ตอนที่ 857 ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
“เจ้าขำเพราะฟันเท่านั้นน่ะหรือ? ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าตลกฟันของเจ้าเอง? นั่นมันข้าท่านตาแดง ฮ่าฮ่า หือ? หน้าของเจ้า หน้าของเจ้าทำไมมันแก่หงำเหงือกอย่างนี้!” ปีศาจค้างคาวตาแดงยังคงหัวเราะต่อไป แต่เขาพบว่ามุสิกหูโตที่ในตอนนี้แก่ชราภาพมากกำลังจะตาย ลมหายใจพร้อมจะขาดห้วงได้ทุกเวลา
“แค่ก แค่ก!” มุสิกหูโตหัวเราะและล้มลงกับพื้น
ขณะนั้นเองเสียงหัวเราะของกิ้งก่ามังกรบินดังขึ้นบ้าง
เสียงระคายหูเหมือนกับมีด
คนทั้งหมดหวาดตัวราวกับถูกลูกเห็บตกใส่
อสูรมุสิกหูโตจู่ๆ เป็นเช่นนี้ต้องมีบางอย่างผิดปกติแน่นอน
ตามข้อมูลการตายที่น่าอนาถใจของไป่อี้ แซมซันและผู้พำนักกวางขาว อสูรมุสิกหูโตคงต้องคำสาปของพลังเทพวิบัติเป็นแน่
กิ้งก่ามังกรบินคิดได้ดังนี้หลั่งเหงื่อเยียบเย็นทันที มันรีบยกเลิกความคิดจะฆ่าและรีบพูดอย่างเร่งร้อน “ฮัวตู้ (อสูรงูเหลือม) ไม่ถูกต้อง รีบถอยเร็วเข้า!”
แต่ทั่วผิวทะเลสาบว่างเปล่าและใครจะยืนยันได้ กิ้งก่ามังกรบินค้นหาอยู่ชั่วขณะพบว่านอกจากคลื่นที่ผิวทะเลสาบที่ตั๊กแตนมัจจุราชสร้างไว้แล้ว ไม่มีร่องรอยของคู่หูของเขา
บางที...
ในเวลาอย่างนี้กิ้งก่ามังกรบินกลายเป็นคนโง่ เขาไม่รู้ว่าสถานการณ์ไม่ดี
ไม่ไกลจากริมฝั่งทะเลสาบ ปีศาจค้างคาวตาแดงยังคงหัวเราะหนักขึ้นกว่าเดิม แม้ว่าปีศาจค้างคาวตาแดงจะตระหนักได้ว่ามีปัญหา แต่มันไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อย่างสมบูรณ์ ได้แต่หัวเราะหนักขึ้นในสภาพแวดล้อมที่เงียบสนิทราวกับป่าช้า เสียงหัวเราะยังคงดังลั่นต่อไป เสียงหัวเราะครั้งนี้ไม่ได้มีอาการเย้ยหยันอีกต่อไป แต่ปนเปกับความโกรธกังวลและกลัว เป็นการหัวที่เราะไม่สามารถควบคุมตนเองได้ เทียบกับการร้องไห้แล้วยากลำบากกว่าร้อยเท่า ปีศาจค้างคาวตาแดงพยายามทุบคอตนเองก็ไม่สามารถหยุดเสียงหัวเราะของตนได้ และถ้าเขาไม่หัวเราะ เสียงหัวเราะจะระเบิดปอดของเขาเป็นรูออกมาทางหน้าอก
ตั๊กแตนมัจจุราชบินขึ้นไปบนร่างอสูรมุสิกหัวตัวที่กำลังจะตาย
แม้ว่ามุสิกหูโตจะรู้ว่าเขาไม่สามารถทำอะไรได้ แต่นิสัยนักฆ่าของเขายังคงอยู่
