึ่งมักจะนึกถึงเย่ว์หยางเป็นอันดับแรกเสมอ
“เจ้าจะไม่คิดทบทวนจริงๆ หรือ?” แพนดอราถาม
“ยังจะต้องคิดอะไรอีก?” เอลฟ์ลูกครึ่งถามสงสัย
“ขอบคุณ...สาวใช้ผู้น่ารัก ข้ามีความสุขจริงๆ ที่ได้รู้จักกับเจ้า!” ใจของแพนดอรากระเพื่อมไหวเพราะความปลาบปลื้ม
“ต่อไปเมื่อเราเป็นคนเดียวกัน เจ้าจะได้รับการต้อนรับ เราจะทำงานร่วมกัน ทำให้นายท่านเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลก!” คำพูดของสาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์ทำให้แพนดอราอดหันไปมองเย่ว์หยางไม่ได้ ในขณะที่เขาหลับ เขายังคงจับมือสาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์ได้เหมือนกับกลัวว่านางจะจากเขาไป นางมองดูเขาหลับอย่างสงบสุข แพนดอราอดบังเกิดความรู้สึกอ่อนโยนมิได้ ถ้าได้อยู่อย่างนี้ตลอดไป บุรุษผู้นี้ทำให้ใจนางรู้สึกเป็นสุขได้
“อย่างนั้นเราจะเริ่มกันหรือยัง?” แพนดอราตื่นเต้นเล็กน้อย นางคิดว่าเด็กสาวลูกครึ่งเอลฟ์คงต้องใช้เวลานานกว่าจะปรับสภาพให้ยอมรับนางได้ คิดไม่ถึงว่าทุกอย่างจะราบรื่นมาก
“ได้เลย” เด็กสาวลูกครึ่งเอลฟ์ไม่รู้ว่าร่างของนางปรับสภาพให้เข้ากับพลังเทพได้ตั้งแต่เมื่อใด
นอกเหนือจากนี้จิตใจของนางยังบริสุทธิ์ ไม่มีสิ่งอื่นดึงดูดใจนางได้นอกจากรักแท้ที่มีต่อเย่ว์หยาง และใจของแพนดอราได้รับการชำระล้างพลังเทพวิบัติจากกระบี่ขาวซวงหัว เพื่อที่ว่านางจะได้รับพลังเทพได้โดยไม่มีอุปสรรคใด
ต่างจากอาหงและเจี้ยงอิง เด็กสาวลูกครึ่งเอลฟ์ไม่ใช่นักสู้ไม่มีเกราะกางกั้นจิตสามารถดูดกลืนพลังเทพในชีวิตประจำวันได้อย่างแน่นอน
จุดนี้แม้แต่เย่ว์หยางก็คาดไม่ถึง
ตราบเท่าที่นางหลอมวิญญาณกับแพนดอราได้กลมกลืนและวิญญาณผูกพันเป็นอันเดียวกัน อย่างนั้นเด็กสาวลูกครึ่งเอลฟ์กับแพนดอราจะรวมเป็นหนึ่งได้
พวกนางจะเป็นหนึ่งเดียวกันโดยไม่มีเทพธิดาแห่งโชคร้ายที่น่าเศร้าโศกอีกต่อไป
อาจจะไม่มีพลังต่อสู้ที่น่ากลัวที่แม้แต่เทพเจ้าก็สามารถสาปแช่งได้ แต่พวกนางมีพลังเทพวิบัติที่ไม่ด้อยกว่าใครๆ การป้องกันตัวนางเองย่อมไม่มีปัญหาแน่นอน
แสงแห่งเทพฉายรัศมีไปทั่วโลกคัมภีร์
เป็นพลังเทพที่ยิ่งใหญ่มหาศาล
พวกนางสามารถทำสำเร็จได้อย่างง่ายดาย
แต่เป็นไปอย่างสงบเงียบและอ่อนโยน แม้แต่เย่ว์หยางที่หลับอยู่ก็ยังไม่รู้สึกตัว..
