บทที่ 19: ปลาสวยงามราคาแพง! กลายเป็นเศรษฐีในทันใด!
ปลาเสือตอเผือกป่า?
ฉินหลินรู้เรื่องตะเพียนป่า ปลาเฉาป่า และปลาคาร์ปดำป่า
ส่วนพวกปลาสวยงามนั้นเกินความเข้าใจของเขาไปเลย
ทุกครั้งที่เขาเห็นปลาสวยงามราคาแพงที่คนอื่น ๆ เลี้ยงกันอย่างพิถีพิถัน ความคิดแรกของเขาคือถ้าเอาไปผัดแล้วรสชาติมันแตกต่างกันมะ?
เขารู้สึกว่าคนเหล่านั้นเสียค่าโง่กันเยอะจัดจริง ๆ
แล้วตอนนี้ปลาสวยงามราคาแพงดังกล่าวนั้นมาอยู่ในมือ จากนั้นก็หยิบมือถือออกมาเสิร์ชหา
ปลาเสือตอเผือกเป็นเป็นปลาเสือชั้นยอดของปลาเสือสายพันธุ์อินโดนีเซีย ลักษณะเด่นคือมีสีน้ำตาลขาวเป็นประกายสวยงามมาก
ยิ่งเป็นปลาป่าตามธรรมชาติคือการเสี่ยงโชคล้วน ๆ เหมือนกับเจอผู้หญิงสวยเพราะแต่งหน้ากับผู้หญิงสวยตั้งแต่หน้าสด ผู้หญิงสวยธรรมชาติกับผู้หญิงสวยเพราะศัลยกรรมเสริมความงาม
แน่นอนว่าไอ้ความหายากนี่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ สำคัญคือราคาของมันต่างหากที่ทำให้เขาตะลึง
เพราะปลาดังกล่าวมีราคาตัวละ 600,000 หยวน? พอ ๆ กับราคาของ BMW 5 Series ตัวท็อป?
สำหรับคนธรรมดาอย่างเขาการที่ปลาตัวหนึ่งมันจะมีราคาพอ ๆ กับ BMW 5 Series ตัวท็อปนี่มันโคตรเหลือจะเชื่อเลย!
ที่สำคัญไอ้เจ้าปลานี่มันมีราคาแต่ไม่มีตลาดงั้นเหรอ? พอโผล่มาปุ๊บจะถูกทาสปลาฉกไปปั๊บ สงสัยทาสปลาพวกนั้นมันจะมีเงินเยอะแต่ไม่มีที่ใช้ล่ะมั้ง
ฉินหลินรีบเข้าโลกในเกมพร้อมกับความรู้สึกอึ้งเก็มกี่มองปลาที่คนแคระให้มา ‘ปลานี่มันขายได้แพงเบอร์นั้นเลยจริงดิ?’
ปลาตัวเดียวแพงกว่าเงินที่เขาได้จากการขายแตงโม สตรอว์เบอร์รี่ และกระเจี๊ยบเขียวทั้งหมดที่ผ่านมาอย่างยากลำบาดเลยเชียวนะ!
[ปลาเสอตอเผือกป่า: เลเวล 2!]
[เป็นปลาที่สวยงามมาก หน้าตา +2, รสสัมผัส +2, อร่อย +2, ความอยากซื้อ +2!]
น่าอร่อยจริง ๆ ด้วย~
แม้เขาจะคิดว่าคนที่ใช้เงินหกแสนซื้อปลาตัวนี้จะหัวสมองผิดปกติไปแล้วก็ตาม แต่ตอนนี้คนแรกที่เขาอยากเจอก็คือคนที่หัวสมองผิดปกติที่ว่านั่นแหล่ะ
ถ้าให้เลือกปลากับเงินหกแสน ฉินหลินเลือกเงินหกแสนชัวร์อยู่แล้วไม่ต้องถามเลย
แต่ก็ไม่รู้จะขายให้ใคร แม้ว่าจะต้องโดนปล้นแต่ก็ไม่รู้อีกว่าจะทำยังไงให้โจรมันรู้ว่าเขามีปลา
คิดไปคิดมาก็ตัดสินใจเอาภาชนะใส่ปลาเสือตอเผือกป่าออกจากเกมแล้วเรียกแท็กซี่ก่อนจะอุ้มปลาขึ้นรถอย่างระมัดระวัง
ในอำเภอโหยวเฉิงมีร้านขายปลาสวยงามอยู่เหมือนกัน ร้านที่เขาจะไปนั้นแน่นอนว่าไม่มีหรอกไอ้ปลาตัวละเป็นแสน ๆ น่ะ ที่แพงสุดจะมีก็แต่ตัวละไม่กี่ร้อยเท่านั้น
ถึงกระนั้นหากอยากหาลู่ทางการขายมันก็ต้องร้านขายปลาสวยงามใช่มั้ยล่ะ?
และเมื่อคิดได้ว่าตัวเองกำลังถือเงินหกแสนมีชีวิตอยู่ในมือฉินหลินก็บอกกับคนขับว่า “พี่ครับ ๆ ช่วยขับช้า ๆ หน่อยนะครับ ไม่อยากให้ปลาตกใจ”
“…” คนขับมองฉินหลินผ่านกระจกมองหลังและรู้สึกเหมือนได้พบกับผู้โดยสารแปลก ๆ อีกคนแล้ว
ก็แค่ปลาตัวเดียวจะต้องเลี้ยงดูปูเสื่อปานนั้นเชียว? แล้วในเมืองแบบนี้จะขับเร็วขนาดไหนได้อีก? อย่างมากก็เร็วกว่าซาเล้งนิดเดียว
แน่นอนว่าคนขับย่อมไม่รู้ว่าปลาที่ฉินหลินเอามานั้นราคาพอ ๆ กับ BMW 5 Series ตัวท็อป ไม่งั้นเขาคงไม่ยอมขับให้หรอก
หลังจากนั้นไม่นานฉินหลินไปถึงร้านที่ชื่อร้านปลาสวยงามฮุ่ยหม่าย เมื่อเข้าร้านไปก็เห็นมีชายคนหนึ่งกำลังผิวปากอย่างเบิกบานใจโดยมีตู้ปลาที่ไม่รู้เหมือนกันว่าใส่ปลาอะไรไว้บ้างล้อมรอบเต็มไปหมด
หมอนี่ดูจะอ่อนโยนกับปลามากกว่าเมียตัวเองด้วยซ้ำไปมั้ง
“เถ้าแก่อยู่มั้ยครับ?” ฉินหลินถามพลางอุ้มเจ้าเสือตอเผือกเดินเข้าร้าน
“ครับ ๆ ผมเถ้าแก่เองคะ...!” ชายคนนั้นหันกลับมาตอบ และสายตาก็สะดุดเข้ากับเจ้าเสือตอเผือกป่าที่ฉินหลินอุ้มมา
“เสือตอเผือก? แถมรูปร่างหน้าตานี่มัน... ของธรรมชาติเหรอ? สุดยอด!”
“คุณลูกค้ามาหาซื้อตู้ปลาหรืออาหารปลาเหรอครับ? ถ้าเป็นตู้ปลาล่ะก็ร้านผมไม่มีของที่คู่ควรกับปลาตัวนี้เลย ต้องใช้เวลาโมของขึ้นมาใหม่ แต่อาหารปลายังพอมีอยู่บ้าง…”
“เปล่าครับ ผมจะเอาปลามาขาย ไม่รู้ว่าเถ้าแก่มีช่องทางบ้างมั้ย?” ฉินหลินพูดตัดบททันที
คำพูดเหล่านี้ทำให้ดวงตาของเถ้าแก่สว่างวาบอย่างเห็นได้ชัด เขาเชิญฉินหลินให้นั่งลงอย่างกระตือรือร้น “ผมหลินเซิงนะครับ คุณลูกค้าจะหาคนซื้อปลาตัวนี้สินะ ผมพอมีช่องทางอยู่และช่วยคุณเรียกราคาสูงสุดได้ด้วย และตามกฎแล้วผมต้องได้สองเปอร์เซ็นต์ในฐานะคนกลาง”
เจอละ เหตุผลที่เจ้าหมอนี่ตาลุกวาวและกระตือรือร้นนัก
เสือตอเผือกป่า เขาย่อมรู้ราคาของปลาตัวนี้อยู่แล้ว และยังบังเอิญรู้ว่ามีคนต้องการเจ้าปลานี่ในกลุ่มวีแชททาสปลาอยู่หลายคนด้วย และนี่จะเรียกว่าบังเอิญเทพเจ้าแห่งโชคลาภเดินเข้ามาหาถึงในร้านก็ว่าได้ไม่ใช่หรือ?
2% ของราคาปลาก็ไม่รู้ว่าตัวเขาเองต้องขายทั้งปลาทั้งตู้ปลามากมายขนาดไหนกว่าจะได้?
“เอาตามที่เถ้าแก่หลินว่าเลยครับ นั่นเป็นค่าแรงที่คุณควรได้อยู่แล้ว” ฉินหลินไม่มีปัญหาอะไรในเรื่องนี้เลย การทำธุรกิจส่วนใหญ่มันต้องพึงพาคนกลางอยู่แล้ว ซึ่งคนเหล่านี้มีอีกชื่อเรียกหนึ่งคือ ‘นายหน้า’ นั่นเอง
ซึ่งมีทั้งพวกคนที่ยึดเอาเป็นอาชีพและแค่หารายได้พิเศษ ซึ่งหลิงเซิงผู้นี่เห็นได้ชัดว่าเป็นอย่างหลัง
ส่วน 2% ที่ว่าก็ไม่รู้หรอกถูกหรือแพง
สำหรับเขาแล้วไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะสุดท้ายแล้วปลาตัวนี้ก็ได้มาอย่างไร้ต้นทุน ตัวเขาจะหาลูกค้าเองก็ไม่ไหว ถ้าจะสู้หาคงเสียเวลาและพลังงานเยอะแน่นอน ซึ่งระหว่างนั้นอาจเกิดปัญหาอะไรที่ควบคุมไม่ไหวขึ้นมาก็เป็นได้
“คุณลูกค้าใจกว้างจริง ๆ” เมื่อหลินเซิงเห็นว่าฉินหลินเห็นด้วยก็หน้าบานเป็นกระด้ง แต่ก็กลัวว่าฉินหลินจะกลับคำทีหลังเลยจัดการพิมพ์สัญญาค่านายหน้าอย่างมืออาชีพแล้วเซ็นต์ด้วยกัน
จากนั้นหลินเซิงก็ถ่ายรูปและคลิปวิดีโอของปลาตัวนี้ไปสองสามชุดเพื่อเอาไปตรวจสอบว่ามีเครื่องหมายหรือรหัสลงทะเบียนแล้วหรือไม่
เมื่อเห็นว่าทุกอย่างว่างเปล่าเขาก็หยิบมือถือขึ้นมาด้วยสีหน้ามีความสุขสุด ๆ โดยเริ่มจากโทรหาคนอยู่สองสามสายแล้วโพสต์รูปกับคลิปลงในวีแชท
ขั้นตอนนี้กินเวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงก่อนที่หลินเซิงจะบอกกับฉินหลินว่า “ผมช่วยคุณติดต่อผู้สนใจให้ได้สามคน แล้วมีเถ้าแก่จากเมืองสุ่ยจู๋คนหนึ่งเสนอราคาสูงสุดโดยยินดีจ่ายเงินซื้อปลาตัวนี้หกแสนห้า ซึ่งเขาจะมาที่นี่ในอีกสองชั่วโมง”
“โอเค!” ฉินหลินพยักหน้า เขาไม่นึกเลยว่าเจ้าเถ้าแก่นี่จะจริงจังยิ่งกว่าตัวเขาเองที่เป็นคนขายปลาซะอีก
สองชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว หลังจากรถจอดที่ทางเข้าร้านชายวัย 40 กว่า ๆ ก็เดินเข้ามาถามก่อนเลยว่า “เถ้าแก่หลิน! ปลาล่ะ? ปลาอยู่ไหน?”
หลินเซิงชี้ไปที่ภาชนะบนโต๊ะทันที “นี่ไงล่ะเถ้าแก่ฉู่ แล้วก็คนที่อยู่ข้าง ๆ นี่ก็คือคุณฉินเป็นเจ้าของปลา”
“คุณฉิน ผมขอดูปลาก่อนจะได้มั้ยครับ?” เห็นได้ชัดว่าเถ้าแก่ฉู่เองก็จริงจังสุดขีดด้วย เขาทักทายคนเล็กน้อยแล้วหันไปชื่นชมปลาด้วยแววตาอันผ่องใส
ฉินหลินก็ไม่ได้รบกวนเขา
แต่เขาก็เห็นสีหน้าหื่นกามค่อย ๆ ปรากฏขึ้นบนหน้าของเฒ่าแก่ฉู่คนนี้ได้อย่างชัดเจน
“สวย สวยมาก… สวยเหลือเกิน... ดวงตาคู่นี้… รูปร่างแบบนี้… สีผิวนี้ด้วย สมบูรณ์แบบเกินไปแล้ว!” เถ้าแก่ฉู่เอ่ยปากชมอย่างเคลิบเคลิ้ม
“ของจากธรรมชาตินี่ดีกว่าจริง ๆ ด้วย”
เขาทำตัวราวกับผู้ชายบ้าน ๆ ราคาถูกได้เห็นสาวงามไฮโซราคาแพง
อาการแบบนี้ทำเอาฉินหลินตกตะลึง เอาจริง ๆ นะ ในสายตาเขาแล้วเจ้าปลานี่นอกจากก็สวยดีแล้วที่เหลือคือไม่มีอะไรเลย
“ผมต้องการปลาตัวนี้ โอนเงินได้ทันทีเลยก็ได้!” เถ้าแก่ฉู่รีบบอกหลังจากชื่นชมเสร็จแล้ว
ปลาตัวนี้เป็นของดีมาก ๆ เป็นปลาจากธรรมชาติอันดุดันซึ่งเติบโตมาได้อย่างเพอร์เฟคต์ และอาจกลายเป็นผลงานชิ้นเอกในนิทรรศการพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำของเขาเลยก็เป็นได้!
นอกจากนี้ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน เมื่อเขาได้เห็นเจ้าปลาตัวนี้แล้วนอกจากจะถูกตาต้องใจเขาก็อยากจะควักเงินซื้อมันมาครองอย่างแรงกล้าโดยรู้สึกว่าถ้าไม่ได้ซื้อมันล่ะก็จะต้องลงไปนอนร้องให้ทีหลังแน่ ๆ ด้วย
ฉินหลินไม่ได้คัดค้าน ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่เข้าใจเหล่าทาสปลาพวกนี้เลยจริง ๆ คนที่ใช้เงินหกแสนห้าซื้อปลาตัวนี้กลับมีท่าทีกระวนกระวายยิ่งกว่าคนขายปลาซะอีก ฉินหลินที่เป็นคนขายปลานั้นกลัวว่าปลาจะขายไม่ออกจะแย่ แต่คนซื่อกลับกระวนกระวายกว่าและตอนนี้กำลังทำตัวอย่างกับกำลังอุ้มสาวงามขึ้นห้องอย่างนั้นแหล่ะ
หรือจะเป็นผลของ ‘ความอยากซื้อ +2’ !
หลังจากนั้นไม่นาน
เฒ่าแก่ฉู่ก็ได้จากไปพร้อมกับปลาตัวนั้นด้วยใบหน้าหื่นกามอันแดงก่ำ
และบัญชีของฉินหลินเองก็มีเงินเข้ามาก้อนโต
“บัญชีเลขท้าย… เงินเข้า 650,000 หยวน คงเหลือ 1,035,779.60 หยวน”
กลายเป็นเศรษฐีในทันใด!