ตอนที่แล้วตอนที่ 865 สถานการณ์ของโกวเฉิงเวิ่นเต้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 867 รั้วของเซี่ยอวี่อัน

ตอนที่ 866 งานสุดขมขื่น


เพื่อประโยชน์ในการสร้างเมืองวายุน้ำเงินกลุ่มการค้าตะวันตกเตรียมสินค้าไว้มากมายมหาศาล พวกเขาสร้างเมือง นอกจากนี้พวกเขาต้องการสร้างให้เป็นเมืองใหญ่สง่างามดังนั้นสินค้าและวัสดุที่พวกเขาต้องใช้จึงมีราคาแพงเป็นธรรมดา  ใครจะรู้กันว่าถังเทียนจะเป็นคนได้รับประโยชน์

ตาของถังเทียนเป็นประกายเหมือนหมาป่าหิวโหย  เขาจ้องมองกองวัสดุและสินค้าชั้นดี

“เราไม่มีเวลามากนัก”ซือหม่าเซี่ยวเตือน

ในบรรดาพวกเขาทุกคนผู้ที่ยังคงสงบอยู่ได้กับกองภูเขาสมบัติก็คือราชาแมงป่องครั้งสุดท้ายถังเทียนขนคลังสินค้าจนว่างเปล่า เขาใช้เวลาทั้งคืน แต่คลังสินค้าในคืนนั้นดูอนาถาไปเลยเมื่อเทียบกับคลังสินค้าที่อยู่ต่อหน้าพวกเขา  กลุ่มการค้าตะวันตกขนวัสดุและสินค้าดีๆมาทั้งหมด และถ้าพวกเขาต้องนำออกไปก็คงต้องใช้กำลังคนมากมายและเป็นกระบวนการใหญ่อย่างมิต้องสงสัย

เขาค่อนข้างกังวลถังเทียนจะเสียเวลาเพราะสมบัติที่อยู่ต่อหน้าพวกเขา

มีสมบัติมากเกินไปและมีคนน้อยมากที่สามารถรักษาความเยือกเย็นของเขาต่อหน้าสมบัติเช่นนั้นได้  มีหีบสมบัติเจ็ดหีบที่แตกและเต็มไปด้วยอัญมณี ราคาของมันเหนือกว่าคลังสินค้าที่เขาเคยปล้นมาทั้งหมดรวมกัน ส่วนใหญ่ของวัสดุจะมีผลึกเซียนอยู่ในนั้นและทั้งหมดกองเป็นเนินเขา

สิ่งที่ถังเทียนและคนที่เหลือไม่รู้ก็คือว่าแม้แต่คนของดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ก็ยังไม่สามารถสกัดผลึกเซียนออกมาได้  แต่พวกเขารู้ว่ามันมีอยู่ วัสดุที่ร่ำรวยด้วยผลึกเซียนปกติจะมีลักษณะที่โดดเด่น  และส่วนใหญ่จะเป็นวัสดุที่มีคุณภาพสูง ส่วนใหญ่ของวัสดุนี้จะถูกใช้ประโยชน์ในภูมิภาคเมืองใหญ่  สร้างกระดูกงูของเรือหรือสถานที่สำคัญอื่น

กลุ่มการค้าตะวันตกต้องการสร้างเมืองวายุน้ำเงินให้สง่างามยิ่งใหญ่  ดังนั้นพวกเขาจำเป็นต้องใช้วัสดุคุณภาพสูง

ซือหม่าเซี่ยวรู้คุณค่าของผลึกเซียน และวัสดุคุณภาพสูงนั้น  ผลึกเซียนสามารถสะสมได้เยอะมาก  แต่ตามแผนการเดิม พวกเขาไม่มีเวลามากนัก

ขั้นตอนต่อไปมีความสำคัญมาก  และถ้าพวกเขาพลาด ก็เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะได้รับโอกาสอื่น

‘ควบคุม,เจ้าต้องควบคุมอารมณ์ไว้’ ซือหม่าเซี่ยพึมพำในใจ  จากที่เห็นสมบัติที่อยู่ต่อหน้าทุกคนมีความดึงดูดใจมาก แต่การยึดความได้เปรียบจากการเคลื่อนไหวก่อนเป็นเรื่องมีค่ายิ่งกว่า  ‘หนุ่มชาวฟ้า, เจ้าสร้างปาฏิหาริย์มามากมาย เจ้าต้องชั่งน้ำหนักความสำคัญของเรื่องราว’

