ตอนที่แล้วตอนที่ 864 ทำลายล้างกองเรือ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 866 งานสุดขมขื่น

ตอนที่ 865 สถานการณ์ของโกวเฉิงเวิ่นเต้า


วังวนพลังงานกำลังเคลื่อนเข้าหาพวกเขาเสียงดังกึกก้องสั่นสะเทือน

“เราจะตอบโต้หรือไม่?”

เสียงของทหารสั่นสะท้าน

ในที่สุดนายทหารก็สงบใจได้ แม่ทัพนางกองทหารของทวีปกวงหมิงจะไม่กังวลถึงกลยุทธของพวกเขา สำหรับพวกเขาสามารถอยู่ใต้บังคับบัญชาโกวเฉิงเวิ่นเต้าได้แสดงว่าพวกเขาทุกคนต้องมีดีอยู่บ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับต้นหนคุมเรือ ทุกคนจะมีประสบการณ์มากมายและเป็นผู้บัญชาการที่แข็งแกร่ง หลังประสบกับการลอบโจมตีที่ทรงพลังพวกเขาก็เริ่มโจมตีตอบโต้

กองเรือได้รับความเดือดร้อนเสียหายอย่างมาก  เรือขนาดใหญ่ถูกทำลายไปทั้งหมด 90%  ของเรือขนาดเล็กถูกทำลายเหลือไว้แต่กองเรือขนาดกลางไม่กี่ลำ ที่ยังมีพลังต่อสู้

แต่เรือรบที่เหลือมีน้อยกว่า 30%

เจ้าหน้าที่ทหารที่รอดอยู่ฟื้นจากอาการตกใจ  ตาของพวกเขากลายเป็นสีแดงทันที  พวกเขาเคยสูญเสียหนักขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ในประวัติศาสตร์ทั้งหมดของทวีปกวงหมิง ไม่ใช่ครั้งแรกที่กองเรือขนาดนั้นถูกทำลาย

เป็นความอัปยศสมบูรณ์แบบ!

ผู้บัญชาการทหารที่หยิ่งหล่านี้โยนทิ้งความคิดจะมีชีวิตรอด  ในสภาพที่อัปยศอย่างนั้นจะเป็นหรือตายไม่มีความหมายอีกต่อไป พวกเขาเพียงต้องการโจมตีให้หนักมาก

‘โจมตีตอบโต้  เราต้องโจมตีตอบโต้!’

ยังมีผู้บัญชาการที่เหลือในเรือคุยกันอย่างเคร่งเครียด

พวกเขาทุกคนมีความคิดอย่างเดียวกัน  พวกเขาต้องทำลายวังวนพลังงาน ไม่ว่ายังไงก็ตามเพื่อจะลบความอัปยศหรือเพื่อความปลอดภัยของพวกเราเองไม่ว่ายังไงพวกเขาต้องทำลายวังวนพลังงานให้ได้

สัมพันธมิตรใต้สามารถควบคุมวังวนพลังงานอาวุธลับอย่างนั้นมีพลังคุกคามมาก

พวกเขาเป็นผู้บัญชาการที่มีประสบการณ์    ก็แค่ว่าพวกเขาจนใจในระยะเวลาที่แน่นอนบวกกับขาด แม่ทัพที่อยู่ร่วมกับทุกคนเนื่องจากพวกเขากอดอยู่กับความคิดว่าจะต้องตาย พวกเขาจึงไม่มีความกลัวอะไร และพบจุดอ่อนของวังวนพลังได้อย่างรวดเร็ว

มันช้า!

วังวนพลังงานเป็นอันตรายอย่างมาก  แต่ไม่ค่อยมีความเร็ว นอกจากนี้ขนาดที่ใหญ่ของมันทำให้มันตกเป็นเป้าหมายได้ง่าย

ข้อกังวลเดียวก็คือถ้าวังวนพลังงานระเบิดมันอาจจะทำลายทวีปซางโจวได้ทั้งหมด โกวเฉิงเวิ่นเต้าและสามแม่ทัพรองยังอยู่ในทวีปซางโจว  ถ้าวังวนพลังงานเกิดปะทุ  จะไม่มีใครในทวีปซางโจวรอดชีวิต  ต่อให้ทวีปซางโจวปลอดภัย  แต่พลังทำลายล้างที่อ่าวพลังงานก็ยังน่ากลัว

