ตอนที่ 863 ผู้ยิ่งใหญ่
วังวนพลังงานอยู่ใกล้กับปากอ่าวพลังงานของทวีปซางโจวกลายเป็นภาพที่มีชื่อเสียงของสัมพันธมิตรใต้มานานแล้ว ผู้ค้าทั้งหมดที่เดินทางมักจะมุ่งหน้าไปดูภาพนั้นให้เห็นกับตา มันเกิดขึ้นมาจากการสู้รบ เวลานั้นควันไฟสงครามในสัมพันธมิตรใต้ได้กระจายสลายไปนานแล้ว และมีแต่เพียงวังวนพลังงานที่ยังสว่างไสว คนเดินทางทุกคนที่เห็นวังวนพลังงานจะตกใจกับความรุนแรงของมัน
เส้นผ่าศูนย์กลางยาวถึง 2 กิโลเมตร ขณะที่มีความสูงถึง 13กิโลเมตร
ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่เคยเห็นวังวนพลังงานขนาดใหญ่มาก่อน แต่เจ้าอสูรแพรวพราวที่หมุนช้าๆนี้เป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาจากสงคราม และเป็นผลมาจากมนุษย์หลายคน
สามารถมันขึ้นมาได้เองอย่างนี้ สัมพันธมิตรใต้ทรงพลังมากเพียงไหน!
เมื่อกองเรือของทวีปกวงหมิงมาถึงทุกคนที่เห็นวังวนพลังงานต่างตกใจ เพื่อความปลอดภัย พวกเขาจอดเรือรบไว้กับที่ในที่ซึ่งห่างจากวังวนพลังมากเป็นพิเศษ โชคดีที่วังวนพลังงานมีความเสถียร การพัฒนาการของมันยังไม่ถือว่าเร็ว และนับว่ายังเงียบมาก มีวังวนพลังงานอยู่ภายในทะเลพลังงาน และวังวนเหล่านี้ทั้งหมดเป็นเรื่องการค้นคว้าวิจัยให้มหาอำนาจใหญ่เนื่องจากเกี่ยวข้องความปลอดภัยของการเดินเรือ
ลูกเรือที่มีประสบการณ์สามารถบอกได้จากที่เห็นว่าวังวนพลังงานข้างหน้าพวกเขามีความมั่นคงและปลอดภัยดังนั้นจะไม่เป็นอันตรายต่อพวกเขา
อูไคเห็นตรงจุดนั้นเช่นกัน ดังนั้นจึงเสนอแนวคิดเช่นนั้น
เป็นเรื่องที่จำต้องกล่าว เมื่อความคิดของเขาได้รับการเสนอ ก็ดึงดูดความสนใจของทุกคนทันที วังวนพลังงานมีความเสถียรมากไม่เพียงแต่อูไคที่เห็นอย่างนั้น เพียงแต่ไม่มีใครที่คิดว่าจะมีสมบัติวิญญาณอยู่ในวังวนพลังงานนั้น
สมบัติวิญญาณไม่ใช่สิ่งของที่ทหารทั่วไปจะรับได้ง่าย แต่พวกเขารู้ชัดถึงคุณค่าของสมบัติวิญญาณ และแม้แต่วัตถุวิญญาณที่คุณภาพต่ำที่สุดก็มีราคาแพงมาก แม้ว่าพวกเขาจะไม่ใช้ประโยชน์ด้วยตนเองแต่การขายวัตถุวิญญาณจะทำให้พวกเขามีชีวิตได้โดยไม่มีเรื่องให้กังวล ตราบใดที่พวกเขาหาเจอได้สักชิ้นพวกเขาสามารถลาออกและใช้ชีวิตแบบเศรษฐีได้ทันที
เครื่องล่อที่ดึงดูดใจรุนแรงอย่างนี้ทำให้ทั้งโรงอาหารมีแต่เสียงหายใจหนักหน่วง