ถังเทียนที่จับตามองดูวัสดุกลับจ้องมองของเหล่านั้นอย่างว่างเปล่าเหมือนตุ๊กตา

ถังเทียนไม่เคยคิดปล่อยให้สิ่งของดีๆเหล่านี้หลุดมือไป แม้ว่ามีบางครั้งที่ต้องทำตัวเหมือนกับผู้ทรงอิทธิพลที่ร่ำรวย  แต่จะปล่อยสมบัติเช่นนั้นไปก็ไม่ใช่นิสัยของเขา เขายังคงรู้ความสำคัญของแผนการ  เขาก็รู้ชัดว่าเมื่อพวกเขาออกดำเนินการตามแผนแล้วพวกเขาจะไม่มีทางกลับมาเมืองวายุน้ำเงินอีกเลย

‘เจ้าล้อเล่นหรือเปล่า!’

เมื่อไม่สามารถยอมเสียสมบัติและด้วยความเร่งด่วนรู้สึกเหมือนกับว่าเข้าไปสู่สถานการณ์ที่สิ้นหวังและสมองที่น่าสงสารของเขาต้องทำงานอย่างหนัก

ซือหม่าเซี่ยวอดแนะนำเขาอีกครั้งไม่ได้  ทันใดนั้นเมื่อถังเทียนมีความคิดอย่างหนึ่งขึ้นได้ตาของเขาเป็นประกายทันที “ข้ามีความคิดแล้ว!”

เมืองสามวิญญาณ

ถังเทียนปรากฏตัวทันทีเป็นเหตุให้ผี่ผากังวลใจทันที เนื่องจากนางคิดว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น แต่นางคาดไม่ถึงเลยว่าถังเทียนถามหาการ์ดวิญญาณ

‘การ์ดวิญญาณ?’

ผี่ผาประหลาดใจ

กลุ่มดาวหมีใหญ่สร้างความแข็งแกร่งมานานแล้ว และขณะที่จำนวนเซียนที่มีระดับพลังสูงเพิ่มมากขึ้น  นักสู้พลังกายเป็นศูนย์ก็ยังเป็นกลุ่มหลักของกลุ่มดาวหมีใหญ่  ความต้องการการ์ดวิญญาณลดน้อยลงไปมากทำให้มีของสำรองเก็บไว้เต็มคลัง

สิ่งที่ให้ผี่ผาประหลาดใจมากขึ้นก็คือถังเทียนเลือกการ์ดวิญญาณระดับต่ำสุดการ์ดวิชาระดับบรอนซ์

ในค่ายหมายเลขเจ็ดที่ซึ่งพวกเขาไม่มาเป็นเวลานานแล้วดูเหมือนจะมีความเปลี่ยนแปลงไปมากยกเว้นหญ้ารก

ห้องวิญญาณยังคงเหมือนเดิมและประตูบรอนซ์เรียบง่ายยังตั้งอยู่อย่างเงียบงัน

ถังเทียนคิดถึงถังอวี้และถังโฉ่วและอดยิ้มไม่ได้ เนื่องจากเขามีเวลาเร่งด่วน เขาไม่มีเวลาระลึกถึงความหลัง และทำการเคลื่อนไหวทันทีใช้การ์ดชั้นบรอนซ์ในห้องวิญญาณ

ถูกแล้ว เขากำลังวางแผนใช้ขุนพลวิญญาณ

การ์ดวิญญาณชั้นบรอนซ์เป็นการ์ดระดับต่ำ ประตูห้องวิญญาณบรอนซ์เป็นประกายสว่างและขุนพลวิญญาณตนหนึ่งปรากฏอยู่ต่อหน้าถังเทียน

เนื่องจากเขาใช้การ์ดวิญญาณระดับบรอนซ์  ห้องวิญญาณแปลงการ์ดวิญญาณเป็นขุนพลวิญญาณระดับต่ำที่สุดมันมีประกายแสงอ่อนมาก หน้าของมันเต็มไปด้วยหมอกไม่มีร่างที่เต็ม ยกเว้นแขนขา

ถังเทียนพยายามให้คำสั่งขุนพลวิญญาณบางอย่างซึ่งส่งผลให้มันค่อนข้างทื่อและมีปฏิกิริยาช้า แต่ก็ยังสามารถรับคำสั่งอย่างง่ายๆได้

จากนั้นถังเทียนพยายามใช้ให้มันเคลื่อนของบางอย่างและตระหนักได้ว่ามันมีความแข็งแรงอยู่ และทำให้เขาดีใจทันที