พวกเขาทำได้เพียงติดตามวังวนพลังงาน  รอให้มันถอยออกไปก่อน จากนั้นจึงค่อยทำลาย

พวกเขาสร้างแผนการอย่างรวดเร็ว ความเร็วของเรือรบต้องเร็วกว่าวังวนพลังงานมากและคล่องแคล่วกว่ามาก  วังวนพลังงานไม่สามารถหลบได้

ไม่มีใครเสียเวลาและรีบตัดสินใจ

เมื่อวังวนพลังงานมาถึง เรือรบที่รอดอยู่จะหลบคล่องแคล่วเหมือนกับปลา  เพื่อป้องกันแรงดึงดูดจากวังวนพลังงาน  พวกเขายังคงรักษาระยะจากมันเอาไว้ พวกเขาไม่ได้เริ่มยึดเส้นทางที่วังวนพลังงานกำลังจะไป  แต่ป้องกันไม่ให้มันหนีและเลือกที่จะติดตามทำลายมัน

แต่เมื่อพวกเขาเห็นว่าวังวนพลังงานเหมือนเครื่องบดทำลายกลืนซากปรักหักพังทั้งหมด  ทุกคนถึงกับตาแดงเป็นเลือด ก่อนนั้นยังมีผู้รอดชีวิตอยู่ในซากปรักหักพัง  แต่ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นซากเรือรบ ศพ หรือผู้รอดชีวิตทั้งหมดถูกวังวนพลังงานกลืนลงไป

พวกเขาต้องถูกกำจัด

แต่ขณะที่พวกเขามองดู  พวกเขาไม่มีทางทำอะไรได้  พวกเขาทำได้แต่เพียงรอ  รอให้ศัตรูถอนตัว  ก่อนจะทำลายพวกเขาให้เป็นชิ้น

วังวนพลังงานกวาดผ่านซากหักพังและลำเรือที่พังทั้งหมดหายเข้าไปในวังวนพลังงาน  มันเป็นเหมือนสัตว์ร้ายยักษ์ที่กินอย่างช้าๆ  และเคลื่อนที่ไปรอบๆ อย่างเกียจคร้าน

เมื่อเศษซากชิ้นสุดท้ายหายไป  ผู้รอดบนเรือทั้งหมดตื่นตัว  เพราะพวกเขารู้ว่าศัตรูเตรียมจะถอนตัว

‘ศัตรูจะต้องถอนตัวแน่นอน!’

ด้วยอาวุธลับอย่างวังวนพลังงานและหน่วยที่ลอบเข้ามาโจมตีพวกเขา พวกเขารู้สึกว่าทุกอย่างคุ้นเคยมากและรู้ได้ว่าพวกเขาก็คือศัตรูพวกเดียวกันจากภายในซากหักพังกับเส้นทางผ่านไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใคร สัมพันธมิตรใต้ก็จะไม่ยอมปล่อยพวกเขา พวกที่เหลือรอดสันนิษฐานว่าพวกเขาจะถอนตัว!

‘บางทีสัมพันธมิตรใต้เตรียมกำลังเสริมไว้ในเส้นทางถอย  แต่แล้วไงเล่า?

ทหารทั้งหมดที่อยู่บนเรือเตรียมพร้อมสละชีวิตอยู่แล้ว  พวกเขาแค่ต้องการสู้ด้วยพลังพวกเขาเองและสังหารโดยไม่สนใจว่าจะเป็นหรือตาย ตายภายใต้ควันไฟและปืนใหญ่ขณะสู้รบกับศัตรูดีกว่าตายโดยไม่รู้อะไร  มันคือสิ่งที่น่าเพลิดเพลินยิ่งกว่า

มันน่ารำคาญและหงุดหงิดเกินไป!

ตั้งแต่เริ่มแรกจนถึงปัจจุบันนี้  ผู้รอดชีวิตทุกคนได้แต่เก็บความโกรธไว้ในใจ  และพวกเขาต้องการจะระบายออก

‘รอเดี๋ยวก่อน!’

‘วังวนพลังงานกำลังมุ่งหน้าไป...’

ทหารทุกคนบนเรือรบกวงหมิงที่เตรียมตัวสู้ตายแฝงไปด้วยความโกรธบนใบหน้าต่างพากันตกตะลึง

‘พื้นที่กระแสพลังงานแฝง!’

