ตอนที่ 865 ตัดสิน
เมื่อจ้าวคางคกเดินทางมาถึงสนามทดสอบ เขาพบว่ามีผู้ชมดูเป็นพันอยู่แล้ว
พระเจ้า, เย่ว์หยางและตั๊กแตนมัจจุราชหายไปแล้ว
แปลก, หรือว่าเจ้าเด็กนั่นล้มเหลว? หรือว่าเขาออกไปจากที่นี่เพื่อค้นหาอสูรกำเนิดใหม่? เจ้าเด็กนั่นบ้าระห่ำมากพอจะท้าทายทดสอบในระดับยาก ถ้าเขาล้มเหลวก็คงไม่แปลก! เมื่อคิดได้เช่นนี้จ้าวคางคกมีความรู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก ถ้าเจ้าเด็กนี้ทำได้สำเร็จ พญาราชสีห์ผู้คอยรักษาความสงบในหุบเขาอสูรไม่จำเป็นต้องพูดถึง แต่พญาเหยี่ยว และเสือหน้ามนุษย์ หรือแม้แต่ข้าก็ยังไม่เชื่อว่าบุคคลอย่างนางพญาผึ้งพิษจะเข้าข้างเจ้าเด็กนั่นด้วยตัวเอง
“เจ้าเด็กนั่นล้มเหลวในชั้นที่หนึ่งใช่ไหม?” จ้าวคางคกพบเจออสูรตะกวดสายฟ้าและถามเขาอย่างไม่ใส่ใจ
“ผ่าน...สิบ..รอบไปแล้ว...” เสียงของตะกวดสายฟ้าสั่นสะท้าน
“เจ้าว่ายังไงนะ? เขาสอบตกหลังจากผ่านเข้าด่านสิบหรือ? ฮ่าฮ่าฮ่า ข้ากล้าพูดได้เลยว่าเขาจะต้องพลาดท่าสอบตก ไม่มีใครเคยผ่านระดับยากมากมาก่อนนับตั้งแต่มีการบันทึกสถิติ ไม่มีใครที่ท้าทายและสอบผ่านได้สำเร็จ เจ้าเด็กปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมแค่พอมีทักษะฝีมือหน่อย ยังกล้ามาอาละวาดโอ้อวดฝีมืออีกหรือ?” จ้าวคางคกทำสีหน้าเยาะเย้ย แต่ในใจหวาดกลัวแทบตาย
“ไม่ ไม่ ไม่ใช่อย่างนั้น” อสูรตะกวดสายฟ้ากลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก มันเงยหน้าพูดกับจ้าวคางคกเบาๆ “ข้าหมายความว่า คนผู้นั้นผ่านด่านได้ทั้งสิบรอบจบแล้ว”
“ผ่านทั้งสิบรอบ? เป็นไปได้ยังไง? จ้าวคางคกตกใจไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้ยิน
“เรื่องนั้นเป็นความจริง บริวารของข้าเห็นกับตาตนเอง ข้าไม่กล้าหลอกลวงท่าน ทุกคนเห็นการสอบนั้น” อสูรตะกวดสายฟ้าเผ่นหนีไปแล้ว
“ไม่ และเจ้าเด็กนั่นใช้เวลาเพียงชั่วโมงเดียว” อสูรแมวลิงซ์บริวารของพญาราชสีห์พูดเสริม
“ถ้าข้ารู้ว่าการผ่านด่านได้หมดทั้งสิบด่านรวดเดียวจะได้ผลตอบแทนเป็นผลปัญญาคุณภาพดีที่สุด ข้าจะต้องลองดูแน่นอน” เล่าซานถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า ตอนนี้ต่อให้เขาต้องการทดสอบ แต่เขาสูญเสียคุณสมบัติจะเข้าทดสอบไปแล้ว
มีแต่ผู้มาใหม่ที่มีพรสวรรค์เท่านั้นจึงจะเข้าสอบได้
หรือไม่ก็เป็นผู้พำนักที่จะเข้าท้าทายทดสอบหลังจากล้มเหลวไปแล้ว
เช่นเดียวกับอสูรที่ตายไปแล้วและกลายเป็นอสูรปีศาจ นอกจากความอิจฉาแล้ว ครั้งหนึ่งพวกเขาเคยเป็นอสูร พวกเขาไม่มีพรสวรรค์มากพอจะท้าทาย
จ้าวคางคกเมื่อได้ยิน ก็รู้สึกไม่พอใจ
ผลปัญญาศักดิ์สิทธิ์?
