ตอนที่แล้วตอนที่ 857 ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว  
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 859 ฝึกฝนและการเข้าด่านสอบแรก  

ตอนที่ 858 ข้าแค่ต้องการอิสรภาพ!


หลังจากเข้ามาในหุบเขาอสูรได้สิบห้าวัน

ตั๊กแตนมัจจุราชกำลังฝึกอยู่ใต้สายน้ำตก ร่างกายเปล่งรัศมีเจ็ดสี

แสงรัศมีเลื่อนระดับฉายอยู่เหนือศีรษะนางกระทบสายน้ำตกสะท้อนแสงระยิบระยับงดงามฉายพุ่งกลับไปในอากาศ เกิดเป็นภาพวิจิตรงดงามเหลือเชื่อ

คลื่นพลังกวาดกระจายไปทั่ว

คลื่นพลังงานกวาดขยายเป็นรูปวงกลมอย่างรวดเร็ว  แต่ที่น่าประหลาดใจก็คือต้นไม้ใบหญ้าไม่ได้รับความเสียหาย ทั้งกวางแกะกระต่ายป่าไม่สะดุ้งหวาดกลัวตกใจ  แต่พวกมันทำแบบเดียวกันโดยไม่ได้นัดหมาย แค่เพียงชะเง้อมองไปที่ลำแสงพลังงานในท้องฟ้า  วีเซลหางดาบและหลงหม่ากำลังแอบหลับอยู่ใต้ร่มเงาไม้ต้นหนึ่งสะดุ้งตื่นและรีบปีนขึ้นไปดูบนยอดไม้ ในภูเขาที่ห่างออกไปลำแสงสีทองฉายจากท้องฟ้า... และลำแสงนั้นฉายผ่านยอดเขาลงไปที่น้ำตกบนยอดเขา

แม้ว่าจะมีระยะห่างสิบสองกิโลเมตร แต่กระแสพลังงานและพลังปณิธานที่สง่างามทำให้หลงหม่าใจสั่นสะท้าน

ลำแสงคงอยู่เป็นเวลานานก่อนจะสลายหายไป

วีเซลหางดาบกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก  “เพียงสิบวัน อสูรเกิดใหม่ก็เข้าถึงระดับเตรียมอสูรศักดิ์สิทธิ์  พอหลังจากกลายเป็นเตรียมอสูรศักดิ์สิทธิ์  นางจะเลื่อนระดับเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ได้หลังจากผ่านไปห้าวัน!  ขอบเขตอสูรศักดิ์สิทธิ์แม้แต่ห้าจ้าวอสูรก็ยังไม่สามารถทำได้  นึกไม่ถึงเลยว่านางใช้เวลาเพียงครึ่งเดือน  นี่มันศักยภาพอะไรกัน?”

หลงหม่าเสียงสั่น แม้แต่ตัวเขาก็ยังสั่นเล็กน้อย  “บางทีนางอาจเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์อยู่แล้ว!”

“เป็นไปไม่ได้ ไม่มีใครยอมเสี่ยงกับอสูรศักดิ์สิทธิ์  ปล่อยให้อสูรศักดิ์สิทธิ์เดินเข้าประตูหวนกำเนิดใหม่  ก็มีความเสี่ยงอาจถูกทำลายได้ในไม่กี่วัน...”  วีเซลหางดาบโบกมือพัลวัน

“เขามีกล่องแพนดอรา ใช้พลังเทพวิบัติของกล่องแพนดอราช่วยปกป้อง มีอะไรจะเสี่ยงไม่ได้เล่า? นอกจากนี้ คนอย่างเขา แค่อสูรศักดิ์สิทธิ์ตนเดียว  ข้าคิดว่าเขาอาจมีอสูรเทพ หรือมิฉะนั้นเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่รู้วิธีฝึกอสูรศักดิ์สิทธิ์ แน่นอนว่านี่ยังไม่ใช่จุดสิ้นสุด!”

หลงหม่าพูดเพียงแค่นี้ก็เงียบต่อ

ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น!

