ตอนที่ 853 ลมแรง ฝนจะตก เก็บเสื้อผ้าดีกว่า
สำหรับหุบเขาอสูร มือใหม่ที่เป็นสุดยอดฝีมือมักได้รับการเล่าลือจนไปถึงหูหัวหน้ากลุ่มอิทธิพลต่างๆ อย่างรวดเร็ว
ที่นี่นอกเหนือจากการล้มเหลวในการท้าทายแล้ว ไม่มีใครสามารถจากไปได้ จะต้องพำนักอยู่ในหุบเขาอสูร ผู้พำนักที่นี่มีจำนวนมากที่ยังไม่เปลี่ยนไปเป็นอสูรปีศาจ ยิ่งได้ผู้พำนักที่แข็งแกร่งมากขึ้น พวกเขายิ่งมีความหวังเล็กน้อยว่าจะจากไปได้ แน่นอน พวกเขาอ้างตัวเองว่าเป็นผู้พำนัก ไม่ใช่ผู้พ่ายแพ้ ด้วยความคิดที่แตกต่างกัน ผู้พำนักเหล่านี้แบ่งเป็นสามกลุ่มอิทธิพลใหญ่
อย่างไรก็ตามในหุบเขาอสูร จำนวนผู้แพ้กลายเป็นอสูรปีศาจมีจำนวนมากกว่า
เพื่อหาทางอยู่รอด พวกเขาถูกบังคับให้เข้าร่วมกับกลุ่มอสูรปีศาจห้ากลุ่มที่มีการจัดการย่อหย่อน
ทุ่งหญ้าตะวันออกของหุบเขาอสูร
ที่นี่อยู่ใต้อิทธิพลของห้าอสูรปีศาจกลุ่มใหญ่ พญาราชสีห์เป็นราชาปกครอง, ช้าง แรด แมวป่า และวานรและกิ้งก่าที่ตายไปที่ลอบซุ่มโจมตีที่นอกป้อมก็อยู่ภายใต้การปกครองของพญาราชสีห์
เพราะเป็นการเผชิญหน้ากับเย่ว์หยางโดยตรง ข่าวจึงแพร่สะพัดไปได้เร็ว พญาราชสีห์รู้ได้อย่างรวดเร็วที่สุด
พญาราชสีห์คือผู้พ่ายแพ้เมื่อสองหมื่นปีที่แล้ว หลังจากไม่มีความหวังจะออกไปจากหุบเขา เขาใช้เวลาส่วนใหญ่เพิ่มพลังความแข็งแกร่งให้ตนเองหวังว่าจะมีอายุที่ยืนยาว ปัจจุบันนี้เขาเป็นราชสีห์เพชรปราณฟ้าระดับเจ็ด แม้ว่ารูปลักษณ์จะเปลี่ยนไปและความสามารถในการควบคุมร่างจะยังไม่ดีเท่ากับในบรรดาหัวหน้าอสูรอีกห้า และขอบเขตปราณราชันย์ก็ยากจะทำความเข้าใจได้ แต่พลังของเขาแข็งแกร่งที่สุดอย่างมิต้องสงสัย นอกจากเขาแล้ว ไม่มีอสูรปีศาจใดๆ ที่มีความสำเร็จถึงพลังปราณฟ้าระดับเจ็ดได้อีก หัวหน้าอสูรอีกสี่กลุ่ม แม้ว่าพวกเขาจะไม่แข็งแกร่งเท่ากับพญาราชสีห์ แต่ก็มีวิวัฒนาการจนมีรูปร่างบางส่วนคล้ายมนุษย์ เช่นมือและเท้า หรือเข้าใจพลังปราณราชันย์ระดับหนึ่งดาว แต่ไม่มีหัวหน้าอสูรใดที่มีพลังอสูรล้วนๆ แล้วเพิ่มระดับพลังจนถึงปราณฟ้าระดับเจ็ดได้
เพราะคุณสมบัติเก่าแก่ และพลังที่ไม่เลว เขตทุ่งราบตะวันออกที่ถูกปกครองโดยพญาราชสีห์จึงเป็นที่อิจฉาของผู้นำอสูรเขตอื่น
ภายใต้หลักฐานนี้หลังจากล้มเหลวอสูรปีศาจของพญาราชสีห์มีจำนวนมากที่สุดและมีหลากหลายเผ่าพันธุ์
อสูรแรด ช้างและวานรที่ตายไป พวกเขาล้วนเป็นส่วนหนึ่ง
“ไป่อี้และแซมซันตายเพราะคำสาปหรือ? พวกเจ้าแน่ใจนะว่าไม่ใช่ทักษะแฝงเร้นของอสูรเกิดใหม่” พญาราชสีห์ค่อนข้างคลางแคลงใจ ในหุบเขาอสูร ร่างหลักของผู้ท้าทาย, ทักษะแฝงเร้นและสมบัติวิเศษไม่สามารถส่งผลได้ แล้วผู้มาใหม่ฆ่าไป่อี้โดยใช้กล่องเงินและกล่องทองแดงได้ยังไง? นี่เป็นทักษะแฝงเร้นของอสูรน้อยเกิดใหม่หรือเปล่า?
“มันน่าสงสัยอยู่บ้าง” ที่ปรึกษาของพญาราชสีห์พยักหน้า
“แต่อสูรเกิดใหม่ จะมีพลังมากมายขนาดนั้นได้ยังไง ถึงขนาดฆ่าแซมซันและไป่อี้ได้?” กายักษ์อีกตัวเชิดหน้าสงสัย
“บางทีตอนเข้าประตูหวนกำเนิด อสูรนั้นก็มีทักษะแฝงเร้นเฉพาะตัวอยู่แล้ว จุดที่เราควรคิดก็คืออสูรเกิดใหม่มักจะอยู่ในกล่องเสมอ ไม่เคยออกมาข้างนอกเลย บางทีนางคงร่ายคำสาปอยู่ภายใน” อสูรแมวลิงซ์ไม่ได้เข้าร่วมรบด้วยดังนั้นจึงได้แต่คาดเดา
“น่าสงสัยมาก!” ปีศาจขนยาวเล่าซานพยักหน้าเห็นด้วย
“มันไม่ใช่อย่างนั้น...” อสูรช้างกล่าว “ไม่ว่าจะเป็นอสูรเกิดใหม่ขนาดไหน แต่ทักษะที่ทรงพลังขนาดนั้น ไม่ใช่สิ่งที่ฆ่าแซมซันและไป่อี้ได้”
“เผ่าพันธุ์ปีศาจแรกเกิดก็เพียงเลื่อนระดับปัญญาเท่านั้น” อสูรแรดรู้สึกว่าพูดกับพวกนี้เป็นการเปลืองน้ำลายเปล่าๆ
“ในกล่องมีคำสาประดับเทพ เจ้าจะอธิบายเรื่องนี้ได้ยังไง?” อสูรแมวลิงซ์ถาม
“ใช่แล้วสมบัตินั่นไม่มีทางแสดงพลังกฎสวรรค์ในหุบเขาอสูรแน่ เว้นแต่อสูรผู้ใหญ่ที่วิวัฒนาการกลายเป็นอสูรเทพจึงจะใช้ได้ อย่าบอกข้านะว่าอสูรเกิดใหม่นั้นเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์?” อสูรแร้งอีกตัวหนึ่งกระพือปีกถามอสูรแรด
“ข้าไม่รู้” อสูรแรดพูดไม่ออก ถ้าเขารู้เขาคงไม่กลับมาปรึกษาตาเฒ่าแน่ เขาคงไปฆ่าอสูรเกิดใหม่โดยตรงไม่ดีกว่าหรือ?”
“ข้ารู้แต่ว่าแซมซันและไป่อี้หวาดกลัวฝ่ายตรงข้ามจนตาย ฮ่าฮ่าฮ่า” สี่พี่น้องหมาป่าดินหัวเราะพร้อมกัน
“ผายลม!” อสูรบาบูนสหายของแซมซันโกรธ
“ในเมื่อเจ้าอยากดม ข้าจะสงเคราะห์ตามความต้องการของเจ้าก็ได้ หึหึ” อสูรหมาป่าดินกลับหลังหันและผายลมเสียงดังลั่น กลิ่นรุนแรงของมันทำให้อสูรอื่นแตกหนีกระจาย อสูรบาบูนโกรธและปล่อยหมัดใส่เจ้าผู้ชั่วร้ายนี้ทันที แต่ฝ่ายตรงข้ามมีกันสี่พี่น้อง ที่น่ากลัวก็คือมีพลังเหนือกว่าอสูรบาบูน แต่ยังไม่มากเท่ากับพลังหนังหนา
“บางทีอาจเกี่ยวกับพลังเทพวิบัติ พลังเทพอาจจะเหนือกว่ากฎสวรรค์ก็ได้” อสูรช้างพูดถึงความเป็นไปได้
“น่าสงสัยมาก!” ปีศาจขนยาวเล่าซานเมื่อได้ยินก็พยักหน้าหงึกๆ
“ปีศาจเฒ่า นอกจากข้อสงสัยแล้ว เจ้ามีอะไรอื่นพูดบ้างไหม” อีกาที่ปรึกษากล่าวขึ้น “ข้าไม่เข้าใจพฤติกรรมเผ่าพันธุ์ผสมของปีศาจเล่าซานเลย”
“เจ้าฉลาดที่สุด ก็ลองคลี่คลายความลึกลับนี้ดู!” ปีศาจเล่าซานผายมือและโยนภาระให้
“เจ้า.....” อสูรอีกาพูดไม่ออก
“เราผู้นี้มีคำพูดสองประโยค” พญาราชสีห์เห็นเช่นนั้นรู้สึกอึดอัดใจ เขายืนขึ้นและตัดสินใจสรุปเรื่องราว เมื่อผู้ยิ่งใหญ่พูดแม้ว่าเหล่าอสูรดูภายในแล้วจะไม่ค่อยกลมเกลียวกัน แต่สีหน้าที่แสดงออกจะต้องปล่อยปล่อยวางความคับแค้นเดินออกมาข้างหน้า และตั้งใจฟังพญาราชสีห์พูดทันที พญาราชสีห์มองดูเหล่าอสูรด้วยความปิติยินดีเห็นเหล่าอสูรก้มหน้าเขาพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ หลังจากผู้นั้นออกมาแล้ว มีคนไปทำลายกล่องโลหะก็จะต้องคำสาป ในทางตรงกันข้ามถ้ากล่องนั่นไม่ถูกทำลายก็จะปลอดภัย ตรงนี้ข้ามองว่าเป็นเคล็ดสำคัญ กล่องมีกี่ใบกันแน่ คำสาปที่น่ากลัวของกล่องปีศาจจึงไม่น่ามีไปมากกว่านั้นและเป็นไปได้ว่าคำสาปจะมีอยู่เพียงในกล่องทั้งสอง ทอง เงิน ทองแดง“ ”นั่นก็สมเหตุผล จำนวนกล่องก็น่าสงสัยด้วยเช่นกัน!” ปีศาจเล่าซานปรบมือชื่นชมเขา
“ต่อให้มีเพียงสามกล่อง ก็ยังมีกล่องทองอีกหนึ่งกล่อง” อสูรแรดพูดเย็นชา
“ไม่, กล่องทองกล่องที่สามถูกนักสู้กวางขาวได้ไป” อสูรอินทรีบินลงมาจากท้องฟ้าและสรุปสิ่งที่เขาเห็นมาด้วยตนเอง
“นั่นก็เยี่ยมแล้ว เราจะไปไล่ล่าเด็กใหม่ผู้ยโสทันทีและฆ่าอสูรเกิดใหม่กัน!” สี่พี่น้องหมาป่าดินน้ำลายหก พวกมันร้องดีใจและพยายามจะกินอสูรเกิดใหม่ให้ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะรอฟังคำพูดของพญาราชสีห์ พวกมันคงวิ่งจากอสูรอื่นไปก่อนแน่