ของอย่างนี้เขาจะไม่เคยได้ยินได้ยังไง?
เล่าซานอสูรขนยาวกล่าว “ข้าเคยเป็นปราชญ์ทะเลรู้เรื่องผลปัญญาในตำนาน” เขาเอามือลูบหนวดเคราเดินไปมาหลายก้าวและไอกระแอมอีกครั้ง น่าเสียดายที่ไม่มีใครรับมุขเขาได้ทันด้วยการส่งชาหรือเหล้าเอาใจผู้เฒ่า หรือมิฉะนั้นก็พูดเยินยอเท่านั้นก็พอ จ้าวคางคกโมโหจนลมออกหู ตาเฒ่านี่มาทำอะไรต่อหน้าเขา ถ้าไม่เห็นแก่หน้าของพญาราชสีห์ เขาคงตบหน้าสั่งสอนหรือไม่ก็กลืนกินตาเฒ่านี่ทั้งตัว! ภายใต้การจับตามองของอสูรปีศาจและผู้พำนักเป็นพัน เล่าซานอสูรขนยาวเริ่มอธิบายให้ทุกคนฟัง “ผลปัญญาศักดิ์สิทธิ์เป็นสมบัติหายากในแดนสวรรค์ ในบรรดาสมบัติทั้งหมด ในแดนสวรรค์ล่างไม่มีสมบัติแบบนี้ ต้องเป็นแดนสวรรค์บนจึงจะมี ในดินแดนแฟรี่สิ่งมีชีวิตระดับใกล้เคียงเทพมากที่สุดจึงจะมีสมบัติอย่างนี้”
ขณะที่อสูรขนยาวพูดอธิบายสีหน้าของเขาแสดงถึงความนับถือเลื่อมใส
มีอยู่สองสามคนที่ให้กำลังใจ
แล้วนั่นเป็นผลปัญญาศักดิ์สิทธิ์หรือ?
มิน่าเล่าถึงได้ดูแตกต่างจากผลปัญญาธรรมดา
บางคนพูดกระซิบเบาๆ ผลปัญญาศักดิ์สิทธิ์เป็นของวิเศษที่ทรงอำนาจ แต่ส่งผลเช่นไรเล่า?
แม้ว่าผู้ชมดูในบริเวณนั้นเห็นว่าเย่ว์หยางเพิ่งได้รับรางวัลนี้ไป แต่พญาราชสีห์ พญาเหยี่ยว เสือหน้ามนุษย์และนางพญาผึ้งพิษต่างต้องการเป็นมิตรกับเขา จึงไม่กล้าแย่งชิงสมบัติของเขา แน่นอนว่าเหตุผลสำคัญที่สุดคือพวกเขากลัวกล่องแพนดอราของเย่ว์หยาง ของแบบนั้นไม่ใช่เรื่องล้อเล่น
อสูรเฒ่าขนยาวเล่าซานเหมือนถูกตบหน้า เขามองดูรอบๆ และพูดขึ้นในที่สุด “ผลปัญญาตามชื่อของมันย่อมเป็นสมบัติชั้นศักดิ์สิทธิ์ พลังของมันย่อมมากกว่าผลปัญญาธรรมดาถึงร้อยเท่า กล่าวกันว่าอสูรธรรมดาที่ไม่ฉลาดพอกินเข้าไปก็จะช่วยเปิดภูมิปัญญาความรู้ให้อสูร ถ้าอสูรมีภูมิปัญญาระดับแรกกินเข้าไป สติปัญญาก็จะสูงเพิ่มขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง ถ้าเป็นอสูรระดับสูงที่กำลังเติบโตกิน ก็จะค่อยๆ เลื่อนระดับไปจนถึงระดับเตรียมอสูรศักดิ์สิทธิ์ มีคำกล่าวในแดนสวรรค์บนว่า มีอสูรระดับเตรียมชั้นศักดิ์สิทธิ์บางตนไม่สามารถเลื่อนระดับได้ไม่ว่าจะใช้วิธีไรๆ ก็ตาม ถ้าไม่สามารถเลื่อนเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ได้ก็แค่ค้นหาผลปัญญาศักดิ์สิทธิ์ แต่ต้องทุ่มสู้ราคา แม้แต่อสูรเตรียมศักดิ์สิทธิ์ที่ยกระดับไม่สำเร็จติดอยู่ในสภาพคอขวดกางกั้น พอได้เปิดปัญญากว้างขวางก็เลื่อนเป็นระดับอสูรศักดิ์สิทธิ์ได้!”
