บทที่ 20: บ้านพักบนเขา! อัปเกรดอีกครั้ง!
หนึ่งล้านหยวนทำอะไรได้บ้าง?
สำหรับฉินหลินแล้วเงินก้อนนี้สามารถเอาไปจ่ายหนี้ที่บ้านได้อย่างหมดจดแถมยังมีเงินเหลือไปดาวน์บ้านเพื่อพาจ้าวโม่ชิงเข้าบ้านอย่างเปิดเผยได้อีกต่างหาก
แน่นอนว่าหากเป็นคนอื่น ๆ ที่มีความทะเยอทะยานสูงจะต้องคิดหาวิธีเอาเงินหนึ่งล้านนี้ไปขยายผลต่อเนื่องอย่างอย่างยิ่งใหญ่แน่ ๆ อาจเป็นเอาไปลงทุนเพื่อให้เงินจากหนึ่งล้านกลายเป็นสองล้าน
แต่ฉินหลินไม่ได้มีความทะเยอทะยานอะไร เขาเลือกที่จะปลดหนี้ให้หมดก่อนที่จะมีเป้าหมายอะไรเพื่อพิสูจน์ตัวเองกับจ้าวโม่ชิงว่าเธอไม่ได้เลือกคนผิด
หลังจากได้รับเงิน 650,000 หยวนแล้วฉินหลินก็โอนเงิน 13,000 หยวนให้หลินเซิงอย่างรวดเร็ว
เขาที่ได้เงินก้อนโตมาแล้วก็ไม่อยากให้คนกลางต้องรอนาน ความสุขของทั้งสองฝ่ายจะเป็นรากฐานของความร่วมมือในครั้งต่อ ๆ ไป
บางทีคนแคระอาร์นี่ในเกมอาจจะมาท้าเขาแข่งตกปลาแล้วเขาก็จะได้ปลาแพง ๆ มาอีกตัวก็เป็นได้ใครจะรู้ ซึ่งแปลว่ายังต้องพึ่งพาหลินเซิงอยู่นั่นเอง
หลินเซิงเห็นว่านี่เป็นครั้งแรกที่ฉินหลินขายปลาสวยงาม เขาเลยเอ่ยปากเตือนด้วยรอยยิ้มเป็นมิตรทันทีที่ได้รับเงิน “คุณฉินครับ อย่าลืมไปเสียภาษีภายในหนึ่งเดือนนะครับ แม้ว่าจะไม่มีภาษีธุรกิจปลาสวยงามโดยเฉพาะก็เถอะ แต่มันจะไปนับรวมเป็นภาษีผลผลิตทางการเกษตรชนิดพิเศษ”
“ก่อนหน้านี้มีคนขายปลาสวยงามได้ห้าแสนแต่ไม่ได้ยื่นภาษีเพราะไม่รู้มาก่อน สุดท้ายก็โดนตรวจสอบย้อนหลังเอา นอกจากต้องจ่ายภาษีเพิ่มเป็นสองเท่าแล้วยังติดคุกอีก!”
“ขอบคุณที่เตือนครับ!” ฉินหลินพยักหน้าด้วยความขอบคุณ
เขาย่อมไม่ลืมไปจ่ายภาษี เขายอมจ่ายภาษีแต่โดยดีดีกว่าถูกตรวจสอบย้อนหลัง เพราะว่าเขาไม่อยากให้ใครเข้ามาแตะความลับของตัวเอง
หลังจากกล่าวลาหลินเซิงแล้วฉินหลินก็ยื่นแบบประเมินภาษีในเว็บอีกรอบทันทีที่กลับถึงร้าน
แม้ว่าปลาสวยงามจะรวมอยู่ในรายการสินค้าเกษตร แต่ก็เป็นธุรกรรมที่เพิ่มมูลค่าพิเศษ อัตราภาษีเลยอยู่ที่ 9% และภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 3% สรุปคือเขาที่ขายมันได้ 650,000 หยวนจะต้องจ่ายภาษีรวมทั้งหมดแล้ว 78,000 หยวน
หลังจากจ่ายภาษีออนไลน์แล้วค่าเศรษฐีเขาก็ -1 เหลือเงินในบัญชีอยู่ 953,000 หยวน