ก่อนตายมันเงื้อกรงเล็บและฟันใส่ตั๊กแตนมัจจุราช มันตั้งใจว่าแม้จะตายก็จะลากนางไปด้วยกัน
พลังโจมตีนี้เป็นพลังงานอึดสุดท้ายของร่างกาย กรงเล็บของมุสิกหูโตกลับฟันใส่แขนดาบเคียวของตั๊กแตนมัจจุราช จากนั้นมันตายอย่างไม่ยินยอมพร้อมใจ
ศพของมันแห้งฝ่ออย่างรวดเร็ว
สายลมพัดโชยจากผิวทะเลสาบ ในเวลาไม่ถึงครึ่งนาทีอสูรมุสิกหูโตก็เหลือแต่เพียงซากแห้ง
ตั๊กแตนมัจจุราชพลิกแขนดึงเอาผลึกปีศาจมาถือไว้ด้วยความตื่นเต้น
กิ้งก่ามังกรบินมองดูสั่นสะท้าน และเมื่อตั๊กแตนมัจจุราชบุกเข้าโจมตีเขา เขาได้แต่ใช้พลังคลื่นระเบิดสู้อย่างเดียว
ในสายตาของทั้งวีเซลหางดาบและหลงหม่าประกายกากบาทสังหารขั้นสมบูรณ์แบบปรากฏอยู่หน้าตั๊กแตนมัจจุราช
มิติแยกขาด
คลื่นระเบิดของกิ้งก่ามังกรบินถูกตัดออกเป็นสี่ส่วน
ประกายสายฟ้าผ่าแรงคลื่นระเบิดแต่ไม่ได้ทำร้ายผิวกิ้งก่ามังกรบิน พลังโจมตีทั้งหมดหายไปต่อหน้ากิ้งก่ามังกรบิน ปีศาจค้างคาวตาแดงยังหัวเราะ แต่เขาสั่งให้ลูกๆ หลายแสนโจมตีตั๊กแตนมัจจุราช เขาหัวเราะจนตัวงอและพยายามหลบหนี
ตั๊กแตนมัจจุราชไวยิ่งกว่าแสงนางบินผ่านไปตามกลุ่มของค้างคาวในอากาศอย่างชาญฉลาด
หลบหลีกการโจมตีทีละตัว
และมาหยุดอยู่ต่อหน้าปีศาจค้างคาวตาแดง
เมื่อเห็นเช่นนี้วีเซลหางดาบและหลงหม่ามองหน้ากันเองและฝืนยิ้ม
ประกายกากบาทสังหารที่สมบูรณ์แบบ และท่าเท้าระบำแสง นี่คือทักษะที่ไม่เหมือนใครของวีเซลหางดาบและหลงหม่า ตอนนี้ดูเข้ากันได้ดีกับฝ่ายตรงข้าม ทั้งยังทำได้ดีเหนือกว่าผู้บัญญัติสร้างวิชานี้ขึ้นมา
เมื่อเห็นฉากภาพนี้วีเซลหางดาบและหลงหม่าอดรู้สึกขมขื่นมิได้!
ตั๊กแตนมัจจุราชไม่ต้องการฆ่ากิ้งก่ามังกรบินและปีศาจค้างคาวตาแดง นางแค่ต้องการให้เป็นเหมือนกับกวางขาว ปล่อยให้กฎสวรรค์ลงโทษทั้งสองฝ่าย ตราบเท่าที่กิ้งก่ามังกรบินและปีศาจค้างคาวตาแดงตาย ตั๊กแตนมัจจุราชจะได้รับพลังงานฝ่ายตรงข้ามภายใต้กฎสวรรค์ของหุบเขาอสูร ทำให้เลื่อนระดับก้าวหน้าได้เร็ว กวางขาวทำให้ตั๊กแตนมัจจุราชเริ่มฆ่าครั้งแรก และต่อมาก็มีการฆ่าอสูรปีศาจอีกยี่สิบตน และเมื่อครู่เพิ่งฆ่าอสูรงูเหลือมและมุสิกหูโตทั้งสองตน ซึ่งกลายเป็นแหล่งพลังงานอาหารของนาง และอนาคตข้างหน้าจะเพิ่มกิ้งก่ามังกรบินและปีศาจค้างคาวตาแดง!
ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในแผนของเย่ว์หยาง
“จงหายไปซะ ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าต้องการจะฆ่าท่านตาแดงหรือ นั่นเร็วเกินไป ฮ่าฮ่า...” ปีศาจค้างคาวตาแดงพูดหนักแน่น แต่ในใจเริ่มว้าวุ่น
มันเริ่มโจมตีอย่างบ้าคลั่ง
ทักษะโจมตีเฉพาะตัวทุกอย่าง คลื่นเสียงโจมตี การยิงแสงตาแดง ควันค้างคาว การผสานพลังโจมตีต่อเนื่องไม่หยุด อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นการกระทำที่ไร้ประโยชน์ เป็นการดิ้นรนต่อสู้เพื่อเร่งรัดความตาย เมื่อเห็นพลังโจมตีอย่างตื่นตระหนก เขาไม่ได้ใช้พลังถึงหนึ่งในสิบ ถ้าไม่ใช่เพราะตั๊กแตนมัจจุราชขวางไว้ มันต้องการบินไปหากิ้งก่ามังกรบิน
ฮ่าฮ่าฮ่า!
ค้างคาวและลูกๆ ของมันบินเข้าหาและถูกตั๊กแตนมัจจุราชฆ่าตายทีละตัว แต่ความเร็วในการเพิ่มพลังยังช้ากว่าของปีศาจค้างคาวตาแดงซึ่งอ่อนแอลงทุกขณะจนจัดการอะไรไม่ได้ในตอนนี้
มันตกลงที่ริมฝั่งทะเลสาบและพยายามใช้แขนค้ำยันตัเอง
มันเอาศีรษะจุ่มน้ำหวังว่าจะเป็นวิธีช่วยให้หยุดหัวเราะได้
บุ๋มๆๆ ผิวน้ำมีฟองผุดขึ้นต่อเนื่อง ปีศาจค้างคาวตาแดงยังอดหัวเราะไม่ได้ แม้ว่ามันจะเอาหัวจุ่มลงไปในทะเลสาบ มันหลับตาและเอาหัวมุดดิน แต่ก็ยังหัวเราะจนกระทั่งปอดเริ่มสั่น เมื่อกลั้นหัวเราะไม่ไหว เขาระเบิดเสียงหัวเราะหนักขึ้น ปีศาจค้างคาวตาแดงยืดตัวแล้วกลับบิดตัวหัวเราะไม่หยุด
ปีศาจค้างคาวตาแดงพยายามตบคอและเอาเศษผ้ายัดเข้าไปในลำคอ
จากนั้นบีบปากและจมูกด้วยกัน
ร่างของเขาหยุดได้ในที่สุด และมีการกระตุกเพราะการหัวเราะหนักขึ้น และดูเหมือนว่าจะหยุดได้ชั่วขณะ
เย่ว์หยางผิวปากปิ้งปลาจากทะเลสาบตัวหนึ่ง บางครั้งก็ใส่เครื่องเทศไม่เห็นปีศาจค้างคาวตาแดงอยู่ในสายตา ในท้องฟ้ามีค้างคาวหลายร้อยตัวร่วงตกลงราวกับฝนตก ในที่สุดความตายก็เอาชนะความบ้าคลั่งได้ ค้างคาวที่เป็นลูกๆ ของปีศาจค้างคาวตาแดงที่ไม่เคยตายในการต่อสู้ต่างหวาดกลัวการเข่นฆ่าของตั๊กแตนมัจจุราช ที่เหลือพากันทิ้งบิดาปีศาจค้างคาวตาแดง หนีออกไปอยู่ห่างๆ รอบนอก.... ปีศาจค้างคาวตาแดงต้องการลุกขึ้นและเผ่นหนี
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่มันเคลื่อนไหว อกก็ระเบิดทันที
พลังรุนแรงดันอกจนเป็นรูโลหิต
เหมือนกับว่าเป็นความเจ็บปวดที่ถูกขวางกั้นไว้ ก่อนที่จะถูกปล่อยออกมา ปีศาจค้างคาวตาแดงดึงผ้าเก่าที่อุดอยู่ลำคอออกอย่างบ้าคลั่ง ความเจ็บปวดเกินจะทนระบายออกมาทางบาดแผล
อย่างไรก็ตาม ถึงจะเอาผ้าอุดออก แต่มันก็ยังหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “ฮ่าฮ่าฮ่า ... อา... ไว้ชีวิตข้าด้วย ฮ่าฮ่าฮ่า...”