นอกจากสร้างขุนพลวิญญาณคุณระดับบรอนซ์กลุ่มหนึ่งแล้ว  ถังเทียนเรียกหยาหยาออกมาด้วย

หยาหยาเอาแต่ขุดอย่างต่อเนื่องตลอด  และเมื่อเห็นถังเทียน มันได้ยินและดีใจมาก ร้องยี้ย้า ยี้ย้าตลอดจนทำให้ถังเทียนรู้สึกผิด เพราะเขาปล่อยหยาหยาอยู่ห่างตัวนานแล้ว เมื่อถังเทียนแจ้งหยาหยาเกี่ยวกับเรื่องงาน  หยาหยาตบอก จากนั้นพากองทัพอสูรจักรกลออกมา

เมื่อถังเทียนพากองทัพอสูรจักรกลและขุนพลวิญญาณกลับมาคลังสินค้ากลุ่มการค้าตะวันตกทุกคนตกใจ

‘มีแรงงานให้ใช้มากมาย!’

ภายในสามชั่วโมง  พวกมันก็ทำให้คลังสินค้าว่างเปล่า

เมื่อเห็นคลังสินค้าว่างเปล่าเกลี้ยงเกลาราวกับพืชผลถูกฝูงตั๊กแตนลง  ทุกคนอดสั่นสะท้านไม่ได้  นายท่านร้ายกาจนัก

ซือหม่าเซี่ยวตะลึง

หลังจากนั้นชั่วขณะเขาตระหนักได้ทันทีถึงการปรากฏตัวของขุนพลวิญญาณและผลกระทบซ่อนเร้นและลึกที่มีต่อสองโลก ก่อนหน้านี้แม้ว่าถังเทียนจะมีประตูดวงดาวเชื่อมสองโลกในความเห็นของเขา  แต่เขาก็มีความสามารถจำกัดในการควบคุมมันเหมือนกับท่อเบาบางที่มีขีดจำกัดในการส่งสินค้า แต่ด้วยการปรากฏของขุนพลวิญญาณก็หมายความว่าท่อที่เล็กและเบาบางได้ขยายออกเป็นร้อยเท่าพันเท่าและการขนส่งสินค้าระหว่างโลกทั้งสองกลายเป็นเรื่องน่าตกตะลึง

ความสำคัญของสินค้าจากโลกใหม่จะเปลี่ยนสวรรค์วิถีและดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ไปมาก  ทั้งสองเป็นโลกที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ก็หมายความว่าโลกทั้งสองเริ่มเชื่อมเข้าหากันจริงๆแล้ว

ภายในลานที่ซึ่งเปลวเพลิงลุกโชนถึงฟ้าฉายให้เห็นใบหน้าที่ตื่นตกใจของซือหม่าเซี่ยวเมื่อเห็นคลังสินค้าว่างเปล่าและท่าทางที่ตื่นตะลึงของคนอื่น เขาหัวเราะทันที  ‘ดูเหมือนถังเทียนเองยังไม่รู้ตัวว่าในคืนนี้ซึ่งเปลวเพลิงลุกไหม้สูง ยุคใหม่กำลังคืบคลานเข้ามาช้าๆ

ทวีปกวงหมิงคงไม่มีทางเดาออกว่าเป้าหมายเดียวที่คนของพวกเขาต่อสู้มาหลายรุ่นในขณะนั้น ณ คืนนั้นจะค่อยๆ เปิดออกในมือของบุรุษหนุ่มคนหนึ่งก็ได้

ทันใดนั้นซือหม่าเซี่ยวรู้สึกว่าเขาค่อนข้างโชคดีที่สามารถเห็นประจักษ์ช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ด้วยตาตัวเอง

“เตรียมตัวเคลื่อนขบวน!”

เสียงของถังเทียนดังขึ้นทำลายความคิดมากมายของซือหม่าเซี่ยว  และเขาหันไปมองถังเทียน  ‘ตาของเขาใสซื่อมาก  ใครจะรู้กันว่าเขาคือหมาป่าที่หิวกระหายและโลภ?’