ในตอนบ่าย ๆ เย็น ๆ สตรอว์เบอร์รี่และกระเจี๊ยบเขียวสุก ฉินหลินรีบเก็บเกี่ยวและปลูกใหม่ในทันที ส่วนที่เก็บเกี่ยวมาก็เอาไปส่งที่ RT-Mart ได้เงินมา 42,390 หยวน
และยังเอากระเจี๊ยบเขียวเลเวล 2 ปริมาณสิบจินไปขายให้ผู้จัดการเฉินอีกจินละ 400 ซึ่งอีกฝ่ายก็จ่ายเงิน 4,000 มาอย่างมีความสุขพร้อมกับกำชับว่ามีเท่าไหร่รับหมดเหมือนเดิม
ทำให้วันนี้เขามีรายได้ทั้งหมด 46,390 หยวน ซึ่งทำให้ยอดเงินในบัญชีของเขาเพิ่มกลับมาเป็นล้านอีกรอบ
ค่าเศรษฐีเลย +1 อีกครั้ง
ตกกลางคืน
หลังจินมื้อเย็นเสร็จแล้วเขาก็ไปอาบน้ำ เลือกเสื้อผ้าตัวเก่งก่อนจะเป่าผมให้แห้งแล้วไปรับโม่ชิงจากที่ทำงาน
เมื่อเขาไปถึงสำนักงานจัดเก็บภาษีก็เห็นเหล่าคนที่ทำงานล่วงเวลาข้างในเดินออกมาทีละคน ๆ เฉินฮ่าวเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเหมือนกัน ดูท่าวันนี้มีหลายคนเลยที่ต้องทำงานล่วงเวลา
เฉินฮ่าวเห็นฉินหลินอีกครั้งแน่นอนอยู่แล้ว คราวนี้หมอนี่เดินไปที่รถออดี้ของตนโดยไม่แสดงท่าทีใด ๆ อีก ในใจก็ไม่อยากจะเห็นหน้าของเจ้าเสือซ่อนเล็บตัวนี้
“ฉินหลิน!” จ้าวโม่ชิงออกมาพร้อมกับเอกสารในมือและหลีเจียฮุ่ย พอเห็นสามีของตนเธอก็วิ่งมากระโดดนั่งซ้อนท้ายอย่างหน้าระรื่น
หลี่เจียฮุ่ยอดอิจฉาไม่ได้เมื่อเห็นภาพนี้ ‘อะไรจะโรแมนติกแท้!’
ผู้หญิงคนไหนบ้างที่ไม่อยากได้สามีรวย ๆ ขับสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ามารับถึงที่ทำงาน?
ฉินหลินสตาร์ทรถแล้วบิดตรงไปที่โรงแรม หลังจากเช็คอินรับคีย์การ์ดมาแล้วก็โยนเล่นเบา ๆ พลางเดินขึ้นห้องกันอย่างอารมณ์ดี “วันนี้ฉันจองห้องที่ดีที่สุดในโรงแรมเลยนะ ได้ยินมาว่าอ่างอาบน้ำข้างในสุดยอดมาก…”
“อยากตายเหรอ? ยังไม่ทันเข้าห้องเลยนะ!” จ้าวโม่ชิงเอื้อมมือไปตีเอวฉินหลินอย่างแรงด้วยความโมโห
ฉินหลินเอาคีย์การ์ดเปิดประตูห้องอย่างภาคภูมิใจ
“ฉันจะอาบน้ำก่อน!” จ้าวโม่ชิงวางกระเป๋ากับเอกสารลงเมื่อเธอเข้าไปในห้องและวิ่งไปที่ห้องน้ำก่อนเลย
ฉินหลินไม่ใช่คนงี่เง่าอะไรและตามใจเธออย่างเชื่อฟัง
.....................................................................................................................................…
หนึ่งชั่วโมงต่อมา
ฉินหลินดูจ้าวโม่ชิงที่อยู่ในชุดผ้าขนหนูกระโจมอกกำลังจัดการกับเอกสารที่เธอเอามาด้วยอยู่ข้าง ๆ พลางถามว่า “โม่ชิง ข้อมูลนี่สำคัญมากเลยเหรอถึงขนาดต้องเอากลับมาทำหลังเลิกงานเลย?”
