ตอนที่ 859 ฝึกฝนและการเข้าด่านสอบแรก
“......” นางพญาผึ้งพิษใช้วิธีส่งข้อมูลแบบลับทันที
“.....” แม้แต่เย่ว์หยางก็ใช้อักษรรูนสวรรค์เพื่อช่วยในการสนทนา
หลงหม่าและวีเซลหางดาบทั้งสองมองดูจากระยะไกล ทั้งคู่จ้องตะลึงมอง ภาษาลับต้องบอกว่าพวกเขาไม่ได้ยินแน่นอน แต่ทั้งสองสามารถเห็นวงเวทอักษรรูนได้อย่างชัดเจนและไม่เข้าใจความหมายของวงเวทรูน ความจริงหลงหม่าและวีเซลหางดาบไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับอักษรรูนสวรรค์ พวกเขาต้องการรู้เรื่องอักษรรูนสวรรค์ พวกเขาหลายคนจำได้ แต่หลังจากสร้างเป็นวงเวทอักษรรูน พวกเขาได้แต่มองตาปริบๆ
ทั้งสองพูดเรื่องอะไรกัน?
ต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับความร่วมมือกันแน่นอน
ปัญหาก็คือนางพญาผึ้งพิษและเด็กหนุ่มคนนี้จะร่วมมือกันอย่างไร และทั้งสองมีแผนการเช่นใด?
พวกเขาพูดคุยกันราวสิบนาที
เมื่อพูดคุยกับเย่ว์หยางเสร็จสิ้นแล้วนางพญาผึ้งพิษยิ้มและบินไปจากพื้นที่น้ำตก
นางเหลือบมองมาทางหลงหม่าและวีเซลหางดาบที่พรางตัวอยู่ในป่าเหมือนไม่ได้ตั้งใจ ทั้งสองกลัวจนหัวใจแทบหยุดเต้น
พลังของนางพญาผึ้งพิษสูงถึงปราณฟ้าระดับหก ทั้งหลงหม่าและวีเซลหางดาบไม่ใช่คู่ต่อสู้อย่างแน่นอน ถ้าทั้งสองถูกจับก็คงไม่ต่างจากอสูรแร้ง
โชคดี
นางพญาผึ้งพิษแค่ชำเลืองมองและบินจากไปด้วยความเร็วสูง
ตั๊กแตนมัจจุราชฆ่าอสูรแร้งผู้โชคร้าย อย่างไรก็ตามนี่คือพลังงานที่นางพญาผึ้งพิษส่งมาเป็นบรรณาการ ไม่ต้องเสียเวลามาก เพื่อเป้าหมายแข็งแกร่งมากขึ้น ตั๊กแตนมัจจุราชฝึกฝนอย่างหนักและหวังจะไปถึงระดับมาตรฐานมีหัวใจแบบมนุษย์ แน่นอนว่านางยังเข้าใจถึงระยะห่างระหว่างอสูรศักดิ์สิทธิ์กับอสูรเทพ นั่นแทบจะก้าวผ่านไปไม่ได้ และนอกจากการฝึกฝนหนักหน่วงยังต้องอาศัยโชคที่เพียงพอ อย่างนางพญาดอกหนามมงกุฏทองตั่วตั่ว เจี้ยงอิง อาหงและอาหมัน พวกนางทั้งหมดเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่ แต่พวกนางก็ต้องทุ่มเทหยาดเหงื่อเลือดเนื้อไม่รู้ว่าเท่าใดกว่าจะมีความสำเร็จอย่างทุกวันนี้
นางกำลังไล่ตามตั่วตั่วและอาหง แต่พวกนางยังคงห่างไกล
ไม่ต้องพูดถึงเสี่ยวเหวินหลีที่ถือกำเนิดมาพร้อมกับคัมภีร์เพชร
“เราจะดำเนินการตามแผน!” เย่ว์หยางขอให้ตั๊กแตนมัจจุราชพักหนึ่งวัน ก่อนจะพานางข้ามน้ำตกและมุ่งหน้าไปยังใจกลางหุบเขาอสูร
หลงหม่าและวีเซลหางดาบมองหน้ากัน
จะตามต่อหรือว่าจะหยุดเพียงแค่นี้?
ถ้าหยุด ก็รับรองได้ว่าหากไม่มีอุบัติเหตุใดๆ ก็สามารถอยู่ในหุบเขาอสูรได้ต่อไป
แต่สิ่งที่ทั้งสองต้องการในตอนนี้ไม่ใช่ความปลอดภัย แต่เป็นสิ่งที่รอคอยมานาน นั่นคืออิสรภาพ พร้อมกับเด็กหนุ่มคนนี้ หลงหม่าและวีเซลหางดาบไม่รู้ว่าจะได้รับอิสรภาพหรือไม่ ที่สำคัญพวกเขาไม่ใช่นางพญาผึ้งพิษ และไม่มีสมบัติใดที่จะทำให้เด็กหนุ่มนี้สัญญาว่าจะช่วย การติดตามเขาต่อไป อาจจะกลายเป็นอาหารเหมือนกับอสูรแร้งสักวัน
อย่างไรก็ตามถ้าพวกเขาจะติดตามต่อไป พวกเขาอาจจะพาตัวไปจากที่นี่ได้ตลอดไปก็ได้
เพราะความโหยหาในใจของทั้งสองนี้ พวกเขากัดฟันและพยักหน้าให้กัน
หุบเขาอสูร
แน่นอนว่านี่ไม่ใช่หุบเขาในภูเขา แต่เป็นโลกอิสระขนาดใหญ่
ที่นี่ใหญ่โตมากกว่าหุบเขาพิรุณ หุบเขาวายุ หุบเขาทรายและหุบเขาราคะ พูดให้ถูกก็คือ ที่นี่ถูกแบ่งออกเป็นห้าภูมิภาค
ยกเว้นสามพื้นที่ใหญ่โตที่มีสภาพแวดล้อมโหดร้ายเป็นพิเศษ น้อยคนนักที่จะย่างกรายเข้ามา ในอีกสองพื้นที่ มีการปกครองด้วยอำนาจสองรูปแบบคือ พื้นที่ซึ่งปกครองโดยผู้พำนักนำโดยผู้นำทั้งสาม และมนุษย์ที่กลายเป็นอสูร ผู้นำระดับราชันย์ทั้งห้า พญาราชสีห์, พญาเหยี่ยว, เสือหน้ามนุษย์ จ้าวคางคกและนางพญาผึ้งพิษเป็นห้าจ้าวอสูร แต่ละตนปกครองมนุษย์อสูร มีระบบจัดการผลประโยชน์ร่วมกัน
ในบรรดาพวกเขาพญาราชสีห์แข็งแกร่งที่สุด และพญาเหยี่ยวอ่อนด้อยที่สุด
เพราะพลังอำนาจของเจ้าอสูรแตกต่างกัน เป้าหมายในการเข้ากลุ่มที่อาศัยสำหรับมนุษย์อสูรผู้ล้มเหลวในการท้าทายจึงไม่เหมือนกัน
อย่างอสูรกินเนื้อที่ดุร้าย ส่วนใหญ่จะพึ่งพาอาศัยพญาราชสีห์ แต่อสูรสัตว์ปีกที่มีความสามารถในการบินส่วนใหญ่จะสนับสนุนพญาเหยี่ยว แน่นอนว่ามีอสูรแร้งหลายตนเหมือนกันที่ไปอยู่กับพญาราชสีห์
ถ้าแบ่งตามประเภทหมวดหมู่ อสูรล่าเหยื่อจะติดตามพญาราชสีห์ อสูรวิหคจะชอบติดตามพญาเหยี่ยว อสูรเลื้อยคลานจะอยู่กับจ้าวคางคก อสูรที่อยู่ในน้ำจะอยู่กับเสือหน้ามนุษย์ อสูรจำพวกแมลงจะยกย่องนางพญาผึ้งพิษเป็นผู้นำ นอกจากอิทธิพลของห้ากองกำลังใหญ่อสูรแล้ว ก็ยังมีอสูรบางตนแยกตัวไปอยู่ด้วยตนเอง พวกเขามั่นใจในพลังว่าจะเอาชีวิตรอดได้ ห้ากองกำลังผนึกพลังกัน จำนวนของอสูรมีมากกว่าสามพัน แต่จ้าวอสูรใหญ่สั่งบริวารที่เป็นมนุษย์อสูรโดยตรงได้ไม่ถึงครึ่ง
จำนวนของผู้พำนักมีไม่ถึงพันคน
อยู่ในสังกัดของหัวหน้าใหญ่สามคน
แต่พลังของพวกเขาโดยทั่วไปจะแข็งแกร่งมากกว่ามนุษย์อสูร ดังนั้นว่ากันตามตรงแล้ว ผู้พำนักยังจะมีพลังเหนือกว่ามนุษย์อสูร
แต่ในพื้นที่เริ่มต้นของหุบเขาอสูร โดยหลักจะเป็นป้อมหุบเขาอสูร และเป็นพื้นที่ซึ่งคนที่พลัดเข้ามาจะได้เริ่มต้น สภาพความเป็นอยู่จะง่ายที่สุด ขณะเดียวกันวัตถุและสภาพแวดล้อมในการฝึกฝนที่นี่ยังด้อยมากกว่าพื้นที่ในกลางหุบเขาอสูรมากมาย ส่วนพื้นที่ด้านหลังหุบเขาอสูรจะเป็นป่าโลหิตที่ซึ่งประตูเทเลพอร์ตตั้งอยู่ที่นั่น เป็นเขตมรณะที่ไม่มีใครกล้าประมาท การเอาชีวิตรอดในที่นั้นทำได้ยากลำบากมาก
มีผู้พำนักหลายคนที่รู้ว่ามีผลปัญญาอยู่ในป่าโลหิต เมื่อเก็บผลปัญญาได้จะทำให้อสูรมีวิวัฒนาการสามารถทำให้ผ่านด่านได้สำเร็จ แต่พวกเขาก็ไม่กล้าจะเข้าไป
เพราะมีมังกรดำสองหัวคอยเฝ้ารักษาผลปัญญาอยู่ที่นั่น
ถ้าเข้าไปเก็บผลปัญญาทั้งที่ไม่มีความแข็งแกร่งอย่างเพียงพอ ก็เท่ากับส่งอาหารจานโปรดให้กับมังกรดำสองหัว....
“หือ?” หลงหม่าและวีเซลหางดาบยังคงติดตามต่อไป
ห่างออกไปนั้นเย่ว์หยางย่างเท้าเข้าไปในส่วนกลางของหุบเขาอสูร ที่ซึ่งไม่ค่อยมีใครเข้าไป
ในเวลาพลบค่ำ ดูเหมือนเย่ว์หยางจะไม่ตระหนักถึงอันตรายรอบตัวเขายังคงมุ่งหน้าเดินตรงเข้าไป มีศัตรูซุ่มรอโอกาสลอบโจมตีอยู่ในป่านานแล้ว ทันใดนั้นงูเหลือมยักษ์อ้าปากยักษ์โจมตีใส่ตั๊กแตนมัจจุราช มันงับใส่ตั้งใจจะกลืนกินนาง วีเซลหางดาบและหลงหม่าเห็นอยู่ พวกเขาต้องการจะเตือน แต่พวกเขากลัวว่าถ้าทำเช่นนั้นจะไม่เป็นการช่วยเหลืออะไร ซ้ำยังต้องเปิดเผยตัวเองอีกด้วย
ควั่บ
ตั๊กแตนมัจจุราชกวาดแขนใบมีดทันที
ในท้องฟ้าภาพเครื่องหมายกุหลาบไขว้กันถูกวาดขึ้น
อสรพิษยักษ์ยืดคออย่างเฉื่อยชา และชะงักอยู่ในกลางอากาศ ในช่วงพริบตารูปกุหลาบไขว้ก็ผ่านตัวมันไป
ร่างของมันแยกขาดจากกันทันที
คอที่ขาดมีบาดแผลที่ถูกโจมตีอย่างสมบูรณ์ และโลหิตสีแดงคล้ำฉีดพุ่งไปทั่วบริเวณ
มันเป็นอสูรปราณฟ้าระดับสอง แต่ถูกตั๊กแตนมัจจุราชฆ่าตายในทันที!