วังวนพลังงานครึ่งหนึ่งเข้าไปภายในพื้นที่กระแสพลังแฝง  ด้านนอกของวังวนพลังงานมีชั้นสีดำซึ่งกำลังปั่นหมุนอย่างรวดเร็ว

ขณะนั้นเองความสงสัยของพวกเขาก็ได้รับคำตอบ  สัมพันธมิตรใต้ไม่ได้เตรียมเส้นทางถอยแม้แต่น้อย  ไม่มีการเสริมกำลัง เป้าหมายของพวกเขาอยู่ที่พื้นที่กระแสพลังแฝง  ขุนพลของทหารกวงหมิงทุกคนหน้าซีดตาของพวกเขาราวกับมีไฟ

ขณะนั้นเอง พวกเขาก็ตระหนักว่าการลอบโจมตีของศัตรูมาจากพื้นที่กระแสพลังแฝง  พวกเขารอซุ่มโจมตีจากภายในกระแสพลังแฝงเป็นเวลาอย่างน้อยห้าวัน‘ศัตรูมีวิธีอยู่และรอดภายในพื้นที่กระแสพลังแฝง!’

‘โธ่เว้ย!’

พวกเขาได้แต่จ้องมองวังวนพลังงานเข้าไปในพื้นที่กระแสพลังแฝงและหายไป

สนามรบกลายเป็นเงียบสงบอีกครั้ง  ทหารบนเรือที่รอดชีวิตไม่ว่าจะเป็นพลทหารหรือนายทหารรู้สึกว่าพวกเขาหมดเรี่ยวแรงได้แต่นั่งลงกับพื้นเป็นอารมณ์ของผู้พ่ายแพ้

พ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์!

ในสนามรบสิ่งที่น่าเศร้าที่สุดไม่ใช่ว่าศัตรูได้เปรียบขณะที่ท่านต่อสู้  แต่เพราะศัตรูปฏิเสธให้โอกาสให้ท่านได้สู้แต่ท่านก็แพ้ไปแล้ว

เมื่อโกวเฉิงเวิ่นเต้ารีบกลับมาและเห็นเรือที่เหลืออยู่ หน้าของเขาเขียวและบิดเบี้ยวทันที ความโกรธในดวงตาของเขาทำให้เขาดูเหมือนกับว่าจะระเบิดได้  ทหารทุกคนที่คุ้นเคยกับเขารู้ว่าเจ้านายกำลังจะเข่นฆ่าให้สมใจ

แต่น่าแปลกใจที่โกวเฉิงเวิ่นเต้ายังสงบใจเย็นได้ความโกรธในดวงตาของเขาค่อยสงบลง  และรอยยิ้มสุดฝืนปรากฏบนใบหน้าของเขา

คลิฟรู้ว่าเจ้านายได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงแน่นอน  โกวเฉิงเวิ่นเต้ายังเยาว์วัย  แต่มีชื่อเสียง  เขาประสบความสำเร็จมามากมาย  แม้ว่าจะมีการสูญเสียบ้าง  แต่ความสามารถในการต่อสู้ของเขาแข็งแกร่งมาก  และต่อให้เขาแพ้ ฝ่ายที่ตกอยู่ในสภาพย่ำแย่มักจะเป็นศัตรูของเขาเสมอ

แต่เมื่อครั้งล่าสุด  พวกเขาก็ยังโดนเล่นงานย่ำแย่ขนาดนั้นด้วยหรือ?  กองเรือขนาดใหญ่ถูกทำลายหมด

ครั้งนี้ แม้แต่คลิฟเองก็จำต้องฝืนหัวเราะบ้าง

สัมพันธมิตรใต้เหมือนเป็นดาวข่มของพวกเขา  หลังจากสู้กันแล้วนอกจากความได้เปรียบในตอนแรกที่มีเหนือสัมพันธมิตรใต้  พวกเขาไม่เคยได้เปรียบจากการต่อสู้อีกต่อไป แรงต้านของสัมพันธมิตรใต้เริ่มกล้าแข็งมากขึ้นทุกคน  มาตรฐานของแม่ทัพของพวกเขามีแต่จะสูงมากขึ้นและความสูญเสียพ่ายแพ้ของทวีปกวงหมิงมีแต่จะมากขึ้นขยายใหญ่ขึ้น แต่การทำลายหรือกำจัดกองเรือของพวกเขาได้เกือบหมด  นับเป็นประวัติการณ์ครั้งแรกจริงๆ

เมื่อขจัดความตกใจและความเจ็บปวดในใจได้แล้ว  คลิฟเริ่มพิจารณาว่าความพ่ายแพ้ส่งผลต่อสถานการณ์ทั้งหมดอย่างไร

ในเวลาอันรวดเร็ว  เขาไม่มีแม้รอยยิ้มสุดฝืนอีกต่อไปมีแต่ความรู้สึกเจ็บปวด

‘สัมพันธมิตรใต้น่ากลัวเกินไปจริงๆ!’

