ตอนที่ 863 ด่านกระสุนอสูร (แองกรี้เบิร์ด)
จ้าวคางคกได้รับข่าวร้ายขณะนั่งให้นางอสูรสองสามตนนวดให้อย่างสบายอารมณ์
ตะกวดสายฟ้าเข้ามารายงานข่าว “อสูรเกิดใหม่ออกมาจากหอโถงวิญญาณแล้ว”
เมื่อจ้าวคางคกได้ทราบข่าว มันระเบิดอารมณ์โกรธทันที “เจ้าพวกบัดซบ อสูรร้าย นักฆ่าที่เก่งกาจที่สุดในหุบเขาอสูรนักฆ่าที่ใช้ความได้เปรียบจากเวลาและพื้นฐานฝีมือ แต่พวกมันกลับไม่อาจฆ่าอสูรน้อยได้ สัดใส่ข้าวก็ยังเป็นสัดใส่ข้าววันยังค่ำ ไม่รู้ว่าข้าเชื่อเจ้าพวกคุยโม้โอ้อวดได้ยังยังไง แต่ข้าก็ยังใจดีให้โอกาสพวกมันอย่างไม่เห็นแก่ตัว คิดไม่ถึงว่าพวกมันยังทำให้ข้าผิดหวังยิ่งนัก! คอยดู ข้าจะจับเจ้าพวกคุยโวแขวนคอให้หมด ดูซิว่าพวกมันยังจะกล้าคุยโวอีกหรือไม่!”
จ้าวคางคกโมโหพล่ามจนน้ำลายกระเด็นเต็มหน้าตะกวดสายฟ้า แต่มันไม่กล้าเช็ด ได้แต่รายงานเสียงอ่อย “ท่านจ้าวอสูร ข้าเกรงว่าเจ้าพวกนั้นคงไม่ออกมาจากหอวิญญาณอสูรอีกแล้ว เพราะพวกมันตายเกลี้ยง!”
จ้าวคางคกประหลาดใจ “ตายหมด?”
ตะกวดสายฟ้าไม่กล้าเงยหน้ามอง “ไม่มีใครเหลือ แต่อสูรน้อยนั่นออกมาจากหอวิญญาณอสูรได้ ไม่เพียงแต่ได้รับตราทองเท่านั้น แต่ยังได้เลื่อนอีกหนึ่งระดับพลัง ถ้าไม่ใช่เพราะการฆ่าและโจมตีของนาง นางจะยกระดับพลังได้อย่างไร?”
จ้าวคางคกยิ่งโกรธมากขึ้น มันสบถลั่น “บัดซบจริง เจ้าพวกนั้นไม่เพียงแต่ฆ่านางไม่ได้ แต่กลายเป็นอาหารเสริมพลังงงานเพิ่มระดับพลังให้นาง ยังมีอะไรมากกว่านี้อีกหรือไม่?”
“ท่านราชาผู้ยิ่งใหญ่...” อสูรตะกวดสายฟ้าไม่กล้ารายงานอีกต่อไป
“ยังมีข่าวแย่ยิ่งกว่านี้อีกหรือ? นี่มันเกิดเรื่องระยำตำบอนอะไรขึ้น? ว่าไป, ข้าไม่สนใจว่าจะเป็นข่าวร้ายน่ากลัวแค่ไหน พูดข่าวร้ายออกมารวมๆ กันได้เลย” จ้าวคางคกตัวสั่นด้วยความโกรธ เขาข่มความโกรธฟังรายงานของตะกวดสายฟ้าโดยไม่จับมันกิน
“เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะกล่าวโทษ เสือหน้ามนุษย์และพญาเหยี่ยวส่งคนไปชี้แจงความบริสุทธิ์ใจของตนเอง นางพญาผึ้งพิษและบริวารของพญาราชสีห์ตั้งใจจะขัดขวางท่านจ้าวอสูรและนางพญาผึ้งพิษตั้งใจร่วมมือกับผู้มาใหม่ผู้แข็งแกร่งผู้นี้” ตะกวดสายฟ้ารีบเตลิดหนีทันทีเพราะกลัวจ้าวคางคกจะจับตนกินด้วยความโกรธ
หลังจากจ้าวคางคกได้ยินแล้วถ้าไม่โกรธก็คงเป็นเรื่องแปลก
แม้ว่าเขาจะส่งเสียงหัวเราะ แต่สีหน้าปั้นยากยิ่งกว่าร้องไห้ “นี่เป็นเรื่องปกติที่ผู้มาใหม่มีพลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ถ้าพวกเขาไม่ทำอะไรก็คงเป็นเรื่องแปลก อย่างไรก็ตามต่อไปคงจะไม่โชคดีอย่างนี้อีก ราชาผู้นี้เห็นทีต้องลงมือเองเสียแล้ว กล่องแพนดอราของเจ้าเด็กนั่นไม่มีทางเข้าไปในเขตทดสอบได้ พลังเทพวิบัติจะทำอะไรได้? นอกจากนี้ถ้าพวกมันคิดว่าเราผู้ราชามีเพียงตัวคนเดียว อย่างนั้นพวกมันคิดผิดแล้ว... ผ่านมาหลายปีแล้ว บัดนี้จ้าวอสูรถึงเวลาเปลี่ยนตำแหน่งเสียที ฮ่าฮ่าฮ่า!”