เจ้าเด็กนี่ไม่เพียงแต่ฝึกอสูรศักดิ์สิทธิ์ได้ง่ายๆ เท่านั้น  ถ้าเขาต้องการจะผ่านด่านหุบเขาอสูร เขาสามารถจากไปได้โดยผ่านด่านทดสอบอสูรต่างๆ ได้เมื่อห้าวันที่แล้ว  ด้วยสติปัญญาของอสูรเกิดใหม่ การทดสอบต่างๆ ที่ตามมาเป็นที่คาดว่ามีแต่จะทำให้ยุ่งเหยิงไม่สามารถเลื่อนระดับนางเป็นเตรียมอสูรศักดิ์สิทธิ์ได้  ระดับเตรียมอสูรศักดิ์สิทธิ์ก็ยังไม่น่าพอใจ  ฝึกต่อให้เป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์...... ผ่านไปอีกครึ่งเดือนฝ่ายตรงข้ามจะหยุดได้ยังไง

อสูรเทพคือเป้าหมายสูงสุดของเด็กใหม่

ในหุบเขาอสูรยังจะสามารถท้าทายฝึกเป็นอสูรเทพได้หรือ?

เมื่อมองดูหลงหม่าแล้ว หลงหม่าส่ายศีรษะ  เขาติดอยู่ในหุบเขาอสูรมาหลายพันปี  เขาไม่เคยได้ยินเลยว่าใครจะสามารถฝึกอสูรเทพขึ้นมาได้ในหุบเขาอสูรแห่งนี้  ไม่มีเลยจริงๆ!

ถ้าเด็กใหม่ผู้นี้สามารถสร้างอสูรเทพขึ้นมาได้จริงๆ  หุบเขาอสูรจะเป็นยังไง?

คาดว่าผู้พำนักและผู้พ่ายแพ้ทั้งหมดที่กลายเป็นมนุษย์อสูรจะไม่พอเป็นพลังงานให้เขาได้ฝึกอสูรเทพหรือเปล่า?

หือ?

หลงหม่าและวีเซลหางดาบกลั้นลมหายใจ

นี่ไม่ใช่เพราะต้องระวังอสูรแร้งที่มักจะบินวนสอดแนมอยู่บนท้องฟ้าอยู่บ่อยๆ  แม้ว่าเจ้าผู้นี้จะมาหาข้อมูลให้กับพญาราชสีห์ก็ตามแต่ไม่เคยกล้าบินเข้ามาใกล้ แต่จะบินเฉียดผ่านไปอย่างนุ่มนวลและรวดเร็ว ทันทีที่พบเป้าหมายบนภาคพื้น มันจะบินกลับไปทันที วีเซลหางดาบลอบมาที่ยอดไม้ แต่ไม่ได้หลอมรวมเข้ากับพื้นที่แวดล้อมทั้งหมด แค่เพียงซ่อนตัวอยู่ในผ้าคลุม

ในท้องฟ้ามีเงาสายหนึ่งพุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็วราวกับดาวตก

ด้วยสายตาของหลงหม่าและวีเซลหางดาบยังยากจะมองตามเงาร่างนี้ได้

อย่างไรก็ตามหลงหม่ากลับพบว่าเป้าหมายของเงาร่างมืดนั้นก็คือ.... ร่างของอสูรแร้ง

นั่นคือนางพญาผึ้งพิษหนึ่งในห้าจ้าวอสูรแห่งหุบเขาอสูร

เพียงแต่ไม่รู้ว่าทำไมนางพญาผึ้งพิษถึงจับเป็นอสูรแร้ง?

จับเป็นสิ่งมีชีวิตอย่างอสูรแร้ง สิ่งที่หลงหม่าและวีเซลหางดาบไม่เข้าใจก็คือทำไมนางบินไปที่ริมสายน้ำตก นางไม่กลัวคำสาปของเทพวิบัติหรือ?

