บทที่ 32 : เป้าหมายเล็กๆ หาเงิน 1 พันล้านเหรียญ!
บทที่ 32 : เป้าหมายเล็กๆ หาเงิน 1 พันล้านเหรียญ!
"สนามพลังทะลุระดับ 17 ไปแล้ว..." ชูโจวรู้สึกประหลาดใจกับสิ่งนี้
สำหรับนักรบทั่วๆไป เมื่อเขาได้รับการเลื่อนขั้นจากระดับผู้ฝึกหัดเป็นระดับผู้ปลุกพลังตื่น…
พลังงานสนามพลังของพวกเขามักจะอยู่ที่ระดับ 10 เเละผู้ที่มีความสามารถขั้นสูงจะสามารถเข้าถึงระดับ 11 ช่องสนามพลังได้….. เเต่มีเฉพาะผู้ที่มีพรสวรรค์อย่างแท้จริงเท่านั้นที่สามารถไปถึงระดับ 12 ของสนามพลังได้……เเล้วตอนนี้ชูโจวมีสนามพลังอยู่ที่ระดับ 17 เขาจะไม่ชอบแบบนี้ได้อย่างไร
……
"ตามข้อมูลอย่างเป็นทางการ ขอบเขตสนามพลังของผู้ปลุกพลังขั้นต้นคือระดับ 10 และขอบเขตสนามพลังของผู้ปลุกพลังขั้นกลางคือระดับ 20..."
"กล่าวคือ ตอนนี้ถ้าสนามพลังงานของฉันเพิ่มอีกเพียง 3 คะแนน ฉันก็จะสามารถเลื่อนขั้นเป็นนักรบผู้ปลุกขั้นกลางได้"
จู่ๆ ชูโจวก็รู้สึกว่าหลังจากอัพเกรดเทคนิคการหายใจขั้นพื้นฐานเป็นระดับที่ 10 แล้ว จากนั้นค่อยฉีดยาเสริมประสิทธิภาพยีน...นับว่าเป็นทางที่ถูกต้องจริงๆ
ไม่อย่างนั้น เขาที่เพิ่งได้รับการเลื่อนขั้นเป็นนักรบผู้ปลุกพลังจะมีสนามพลังถึงระดับ 17 ได้อย่างไร
"นี่คือความรู้สึกของการเป็นผู้ปลุกพลังงั้นหรอ….ประสิทธิภาพของพลังแตกต่างจากระดับผู้ฝึกหัดขั้นสูงอย่างสิ้นเชิง"
จากนั้นชูโจวทำการหลับตาลงเล็กน้อย ค่อยๆ รู้สึกถึงสภาพร่างกายของเขา… ตอนนี้เขารู้สึกว่าร่างกายของเขาเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา ราวกับว่าร่างกายของเขามีพลังงานที่ไม่มีที่สิ้นสุด
"ถ้าฉันต้องการเข้าใจการเปลี่ยนแปลงในร่างกายของฉันอย่างเต็มที่ ดูเหมือนว่าจะต้องไปที่โรงยิมศิลปะการต่อสู้เเละด้วยความช่วยเหลือจากเครื่องมือขั้นสูงภายในนั้น ฉันก็จะสามารถวัดความสามารถของร่างกายของฉันในทุกด้านได้อย่างเต็มที่... "
"อีกอย่าง ตอนนี้ฉันเป็นนักรบผู้ปลุกพลังแล้ว มันถึงเวลาต้องไปที่หอศิลปะการต่อสู้เพื่อรับใบรับรองของนักรบเเล้ว"
"เพียงแค่ผ่านการรับรองคุณสมบัติของนักรบและได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการ
เท่านั้น... ฉันจึงจะได้รับสิทธิประโยชน์และสิทธิพิเศษต่างๆ ของนักรบ" เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้หลังจากรับรู้พลังใหม่ในร่างกายของเขาคร่าวๆ
….
"เอาล่ะ มาแบ่งปันข่าวดีเกี่ยวกับการเลื่อนขั้นเป็นนักรบของฉันกับน้องสาวและพ่อของฉันกันเถอะ…..ฉันเดาว่าพวกเขากำลังรอฟังข่าวอย่างใจจดใจจ่อเหมือนกัน..."
ชูโจวลุกขึ้นจากเตียงและเปิดประตู…จากนั้นเขาก็พบกับสายตาของน้องสาวและพ่อที่สบตาเข้ากับเขา
น้องสาวดูร้อนใจ เเละมีความกังวลเล็กน้อย
ส่วนทางพ่อ…. แววตาของพ่อสงบนิ่งมาก พ่อเป็นแบบนี้ตลอดเลย ฉันไม่เคยเห็นเขาแสดงความกังวล ประหม่า ตื่นเต้น หรืออื่นๆ เลย
"พี่คะ…พี่ทำสำเร็จไหม" ชูหยูถามด้วยเสียงต่ำ เเละดูเหมือนว่าเธอกำลังกังวลว่าถ้าชูโจวล้มเหลวในการเลื่อนระดับพลัง….มันอาจจะทำให้ชูโจวจิตตกได้เลย
"เฮ้อ….. " ชูโจวถอนหายใจอย่างเศร้าโศก
ด้วยวิธีนี้ ใบหน้าเล็ก ๆ ของชูหยูก็ตึงเครียดขึ้นทันที พร้อมทั้งมีร่องรอยของความกังวลในดวงตาทั้งสองข้างของเธอ
เมื่อเห็นว่าน้องสาวของเขากำลังจะร้องให้ ชูโจวก็ยิ้มออกมาทันที "การเลื่อนระดับสำเร็จไปด้วยดี คนที่โดดเด่นอย่างฉัน...จะล้มเหลวได้อย่างไร"
“สำเร็จ…?” ชูหยูที่กำลังจะเตรียมปลอบชูโจว สะดุ้งเล็กน้อย จากนั้นเธอก็โกรธจัด “พี่ชาย บ้าไปแล้วหรอ…..ถ้าทำสำเร็จ ทำไมพี่ถึงถอนหายใจเเบบนั้น ทำให้ฉันกังวลมากเลยเมื่อกี้”
ชูหยูที่รู้ว่าพี่ชายของเธอได้ปลุกพลังเเละกลายเป็นนักรบได้เเล้ว เธอก็นึกถึงบางอย่างได้
“พี่ชาย ฉันได้ยินมาว่าหลังจากได้รับการเลื่อนขั้นเป็นนักรบแล้ว ตราบใดที่คุณผ่านการรับรองคุณสมบัติของนักรบของหอศิลปะการต่อสู้ คุณก็จะสามารถย้ายเข้าไปอยู่ในวิลล่าในพื้นที่ของชนชั้นสูงได้”
ชูหยูมองไปที่ชูโจวอย่างคาดหวัง เธอเคยดูวิดีโอเกี่ยวกับวิลล่าในย่านชนชั้นสูงมามากมายในทีวีและในอินเทอร์เน็ต ชุมชนที่วิลล่าเหล่านี้ตั้งอยู่นั้นมีพื้นที่เปิดโล่ง ทิวทัศน์สวยงาม และมีแม้แต่น้ำพุ….. ภายในวิลล่ากว้างขวางและสะดวกสบายมาก มันดีกว่าบ้านหลังเล็กขนาด 50 ตร.ม. ที่พวกเขาอาศัยอยู่ตอนนี้มาก
“ฉันกำลังจะไปขอการรับรองจากหอศิลปการต่อสู้อยู่พอดี...” ชูโจวหัวเราะ
หลังจากได้การรับรองเป็นนักรบแล้ว เขาจะมีสิทธิพิเศษมากมายเเละการจัดสรรวิลล่าเป็นหนึ่งในนั้น นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมหลายคนถึงใฝ่ฝันที่จะเป็นนักรบ
เพราะตราบใดที่ใครคนหนึ่งกลายเป็นนักรบ ความจำเป็นพื้นฐานของชีวิตสำหรับทั้งเขาเเละครอบครัวจะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป ซึ่งสิ่งนี้มันสามารถเปลี่ยนโชคชะตาของครอบครัวได้โดยตรง
"ดีมาก…..ในอนาคตอันใกล้หนูจะสามารถเข้าไปอยู่ในวิลล่าขนาดใหญ่ได้!" ชูหยูกระโดดขึ้นลงบนโซฟาอย่างตื่นเต้น
ชูโจวที่เห็นฉากนี้ มุมปากของเขาแสดงความพึงพอใจ….. เขามุ่งมั่นที่จะเป็นนักรบ นอกจากเพราะเขาต้องการที่จะแข็งแกร่งขึ้นแล้ว เขายังต้องการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ของครอบครัวด้วย
"มันคงจะดีที่สุด ถ้าอาการขาพิการของพ่อฉันสามารถรักษาได้ เเละฉันตรวจสอบออนไลน์ไว้เเล้ว น้ำแห่งชีวิตดูเหมือนจะมีราคา 1 พันล้านเหรียญ"
"จากนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดรองลงมาคือการหาเงิน มาตั้งเป้าหมายเล็กๆ กันก่อน…เป้าหมายเเรกหาเงิน 1 พันล้าน" ชูโจวมองดูขาที่พิการของพ่อ และตั้งเป้าหมายเล็กๆ ไว้ในใจ
"ติ้ง..." ทันใดนั้นโทรศัพท์ในกระเป๋าของเขาก็สั่น ชูโจวหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาดูและเห็นว่าเขาได้รับข้อความจากหลิวเฉียนๆ
นอกจากนั้นเขายังเห็นข้อความอีก 5-6 ข้อความที่เขายังไม่ได้อ่านในตอนที่เขากำลังพยายามเข้าสู่ระดับผู้ปลุกพลังในตอนนั้น
เเละเมื่อเขาทำการไล่ดูทีละอัน
"ชูโจวว่างไหม มาหาฉันที่โรงเรียนหน่อย" —นี่คือของหลิวเฉียนๆ
"เจ้าบ้า นายนี่มันสุดยอดจริงๆ นายได้ที่หนึ่งในการทดสอบชั้นยอด...รู้ใหม หลังจากข่าวถูกส่งกลับไปยังโรงเรียน ครูและนักเรียนทั้งโรงเรียน ต่างตกใจจะเกือบโห่ร้องกันทุกคน…ฉากนี้งดงามมาก ฮิฮิ บัดดี้ ฉันได้รับพรจากนายนิดหน่อย ตอนนี้ฉันสามารถได้รับความสนใจจากผู้หญิงที่โรงเรียนได้แล้ว!" —นี่เป็นข้อความของเพื่อนของเขาตงเหวิน
"มาโรงเรียนได้เเล้ว!" —นี่ของอาจารย์ลี่เกอ
"นักเรียนชูโจว มหาวิทยาลัยกองทหารที่ 1 ของเราสัญญาว่าตราบใดที่เธอเข้าร่วมกับเรา เราจะให้ทุนการศึกษา 10 ล้านแก่เธอทันที รวมทั้งหนังสือ 3 เล่มเกี่ยวกับเทคนิคการหายใจ, เทคนิคร่างกาย และเทคนิคการต่อสู้ที่ราคาไม่เกิน 20 ล้านเหรียญ”
"นักเรียนชูโจวตราบใดที่เธอเข้าร่วมมหาวิทยาลัยกองทหารที่ 2 ของเรา เราสัญญาว่าจะให้ทุนการศึกษา 12 ล้านเหรียญ เทคนิคการหายใจระดับ C ทักษะร่างกายระดับ C ทักษะการต่อสู้ระดับ C การฝึกร่างกายระดับ C ระดับ C เครื่องแบบต่อสู้และอาวุธระดับ C …เลือกมาสี่อย่างในนี้แล้วทางมหาวิทยาลัยจะจัดหาทุนให้!”
…
นอกจากข้อความจาก หลิวเฉียนๆ, ตงเหวิน และอาจารย์ลี่เกอแล้ว ยังมีข้อความจากคณะกรรมาธิการของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ 6 แห่งด้วย…… ชูโจวมองดูข้อความจากคณะกรรมการมหาวิทยาลัยเหล่านี้เเละรู้สึกสะเทือนใจเล็กน้อย
ไม่นานมานี้ เขากำลังจะถูกเเย่งชิงโควต้าการเข้ามหาวิทยาลัยโดยจินเจิ้นหนาน เเต่ งตอนนี้...เขาสามารถเข้าเลือกมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ใดก็ได้ที่เขาอยากเข้า ยิ่งกว่านั้นยังสามารถได้รับทุนการศึกษาที่นักเรียนคนอื่นๆ ไม่สามารถนึกถึงได้ เช่นเดียวกับรางวัลมากมายอื่นๆ…….. การเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์นี้ช่างน่าอัศจรรย์จริงๆ
เเต่ว่า…...ตอนนี้เขาไม่จำเป็นต้องเข้าเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว เพราะในเวลานี้เขาได้เลื่อนขั้นเป็นนักรบผู้ปลุกพลังแล้ว เพราะฉะนั้นมันไม่สมเหตุสมผลเลยที่จะเข้ามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ในตอนนี้
หลังจากกลายเป็นนักรบที่แท้จริงแล้ว โดยปกติจะมีเพียงสี่เส้นทางให้เลือกเดินเท่านั้น...
หนึ่งคือเข้าร่วมกองทัพ!
สองคือการเข้าร่วมโรงยิมศิลปะการต่อสู้!
สามคือการเข้าร่วมสมาคม!
สี่คือการเป็นทหารรับจ้าง!
เส้นทางทั้งสี่นี้ล้วนมีข้อดีและข้อเสียของตัวเอง
ชูโจวต้องคิดอย่างรอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจเลือกทางเดินของเขา
จากนั้นเขาตอบกลับข้อความของคณะกรรมการมหาวิทยาลัยทั้งหกอย่างจริงจัง…….. ขอบคุณพวกเขาสำหรับคำเชิญ จากนั้นอธิบายว่าเขาได้เลื่อนขั้นเป็นนักรบแล้วและไม่ต้องการเข้าเรียนมหาวิทยาลัยอีกต่อไป
ในไม่ช้า เขาก็ได้รับคำตอบจากคณะกรรมการมหาวิทยาลัย 6 คน ซึ่งทุกคนต่างแสดงความยินดีกับเขาที่ประสบความสำเร็จในการเลื่อนระดับเป็นนักรบผู้ปลุกพลัง เเละแน่นอนว่าคณะกรรมาธิการเหล่านี้เข้าใจดีว่าชูโจวไม่จำเป็นต้องเข้าเรียนมหาวิทยาลัยอีกเเล้ว
หลังจากอ่านคำตอบจากคณะกรรมการทั้งหก ชูโจวยิ้มจากนั้นพูดกับครอบครัว "พ่อ, เสี่ยวหยู ผมมีเรื่องต้องไปโรงเรียน วันนี้ไม่ต้องการทำอาหารเผื่อผมนะ" หลังจากชูโจวพูดจบเขาก็เปิดประตูและออกไปทันที
เขาวางแผนที่จะไปโรงเรียนเพื่อพบกับ หลิวเฉียนๆ, ตงเหวิน, อาจารย์ลี่เกอ และคนอื่นๆ จากนั้นค่อยไปที่หอศิลปะการต่อสู้เพื่อขอรับใบรับรองคุณสมบัติของรบ
………………………..