‘เป็นบุรุษที่มองไม่ออกเลยจริงๆ’

ซือหม่าเซี่ยวเที่ยวเดินทางไปกับถังเทียนในช่วงเวลาหนึ่ง  แต่เขารู้สึกว่าเขาไม่สามารถเข้าใจบุรุษหนุ่มที่ดูเหมือนไร้เดียงสาและโง่งมผู้นี้  เขาเป็นคนละโมบ เขาเยือกเย็นและสงบ  ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเรื่องจริง  แต่ความเปลี่ยนแปลงในอารมณ์ของเขามักจะเป็นไปฉับพลัน

เพลิงถูกสุมเข้าในห้องคลังสินค้าที่ว่างเปล่าและทำให้คลังสินค้าตกอยู่ในทะเลเพลิงทันที

“ไปกันเถอะ”  ถังเทียนทะยานขึ้นไปในอากาศ

ซือหม่าเซี่ยวพาคาร์ลที่ยังตะลึงติดตามไปด้านหลัง

**************

ชิวซิ่วหัวจ้องมองหน้าต่างอย่างงงงวย

การสู้รบที่รุนแรงกระจายไปทั่วทะเลพลังงาน  ไป๋เยี่ยเหมือนสินค้าเลียนแบบสำหรับเขาและเขากำลังคิดถึงวิธีการทั้งหมดในการกำจัดเขา ทั้งสองฝ่ายสู้รบตอบโต้กันไปมาหลายครั้ง และคุ้นเคยกันและกันเทียบกับกองพลเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์ที่รุ่งเรืองและมีชื่อแล้วไป๋เยี่ยปราดเปรียวและหลากหลายมากกว่า ทำให้ชิวซิ่วหัวรู้สึกปวดหัว

เขาพยายามใช้หลายวิธีรับมือไป๋เยี่ย  แม้ว่าเขาต้องเจ็บและสูญเสีย  เขาก็ยินดีจะทำ  ใครจะรู้ว่าไป๋เยี่ยเจ้าเล่ห์เกินไป  ทุกครั้งที่เขาใช้เหยื่อล่อพวกเขาและดูเหมือนว่าชิวซิ่วหัวกำลังจะจับเขาได้ แต่ในช่วงเวลาวิกฤติไป๋เยี่ยจะลื่นหลุดหนีไปได้ มาตรฐานในการบัญชาการของไป๋เยี่ยสูงมากทำให้ชิวซิ่วหัวนึกชื่นชมเขา ถึงขนาดต้องการรับเขามาไว้ใต้ร่มธงบัญชาการหลังจากไป๋เยี่ยยอมแพ้เมื่อการสู้รบจบสิ้น

โชคดีที่แม้ว่าชิวซิ่วหัวไม่สามารถทำอะไรกับไป๋เยี่ยได้  ไป๋เยี่ยก็ยังทำอะไรชิวซิ่วหัวไม่ได้ และทั้งสองฝ่ายยังคงยันกันอยู่ในสภาพแปลกประหลาด

แต่การยันกันที่แปลกประหลาดกลับถูกทำลายโดยการขอความสนับสนุนของโกวเฉิงเวิ่นเต้า

ชิวซิ่วหัวไม่สามารถจะลืมความเหลือเชื่อที่เขามีได้  เมื่อเขาได้รับคำร้องขอของโกวเฉิงเวิ่นเต้า  เขาเชื่อในสายตามองการณ์ไกลของตนเอง  และเห็นมาตรฐานของโกวเฉิงเวิ่นเต้าชัดเจน ห้าแม่ทัพพยัคฆ์กวงหมิงอาจจะแตกต่างกัน  แต่พวกเขาทุกคนแทบจะเท่าเทียมกัน

เรือรบถูกทำลายเกือบทั้งหมด

ไม่มีใครจะเชื่อว่าความล้มเหลวจะมาจากโกวเฉิงเวิ่นเต้า

แต่โกวเฉิงเวิ่นเต้าเป็นคนร้องขอความสนับสนุนเองและอธิบายรายละเอียดเหตุผลของความพ่ายแพ้ หลังจากอ่านทุกอย่างรวดเดียว ชิวซิ่วหัวตกใจและเรียกความรู้สึกกลับมาได้หลังจากผ่านไปชั่วโมงหนึ่ง

เมื่อเขาฟื้นตัว  ความกลัวอย่างรุนแรงครอบงำเขา

ในอีกแง่หนึ่งก็เป็นแค่เรือรบของกองทัพถูกทำลาย แต่ผลที่มีต่อการสู้รบทั้งหมดย่อมมีอย่างแน่นอน

โกวเฉิงเวิ่นเต้ายังคงเห็นว่าพวกเขาเริ่มจะแพ้จากการเคลื่อนไหวที่ได้เปรียบของพวกเขาครั้งแรก  ดังนั้นจึงขอความช่วยเหลือจากชิวซิ่วหัว

ชิวซิ่วหัวไม่ลังเลใจและเคลื่อนกำลังไปยังทวีปซางโจวเต็มพิกัดความเร็ว  แต่ไป๋เยี่ยยังคงไล่ตามเขาอย่างเร่งร้อนและพัวพันสู้รบกับเขาทำให้ความเร็วของกองเรือตกลงไป