“วันนี้นับว่าเป็นวันมงคล มีอาคันตุกะบางท่านมาเยี่ยมเยือน” ริมน้ำตกสายเล็กที่ไหลลงทะเลสาบ เย่ว์หยางเอาเท้าแช่น้ำใสเย็นขณะนอนผึ่งแดดอยู่บนโขดหินปล่อยให้ตั๊กแตนมัจจุราชใช้มือที่ขาวดุจแป้งนวดไหล่เป็นครั้งคราว บางคราวนางก็หยิบผลึกเท่าผลองุ่นใส่เข้าปาก

“มีอาคันตุกะมากมายหลายแบบ”  นางพญาผึ้งพิษโยนอสูรแร้งที่ร่างแข็งทื่อลงบนพื้น

“อย่างนั้นท่านเป็นอาคันตุกะแบบไหน?”  เย่ว์หยางยิ้มถาม

“ข้าแตกต่างจากอาคันตุกะที่รนหาที่ตายเพื่อยกระดับให้อสูรของเจ้าก่อนหน้านั้น เชื่อว่าน่าจะร่วมมือกับเจ้าได้”  นางพญาผึ้งพิษบินลงมาที่โขดหินใกล้เย่ว์หยาง และวางร่างอสูรแร้งที่ร่างแข็งทื่อแต่ยังไม่ตายไว้ใกล้ๆ  นางยิ้มอ่อนโยน  “นี่คือของขวัญแรกพบ ข้ามอบให้เจ้า  ถ้าเจ้าต้องการให้ข้าแสดงความจริงใจ ข้าจะแสดงความจริงใจมากขึ้น เจ้าสามารถเชื่อใจข้าได้  ก่อนที่อสูรของเจ้าจะกลายเป็นอสูรเทพ  ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อช่วยให้เจ้าประสบความสำเร็จ!”

“ก็ได้ แต่บอกเหตุผลข้าได้ไหม?”  เย่ว์หยางหัวเราะและกล่าว  “แต่อย่าบอกข้านะว่า เหลยฟงผู้ทำความดีโดยไม่ต้องการสิ่งตอบแทน ก็อยู่ในหุบเขาอสูร” (เหลยฟงคือเยาวชนตัวอย่างของพรรคคอมมิวนิสต์จีน)

“ข้าต้องการเพียงสิ่งเดียว”  นางพญาผึ้งพิษสีหน้าเคร่งเครียดทันที

“นั่นคืออะไร?”  เย่ว์หยางถาม

ถึงขณะนี้หลงหม่าและวีเซลหางดาบลอบเข้ามาในระยะสามกิโลเมตรเพื่อให้ได้ยินถนัด

พวกเขาต้องการรู้ว่านางพญาผึ้งพิษต้องการทำอะไรกับเด็กหนุ่มนี้  จะให้สังหารพญาราชสีห์ จับจ้าวอสูรทั้งห้าชิงบัลลังก์ของพวกเขา? เอาชนะมังกรดำสองหัวที่ปกป้องผลภูมิปัญญา และเด็ดผลภูมิปัญญามาเพิ่มปัญญาให้นางเองหรือ?

ไม่ว่าจะเป็นเงื่อนไขใด เชื่อได้ว่าจะต้องเป็นข้อตกลงที่สั่นสะเทือนไปทั่วหุบเขาอสูรถึงขนาดเปลี่ยนสถานการณ์โดยรวมได้!

นางพญาผึ้งพิษลังเลเล็กน้อย

ในที่สุดนางก็พูดคำพูดคำหนึ่งที่ทำให้วีเซลหางดาบและหลงหม่าแทบโพล่งออกมา “ข้าต้องการอิสระ  ของทุกอย่างข้าไม่ต้องการ  ข้าต้องการแค่อิสรภาพ!”