จ้าวโม่ชิงอธิบายว่า “ก่อนหน้านี้รัฐวิสาหกิจในเมืองมีมีปัญหาอยู่ใช่มั้ยล่ะ? ปัญหารุนแรงมากเลยแหล่ะ มีคนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเพียบเลย เงินบางส่วนก็สูญเปล่าไม่อาจเอากลับมาคืนได้ ทางเราเลยทำได้แค่ยึดทรัพย์ของคนพวกนั้นแล้วเอาไปประมูลเพื่อหาเงินมาชดใช้”
“ที่วันนี้ฉันต้องทำงานล่วงเวลาก็เพราะเรื่องนี้แหล่ะ ลุงเขยขอให้ฉันตรวจสอบเอกสารพวกนี้แล้วเอาไปส่งที่ศาลเพื่อของหมายลงทะเบียนประมูลพรุ่งนี้”
ฉินหลินพยักหน้า ลุงเขบของจ้าวโม่ชิงเป็นหัวหน้าแผนกในสำนักงานจัดเก็บภาษี เห็นได้ชัดว่าเขาดูแลจ้าวโม่ชิงอย่างดีและให้เครดิตกับเธอมาก
ฉินหลินเคยได้ยินข่าวของรัฐวิสาหกิจที่แพร่กระจายอยู่ในวีแชทอำเภอโหยวเฉิงมาบ้างเหมือนกัน การทุจริตนี้เป็นสิ่งที่ทุก ๆ คนเป็นห่วงกันมากที่สุดแล้ว
เขาหยิบเอกสารที่จ้าวโม่ชิงตรวจสอบขึ้นมาดูอย่างอยากรู้อยากเห็น ทั้งหมดเป็นรถยนต์ บ้าน หุ้น และอื่น ๆ ที่มีชื่อผู้ถือครองเหล่านั้นกำกับไว้ แต่มีหนึ่งในรายการประมูลที่ดึงดูดความสนใจเขาได้
คือการประมูลบ้านไร่ซึ่งเดาว่าอาจจะเป็นบ้านไร่ที่โม่ชิงเคยบอกว่ามีภาพหลุดตอนเจ้าของบ้านที่ทุจริตกับลังปาร์ตี้?
บ้านไร่แห่งนี้เป็นลักษณะบ้านพักบนเขาชื่อว่าบ้านไร่ฟู่ไห่ มีพื้นที่ประมาณ 500 หมู่พร้อมสิทธิ์ในการใช้บ่อเลี้ยงปลากับอ่างเก็บน้ำ
พื้นที่ส่วนใหญ่ปล่อยรกร้างว่างเปล่าไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร...
นอกจากนี้ในอำเภอเล็ก ๆ อย่างอำเภอโหยวเฉิงยังเป็นที่ซึ่งศาลจัดให้มีการประมูลอีก ดังนั้นราคาเช่ารวมไปถึงทรัพย์สินที่สามารถโอนได้เริ่มต้นจึงไม่ได้แพงมากนัก แค่ 600,000 หยวนเท่านั้น
ส่วนจะปิดประมูลที่เท่าไหร่ก็แล้วแต่ผู้เข้าร่วมที่ต้องสู้ราคาแข่งกันเอาเอง
“บ้านไรฟู่ไห่นี่ก็เป็นของเข้าประมูลด้วยเหรอ? แบบนั้นจะไม่มีปัญหาตามมาเหรอ” ฉินหลินถามโดยไม่รู้ตัว เห็นได้ชัดว่าสนใจบ้านไร่นี้
เขาจบเอกการจัดการการท่องเที่ยวจากมหาวิทยาลัย เมื่อเขาเห็นข้อมูลก็รู้สึกได้เลยว่าบ้านไร่ฟู่ไห่กับเกมฮาร์เวสต์มูนของเขาต้องเข้ากันได้ดีอย่างแน่นอน เพราะจะให้เขามานั่งปลูกแตงโม สตรอว์เบอร์รี่ กระเจี๊ยบเขียวส่ง RT-Mart ไปตลอดชีวิตมันก็ไม่ใช่หรอกจริงมั้ย?
ตอนนี้เป้าหมายอันเป็นรูปธรรมได้เกิดขึ้นในใจเขาแล้ว ดังนั้นการใช้หนี้กับการดาวน์บ้านจะเลื่อนไปก่อนก็ไม่เป็นไร เพราะว่าโอกาสดี ๆ ใช่ว่ามันจะวิ่งมาหาเราได้ง่าย ๆ ซักหน่อย
กระนั้นการประมูลของศาลก็มักจะพบปัญหาน่าปวดหัวอย่างเช่นคนจากครอบครัวของผู้เกี่ยวข้องมาโวยวาย เผลอ ๆ จะเสี่ยงติดหนี้หนักเข้าไปอีกต่างหาก
จ้าวโม่ชิงอธิบายว่า “ถ้าเป็นรถกับบ้านล่ะก็อาจมีปัญหาตามมาอยู่นะ แต่คนที่กล้าประมูลของพวกนั้นไปเขามีวิธีจัดการให้เรียบร้อยอยู่แล้วล่ะ”
“ส่วนบ้านไร่ฟู่ไห่นี่ไม่มีปัญหาหรอก ฉันไปดูสถานที่จริงมาแล้ว สภาพแวดล้อมยังไม่เลวร้ายเท่าไหร่นัก พวกนั้นใช้ที่นั่นเป็นแค่ที่กินดื่ม ส่วนเรื่องการจัดการอะไรไม่ค่อยเรียบร้อย”
ฉินหลินรู้สึกโล่งใจเมื่อได้ยินคำอธิบายของจ้าวโม่ชิง เมื่อเธอพูดจบเขาก็เข้าไปกอดเธอแล้วจับนั่งตักโดยมือก็ล้วงเข้าไปในผ้าเช็ดตัว
............................................................................................................................…
เช้าวันรุ่งขึ้นฉินหลินกับจ้าวโม่ชิงเช็คเอาท์ เขายังต้องส่งเธอกลับไปเปลี่ยนชุดก่อนจะส่งเธอไปทำงาน
หลังจากนั้นไม่ถึงวันฉินหลินก็เห็นเห็นรายการประมูลเหล่านั้นปรากฏในเครือข่ายการประมูลของสำนักงานยุติธรรมอำเภอโหยวเฉิง โดยมีบ้านไร่ฟู่ไห่รวมอยู่ด้วย ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 600,000 หยวนเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือสัญญาเช่าที่สามารถขยายระยะเวลาออกไปได้นานที่สุดโดยสามารถต่ออายุสัญญาได้ตามต้องการ โดยค่าเช่าช่วงที่ค้างชำระจะไม่เพิ่มราคาขึ้น อีกทั้งยังเป็นสัญญาแบบมีลำดับความสำคัญ
ที่ต้องทำสัญญาเช่าเพราะที่ดินที่บ้านไร่นี่ตั้งอยู่เป็นที่ดินของรัฐนั่นเอง (ประมาณว่าบ้านน่ะซื้อแต่ที่ดินน่ะต้องเช่า ส่วนบ่อปลาและอ่างเก็บน้ำยังไม่แน่ใจว่าอยู่ในกระบวนการไหน) เมื่อครบกำหนดเวลาแล้วต้องต่อสัญญาเช่าใหม่ในราคาเดิมโดยเป็นสัญญาแบบมีลำดับความสำคัญ (หมายถึงหากมีผู้อื่นมาสนใจขณะที่หมดสัญญาเช่าและผู้เช่าเดิมยังอยากต่อสัญญาต่อ ผู้เช่าเดิมจะมีสิทธิได้ต่อสัญญาก่อนเสมอ)
ที่นี่เป็นแค่บ้านพักบนเขาในอำเภอเล็ก ๆ เท่านั้น หากซื้อมาทำธุรกิจการท่องเที่ยวมันก็ไม่มีอะไรที่ดึงดูดพอเลยไม่แน่ว่าจะไปได้สวยหรือไม่ ถ้าทำไม่ดีล่ะก็นอกจากจะไม่ได้ประโยชน์แล้วยังสูญเสียทุกอย่างอีกต่างหาก
ดังนั้นตอนนี้ที่เขาต้องห่วงคือจะมีคนมาประมูลแข่งหรือไม่ ถ้าเจอกับคู่แข่งที่อยากได้จริง ๆ ล่ะก็ยังไงราคาก็เกินล้านแน่ ๆ
และเขาก็เชื่อสนิทใจด้วยว่าไม่ใช่แค่ตัวเองคนเดียวหรอกที่มีวิสัยทัศน์
แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามฉินหลินยังคงตัดสินใจเด็ดขาดกรอกข้อมูลลงทะเบียนเข้าร่วมการประมูล โดยวันประมูลคืออีกหนึ่งสัปดาห์
....................................................................................................................................…
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปในพริบตา
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาการขายสตรอว์เบอร์รี่และกระเจี๊ยบเขียวยังคงไปได้สวย ทำให้ฉินหลินมีเงินเข้าบัญชีรวมแล้วกว่า 270,000 หยวน ซึ่งทำให้เงินทุนของเขาสูงถึงกว่า 1.28 ล้าน
เมื่อเขาตื่นเช้าขึ้นมาก็ได้รับแจ้งเรื่องการประมูลของทรัพย์สินที่ถูกศาลยึด โดยการประมูลจะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการในเวลา 14.00 น. โดยเขาต้องจ่าย 10% ของราคาเริ่มต้นของสิ่งที่จะประมูลเพื่อให้มีคุณสมบัติในการประมูลของสิ่งนั้น
ฉินหลินจ่ายเงิน 60,000 หยวนอย่างไม่ลังเลและเปิดจอเกมเพื่อเก็บสตรอว์เบอร์รี่กับกระเจี๊ยบเขียวแล้วปลูกใหม่
คราวนี้ทันทีที่หว่านเมล็ดไปเกมก็ได้มีการแจ้งเตือน
บอกว่าตัวละครเลเวลอัพอีกครั้งแล้ว! และเขาสามารถบุกเบิกแปลงปลูกใหม่รวมถึงอัปเกรดที่ดินเป็นเลเวล 3 ได้!