เมื่อเย่ว์หยางตื่นขึ้น เขาพบว่าร่างสีผิวดุจหยกขาวเนื้อดีนอนอยู่ในอ้อมแขนของเขา นางไม่เหมือนโล่วฮัวหรืออี้หนานกำลังพาดศีรษะอยู่ในอ้อมแขนของเขา เมื่อนางพลิกตัวบนแขนเขา ขนาดหน้าอกของนางทำให้เขาตกใจนึกถึงนางเซียนหงส์ฟ้า
นางดูอ่อนโยนมากและรัศมีของนางดูสงบดุจเทพมารดร
ไม่เหมือนนางเซียนหงส์ฟ้าแม้แต่น้อย แต่ค่อนข้างคล้ายอู๋เหิน
หรือว่าเย่ว์หวี่...
แต่ว่านางไม่มีหน้าอกขนาดนี้!
เย่ว์หยางลูบมือนางเบาๆ นางสลึมสะลือเล็กน้อยและสับสนอยู่ชั่วขณะ เขารู้สึกดี แต่แปลกใจเล็กน้อย นางเป็นใคร?
ใครที่ให้ความรู้สึกแตกต่างอย่างสิ้นเชิง แต่เป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยม?
เย่ว์หยางไม่อาจทำตัวเรียบร้อยขณะที่ตนเองหลับได้ เขาอดลืมตาไม่ได้และลูบตัวสัมผัสขึ้นลงอย่างชำนาญ ในตอนแรกในใจของเขาไม่ได้เต็มไปด้วยความปรารถนาแต่อย่างใด แค่เป็นแค่ความสงสัยใคร่รู้ที่มาจากใจ แต่ยิ่งสัมผัสมากเท่าใดก็ยิ่งหลงใหลราวกับร่ำสุรา นางกลับกลายเป็นสาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์ผู้น่ารัก
“นายท่าน!” สาวน้อยลูกครึ่งเอลฟ์รู้สึกเหมือนกับตัวถูกเผา ตลอดทั้งร่างนางขาวผ่อนปานหิมะ เพราะเย่ว์หยางลูบไล้ร่างนางทำให้นางรู้สึกเขินอาย นางรีบซบหน้ากับอกเขาหวังจะหลบสายตาจากเขา ขณะที่มือซุกซนของเขารุกล้ำจนมิอาจต่อต้านได้
“ดูเหมือนจะแตกต่างไปจากเดิมเล็กน้อยหรือเปล่า?” เย่ว์หยางรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ
ทันใดนั้นสาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์จูบเย่ว์หยางด้วยความตื่นเต้น ในสภาวะโลกวิญญาณแพนดอราและสาวลูกครึ่งเอลฟ์สวมกอดเย่ว์หยางไว้แน่น
การณ์กลับเป็นอย่างนี้นี่เอง
เย่ว์หยางตระหนักได้ทันที่ว่าเกิดอะไรขึ้น กลับกลายเป็นว่าแพนดอราและสาวลูกครึ่งเอลฟ์รวมชีวิตวิญญาณเข้าด้วยกัน มิน่าเล่าเด็กสาวลูกครึ่งเอลฟ์ถึงได้กระตือรือร้นนัก นั่นกลายเป็นว่านั่นเป็นการกระตุ้นจากสำนึกของแพนดอร่านั่นเอง คนเดียวกันแต่มีสองจิตสำนึก คนหนึ่งมีความคิดริเริ่ม คาดหวังและอยากรู้ และอีกคนหนึ่งขลาดเขลาและเขินอายเดี๋ยวปฏิเสธเดี๋ยวตอบรับ ... เพราะการสนองตอบที่ขัดแย้งกันของจิตสำนึกทั้งสองที่แตกต่างกันนี้จึงเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นมากกว่าปกติ นิสัยชายชาติเจ้าชู้ของเย่ว์หยางกำเริบทันที!