เมื่อขาดแคลนเรือรบสำหรับปกป้อง ทวีปซางโจวจึงเหมือนกับถูกเปลือยอยู่ต่อหน้าสัมพันธมิตรใต้  และพวกเขาจะถูกโจมตีเมื่อใดก็ได้  แผ่นดินทวีปซางโจวคับแคบและเล็กไม่มีจุดลึกอะไรให้เล่นได้  และสิ่งที่แย่ที่สุดก็คือสภาอาวุโสจะต้องปฏิเสธให้ออกจากทวีปซางโจว  พวกเขามีแต่ต้องแสวงหาความช่วยเหลือ

พวกเขาสูญเสียวิธีเริ่มแรกไปแล้ว

คลิฟสามารถเดาได้ว่าศัตรูจะต้องไล่ตามโอบล้อมพวกเขาและหากำลังเสริม  แต่แม้ว่าเขาจะรู้เช่นนั้น แต่เขากลับทำอะไรไม่ได้  ศัตรูสามารถใช้แผนได้อย่างเปิดเผย  พวกเขาอยู่ในดินแดนศัตรูและเส้นทางไกลจำเป็นต้องทุ่มเทคุณค่าไปมากมายไม่คำนึงว่าพวกเขาจำเป็นต้องเสริมกำลังหรือเพิ่มเติมอุปกรณ์  สำหรับศัตรูตลอดทั้งทวีปถูกล้อมไว้และมีความได้เปรียบ

ขณะนั้นแผนการที่ดีที่สุดของพวกเขาคือออกจากทวีปซางโจวและวางกลยุทธและแผนใหม่ แต่เขารู้ว่าสภาอาวุโสจะไม่เห็นด้วย เนื่องจากเป้าหมายที่แท้จริงของการกรีฑาทัพลงใต้ก็คือทวีปซางโจว

สถานการณ์ของพวกเขากลับกลายเป็นเลวร้าย  คลิฟไม่เคยคิดว่าพวกเขายึดทวีปซางโจวได้แล้วจะลงเอยด้วยการสร้างความเสียเปรียบให้กับพวกเขา

ทันใดนั้น, คลิฟมีข้อสงสัยบางประการ ‘การยอมปล่อยทวีปซางโจวของผู้บัญชาการสูงสุดของศัตรูเป็นแผนการที่จงใจ?’ ความหนาวเหน็บแผ่ซ่านจากหัวใจของเขา ‘ถ้าเป็นกรณีนั้น…’

ในช่วงไม่กี่วินาทีต่อมาความคิดนับไม่ถ้วนผุดผ่านขึ้นมาในใจของเขา เหมือนกับว่าเขาสามารถเห็นอันตรายนับไม่ถ้วน  แต่เขาพลาดในการเข้าใจจุดหลักของเรื่อง

โดยไม่รู้ตัวคลิฟรู้สึกนับถือผู้บัญชาการสูงสุดของสัมพันธมิตรใต้  ถ้าไม่ใช่เพราะซุ่มทำลายกองเรือของพวกเขา พวกเขาจะไม่มีวันคาดได้เลยว่าเป็นศัตรูเลือกจะยอมปล่อยทวีปซางโจว  แม้แต่โกวเฉิงเวิ่นเต้าก็ยังพลาดได้ หมายความว่านั่นเป็นผู้บัญชาการที่น่ายกย่องแท้จริง

โดยไม่รู้ตัวสถานการณ์ถูกควบคุมจังหวะโดยฝีมือของศัตรู  คลิฟต้องการเข้าใจง่ายๆ  ถ้ากองเรือไม่ถูกลอบโจมตีพวกเขาจะตกอยู่ในสถานการณ์น่ากลัว แต่สถานการณ์กลับค่อยๆ เป็นไปตามจังหวะของศัตรู

กล้ายอมเสียทวีปซางโจวนับเป็นความมุ่งมั่นที่ควรแก่การสรรเสริญ  จากตั้งแต่เริ่มรบศัตรูก็ได้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวก่อนแล้ว

‘เป็นบุรุษที่น่ากลัวจริงๆ!’