ฮืมมมมม..
ผู้ชมแต่ละคนเมื่อได้ยินแล้ว ต่างก็สูดน้ำลายที่กำลังหก
อย่างนั้นเจ้าเด็กนั่นคงไม่ถูกล่อลวงโดยง่าย ต่อให้คนที่มีจิตใจบริสุทธิ์เหมือนเด็กเมื่อพบเจอผลปัญญาศักดิ์สิทธิ์ ก็ต้องน้ำลายหกอยากได้กันทั้งนั้น
ปากของจ้าวคางคกมีน้ำลายหกราวกับน้ำตก
โอว ฮาฮาฮา
เขาลอยลงมายังพื้น!
“ถ้าอสูรศักดิ์สิทธิ์กินผลปัญญาศักดิ์สิทธิ์ อย่างนั้นจะเกิดอะไรขึ้น?” บางคนตั้งคำถามนี้ขึ้น
“ฮืมม” เล่าซานอสูรขนยาวชี้ไปที่หัวของอสูรที่ตั้งคำถาม “ถ้าอสูรศักดิ์สิทธิ์กิน ก็ยิ่งเป็นปัญหายุ่งยาก เจ้าก็รู้ว่ายิ่งอสูรมีสติปัญญาสูงกินผลปัญญาศักดิ์สิทธิ์ ก็จะยิ่งได้รับประโยชน์มาก นี่ตรงกันข้ามกับผลปัญญาธรรมดา!”
“เจ้าหมายความอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่กินผลปัญญาศักดิ์สิทธิ์จะมีโอกาสกลายเป็นอสูรเทพได้ใช่หรือเปล่า?” มีอสูรตนหนึ่งถามขึ้นอย่างกระตือรือร้น เสียงของเขาสั่นตลอดเวลา
“อะแฮ่ม... โอกาสเช่นนั้นค่อนข้างมาก” เมื่ออสูรขนยาวเล่าซานพูดถึงตรงนี้ผู้ชมดูตกตะลึงกันหมด
ถ้าอสูรน้อยเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์อยู่แล้วกินผลปัญญาศักดิ์สิทธิ์จริง อย่างนั้นอสูรเทพก็สามารถไปจากหุบเขาอสูรได้ไม่ใช่หรือ? หากอสูรเทพเกิดขึ้นในหุบเขาอสูรในปัจจุบันนี้เล่า? คาดกันว่าหลายคนที่ต่อต้านไม่พอใจเด็กใหม่ที่ไม่ธรรมดา และไล่ตามฆ่าอสูรน้อยของเขาจะได้รับผลตอบโต้ที่ร้ายแรง
ตอนนี้หลายคนมองดูจ้าวคางคก
สีหน้าของพวกเขาเหมือนกับว่าจะเห็นเทพแห่งความโชคร้ายปรากฏตัว
พวกเขาเกรงว่าถ้าสนิทใกล้ชิดกับจ้าวคางคกจะต้องประสบพบเจอกับเรื่องลำบาก พวกเขาอดถอยหลังออกมาไม่ได้เหมือนกับพยายามหลีกเลี่ยงโชคร้าย
แม้แต่ตะกวดสายฟ้าบริวารของจ้าวคางคกก็ยังไม่กล้าอยู่ใกล้หัวหน้าตนเองมากเกินไป ประการแรกเมื่อจ้าวอสูรผู้นี้โกรธ ชอบจับบริวารกิน ประการที่สองเขากลัวจะติดเชื้อความโชคร้ายมาด้วย เขาเชื่อว่าไม่ใช่เรื่องดีแน่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำสาปแช่งของเจ้าเด็กใหม่ผู้นั้น เขาใช้พลังเทพวิบัติทรมานผู้คน บางทีจ้าวคางคกเจ้านายของเขาคงต้องคำสาปไปแล้วก็เป็นได้....
จ้าวคางคกมีสีหน้าที่น่าเกลียดราวกับคนไม่ได้ถ่ายท้องมาหนึ่งเดือน
เขามองไปรอบๆ อย่างรวดเร็ว
ทุกคนระมัดระวังป้องกันตัวอย่างดี และเขากลัวว่าจะเกิดการกระตุ้นยั่วยุ
อย่างไรก็ตามจ้าวคางคกจู่ๆ ก็หัวเราะขึ้น เสียงหัวเราะของเขาสากหูราวกับโลหะเสียดสีกัน ทำให้อสูรปีศาจและผู้พำนักที่อยู่รายรอบถอยห่าง
“ข้ามีอสูรปราณฟ้าระดับสอง เจ้าต้องการจะขู่เราผู้เฒ่าให้กลัวหรือ? เป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์แล้วยังไงเล่า? เราผู้เฒ่าไม่มีอสูรศักดิ์สิทธิ์ด้วยหรือไงเล่า? ถ้าไม่ใช่เพราะมีเปลวเพลิงเผากบเทพปีศาจของข้าตาย แล้วข้าจะกลายร่างเป็นคางคกได้ยังไง? อย่างไรก็ตาม ต่อให้ข้าเปลี่ยนมาเป็นลักษณะนี้ แต่ข้าก็ยังเหนือพวกอสูรอ่อนแอเหล่านี้ นอกจากพญาราชสีห์ และหัวหน้าดาริอุสหัวหน้าของผู้พำนัก พวกเจ้าคนใดกล้าพูดได้บ้างเล่าสู้ข้าได้?” จ้าวคางคกแหงนหน้าหัวเราะอย่างบ้าคลั่งจนท้องกระเพื่อมเป็นระยะๆ “ดูซะ เจ้าพวกน่าสมเพช ข้าจะทำอะไรให้พวกเจ้าดู จะเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ หรืออสูรเทพในอนาคตก็ตาม มันจะต้องกลายเป็นอาจมเมื่ออยู่ต่อหน้าข้า หากจะมีอสูรเทพในหุบเขาอสูรแห่งนี้ได้ ก็ต้องมีแต่ข้าเท่านั้น!”
“อา..ราชาผู้ยิ่งใหญ่..ท่านกลายเป็นมนุษย์อสูรไปแล้ว!” ตะกวดสายฟ้าเตือนเจ้านายอย่างอ่อนใจ ช่วงเวลาฝันกลางวันผ่านไปแล้ว มนุษย์อสูรไม่มีคุณสมบัติพอผ่านด่านเพื่อรับผลปัญญาศักดิ์สิทธิ์
“ทุกคนเชื่อเช่นนี้จริงๆ หรือ?” จ้าวคางคกหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
ร่างที่น่าเกลียดสั่นสะท้าน
ขณะที่ผิวที่ขรุขระเริ่มมีเมือกหลั่งออกมา
จากนั้นด้านหลังของต่อมพิษมีบุรุษเปลือยผู้หนึ่งแทรกตัวออกมา สายตาของเขามองดูอสูรรอบๆ ที่ตกตะลึงอย่างเย้ยหยัน
เหลือเชื่อจริงๆ จ้าวคางคกยังคงเป็นผู้พำนัก ยังไม่กลายเป็นมนุษย์อสูร
หลายพันปีที่ผ่านมาเขาหลอกลวงทุกคน
กลับกลายเป็นว่าเขาคือผู้พำนักสามารถสู้กับอสูรได้!
ตะกวดสายฟ้าตื่นเต้นจนสั่นไปทั้งตัว “ราชาผู้ยิ่งใหญ่! ท่านเป็นผู้พำนักจริงๆ หรือ? อย่างนั้นทำไมท่านไม่เป็นหัวหน้าผู้พำนักและสู้กับจ้าวอสูรเล่า?”
บุรุษผู้มีกลิ่นอายชั่วร้ายพูดอย่างถือดี “เหลวไหล, อสูรของข้าความจริงตายเพียงครั้งเดียว แล้วข้าจะไม่เป็นผู้พำนักได้อย่างไร? ส่วนว่าทำไมต้องเป็นจ้าวอสูร ไม่ยอมเป็นผู้พำนัก เหตุผลนั้นง่ายมาก ประการแรกผู้พำนักมีจำนวนคนน้อยเกินไป ไม่สามารถรับบริวารติดตามได้มากเท่าใด ประการที่สองพญาเหยี่ยวและเสือหน้ามนุษย์ต่อต้านพญาราชสีห์ พอมีข้าร่วมด้วยก็สอดคล้องกับความต้องการของพวกเขา”
อสูรขนยาวเล่าซานก้าวออกมาจากกลุ่ม “เจ้าเป็นผู้พำนักแล้วยังไงเล่า? ต่อให้เจ้าสามารถสู้ร่างอสูรได้ แต่มันต้องทำตามคำสั่งเจ้าได้โดยตรง สติปัญญาของอสูรของเจ้ายังไม่เพิ่ม มีพลังก็ยังไร้ประโยชน์ ดูอย่างท่านพญาราชสีห์สิ? ถ้าไม่มีสติปัญญาเจ้าไม่สามารถออกไปจากหุบเขาอสูรได้!”