อิสรภาพ

ของแบบนี้ไม่ได้ขาดแคลนสำหรับคนยากไร้ในแดนสวรรค์ ต่อให้เป็นนักสู้ปราณดินที่เหมือนกับมดแมลงในแดนสวรรค์ บางทีอิสรภาพของคนเหล่านี้อาจจะลดลงไปบ้างจนไม่อาจนับได้ว่าเป็นอิสรภาพที่แท้จริง  แต่แม้จะเป็นอิสรภาพที่ลดลงไปแล้วก็ยังนับว่าเลิศหรูสำหรับชีวิตในหุบเขาอสูร

หุบเขาอสูรไม่มีอะไรที่ขาดแคลน

เพียงแต่ไม่มีอิสรภาพ

หลงหม่าและวีเซลหางดาบคิดว่าพวกเขาลืมคำนี้ไปแล้ว แต่เมื่อพวกเขาได้ยินพวกเขาอดหลั่งน้ำตาไม่ได้

คนเมื่อยังมีอิสระ เขาจะไม่มีทางรู้ถึงคุณค่าของอิสรภาพได้  เมื่อผู้นั้นสูญเสียไป เขาจึงจะเข้าใจถึงคุณค่าของอิสรภาพ

อิสรภาพ นี่คือสิ่งที่ทุกคนสามารถมีได้  แต่เมื่อสูญเสียไป เกรงว่าไม่ว่าอะไรก็คงไม่สามารถทดแทนได้  คุณค่าของอิสรภาพไม่มีสมบัติใดๆ มาแลกเปลี่ยนได้  และมีแต่ผู้สูญเสียอิสรภาพจึงจะเข้าใจว่าคนผู้หนึ่งอาจจะไม่มีอะไร ไม่มีเงิน ไม่มีบ้าน ไม่มีความสะดวกในชีวิต ไม่จำเป็นต้องมีอารมณ์ซาบซึ้ง หรือความรักอันลึกซึ้ง  ทว่าจะขาดอิสรภาพไม่ได้

คนที่มีอิสรภาพจะไม่มีทางเข้าใจความเจ็บปวดของคนผู้สูญเสียอิสรภาพ

คนผู้พ่ายแพ้มีชะตากรรมเหมือนกับเด็กกำพร้าที่ถูกทอดทิ้ง

ต้องอยู่ในโลกอย่างเจ็บปวด อธิบายได้อย่างเดียวก็คือ มืดมิดไปหมด

เย่ว์หยางยิ้ม  “ท่านคิดว่าข้าจะสัญญาได้หรือ?  แม้ว่าข้าจะตอบตกลง แต่ท่านคิดว่าข้าจะหาวิธีให้ท่านได้หรือ?  ที่นี่คือหุบเขาอสูร!”

นางพญาผึ้งพิษเอามือปิดหน้าสะอื้นไห้และกล่าวเบาๆ  “เจ้าคือความภาคภูมิใจของเทพ ไม่มีทางรู้ว่าในช่วงหลายปีมานี้ข้าลำบากมากมายขนาดไหน หกพันปีมาแล้วที่ข้าต้องมีชีวิต จากสตรีคนดีที่ไม่เคยฆ่าใครกลายเป็นนางพญาผึ้งพิษในหุบเขาอสูร  คนที่ข้าฆ่าในช่วงหลายปีมานี้มีมากมายกว่าคนที่ข้ารู้จักเกินครึ่งชีวิตหลายเท่า แต่ถึงกระนั้นในช่วงเวลาที่สิ้นหวัง ข้าไม่เคยทิ้งความโหยหาอิสรภาพออกไปจากใจข้าเลยแม้แต่ครึ่งวินาที สิ่งนี้ยังคงส่องอยู่ในใจเหมือนฟ้ายามรุ่งสาง  เพื่อให้ข้าได้รับอิสรภาพทั้งบิดาข้าและสามีข้าต่างต้องล้มตายต่อหน้าข้า  พวกเขาสละชีวิตเพื่อค้นหาวิธีให้ข้า  และฝากความหวังไว้กับข้า  เพื่อให้ข้าต้องผ่านเส้นทางเอาตัวรอดอย่างราบรื่น มารดาข้า มารดาสามีข้าต้องทอดร่างกายให้กับพวกโจรร้าย จนกระทั่งข้าแก่กล้าขึ้น เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีตัวเอง พวกท่านฆ่าตัวตายต่อหน้าข้า”