“ไป? เราจะไม่ไปไหนทั้งนั้น” อสูรชีตาร์สองพี่น้องคิดเห็นตรงกันข้าม พวกมันไม่ต้องการเจอเย่ว์หยางอีก พวกมันเกือบถูกฆ่าตายและเอาชีวิตรอดมาได้ ไม่เพียงแต่พี่น้องของพวกมันเท่านั้น แม้แต่อสูรช้าง แรด ฯลฯ ที่ซุ่มโจมตีเย่ว์หยางก็ยังปฏิเสธจะเข้าร่วมรบ แม้แต่อสูรกาและอสูรแมวลิงซ์ที่ไม่ได้เข้าร่วมซุ่มโจมตี แต่ฉลาดกว่าก็ยังรู้สึกหวาดหวั่น
พลังเทพ นั่นไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะมีได้
ขืนสู้กับศัตรูแบบนั้น ไม่ระวังตัว ย่อมไม่ดีแน่
พญาราชสีห์ครุ่นคิดเล็กน้อยเกี่ยวกับการฆ่ามือใหม่ที่หยิ่งยโสเช่นนั้น ยิ่งมีประโยชน์ต่อชื่อเสียงและการปกครองของเขาอย่างแน่นอน
การเข้าไปรับความเสี่ยงด้วยตนเองไม่ใช่เรื่องดีแน่ พลังเทพก็เป็นเรื่องที่น่าปวดเศียรเวียนเกล้า หรือการส่งพวกพ้องไป ไม่ว่าจะเป็นจะตายก็ไม่เกี่ยวกับเขาอยู่แล้ว
ตั้งแต่พญาราชสีห์กำหนดรูปแบบการเป็นผู้นำกลุ่มอสูร เขาชื่นชมพวกหมาป่าดินสี่พี่น้องมีความกระตือรือร้นและกระหายอำนาจ อสูรช้างและผู้ใต้บังคับบัญชาอื่นได้รับการปลอบใจและอนุญาตให้พัก แล้วให้ปีศาจเล่าซานและอสูรอีกาหารือกำหนดแผนการ ให้หมาป่าดินสี่พี่น้อง อสูรแร้ง อสูรแมวลิงซ์และบริวารอื่นที่อยู่ใต้บังคับบัญชาและมีความคิดจะกินอสูรแรกเกิดคอยโจมตีตอบโต้ และกล่าวว่าคนที่สามารถฆ่าอสูรแรกเกิดได้ จะได้รับผลึกปีศาจสิบลูก อสูรที่กล้าหาญและมุ่งมั่นจะได้รับรางวัลผลึกปีศาจตัวละลูก
ภายใต้รางวัลตอบแทนที่จุใจนี้ อสูรหมาป่าดินสี่พี่น้องดีใจแทบคลั่ง
พวกมันพุ่งออกไปทันที
“พวกเจ้าตายแน่!” อสูรบาบูนเยาะเย้ย
“โอว, ลืมไปเสียเถอะ” อสูรแรดปลอบโยนมัน “ในหุบเขาอสูรไม่เคยขาดแคลนพวกโง่ๆ” พญาราชสีห์แกล้งทำเป็นไม่ได้ยินคำนี้ จักรวรรดิบางทีก็ต้องการคนโง่บ้าง มิฉะนั้นมีแต่คนฉลาดจะปกครองได้อย่างไร พญาราชสีห์ออกไปทันทีมุ่งหน้าไปทางเขาหินเจ็ดดาว เขาตั้งใจจะเข้าร่วมต่อสู้ด้วยเช่นกัน พญาราชสีห์เชื่อว่าไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น แต่ผู้นำกลุ่มอื่นๆ คงจะรู้ว่ามีเด็กใหม่ผู้หยิ่งลำพองเข้ามาในหุบเขาอสูร คงมีการพูดคุยปรึกษากันอย่างแน่นอน และที่สำคัญมากกว่า มีผู้ทรงพลังอำนาจหลายสิบตนอยู่เบื้องหลังหุบเขาอสูรนี้ และพวกเขาหลายคนพยายามเอาชนะผ่านอุปสรรคที่น่าเกรงขาม และนั่นหมายความว่าพวกเขาอาจเข้าร่วมปฏิบัติการณ์นี้ แทบจะไม่มีใครในพวกนี้ที่ถูกเปลี่ยนไปเป็นอสูร พวกนี้มีอยู่หลายสิบคน รวมทั้งผู้นำในหุบเขาอสูรในช่วงหลายปี ก็มิใช่ว่าจะว่างเปล่า?
ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง
เย่ว์หยางให้ตั๊กแตนมัจจุราชนุ่งหุ่มผ้าเปลือกไม้ ห่างจากป่าไปร้อยเมตร เขาพบฝูงกระทิงบ้าคลั่งดวงตาแดงก่ำวิ่งควบฝีเท้าเข้ามาทางนี้
เสียงกีบเท้าบดขยี้พื้นราวกับจะทำลายสรรพสิ่งให้แหลกเป็นชิ้นๆ
สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือฝูงกระทิงนั้นเกิดขึ้นจากหุบเขาอสูรนี้โดยอัตโนมัติ อสูรพวกนี้มีแต่ความโหดเหี้ยมอำมหิต มันวิ่งใส่ทุกอย่างที่ขวางหน้ามัน กระทิงป่านับพันพุ่งปะทะเกิดแรงระเบิดกวาดกระจายไปทั่วพื้นภูมิภาค ฉากภาพที่ปรากฏราวกับวันสิ้นสุดโลก
อสูรหมาป่าดินสี่พี่น้องทำอวดเก่งขับไล่กลุ่มกระทิงป่า และใช้พลังเถื่อนของตนเองปะทะฆ่าอสูรดุร้ายไปหลายตัว และพวกมันกลับมาเองได้
พวกมันแกล้งโง่ แต่จริงๆ แล้วไม่โง่!
ใช้วิธีการฆ่าอสูรแรกเกิดที่หลากหลาย กล่องปีศาจ พลังเทพวิบัตินั่นคือเหตุผลที่พวกมันต้องซ่อนอยู่เบื้องหลัง
สิ่งที่แปลกก็คือหลังจากฝูงกระทิงผ่านไปแล้ว ไม่ถึงสิบวินาทีก็พอมองเห็น พื้นดินสั่นสะเทือน
แผ่นดินไหวรุนแรง พื้นดินเขย่าบิดพลิกไปมาเหมือนกับปากของคนบ้า
จากพื้นล่าง มีแมกมาสีแดงเข้มนับไม่ถ้วนผุดพุ่งขึ้นมา พื้นกลายเป็นพื้นนรก
อสูรหมาป่าดินสี่พี่น้องมองหน้ากันเองและพบว่ามีสิ่งผิดปกติ ดูเหมือนว่านอกจากพวกมันสี่พี่น้องแล้ว ยังมีกลุ่มอื่นที่ลอบทำร้ายอสูรเกิดใหม่ นอกจากนี้ยังมีการติดอาวุธเต็มที่
ถ้าไม่ใช่เพราะกฎหุบเขาอสูรปกป้องเย่ว์หยางไว้ พื้นดินที่แยกจากกันและแมกมาที่พ่นสูงขึ้นไปในท้องฟ้า ป่านนี้เขาคงถูกย่างเป็นปีกไก่ย่างไปแล้ว เย่ว์หยางเย่ว์หยางพบว่าท้องฟ้ามืดมิด และเมื่อเขาเงยหน้ามองท้องฟ้า ไม่ทราบว่ามีเมฆครึ้มมาตั้งแต่เมื่อใด
สายฟ้าฟาดเสียงสนั่น แต่ไม่มีฝนตก มีแต่ก้อนหินแปลกประหลาดนับไม่ถ้วน
เหมือนกับฝนดาวตกเต็มไปด้วยเพลิงพุ่งชนพื้น
เย่ว์หยางมองดูตกตะลึง
นี่คือฝนดาวตกในตำนาน?
เย่ว์หยางเอามือปิดตาตั้งจิตอธิษฐานตามความเชื่อในขณะที่เห็นฝนดาวตก ขอให้มีสาวงามร่วงลงมาสักคน (ความเชื่อของชาวเอเชียตะวันออก เมื่อเห็นดาวตกและอธิษฐานจิตได้ทันก่อนดาวตกจะหายลับไป คำอธิษฐานนั้นจะเป็นจริง)
ไม่มีสาวงามหล่นมาอยู่ต่อหน้าเขา แต่ไม่ไกลจากข้างหน้าเย่ว์หยาง ไม่ทราบว่ามีพายุทอร์นาโดมีสายลมเป็นใบมีดคลุมเต็มท้องฟ้า
ทั้งศิลา ทั้งต้นไม้
เมื่อพายุหมุนนี้ผ่านไปจะถูกเปลี่ยนไปเป็นผุยผงหมด
เย่ว์หยางมองดูฉากภาพนี้ คิดหาสาเหตุ เขาตะโกนลั่นทันที “ลมพัดแรงและ ฝนจะตกอีกด้วย..ไปเก็บเสื้อผ้าก่อนดีกว่า” ศัตรูที่อยู่ห่างไกล หลายคนที่ร่วมลงมือทำร้ายโดยไม่พูดพล่ามทำเพลง เมื่อได้ยินเย่ว์หยางพูด ทั้งหมดล้มลงกับพื้นขาชี้ฟ้า (มุขตลกการ์ตูนญี่ปุ่น)