ทหารที่เบื่อหนักถึงกับปั่นป่วน และพบว่าเรือรบขนาดเล็กลำหนึ่งกำลังบินไปที่วังวนพลังงาน ใครบางคนสังเกตเห็นเรือรบขนาดเล็กได้ แต่ไม่ได้กังวลเรื่องพวกเขาเลย นอกจากการปฏิบัติลาดตระเวนตามคำสั่งแล้วพวกเขาไม่จำเป็นต้องสนใจความเคลื่อนไหวของทหารอื่น พวกเขายังคงรักษาภายนอกอย่างแข็งขันแต่ภายในหละหลวม ปล่อยให้ทุกคนพักผ่อนคลายความตึงเครียดในจิตใจ
พวกสอดแนมกระจายออกไปกว้างไกล เพราะรัศมีลาดตระเวนกว้างขวางมากแม้แต่ลมพัดใบไม้ไหวก็ไม่อาจหลบจากสายตาของพวกเขาได้ เป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะลอบเข้าไปภายใต้แนวป้องกันหนาแน่นนั้น
ต่อให้เป็นอัศวินพิเศษกวงหมิงก็ไม่สามารถทำเรื่องเช่นนั้นได้สำเร็จ นั่นคือเหตุผลที่นายทหารที่รับภารกิจผ่อนคลายมาก
เมื่อเรือรบขนาดเล็กบินเข้ามาใกล้วังวนพลังงานก็ดึงดูดความสนใจของทุกคนทันที มันแตกต่างจากความรู้สึกที่เห็นวังวนพลังใกล้ๆ จากที่ไกลความรู้สึกที่พวกเขาได้เห็นจากวังวนพลังงานนั่นคือมันหมุนช้า แต่พอเข้าไปใกล้กระแสพลังงานแพรวพราวได้ก่อผนังที่ผ่านไปไม่ได้ ทำให้ผิวของพวกเขาชา กระแสวังวนความเร็วสูงมีพลังคุกคามมาก
ทุกคนที่ให้ความสนใจเป็นครั้งคราวก็ยังใจเย็นได้
“เป็นไปได้จริงๆหรือ?”
“มันใหญ่มาก!”
…..
ยิ่งพวกเขาเริ่มอุทานเสียงดังมาก ความมั่นใจของทหารเริ่มสั่นคลอน แม้แต่ความมั่นใจของอูไคก็เริ่มสั่นไหว
ทันใดนั้น ใครบางคนตะโกน “หยุด! หยุดเดี๋ยวนี้!”
ทหารที่ควบคุมเรือรบตะโกนทันที “เฮ้พวก ใจเย็นๆ น่า ไม่มีอะไรหรอก,เราหยุดแล้ว”
แต่...
แต่ในสายตาของพวกเขาระยะห่างกับวังวนพลังงานดูเหมือนใกล้เข้ามาเหมือนกับว่าผนังพลังงานมหึมาไหลมาอยู่ต่อหน้าพวกเขา และค่อยๆ เข้าใกล้พวกเขาทำให้ขวัญวิญญาณของพวกเขาแทบกระเจิดกระเจิงออกจากร่าง
“ถอย! ถอยเร็วๆ!”
“โอว..พระเจ้า,เกิดอะไรขึ้น?”
เสียงตะโกนตื่นตระหนกดังขึ้นต่อเนื่อง
ทหารที่ควบคุมเรือรบเริ่มแตกตื่น เขาทำอย่างดีที่สุดเพื่อควบคุมเรือรบให้ถอยหลัง แต่ดูเหมือนกับว่าเรือรบติดอยู่ในทรายดูด
“แย่แล้ว! เรากำลังโดนดูดเข้าไป! พลังดึงดูดของมันดูเหมือนจะกล้าแข็งขึ้นเรื่อยๆ!”
เรื่องนี้ทำให้หน้าทุกคนซีดขาว นัยน์ตามีความกลัว สิ่งที่แย่ที่สุดก็คือทุกคนกลัวอย่างที่สุดเมื่อเผชิญหน้ากับวังวนพลังงานในทะเลพลังงานก็คือ พลังดึงดูดของวังวนพลังงาน เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าพวกเขาถูกลากเข้าไปในวังวนพลังงาน
แรงเฉื่อยที่จำเป็นต้องใช้เคลื่อนไหวเรือรบนั้นเป็นเรื่องใหญ่ที่สุด แต่เรือรบก็ยังนิ่งไม่ไหวติง
“ซวยแล้ว!”