“ปีศาจตาแดงผู้ยิ่งใหญ่! เจ้าว่ากระไรนะ?” เย่ว์หยางไม่เข้าใจที่เขาพูด
“ยกโทษด้วย ฮ่าฮ่าฮ่า, ฮ่าฮ่าฮ่า...” ปีศาจค้างคาวตาแดงหัวเราะจนเลือดออกปากและจมูก
เป็นไปไม่ได้ที่มันจะหัวเราะได้อีกในเมื่องปอดของมันระเบิดไปแล้ว
ความจริงก็คือ มันไม่สามารถหยุดหัวเราะได้จนกว่าจะตาย
เย่ว์หยางหยอกล้อกับปีศาจค้างคาวตาแดง เขาพูดขณะเอามือป้องหู “เจ้าว่ายังไงนะ? พูดให้ดังกว่านี้อีก!”
ปีศาจค้างคาวตาแดงยังคงมีพลังพอจะพูดอีกมาก มันหัวเราะและตัวของมันกระตุกไปด้วยอวัยวะภายในเสียหายหนักเพราะยังหัวเราะไม่หยุดจึงไม่อาจห้ามเลือดไม่ให้ออกตามรูที่หน้าอกได้ ปีศาจค้างคาวตาแดงเช็ดน้ำตา และขณะนี้เองมันอยากจะตาย อย่างไรก็ตามสิ่งที่มันทำได้ตอนนี้ก็คือหัวเราะต่อไป และหัวเราะจนกว่าจะตาย หลังจากผ่านไปสิบนาที หัวใจของมันก็หลุดออกมานอกตัว แต่มันยังคงหัวเราะไม่หยุดทั้งที่เจ็บปวด
น้ำตาและเลือด
ผสมกัน
ถ้าให้ปีศาจค้างคาวตาแดงเลือกได้อีกครั้ง มันยอมฆ่าตัวตาย แต่ไม่ขอยอมเป็นศัตรูกับเย่ว์หยาง
อย่างไรก็ตามชีวิตของมันไม่มีโอกาสหวนคืน อย่างน้อยคนโหดร้ายที่เต็มไปด้วยบาปหนาสาหัสย่อมไม่มีโอกาสจะกลับมาได้
ขณะเดียวกันที่เขาหินเจ็ดดาวเป็นสถานที่ให้เพียงราชันย์อสูรเท่านั้นมาประชุมกัน มีอสูรนับสิบบินอยู่รอบกิ้งก่ามังกรบินที่กำลังจะตาย ขณะนั้นเองกิ้งก่ามังกรบินที่ผิวและกล้ามเนื้อเหมือนถูกมีดเฉือนหลุดออกจากกระดูก ยกเว้นกะโหลก เหลือให้เห็นแต่โครงกระดูก
“ผู้มาใหม่ร่ายคาถาว่ากระไรบ้าง?” ผู้นำอสูรอย่างพญาราชสีห์, จ้าวคางคกและเสือหน้ามนุษย์ทุกตนสงสัยสิ่งที่เกิดขึ้นกับกิ้งก่ามังกรบิน
“ไม่ ไม่ได้ร่าย ดวงตาของกิ้งก่ามังกรบินเริ่มขยายใหญ่และเอียง
“นี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่? เจ้าเป็นแบบนี้ได้ยังไง? นี่เป็นฝีมือของใคร กิ้งก่ามังกรบิน! เจ้าต้องการจะบอกอะไร? ใครเป็นศัตรู?” พญาอินทรีซึ่งกิ้งก่ามังกรบินเข้าไปพบ มองดูเขาอย่างสยดสยอง
บางทีเป็นเพราะหัวหน้าของเขามาถึง ตาของกิ้งก่ามังกรบินขยับได้ เขาได้สติก่อนตาย ก่อนจะพูดอย่างอ่อนล้า “ไม่ได้กล่าวคำพูด....”
ไม่ทันได้พูดจบ โครงกระดูกของกิ้งก่ามังกรบินหลุดร่วง และผิวหนังตรงกะโหลกศีรษะเหมือนกับถูกมีดแล่ออกไป
เลือดฉีดพุ่งกระจาย
เหลือแต่ศีรษะของกิ้งก่ามังกรบิน ต่อหน้าต่อตาหลายคน กิ้งก่ามังกรบินเหลืออยู่แต่เพียงโครงกระดูก
ความหวาดกลัวทำให้อสูรปีศาจที่ดูสังเกตการณ์อยู่ผงะถอยหลังไปสองสามก้าว กลัวว่าพวกเขาจะติดเชื้อคำสาปของเทพวิบัติไปด้วย
พญาราชสีห์กระตุ้นเตือนพญาอินทรีให้สงบใจไว้ก่อน “เมื่อเจ้าต่อสู้อยู่เบื้องหลังป้อมปราการ ยังมีผู้มาใหม่อีกคนหนึ่ง นั่นน่าจะเป็นศิษย์ของจีอู๋ลี่หรือของจงหัว ก่อนที่กิ้งก่ามังกรบินจะตาย เขาบอกว่าอสูรตาแดงกำลังติดตามเพื่อสืบทราบสถานะของผู้มาใหม่ และพี่คางคกยืนยันเช่นนี้ว่าไม่รู้ว่าเป็นสมบัติของจีอู๋ลี่หรือของจงหัว สมบัติบรรจุคำสาปที่เรียกว่ากล่องแพนดอราซึ่งมีอยู่สามชนิดคือทอง เงิน ทองแดง เขาเปิดดูด้วยตัวเองและไม่มีอะไร เขาเปิดถูกต้องตามปกติ ก็จะไม่มีอะไร เมื่อเริ่มทำงานจะพบกับพลังเทพวิบัติ ไป่อี้ตายเพราะร่างกายคายน้ำ แซมซันตายเพราะจมน้ำ กวางขาวตายเพราะระเบิด และกิ้งก่ามังกรบินบอกว่าคำสาปของมุสิกหูโตก็คือแก่อย่างรวดเร็ว
ราชินีผึ้งพิษซึ่งมีร่างเป็นผึ้งมีปีกเหมือนผีเสื้อใบหน้าเหมือนมนุษย์ที่มาด้วยส่ายหน้าถอนหายใจ ข้าไม่รู้ว่าพวกเจ้าทำไมต้องไปตอแยเขา เด็กหนุ่มนั่นให้ความรู้สึกที่น่ากลัวกับข้า เขาเหมือนกับจีอู๋ลี่และจงหัวไม่ใช่คนที่เราจะเข้าไปตอแยได้ ยังไม่ต้องพูดถึงบริวารผู้แข็งแกร่งอื่นจากตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ หมอปีศาจเว่ยจิงหลิว ราชันย์เนตรปีศาจ และราชันย์หกจักราทำให้เรารู้สึกแย่ ข้าไม่เข้าใจทำไมเราต้องไปเป็นศัตรูกับพวกเขา พวกเขาแค่ต้องการผ่านด่าน ไม่ได้ตั้งใจมาสู้กับเรา ตอนนี้เจ้าเพิ่งโจมตีและฆ่าอสูรของพวกเขาบังคับให้เขาป้องกันตัวเองและประกาศสงครามกับเรา การต่อสู้ครั้งนี้ต่อให้เราชนะ ก็เป็นชัยชนะที่น่าอนาถ!”
“ปัญหาก็คือ ตอนนี้เราหยุดไม่ได้ ฝ่ายตรงข้ามไม่ยอมหยุด” เสือหน้ามนุษย์รู้สึกว่าไม่รู้จะดำเนินการอย่างไร
“ราชันย์เนตรปีศาจ และอสูรของเขายังไม่ได้ฝึก เรายังมีโอกาส” จ้าวคางคกเป็นพวกที่โลภที่สุดในกลุ่มอสูรปีศาจ ไม่มีคนอื่น
“ถ้าไม่ใช่เพราะตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์หลานฟงและว่านม่ออยู่ด้วยพวกเขาคงตอบโต้ไปแล้ว และพวกเขาน่ากลัวที่สุดก็คือมีเจ้าตำหนักใหญ่จีอู๋ลี่อยู่เบื้องหลังพวกเขา เจ้าเด็กใหม่นั่นก็อันตรายพอกัน หัวหน้าของสามผู้พำนักบอกว่าไม่ว่าจะจัดการยังไงก็ตาม มีแต่นำความตายตามมาสถานเดียว นอกจากนี้ยังต้องกลายเป็นอาหารหล่อเลี้ยงทำให้อสูรเกิดใหม่ได้เติบโต ไม่มีความไปได้อย่างอื่น” นางพญาผึ้งพิษประกาศว่านางไม่ต้องการตอแยเย่ว์หยาง และสั่งบริวารของนางไม่ให้รุกรานเย่ว์หยางในอนาคต
“เจ้าเด็กใหม่นี่ยังไม่เคลื่อนไหวในช่วงเวลาหนึ่ง อย่างน้อยก่อนที่พวกเจ้าจะพบกับกล่องแพนดอรา จงอย่าไปตอแยเขา แต่หมอปีศาจและราชันย์เนตรปีศาจ เราต้องตามดูพวกเขาต่อไป เราต้องสร้างความแข็งแกร่งของเราให้เพิ่มขึ้น และผู้พำนักของเรามีแต่จะแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ถ้าเราไม่ต่อสู้อย่างหนัก ครอบครัวของเรามีแต่จะถูกทำลายในอนาคต” เสือหน้ามนุษย์พูดโดยไม่ลังเล
“นั่นไม่ใช่เพราะเจ้าโง่เขลา ไปตอแยจีอู๋ลี่และจงหัว ทำให้มีการบาดเจ็บล้มตายอย่างหนัก” นางพญาผึ้งพิษโมโหทุกครั้งเมื่อพูดถึงเรื่องนี้
“อย่าส่งเสียงดัง ตอนนี้เราได้เปรียบบางอย่าง” พญาราชสีห์รีบไกล่เกลี่ยอารมณ์ของสมาชิกในที่นั้น
“ใช่แล้ว, ถ้าผู้พำนักตายอีก พวกเขาก็จะไม่กลายเป็นคนของเรา! อสูรของหมอปีศาจและราชันย์เนตรปีศาจและคนอื่นตายมาถึงสองครั้ง ตราบเท่าที่พวกเขาสูญเสียคุณสมบัติในการฝ่าด่านอุปสรรค พวกเขาจะกลายเป็นบริวารของเราแน่นอน โอกาสเช่นนี้ หากพวกเจ้าพลาดไป เจ้าจะไม่มานั่งเสียใจกับตัวเองหรือ?” จ้าวคางคกพยายามโน้มน้าวอสูรปีศาจอื่นให้ร่วมมือกับตัวเขา
“ไม่ต้องห่วง เรายังมีเวลาพอ อสูรของคนพวกนี้ยังไม่เติบโตพอ แม้ว่าพวกมันจะเติบโตพอ แต่ก็ไม่ง่ายที่จะฝ่าด่านหุบเขาอสูร พวกเขาไม่ได้มีพลังเหมือนเทพอย่างที่จีอู๋ลี่และจงหัวมี” พญาราชสีห์แสดงความเป็นผู้นำและพยายามปลอบใจเหล่าอสูรที่อยู่ต่อหน้าเขา
หลังจากอสูรต่างๆ แยกย้ายจากไปแล้ว พญาราชสีห์นั่งไตร่ตรองถึงปัญหานี้
กิ้งก่ามังกรบินพูดชื่อว่ากระไรนะ? นี่เป็นประโยคคำสาปหรือประโยคที่สมบูรณ์หรือไม่
ถ้าเขาเข้าใจคำสาปที่แท้จริงนี้ได้ แล้วฆ่าเจ้าเด็กใหม่นั่น ศักดิ์ศรีฐานะของเขาจะต้องเพิ่มขึ้นมากอย่างมิต้องสงสัย! แน่นอนว่านี่เป็นเรื่องอันตรายมาก ในหุบเขาอสูร มีผู้ท้าทายฝีมือสูงส่งหลายคน พลังอำนาจของคนเหล่านั้นน่ากลัว เมื่อเข้าไปตอแยพวกนั้น ก็เท่ากับว่าฆ่าตัวตาย
ในเมื่อไม่มีความหวัง แล้วการอยู่อย่างสงบสุขยิ่งไม่ต้องพูดถึง
เกรงว่ายากจะหลีกเลี่ยงหายนะร้ายแรง
ในหุบเขาอสูรเพราะความหวาดกลัวคำสาปจากกล่องแพนดอรา คลื่นความตระหนกตกใจต่อพลังเทพวิบัติกระจายไปทั่วทุกระแหง ภายในระยะร้อยไมล์ไม่มีใครกล้าเข้ามาตอแยเย่ว์หยาง นอกจากสัตว์ป่าที่ไม่มีสติปัญญา แม้แต่วีเซลหางดาบและหลงหม่าที่ติดตามมาตลอดทางก็เพียงแต่ดูอยู่ระยะห่างๆ ไม่กล้าเข้าไปใกล้เย่ว์หยางในระยะรัศมีสิบกิโลเมตร
เวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่า
ตั๊กแตนมัจจุราชเติบโตขึ้นทุกวัน ตอนนี้ปีกหลังด้านบนของนางเพิ่มขึ้น และนางมีขนาดตัวเท่าฝ่ามือ
เพราะพลังงานของผู้พำนักกวางขาว ปีศาจค้างคาวตาแดง มุสิกหูโต อสูรงูเหลือม และกิ้งก่ามังกรดิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอสูรสี่ตนและอสูรพลังปราณกลางที่โจมตีระหว่างทางยี่สิบกว่าตน ทำให้ตั๊กแตนมัจจุราชมีพลังต่อสู้เพิ่มขึ้น และผลึกปีศาจช่วยให้ตั๊กแตนมัจจุราชมีพลังเพิ่มขึ้นราวกับภูเขาไฟระเบิด
ภายใต้การสนับสนุนที่แข็งแกร่ง ทำให้การเติบโตของนางยากที่ใครจะคาดคิดได้
ในทุกวันตั๊กแตนมัจจุราชจะมีการบรรลุพลังระดับใหม่ เข้าสู่ขอบเขตพลังใหม่ในทุกวัน
ทั่วทั้งหุบเขาอสูร นอกจากวีเซลหางดาบและหลงหม่าที่สะกดรอยตามดูตลอด ไม่มีใครรู้ว่าอสูรเกิดใหม่นั้นเติบโตก้าวหน้าเกินกว่าใครๆ
ความเร็วในการเจริญเติบโตของนางเร็วมากกว่าความเร็วในการเติบโตของผู้ท้าทายผ่านด่านอื่นๆ
มากกว่าร้อยเท่า
หรืออาจจะหลายร้อยเท่า
แม้ว่าจะมียอดฝีมือมาท้าทายในหุบเขาอสูรมากนับไม่ถ้วน แต่ความเร็วในการฝึกตั๊กแตนมัจจุราชของเย่ว์หยางต้องบอกว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ สำหรับการสะกดรอยตามของวีเซลหางดาบและหลงหม่านั้น เย่ว์หยางรู้และปล่อยละเลยพวกเขามานานแล้ว บางครั้งการปล่อยหมากชิ้นหรือสองชิ้นไว้ ก็เป็นการเล่นที่ดี เย่ว์หยางไม่เพียงแต่คิดเท่านั้น แต่ยังเอาแนวคิดนี้ไปสอนตั๊กแตนมัจจุราชด้วย
“อืม!” ตั๊กแตนมัจจุราชพยักหน้าเบาๆ
แต่ครั้งนี้ นางไม่ค่อยเข้าใจเท่าใดนัก
อย่างไรก็ตาม นางจดจำคำพูดของเย่ว์หยางไว้ในใจแล้ว
คำสอนที่ยังไม่สามารถทำความเข้าใจได้ในตอนนี้ เมื่อมีสติปัญญาเพิ่มขึ้นในอนาคต ย่อมมีความเข้าใจอย่างแจ่มชัดแน่นอน