ตอนแรกเขาไม่มีความตั้งใจมีสัมพันธ์ลึกซึ้ง แต่เย่ว์หยางเปลี่ยนใจมอบประสบการณ์ครั้งแรกที่พิเศษยอดเยี่ยมให้กับสาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์
ตอนนี้ไม่ใช่ประสบการณ์พิเศษเริ่มแรกหรือ? ประสบการณ์ของคนเดียวแต่สองวิญญาณ บางทีตั้งแต่ครั้งโบราณกาล ยังไม่เคยมีใครที่ได้รับประสบการณ์อย่างนี้
เย่ว์หยางไม่มีทางคิดอะไรอีกต่อไป
ไม่ต้องพูดมาก แค่จะกินเนื้อลูกแกะน้อยก็แค่พูดออกไป!
เขาพลิกตัวกดทับสาวลูกครึ่งเอลฟ์และจูบ เปลวไฟรักปะทุออกราวกับภูเขาไฟระเบิด
ด้วยแรงกระตุ้นของหนึ่งร่างสองวิญญาณที่เป็นสิ่งมหัศจรรย์ เย่ว์หยางไม่สามารถนึกถึงการสนองตอบที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงของทั้งสอง ทั้งสองวิญญาณรับความรักของเขาอย่างอดทนจนพวกนางไม่อยากจะแยกจากเขา พวกนางลืมไปว่านี่คือประสบการณ์ครั้งแรกของนาง
รอจนเย่ว์หยางตื่นขึ้น
วันที่สองแห่งความสุขก็ผ่านไปแล้ว
เขากระโดดออกจากเตียงและพบว่าร่องรอยแห่งความสุขบนร่างกลายของเขาได้รับการชำระแล้ว ทั้งกางเกงชุดนอนและแม้แต่ผ้าปูที่นอนก็ถูกเปลี่ยนแทนที่ด้วยผืนใหม่ สาวใช้น้อยผู้น่ารักเป็นยังไงบ้าง? การแสดงความรักที่ดุเดือดนั้น นั่นคือการแสดงความรักของแพนดอราหรอกหรือ?
เขาเดินไปที่ห้องโถงและพบว่าสาวน้อยลูกครึ่งเอลฟ์กำลังวุ่นกับการทำครัว
เย่ว์หยางไม่ได้ดูแลนางมานาน แต่พอมองนางอดมีความรู้สึกรักถนอมนางมิได้
สาวใช้น้อยผู้น่ารักสวมผ้ากันเปื้อนสีชมพู แต่ด้านหลังนางไม่ได้สวมอะไร มองดูส่วนเว้าโค้งของนางที่อยู่ต่อหน้า เย่ว์หยางแทบหายใจไม่ออก
“ท่านตื่นแล้ว เป็นแพนดอราบอกว่าให้ข้าแต่งตัวแบบนี้เพื่อท่าน ข้าอายจะแย่อยู่แล้ว!” สาวน้อยเอลฟ์พูดเสียงเบาและก้มหน้าด้วยความอาย
“ใส่แบบนี้ดูดีมีเสน่ห์แล้ว!” เย่ว์หยางอดขยับมือหมาป่า
“ข้าเตรียมขนมอบไว้มากมาย...” สาวน้อยเอลฟ์พบว่าหมาป่าเริ่มบ้าคลั่งอีกแล้ว
“สายเกินไปแล้ว” หมาป่ากลับใจ ต้องเตรียมเข้าเมืองด้วยความเศร้า
“ข้าชอบอย่างนี้ โอวพระเจ้า ตัวร้ายนี่เร่งเกินไปแล้ว สาวเอลฟ์! เราต้องผนึกกำลังกัน เอาชนะตัวร้ายคนนี้ได้!” นี่คือการประกาศตอบโต้ของเทพธิดาผู้งมงายในรัก
…………,! ~!