ร่างขนาดใหญ่ร่วงฟาดลงกับพื้น
“กุหลาบเลือด พระเจ้า! นางเปลี่ยนประกายกากบาทสังหารของข้าให้เป็นกุหลาบเลือดได้ ท่าฟันผ่าฟ้าสังหารศัตรูได้อย่างหมดจด น่าสนใจจริงๆ” วีเซลหางดาบมองดูและพึมพำราวกับไม่มีวิญญาณ นั่นคือประกายกากบาทสังหารที่สร้างมาจากพื้นฐานประกายสังหาร เขาคิดว่าเป็นวิชาที่ถึงขีดจำกัดไปแล้ว นึกไม่ถึงเลยว่าห้าวันต่อมา แค่จุดเล็กน้อยนี้ภายใต้คำแนะนำของเด็กหนุ่มนี่ อสูรน้อยผู้นี้จะบรรลุถึงขั้นกากบาทกุหลาบโลหิตได้
นี่คือวิชาที่เขาค้นคว้ามาเมื่อหลายพันปีก่อน เขาอยากจะเอาศีรษะโขกพื้นตายจริงๆ
แม้แต่ในระหว่างผู้คน
ก็ยังมีความเหลื่อมล้ำ
แต่ไม่จำเป็นต้องเหลื่อมล้ำมากขนาดนั้นไม่ใช่หรือ?
เย่ว์หยางยังส่ายศีรษะอย่างไม่พอใจ แม้ว่าวิชากุหลาบโลหิตจะฝึกได้สำเร็จ แต่ก็ยังห่างจากภาพที่มีกลีบดอก เว้นระยะห่างเก้ากลีบ ทั้งจะต้องเพิ่มรอยตัดเป็นรูปอักษรรูน ระยะห่างจากความต้องการ นี่ยังถือว่าพลาด เพียงแต่วันนี้ถือว่าเป็นวันหยุด จำกัดพลังไว้เพียงเท่านี้ก่อน แต่นอกเหนือการฝึกแทนการล่า เขาจะไม่วิจารณ์อย่างเคร่งครัดอีก
เขาเหยียดมือลูบศีรษะตั๊กแตนมัจจุราชเกิดใหม่เบาๆ
หลังจากตั๊กแตนมัจจุราชกลายเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ ร่างของนางกลายเป็นรูปมนุษย์อย่างสมบูรณ์
ไม่มีแขนขาเหมือนกับแมลงอีกต่อไป
รูปลักษณ์ทั้งหมดของนางดูเหมือนมนุษย์ตัวเล็กที่น่ารัก เฉพาะส่วนที่แตกต่างจากมนุษย์ปกติก็คือปีกสีทองของนางที่วิวัฒนาการเป็นสีรุ้งสว่าง
นางเริ่มคิดว่าเจ้านายที่วิจารณ์นางอย่างเข้มงวด ใครเล่าจะไม่ต้องการให้เขาลูบศีรษะอย่างจริงจัง
นี่อาจทำให้นางตื่นเต้นอย่างเข้าใจผิด
นางอดแลบลิ้นน้อยๆ สีขาวไม่ได้ และบินไปอยู่บนไหล่ของเย่ว์หยางอย่างมีความสุข ใช้มือน้อยๆ ทุบนวดไหล่ของเขา นางเรียนรู้วิธีประจบมาจากฮุยไท่หลาง
ต้องทราบไว้ว่านอกจากฮุยไท่หลางแล้ว ไม่มีใครรู้วิธีประจบเย่ว์หยางได้เหมือนนางอีก
ตั๊กแตนมัจจุราชได้รับการส่งเสริมจากเย่ว์หยาง ทั้งล่าและฝึกวิทยายุทธ์ต่อสู้ของเขา
นอกจากนี้ยังได้วิชากุหลาบโลหิต