“รีบขอความช่วยเหลือเร็วเข้า!”
อูไคจ้องมองวังวนพลังงานที่กำลังใกล้เข้ามาอย่างว่างเปล่า เขายังไม่เข้าใจ ทำไมวังวนพลังงานถึงมีแรงดึงดูดรุนแรงขึ้น ‘นี่เห็นได้ชัดว่าเป็นวังวนที่มีพลังงานเสถียร และระยะเวลาที่วังวนพลังงานเสถียรนั้นยาวนานมาก ปกติจะยืดยาวเป็นพันปี วังวนพลังงานนี้อยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้ว?’
เรือรบขนาดเล็กขอความช่วยเหลือถูกส่งไปยังกองทัพต่างๆทำให้เกิดการเตือนภัยทันที
ก่อนที่พวกเขาจะสามารถเคลื่อนไหวออกไป พวกเขามองดูขณะที่เรือรบเล็กพรวดพราดเข้าไปในวังวนพลังงานเหมือนกับใบไม้จากนั้นก็หายไป
“โธ่เว้ย! ข้านึกแล้วว่าเจ้าโง่พวกนั้นจะต้องก่อปัญหา!”
นายทหารหัวหน้าของอูไคดุด่า หน้าของเขาเขียวซีด ‘มันจะถูกรายงานว่ายังไงดี?อุบัติเหตุ?’ ในพริบตา หน่วยของเขาสูญหายไปเกินกว่าสิบคน ไม่ว่ายังไงก็ตาม เขาไม่สามารถหลีกพ้นการถูกลงโทษเพราะเพิกเฉยได้
“เจ้านาย!” เสียงที่กังวลของบริวารของเขาดังขึ้นทำลายความคิดของเขา เขาเงยหน้าขึ้นก็ได้ยินเสียงสั่นสะท้านของบริวารของเขา “พลังงาน, วังวนพลังงาน...”
“เกิดอะไรขึ้นกับวังวนพลังงาน?” เขาถามอย่างหงุดหงิด สำหรับเขาอุบัติเหตุเกิดขึ้นเพราะอูไคและเจ้าพวกที่เบื่อหน่าย
เสียงของบริวารของเขาสั่นสะท้านมากกว่าเดิม “ดูเหมือนว่ามันกำลังเคลื่อนเข้าหาเรา!”
“เคลื่อนเข้าหาเรา?” นายทหารนั้นตกใจ
วังวนพลังงานขนาดมหึมาเคลื่อนช้าๆเข้าหาเรือที่จอดเทียบท่า การเคลื่อนไหวช้าๆ นี้เป็นแค่การมองคะเนด้วยสายตาแต่ความเคลื่อนไหวจากขนาดที่ใหญ่มองดูช้า แต่ในความเป็นจริงความเร็วของมันไม่ช้าแม้แต่น้อย
สัญญาณเตือนภัยดังขึ้นไปทั้งกองเรือ
ไม่มีใครรู้ว่าในใจกลางวังวนพลังงานที่ใหญ่มหึมามีสมบัติวิญญาณลอยอยู่นับร้อยก่อตัวเป็นลูกกลม และภายในลูกกลมนี้มีร่างบุรุษผู้หนึ่งถือกระบี่ไว้ในมือ เป็นจิ่งหาว
“ไปเลย ผู้ยิ่งใหญ่”
จิ่งหาวชูกระบี่ดื่มเลือดเซียนและตะโกนอยู่ในมิติว่าง เมื่อสายใยสำนึกศักดิ์สิทธิ์ตอบสนองและวังวนพลังงานเริ่มเดินไปข้างหน้า
เมื่อจิ่งหาวเห็นหลิงซิ่วและอาเฮ่อเผยความสามารถทางบัญชาการทหารได้ จิ่งหาวรู้สึกอิจฉา ไม่ใช่เป็นการอิจฉาต่อพวกเขาที่เป็นผู้บัญชาการทหาร แต่อิจฉาที่พวกเขาสามารถออกสู้รบได้ และสามารถช่วยเหลือในสงครามได้ เขาไม่เคยหยุดการฝึกที่ขมขื่น