เมื่อเจ้าผู้นี้หัวเราะออกมา นางอสูรที่กำลังนวดอยู่ใกล้ๆ จ้าวคางคกหวาดกลัวจนตัวสั่น ปกติเมื่อจ้าวคางคกหัวเราะ จะต้องมีคนโชคร้ายเสมอ
แม้แต่หุบเขาอสูรก็มีแม่น้ำไหลผ่าน เย่ว์หยางเดาะตราทองคำในมือและมองดู นี่คือของที่ตั๊กแตนมัจจุราชใช้เวลาทั้งวันในหอวิญญาณอสูรจึงได้มา นั่นเป็นพื้นที่อันตรายน้อยที่สุด เพราะเพื่อให้ได้ตราทองคำนี้นางต้องใช้ความพยายามเสี่ยงอันตรายอย่างกล้าหาญหลายครั้ง โชคดีที่นางมีสติปัญญาสูงส่งและได้รับคำแนะนำจากเย่ว์หยางและผ่านอันตรายที่น่าตกใจมาได้
เมื่อมีตราทองคำนี้ตั๊กแตนมัจจุราชจะสามารถกำจัดสถานะอสูรเกิดใหม่และก้าวหน้าเป็นอสูรระดับสูงที่มีพลังท้าทายหุบเขาอสูรได้
การได้รับตราทองคำนี้เป็นเพียงภารกิจแรก
ภารกิจที่สองคือทดสอบปฏิกิริยาสนองตอบของอสูร
ภารกิจนี้มีตัวเลือกสามระดับความยากคือ ‘ง่าย’ ‘ธรรมดา’ และ ‘ยากมาก’
ระดับที่ง่ายที่สุดก็คือยิงธนู ตราบเท่าที่อสูรที่ทดสอบอยู่ในระยะร้อยเมตร และจะต้องยิงธนูสามดอกใส่ลูกแอปเปิลสามดอก และแอปเปิลที่อยู่บนศีรษะอสูรจะต้องไม่เสียหาย
ความยากระดับธรรมดาคือต้องขว้างหอกอย่างรวดเร็ว หลังจากการทดสอบเริ่มขึ้น จะมีลูกเด้งพุ่งขึ้นไปในท้องฟ้าด้วยกำลังที่แตกต่างกัน ผู้ทดสอบต้องขว้างหอกให้ถูกเป้าทั้งห้าครั้ง จะต้องไม่ล้มเหลว เพราะลูกเด้งที่ทรงพลังอาจเปลี่ยนทิศทางในกลางอากาศได้ ดังนั้นการท้าทายระดับธรรมดาจึงมีอสูรที่ผ่านด่านนี้มาได้เพียงไม่กี่ตน
และการทดสอบระดับยาก ถือเป็นการท้าทายฝีมือการต่อสู้ที่ไม่ธรรมดาที่สุด
ตั้งแต่เริ่มมีมาในประวัติศาสตร์หุบเขาอสูรไม่เคยมีใครผ่านระดับยากมากได้สำเร็จ!
ไม่เคยมีมาก่อน
แม้ว่าจะรู้ชัดว่าหลังจากผ่านด่านทดสอบนี้สำเร็จจะได้รับผลปัญญาเป็นรางวัล แต่มีน้อยคนนักที่พยายามลองทดสอบ เพราะการทดสอบนี้ยากเกินไป ยากจะหาผู้ทดสอบที่กล้าท้าทาย!
การท้าทายผ่านด่านนี้ เจ้านายกับอสูรจะต้องร่วมมือกัน เจ้านายจะต้องใช้เครื่องยิงลูกศรหรือหอกโดยใช้อสูรของตนเองเป็นตัวกระสุน อสูรจะเป็นเหมือนกับลูกกระสุนมีชีวิต ภายใต้ขอบเขตจำกัดของกฎสวรรค์ มันจะไม่สามารถใช้ทักษะหรือความแข็งแกร่งได้ เว้นจะผ่านการทดสอบได้สำเร็จ กฎสวรรค์จะให้รางวัลความเป็นไปได้ให้ลดลงชั่วคราว ช่วยให้อสูรไปสู่เป้าหมายต่อไปได้
หากผิดพลาดล้มเหลวหรือว่าคาดการณ์ผิด อสูรผู้ทำตัวเป็นกระสุนมีชีวิตจะตายอย่างลำบาก และถ้าผู้ทดสอบมั่นใจว่าจะผ่านทดสอบได้ทั้งสิบครั้งได้สำเร็จเอาชนะการทดสอบระดับยากได้ ก็จะได้รับผลปัญญา
ในครั้งอดีตจักรพรรดิอวี้พยายามเข้าทดสอบที่ระดับยากนี้ อย่างไรก็ตามหลังจากยิงไปสามครั้งแม้ว่าจะประสบความสำเร็จผ่านมาสามครั้งแล้ว แต่เขาก็ยังกลัวจนหลั่งเหงื่อเยียบเย็นไม่กล้าทดสอบต่อไป
นางพญาเฟ่ยเหวินหลียังดีกว่า นางลองถึงหกครั้ง ทั้งยังทำได้สำเร็จ แต่พอถึงครั้งที่เจ็ด แม้แต่ศัตรูของนางก็ยังแนะนำให้นางอย่าลองอีก อีกอย่างหนึ่งครั้งนี้ก็ทำลายสถิติไปแล้ว นางเป็นคนแรกในรอบหลายพันปีที่ทดสอบผ่านถึงหกครั้ง แน่นอนว่านางไม่ใช่ผู้สร้างสถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์ของหุบเขาอสูรแน่นอน เมื่อหมื่นปี่แล้วมีสุดยอดฝีมือผู้ใช้วิธีเดียวกันนี้ประสบความสำเร็จที่ไม่ธรรมดา
ในเวลานั้นสหายของจอมเวทผู้ฉลาดได้แนะนำเขาไม่ให้ท้าทายต่อไปอีก มิฉะนั้นเขาจะพลาดท่าในช่วงเวลาสั้นๆ หลังจากคิดอยู่หนึ่งวัน จอมเวทฝีมือดีนั้นเสี่ยงและล้มเหลว เขาไม่สามารถได้ผลปัญญาเป็นรางวัล และได้แต่ปล่อยให้อสูรตายไป
“ว่าไงนะ? เจ้าเด็กนั่นจะลองใช้อสูรตนเองเป็นกระสุนมีชีวิตหรือ? นี่เขาบ้าไปแล้วหรือ?” เมื่อจ้าวคางคกได้ทราบข่าว เขาตกใจไม่อยากเชื่อคำพูดนั้น
“เป็นความจริงหรือ?” แม้แต่พญาราชสีห์, พญาเหยี่ยวและเสือหน้ามนุษย์ก็ไม่อยากเชื่อเช่นกัน
“เจ้าต้องการท้าทายด่านกระสุนอสูรหรือ? นี่ไม่มีทางทำได้สำเร็จแน่นอน!” นางพญาผึ้งพิษถ้ามองผิวเผิน นางมาเพื่อแสดงความยินดี แต่นางลอบให้คำแนะนำอย่างต่อเนื่อง ขณะที่วีเซลหางดาบและหลงหม่าที่อยู่ใกล้ๆ อดไม่ได้รีบตามไปเกลี้ยกล่อมเย่ว์หยาง เขาไม่เคยเห็นใครประสบความสำเร็จ แม้แต่จีอู๋ลี่ก็ยังถอนหายใจถึงสองครั้ง
กระสุนอสูรมีชีวิตจะนำความตายมาให้อสูรโดยไม่มีความแตกต่างกัน
ทั้งสองด้านของสนามทดสอบ ด้านหนึ่งเป็นสระน้ำแข็ง และอีกด้านหนึ่งเป็นสระเพลิง ที่ขอบกำแพงมีใบมีดแหลมคมอาบด้วยพิษ มีกระทั่งน้ำวนและทรายดูด
ในช่วงเวลาสั้นๆ ตราบที่เท่าอสูรที่เป็นกระสุนพลาดท่าร่วงตกไปนอกสนามทดสอบ มันจะตายอย่างรวดเร็ว
ไม่ว่าอสูรที่เข้ามาทดสอบจะมีความน่าเกรงขามเพียงไหน พลังกฎสวรรค์จะกีดกันความสามารถทั้งหมดนั้นออกไป ตราบใดที่อสูรล้มเหลวเจ้านายได้แต่ดูอสูรนั้นตายไป
การทดสอบที่ระดับความยากมากนี้แม้ว่าในการทดสอบครั้งแรกจากสิบครั้ง ก็ยังเป็นเรื่องยากอย่างมากอยู่ดี
ในกรณีที่มีหอคอยสูงและอสูรจะต้องยิง อาจต้องใช้อสูรยิงโจมตีถล่มหอคอยได้ และสิ่งมีชีวิตอื่นคือมีลาและหมูหลบอยู่ในนั้น ผู้ท้าทายจะต้องยิงฆ่าสัตว์มีชีวิตในหอคอยให้ได้ในรวดเดียว
ถ้าหอสูงไม่พัง สัตว์ในหอคอยไม่ตาย นั่นเป็นความล้มเหลว
กล่าวอีกอย่างหนึ่งคือต้องทำให้สำเร็จ ล้มเหลวไม่ได้ และจะไม่มีทางกลับมาได้
“พวกเจ้าเงียบได้ไหม? นี่ยากนักหรือ? ข้าคิดว่าง่ายมาก หลบไป อย่ามาขวางทางข้า!” เย่ว์หยางเฉียดผ่านวีเซลหางดาบและหลงหม่าไปทางด้านข้าง
“เจ้าต้องการเป็นกระสุนชีวิตหรือ?” นางพญาผึ้งพิษกระซิบถามตั๊กแตนมัจจุราชด้วยภาษาลับ
“ฮื่ม” ตั๊กแตนมัจจุราชพยักหน้าอย่างน่ารัก นางมีความมั่นใจในเจ้านายของนาง ต่อให้ต้องตายความเชื่อมั่นของนางก็ไม่คลอนแคลน
เย่ว์หยางไม่ได้ปลอบใจหรือให้กำลังใจเหมือนกับคนอื่นๆ เขาวางตั๊กแตนมัจจุราชลงบนเครื่องยิงโดยตรง บนร่างกายชั้นนอกของตั๊กแตนมัจจุราชมีปลอกแสงที่เกิดจากพลังกฎสวรรค์มองดูคล้ายปลอกกระสุนปืนใหญ่ขนาดเล็ก ความจริงไม่ว่าอสูรจะใหญ่หรือเล็กก็ตาม พลังกฎสวรรค์นี้จะทำงานเหมือนกัน ทักษะแฝงเร้นและพลังของอสูรจะใช้งานไม่ได้ นอกจากกลายเป็นกระสุนอสูรแล้ว คราวนี้อสูรไม่สามารถทำอะไรได้
บางทีด้วยความเชื่อใจเจ้านายอย่างเต็มที่ การให้ความร่วมมือในกลยุทธ์ก็เป็นการแสดงออกที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
จ้าวคางคกและพญาราชสีห์ยังมาไม่ถึง และพวกเขายังอยู่ค่อนข้างไกล
แต่พญาเหยี่ยวและนางพญาผึ้งพิษไปถึงที่นั่นแล้ว
มีทั้งอสูรปีศาจและมีกระทั่งผู้พำนักหลายสิบคนรวมตัวอยู่ที่นั่นด้วย ทุกตัวตนเหมือนกับกำลังมองดูคนบ้า พวกเขามองดูเย่ว์หยาง
ในหุบเขาอสูรเป็นเวลาหลายร้อยปีแล้วที่ไม่ค่อยมีใครใช้กระสุนอสูรมีชีวิต.. เจ้าเด็กนี่บ้าระห่ำจริงๆ... ข้าหวังว่าเขาจะไม่ล้มเหลวเร็วเกินไป มิฉะนั้นคงไม่มีอะไรสนุกให้ดู
นอกจากนางพญาผึ้งพิษ วีเซลหางดาบและหลงหม่า และผู้ถูกจำกัดคนอื่นๆ บางตน ไม่ว่าจะเป็นอสูรปีศาจ หรือผู้พำนักล้วนแต่รู้สึกว่าเย่ว์หยางจะต้องล้มเหลว
เจ้าตัวโง่งมนี่จะต้องล้มเหลวในพริบตา และเป็นการล้มเหลวที่ใช้เวลาน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์หุบเขาอสูรกระมัง?
คนโง่บางคนที่มั่นใจตัวเองเกินไปเลือกบททดสอบที่ยากที่สุด ผลของการเลือก พวกเขาคงจะพบว่าอสูรของเขาต้องมาตายเพราะน้ำมือเขาเอง และนั่นเป็นเรื่องที่ยากจะพบเห็น!
“เจ้าไม่ต้องคำนวณหรือไง?” วีเซลหางดาบไม่ต้องการเปิดเผยตน มันหลั่งเหงื่อเยียบเย็นพลางเกาศีรษะ “ความจริงระหว่างช่วงเวลาที่ไม่จำจกัดนี้ เจ้าค่อยๆ คำนวณดูก็ได้!”
“ใช่แล้ว คำนวณรัศมีซ้ำอีกคราให้ชัดเจนแน่นอนก็นับว่าไม่เลว ทั้งพลัง มุมมองและทิศทาง ฯลฯ ต้องคำนวณอย่างระมัดระวัง!” หลงหม่าพยายามโน้มน้าวใจ
“ง่ายขนาดนั้น ยังต้องใช้การคำนวณด้วยหรือ?” เย่ว์หยางไม่คล้อยตาม
“โง่จริงๆ!”
อสูรที่เคยตายไปแล้วเห็นว่าเย่ว์หยางหยิ่งยโสยิ่งนัก ทุกตนรู้ว่าไม่ใช่เรื่องที่ดีหากมีทัศนะที่ขัดแย้งกับเย่ว์หยาง นี่เขาต้องการประสบความสำเร็จโดยไม่ต้องคำนวณอย่างถี่ถ้วนหรือ? นี่ยังยากยิ่งกว่ารอให้ฝนตกลงมาเป็นขนมเค้กจากท้องฟ้า! ต่อให้คำนวณไว้เป็นอย่างดีก็ไม่จำเป็นต้องสำเร็จ สามพันปีก่อนนี้ มีบัณฑิตผู้ทรงภูมิปัญญาคนหนึ่งคำนวณอยู่ถึงสามวันสามคืนจนมั่นใจว่าสามารถทำได้ เขาจึงเริ่มใช้อสูรทดสอบ และในที่สุดเขาพลาด...
เป็นไปไม่ได้ที่จะประสบความสำเร็จได้โดยไม่ต้องคำนวณ
แม้แต่การยิงแอปเปิลที่ง่ายที่สุดก็ยังต้องคำนวณแง่มุม พลังและทิศทางเป็นอย่างดี
วีเซลหางดาบและหลงหม่าพยายามโน้มน้าวใจ
คาดไม่ถึงเลยว่าเย่ว์หยางและง้างเครื่องยิงเล็งด้วยตาเดียว “ฟิ้ววว” ตัวของตั๊กแตนมัจจุราชคลุมไปด้วยรัศมีแสงพุ่งเป็นแนวโค้งข้ามหอคอยแรกและกระแทกเข้าที่กึ่งกลางหอคอยที่สอง จุดเชื่อมต่อของหอคอยสูงพังถล่มครืน..
หมูที่อยู่ข้างในที่ไม่ตายก็ระเบิดสลายกลายเป็นควันหายไป
ตั๊กแตนมัจจุราชที่มีพลังกฎสวรรค์คลุมทั้งร่างเทเลพอร์ตกลับมาและอยู่ในมือของเย่ว์หยาง
แบบนี้ก็ได้ด้วยเหรอ?
ง่ายจะตาย!
ทุกคนตาค้างและกับพื้นระเนระนาดทีละคน !-!