หลังจากเย่ว์หยางลอกเลียนแนวคิดของหลงหม่ามาปรับปรุงพัฒนาแล้ว เขายังลอกเลียนแนวคิดของวีเซลหางดาบสิบแปดท่าได้ทันที และยังลอกเลียนพัฒนาวิชาคลื่นระเบิดเสียงของปีศาจค้างคาวตาแดง และท่าโจมตีย้อนกลับก็ยังลอกเลียนมาจากจ้าวคางคก รวมทั้งพายุดาบน้ำแข็งและระเบิดเพลิงพิโรธ ทักษะลอกเลียนแบบของนางก็ก้าวหน้าและเข้าใจได้ เป็นความรู้สึกที่เหนือกว่า แต่คุณสมบัติบางอย่างนั้นตรงกันข้ามไม่จำเป็นต้องทำเหมือนกับผู้สร้างเดิมก็ได้
หลงหม่าและวีเซลหางดาบตั้งข้อสังเกตกับเรื่องนี้
ภูตน้อยที่น่ารักนั้นกำลังเรียนรู้ทักษะลึกลับ ดูเหมือนเด็กหนุ่มผู้นั้นจะเป็นคนสอนนาง
แต่นางไม่เคยแสดงอวดอ้างออกมา และไม่รู้ว่านางเก็บรวบรวมกลเม็ดหรือว่าพื้นฐานของนางยังไม่ถึงระดับที่จะแสดงออกได้กันแน่
สามวันต่อมา
ดูเหมือนว่าทุกคนกำลังลืมเรื่องเย่ว์หยาง
แม้แต่นางพญาผึ้งพิษที่ก่อนนั้นมาพูดคุยกับเย่ว์หยางลับๆ ก็ยังหายไปในช่วงเวลานี้
หลงหม่าและวีเซลหางดาบรู้สึกว่าผิดปกติบ้างเล็กน้อย นี่ดูไม่เหมือนสภาพปลอดภัยไร้กังวลเลย แต่เป็นความเงียบสงบก่อนพายุฝนจะมา จะหลบเลี่ยงไปก่อนเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญปัญหาไหม? หลังจากหลงหม่าและวีเซลหลางดาบตัดสินใจอยู่นานในที่สุดพวกเขากัดฟันอยู่ต่อ
อิสรภาพก็เหมือนความมืดก่อนรุ่งอรุณที่ล่อลวงพวกเขา เพื่อที่ว่าพวกเขาจะได้หันหลังหนีจากไป
นอกจากนี้ในใจของทั้งสองนี้ไม่รู้สึกโดดเดี่ยว
ระหว่างบุคคลต่อบุคคลแม้ว่าจะไม่มีมิตรภาพต่อกัน แต่ยืนยันในหลักเบื้องหน้าเดียวกัน พวกเขาก็สามารถปลอบใจซึ่งและกันและแบ่งปันความกลัวในใจได้
ถ้ามีแค่เพียงคนเดียว
อย่างนั้นคงไม่สามารถยืนหยัดได้แน่นอน
เย่ว์หยางมาที่ใจกลางหุบเขาอสูรพร้อมกับตั๊กแตนมัจจุราช เพื่อผ่านด่านทดสอบแรกของหุบเขาอสูรแท้ๆ และเขาไม่รู้ว่ามีผู้ท้าทายอสูรเท่าใดแล้วที่ถูกกำจัดที่นี่ ด่านทดสอบแรกนั้นง่ายจริงๆ แค่ทำเพียงสามอย่าง นี่คือสิ่งที่ผู้ท้าทายและอสูรรู้กันทั้งหมด แต่ไม่สามารถทำได้ และเป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้สำเร็จ
สิ่งแรกที่อสูรต้องทำก็คือเดินเข้าไปในหอวิญญาณอสูรของด่านแรกและนำสัญลักษณ์ที่แสดงสถานะของอสูรออกมา
สิ่งนี้ต้องให้อสูรทำตามลำพังเท่านั้น
เจ้านายไม่มีอำนาจจะแบ่งพลังไปช่วยแต่อย่างใด นี่ยังคงเป็นการทดสอบที่ยากที่สุด !-!