บทที่ 899 (20) ความสัมพันธ์ไปไกลกว่า(ตอนฟรี)
บทที่ 899 (20) ความสัมพันธ์ไปไกลกว่า
เมื่อนึกถึงความสำเร็จที่จะมาถึง คุณชายหรงก็อดไม่ได้ที่จะภาคภูมิใจและฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี “ทรงอย่างแบด ♫ แซดอย่างบ่อย เธอไม่อินกับผู้ชายแบดบอย♪~!”
ในเวลานี้ ชายวัยกลางคนที่กำลังเดินลงมาจากชั้นบนได้ยินคุณชายหรงร้องเพลงก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “คุณชายหรง อารมณ์ดีแต่เช้าเลยนะ มีเรื่องอะไรดีๆเกิดขึ้นงั้นหรือ?”
“เรื่องดีแน่นอน!” คุณชายหรงพูดด้วยรอยยิ้ม “เหล่าหวาง ลองทายดูสิว่าฉันเชิญใครมาที่นี่?”
“หืม?!”
เหล่าหวางอดไม่ได้ที่จะตกใจ จากนั้นก็ส่ายหัวและพูดแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ฉันเดาไม่ออกหรอก แต่ดูเหมือนว่าคงเป็นคนสำคัญ ถึงได้ทำให้คุณชายหรงมีความสุขขนาดนี้!”
“คนสำคัญแหงๆอยู่แล้ว! เพราะเราจะได้สูตรลดความอ้วนคังหยวนหรือไม่ก็ขึ้นกับคนๆนี้แหละ!” คุณชายหรงยิ้มอย่างภาคภูมิใจ
“คุณชายหรง! ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่าคุณเชิญใครบางคนจากโรงงานเซียวมางั้นเหรอ?” เหล่าหวางตกใจ เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดอย่างลังเล “คุณชายหรง นี่ไม่ใช่สิ่งที่คุณสามารถทำได้ตามใจชอบนะ! คุณก็เห็นมาแล้วไม่ใช่เหรอว่าแม้แต่คนสกุลชูจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาก็ยังไม่กล้าที่จะยุ่งกับโรงงานเซียว แค่นี้ก็น่าจะรู้แล้วว่าโรงงานเซียวมีภูมิหลังอยู่บ้าง และที่มากกว่านั้น พวกเขายังสามารถติดต่อกับนายกเทศมนตรีและเลขานุการเมืองเจียงโจวได้! เราต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังให้มากที่สุด!”
“เฮ้อ!”
คุณชายหรงโบกมือแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “เหล่าหวางไม่ต้องกังวลให้มากนักหรอก คุณระแวงมากเกินไป ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งนั้นแล้ว รองผู้อำนวยการชูและผู้อำนวยการต้วนมันเป็นพวกไร้ประโยชน์ เหล่าหยานก็อีกคน เป็นถึงรองนายกเทศมนตรี แต่ทำงานไม่ได้เรื่อง ทนแรงกดดันของหลี่เป่าหยวนไม่ได้เลย! พูดถึงเรื่องนี้แล้วก็โมโห!”
เหล่าหวางได้แต่ยิ้มอย่างฝืนๆ แต่ไม่รู้ว่าจะพูดว่าอะไร
รองนายกเทศมนตรีหยานเป็นคนรุ่นใหญ่ในเจียงโจว ยิ่งไปกว่านั้น ว่ากันว่าเขาเป็นคนของตระกูลอู๋ แล้วมันจะเป็นไปได้ยังไงที่นายจะสามารถใช้งานเขาได้ตามต้องการ?
ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นแก่พี่เขยของนาย พวกเขาคงไม่เห็นนายอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ!
เหล่าหวางวนเวียนอยู่ในแวดวงธุรกิจมานาน สำหรับความซับซ้อนในโลกของธุรกิจ เขามีความรู้กว้างขวางมากกว่าคุณชายหรงอย่างไม่ต้องสงสัย หลายสิ่งหลายอย่างไม่สามารถตัดสินได้แค่เพียงมองเห็นจากพื้นผิวภายนอก!
ดูผิวเผิน พี่เขยของคุณชายหรงนั้นทรงพลังก็จริง แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาเป็นคนที่ห่างไกลออกไปอีกหนึ่งระดับ และรองนายกเทศมนตรีหยานก็ไม่ใช่ตัวละครเล็กๆ แม้แต่ตระกูลอู๋ก็ยังต้องปฏิบัติต่อเขาแตกต่างออกไป บุคคลเช่นนี้ไม่ใช่บุคคลที่คุณชายหรงจะสามารถแสดงความคิดเห็นลับหลังมั่วซั่วได้
อย่างไรก็ตาม แม้เขาจะคิดเช่นนั้นในใจ แต่เหล่าหวางก็รู้ว่าเจ้านายของเขายังคงเอ็นดูน้องชายของเธอมาก อีกอย่างเขาเป็นแค่คนงานจะไปเสนอความเห็นต่างสู้ความสัมพันธ์ของพี่น้องได้อย่างไร?
เหล่าหวางจึงได้แต่คิดในใจและไม่ได้พูดอะไรออกไป อย่างไรก็ตาม เขาตัดสินใจที่จะบอกเจ้านายเกี่ยวกับเรื่องนี้
อย่างน้อยเขาก็ตระหนักได้ว่าการจับกุมบุคคลสำคัญของโรงงานเซียวเป็นเรื่องใหญ่ และถ้ามันทำให้พวกเขาโกรธ มันจะเกิดปัญหาที่แก้ได้ลำบากเมื่อถึงเวลานั้น
คุณชายหรงก็แค่สะบัดตูดทิ้งภาระให้คนเบื้องล่างจัดการ แต่เขายังคงต้องทำงานและพัฒนาตลาดในเจียงโจวต่อไป
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เหล่าหวางก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “คุณชายหรง ฉันคิดว่าคุณควรจะรายงานเรื่องนี้ให้เจ้านายทราบ อย่างน้อยการปรึกษาหารือกันหลายๆคนก็น่าจะปลอดภัยและมีทางออกได้มากกว่า คุณคิดเห็นอย่างไร?”
“ฮ่าๆ! โอเคๆ เหล่าหวาง ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ต้องกังวล ตอนนี้พี่สาวของฉันรู้เรื่องแล้ว” คุณชายหรงโบกมือและหัวเราะอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังขึ้นเล็กน้อย “แล้วความคืบหน้าของสำนักงานเป็นยังไงบ้าง?”
เหล่าหวางยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “คุณชายหรง เทศกาลวันตรุษจีนเพิ่งผ่านพ้นไป และทุกคนยังคงอยู่ในช่วงวันหยุดพักผ่อน ตอนนี้เราเพิ่งได้รับการยืนยันเรื่องที่ตั้งของสำนักงาน งานเฉพาะยังไม่ได้เริ่ม คุณสามารถเริ่มขั้นตอนต่อไปได้หลังจากวันหยุดสิ้นสุดลงและเป็นวันแรกที่ทุกคนกลับมาทำงาน”
“อืม!” คุณชายหรงพยักหน้า “อย่าหาว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะเหล่าหวาง อันที่จริงเรื่องของสำนักงานมันเป็นเรื่องที่ควรจะเร่งรีบมากกว่านี้ เราต้องพยายามเปิดตัวให้เร็วที่สุดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดโดยเร็ว ด้วยวิธีนี้เราจะได้เอาความสำเร็จไปรายงานพี่สาวของฉันได้ยังไงล่ะ นอกจากเราจะได้ผลประโยชน์แล้ว พี่สาวของฉันก็จะได้หน้าไปด้วย จริงมั้ย?”
“เข้าใจแล้ว ฉันจะเร่งให้เร็วขึ้น” เหล่าหวางพยักหน้าและกล่าว
“โอเค งั้นเหล่าหวางก็ไปทำงานเถอะ ฉันจะรอรับสูตรยาอยู่ที่นี่ แล้วเราทั้งสองคนก็จะประสบความสำเร็จไปพร้อมๆกัน ฮ่าๆๆ!” คุณชายหรงหัวเราะเบาๆ
เหล่าหวางพยักหน้าด้วยรอยยิ้มที่ค่อนข้างฝืนและกล่าวว่า “ตกลง ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวไปทำงานก่อน... คุณชายหรง ยังไงก็ตาม อย่าได้ประมาท ให้ความสนใจกับปัญหาด้วย ไม่อย่างนั้นมันจะยากสำหรับเราในเจียงโจว”
“รู้แล้วๆ ไม่ต้องห่วง!” คุณชายหรงโบกมือ
คุณชายหรงผู้นี้เย่อหยิ่งและจองหองเกินไป เจียงโจวไม่ใช่เขตเมืองเล็กๆ แต่เจียงโจวเป็นมหานครระดับประเทศ แม้ว่าจะมีความแตกต่างอยู่บ้างหากเทียบกับหยานจิง แต่ถ้าบวกลบคูณหารข้อดีข้อเสียทั้งหมดแล้ว ก็ถือว่าอยู่ในระดับเดียวกัน เจ้านายพูดอยู่หลายครั้งว่าเจียงโจวเป็นเมืองที่มีความซับซ้อน เส้นสายต่างๆนั้นลึกยิ่งกว่าแม่น้ำ แต่คุณชายหรงนั้นช่างไร้ยางอาย เขาสามารถทำทุกอย่างแค่เพียงเพราะเขาต้องการ!
เหล่าหวางอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจเบาๆ ‘ตอนนี้ฉันได้แต่หวังว่าคุณชายหรงผู้นี้จะเข้าใจสถานการณ์โดยรวมขึ้นมาบ้าง เพราะถึงแม้ว่าโรงงานเซียวจะไม่ได้มีภูมิหลังที่ยิ่งใหญ่มากนัก แต่ด้วยศักยภาพที่ดีเยี่ยมจนเข้าตาเลขาธิการและนายกเทศมนตรีเจียงโจว หากเกิดอะไรขึ้น ฉันก็ไม่รู้จะอธิบายเรื่องนี้กับเจ้านายอย่างไร!’
เหล่าหวางส่ายหัวเล็กน้อยและยิ้มอย่างขมขื่นและขับรถออกไปจากวิลล่า เขารู้ว่าเขาไม่สามารถควบคุมคุณชายหรงได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงแค่หลับหูหลับตาและไม่สนใจ
ยิ่งไปกว่านั้น เจ้านายของเขาก็รู้เรื่องนี้แล้ว แต่เธอก็ไม่ได้ห้าม ดังนั้นเขาจึงไม่มีสิทธิ์พูดอะไรมากไปกว่านี้
...............
มันเป็นวันที่เจ็ดของปีใหม่ทางจันทรคติ และจี้เฟิงซึ่งอยู่ในหยานจิงมาเกือบยี่สิบวันกำลังเตรียมตัวกลับไปที่เจียงโจว
ในแง่หนึ่ง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในเจียงโจวทำให้จี้เฟิงรู้สึกกระวนกระวาย และไม่ค่อยมีสมาธิกับตัวเองนัก ใจเขาต้องการจะกลับไปดูว่าใครคือคนที่สร้างปัญหา
แต่ในทางกลับกัน เป็นเพราะจี้เฟิงรู้สึกผิดเล็กน้อย
วันก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นวันที่หกของปีใหม่ จี้เฟิงไปที่ซื่อเหอหยวนของผู้อาวุโสจี้อีกครั้ง หลังจากเสร็จสิ้นเรื่องเล็กๆน้อยๆอื่นๆ ในเมื่อเขาตั้งใจที่จะกลับเจียงโจว เขาจึงต้องเข้าไปทักทายและกล่าวลากับผู้อาวุโสจี้เสียก่อน
จี้เฟิงเชื่อว่าคุณปู่ของเขามีบางอย่างที่ต้องการจะพูด สุดท้ายแล้ว ด้วยวัยที่โตขึ้น ในปีนี้เขาได้ไปเยี่ยมเยียนเข้าหาผู้อาวุโสหลายคนเพื่ออวยพรปีใหม่ จากน้ำเสียงของผู้อาวุโสเหล่านั้นที่พูดกับเขา จี้เฟิงสามารถบอกได้ว่าอีกฝ่ายมองเห็นเขาเป็นคนหนุ่มที่โตพอแล้ว และตัวเขาได้ค่อยๆเข้าไปอยู่ในสายตาของคนเหล่านี้ แต่กลับไม่ได้รับความสนใจ
ในอดีต ผู้หลักผู้ใหญ่ในตระกูลจี้สร้างความพึงพอใจให้กับเหล่าผู้อาวุโสด้วยการทำตัวให้อยู่ในกฎระเบียบและทัศนคติของการเรียนรู้ และไม่มีอย่างอื่นอีก
แต่ในปีนี้มันต่างออกไปเล็กน้อย เพราะนอกจากจะใส่ใจเรื่องการเรียนแล้ว พวกเขายังกล่าวถึงเรื่องนอกประเด็นอีกด้วย นี่คือการแสดงให้เห็นว่ากฎเกณฑ์มาตรฐานมันค่อยๆเปลี่ยนไปและดูเหมือนจะสูงขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนว่าต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าที่ความสามารถอันโดดเด่นของจี้เฟิงจะได้รับการยอมรับจากคนเหล่านี้
ในความเป็นจริง ไม่ว่าคุณจะเป็นทายาทรุ่นที่สามหรือคนธรรมดาในตระกูลจี้ ตราบใดที่คุณไม่ประสบความสำเร็จ คนเหล่านั้นก็จะไม่เห็นคุณอยู่ในสายตา
ในความเป็นจริง ไม่ต้องพูดถึงผู้อาวุโสคนอื่นๆ หากจี้เฟิงยังไม่โตพอและไม่ประสบความสำเร็จ แม้แต่จี้เจิ้นหัวพ่อของเขาก็ยังไม่สนใจเขา สุดท้ายแล้วก็คงจะปล่อยเขาให้เป็นอิสระและเลือกทางเดินด้วยตัวเอง ตราบใดที่เขาไม่สร้างปัญหา และไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ก็จะไม่มีใครยุ่ง
อันที่จริงต้องบอกว่าเขาแทบจะกลายเป็นคนไร้ตัวตนในสารระบบของตระกูลจี้ จะเหมือนกับว่าไม่มีทายาทตระกูลจี้เป็นคนๆนี้ ก็แค่ไปใช้ชีวิตในฐานะลูกเขยของใครสักคนและมีความสุขไปตลอดชีวิต สิ่งนี้ก็ถือว่าเป็นการจบที่แฮปปี้เอนดิ้งเช่นกัน
แต่โชคดีที่จี้เฟิงไม่ใช่คนไม่เอาไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระทำของเขาในมณฑลเจียงซู เจ้อเจียงและหางโจวเมื่อหลายปีก่อน ควบคู่ไปกับการดำเนินงานของจี้เจิ้นหัว และรุ่นใหญ่คนอื่นๆในตระกูลจี้ทำให้พลังของตระกูลจี้เข้าสู่เจียงโจวอย่างเป็นทางการ และเมื่อตัดสินจากสถานการณ์ในปัจจุบันพวกเขายังคงมีการดำเนินการอีกหลายอย่างสำหรับอนาคต ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมาก
ในความเป็นจริง มันเป็นเพราะเหตุนี้เองที่ผู้อาวุโสจี้มีความสุขมากที่เห็นว่าทายาทตัวน้อยของตระกูลจี้ไม่ใช่เด็กธรรมดา
ผู้นำจี้เจิ้นหัวมีผู้สืบทอดที่ดี แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องมีความสุขโดยธรรมชาติ และพวกเขาจะให้ความสำคัญกับจี้เฟิงมากขึ้น
ถ้าจี้เฟิงไปหาคนเหล่านั้นในเวลานี้เพื่อทำอะไรบางอย่าง แน่นอนว่ามันจะง่ายกว่านี้มาก
อย่างไรก็ตาม จี้เฟิงไม่ได้วางแผนที่จะไปหาคนเหล่านั้น... ประการแรก เขายังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันที่เขารู้สึกว่าประสบความสำเร็จได้มากพอ และประการที่สอง เขารู้ตัวดีว่าเขาไม่ได้โตถึงระดับนั้น เขายังไม่สามารถพูดคุยกับบุคคลเหล่านั้นได้โดยตรง
ดังนั้น ก่อนที่จี้เฟิงจะจากไป เขาจึงตรงไปที่ซื่อเหอหยวนของผู้อาวุโสจี้ การรับฟังประสบการณ์และคำสั่งสอนของผู้อาวุโสจี้มีประโยชน์ต่อเขามาก
“คุณปู่ ผมเซียงหยงซาน ขออวยพรให้คุณปู่มีสุขภาพที่ดีและอายุยืนยาว!” โดยไม่คาดคิด ทันทีที่จี้เฟิงเดินมาถึงลานที่สอง เขาก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังมาจากข้างใน นั่นคือเซียงหยงซาน!
เขาอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลจี้และตระกูลเซียงจะก้าวหน้าไปอีกครั้ง เขาไม่เคยได้ยินว่ามีคนจากตระกูลเซียงมาอวยพรปีใหม่มาก่อน
จี้เฟิงไม่รีบร้อนที่จะเข้าไปข้างใน แต่เดินเข้าไปในลานที่สองด้วยท่าทีครุ่นคิด ‘เซียงหยงซานมาอวยพรปีใหม่ให้คุณปู่ นี่ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี และมันอาจจะเป็นไปได้ด้วยว่าความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลจี้และตระกูลเซียงใกล้จะเป็นทองแผ่นเดียวกันแล้ว?’
‘ถ้าอย่างนั้น ฉันจะช่วยเพิ่มเชื้อไฟเพื่อทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองฝ่ายดำเนินต่อไปให้ไกลขึ้นดีหรือเปล่า...’ จี้เฟิงอดคิดไม่ได้ การที่จะจัดการกับหวางฉาว ความร่วมมือกับเซียงหยงซานยังคงจำเป็น ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างทั้งสองตระกูลจะเอื้ออำนวยต่อทั้งสองฝ่ายเป็นอย่างมาก... ยังไงก็วินวิน!
.…จบบทที่ 899 ~