เย่ว์หยางยังคงส่ายหน้า “ข้าเห็นใจสำหรับชะตากรรมที่ขมขื่นของท่าน  แต่หุบเขาอสูรมีกฎสวรรค์ประจำหุบเขาอสูร  เสียใจด้วย ข้าช่วยท่านไม่ได้”

นางพญาผึ้งพิษรีบเช็ดน้ำตาและโบกมือ “เกี่ยวกับเรื่องนี้ ข้ารู้ความลับอย่างหนึ่งเมื่อหกพันปีที่แล้ว เมื่อตอนที่ข้ายังไม่แข็งแกร่งเต็มที่  ข้ากังวลทุกอย่างรอบตัว มีบุรุษผู้มีพลังดุจเทพมาบอกเงื่อนไขอย่างหนึ่งกับข้า ตราบเท่าที่ทำสัญญาภายใต้สถานะอสูรศักดิ์สิทธิ์และกลายเป็นสถานะอสูรศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นก็สามารถออกไปได้ด้วยกัน แต่ในเวลานั้นข้ายังเป็นผู้พำนักคนหนึ่ง เพราะระมัดระวังบุรุษผู้เหมือนเทพผู้นั้น ในที่สุดข้าปฏิเสธความปรารถนาดีของเขา  ข้าเป็นผู้พำนักที่มีโอกาสสองครั้งในเวลานั้น..ข้าต้องฆ่าตัวตายและกลายเป็นอสูรปีศาจผู้มีพรสวรรค์  ข้าพลาดการทำสัญญาในเวลานั้น จึงต้องรอมาถึงหกพันปี!”

เย่ว์หยางถาม “ท่านจะเชื่อถือข้าได้อย่างไร?  ท่านคิดว่าข้าน่าเชื่อถือนักหรือ?”

นางพญาผึ้งพิษพูดแผ่วเบา  “ถ้าเป็นศัตรูกับท่านนั่นเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก  ท่านไม่ใช่สุภาพบุรุษผู้มีกรุณาและนอบน้อมถ่อมตน  ตรงกันข้าม  แนวคิดในการฆ่าของท่านทำเหมือนกับศัตรูเป็นแค่มดแมลง ทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดหวั่นสั่นกลัวจนถึงก้นบึ้งหัวใจ  อย่างไรก็ตามถ้าเป็นสหายกับท่านได้ ข้าเชื่อว่านั่นเป็นเรื่องที่โชคดีมาก เพื่อปลดเปลื้องตนเองให้เป็นอิสระ ข้ายินดีเสี่ยง ข้ายอมเชื่อท่าน ที่สำคัญท่านคือเป้าหมายร่วมงานที่ดีที่สุดในรอบหกพันปี”

“เหตุผลที่ข้าเชื่อท่านมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น”  นางพญาผึ้งพิษจ้องมองตาของเย่ว์หยาง  “ในวันนั้นบุรุษผู้เสมือนเทพผู้นั้น ลักษณะการหายใจของเขาคล้ายกับท่าน.. บางทีท่านอาจไม่ใช่ญาติที่เกี่ยวข้อง  แต่ท่านต้องเป็นคนเหมือนกันผู้มาจากสถานที่เดียวกัน

“คนที่เจ้าพูดถึงนั้นชื่ออะไร?”  เย่ว์หยางถาม

“บุรุษผู้เสมือนเทพผู้นั้นมีชื่อว่าจ้านฟง ข้าได้ยินศัตรูอื่นเรียกเขาว่าจักรพรรดิอวี้!” นางพญาผึ้งพิษไม่เคยลบชื่อและภาพในปีนั้นออกไปจากความทรงจำ

