ตอนที่ 859 เชียนฮุ่ย!
“เจ้าเป็นใคร?”
คาร์ลบังคับตัวเองให้สงบลงเนื่องจากบุรุษผู้มีอำนาจสูงสุดในกลุ่มการค้าตะวันตกคิดว่าการแสดงความกลัวออกไปไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้ แต่วัยของอีกฝ่ายหนึ่งทำให้เขาประหลาดใจ
“เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้ว่าข้าเป็นใครรู้ไว้อย่างเดียวว่าเจ้าจะต้องทำยังไงก็พอ”
ถังเทียนไม่ใช่มือใหม่เหมือนที่เคยเป็นอีกต่อไปแล้ว แม้ว่าจะมีหลายครั้งที่ผ่านมาเขาจะดูไม่น่าเชื่อถือก็ตามแต่ส่วนใหญ่เขาจะแสดงออกได้เกินวัยของเขา
ตั้งแต่เริ่มเป้าหมายของเขาคือชาร์ลส์และอัศวินพิเศษกวงหมิง แต่ราศีและความเข้มแข็งที่พวกเขาแสดงออกมาทำให้เขาต้องยกเลิก เขายังไม่ฟื้นพลังอย่างเต็มที่ การท้าทายอัศวินพิเศษกวงหมิงไม่ใช่การเคลื่อนไหวที่ฉลาด
หลังจากที่เขาฟื้นขึ้นดูเหมือนกับว่าเขาเป็นผู้ใหญ่ขึ้น สายตาของเขาราวกับจะฉายแสงมองเห็นถึงหัวใจของทุกคนราวกับว่าไม่มีใครสามารถซ่อนความลับใดๆ อยู่ต่อหน้าเขาได้ หลังจากผ่านไปสองสามวันแสงเจิดจ้าในดวงตาของเขาจึงค่อยจางลง ความเฉียบแหลมดูเหมือนจะหายไปและถังเทียนกลายเป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง และคนที่ไม่รู้จักเขาจะเมินเขาโดยไม่รู้ตัว
ถังเทียนรู้ถึงความก้าวหน้าของเขาเองและนี่ทำให้เขามีความมั่นใจมากขึ้น
เขารู้เหตุผลที่ชาร์ลส์และอัศวินพิเศษกวงหมิงเร่งรีบออกไปอย่างกะทันหัน,ปิงเริ่มดำเนินการแผนของเขา ทวีปซางโจวเป็นเหยื่อล่อสภาอาวุโส แต่ถังเทียนยังรู้ว่านั่นเป็นแค่การเริ่มต้นแผนใหญ่ของปิง
และจุดสำคัญอยู่ที่ตัวเขา
คาร์ลกลายเป็นเป้าหมายของถังเทียน โดยไม่คำนึงว่าใครจะมองยังไง คาร์ลคือตัวเลือกที่ดี ความเกลียดกันระหว่างทั้งสองฝ่ายไม่สามารถกำจัดออกไปได้และทำให้เกิดหายนะในภูมิภาคตะวันตก เขาต้องสร้างความยุ่งยากให้กับกลุ่มการค้าตะวันตก
ในช่วงที่ผ่านมาสองสามวัน ถังเทียนเห็นและรู้ถึงจุดแข็งของกลุ่มการค้าตะวันตกในภูมิภาคตะวันตกการสร้างเมืองวายุน้ำเงิน ชาร์ลส์มอบหมายให้กลุ่มการค้าตะวันตก และความสามารถของกลุ่มการค้าตะวันตกในการรวมอำนาจทำให้ถังเทียนลอบประหลาดใจ จอห์นสันไปรวบรวมข่าวกรองเป็นพิเศษองค์กรการค้าที่มีชื่อในภูมิภาคตะวันตกทั้งหมดร่วมมือกันสร้างเมืองวายุน้ำเงินแสดงถึงพลังของกลุ่มการค้าตะวันตก
นี่ยังเป็นการสนับสนุนให้ถังเทียนตัดสินใจล้มล้างกลุ่มการค้าตะวันตก
คาร์ลไม่ตื่นเต้นแม้แต่น้อย เขาโบกมือ “แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าเจ้ามาจากไหน แต่ข้ารู้สึกว่านี่ไม่ส่งผลต่อความเป็นมิตรแน่ กลุ่มการค้าตะวันตกไม่ตระหนี่ต่อสหายเสมอ ถ้าทุกคนขาดแคลนในช่วงสั้นๆทำไมไม่บอกจำนวนข้ามาเล่า?”
“เราไม่ได้ขาดแคลนเงินทุน” ถังเทียนส่ายศีรษะ“ก็แค่มีสองสามเรื่องที่จะขอความร่วมมือกับเจ้า ถ้าเจ้าสามารถทำได้ เราจะไม่ทำอันตรายชีวิตของเจ้า”
น้ำเสียงของถังเทียนดังขึ้นอย่างไม่แยแส แต่ทำให้หัวใจของคาร์ลตึงเครียด ‘พวกเขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อเงิน’
เขาไตร่ตรองอย่างรวดเร็วและไม่แสดงความเปลี่ยนแปลงในอารมณ์ คาร์ลถาม “เจ้าต้องการให้ข้าร่วมมือเรื่องอะไร?”
“เรียกอัศวินผู้นั้นมา”ถังเทียนหัวเราะ
คาร์ลตะลึง แต่วินาทีต่อมาความกลัวไม่มีที่สิ้นสุดก็ท่วมขึ้นในใจของเขา ขณะที่เขาอุทานเสียงดัง“เจ้าต้องการเป็นศัตรูกับสภาฯ จริงๆ”
“ถูกแล้ว”ถังเทียนตอบตามตรง “เราเป็นศัตรูคู่อาฆาตกัน แล้วไงเล่า? เจ้าต้องการคิดสักหน่อยไหม?”
“ไม่,ข้าจะไม่มีทางทำอันตรายต่อสภาฯ ต่อให้เจ้าฆ่าข้าก็ตาม ข้าจะไม่ทำ” หน้าของคาร์ลซีดขาว ใช่แล้ว เขาจะไม่มีทางเห็นด้วยในทวีปกวงหมิง ไม่มีใครกล้าเป็นศัตรูกับสภาฯ ถ้าเขาทำเช่นกัน กลุ่มการค้าตะวันตกจะถูกทำลายในพริบตา เขาสร้างกลุ่มการค้าตะวันจนเป็นจักรวรรดิด้วยมือเขาเอง ต่อให้เขาต้องตายเขาจะไม่มีทางทำลายมัน
ทันใดนั้นเขารู้สึกตัว นัยน์เขาหรี่แคบ “เจ้า.. เจ้าคือโจร!”
ถังเทียนพูดด้วยน้ำเสียงจนใจเล็กน้อย “เจ้า ....จำเป็นต้องอยู่ที่นี่จริงๆ”
เสียงหัวเราะดังออกมาจากความมืดบุรุษหนุ่มผมสีน้ำตาลคนหนึ่งเดินออกมาจากเงามืด และยิ้มเป็นกันเอง แต่เพราะเหตุผลบางอย่างเมื่อคาร์ลเห็นรอยยิ้มที่ไร้อันตรายและเป็นกันเองของเขา เขารู้สึกเหมือนกับว่าเขาถูกอสรพิษจ้องมอง และสั่นไปทั้งตัว
“แม้ว่าข้าจะมองหาแสงสว่างข้างหน้า แต่ข้าต้องยอมรับว่าข้าเชี่ยวชาญในธุรกิจมืดมากขึ้นเรื่อยๆ” ซือหม่าเซี่ยวยืนอยู่กับที่ โกวอวี้ปรากฏตัวที่ด้านหลังของเขา
เขารีบเร่งมาด้วยความกังวลเมื่อข่าวว่าทางสภาฯ ส่งหน่วยสืบสวนมาถึงเขา เขาเคลื่อนไหวทั้งราตรีทันที หลังจากร่วมสู้กับถังเทียนมาช่วงเวลาหนึ่ง เขาเข้าใจถังเทียนค่อนข้างดี ไม่ว่าจะเป็นการบุกฝ่าแนวศัตรู หรือต่อสู้และฆ่า ถังเทียนเป็นยอดฝีมือคนหนึ่งแต่เมื่อว่าถึงการวางแผน กลยุทธ ก็ยังค่อนข้างเป็นเรื่องยากสำหรับเขา
แต่เมื่อซือหม่าเซี่ยวเห็นถังเทียน เขาตกใจกับความเปลี่ยนแปลงของถังเทียน
เขาสามารถรู้สึกอย่างเลือนรางว่าไม่ว่าจะเป็นอารมณ์หรือความแข็งแกร่ง ถังเทียนมีความก้าวหน้าแบบก้าวกระโดดในทุกอย่าง เรื่องนี้สร้างความตกใจให้กับเขาจนรู้สึกขมในปาก เนื่องจากนานมาแล้วเขามั่นใจในพรสวรรค์ของตนเอง แต่เมื่อเทียบกับถังเทียน ความแตกต่างเริ่มมากขึ้นจนถึงขั้นที่เขาไม่รู้สึกโกรธอีกแล้ว เขามองดูถังเทียนเติบโตและความแข็งแกร่งระหว่างพวกเขายังเพิ่มขึ้นมากอย่างต่อเนื่อง และตอนนี้กลายเป็นอ่าวที่ข้ามผ่านไม่ได้เสียแล้ว
สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกจนใจมากขึ้นก็คือเขาไม่รู้ว่าความแตกต่างถูกยืดห่างออกไปโดยไม่รู้ตัวหรือเข้าใจได้ ถังเทียนดึงตัวห่างจากเขาไปเรื่อยๆ
ซือหม่าเซี่ยเป็นคนหยิ่งหยิ่งจนเข้ากระดูก เมื่อเขาติดตามถังเทียนเข้าดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ด้วยตนเอง เขาซ่อนความเหนือชั้นกว่าถังเทียนเอาไว้ แต่...
‘มันคือความสิ้นหวังอย่างแท้จริง’
‘โชคดี, ที่เจ้าอยู่ที่นี่” ถังเทียนถอนหายใจโล่งอก
ซือหม่าเซี่ยวยักไหล่และล้อเลียนตัวเอง “และโชคดีที่ยังมีงานให้ข้าทำบ้าง”
ตอนนี้ความรู้สึกแย่เกิดขึ้นกับคาร์ล เขาตะโกนขึ้นทันที “พวกเจ้ากำลังจะทำอะไร? ยาม, ยาม!”
ถังเทียนแนะนำเขาอย่างเกียจคร้านพลังงานในห้องถูกเขาแช่แข็งอย่างสิ้นเชิง ป้องกันไม่ให้คนภายนอกรู้สึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในห้อง
ซือหม่าเซี่ยวหัวเราะ “โกวอวี้ถึงคราวเจ้าบ้างแล้ว”
โกวอวี้ปรากฏตัวหน้าคาร์ลเหมือนควันทันที
คาร์ลไม่สามารถรักษาความเยือกเย็นของเขาไว้ได้และมีท่าทางตื่นตระหนก “เจ้าจะทำอะไร? พวกเจ้าจะทำอะไร?”
เมื่อเขาเห็นใบหน้าของโกวอวี้ เขาถึงกับตะลึงใบหน้าที่งดงามจนทำให้บุรุษตะลึง นั่นทำให้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดว้าวุ่น จนตาของเขาสบตานางตรงๆ ดวงตาของนางคล้ายกับดวงจันทร์ที่ค่อยๆ หมุนเหมือนกับวังวนแสงก่อตัวสาวงามลึกลับต่อหน้าคาร์ลยึดหัวใจและวิญญาณของเขาขณะที่เขามองตามดวงตาที่เหมือนกับหมุนวนของนาง
สายตาของคาร์ลค่อยๆ แข็งขณะที่สีหน้าของเขากลายเป็นซึมเซา
ถังเทียนกลับสงสัยสิ่งที่โกวอวี้ทำเนื่องจากเขาไม่เคยเห็นพรสวรรค์ด้านเสน่ห์ เขามองโกวอวี้อย่างระมัดระวังและเมื่อเขาเห็นว่าตาของโกวอวี้มีแสงที่หมุน เขารู้สึกได้ทันทีถึงพลังที่ยากจะอธิบายพยามมีอิทธิพลต่อสภาพใจของเขา
แต่สภาพใจที่เหมือนแก้วของถังเทียนมั่นคงเหมือนภูผาและไม่มีมลทินอะไรเขาพยายามออกจากสภาพนั้นทันที
แต่ถังเทียนจุ๊ปากด้วยความสงสัย พลังปั่นปว่นดูไม่แข็งแกร่ง แต่อาจส่งผลกระทบต่อใครก็ตามที่มองดูและอิทธิพลที่มีต่อจิตใจนั้นรุนแรงมาก ถ้าคนผู้นั้นไม่ฝึกวิทยายุทธทางใจมาเป็นพิเศษ เป็นเรื่องยากที่ต่อต้านได้
โชคไม่ดีสำหรับคาร์ลแม้ว่าเขาจะมีตำแหน่งสูงส่ง ไม่ใช่เนื่องมาจากความเข้มแข็งส่วนตัวของ แต่โดยความเจ้าเล่ห์และกลยุทธ เมื่อเผชิญหน้ากับความขัดแย้งกัน เขาไม่มีทางต้านได้
ถังเทียนครุ่นคิดในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ การเอาชนะความขัดแย้งของแต่ละคนส่งผลให้ต้องใช้วิธีการต่างๆ
เสน่ห์ของโกวอวี้เป็นสิ่งที่ใช้กับเซี่ยอวี่อันไม่ได้และพวกที่เหลืออาจจะต้านทานได้
โกวอวี้หยุดและกลับมาอยู่ด้านหลังซือหม่าเซี่ยวเงียบๆ
“เสร็จแล้ว”ซือหม่าเซี่ยวพูดอย่างสบายๆ
เขาไม่ได้ผิดหวังมากเกินไปเพราะพลังของตัวเขาเองก็ก้าวหน้า โดยไม่รู้ตัวเขาแข็งแกร่งกว่าในอดีตมากมาย เมื่อพลังของเขาแข็งแกร่งมากขึ้น โกวอวี้ก็แข็งแกร่งมากขึ้นเช่นกัน และเมื่อโกวอวี้แข็งแกร่งมากขึ้น จึงทำให้พลังของเขาเพิ่มขึ้นเช่นกัน
ชีวิตของเขาและโกวอวี้อยู่ร่วมเส้นทางเดียวกันกลายเป็นร่างเดียวกัน เขาอดคิดถึงศิษย์พี่ของเขาไม่ได้ ศิษย์ของเขามีร่างกายอ่อนแอและเจ็บป่วยอยู่เรื่อยก็ยังมีพลังที่ไม่สามารถหยั่งได้ ช่วยกันเขาจากลมและฝนตลอดไป
‘ใช่แล้วในชีวิตข้า ข้ามีแต่ศิษย์พี่และโกวอวี้’
‘บางทีข้าอาจไม่แปลกประหลาดผิดธรรมดาเท่ากับถังเทียน แต่ข้าจะสิ้นหวังและยอมแพ้แค่เพราะเรื่องนี้ได้ยังไง?’
ตาของซือหม่าเซี่ยวกลับชัดเจนดังเดิมเหมือนกับว่เขารู้แจ้งชัดยิ่งขึ้นทำให้เขารู้สึกเป็นอิสระและผ่อนคลาย เขาเต็มไปด้วยความร่าเริงไม่ใช่แค่เพราะเขารู้ว่าสภาพใจของเขาก้าวหน้าไปอีกระดับ แต่ก็มีความสุขว่าในที่สุดเขาก็คิดตกเขาพิจารณาถึงสิ่งที่มีคุณค่ามากที่สุด
โกวอวี้ที่อยู่ด้านหลังของซือหม่าเซี่ยวรู้สึกได้ถึงอารมณ์ของซือหม่าเซี่ยวขณะที่นางยิ้มเล็กน้อย ใบหน้าที่ทรงเสน่ห์และงดงามของนางมีประกายชีวิตชีวา ใบหน้าเดิมของนางแม้จะงามสมบูรณ์แบบแต่ก็เย็นชาเหมือนกับว่านางไร้ชีวิต เพียงชั่วขณะนั้นทำให้ใบหน้างดงามของนางเหมือนกับมีชีวิต
ถังเทียนมีประสาทรับรู้เฉียบคมรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของซือหม่าเซี่ยวและโกวอวี้ทันที
แต่ทันใดนั้นคลื่นสะท้อนทำให้หัวใจของเขาสั่นสะท้าน เขาตะลึง
ภายในเส้นทางบรอนซ์ มีเสียงกึกก้องดังเหมือนสายฟ้าขณะที่ร่างหนึ่งผ่านไปเหมือนสายฟ้า เขาพุ่งไปข้างหน้าเหมือนลูกธนูแหวกอากาศทุกครั้งที่เท้าของเขาแตะจานสุญญกาศจะมีแรงบีบอัดสูงสุดและระเบิดขึ้นเสียงกระหึ่มดังลั่นและเสียงระเบิดยังดังอยู่ภายในทางผ่าน
ใบหน้าที่ยังเฉยเมยตั้งแต่เขาตื่นขึ้นตอนนี้กลายเป็นตื่นเต้น เขาใช้พลังทั้งหมดเคลื่อนไหว เนื่องจากใจของเขาเต็มไปด้วยใบหน้าที่เขาคิดถึงทุกเมื่อเชื่อวัน
เชียนฮุ่ย!
หัวใจของเขาขานชื่อนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยไม่มีหยุด
เมื่อประตูบรอนซ์กระพริบปรากฏอยู่ในสายตาของเขา หัวใจของเขาเหมือนกับถูกมือที่มองไม่เห็นจับไว้ความรู้สึกสำลักรุนแรงท่วมท้นใจของเขา ตามมาด้วยความรู้สึกยินดีจนท่วมท้นใจของเขา
ทันใดนั้นถังเทียนกังวล
ใช่แล้ว กังวลอารมณ์นี้ไม่ได้ปรากฏมานานแล้วในร่างกายของเขา จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาทันที เขาเอาชนะศัตรูมานับไม่ถ้วนและมีประสบการณ์กับการสู้รบทั้งเผชิญกับสถานการณ์อันตรายมาทุกรูปแบบ แต่เขาไม่เคยกังวล
แต่เวลานั้นเขากังวล ความกังวลอย่างหนักทำให้ใจของเขาว่างเปล่า
เพียงพริบตา เขามาปรากฏอยู่ต่อหน้าประตูบรอนซ์ความหงุดหงิดรุนแรงออกมาจากสัญชาตญาณของเขา
“เชียนฮุ่ย!”
“พี่เทียน!”
เหมือนกับว่าพวกเขามีการสื่อสารทางจิตถึงกัน เหมือนกับว่าพวกเขาเกิดมาเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกันและในระดับที่ลึกซึ้ง ทั้งสองคนตะโกนเรียกชื่อที่พวกเขาโหยหาทุกวันและคืน
ทั้งสองฟากของประตูบรอนซ์ดวงดาวทำให้พวกเขาชะงักค้าง
เวลาดูเหมือนจะหยุดในขณะนั้น