หลังจากบุรุษผู้ชั่วร้ายได้ฟัง เขาหัวเราะลั่นชั่วขณะ
เขาชี้มาที่อสูรขนยาวเล่าซาน และตวาดอย่างเย็นชา “ไสหัวไปห่างๆ, ปีศาจเฒ่า เดี๋ยวเจ้าจะได้เห็นว่าแผนยิ่งใหญ่เป็นยังไง!”
อสูรหัวเหยี่ยวบินเข้ามาอยู่ต่อหน้าบุรุษผู้ชั่วร้ายและคำนับด้วยความเคารพ
ขณะที่อยู่ต่อหน้ากลุ่มคนและอสูรทั้งหลาย มนุษย์หัวอสูรควักตาข้างหนึ่งและข่มกลั้นความเจ็บปวดส่งให้บุรุษผู้ชั่วร้าย
บุรุษผู้ชั่วร้ายถาม “เจ้าแน่ใจนะว่าบันทึกความเคลื่อนไหวของเจ้าเด็กนั่นไว้ด้วยตาเหยี่ยวไว้แล้ว?”
อสูรเหยี่ยวตอบด้วยความเคารพ “เหมือนกันทุกอย่างแน่นอน”
บุรุษผู้ชั่วร้ายหัวเราะและเจาะหน้าผากตนเองฝังลูกตาไว้ที่หน้าผาก เมือกขาวและเนื้อเยื่อไหลออกมาจากรูที่เจาะและยึดดวงตาที่ใส่เข้าไปในเบ้ากลวงสมานจนเป็นเนื้อเดียวกันภายในไม่กี่วินาที ขณะที่บุรุษผู้ชั่วร้ายหัวเราะอย่างย่ามใจ “ข้ารอคอยมาหลายพันปี ในที่สุดก็จะได้ผลภูมิปัญญาที่ดีกว่า ข้าต้องการมันไว้!”
ตอนนี้พวกผู้ชมดูในกลุ่มอสูรปีศาจเริ่มจะเข้าใจแล้ว
จ้าวคางคกคิดเรื่องนี้ไว้ล่วงหน้าแล้ว
ไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามจะท้าทายสอบผ่านสำเร็จหรือไม่ เขาก็ยังได้ประโยชน์
ถ้าล้มเหลว, อย่างนั้นพลังของฝ่ายตรงข้ามจะได้รับความเสียหายครั้งใหญ่ ไม่จำเป็นต้องกลัวอีกต่อไป และในท้ายที่สุดคาดว่ายากจะหนีพ้นการไล่ล่าตามฆ่าของเขาได้ ต่อให้สำเร็จ จ้าวคางคกก็ไม่เสียหาย เขาใช้วิชาลับตาเหยี่ยวบันทึกทักษะความสำเร็จของฝ่ายตรงข้ามที่ได้รับผลปัญญาศักดิ์สิทธิ์ไว้
ถ้าจ้าวคางคกชนะได้รับผลปัญญาศักดิ์สิทธิ์ อย่างนั้นหุบเขาอสูรเป็นอันจบ และเลือดไม่ต้องไหลเป็นท้องธาร
บุรุษผู้ชั่วร้ายโบกมือ
หลังจากคางคกยักษ์กระโดดขึ้นไปอยู่บนเครื่องยิง มันหดขนาดลงภายใต้พลังงานกฎสวรรค์จนอยู่ในรูปกระสุนอสูร
ตามภาพที่ตาเหยี่ยวบันทึกเอาไว้ อยู่ในมุมมองเดียวกันกลับที่เย่ว์หยางยิง ทั้งทักษะการยิงของเย่ว์หยางก็เลียนแบบด้วยและยิงกระสุนอสูรออกไปในลักษณะเดียวกัน
ครืนนน ครืนนน ครืนนน!
รอบแรกประสบผลสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่!
เหมือนกับการเปิดตัวของเย่ว์หยางก่อนนั้นไม่ต่างกันเท่าใด
เมื่อคางคกถูกเทเลพอร์ตกลับมาอยู่ในมือของบุรุษผู้ชั่วร้ายนั้น ใช้เวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งนาที
ผู้ชมที่เป็นชาวอสูรและที่อยู่รายรอบ ตะโกนอย่างไม่พอใจ ตาเหยี่ยวสามารถบันทึกเลียนแบบไว้ได้ด้วยหรือนี่?
“ด้วยแบบอย่างที่ประสบความสำเร็จ ผลปัญญาศักดิ์สิทธิ์เอ๋ย เจ้าจงรอให้ข้าไปกินเจ้าก่อน ฮ่าฮ่าฮ่า!” บุรุษผู้ชั่วร้ายหัวเราะย่ามใจ ตะกวดสายฟ้าที่แต่เดิมต้องการเตือนเขาว่า ผลปัญญาศักดิ์สิทธิ์ เอาไว้ให้อสูรกิน ถ้าคนกินจะกลายเป็นคนปัญญาอ่อนแน่ อย่างไรก็ตามตอนนี้มันไม่กล้าพูดประโยคนี้กับเขาโดยตรง มันได้แต่ขดตัวอยู่ในมุมรอดูผลอยู่เงียบๆ
ฟิ้วววว
กระสุนอสูรคางคกยังคงถูกยิงต่อ ทั้งมุมมอง ทั้งทักษะการยิงเหมือนกับที่เย่ว์หยางยิงตั๊กแตนมัจจุราชออกไป
ครืนนน ครืนนน ครืนนน!
ขณะที่ทุกคนท้อแท้ใจ เตรียมจะจากออกไปเพราะไม่สามารถทนดูได้อีก
ทันใดนั้นอสูรแมวลิงซ์ร้องขึ้น “ไม่ ไม่นะ ไม้ซุงรองฐานแม้ว่าจะถูกกระแทกแต่จุดไม่ถูกต้อง มุมเอียงของหอคอยที่สามแตกต่างออกไปเล็กน้อย สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือปลายแหลมตรงกลางที่หล่นลงมายังสั้นไป คาดไม่ถึงเลยว่ามันไม่หักพังลงมา นั่นๆๆ หมูน้อยยังมีชีวิตอยู่ ภาพลอกเลียนแบบล้มเหลว ล้มเหลวอย่างคาดไม่ถึง
หลายคนพอมองขึ้นไปก็พบกับความประหลาดใจ
หลาวสั้นไม่ได้แตกหักทั้งหมด มีแค่ปลายแหลมหักเล็กน้อย
ทิศทางตกกระแทกของยอดแหลมเปลี่ยนทิศทางถล่มลงกระแทกพื้นเศษกรวดหินกระเด็น และหินก้อนใหญ่พุ่งเป็นบอลเพลิงชนอสูรคางคก อสูรคางคกที่ยังมีกฎสวรรค์ห่อหุ้มกลิ้งไปที่ขอบบ่อลาวาช้าๆ
“ไม่ ไม่ อย่านะ มันอันตราย!” บุรุษผู้ชั่วร้ายแทบเป็นบ้า เขาตั้งใจว่าจะเข้าไปหยุดก้อนหินที่กลิ้งนั้น แต่ความเป็นจริงโหดร้าย เขาไม่สามารถเข้าไปช่วยได้ เขาไม่สามารถค้นพบได้ว่าทำไมเขาถึงล้มเหลวทั้งที่การกระทำเหมือนกัน? และทำไมเจ้าเด็กนั่นทำได้สำเร็จ? ตอนนี้เขายอมรับว่าล้มเหลวแล้ว แต่หวังว่าอสูรของเขาจะไม่ตกไปตายในบ่อลาวา ถ้าตกลงไปในบ่อลาวา อย่างนั้นเขาจะเหลือเพียงโอกาสสุดท้าย
ถ้าพญาราชสีห์ พญาเหยี่ยว เสือหน้ามนุษย์และนางพญาผึ้งพิษโจมตี อย่างนั้นเขาจะกลายเป็นมนุษย์อสูรแท้ๆ
อย่างนั้นเขาก็ต้องรับความจริงว่าเขาจะไม่มีทางออกไปจากหุบเขาอสูรได้อีก
และอาจเป็นอันตรายถึงตาย!