ชิวซิ่วหัวรู้ว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป  สถานการณ์จะกลายเป็นเลวร้ายสถานเดียว

“ข้าจำเป็นต้องให้คนทำลายตลบหลัง”  ชิวซิ่วหัวพูดสายตาของเขากวาดผ่านขุนพลสองสามคน

เขาไม่เลือกพวกเขาออกมาเนื่องจากเป็นภารกิจฆ่าตัวตาย ด้วยเหตุผลที่ไม่มีโอกาสรอดชีวิต  แต่เขาไม่มีทางเลือกอื่น  ถ้าเขาไม่สามารถตีจากไป๋เยี่ยได้  พวกเขาจะไม่สามารถเร่งไปถึงทวีปซางโจวเพื่อช่วยโกวเฉิงเวิ่นเต้าได้  ยิ่งพวกเขาชักช้า สถานการณ์จะแย่ลงไปอีก

เฉพาะคนที่กล้าเท่านั้นยินดีจะทำลายข้อมือของพวกเขาเมื่อพวกเขาไม่มีทางเลือก

“ผู้น้อยยินดีรับหน้าที่!”  บุรุษร่างใหญ่แข็งแรงพูดขึ้น

เว่ยเยี่ยคือมือขวาของชิวซิ่วหัว  พูดด้วยสีหน้าที่มุ่งมั่น

ชิวซิ่วหัวจ้องมองเว่ยเยี่ยเป็นเวลานาน  มีความรู้สึกเจ็บปวดอยู่ในใจ  บรรดาบริวารโดยตรงของเขา แม่ทัพรองทั้งสามฟงหวินม่านเสียสละตนเองไปแล้ว  และตอนนี้เว่ยเยี่ยเตรียมจะเสียสละเช่นกันเหลือแต่เพียงจื่อเชอเจียจิ้ง

หน่วยของเว่ยเยี่ยรีบออกมาและให้กำลังส่วนใหญ่เพื่อโอกาสสู้เพื่ออิสระในการเดินหน้า

เมื่อเขาได้ยินเสียงระเบิดด้านหลังพวกเขาค่อยๆอ่อนลงและกองเรือที่หายไป ชิวซิ่วหัวไม่อาจทนได้อีกต่อไป เขาเริ่มหลั่งน้ำตา

เขาไม่เข้าใจว่าทำไมสงครามจึงกลายเป็นเหตุวิกฤติหนักโดยไม่รู้ตัว

*****************

เซี่ยอวี่อันยุ่งมากแต่เมื่อเขาได้รับคำสั่งต่อไปของเขา เขาตื่นเต้นและกระตือรือร้น

หลังจากเป็นทูตเพื่อรับสมัครทหาร  ผลลัพธ์ที่ได้นั้นน่าทึ่ง แต่หลังจากผละออกมาจากชีวิตกลิ่นควันและสนามรบ  มันทำให้เขารู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก โชคดีที่ปิงไม่ปล่อยให้ทหารที่โดดเด่นอย่างนั้นไว้โดยไม่ทำอะไร

หลังจากเสริมระดับกองทัพแล้ว  เซี่ยอวี่อันได้รับงานลับ ซึ่งต้องไปจากสัมพันธมิตรใต้อย่างเงียบกริบ

เขามีเพียงภารกิจเดียวซึ่งก็คือถ่วงเวลาม่อซินให้ช้าลง

ใช้วิธีอะไรก็ได้ เขาต้องซุ่มเล่นงานม่อซินและถ่วงเวลาให้เขาถอยช้าลง

ตอนแรกเซี่ยอวี่อันมีความสงสัยมากเกี่ยวกับภารกิจ  แต่เขาไม่ถามอะไรมาก  และต้องการดำเนินการอย่างจริงจัง  จนกระทั่งวันก่อนยังไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อเขาได้ยินข่าวเรื่องกองเรือของโกวเฉิงเวิ่นเต้าถูกทำลายนั่นเองจึงทำให้เขารู้แจ้ง

‘อย่างนั้นก็เป็นเพราะเรื่องนั้นเอง’

เขารู้สึกเคารพท่านปิงอย่างหมดใจ  เขาไม่เข้าใจว่านายท่านทำได้ยังไง

และตอนนี้ ได้เวลาทดสอบของเขาบ้าง

ตลอดทั้งร่างของเขาเต็มไปด้วยจิตวิญญาณนักสู้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด