ตอนที่ 900 เชื่อฟังด้วยเหตุผล?
“ยังยืนทําอะไรอยู่? คุกเข่าลงไปเพื่อรับโทษซะ!”
หลังจากที่ หลินฟาน ได้หักมือข้างหนึ่งของ ชายชาวต่างชาติ เขาก็ได้ตะโกนขึ้นอย่างเย็นชา และได้เตะขาของอีกฝ่ายให้ล้มลงไป..
และนั่นมันก็ได้ทำให้ได้ยินเสียง กร๊อบ ดังขึ้นอีกครั้งหนึ่งแล้ว กระดูกข้อเข่าของอีกฝ่ายได้หักลง!
ชายชาวต่างชาติคนนั้น ได้เสียการทรงตัวทันที และได้ล้มลงคุกเข่าลงไปกับพื้น ทั้งหัวเข่าที่หักอยู่นั้นก็ได้ตกลงไปกระทบกับพื้นคอนกรีตที่แข็งๆ และในทันทีเขาก็ได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดจนทำให้กรีดร้องราวกับหมูถูกเชือดออกมาอีกครั้ง และดวงตาของเขามันก็ได้ดูดำคล้ำไปหมด..
มาถึงตอนนี้ เขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่า เขาได้เข้ามาล่วงเกินคนที่เขาไม่สมควรจะยุ่งด้วยอย่างยิ่ง แล้วในตอนนี้ในใจของเขานั้น มันก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว…
มาตอนนี้เขาต้องการยอมแพ้ อยากที่จะขอความเมตตา เพราะในเวลานี้เขาเจ็บปวดมาก และหวาดกลัวมากจริงๆ ทั้งในชีวิตนี้.. เขาก็ไม่เคยหวาดกลัวอะไรมากขนาดนี้มาก่อนเลย
แต่ หลินฟาน ไม่ได้เปิดโอกาสให้เขาได้พูดเลย หลินฟาน ได้ควบคุมจังหวะในตอนนี้เอาไว้ทั้งหมด..
“ไม่เป็นไรที่คิดจะรังแกคนจีน.. แต่พวกคุณกลับกล้าที่จะรังแกหญิงสาวชาวจีน? พวกคุณนี่มันช่างเป็นขยะต่างชาติที่พิเศษเสียจริงๆ คางคกอยากที่จะกินเนื้อหงส์(1) หญิงสาวชาวหัวเซี่ยของเรา มีค่าควรให้ขยะอย่างพวกคุณสามารถแตะต้องได้งั้นเหรอ บวกบาปเพิ่มเข้าไปอีกหนึ่ง!”
หลินฟาน ได้คว้าจับหัวไหล่ของอีกฝ่ายทั้งสองข้าง
และจากนั้นเขาก็ได้บีบดึงหัวไหล่ทั้งสองข้างของอีกฝ่าย เสียงดัง กึก เมื่อนั้นแขนทั้งสองข้างของอีกฝ่ายก็ได้ห้อยลงมาทันที…
“อ๊าาาก!” ชายชาวต่างชาติ ได้ส่งเสียงกรีดร้องขึ้นมาอีกครั้ง ไม่เพียงแต่ร่างกายของเขาจะเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส แต่ภายในใจของเขามันก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว และมันก็เป็นความหวาดกลัวต่อความตาย ทั้งมันก็ยังเป็นสัญชาตญาณอย่างหนึ่ง และเมื่อความกลัวนี้ได้ถูกกระตุ้นขึ้น ศักดิ์ศรีใดๆ มันก็ไม่มีอยู่อีกต่อไป!
หลินฟาน ยังไม่คิดที่จะหยุด และได้พูดต่อไปว่า “คุณได้เข้าใจว่าความเป็นมิตรของเราชาวจีนนั้น ..ผิดไปจริงๆ และคิดหาว่ามันคือ ความขี้ขลาด.. ทั้งๆ ที่พวกคุณก็อยู่ในแผ่นดินของเรา พวกคุณก็กลับยังคิดที่จะกล้าเหิมเกริมได้อีก? พวกคุณคงได้คิดไปว่าไม่มีใครสามารถจัดการกับพวกคุณได้ ..สินะ? ทั้งในตอนนี้ พวกคุณก็กลายมาเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี และเพื่อที่จะทำให้ชาวต่างชาติคนอื่นๆ ได้เห็นผลที่จะตามมา จากความกําเริบเสิบสานในประเทศจีนของเรา!”
หลินฟาน ได้เตะเข้าไปที่หน้าอกของ ชายชาวต่างประเทศ..
ครั้งนี้ ชายชาวต่างชาติ ก็ได้ส่งเสียงร้องครวญครางออกมา และเขาก็ได้ถูกเตะจนล้มคว่ำลงไปกับพื้น ทั้งได้มีเลือดไหลออกมาจากมุมปากของเขา.. และร่างกายของเขาในตอนนี้ มันก็ไม่มีที่ไหนเลยที่ไม่เจ็บปวด แต่เขาก็กลับยังมีชีวิตอยู่ และไม่ได้สลบไป แต่เมื่อมันเป็นเช่นนี้เขาก็กลับได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดของตัวเองได้อย่างชัดเจน ทั้งตอนนี้เขามันก็ไม่สามารถต้านทานต่อความเจ็บปวดที่มีในตอนนี้ได้ ร่างกายของเขาได้เริ่มกระตุกเพราะความเจ็บปวด ดวงตาของเขาก็ได้เหลือกขึ้น จนเห็นเพียงแต่ตาขาว และเมื่อนั้นเขาก็ได้นิ่งเงียบไป…
นี่มันเป็นการทรมานที่ซ้ำซ้อนกันชัดๆ นาทีนี้เขาถึงกับอยากตาย.. อยากตายให้ได้โดยเร็ว เพื่อยุติความเจ็บปวดที่มีอยู่นี้..
เงียบ…
ผู้ชมทั้งหมดได้พากันเงียบ… ไปจริงๆ
ทุกคนในเวลานี้ ได้ต่างพากันตกตะลึง และตกใจ ไปกับการดําเนินการที่ดูคล่องแคล่วของ หลินฟาน…
และเมื่อกี้นี้ ไม่ได้ฝันอยู่จริงๆ ใช่ไหม? คาดไม่ถึงเลยว่ามันจะเกิดขึ้นจริง.. หลินฟาน ได้ทําให้คนต่างชาติคนนั้น พิการ ได้อย่างง่ายดายขนาดนี้ ได้จริงๆ นะเหรอ? หลินฟาน นั้นก็ฉลาดเกินไป เขาได้ไล่ต้อน ชายชาวต่างชาติคนนี้ ได้อย่างง่ายดาย เหมือนกับการรื้อถอนตุ๊กตาตัวหนึ่ง!
เสียง กร๊อบ ของกระดูกที่แตกหักนั้น มันก็ได้ทำให้หนังศีรษะของทุกคนรู้สึกด้านชา เมื่อได้ยิน มันโหดร้ายเกินไป และมันก็โหดร้ายอย่างมาก..
แน่นอนว่า หลินฟาน ค่อนข้างโหดนิดหน่อย แต่ชาวต่างชาติคนนี้ ก็สมควรที่จะได้รับมัน เขาเองก็ได้รู้สึกโล่งใจจริงๆ ชาวต่างชาติที่เรียกได้ว่าหยิ่งผยองเช่นนี้ ก็สมควรแล้วที่จะได้รับมัน! ยิ่งไปกว่านั้น หลินฟาน ไม่มีทางเลือกอื่น เพราะ หลินฟาน เองก็ได้พยายามใช้เหตุผลกับชายชาวต่างชาติคนนี้แล้ว แต่พวกขยะต่างชาติเหล่านี้ กลับใช้เหตุผลกับพวกเขาไม่ได้ งั้นเขาก็แค่ใช้กําปั้น มาเพื่อโน้มน้าวใจของพวกเขา ก็เท่านั้น…
หลินฟาน ได้มองไปที่ ชาวต่างชาติ อีกสองคน : “แล้ว พวกคุณ…”
เดิมที หลินฟาน ต้องการเรียกให้พวกเขาเข้ามาต่อสู้พร้อมๆ กัน แต่อย่างไรก็ตาม อีกฝ่ายคงได้คิดไปว่า เขา.. ไม่สามารถเอาชนะอีกคนหนึ่งได้ และเมื่อนั้น ทั้งสองก็จะทำเป็นแค่ยื่นเฝ้าชมด้วยความสนุก.. แต่หาก เพื่อนคนนั้นของเขาไม่สามารถต่อสู้ได้ พวกเขาก็แค่เข้าไปช่วยเหลือ..
เมื่อกี้นี้ ที่ ชายหนุ่ม ที่ดูแข็งแกร่ง ที่ได้ประสบกับความสูญเสียครั้งใหญ่ มันก็เป็นเพราะแบบนี้..
ใครจะไปรู้ หลินฟาน ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรให้มาก แค่แววตาของเขา ก็ได้ทำให้ความกล้าหาญของ ชายชาวต่างชาติทั้งสองคนนี้ แตกสลายลงไปได้แล้ว..
ตุบ ตุบ!
ชาวต่างชาติทั้งสองคนนั้น หวาดกลัวมากจนได้คุกเข่าลงไป ทั้งได้ตัวสั่นราวกับแมลงแกลบ ใบหน้าของพวกเขาก็ได้ซีดเหมือนกับกระดาษ…
“อย่าตีฉัน ขอร้องล่ะ!”
“ฉันยอมแพ้แล้ว ฉันยอมแพ้!”
ชายชาวต่างชาติทั้งสองคน ได้ร้องขอความเมตตา และมันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ร้องขอความเมตตา พวกเขาไม่อยากตกอยู่ในสภาพเหมือนกับเพื่อนของเขา ความเจ็บปวดแบบนั้น แค่คิดมันก็ได้ทําให้พวกเขาหวาดกลัวจนสั่นสะท้านไปหมดแล้ว…
โลกนี้.. ท้ายที่สุดแล้วก็ยังเป็นโลกที่คนแข็งแกร่ง กลืนกินผู้ที่อ่อนแอ.. คนบางคน เราเองก็ไม่สามารถใช้เหตุผลกับเขาได้ ถ้าคุณเลือกที่จะใช้เหตุผลกับเขา แม้ว่าคุณจะมีเหตุผล แต่หากพวกเขาไม่คิดที่จะให้ความเคารพคุณ และคิดว่าคุณอ่อนแอ และไร้ความสามารถ ทั้งยังสามารถรังแกได้โดยง่าย เมื่อนั้นพวกเขาก็จะยิ่งหยิ่งผยอง และคิดที่จะท้าทายให้คุณสู้…
ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะพูดด้วยเหตุผลมากแค่ไหน บางครั้งหมัดเดียว มันก็อาจจะทำงานได้ดีกว่าการพูด…
โดยพื้นฐานแล้ว คนเหล่านี้ก็คือ หวาดกลัวผู้ที่แข็งแกร่ง และยอมจํานนต่อผู้ที่แข็งแกร่งกว่า และนั่นมันก็มีเพียงผู้ที่แข็งแกร่งกว่าเท่านั้น ที่จะสามารถทําให้พวกเขาก้มหัวลงได้โดยง่าย..
เชื่อฟังด้วยเหตุผล?
แล้วจะไปใช้เหตุผลอะไรกับคนประเภทนี้ได้?
และมันคงมีเพียงแต่กำปั้นเท่านั้น ที่มันคือ เหตุผล.. ใครมีกำปั้นที่ใหญ่กว่า คนนั้นก็คือคนที่มีเหตุผลมากที่สุด!
และนี่มันก็มักจะเป็นวิธีการที่ถูกต้องในการ “เอาชนะผู้คนด้วยเหตุผล”
ในทํานองเดียวกัน ถ้าหากมีประเทศหนึ่งที่สามารถ “เอาชนะผู้คนด้วยเหตุผล” ได้.. พวกเขาก็จำเป็นที่จะต้องเสริมสร้างแสนยานุภาพทางการทหาร เข้ามาเท่านั้น! ทั้งในประเทศนี้ก็ต้องมีหัวรบนิวเคลียร์หลายพันลูก มีเครื่องบินรบที่ทันสมัยที่สุด และมีกลุ่มกองเรือบรรทุกเครื่องบินที่ใหญ่ที่สุด แล้วแบบนี้ใครมันจะไปกล้าที่จะรังแกคุณ?
แล้วแบบนี้ เรียกว่า ‘เชื่อฟังด้วยเหตุ’ ได้ไหมล่ะ?
มันก็ต้องได้อยู่แล้ว เพียงแค่สลักคำว่า “เหตุผล” เอาไว้บนขีปนาวุธ!
มันก็แค่นั้น! และถ้าอยากที่จะให้ไอ้พวกขยะต่างชาติเก็บหางของตัวเอง ก็อย่าเอาแต่อดทน และแสดงความเป็นมิตร หลักๆ พวกนี้แทบที่จะไม่มีประโยชน์อะไรเลย ทั้งนี้คนอื่นก็จะยังคิดว่าคุณ รังแกได้ง่าย? ทั้งยังทำตัวไร้ยางอายมากขึ้นไปกว่าเดิมอีก และหากคุณคิดที่จะออกไปจับคนหนึ่ง และลงโทษเขาอย่างรุนแรง หรือแม้แต่กระทั่งจับบุคคลหนึ่ง แล้วเนรเทศออกไปให้เป็นตัวอย่าง แค่นี้พวกเขาก็แสดงความซื่อสัตย์ออกมาแล้ว!
เอาตรงๆ ขยะพวกนี้ ..ไม่สมควรที่จะได้รับน้ำใจ
หลินฟาน ได้พูด พร้อมกับหัวเราะออกมาว่า : “นี่พวกคุณ ไม่คิดอยากที่จะสู้ต่อ แล้วหรือ?”
“ไม่กล้าแล้ว!”
“ไม่กล้าแล้ว!”
ขยะต่างชาติทั้งสอง ได้ส่ายหัวอย่างสุดชีวิต ..จนเกือบที่จะหักหัวตัวเองอยู่แล้ว
หลินฟาน กล่าวว่า : “โอเค งั้นก็ไม่เป็นไร แต่.. รีบๆ พาเพื่อนขยะของพวกคุณออกไปด้วย แล้วรีบไสหัวออกไปเร็วๆ แล้วอย่างให้ฉันรู้ทีหลังว่า.. พวกคุณ กล้าที่จะมาทำอะไรโง่ๆ ในแผ่นดินจีนอีก ไม่งั้นฉันก็จะเด็ดหัวหมูอย่างของพวกคุณ มาดื่มกินซะ รีบๆ ออกไปได้แล้ว!”
“ใช่ๆ เราต้องรีบออกไปจากที่นี่!”
“พวกเรารีบออกไปเร็ว ไปเร็วๆ!”
ชายชาวต่างชาติทั้งสองคน ก็ได้รีบลุกขึ้น และช่วยกันยกตัว ชายชาวต่างชาติที่พิการ แล้วรีบหนีออกไป และเมื่อได้เห็นก้าวย่างที่ดูวุ่นวายของพวกเขา มันก็อาจทำให้ผู้ที่ได้พบเห็น เกิดรู้สึกสงสัยว่าพวกเขา หลบหนีอะไรมา ถึงได้ดูมีสีหน้าที่ดูสิ้นหวังถึงขนาดนั้น…
และแล้วเรื่องนี้.. มันก็ได้เข้ามาหลอกหลอนพวกเขาไปตลอดทั้งชีวิต และเมื่อพวกเขาได้นึกถึงมัน ก็ได้พากันสั่นสะท้าน… และหลังจากรอคอยมาเป็นเวลานาน พวกเขาทั้งหมดก็ได้ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมา ..จากฝันร้าย
หลังจากที่ ขยะต่างชาติ ทั้งสามคนออกไป…
ไม่รู้ว่าเป็นใครที่ได้ตบมือขึ้นมาเป็นคนแรก, และจากนั้นทุกคนก็ต่างได้พากันปรบมือส่งเสียงเชียร์กันอย่างล้นหลาม ทั้งร้านอาหาร ก็เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความปลื้มปีติยินดี…
แน่นอนว่า ตอนนี้.. ทุกคนได้เข้าใจแล้ว ก่อนหน้านี้ที่ หลินฟาน อ้างว่าจะทําให้ ชายชาวต่างชาติ พิการนั้น ไม่ใช่ความเย่อหยิ่งเลยสักนิด แต่เขากลับมีความสามารถนี้จริงๆ!
ในความเป็นจริงแล้ว หลินฟาน สามารถรื้อถอน ชายชาวต่างชาติ คนนั้นได้โดยง่าย และมันก็ไม่ได้แตกต่างอันใดไปมากกว่าการถอดแยกชิ้นส่วนตุ๊กตาตัวหนึ่ง…
ความแข็งแกร่งเช่นนี้ บอกได้คำเดียวว่า เขา ..แข็งแกร่งเกินไปจริงๆ
“เพื่อน เมื่อกี้ ต้องขอบคุณคุณมาก ถ้าไม่ใช่คุณ เมื่อกี้พวกเราก็คงจะถูก ชาวต่างชาติพวกนั้น รังแกแล้ว!” ชายหนุ่ม ที่ดูค่อนข้างแข็งแกร่ง ได้เดินเข้ามาขอบคุณ หลินฟาน พร้อมกับ ชายหนุ่มอีกคน และแฟนสาวของเขา..
หลินฟาน ทำเพียงยิ้ม และพูดว่า : “ไม่เป็นไร เรื่องนี้สบายมาก พวกเราทุกคนเองก็เป็นคนจีน เพื่อนร่วมชาติถูกรังแก ผมจะมานั่งนิ่งอยู่เฉยๆ ได้ยังไงกัน”
ชายหนุ่ม ที่ดูค่อนข้างแข็งแกร่ง กล่าวว่า : “แต่ เพื่อน คุณยอดเยี่ยมมาก แล้วนี่คุณได้ไปเรียนกังฟูมาจากที่ไหน บอกตรงๆ เมื่อกี้นี้ คุณดูเหมือนราวกับเป็นปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ในตำนานเลย!”
หลินฟาน พูดว่า : “ที่ไหนกัน.. ผมแค่เรียนรู้มาแค่ผิวเผินนิดหน่อย เพียงเท่านั้น”
หลินฟาน ไม่เพียงแต่เก่งเท่านั้น แต่ยังอ่อนน้อมถ่อมตน พร้อมทั้งเต็มไปด้วยความชอบธรรม และนี่ก็ได้ทําให้ทั้งสามได้กล่าวชื่นชมเขา…
“งั้น เพื่อน มากับเราไหม และถือว่ามื้อนี้ให้พวกเราได้เลี้ยงคุณ และถือว่าเป็นการขอบคุณ สำหรับเรื่องในครั้งนี้ไปด้วย..” ชายหนุ่ม ที่ดูค่อนข้างแข็งแกร่ง ได้กล่าวเชิญ หลินฟาน
หลินฟาน พูดว่า : “ไม่เป็น พวกคุณไม่ต้องสุภาพกับผมขนาดนั้น ผมเองก็กำลังรอใครบางคนอยู่ ผมคงไปนั่งกับพวกคุณไม่ได้..”
ทั้งสามคนเข้าใจ ดูเหมือนว่า หลินฟาน จะมีนัด และพวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมแพ้อย่างจนใจ
หลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น พวกเขาก็ไม่มีความอยากอาหารอีกแล้ว และไม่นานพวกเขาก็ได้เช็คบิล และจากไป
“หลินฟาน!”
ทันใดนั้น.. ก็ได้มีคนเดินมาที่โต๊ะของ หลินฟาน จากนั้นเธอก็ได้ยิ้มหวาน และกล่าวทักทายออกมา
หลินฟาน ได้เงยหน้าขึ้น แล้วก็ได้เห็นว่า หลัว หลี่ ได้มาถึงแล้ว…
(1)[คางคกอยากกินเนื้อหงส์ (癞蛤蟆想吃天鹅肉)] - เป็นคำเปรียบเปรยของคนที่ไม่มีความรู้ในตนเอง อยากได้ในสิ่งที่มันเป็นไปไม่ได้…