ตอนที่ 858 ยึดทวีปซางโจว
“นี่คือทวีปกวงหมิงหรือ?”
อาซิ่นมองดูรอบๆ ค่อนข้างจะตื่นเต้นเมื่อเห็นแผนของเขาเองได้รับรู้ ความตั้งใจสู้ของเขาทะยานขึ้นตลอดเวลา
เมื่อเขารู้ว่ามู่จือเสียเข้าทวีปแดนเถื่อนด้วยตัวเอง เขารู้ว่าพวกเขาคือเป้าหมายของมู่จือเสียดังนั้นจึงเป็นที่มาของแผนบ้าระห่ำนี้
‘ตอนนี้กองทัพของราชาเพอร์ซูสกำลังเที่ยวคุยโวอยู่โดยรอบ ใครจะรู้ว่ามู่จือเสียจะค้นพบอะไร’ อาซิ่นค่อนข้างตื่นเต้นเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ไม่ว่ามู่จือเสียจะคุ้นเคยกับทวีปแดนเถื่อนมากเพียงไหน แต่เขาคงไม่มีทางคุ้นได้มากเท่ากับคนท้องถิ่นแน่นอน
‘เจ้าต้องการเล่นซ่อนหาในทวีปแดนเถื่อนใช่ไหม’
‘เล่นไปพลางๆ ก่อนก็แล้วกัน โชคดี’
หน้าของอาซิ่นมีรอยยิ้มกว้างและเขากลับเคร่งเครียดทันที การเข้าทวีปกวงหมิงไม่ได้เป็นการบ่งบอกถึงชัยชนะเนื่องจากการสู้รบเพิ่งเริ่ม
ซางเป่ยพูดด้วยความเคารพ “ถูกแล้ว, เราเข้ามาในทวีปกวงหมิงในที่ซึ่งเรียกว่าทวีปป่าน้อย แม้ว่าทวีปป่าน้อยจะติดกับทวีปกวงหมิงมากแต่ไม่มีทหารป้องกันที่นี่มากนัก เนื่องจากเป็นพื้นที่กาฬมรณะ”
อาซิ่นพยักหน้า รู้ว่าเป็นเรื่องจริง ทวีปกวงหมิงไม่เคยคิดว่าจะมีคนหาเส้นทางเล็กๆผ่านพื้นที่กาฬมรณะมาได้ แต่ต่อให้พวกเขารู้ พวกเขาก็คงไม่ใส่ใจเรื่องนั้น อาซิ่นเดินทางผ่านเส้นทางนี้เส้นทางลักลอบเล็กๆที่ซางเป่ยและคนที่เหลือพบไม่สามารถเคลื่อนกำลังพลขนาดใหญ่ได้ เรือขนส่งไม่สามารถผ่านไปได้ อย่าว่าแต่เรือรบ
“เจ้ามีคนที่เจ้าคุ้นเคยรู้จักที่นี่บ้างไหม?” อาซิ่นถาม
“สองสามคน”ซางเป่ยตอบอย่างระมัดระวัง “พวกเขาเป็นพวกคนค้าของเถื่อน สินค้าเก่าของผู้น้อยนี้ขายให้พวกเขา พวกเขาส่วนใหญ่ไม่พอใจพวกสภาอาวุโส แต่ผู้น้อยไม่กล้ายืนยันว่าพวกเขาเชื่อถือได้”
ซ่างกวนเชียนฮุ่ยแทบไม่ได้ฟังคำสนทนาของพวกเขา แต่ค่อยพบความแตกต่างระหว่างทวีปกวงหมิงกับทวีปแดนเถื่อน พลังงานในทวีปกวงหมิงหนาแน่นมากกว่า แต่ไม่มีพลังงานที่เป็นเอกลักษณ์มีลักษณะเฉพาะในพื้นที่ภายในจากพื้นที่ด้านนอก
ความคิดแรกของนางก็คือส่งข้อความให้ถังเทียน
พลังงานเฉพาะของทวีปแดนเถื่อนในท้องฟ้าแยกออกจากประตูดวงดาวบรอนซ์ ป้องกันนางไม่ให้สื่อสารกับถังเทียน ก่อนหน้านี้นางยังกังวลว่าทวีปกวงหมิงจะเหมือนกับทวีปแดนเถื่อน แต่นางก็สามารถผ่อนหายใจได้อย่างโล่งอก
หน้าของนางแสดงให้เห็นถึงความกระตือรือร้นของหญิงสาวขณะที่นางเปิดการทำงานของประตูดวงดาวอย่างกระตือรือร้น
*******************
เมืองวายุน้ำเงินกลายเป็นสถานที่ก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่เต็มไปด้วยกิจกรรมคนงานที่วุ่นกับการทำงานมีอยู่ทั่วทุกที่ แม้แต่เมืองก็ยังดูเด่นสง่ามากกว่าเดิมได้ถูกสร้างแทนเมืองวายุน้ำเงินเดิม
คาร์ลเองก็ยุ่งมาก แต่เขาไม่ได้โกรธเรื่องนี้ เขารู้ว่าวิกฤตินี้ก็คือวิกฤติที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์กลุ่มการค้าตะวันตกที่ซึ่งความมุ่งมั่นของนายพลโอลิเวอร์ที่มียศระดับกลางเป็นผู้หนุนหลังที่ใหญ่ที่สุดและเพราะพวกเขาที่จะทำอย่างนั้นตามลำพังในภูมิภาคตะวันตกก็เนื่องมาจากแม่ทัพโอลิเวอร์
แม่ทัพแลนซ์เพิ่งถูกส่งมาไม่นานและเทียบกับแม่ทัพโอลิเวอร์ผู้คิดแต่เพียงหาผลประโยชน์เขาอายุน้อยกว่าและมีพรสวรรค์มากกว่า แม่ทัพโอลิเวอร์ให้ความสนใจอยู่กับความสำเร็จดังนั้นเขาจึงยากจะรับมือกับเรื่องนี้
โอรสศักดิ์สิทธิ์ชาร์ลส์เป็นคนสำคัญ เนื่องจากเขาลำเอียงเข้าข้างแลนซ์อย่างเห็นได้ชัด
คาร์ลรู้ว่าเป็นโอกาสสำหรับพวกเขาด้วยเช่นกัน ถ้าพวกเขาสามารถสร้างความสัมพันธ์กับโอรสศักดิ์สิทธิ์ชาร์ลส์ได้ ก็จะเป็นประโยชน์ต่อการขยายกลุ่มการค้าตะวันตกได้ในอนาคต เขารู้ แต่เขาไม่เคยต้องการคิดถึงมัน องค์กรการค้าเมื่ออยู่ต่อหน้าสภาอาวุโสนั้นถูกปฏิบัติแย่ยิ่งมดเสียอีก
นับว่าสวรรค์ประทานส่งโอกาสมาวางอยู่ต่อหน้าเขา
แน่นอนจะดึงความสนใจของโอรสศักดิ์สิทธิ์นั้นย่อมไม่ง่ายเขาต้องทำงานให้สำเร็จอย่างงดงาม
โซเฟียดูเหมือนไม่ชอบเขา แต่เขาไม่ใส่ใจ เขาเข้าใจคนอย่างโซเฟียการไม่ชอบใจของนางจะไม่ส่งผลต่อการตัดสินใจของโอรสศักดิ์สิทธิ์ชาร์ลส์
แต่ตอนนี้เขาไม่ได้ปรากฏตัวในเขตก่อสร้าง แต่ยืนคุ้มกันอยู่ข้างนอกที่พักของชาร์ลส์
แอ๊ดดด..ประตูถูกเปิดและชาร์ลส์โอรสศักดิ์สิทธิ์แต่งตัวในชุดขาวเดินออกมา
คาร์ลตาเป็นประกายต้องบอกว่าอารมณ์และภาพพจน์ของชาร์ลส์แสดงออกมาได้สมบูรณ์แบบชุดขาวไม่มีจุดด่างของชาร์ลส์ช่วยเน้นรูปร่างสูงของชาร์ลส์ด้ายทองทำให้เขาดูละเอียดอ่อนและเด่นสง่า ใบหน้าหล่อของเขาพอจะทำให้สตรีนับไม่ถ้วนยอมซบหน้าแทบเท้าของเขาบวกกับรอยยิ้มที่อบอุ่นบนในหน้าของเขา ความมั่นใจในตนเองทำให้บุคลิกของเขาน่ารักทุกคำพูดของเขาดูน่าเชื่อถือไปหมด
‘เพียงคนโดดเด่นขนาดนั้นก็มีคุณสมบัติประสบความสำเร็จในสภาอาวุโสแล้ว’
คาร์ลรีบเดินออกไปต้อนรับเขาทันที “ฝ่าบาท”
“ขอโทษด้วยนะคาร์ลท่านจะต้องทนทำงานผ่านเวลาช่วงนี้ไปให้ได้” โอรสศักดิ์สิทธิ์ชาร์ลส์พูดด้วยความจริงใจ “การก่อสร้างของเมืองวายุน้ำเงินเป็นเรื่องสำคัญสูงสุด ข้าไม่สามารถปล่อยให้คนอื่นจัดการได้จริงๆ และมีแต่เพียงท่านคนเดียวที่สามารถรับทำต่อไปได้”
“สามารถทำงานรับใช้ฝ่าบาทได้นับเป็นเกียรติของคาร์ลและกลุ่มการค้าตะวันตกแล้วพะยะค่ะ” คาร์ลพูดทันที
จากนั้นชาร์ลส์พูดต่อ “มีเรื่องสำคัญบางเรื่องที่ข้าจำเป็นต้องกลับไปที่สภาทันที ส่วนโจรทวีปทองข้าส่งพลโทแลนซ์ไปสืบสวนต่อแล้ว”
“ขอบพระคุณฝ่าบาท!” คาร์ลแสดงท่าทีซาบซึ้งขอบคุณ
“ขอให้พยายามอย่างดีที่สุดนะ”ชาร์ลส์ตบไหล่และให้กำลังใจเขา
“ข้าจะทำอย่างดีที่สุดฝ่าบาท!” คาร์ลค้อมหลังคำนับ
ชาร์ลไม่พูดต่อและขึ้นเรือรบซึ่งติดเครื่องและบินขึ้นท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว
คาร์ลกลับมาหลังจากเรือรบหายลับตาไปแล้วและคิดว่าอาจจะมีเรื่องเกิดขึ้น ‘ต้องเกิดเรื่องใหญ่บางเรื่องขึ้น เพราะโอรสศักดิ์สิทธิ์ชาร์ลส์รีบด่วนนัก’ แต่ไม่ใช่เรื่องที่เขาจะเก็บมาคิด เขาต้องทำงานของเขาให้ดี และนั่นคือเรื่องสำคัญสำหรับเขา
ชาร์ลส์รีบกลับไปที่สภาเพราะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นจริงๆ
ในที่สุดโกวเฉิงเวิ่นเต้าก็โค่นทวีปซางโจวได้
“ในที่สุดทวีปซางโจวก็ตกอยู่ในมือของเรา” ชาร์ลส์พูดด้วยท่าทีตื่นเต้น อารมณ์ใจเย็นตามปกติของเขาหายไปชั่วคราว “น่าตื่นเต้นจริงๆ ประตูกำลังจะถูกเปิดออกในที่สุด สวรรค์วิถีจะเหมือนอะไร? ข้าคิดมานับครั้งไม่ถ้วน เมื่อข้ายังเด็กและวันนั้นก็มาถึง โซเฟียเจ้าไม่ตื่นเต้นเลยหรือ?”
โซเฟียตอบอย่างเย็นชาตามปกติของนาง “ตามรายงานของท่านโกวเฉิงเวิ่นเต้าสัมพันธมิตรใต้ไม่ได้พยายามสู้ตาย แต่ถอนกำลังอย่างมียุทธศาสตร์ ถ้าเป็นกรณีนั้น ศัตรูจะต้องเคลื่อนไหวอีกแน่นอน”
“เคลื่อนไหวอย่างอื่นอีก?” ชาร์ลส์หัวเราะลั่น “แล้วไงเล่า? ทวีปซางโจวอยู่ในมือเราแล้ว นั่นเรื่องสำคัญ เพียงแค่นั้นสวรรค์วิถีก็ตกมาอยู่ในมือของเราแล้ว เราจะมีขุนพลวิญญาณสนับสนุนนับไม่ถ้วน เราจะต้องแข็งแกร่งมากขึ้นแล้วยังต้องกลัวอะไรอีก? โซเฟียอย่ามองโลกในแง่ร้ายเกินไป”
“ข้าก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น” โซเฟียตอบเย็นชา นางมีความรู้สึกว่าเรื่องไม่ง่ายดายอย่างนั้นแน่นอน
ในขณะนั้นประสิทธิภาพการทำงานของสัมพันธมิตรใต้เกินความคาดหวังของทุกคนไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการสั่งการของผู้บัญชาการสูงสุดหรือความสามารถในการต่อสู้ของกองทัพ แม้แต่จิตวิญญาณที่มุ่งมั่นต่อสู้ ก็อยู่ในระดับที่น่าตื่นตะลึง
แม้ว่าสัมพันธมิตรใต้จะไม่อยู่ในตำแหน่งที่ดีต่อไป แต่โกวเฉิงเวิ่นเต้าต้องสูญเสียกำลังคนของเขาไปมากมายในการรุกคืบไปเบื้องหน้าทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตทั้งสองฝ่ายเพิ่มขึ้นมาก แต่ไม่ว่าจะยากลำบากเพียงไหน ก็ไม่อาจเทียบได้กับตอนเริ่มต้น ก่อนนั้นไม่ว่าจะยากเย็นเพียงไหนสัมพันธมิตรใต้จะไม่มีทางยอมถอย และเพราะพวกเขาถอนกำลังอย่างกะทันหัน ก็ทำให้ผู้คนสงสัยการกระทำของพวกเขา
แต่ถ้าสัมพันธมิตรใต้ถอนกำลังพวกเขาในตอนแรกแผนในอนาคตของพวกเขาจะเป็นยังไง? โซเฟียเค้นสมองและนึกฉากภาพที่เป็นไปได้ในใจสองสามฉาก ตัวอย่างเช่นโจมตีเส้นทางลำเลียงสนับสนุนหรือสร้างกับดักในทวีปซางโจว
แต่โซเฟียยังรู้ว่าทางสภาจะยังเคลื่อนไหวแม้จะรู้ว่านั่นเป็นเหยื่อล่อ
ตราบใดที่พวกเขาควบคุมทวีปซางโจว พวกเขาจะยึดครองอำนาจเหนือทางผ่านไปยังสวรรค์วิถีได้และนั่นคุ้มค่ากับการเสียสละมากมาย การทรยศของวิหารเซียนในสวรรค์วิถีทำให้สภาฯโกรธและตกใจ เพราะเป็นเวลาหลายปีที่สภาฯมักจะยกย่องวิหารเซียนของสวรรค์วิถีเหมือนเป็นสาขาของพวกเขา และพยายามงดเว้นที่จะตัดสินพวกเขา เพื่อที่ว่าเมื่อพวกเขาต้องการจะพิชิตสวรรค์วิถี ทางวิหารเซียนก็จะช่วยเหลือพวกเขาจากภายใน
ใครจะคาดกันว่าเมื่อถึงเวลา วิหารเซียนของสวรรค์วิถีกลับตั้งตัวเองเป็นอิสระ
ดังนั้นจะอธิบายถึงความโกรธของสภาไม่ว่าจะต้องทุ่มคุณค่าเท่าใด พวกเขาจะต้องยึดทวีปซางโจวให้ได้ เทียบกับการยึดทวีปซางโจวแล้ว เมืองวายุน้ำเงินไม่สำคัญอะไรเลย
โซเฟียยังคงกังวล แต่นางไม่พูดออกมา
โอรสศักดิ์สิทธิ์ชาร์ลส์อ้างว่าเขาจะทิ้งอัศวินพิเศษกวงหมิงสองสามคนไว้เพื่อความปลอดภัยของคาร์ล แต่ในความเป็นจริงกลับทิ้งไว้เพียงคนเดียว แต่คาร์ลยังคงไปเยี่ยมอัศวินนี้เป็นพิเศษ แน่นอนอัศวินนี้ทำกับเขาเหมือนเป็นอากาศเบาบางซึ่งอยู่ในความคาดคำนวณของเขาอยู่แล้ว
เขาไม่รู้สึกโกรธเรื่องนี้อัศวินมีคุณสมบัติในการทำกับเขาเหมือนกับเป็นอากาศ แต่เขาไม่สามารถทำได้ ถ้าเขาล่วงเกินอัศวินอัศวินมีแต่จะฟันเขาให้ตาย และเขาไม่มีโอกาสจะเรียกร้องหาความยุติธรรม
เขาไม่ใช่คนโง่พอจะคิดว่าอัศวินที่ถูกปล่อยให้อยู่เบื้องหลังเป็นการประกันความปลอดภัยที่แท้จริง แต่เขารู้ว่าเป็นการสังเกตจับตาเขามากขึ้น
อัศวินที่รั้งอยู่ก็คือโรเจอร์และโรเจอร์ไม่สบายใจแม้แต่น้อย หลังจากได้ทราบข่าวการยึดทวีปซางโจว อัศวินพิเศษกวงหมิงรู้ว่าโอรสศักดิ์สิทธิ์จะต้องรีบกลับ และมีแนวโน้มว่าจะมุ่งหน้าไปยังทวีปซางโจวและอาจต่อไปยังสวรรค์วิถี แต่ช่วงเวลาสำคัญเช่นนั้นตัวโรเจอร์เองต้องอยู่โยงในแดนรกร้างและทำอะไรไม่ได้ ดังนั้นอารมณ์ของเขาจึงย่ำแย่มาก
สายตาของเขาที่จ้องมองคาร์ลไม่มีความปราณี แต่ระเบียบวินัยที่เคร่งครัดทำให้เขาข่มความคิดอยากฟันคาร์ลให้ขาดเป็นสองท่อน
คาร์ลเป็นผู้เชี่ยวชาญในการสังเกตอารมณ์ของอีกฝ่ายหนึ่งและยิ่งกว่านั้นโรเจอร์ก็ไม่สนใจปกปิดอารมณ์ของเขา คาร์ลฝืนหัวเราะในใจ
หลังจากมาเยี่ยมอย่างไม่สบายใจแล้วเขากลับไปยังที่พักของเขาตามปกติ การสร้างเมืองหรือพูดตรงๆการสร้างเมืองให้งดงามนั้นจำเป็นต้องใช้งานปริมาณมาก นอกจากพลังของกลุ่มการค้าตะวันตกแล้ว เขายังจำเป็นต้องใช้ความเข้มแข็งขององค์กรอื่นซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย
เขาเข้าไปในห้องหนังสือและเตรียมทุกอย่างตามปกติ และเริ่มทำงาน
ทันใดนั้นคอของเขาถูกมือข้างหนึ่งรวบไว้แน่นป้องกันไม่ให้เขาส่งเสียง
พลังที่ไม่อาจต้านทานได้ทะลักเข้ามาในตัวเขา และรู้สึกว่าโลกหมุนรอบตัวเขาขณะที่เขาถูกเหวี่ยงอยู่ในอากาศ
การลอบโจมตีอย่างทันทีทำให้คาร์ลตะลึงและเขาค่อยฟื้นความรู้สึกหลังจากผ่านไปนาน
หน้าของบุรุษหนุ่มคนหนึ่งที่เขาไม่คุ้นเคยปรากฏในสายตาเขา