คลิฟสูดหายใจตอนนี้เขาหวังว่าเขาจะไม่เข้าใจอะไรเลยดีกว่า ‘นอกจากสามารถมองเห็นภาพรวม ศัตรูต้องมีผู้อื่นคอยหนุนหลังแผน’ แต่น่าเสียดาย คลิฟไม่สามารถเห็นพวกเขาได้

โกวเฉิงเวิ่นเต้าผู้อยู่ในความเงียบถ่มน้ำลายทันทีและพูดทันที  “ขอความช่วยเหลือ”

“ขอรับ!”  คลิฟใจสั่นสะท้าน  “ผู้น้อยจะขอกำลังเสริมจากสภาฯ โดยตรง!”

“ไม่!” เสียงของโกวเฉิงเวิ่นเต้าดังขึ้นขณะที่เขาเค้นเสียงรอดไรฟัน  ซึ่งเย็นยะเยียบเสียดกระดูก  “นอกจากสภาฯ ยังมีม่อซินและชิวซิ่วหัวบอกพวกเขาให้มารวมตัวที่นี่ด่วนที่สุด!”

คลิฟตกใจ ดูเหมือนเขาเข้าใจอะไรบางอย่าง และหน้าของเขาพลันซีด

“พวกเขาสามารถช่วยเราเบี่ยงเบนความสนใจของสัมพันธมิตรใต้  เราเพียงแต่ทำงานอย่างเดียว  ก่อนที่ม่อซินและชิวซิ่วหัวจะหมดแรง  ต้องหาทางให้เจอ!  เราจะชนะเมื่อเราหาพบ!  ถ้าเราหาไม่พบอย่างมากทุกคนก็ตายด้วยกัน

เสียงของโกวเฉิงเวิ่นเต้าเหมือนกับลมในฤดูหนาวทำให้ร่างของทุกคนสะท้านหนาวเย็น

**************************

ภายใต้ท้องฟ้ายามราตรีเมืองวายุน้ำเงินตกอยู่ในความวุ่นวายสถานที่ซึ่งกองกำลังของกลุ่มผู้ค้าตะวันตกที่มีการตรวจตราลาดตระเวนถูกไฟไหม้เปลวเพลิงลุกโชนถึงท้องฟ้าซึ่งใครๆ ก็รู้สึกได้จากระยะไกล

“พวกโจรอยู่ที่นี่!”

“อัศวินถูกฆ่า!”

เสียงกรีดร้อง ตะโกนดังระงมทั่วท้องฟ้าและที่ทำงานต่างๆทั้งหมดตกอยู่ในความโกลาหลไม่นาน เมืองวายุน้ำเงินเขตก่อสร้างขนาดใหญ่ เพื่อประโยชน์ต่อการสร้างเมืองวายุน้ำเงินใหม่  กลุ่มการค้าตะวันตกดูเหมือนจะรวมองค์กรใหญ่ทั้งหมด

ถ้ากลุ่มการค้าตะวันตกไม่สามารถหยุดพวกเขาได้  แล้วองค์กรอื่นๆ จะกล้าต่อต้านได้ยังไง?

ภายใต้ท้องฟ้าและเปลวเพลิงยามราตรี  ความหวาดกลัวของทุกคนทำให้พวกเขาหลบหนีอย่างแตกตื่น

ภายในคลังสินค้าของกลุ่มการค้าตะวันตก  บนลานว่างถูกไฟไหม้และทุกคนรื้อของหลายอย่างที่สามารถเผาได้โยนเข้าไปในกองไฟ

“ระวังให้ดี,อย่าเผาโกดังสินค้าเสียเล่า!”

“ไฟยังกองใหญ่ไม่พอ!  สุมให้กองใหญ่กว่านี้!”

“มีอะไรอื่นเผาได้อีก  รีบๆ เอามาเผา!”

ภายในคลังสินค้าหนุ่มถังได้ยินเสียงตะโกนโหวกเหวก และเมื่อเขามองดูคลังสินค้าที่กองสุมเต็มโกดัง  เขาถึงกับตะลึง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด