ตอนที่ 864 โชค บ้าระห่ำ หรือความมั่นใจ?
“โชคดีขนาดนั้นเชียวหรือ?”
“เป็นไปไม่ได้ ข้างงไปหมดแล้ว!”
“ฟลุ้คกันเห็นๆ นี่ไม่ได้ใช้พลังอะไรเลย ต้องบอกว่าเจ้าเด็กนี่มากับดวงแน่นอน เขาคงจะไม่ประสบความสำเร็จอีกแน่นอน!”
“เหลือเชื่อจริงๆ ข้าคิดไม่ออกเลย นี่มันเหตุผลบ้าอะไรกัน?”
“พระเจ้า!”
“ข้าตาฝาดไปหรือเปล่า? เจ้าเห็นหรือเปล่าว่าสำเร็จ? มันจริงหรือเปล่า? เฮ้, หรือว่าสมองของข้าฝ่อไปแล้ว ผลสำเร็จนี้กะทันหันเกินไป ข้ายังไม่ทันเตรียมตัวเตรียมใจเลย! นี่สำเร็จจริงๆ หรือนี่?”
“ข้าแค่กำลังจะพูดว่าล้มเหลว แต่ไอ้คำว่าล้มเหลวดันติดอยู่ที่คอ บ้าเอ๊ย! เขาทำสำเร็จจริงๆ ด้วย!”
เมื่อผู้พำนักและอสูรปีศาจรู้สึกตัว พวกเขาทุกคนทุกตนราวกับถูกโยนระเบิดใส่ ทุกคนฮือฮาพูดคุยกันอย่างแตกตื่น
สีหน้าอารมณ์ของพวกเขา
เต็มไปด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ
มีแต่พญาเหยี่ยวและนางพญาผึ้งพิษที่มองดูเย่ว์หยาง
ผู้นำทั้งสองมีพลังระดับราชาสายตาดีพอจะเห็นว่านี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นเรื่องความแข็งแกร่งล้วนๆ เหตุผลที่เด็กหนุ่มผู้นี้ประสบความสำเร็จ เป็นเพราะเขามีความเชื่อมั่นพอ มิฉะนั้นเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะฝึกอสูรศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาได้และยิงกระสุนอสูรทันที เขาจะต้องมีความมั่นใจเปี่ยมล้นอย่างแน่นอน แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้ไปเอาความมั่นใจมาจากไหนก็ตาม!
เป็นความจริงที่ว่าเด็กหนุ่มผู้นี้มีปัญญา แม้แต่ภารกิจที่ยากในภารกิจที่สองที่มองกันว่ายากเย็นแสนเข็ญที่สุด เขาก็ยังเอาชนะได้หรือ?
วีเซลหางดาบและหลงหม่ามองดูเย่ว์หยางอย่างเต็มตาเป็นครั้งแรก
พวกเขารู้สึกไม่อยากจะเชื่อเป็นเวลานาน
แต่หลังจากเห็นว่าประสบความสำเร็จแน่นอน ทั้งสองอดกอดกันหลั่งน้ำตาด้วยความปลาบปลื้มใจมิได้ ตอนนี้พวกเขาตั้งใจแน่วแน่ว่า ไม่ว่ายังไงพวกเขาจะต้องติดตามบุรุษหนุ่มผู้นี้ให้ได้ เขาสามารถสร้างปาฏิหาริย์และคงทำให้พวกเขาได้รับอิสรภาพแน่นอน!
นางพญาผึ้งพิษไม่ได้เลือกผิด บุรุษหนุ่มผู้มีสติปัญญายิ่งใหญ่เช่นนี้ควรแก่การฝากความไว้วางใจมากที่สุด
เมื่อทุกคนคิดว่าเขาจะล้มเหลว แต่เขากลับผ่านอุปสรรคไปได้อย่างง่ายดาย
ในพริบตาที่ใบหน้าทุกคน
มีเสียงตบหน้าตนเองดังขึ้น!
“เผียะ!”
ในสนามทดสอบ พลังกฎสวรรค์ทำการตั้งค่าพื้นที่ใหม่ มีหอคอยผุดขึ้นจากพื้นถึงสามหลัง หมูน้อยที่จะต้องฆ่าอยู่ที่หอสูงกลาง นอกจากนี้หินขนาดใหญ่สี่ก้อนวางไว้ด้านหน้าหลังซ้ายขวาแยกกัน เพื่อความแน่ใจว่าจะไม่มีการยิงชนหอคอยเป็นแนวตรง ที่น่าสิ้นหวังที่สุดก็คือหอสูงทั้งสามที่อยู่ใกล้ๆ มีตอหนุนรองรับไว้ ต่อให้ชนหอสูงได้ก็ตาม หอสูงไม่น่าจะถล่มลงได้ง่ายๆ หมูน้อยที่ซ่อนอยู่ในหอสูงกลางก็จะไม่ตาย
เย่ว์หยางเหลือบมองและวางตั๊กแตนมัจจุราชใส่เครื่องยิง
“ช้าก่อน, ครั้งนี้ต่างจากครั้งก่อนแน่นอน ท่านน่าจะคิดดูก่อน” วีเซลหางดาบรีบห้าม ต่อให้คนตาบอดก็มองออกว่าหอสูงสามหอนี้ยากกว่าครั้งก่อนมาก
“ในเมื่อไม่มีขีดกำหนดเวลา แม้ว่าท่านต้องใช้เวลามากขึ้น ก็ควรต้องทำ ถ้าท่านต้องการเราสามารถเป็นตัวทดลองให้ท่านได้ หลงหม่ายินยอมเป็นกระสุนอสูรแทนเพื่อให้เย่ว์หยางได้ฝึกทักษะหาประสบการณ์ก่อน
“ง่ายขนาดนี้ ... ไม่ต้องยุ่งยากนักก็ได้” เย่ว์หยางเหนี่ยวเครื่องยิงและยิงทันที
ฟิ้ววว
ตั๊กแตนมัจจุราชมีรัศมีกฎสวรรค์คลุมทั้งตัวมองดูเหมือนกับกระสุนปืนใหญ่
พวกที่ชมดูความสนุกตกตะลึง คิดกันว่าเจ้าเด็กนี่โง่จริงๆ หรือแกล้งโง่กันแน่? เขายิงออกไปเพราะคิดว่าตนเองเป็นเทพกระมัง
ถ้าเจ้าเด็กนี่ทำสำเร็จได้ทั้งหมด ยังจะมีใครล้มเหลวอีกเล่า? ถ้าประสบความสำเร็จได้ง่ายขนาดนั้น ยังจะมีผู้พ่ายแพ้มากมายในหุบเขาอสูรหรือ? แล้วสถิติในประวัติศาสตร์ที่ยืนยงไม่สามารถทำลายได้ ยังจะรักษาได้ต่อไป?
จากมุมมองนี้ ถ้าเจ้าเด็กนี่ไม่ใช่โง่ตามธรรมชาติ ก็คงไม่มีความคิดฝังหัว
เขาไม่รู้จักหรือว่าอะไรคือความล้มเหลว?
ผู้คนที่กำลังคอยชมคิดมากเกินไป ตั๊กแตนมัจจุราชที่มีบอลแสงคลุมทั้งตัวพุ่งเป็นแนวโค้งสวยงามแล้วตกลงที่โคนหอสูงที่ไกล พวกที่สายตาคมกล้านักสู้ระดับราชาอย่างเช่นพญาเหยี่ยวและนางพญาผึ้งพิษหรือผู้พำนัก อสูรปีศาจ พบว่าบอลแสงร่างของตั๊กแตนมัจจุราชเร่งความเร็วขึ้นเล็กน้อยก่อนปะทะที่รากฐานหอสูง
อสูรปีศาจสูงอายุหรือผู้พำนักที่อยู่มานานเคยได้ยินเรื่องการสอบยิงครั้งที่สองมาก่อน
ในการทดสอบยิงครั้งที่สองกฎสวรรค์จะแผ่รัศมีคลุมตัวอสูร อสูรจะได้รับความสามารถในการเร่งความเร็วเพื่อเข้าชนมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครรู้เหตุผลที่ได้รับทักษะความสามารถนี้ ไม่มีเหตุผลอื่นใด ถ้าสามารถปลดขีดจำกัดการบินได้ อย่างนั้นเชื่อว่าผู้ฉลาดหลายคนอาจจะคำนวณอัตราความเร็วได้สำเร็จ
ครืน ครืน ครืนน!
ตั๊กแตนมัจจุราชเหมือนกับกระสุนปืนใหญ่ได้ทำลายฐานตอไม้ในครั้งแรก
จากนั้นกระแทกเข้ากับรากฐานของหอคอยที่สาม และขุดหลุมลึกทำให้หอคอยที่สามโอนเอนไปมา
“อา..แย่แล้ว” อสูรปีศาจที่แก่ที่สุดร้องเตือน “มุมเอียงยังไม่เพียงพอ พลังกระแทกยังไม่มาก ครั้งก่อนท่านหงเลี่ยก็แพ้อย่างนี้แหละ”
“มาได้แค่นี้ก็โชคดีแล้ว!” คนของจ้าวคางคกอดจะภูมิใจไม่ได้
“ขยับต่อไปอีก!” วีเซลหางดาบและหลงหม่ากระวนกระวายลุ้นสุดตัว วีเซลหางดาบทำท่าเขย่ามือเหมือนกับว่าจะช่วยเขย่าหอคอยสูงนั้น นางพญาผึ้งพิษไม่มองหอสูงที่โอนเอนต่อไป แต่กลับมองเย่ว์หยาง นางพบว่าเย่ว์หยางยิ้มสีหน้าแสดงออกว่ามั่นใจทำให้นางพญาผึ้งพิษโล่งใจ เขาจะส่งอสูรของตนเองไปตายได้ยังไง? แน่ใจได้ว่าเขามีความมั่นใจในตนเอง กังวลเรื่องเขามากเกินไปเป็นเรื่องโง่จริงๆ
หอคอยที่สามยังคงโอนเอนอยู่เสมอ
บริวารของจ้าวคางคกตะโกนให้หยุดอย่างต่อเนื่อง และยังมีอสูรอื่นตะโกนเชียร์ให้หอสูงสั่นเอน
พวกเขารู้สึกว่าการล้มเหลวเช่นนี้เป็นเรื่องน่าเสียดาย ให้กำลังใจให้เขาสำเร็จเป็นดีที่สุด จากนั้นค่อยดูสีหน้าที่ปวดใจในการล้มเหลวพ่ายแพ้ในรอบต่อไป
ปล่อยให้เด็กหนุ่มพ่ายแพ้ในตอนนี้ยังเร็วไป ดีที่สุดต้องแพ้สักในรอบที่สี่ หรือห้าแล้วค่อยมองสีหน้าที่ขมขื่นนั่นจะสะใจมากที่สุด ปล่อยให้เจ้าเด็กนี่ย่ามใจในตัวเองไปก่อนสักพัก เกรงว่าอสูรของเขาจะตกใจกลัวร้องและโดดหนีหรือหล่นไปด้านข้าง ก็คงหมดสนุก
หอสูงค่อยๆ เอียงและในที่สุดทั้งหมดก็เอียงมาพิงหอสูงตรงกลาง อย่างไรก็ตามยังไม่มีกำลังเพียงพอ หอสูงกลางแค่สั่นเล็กน้อยแต่ไม่ถล่ม
ล้มเหลว?
ผู้ชมดูทั้งหมดเริ่มผิดหวัง บริวารของจ้าวคางคกตะโกนอย่างบ้าคลั่ง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับหอสูงกลาง แต่ความจริงแล้วหมายถึงอะไร? เมื่อหมูน้อยยังไม่ตาย การทดสอบเป็นอันล้มเหลว!
ขณะเมื่อทุกคนคิดว่าล้มเหลวแน่นอน ทันใดนั้นจู่ๆ หอสูงที่สามพังทลายเล็กน้อย แม้ว่าจะไม่มากพอต่อการพังทลายไปถึงหอคอยกลางทั้งหมด แต่สามารถกระแทกตัดยอดของหอสูงกลางได้ ยอดแหลมหักลงกระแทกกับหอคอยครึ่งแรกในที่สุด เสียงดังปังปลายแหลมของหอคอยถูกตัดออกไป
ปลายแหลมหอคอยแตกหักกลายเป็นเศษแหลมกระเด็นกระจาย
หนึ่งในชิ้นส่วนพุ่งผ่านหน้าต่างของหอสูงตรงกลางและปักเข้าที่ร่างหมูน้อย
เมื่อหมูน้อยถูกแทงก็ระเบิดทันที
แต่ตั๊กแตนมัจจุราชซึ่งลอยอยู่ใต้หอสูงที่สามถูกเทเลพอร์ตกลับมาอยู่ในมือเย่ว์หยางทันที ผู้ที่ชมดูอยู่ในสนามทดสอบพากันนิ่งอึ้งเหมือนคนโง่ เด็กหนุ่มคนนี้ดีเกินกว่าจะดูแคลนได้อย่างนั้นหรือ? จากเดิมทีดูเหมือนจะถูกตัดสินว่าล้มเหลวไปแล้ว กลับเปลี่ยนจากร้ายกลายเป็นดีได้อย่างคาดไม่ถึง ปลายยอดแหลมของหอสูงกลายเป็นเหมือนหอกแทงใส่หมูน้อย ถ้าไม่ใช่เหตุผลตรงนั้น เด็กหนุ่มคงถูกตัดสินว่าล้มเหลวไปแล้ว
ไม่จำเป็นต้องพูด นี่ต้องเป็นโชคช่วยแน่นอน
แม้แต่คนฉลาดก็ไม่สามารถคำนวนตรงจุดนี้ได้
การคำนวณแบบนี้ ไม่มีผู้ชมคนใดเห็นด้วย ทุกคนคิดว่าเย่ว์หยางเป็นผู้โชคดีมาก แม้แต่พวกที่รู้สึกเหมือนกับตายไปครึ่งตัวอย่างวีเซลหางดาบและหลงหม่าก็ยังไม่กล้าคาดเดาว่าผลการคำนวณจะออกมาอย่างนี้
มีแต่พญาเหยี่ยวและนางพญาผึ้งพิษเท่านั้นที่ส่ายศีรษะและถอนหายใจ
ในสายตาของอสูรปีศาจระดับราชาทั้งสองคิดว่าถ้าเรื่องนี้ไม่ได้คำนวณไว้ก่อน อย่างนั้นโลกก็ไม่มีแผนคำนวณที่ดีแล้ว
ไม่เพียงแต่คำนวณได้เร็วเท่านั้น แต่ยังเน้นไปที่จุดเร่งความเร็วที่เหมาะสมตรงจุดตกกระทบ ถ้าไม่กระแทกเข้ากับฐานไม้และไม่สามารถทำลายไม้หนุนได้ อย่างนั้นหอคอยที่สามจะไม่พังทลายไปหาหอที่อยู่ตรงกลาง ถ้าไม่ชนเหนือฐานสักเล็กน้อย อย่างนั้นหอสูงที่สามจะไม่ล้มไปกระแทกใส่หอสูงกลาง และถ้าไม่กระแทกใส่ยอดแหลม ตรงยอดแหลมจะไม่ร่วงแตกลงมาเป็นจำนวนมากกลายเป็นกระสุนหลาวแหลมคม
ถ้าหอกหลาวแหลมคมบนหอไม่ถูกกระแทกใส่ ก็คงจะไม่ได้ผลลัพธ์เช่นนั้น
ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน
ยืนยันได้เต็มร้อยว่าเด็กหนุ่มนี่คำนวณผลไว้ล่วงหน้าแล้ว... ความเร็วในการคำนวณของเขาร้ายกาจ เขาไม่ได้ดูว่าเขาคำนวณอย่างไร แต่ดูเหมือนว่าเขาลงมือยิงอย่างแม่นยำ ยิ่งกว่าการคำนวณของคนอื่นๆ ที่คำนวณกันสองสามวัน!
เมื่อเผชิญหน้ากับเด็กใหม่ผู้ร้ายกาจ พญาเหยี่ยวและนางพญาผึ้งพิษไม่มีอะไรจะพูด
เมื่อทุกคนคิดว่าปลายแหลมของยอดหอเอาไว้ใช้ป้องกันกระสุนอสูร แต่เด็กหนุ่มผู้นี้กลับใช้ปลายแหลมนี้ทำภารกิจจนสำเร็จ เหมือนกับทำได้ง่ายๆ...
เป็นการสร้างผลลัพธ์ที่คนอื่นไม่สามารถทำได้ด้วยความเพียรพยายามอย่างหนัก!
“เจ้า เจ้า เจ้ายังต้องการทดสอบต่ออีกหรือ?” ผู้ชมชาวอสูรปีศาจและผู้พำนักที่อยู่ในที่นั้นพบว่าเย่ว์หยางเตรียมพร้อมจะทดสอบครั้งต่อไป
“ข้าจะเป็นลม!” อสูรปีศาจบางส่วนที่ใจแข็งยังรู้สึกยากจะทนได้
“เจ้าปล่อยให้เราได้พักหายใจบ้างได้ไหม?” ผู้พำนักบางคนรู้สึกว่ากังวลแทนจนแทบจะเป็นโรคประสาท
“หยุดพักบ้างก็ได้ เรื่องเวลาไม่จำเป็นต้องกังวลมากนัก!” แม้แต่พญาเหยี่ยวก็ยังทนดูไม่ไหว และเขาพยายามโน้มน้าว
สนามทดสอบที่ฝั่งตรงข้ามถูกจัดระเบียบใหม่ มีหอสูงแปดหอ ห้าหอชั้นล่างตั้งอยู่บนพื้น อีกสามหอตั้งบนห้าหอมีหินรองค้ำไว้ คราวนี้หมูที่จะถูกฆ่าไม่ได้มีตัวเดียว แต่มีถึงสามตัว
กระสุนอสูรจะข้ามผ่านผนังหินสี่ด้านกระแทกหอสูงทั้งห้าเพื่อถล่มหอสูงขนาดเล็กด้านบนเพื่อฆ่าหมูทั้งสามตัว
จะทำได้หรือนี่?
พวกเขาเชื่อว่าแม้แต่คนที่บ้าคลั่งที่สุดเมื่อเห็นการทดสอบนี้แล้วก็คงส่ายหน้า นั่นเป็นไปไม่ได้
เย่ว์หยางลูบหน้าผากน้อยของตั๊กแตนมัจจุราชเบาๆ และวางนางลงกับเครื่องยิงเตรียมยิงอีกครั้ง สิ่งที่ปรากฏกับทุกคนคือเห็นเขาจูบอสูรน้อย แต่เท่าที่นางพญาผึ้งพิษเห็น นางมองดูอย่างระมัดระวัง ความจริงเย่ว์หยางพูดบางอย่างกับอสูรน้อย นี่จะต้องเป็นกลยุทธ์แน่นอน
เพื่อให้การสอบครั้งที่สองสำเร็จได้ อสูรจำเป็นต้องให้ความร่วมมือในกลยุทธ์ การยิงครั้งที่สามยังยากยิ่งกว่า จึงต้องการความร่วมมือไม่ต่างกัน
นางพญาผึ้งพิษไม่รู้ว่าเย่ว์หยางพูดอะไรกับตั๊กแตนมัจจุราช
อย่างไรก็ตามใบหน้าน้อยๆ ของตั๊กแตนมัจจุราชยังคงมีรอยยิ้มมั่นใจตัวเจ้านายของนาง เมื่อถูกวางลงในรางยิง นางกำหมัดแน่นอยู่ในท่ามกลางรัศมีกฎสวรรค์ปลุกปลอบใจตนเอง
ฟิ้วววว
เย่ว์หยางไม่สนใจอารมณ์สีหน้าของคนรอบๆ ตัวเขาและปล่อยกระสุนอสูรตั๊กแตนมัจจุราชทันที ต่างจากสองครั้งก่อน ครั้งนี้เขาใช้เวลาเล็งหนึ่งวินาที ตั๊กแตนมัจจุราชมีร่างหุ้มไปด้วยรัศมีกฎสวรรค์พุ่งเป็นแนวโค้งสมบูรณ์แบบตรงไปยังสนามทดสอบ
ครั้งนี้ผู้ชมมองดูตาของเย่ว์หยาง
มีลักษณะอารมณ์ปรากฏเพียงอย่างเดียว
นั่นคือ..ประกายตาของเจ้าเด็กนี่เหมือนคนบ้า!