จนกระทั่งเมื่อเขารู้สึกถึงสำนึกศักดิ์สิทธิ์ เขาคิดได้ทันทีเกี่ยวกับเวลาเมื่อถังเทียนคุยกับเขาอย่างไม่ตั้งใจเกี่ยวกับเรื่องนี้วังวนพลังงานนั่นดูเหมือนจะเป็นอุปสรรคบางอย่าง
สัญชาตญาณของจิ่งหาวไม่แหลมคมเท่ากับถังเทียน แต่พื้นฐานความรู้ของเขาแน่นและแข็งแรงกว่าถังเทียนมาก หลังจากคิดอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับกระบวนการเกิดขึ้นของวังวนพลังงาน เขาก็คาดได้ถึงสิ่งที่อยู่ในวังวนพลังงาน
สมบัติดวงดาวเกินกว่าร้อยชิ้นถูกทำลาย อย่างไรก็ตามพลังวิญญาณไม่ได้หายไป แต่พวกมันผสานเข้าด้วยกันแล้วเกิดเป็นพลังวิญญาณใหม่
พลังวิญญาณใหม่นี้เติบโตอย่างน่าประหลาดด้วยมวลพลังงานที่หนาแน่น
จิ่งหาวพยายามสื่อสารกับจิตสำนึกศักดิ์สิทธิ์นี้ ตอนแรก ก็ไม่ค่อยราบรื่น แต่จิ่งหาวเป็นคนจริงจังมาก นอกจากการฝึกฝน เขาจะใช้เวลาของเขาสื่อสารกับวังวนพลังงาน ‘หลิงซิ่วและอาเฮ่ออยู่ในแนวหน้า ขณะที่ข้าอยู่แนวหลังไม่สามารถช่วยอะไรได้’
ความเข้าใจของจิ่งหาวที่มีต่อสมบัติวิญญาณลึกซึ้งมากยิ่งกว่าใครๆอื่น
วิญญาณใหม่เริ่มยอมรับจิ่งหาวและจิ่งหาวพยายามใช้วิธีสื่อสารหลากหลายกับมัน ตัวอย่างเช่นเข้าไปในวังวนพลังงาน
เขาทำเรื่องทั้งหมดนี้อย่างเงียบงันไม่มีผู้ใดรู้ เมื่อปิงตัดสินใจย้ายออกจากทวีปซางโจว ปิงขัดแย้งกับเขาอย่างรุนแรง แต่เมื่อเขาเข้าใจความตั้งใจของปิง เขาจึงตอบสนองด้วยตัวเขาเอง
เขาไม่ลืมสีหน้าท่าทางเมื่อปิงพบว่าเขาสามารถควบคุมวังวนพลังงานได้ ใบหน้าไพ่ของเขาตะลึงค้าง
ปิงมีปฏิกิริยาต่อความสามารถของเขาอย่างรวดเร็วและวางแผนใหม่ที่รวมเอาความสามารถนั้นไว้ด้วยอย่างรวดเร็ว ทำให้แผนนี้มีอันตรายร้ายแรงอย่างสูง
พลังงานหมุนวนแล่นเข้าหาตำแหน่งเรือที่จอดเทียบท่าอย่างรวดเร็ว และเริ่มบดขยี้กองเรือ เป็นเหมือนการปฏิวัติเงียบที่มีพลังครอบงำเพียงพอ แต่เมื่อมันเคลื่อนไหว แรงกดดันก็บดใส่กองทัพ
สัตว์ประหลาดยักษ์นี้มีเส้นผ่าศูนย์กลางเกิน 26 กิโลเมตรความสูง 13 กิโลเมตร เมื่อแรงกดดันของมันเคลื่อนไหว มันทำให้พวกทหารรู้สึกจนใจ
เมื่อกองเรือสับสน ไม่มีใครเคยเจอกับสถานการณ์น่าขวัญผวาอย่างนั้นมาก่อน พวกเขาส่วนใหญ่เพิ่งจะตื่นจากง่วงนอนและบนเรือรบทุกลำ ทหารหวาดผวาอยู่กับที่และสับสนยิ่งกว่าเดิม
เนื่องจากมีตำแหน่งที่จำกัดสำหรับให้เรือเทียบท่าและด้วยเหตุที่เรือมีจำนวนมากเกินไป เรือทั้งหมดเทียบท่าติดๆ กันเรือรบหลายลำที่ติดกันตั้งใจจะรีบหนีออกไปเพื่อให้ตนเองปลอดภัย
เมื่อเรือถูกดึงดูดเข้าไปในกระแสวังวน ก็เป็นจุดจบสำหรับเรือทุกลำ
กลายเป็นฉากภาพโกลาหล
สัญชาตญาณเอาชีวิตรอดอยู่เหนือสภาพใจที่ผ่อนคลายทั้งยังมีการโจมตีกองเรือกะทันหันก็ยิ่งทำให้พวกเขาสูญเสียผลต่อการสั่งการและควบคุม ถ้าโกวเฉิงเวิ่นเต้าอยู่ด้วย หรือมีสามแม่ทัพรองอยู่สั่งการสถานการณ์จะไม่อยู่ในสภาพเลวร้ายเกินไป แต่เมื่อขาดนายทหารผู้มีอำนาจคอยสนับสนุนให้คำแนะนำเขา ทหารต่างๆและเรือรบจึงตกอยู่ในความโกลหลเป็นธรรมดา
ความตายย่างกรายเข้ามา และความจนใจในท่ามกลางความสับสนนายทหารผู้สั่งการของกองทัพเอาตัวเองรอดโดยไม่ลังเล
เรือรบขนาดต่างๆ ถอยอย่างเต็มกำลัง และทำลายออกจากวงล้อม
เรือรบขนาดเล็กอยู่ในสถานการณ์ที่น่ากลัวภายในความวุ่นวาย นอกจากเรือที่คล่องแคล่วที่นำหลบหนีออกไป เรือรบเล็กลำอื่นถูกเรือรบใหญ่กระแทกพังพินาศ
พวกเขาหลายคนเลือกจะลงจากเรือโดยไม่นึกถึงพลังกัดกร่อนจากทะเลพลังงาน พวกเขาแค่ต้องรักษาชีวิตให้รอด
สิ่งเดียวที่คุ้มค่ากับความยินดีก็คือแม้ว่าวังวนพลังงานจะทรงพลัง แต่ความเร็วก็ยังไม่อาจเทียบได้กับเรือรบ และมันไม่คล่องแคล่วเท่ากับเรือรบ
แต่เมื่อเรือรบที่หลบหนีออกมาได้มองเหลียวหลังวังวนพลังงานอยู่ในตำแหน่งที่เรือจอดเทียบท่าเศษไม้ไม้ถูกดูดเข้าไปในในวังวนพลังงาน สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไป
เมื่อมองดูเรือรบที่ยังเหลือรอดอยู่ หน้าของทุกคนบิดเบี้ยวหน้าเกลียด
เป็นเวลาสั้นมากที่ฝันร้ายที่ยุ่งเหยิงเกิดขึ้น สร้างความสูญเสียให้พวกเขาอย่างมากมายมหาศาล เรือขนาดเล็กของพวกเขา 70% เรือรบขนาดกลางครึ่งหนึ่งและเรือรบขนาดใหญ่ลำหนึ่งหายไป ทำให้พวกเขาพูดไม่ออก
สิ่งที่ทำให้พวกเขาท้อแท้มากยิ่งขึ้นก็คือพวกเขาไม่กล้าระเบิดใส่วังวนพลังงาน ถ้าวังวนพลังงานระเบิดพลังที่มันสร้างขึ้นเพียงพอจะกลืนทวีปซางโจวได้ทั้งหมดพวกเขามองดูยักษ์ใหญ่แสดงพลังของมันจนลืมไปว่าเขี้ยวเล็บที่ร้ายแรงอย่างแท้จริงแฝงอยู่เบื้องหลัง