“เป็นเขาอีกแล้ว” เย่ว์หยางรู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย จักรพรรดิอวี้ผู้นี้รู้จักคนไปทุกที่ หกพันปีมาแล้ว แต่ก็ยังไม่ลืมเขา นับเป็นความทรงจำความรู้สึกที่ยาวนานจริงๆ  อย่างไรก็ตามในเมื่อเกี่ยวข้องกับจักรพรรดิอวี้ เย่ว์หยางละอายใจที่จะปฏิเสธ  จะบอกว่าตราผนึกประทับจักรพรรดิ เขาเอาไปใช้เป็นที่ทุบลูกเกาลัด ดาบเทพอยู่ในมือของแม่เสือสาว คทาจักรพรรดิอวี้อยู่กับเสวี่ยอู๋เสีย นั่นคือสมบัติที่ท่านผู้นั้นทิ้งไว้ให้ ถ้าไม่เห็นแก่หน้าเขาบ้าง ก็คงดูเหมือนไม่ค่อยมีเหตุผล

ก็ได้

ทำดีเพื่อคนดี!

เย่ว์หยางถามคำถามสุดท้าย  “บิดามารดาท่าน และสามีของท่านตายที่นี่และยังติดอยู่และหลับใหลอยู่ที่นี่มาหกพันปีแล้ว คาดว่าสมาชิกในครอบครัวก็คงติดอยู่ที่นี่ในลักษณะเดียวกัน สนใจจะเอาออกไปด้วยไหม?”

นางพญาผึ้งพิษกระพริบตาปริบๆ ก่อนดวงตานางจะเบิกโพลง “ข้าสัญญากับพวกเขาไว้ ข้าต้องเอาเถ้ากระดูกของพวกเขาพาพวกเขากลับไปบ้านเกิดที่ภูเขา  ข้ายังสัญญาไว้กับมารดา ว่าจะเอาของที่ระลึกสำคัญของตระกูลส่งมอบให้น้องสาว ส่งมอบบัลลังก์ให้นาง และให้นางเป็นผู้นำเผ่าพันธุ์  ถ้าน้องสาวข้าไม่ต้องการปกครองต่อ นางจะส่งต่อบัลลังก์ให้คนรุ่นหลัง  ข้าไม่เพียงแต่แบกความหวังของสมาชิกครอบครัวเพื่อมีชีวิตต่อไปเท่านั้น  แต่ในใจข้าโหยหาถึงวันที่จะได้จากไป และ ว่าวันแห่งอิสรภาพจะทำให้ข้าได้มองท้องฟ้าจากด้านนอก มองดูบ้านเกิดที่ข้าอยู่อาศัย และข้าคงตายอย่างไม่มีอะไรเสียใจ....”

ตราบใดที่มีวันได้รับอิสรภาพ แม้ตายก็ไม่เสียใจ

ประโยคนี้เย่ว์หยางนึกถึงปณิธานของจื้อจุน ทำให้อดหวั่นไหวไม่ได้

บางทีอีกฝ่ายคงว้าวุ่น เขาไม่สามารถช่วยอะไรได้  แต่เรื่องแบบนี้สำหรับความหวังและศรัทธาหกพันปี เรื่องนี้ควรค่าแก่การพิจารณา

“ฮืม..” ตั๊กแตนมัจจุราชได้ยินคำพูดของนางพญาผึ้งพิษ นางตื่นเต้นและอดร้องอย่างน่ากลัวมิได้

“....”  หลงหม่าหลั่งน้ำตาเป็นสาย

ถ้าไม่ใช่เพราะกลัวเปิดเผยร่องรอย พวกเขาขบกรามแน่นเพื่อกลั้นน้ำตา

อิสรภาพ นี่คือความฝันที่ไม่กล้าคาดหวัง!  หากสามารถได้รับอิสรภาพได้ ตราบเท่าที่พวกเขาใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ท้องฟ้าอย่างมีความสุข แม้ตายก็ไม่เสียใจ

ทั้งสองหลั่งน้ำตาและเข้าใจฝ่ายตรงข้ามได้เหมือนกัน  พวกเขาก็ต้องการอิสรภาพ!!!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด