ตอนที่ 63 ล่าหมูป่า(อ่านฟรี15/02/2566)
ตอนที่ 63 ล่าหมูป่า
เป้าหมายของพวกเขาคือหมูป่าที่ข้างริมลำธาร ผู้กองเชนค่อย ๆ เดินแยกตัวออกไป ส่วนเรนก็ยกรูนิกคันธนูขึ้นมาเล็งไปที่หมูป่า แม้หมูป่าตัวนี้จะเป็นระดับสัตว์ป่าธรรมดา แต่ขนาดตัวของมันก็ใหญ่มากจริง ๆ ดังนั้นเรนคิดว่าหนังของมันต้องหนามากกว่าหมูป่าในโลกยุคก่อนแน่นอน
เขาจึงต้องเล็งไปที่จุดอ่อนของมันอย่างดวงตา ถึงหมูป่าจะสายตาสั้นและไม่ค่อยได้ใช้ดวงตามากนัก แต่ถ้าตาถ้าตาโดนยิงจนบอดยังไงมันก็ต้องตื่นตระหนกบ้าง
เรนง้างคันธนูพลังงานก็ถูกใช้สร้างเป็นคันศร
ฟริ้ว!
ลูกศรยิงออกไปจากคันอย่างรวดเร็ว ก่อนจะปักเข้าไปที่ดวงตาของหมูป่า
อ๊ออกกกกก..........
เสียงร้องของหมูป่าดังก้องไปทั่วทั้งป่า มันร้องไม่เหมือนกับหมูบ้านทั่วไป เสียงของมันแหลมราวกับสัตว์ร้ายที่คำรามด้วยความโกรธแค้น
หมูป่าสะบัดหน้าไปมาเอาดวงตาข้างที่โดนยิงถูลากไปกับพื้น พอลูกศรหายไปมันก็เงยหน้าขึ้นมาใช้ดวงตาอีกข้างจดจ้องไปยังผู้ที่ยิงมัน
มันเห็นว่ามีมนุษย์คนหนึ่งหลบอยู่ข้าง ๆ ต้นไม้พร้อมกับคันธนู
หมูป่าฟึดฟัดด้วยความบ้าคลั่งวิ่งเข้าใส่เรน
เรนที่รู้ล่วงหน้าอยู่แล้วก็กระโจนหลบก่อนที่ตัวของมันจะได้ชนเขา
ตูม!
หมูป่าชนเข้าใส่ต้นไม้ขนาดเท่าตัวคน แต่แทนที่มันจะเป็นอะไร ต้นไม้นั้นกลับหักโคลนลง ทำให้เรนถึงกับตกใจอยู่ไม่น้อยกับพละกำลังของมัน
แต่เรนยังคงสงบเยือกเย็น ดวงตามองผ่านหลังคันธนูก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกปล่อยลูกศรยิงออกไป
ปัก!
ลูกศรยิงเข้าใส่ดวงตาอีกข้างของหมูป่า
อ๊ออกกกกก..........
หมูป่าร้องด้วยความเจ็บปวดมันใช้เขี้ยวขนาดใหญ่ของมันขวิดไปมาด้วยความบ้าคลั่ง ถ้าเป็นเมื่อก่อนสัตว์ป่าปกติคงหนีไปแล้ว แต่ว่าหลังจากที่พวกมันกลายพันธุ์ก็มีนิสัยก้าวร้าวขึ้นมาก ยิ่งมันบาดเจ็บมากก็ยิ่งบ้าคลั่ง โจมตีทุกสิ่งรอบตัว
แต่ผ่านไปสักพักหมูป่าก็พบว่ามันโจมตีไม่โดนใครจึงหยุดการเคลื่อนไหวใช้จมูกในการดมกลิ่นใช้หูในการฟังเสียง
เรนยืนอยู่นิ่งพยายามไม่ใช่ส่งเสียมากนัก ขณะที่ผู้กองเชนที่หลบออกไปตอนแรกก็โผล่ออกมาพร้อมกับค่อย ๆ ก้มไปหยิบท่อนไม้ใกล้ ๆ
ผู้กองเชนมองหน้าเรนเพื่อรอจังหวะ
เรนพยักหน้าผู้กองเชนก็ขว้างท่อนไม้ไปทางต้นไม้ใหญ่ในทันที พอหมูป่าได้ยินเสียงท่อนไม้มันก็หมุนตัวกลับหลังใช้พลังทั้งหมดวิ่งทะยานไปยังทิศทางของเสียงที่เกิดขึ้น
แต่ว่าทางนั้นไม่มีเรนหรือผู้กองเชนอยู่ จะมีก็แต่ต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ลำต้นหนากว่าตัวของหมูป่าสองสามเท่า
ตูม!!!
หมูป่าชนเข้าไปที่ต้นไม้อย่างแรงจนต้นไม้สั่นไปทั้งต้น ใบไม้หลุดร่วงลงมาราวกับหิมะในป่าสีเขียว หัวของหมูกระแทกใส่ต้นไม้ หมูป่าถึงกับร้องออกมาด้วยความมึนงง และพอมันตั้งสติรู้ตัวได้ก็พบว่าเขี้ยวคู่หน้าของมันนั้นแทงลึกเข้าไปในต้นไม้ไม่สามารถดึงออกมาได้
เรนสบโอกาสใช้รูนิกหมีดำภูเขาทันที
“จำลองพลัง” ร่างของเรนขยายใหญ่ขึ้น เรนกระโดดเข้าไปทางด้านหลังของมัน ก่อนจะใช้แขนรัดไปที่คอของหมูป่า
อ๊ออกกกกก..........
หมูป่าตื่นตกใจที่ที่โดนโจมตี และยิ่งมองไม่เห็นก็ยิ่งทำให้มันหวาดกลัว หมูป่าพยายามสะบัดเรนให้ตกลงไป แต่ว่าเขี้ยวของมันติดอยู่กับต้นไม้จึงไม่สามารถเคลื่อนไหวได้มากนัก
เรนออกแรงมากขึ้นใช้แขนขนาดใหญ่ของเขาโอบรัดคอของหมูป่าและพยายามหักคอของมัน
หมูป่าดิ้นออกมาจนหลุดในวินาทีสุดท้าย แต่ก็ไม่ทันแล้วแขนทั้งสองของเรนรัดแน่นจนหมูป่าไม่สามารถหายใจได้ กระดูกที่คอของมันมีเสียงดังกรอบแกรบ ก่อนที่เรนจะสะบัดอย่างแรงคอของหมูป่าโดนบิดหักกลับไป 180 องศาในทันที
ตุบ!
ตัวของหมูป่าฟุบลงไปกับพื้นที่ปาก ดวงตา จมูกและหูของมันมีเลือดไหลออกมา
“มันตายยัง” ผู้กองเชนรีบเข้ามาดู
“น่าจะตายแล้ว” เรนตอบ แต่แล้วเขาก็พบว่าที่ตัวของหมูป่ามีบางสิ่งลอยออกมา
มันคือไอเทมที่ปรากฏออกมาหลังจากฆ่าได้แล้ว
เรนรีบหยิบมาดูปรากฏว่ามันคือหินเติบโตและหินอัพเกรด หินเติบโตสามารถยกระดับการเติบโตของรูนิกได้ ส่วนหินอัพเกรดนั้นสามารถยกระดับพลังรูนิกได้
“คนละครึ่ง” เรนโยนหินอัพเกรดให้กับผู้กองเชน ส่วนเขาเก็บหินเติบโตไป
ผู้กองเชนรับมาและพยักหน้าขอบคุณ ก่อนจะกล่าวขึ้นมาว่า “พามันกลับไปที่พักกันก่อนเถอะ”
“ผมจะแบกมันเอง” เรนกล่าว เขาลุกขึ้นและกำลังจะยกหมี
แต่ตอนนั้นเองผู้กองเชนก็เหมือนหันไปเห็นรอยที่พื้น
“มาดูนี่สิ” ผู้กองเชนชี้ไปบนพื้น
เรนเดินเข้าไปดู เขาพบว่าที่พื้นนั้นมีรอยเท้าของสิ่งมีชีวิตขนาดประมาณ 1 ไม้บรรทัด แถมยังมีรอยลากยาวไปกับพื้นตรงไปที่ลำธาร ก่อนที่ลอยจะหายไป
“คิดว่าตัวอะไร” เรนเอ่ยถามผู้กองเชน
“ไม่รู้เหมือนกัน แต่คงไม่ใช่ตัวที่เป็นมิตรนัก” ผู้กองเชนกล่าว เขาไม่อยากจะคิดว่ารอยเท้าสัตว์ตัวนี้ใหญ่ขนาดนี้แล้วตัวของมันจะใหญ่แค่ไหน
“ไปกันก่อนเถอะ เอาหมูตัวนี้ไปให้หมออลันแล้วถ้าเนื้อมันกินได้ เราค่อยเข้ามาใหม่ ถึงเวลานั้นมาตรวจสอบอีกทีว่าเจ้ารอยเท้านี่ยังปรากฏออกมาอีกใหม่” เรนบอก
...
โรงเลื่อยไม้
ตูม!
หลินที่พึ่งเดินออกมาจากโรงนอนก็ได้ยินเสียงดังมาจากลานกว้างด้านหน้า เธอรีบไปดูก็พบว่าใจกลางลานมีหมูป่าสีดำตัวใหญ่ถูกเรนที่แบกมาด้วยคนเดียวโยนลงมาที่พื้นดิน
ทุกคนในค่ายรีบวิ่งออกไปดูกันและมีสีหน้าตกใจเหมือน ๆ กับหลิน
เรนกลับมาร่างมนุษย์ก่อนจะเดินเข้ามาพูดกับหมออลันว่า “ใช้ได้ไหม”
“เออ ได้ ๆ ว่าแต่พวกนายสองคนล่ามันมายังไง” หมออลันถามด้วยความสงสัย
“ส่วนใหญ่เป็นฝีมือของเรน ส่วนฉันช่วยนิดหน่อย” ผู้กองเชนตอบไปตามตรง
“หักคอมัน” เรนตอบกลับไป
หมออลันดูจะตกใจ เพราะไม่คิดว่าเรนจะมีความแข็งแกร่งของเรนจะทรงพลังขนาดหักคอหมูป่าด้วยมือได้แล้ว
“ผ่ามันเลยเถอะ” หมออลันขยับมืออยู่ไม่นิ่ง เขาอยากจะแยกหมูป่าตัวนี้แล้วพิสูจน์สมมุติฐานของเขาแล้ว
“เดี๋ยวก่อนที่นี่เลยไม่ได้กลิ่นเลือดมันจะดึงดูดพวกตัวอันตรายมา” หลินรีบตะโกนห้าม
“หาที่อื่นเถอะหมอ” เรนกล่าวขึ้นมา
“ไปที่โรงเลื่อยไม้เป็นยังไง” ลุงบุญกล่าวขึ้นมา
“ก็ดี” หมออลันตอบตกลง
“เดี๋ยวแบกเข้าไปให้ ไปเตรียมสถานที่ก่อน” เรนกล่าว
หมออลันและคนอื่น ๆ รีบเข้าไปช่วยกันเตรียมโรงเลื่อยไม้ พวกเขารีบเข้าไปเตรียมที่และหาถังขนาดใหญ่มาไว้ ก่อนจะให้เรนยกหมูป่าเข้าไปด้านใน
หมออลันเป็นคนลงมือผ่าหมูป่าตัวนี้ ตอนนั้นไอราก็เข้ามาขอเป็นผู้ช่วย ดูเหมือนว่าหลังจากช่วยทำแผลของรินดาและลี ไอราก็สนใจการเป็นหมอขึ้นมา
ซึ่งอลันก็ยินดีสอนเธอในหลาย ๆ อย่าง เพราะต้องการผู้ช่วยคอยช่วยเหมือนกัน
อีกคนที่สนใจอยู่ดูคือผู้กองเชน ส่วนคนที่เหลือนั้นแยกกันออกไปทำงานของตนเอง
เรนหาที่เงียบ ๆ ดูดซับพลังงานในหินพลังงาน รอไม่นานพลังงานของเขาก็กลับมาเต็มเหมือนเดิม ตอนนั้นเรนก็ได้ยินเสียงตอกตะปูมาจากทางด้านหลังเขาจึงเดินไปดูก็พบว่าลุงบุญและลีกำลังช่วยกันทำรั้วไม้อยู่
“รั้วเป็นยังไง” เรนเดินเข้ามาถาม
“รั้วด้านหน้านั้นเสริมเสร็จแล้ว แต่ด้านหลังต้องขยายออกไปหน่อย เพราะเราควรสร้างห้องนอนแยกออกมาด้วย แล้วก็สร้างตรงนั้นไว้เป็นห้องเก็บของ ที่ตรงนี้ควรเว้นว่างไว้เผื่อสร้างอะไรในอนาคต” ลุงบุญกล่าว เหมือนว่าเขามีความคิดในการขยายที่นี่ออกไปให้กว้าง เพราะถ้าจะอยู่กันจริง ๆ พื้นที่แค่โรงนอน โรงเลื่อยไม้และโกดังเก็บไม้คงไม่พอมันเล็กเกินไป
เรนเองก็เห็นด้วย เขาจึงเข้าไปช่วย
“มีอะไรให้ผมช่วยไหม”
“ช่วยขุดหลุมเพื่อปักเสาไม้พวกนี้ก็แล้วกัน ฉันกับลีคงขุดไม่ไหว” ลุงบุญกล่าว
ลุงบุญนั้นอายุมากแล้ว ส่วนลีนั้นยังคงเจ็บขาแม้จะมาช่วยงานได้ แต่ก็ยังไม่หายดีมากนัก
เรนพยักหน้าตกลง ก่อนจะจับเอาเสียมมาและเริ่มขุดหลุมตามแนวที่ลุงบุญวางเอาไว้ ขนาดของหลุมที่เรนต้องขุดนั้นกว้างประมาณ 70 เซนติเมตรและลึกประมาณ 1.5 เมตรที่ต้องกว้างและลึกแบบนี้ เพราะเสาที่ลุงบุญเอามาใช้นั้นเป็นท่อนไม้ขนาดใหญ่และสูงกว่า 2.5 เมตร มันใช้สำหรับกันพวกผู้ติดเชื้อ อย่างน้อยก็กันไม่ให้มันพังรั้วหรือปีนข้ามมาได้
หลังจากขุดหลุมไปจนถึงบ่าย ๆ หลินก็เดินเอาอาหารและน้ำมาให้พวกเขาได้พักกินของว่างกัน ระหว่างนั้นเรนก็ถามเธอว่า
“อาการรินดาเป็นอย่างไรบ้าง”
“เธอลุกขึ้นมานั่งได้แล้ว แต่ยังคงเจ็บแผลอยู่เป็นระยะ”
“แล้วเด็กคนนั้นละ”
“มินนา เธอคอยดูแลรินดาไม่ห่างเลย เรนอาหารกับน้ำและโดยเฉพาะยาของพวกเราเหลือไม่มากแล้ว ฉันว่าเราควรไปหาตามบ้านแถว ๆ นี้มาตุนไว้เป็นเสบียง” หลินกล่าวขึ้นมา
เรนได้ยินก็เงียบ เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย ดูเหมือนปัญหาหลัก ๆ คือ น้ำที่มีอยู่อย่างจำกัด แถมน้ำตามธรรมชาติก็ปนเปื้อนไปหมดแล้วด้วย
“ไว้พรุ่งนี้เราค่อยไปกวาดเอาของในบริเวณรอบ ๆ กันก็แล้วกัน” เรนบอกกับเธอ
หลินพยักหน้าตกลง
ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกันอยู่ ตอนนั้นเองผู้กองเชนก็เดินมาเรียกเรน
“เรน ได้เรื่องแล้ว”
“ใช้ได้ใช่ไหม” เรนถามกลับ
“นายมาดูเองก็แล้วกัน” ผู้กองเชนกล่าว
เรนรีบลุกขึ้นและไปดูหมูป่าตัวนั้นในทันที
“ฉันไปด้วย” หลินรีบลุกและตามไป
ลุงบุญกับลีมองหน้ากัน สุดท้ายด้วยความอยากรู้อยากเห็นจึงตามไปดูด้วย