ตอนที่ 858 ข้าแค่ต้องการอิสรภาพ!
หลังจากเข้ามาในหุบเขาอสูรได้สิบห้าวัน
ตั๊กแตนมัจจุราชกำลังฝึกอยู่ใต้สายน้ำตก ร่างกายเปล่งรัศมีเจ็ดสี
แสงรัศมีเลื่อนระดับฉายอยู่เหนือศีรษะนางกระทบสายน้ำตกสะท้อนแสงระยิบระยับงดงามฉายพุ่งกลับไปในอากาศ เกิดเป็นภาพวิจิตรงดงามเหลือเชื่อ
คลื่นพลังกวาดกระจายไปทั่ว
คลื่นพลังงานกวาดขยายเป็นรูปวงกลมอย่างรวดเร็ว แต่ที่น่าประหลาดใจก็คือต้นไม้ใบหญ้าไม่ได้รับความเสียหาย ทั้งกวางแกะกระต่ายป่าไม่สะดุ้งหวาดกลัวตกใจ แต่พวกมันทำแบบเดียวกันโดยไม่ได้นัดหมาย แค่เพียงชะเง้อมองไปที่ลำแสงพลังงานในท้องฟ้า วีเซลหางดาบและหลงหม่ากำลังแอบหลับอยู่ใต้ร่มเงาไม้ต้นหนึ่งสะดุ้งตื่นและรีบปีนขึ้นไปดูบนยอดไม้ ในภูเขาที่ห่างออกไปลำแสงสีทองฉายจากท้องฟ้า... และลำแสงนั้นฉายผ่านยอดเขาลงไปที่น้ำตกบนยอดเขา
แม้ว่าจะมีระยะห่างสิบสองกิโลเมตร แต่กระแสพลังงานและพลังปณิธานที่สง่างามทำให้หลงหม่าใจสั่นสะท้าน
ลำแสงคงอยู่เป็นเวลานานก่อนจะสลายหายไป
วีเซลหางดาบกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก “เพียงสิบวัน อสูรเกิดใหม่ก็เข้าถึงระดับเตรียมอสูรศักดิ์สิทธิ์ พอหลังจากกลายเป็นเตรียมอสูรศักดิ์สิทธิ์ นางจะเลื่อนระดับเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ได้หลังจากผ่านไปห้าวัน! ขอบเขตอสูรศักดิ์สิทธิ์แม้แต่ห้าจ้าวอสูรก็ยังไม่สามารถทำได้ นึกไม่ถึงเลยว่านางใช้เวลาเพียงครึ่งเดือน นี่มันศักยภาพอะไรกัน?”
หลงหม่าเสียงสั่น แม้แต่ตัวเขาก็ยังสั่นเล็กน้อย “บางทีนางอาจเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์อยู่แล้ว!”
“เป็นไปไม่ได้ ไม่มีใครยอมเสี่ยงกับอสูรศักดิ์สิทธิ์ ปล่อยให้อสูรศักดิ์สิทธิ์เดินเข้าประตูหวนกำเนิดใหม่ ก็มีความเสี่ยงอาจถูกทำลายได้ในไม่กี่วัน...” วีเซลหางดาบโบกมือพัลวัน
“เขามีกล่องแพนดอรา ใช้พลังเทพวิบัติของกล่องแพนดอราช่วยปกป้อง มีอะไรจะเสี่ยงไม่ได้เล่า? นอกจากนี้ คนอย่างเขา แค่อสูรศักดิ์สิทธิ์ตนเดียว ข้าคิดว่าเขาอาจมีอสูรเทพ หรือมิฉะนั้นเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่รู้วิธีฝึกอสูรศักดิ์สิทธิ์ แน่นอนว่านี่ยังไม่ใช่จุดสิ้นสุด!”
หลงหม่าพูดเพียงแค่นี้ก็เงียบต่อ
ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น!