“ไม่นะ อย่า อย่า!” บุรุษผู้ชั่วร้ายนั้นร้องราวกับคนบ้า เขาไม่รู้ว่าเป็นเพราะโชคหรือเหตุผลอื่น บอลแสงกลิ้งไปอยู่ที่ขอบบ่อลาวา และหยุดนิ่ง
หวาดเสียวน่ากลัวมาก
แต่ในที่สุดมันก็ไม่ร่วงลงในบ่อลาวา... นี่ทำให้อสูรที่ชมดูถอนหายใจกันทีละตน น่าเสียดายจริงๆ
แต่เป็นอสูรแมวลิงซ์ไม่ยอมแพ้ ชี้ไปที่สนามทดสอบ “ดูสิ ปลายแหลมกำลังแตกออก และหินยังคงกลิ้งเข้ามา...”
“มาเลย กลิ้งมาเลย กำจัดเจ้าคางคกสกปรกออกไป!” อสูรขนยาวเล่าซานไม่กลัวที่จะตะโกนแบบนี้ แต่ตอนนี้เขาตื่นเต้นจนลืมไปว่าจ้าวคางคกยังอยู่ตรงนั้น และเหมือนกับไปกดปุ่มความตื่นเต้น อสูรอื่นเริ่มกระโดดโลดเต้นกันที่ละตน บางตนกระทืบเท้าราวกับต้องเร่งให้ก้อนหินกลิ้งใส่อสูรคางคกที่อยู่ตรงขอบบ่อลาวาโดยตรง
“ไม่ ไม่ ช้าลง ช้าลง” บุรุษผู้ชั่วร้ายพบว่าก้อนหินใหญ่เริ่มจะช้าลง ขณะที่มันกลิ้งไปหาบอลแสงที่หุ้มตัวอสูรคางคก มันกลับหยุดนิ่งไม่กระทบ เขาดีใจแทบคลั่งและใช้มือปาดเหงื่อที่หน้าผากอย่างต่อเนื่อง
“ครืนนน ครืนนน ครืนนน!”
หอสูงที่สามค่อยๆ เอนลงทับหอกลางทีละนิดๆ
หลาวสั้นที่ปักไว้ป้องกันกระสุนอสูรเริ่มแตกหักกระเด็น และหนึ่งในนั้นกระเด็นมาที่บ่อลาวา และกระแทกใส่หินกลม และหินกลมสะกิดใส่บอลแสงที่หุ้มร่างอสูรคางคก ท่ามกลางสายตาอสูรต่างๆ บอลแสงขยับสองสามครั้งและในที่ก็เริ่มกลิ้งทีละนิดๆ และหล่นลงในบ่อลาวาเดือด.. ต่อให้บุรุษผู้ชั่วร้ายดิ้นรนต่อเตะแท่นยิงยังไงก็ตาม ก็ช่วยไม่ได้ เขาไม่อาจกอบกู้ชะตากรรมล้มเหลวได้
อสูรปีศาจพากันร่าเริงดีใจยิ่งกว่าตนเองชนะเองเสียอีก
อสูรแมวลิงซ์ส่ายก้นล้อเลียน
ยินดีด้วย ยินดีด้วย
อสูรปีศาจทั้งหมดร้องสรรเสริญจ้าวปีศาจเหมือนยามที่เขาขึ้นครองบัลลังก์
อสูรขนยาวเล่าซานลูบเคราที่กำลังงอกยาวอีกครั้งพลางกล่าวสอนเด็กรุ่นหลัง “วิธีการเดียวกัน หาใช่ว่าจะทำให้ทุกคนสำเร็จไม่! ทำไมบางคนทำสำเร็จ เพราะคนผู้นั้นมีอสูรศักดิ์สิทธิ์ และเจ้ามีแต่ตัวโง่งม! อสูรศักดิ์สิทธิ์รู้ว่าจะร่วมมือยังไง แต่อสูรของเจ้ามันโง่เง่าจริงๆ โชคชะตาถูกตัดสินแน่นอนไปแล้วว่าไม่ใช่ของเจ้า”
จ้าวคางคกตัวสั่นด้วยความโกรธแทบจะกระอักโลหิตออกมาสามลิตร
ในยามนั้นเขามีความรู้สึกอยากจะเอาศีรษะโขกเต้าหู้ให้ตายจริงๆ!