เจ้าเด็กนี่ไม่เพียงแต่ฝึกอสูรศักดิ์สิทธิ์ได้ง่ายๆ เท่านั้น ถ้าเขาต้องการจะผ่านด่านหุบเขาอสูร เขาสามารถจากไปได้โดยผ่านด่านทดสอบอสูรต่างๆ ได้เมื่อห้าวันที่แล้ว ด้วยสติปัญญาของอสูรเกิดใหม่ การทดสอบต่างๆ ที่ตามมาเป็นที่คาดว่ามีแต่จะทำให้ยุ่งเหยิงไม่สามารถเลื่อนระดับนางเป็นเตรียมอสูรศักดิ์สิทธิ์ได้ ระดับเตรียมอสูรศักดิ์สิทธิ์ก็ยังไม่น่าพอใจ ฝึกต่อให้เป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์...... ผ่านไปอีกครึ่งเดือนฝ่ายตรงข้ามจะหยุดได้ยังไง
อสูรเทพคือเป้าหมายสูงสุดของเด็กใหม่
ในหุบเขาอสูรยังจะสามารถท้าทายฝึกเป็นอสูรเทพได้หรือ?
เมื่อมองดูหลงหม่าแล้ว หลงหม่าส่ายศีรษะ เขาติดอยู่ในหุบเขาอสูรมาหลายพันปี เขาไม่เคยได้ยินเลยว่าใครจะสามารถฝึกอสูรเทพขึ้นมาได้ในหุบเขาอสูรแห่งนี้ ไม่มีเลยจริงๆ!
ถ้าเด็กใหม่ผู้นี้สามารถสร้างอสูรเทพขึ้นมาได้จริงๆ หุบเขาอสูรจะเป็นยังไง?
คาดว่าผู้พำนักและผู้พ่ายแพ้ทั้งหมดที่กลายเป็นมนุษย์อสูรจะไม่พอเป็นพลังงานให้เขาได้ฝึกอสูรเทพหรือเปล่า?
หือ?
หลงหม่าและวีเซลหางดาบกลั้นลมหายใจ
นี่ไม่ใช่เพราะต้องระวังอสูรแร้งที่มักจะบินวนสอดแนมอยู่บนท้องฟ้าอยู่บ่อยๆ แม้ว่าเจ้าผู้นี้จะมาหาข้อมูลให้กับพญาราชสีห์ก็ตามแต่ไม่เคยกล้าบินเข้ามาใกล้ แต่จะบินเฉียดผ่านไปอย่างนุ่มนวลและรวดเร็ว ทันทีที่พบเป้าหมายบนภาคพื้น มันจะบินกลับไปทันที วีเซลหางดาบลอบมาที่ยอดไม้ แต่ไม่ได้หลอมรวมเข้ากับพื้นที่แวดล้อมทั้งหมด แค่เพียงซ่อนตัวอยู่ในผ้าคลุม
ในท้องฟ้ามีเงาสายหนึ่งพุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็วราวกับดาวตก
ด้วยสายตาของหลงหม่าและวีเซลหางดาบยังยากจะมองตามเงาร่างนี้ได้
อย่างไรก็ตามหลงหม่ากลับพบว่าเป้าหมายของเงาร่างมืดนั้นก็คือ.... ร่างของอสูรแร้ง
นั่นคือนางพญาผึ้งพิษหนึ่งในห้าจ้าวอสูรแห่งหุบเขาอสูร
เพียงแต่ไม่รู้ว่าทำไมนางพญาผึ้งพิษถึงจับเป็นอสูรแร้ง?
จับเป็นสิ่งมีชีวิตอย่างอสูรแร้ง สิ่งที่หลงหม่าและวีเซลหางดาบไม่เข้าใจก็คือทำไมนางบินไปที่ริมสายน้ำตก นางไม่กลัวคำสาปของเทพวิบัติหรือ?
“วันนี้นับว่าเป็นวันมงคล มีอาคันตุกะบางท่านมาเยี่ยมเยือน” ริมน้ำตกสายเล็กที่ไหลลงทะเลสาบ เย่ว์หยางเอาเท้าแช่น้ำใสเย็นขณะนอนผึ่งแดดอยู่บนโขดหินปล่อยให้ตั๊กแตนมัจจุราชใช้มือที่ขาวดุจแป้งนวดไหล่เป็นครั้งคราว บางคราวนางก็หยิบผลึกเท่าผลองุ่นใส่เข้าปาก
“มีอาคันตุกะมากมายหลายแบบ” นางพญาผึ้งพิษโยนอสูรแร้งที่ร่างแข็งทื่อลงบนพื้น
“อย่างนั้นท่านเป็นอาคันตุกะแบบไหน?” เย่ว์หยางยิ้มถาม
“ข้าแตกต่างจากอาคันตุกะที่รนหาที่ตายเพื่อยกระดับให้อสูรของเจ้าก่อนหน้านั้น เชื่อว่าน่าจะร่วมมือกับเจ้าได้” นางพญาผึ้งพิษบินลงมาที่โขดหินใกล้เย่ว์หยาง และวางร่างอสูรแร้งที่ร่างแข็งทื่อแต่ยังไม่ตายไว้ใกล้ๆ นางยิ้มอ่อนโยน “นี่คือของขวัญแรกพบ ข้ามอบให้เจ้า ถ้าเจ้าต้องการให้ข้าแสดงความจริงใจ ข้าจะแสดงความจริงใจมากขึ้น เจ้าสามารถเชื่อใจข้าได้ ก่อนที่อสูรของเจ้าจะกลายเป็นอสูรเทพ ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อช่วยให้เจ้าประสบความสำเร็จ!”
“ก็ได้ แต่บอกเหตุผลข้าได้ไหม?” เย่ว์หยางหัวเราะและกล่าว “แต่อย่าบอกข้านะว่า เหลยฟงผู้ทำความดีโดยไม่ต้องการสิ่งตอบแทน ก็อยู่ในหุบเขาอสูร” (เหลยฟงคือเยาวชนตัวอย่างของพรรคคอมมิวนิสต์จีน)
“ข้าต้องการเพียงสิ่งเดียว” นางพญาผึ้งพิษสีหน้าเคร่งเครียดทันที
“นั่นคืออะไร?” เย่ว์หยางถาม
ถึงขณะนี้หลงหม่าและวีเซลหางดาบลอบเข้ามาในระยะสามกิโลเมตรเพื่อให้ได้ยินถนัด
พวกเขาต้องการรู้ว่านางพญาผึ้งพิษต้องการทำอะไรกับเด็กหนุ่มนี้ จะให้สังหารพญาราชสีห์ จับจ้าวอสูรทั้งห้าชิงบัลลังก์ของพวกเขา? เอาชนะมังกรดำสองหัวที่ปกป้องผลภูมิปัญญา และเด็ดผลภูมิปัญญามาเพิ่มปัญญาให้นางเองหรือ?
ไม่ว่าจะเป็นเงื่อนไขใด เชื่อได้ว่าจะต้องเป็นข้อตกลงที่สั่นสะเทือนไปทั่วหุบเขาอสูรถึงขนาดเปลี่ยนสถานการณ์โดยรวมได้!
นางพญาผึ้งพิษลังเลเล็กน้อย
ในที่สุดนางก็พูดคำพูดคำหนึ่งที่ทำให้วีเซลหางดาบและหลงหม่าแทบโพล่งออกมา “ข้าต้องการอิสระ ของทุกอย่างข้าไม่ต้องการ ข้าต้องการแค่อิสรภาพ!”
อิสรภาพ
ของแบบนี้ไม่ได้ขาดแคลนสำหรับคนยากไร้ในแดนสวรรค์ ต่อให้เป็นนักสู้ปราณดินที่เหมือนกับมดแมลงในแดนสวรรค์ บางทีอิสรภาพของคนเหล่านี้อาจจะลดลงไปบ้างจนไม่อาจนับได้ว่าเป็นอิสรภาพที่แท้จริง แต่แม้จะเป็นอิสรภาพที่ลดลงไปแล้วก็ยังนับว่าเลิศหรูสำหรับชีวิตในหุบเขาอสูร
หุบเขาอสูรไม่มีอะไรที่ขาดแคลน
เพียงแต่ไม่มีอิสรภาพ
หลงหม่าและวีเซลหางดาบคิดว่าพวกเขาลืมคำนี้ไปแล้ว แต่เมื่อพวกเขาได้ยินพวกเขาอดหลั่งน้ำตาไม่ได้
คนเมื่อยังมีอิสระ เขาจะไม่มีทางรู้ถึงคุณค่าของอิสรภาพได้ เมื่อผู้นั้นสูญเสียไป เขาจึงจะเข้าใจถึงคุณค่าของอิสรภาพ
อิสรภาพ นี่คือสิ่งที่ทุกคนสามารถมีได้ แต่เมื่อสูญเสียไป เกรงว่าไม่ว่าอะไรก็คงไม่สามารถทดแทนได้ คุณค่าของอิสรภาพไม่มีสมบัติใดๆ มาแลกเปลี่ยนได้ และมีแต่ผู้สูญเสียอิสรภาพจึงจะเข้าใจว่าคนผู้หนึ่งอาจจะไม่มีอะไร ไม่มีเงิน ไม่มีบ้าน ไม่มีความสะดวกในชีวิต ไม่จำเป็นต้องมีอารมณ์ซาบซึ้ง หรือความรักอันลึกซึ้ง ทว่าจะขาดอิสรภาพไม่ได้
คนที่มีอิสรภาพจะไม่มีทางเข้าใจความเจ็บปวดของคนผู้สูญเสียอิสรภาพ
คนผู้พ่ายแพ้มีชะตากรรมเหมือนกับเด็กกำพร้าที่ถูกทอดทิ้ง
ต้องอยู่ในโลกอย่างเจ็บปวด อธิบายได้อย่างเดียวก็คือ มืดมิดไปหมด
เย่ว์หยางยิ้ม “ท่านคิดว่าข้าจะสัญญาได้หรือ? แม้ว่าข้าจะตอบตกลง แต่ท่านคิดว่าข้าจะหาวิธีให้ท่านได้หรือ? ที่นี่คือหุบเขาอสูร!”
นางพญาผึ้งพิษเอามือปิดหน้าสะอื้นไห้และกล่าวเบาๆ “เจ้าคือความภาคภูมิใจของเทพ ไม่มีทางรู้ว่าในช่วงหลายปีมานี้ข้าลำบากมากมายขนาดไหน หกพันปีมาแล้วที่ข้าต้องมีชีวิต จากสตรีคนดีที่ไม่เคยฆ่าใครกลายเป็นนางพญาผึ้งพิษในหุบเขาอสูร คนที่ข้าฆ่าในช่วงหลายปีมานี้มีมากมายกว่าคนที่ข้ารู้จักเกินครึ่งชีวิตหลายเท่า แต่ถึงกระนั้นในช่วงเวลาที่สิ้นหวัง ข้าไม่เคยทิ้งความโหยหาอิสรภาพออกไปจากใจข้าเลยแม้แต่ครึ่งวินาที สิ่งนี้ยังคงส่องอยู่ในใจเหมือนฟ้ายามรุ่งสาง เพื่อให้ข้าได้รับอิสรภาพทั้งบิดาข้าและสามีข้าต่างต้องล้มตายต่อหน้าข้า พวกเขาสละชีวิตเพื่อค้นหาวิธีให้ข้า และฝากความหวังไว้กับข้า เพื่อให้ข้าต้องผ่านเส้นทางเอาตัวรอดอย่างราบรื่น มารดาข้า มารดาสามีข้าต้องทอดร่างกายให้กับพวกโจรร้าย จนกระทั่งข้าแก่กล้าขึ้น เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีตัวเอง พวกท่านฆ่าตัวตายต่อหน้าข้า”
เย่ว์หยางยังคงส่ายหน้า “ข้าเห็นใจสำหรับชะตากรรมที่ขมขื่นของท่าน แต่หุบเขาอสูรมีกฎสวรรค์ประจำหุบเขาอสูร เสียใจด้วย ข้าช่วยท่านไม่ได้”
นางพญาผึ้งพิษรีบเช็ดน้ำตาและโบกมือ “เกี่ยวกับเรื่องนี้ ข้ารู้ความลับอย่างหนึ่งเมื่อหกพันปีที่แล้ว เมื่อตอนที่ข้ายังไม่แข็งแกร่งเต็มที่ ข้ากังวลทุกอย่างรอบตัว มีบุรุษผู้มีพลังดุจเทพมาบอกเงื่อนไขอย่างหนึ่งกับข้า ตราบเท่าที่ทำสัญญาภายใต้สถานะอสูรศักดิ์สิทธิ์และกลายเป็นสถานะอสูรศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นก็สามารถออกไปได้ด้วยกัน แต่ในเวลานั้นข้ายังเป็นผู้พำนักคนหนึ่ง เพราะระมัดระวังบุรุษผู้เหมือนเทพผู้นั้น ในที่สุดข้าปฏิเสธความปรารถนาดีของเขา ข้าเป็นผู้พำนักที่มีโอกาสสองครั้งในเวลานั้น..ข้าต้องฆ่าตัวตายและกลายเป็นอสูรปีศาจผู้มีพรสวรรค์ ข้าพลาดการทำสัญญาในเวลานั้น จึงต้องรอมาถึงหกพันปี!”
เย่ว์หยางถาม “ท่านจะเชื่อถือข้าได้อย่างไร? ท่านคิดว่าข้าน่าเชื่อถือนักหรือ?”
นางพญาผึ้งพิษพูดแผ่วเบา “ถ้าเป็นศัตรูกับท่านนั่นเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก ท่านไม่ใช่สุภาพบุรุษผู้มีกรุณาและนอบน้อมถ่อมตน ตรงกันข้าม แนวคิดในการฆ่าของท่านทำเหมือนกับศัตรูเป็นแค่มดแมลง ทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดหวั่นสั่นกลัวจนถึงก้นบึ้งหัวใจ อย่างไรก็ตามถ้าเป็นสหายกับท่านได้ ข้าเชื่อว่านั่นเป็นเรื่องที่โชคดีมาก เพื่อปลดเปลื้องตนเองให้เป็นอิสระ ข้ายินดีเสี่ยง ข้ายอมเชื่อท่าน ที่สำคัญท่านคือเป้าหมายร่วมงานที่ดีที่สุดในรอบหกพันปี”
“เหตุผลที่ข้าเชื่อท่านมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น” นางพญาผึ้งพิษจ้องมองตาของเย่ว์หยาง “ในวันนั้นบุรุษผู้เสมือนเทพผู้นั้น ลักษณะการหายใจของเขาคล้ายกับท่าน.. บางทีท่านอาจไม่ใช่ญาติที่เกี่ยวข้อง แต่ท่านต้องเป็นคนเหมือนกันผู้มาจากสถานที่เดียวกัน
“คนที่เจ้าพูดถึงนั้นชื่ออะไร?” เย่ว์หยางถาม
“บุรุษผู้เสมือนเทพผู้นั้นมีชื่อว่าจ้านฟง ข้าได้ยินศัตรูอื่นเรียกเขาว่าจักรพรรดิอวี้!” นางพญาผึ้งพิษไม่เคยลบชื่อและภาพในปีนั้นออกไปจากความทรงจำ
“เป็นเขาอีกแล้ว” เย่ว์หยางรู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย จักรพรรดิอวี้ผู้นี้รู้จักคนไปทุกที่ หกพันปีมาแล้ว แต่ก็ยังไม่ลืมเขา นับเป็นความทรงจำความรู้สึกที่ยาวนานจริงๆ อย่างไรก็ตามในเมื่อเกี่ยวข้องกับจักรพรรดิอวี้ เย่ว์หยางละอายใจที่จะปฏิเสธ จะบอกว่าตราผนึกประทับจักรพรรดิ เขาเอาไปใช้เป็นที่ทุบลูกเกาลัด ดาบเทพอยู่ในมือของแม่เสือสาว คทาจักรพรรดิอวี้อยู่กับเสวี่ยอู๋เสีย นั่นคือสมบัติที่ท่านผู้นั้นทิ้งไว้ให้ ถ้าไม่เห็นแก่หน้าเขาบ้าง ก็คงดูเหมือนไม่ค่อยมีเหตุผล
ก็ได้
ทำดีเพื่อคนดี!
เย่ว์หยางถามคำถามสุดท้าย “บิดามารดาท่าน และสามีของท่านตายที่นี่และยังติดอยู่และหลับใหลอยู่ที่นี่มาหกพันปีแล้ว คาดว่าสมาชิกในครอบครัวก็คงติดอยู่ที่นี่ในลักษณะเดียวกัน สนใจจะเอาออกไปด้วยไหม?”
นางพญาผึ้งพิษกระพริบตาปริบๆ ก่อนดวงตานางจะเบิกโพลง “ข้าสัญญากับพวกเขาไว้ ข้าต้องเอาเถ้ากระดูกของพวกเขาพาพวกเขากลับไปบ้านเกิดที่ภูเขา ข้ายังสัญญาไว้กับมารดา ว่าจะเอาของที่ระลึกสำคัญของตระกูลส่งมอบให้น้องสาว ส่งมอบบัลลังก์ให้นาง และให้นางเป็นผู้นำเผ่าพันธุ์ ถ้าน้องสาวข้าไม่ต้องการปกครองต่อ นางจะส่งต่อบัลลังก์ให้คนรุ่นหลัง ข้าไม่เพียงแต่แบกความหวังของสมาชิกครอบครัวเพื่อมีชีวิตต่อไปเท่านั้น แต่ในใจข้าโหยหาถึงวันที่จะได้จากไป และ ว่าวันแห่งอิสรภาพจะทำให้ข้าได้มองท้องฟ้าจากด้านนอก มองดูบ้านเกิดที่ข้าอยู่อาศัย และข้าคงตายอย่างไม่มีอะไรเสียใจ....”
ตราบใดที่มีวันได้รับอิสรภาพ แม้ตายก็ไม่เสียใจ
ประโยคนี้เย่ว์หยางนึกถึงปณิธานของจื้อจุน ทำให้อดหวั่นไหวไม่ได้
บางทีอีกฝ่ายคงว้าวุ่น เขาไม่สามารถช่วยอะไรได้ แต่เรื่องแบบนี้สำหรับความหวังและศรัทธาหกพันปี เรื่องนี้ควรค่าแก่การพิจารณา
“ฮืม..” ตั๊กแตนมัจจุราชได้ยินคำพูดของนางพญาผึ้งพิษ นางตื่นเต้นและอดร้องอย่างน่ากลัวมิได้
“....” หลงหม่าหลั่งน้ำตาเป็นสาย
ถ้าไม่ใช่เพราะกลัวเปิดเผยร่องรอย พวกเขาขบกรามแน่นเพื่อกลั้นน้ำตา
อิสรภาพ นี่คือความฝันที่ไม่กล้าคาดหวัง! หากสามารถได้รับอิสรภาพได้ ตราบเท่าที่พวกเขาใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ท้องฟ้าอย่างมีความสุข แม้ตายก็ไม่เสียใจ
ทั้งสองหลั่งน้ำตาและเข้าใจฝ่ายตรงข้ามได้เหมือนกัน พวกเขาก็ต้องการอิสรภาพ!!!