ตอนที่ 850 หายนะกล่องแพนดอรา
อสูรปีศาจรูปร่างเสือชีตาร์พุ่งตัวเข้ามาอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า
กรงเล็บแหลมคมของพวกมันจับกล่องน้อยที่เย่ว์หยางกำลังถือไว้ อย่างไรก็ตามห่างออกไปด้านหลังหลายสิบเมตรมีอสูรปีศาจตลอดทั้งร่างเขียวเรียบลื่นรูปร่างคล้ายกิ้งก่าที่เปลี่ยนสีได้ มันแลบลิ้นออกทันที
ลิ้นสีแดงยืดยาวและรวดเร็วว่องไว
ขณะที่อสูรปีศาจชีตาร์สองตัวไปถึงกล่อง ลิ้นยาวของกิ้งก่าก็กระทบถูกกล่องเป้าหมายได้ก่อน
ความเร็วของมันมากกว่าสิบเท่า
มันตวัดลิ้นกลับ
อสูรกิ้งก่าไม่รอให้สหายของมันตั้งตัว มันกัดกล่องในปากเคี้ยวด้วยความพอใจทันที ปากของมันสามารถพูดได้ “เฮ้เฮ้เฮ้, ข้าไวกว่าเล็กน้อย ข้าเอาชนะในการฆ่าอสูรใหม่ได้ พวกเจ้าค่อยไปฆ่าครั้งต่อครั้งสองและครั้งสาม!”
อสูรนับสิบในบริเวณนั้นมีสีหน้าแตกต่างกันไป บางตัวโกรธ บางตัวแสดงความเกลียดชัง บางตัวเย็นชา บางตัวเหยียดหยาม
อสูรชีตาร์ที่ไวที่สุดโกรธจัด “ไป่อี้ สตรีลิ้นยาว!”
อสูรกิ้งก่าสตรีกลืนชิ้นส่วนของกล่องลงท้อง และใช้เล็บแหลมบางแคะซอกฟันเลื่อยที่หนาแน่นจำนวนมากและหยิบเศษชิ้นส่วนกล่องออกมาพร้อมกันถอนหายใจอย่างไม่พอใจ “อสูรเกิดใหม่นี้อ่อนแอเกินไป แทบจะไม่มีความรู้สึกอะไรถึงพลังงานที่ซึมซับอยู่ในท้องเลย พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องอิจฉาเลย! อย่างแย่เราสุภาพสตรีจะเล่นกับพวกเจ้าสักหลายวัน ถ้าพวกเจ้ายินดีให้ความร่วมมือ เราแวะไปที่ข้างต้นไม้นั้นก็ได้ หนึ่งต่อสองตอนนี้ ข้าไม่เกี่ยง!”
“เฮอะ..สัตว์เลื้อยคลานตัวลื่นไหลไปทั้งตัวอย่างเจ้าน่ะหรือ” อสูรชีตาร์ทั้งสองได้ฟังแล้วรู้สึกโกรธ และรังเกียจขยะแขยง
“เราสุภาพสตรีไม่ชอบขนสัตว์เน่าๆ ของพวกเจ้าแน่ เชิญเล่นกับลูกปิงปองของเจ้าต่อไปเถอะ!” นางอสูรกิ้งก่าเยาะเย้ยและถ่มน้ำลายสีเขียวลงพื้น
ขณะพวกเขาเถียงกันอยู่ อสูรปีศาจที่อยู่ใกล้ๆ เริ่มเห็นความผิดปกติ
อสูรเกิดใหม่ของเด็กหนุ่มนี่ถูกฆ่าไปแล้ว เขายังคงยิ้มอยู่ได้ยังไง?
โง่หรือเปล่า?
ขณะนั้นเย่ว์หยางยังมีสีหน้ายิ้มแย้มอยู่ และเขาฉีกยิ้มจนเห็นฟันขาว รอยยิ้มสดใสเหมือนแดดในฤดูใบไม้ผลิ
ในตอนนี้เขาใช้มือขวาดึงกล่องออกมาจากกระเป๋าช้าๆ กล่องนี้มีรูปลักษณ์เหมือนกับกล่องก่อนหน้านี้ทุกอย่าง ต่างกันแต่คุณภาพของวัสดุ ก่อนหน้านั้นเป็นกล่องบรอนซ์ แต่ตอนนี้เป็นกล่องเงิน
เด็กหนุ่มนี้มีกล่องอีกใบได้ยังไง?
ถ้ากล่องก่อนหน้านี้ไม่มีอสูร อย่างนั้นอสูรเกิดใหม่ก็ควรถูกเก็บไว้ในกล่องนี้หรือไม่?
นางอสูรกิ้งก่าต้องการจะตวัดลิ้นออกไป แต่ครั้งนี้อสูรชีตาร์ตัวซ้ายใช้มือคว้าลิ้นไว้
อสูรชีตาร์ตัวขวาต้องการชิงกล่องเงินในมือของเย่ว์หยางอย่างใจจดใจจ่อ แต่เพราะกฎสวรรค์ที่เป็นข้อจำกัดของหุบเขาอสูร เย่ว์หยางไม่สามารถปกป้องอสูรเกิดใหม่ได้ แต่สิ่งมีชีวิตใดๆ ก็ไม่สามารถทำร้ายเขาได้ ใครก็ตามที่ต้องการชิงอสูรเกิดใหม่ ย่อมไม่สามารถคุกคามผู้เป็นเจ้านายได้ ต้องมุ่งไปที่เป้าหมายของพวกเขาเพียงอย่างเดียว มิฉะนั้นจะเสียเวลาเปล่า พออสูรชีตาร์ตัวขวาคว้ากล่องเงินได้ หมียักษ์บินตรงเข้ามาหาจากด้านหลัง
ขณะที่อสูรหมียักษ์อ้าปากจะกัดกล่องเงิน ช้างขนาดใหญ่เข้ามาฉุดลากหมียักษ์ถอยหลัง
อินทรีตัวหนึ่งโฉบลงมาจากอากาศโดยไม่มีใครคาดคิด
แต่ก่อนที่มันจะโฉบได้กล่องไป ปรากฏแรดเขาแหลมตัวหนึ่ง ยังไม่ทันที่กรงเล็บอินทรีจะโฉบได้ กล่องเงินกลับมาอยู่ในมือของเย่ว์หยางอย่างเชี่ยวชาญ ขณะที่บนพื้นปรากฏจรเข้น่าเกลียดดำดินโผล่ออกมา มันอ้าปากกว้างที่เต็มไปด้วยดินเตรียมจะงับ
มีเงาร่างหนึ่งถลันวูบ
วานรแขนยาวคว้าจับงวงช้างและโหนตัวกระโจนอย่างคล่องแคล่ว มันจับหางแรดหลบหลีกอินทรี
มันพลิกตัวตีลังกากลางอากาศกระแทกใส่คอแรดไม่สนใจการไล่ล่าอย่างโกรธแค้น มันโหนตัวผ่านไปที่จรเข้ยักษ์และคว้าเขี้ยวจรเข้ด้วยมือข้างหนึ่งและโยกร่างขณะที่มือข้างหนึ่งคว้าจับกล่องเงินที่ร่วงจากท้องฟ้า ก่อนที่อสูรอื่นจะทันรู้ตัว มันรีบเปิดกล่องเงินคว้าของที่อยู่ในกล่องเงินด้วยมือข้างหนึ่งใส่ปากและกลืนทันทีโดยไม่ต้องเคี้ยว
“ฮ่าฮ่าฮ่า เมื่อว่ากันถึงความคล่องแคล่ว เป็นวิวัฒนาการของเผ่าพันธุ์วานรที่มีความคล่องตัวกว่า” อสูรวานรหัวเราะด้วยความภูมิใจ มันหลบหลีกอสูรช้างที่กำลังไล่เหยียบเพราะความโกรธแค้น
“เป็นแซมซัน เจ้านั่นเอง ข้าสงสัยจริงๆ ว่าเมื่อเจ้าฝึกอสูรครั้งแรก เจ้าก็รู้แล้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะผ่านด่านได้สำเร็จ เจ้าจงใจอสูรแรกเกิดให้เป็นอสูรวานร!”
“ทุกคน, ฆ่าเจ้าลิงบัดซบนี่!”
“เจ้าลิง เจ้ารู้สึกคันผิวหนังหรือเปล่า?”
“เจ้าลิงเหม็นนี่น่ารำคาญและไร้ยางอายเหมือนนางกิ้งก่าไป่!”
เพราะการปล้นครั้งที่สองล้มเหลว อสูรปีศาจหลายตนจึงโกรธและด่าทอดังลั่น
แม้ว่าจะกลายเป็นอสูรปีศาจ แต่พวกเขาไม่เป็นเหมือนอย่างนี้ อสูรปีศาจที่นี่เคยเป็นนักรบปราณฟ้าที่ทรงพลังและฉลาด
ถ้าไม่ได้อสูรเกิดใหม่นี้ เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะผ่านด่านหุบเขาอสูรในระดับห้าได้ ในหุบเขาอสูรนักสู้หลายคนที่กลายเป็นอสูรปีศาจเคยเป็นสหาย เคยเป็นญาติหรือเป็นแม้กระทั่งผู้อยู่ในตระกูลเดียวกัน เพื่อให้อยู่รอดได้ และเพื่อแข็งแกร่งมากขึ้น พวกเขาต้องพยายามทุกวิถีทางเพื่อโจมตีอสูรแรกเกิดและกิน อสูรแรกเกิดคือต้นเหตุการทะเลาะของพวกเขา และมีการทะเลาะกันเองเพื่อกินแก่นเวทของฝ่ายตรงข้าม
แน่นอนว่าเพราะการทะเลาะต่อสู้กันระหว่างอสูรปีศาจ จะมาจากเรื่องการต่อสู้ด้วยกันแล้วมีบางตนได้ประโยชน์
พวกเขาไม่เข้าใจแน่นอน เพราะพวกเขารักชีวิต และจะไม่เปิดศึกต่อสู้กันจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อสู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย ที่สำคัญคือ ชีวิตของพวกเขาหมิ่นเหม่ และไม่มีโอกาสจะฟื้นคืนได้อีก
“ฝีมือดี!”
เย่ว์หยางปรบมือชื่นชม
จวบจนกระทั่งเขาเอ่ยปากอสูรปีศาจพบว่าเด็กคนนี้แตกต่างไปจากธรรมดา สองครั้งต่อเนื่องกล่องเงินที่บรรจุอสูรเกิดใหม่ถูกชิงไปฆ่า เขายังหัวเราะได้อีกหรือ?
อสูรช้างถาม “สหายน้อย, เจ้านี่บ้าจริงๆ พลังปราณฟ้าระดับสามแค่นี้ เจ้าจะทำอะไรได้?”
เย่ว์หยางเปลี่ยนขวดซีอิ๊วและยิ้ม “ถ้าข้าบอกว่าข้าเพิ่งซื้อซีอิ๊วมาขวดหนึ่ง เจ้าจะเชื่อไหม?”
“เจ้ามันโง่ ที่บังอาจหลอกลวงบิดา!” อสูรแรดตะโกนด้วยความโมโห
“เจ้าจะเชื่อหรือไม่ก็ช่าง แต่ข้าเชื่อ...” เย่ว์หยางส่ายศีรษะ ความเคลื่อนไหวของเขาหยิ่งยโสเหมือนชาวสวรรค์
“ท้องข้า, ดูเหมือนไม่ถูกต้อง เหมือนกับว่าที่ข้าเพิ่งกลืนลงไปไม่ใช่อสูรเกิดใหม่” อสูรวานรพบว่าไม่มีพลังงานให้ดูดซับในท้อง และเขาใช้เล็บล้วงคอสำรอกโอ้กออกมาเป็นน้ำรสเค็ม เมื่อเพ่งพิศดูใกล้ๆ จึงพบว่าไม่ใช่ร่างของอสูรเกิดใหม่ แต่เป็นน้ำสีโคลนที่ถูกบ้วนออกมา มีแต่เพียงหินก้อนเดียวที่ไม่สีดำ ที่สองฝั่งข้างถนนจะหาหินนี้เมื่อไหร่ ที่ใดก็ได้ทุกเมื่อ
“ข้าบอกได้เลยว่าสมบัตินั่นก็คือหินก้อนหนึ่ง!” อสูรชีตาร์มองดูและหัวเราะ
“ยินดีด้วยแซมซัน เจ้าทำได้งามหน้าจริงๆ” อสูรชีตาร์ตัวที่สองเยาะเย้ยมีความสุขกับความโชคร้ายของคนอื่น ไม่เพียงแต่พวกเขาสองพี่น้องเท่านั้น อสูรอื่นก็ตะโกนโห่ร้องรู้สึกโชคดีอยู่ในใจ ของโชคร้ายแบบนี้แทบจะตกอยู่กับตัวเขา นึกไม่ถึงเลยว่ามือใหม่จะใช้เล่ห์เหลี่ยมกับพวกเขาได้
“เด็กน้อย เอาอสูรเกิดใหม่ออกมา” อสูรวานรมองดูเย่ว์หยางด้วยความโกรธ
“ฉลาดมาก” เย่ว์หยางล้วงเอากล่องออกมาอีกใบหนึ่งจากกระเป๋า เป็นกล่องที่แตกต่างออกไปเล็กน้อย นี่คือกล่องทอง
ตอนนี้แม้จะมีอสูรมากมายรายล้อมเย่ว์หยางไว้ แต่ไม่มีใครกล้าชิงของ แม้แต่คนที่โง่ที่สุดก็รู้ว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติ เด็กหนุ่มคนนี้เอากล่องทองแดงออกมา จากนั้นเป็นกล่องเงิน และสุดท้ายเป็นกล่องทอง... ทำไมเขาถึงได้เยือกเย็นนัก ขณะที่ดึงกล่องออกมา? ต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน! ในตอนนี้ไม่ว่าใครก็ไม่กล้าชิงกล่องทันที ถูกหลอกด้วยเล่ห์เหลี่ยมเป็นเรื่องเล็ก แต่ถ้าเด็กหนุ่มผู้มีรอยยิ้มชั่วร้ายนี้วางกับดักบางอย่างไว้ นั่นจะเป็นเรื่องเสียหายหนัก
อสูรปีศาจหลายตนเริ่มมองอย่างหวาดระแวง
ในที่สุดอสูรช้างถามขึ้นก่อน “เด็กน้อย, กล่องนี้มีความหมายว่ายังไง?”
เมื่อเย่ว์หยางได้ยิน เขายิ้ม
เขายิ้มอย่างอบอุ่นเป็นกันเองเหมือนกับเจ้าปกครองเห็นอกเห็นใจชาวนาผู้ยากไร้ เขาสามารถทำให้อสูรปีศาจโดยรอบตกใจกลัวได้ ทำให้จิตใจของแต่ละตนสั่นคลอนหวั่นไหว จนเผลอถอยหลังอย่างช่วยไม่ได้ ถ้ามีสิ่งใดผิดปกติ พวกเขาพร้อมจะเผ่นหนีทันที
แม้ว่าเด็กใหม่ที่เพิ่งมาถึงจะถูกรังแก แต่ก็ยังมีข้อยกเว้นอยู่บ้าง
เด็กใหม่บางคนผิดธรรมดาไปมาก และพวกเขาไม่ได้มีแนวโน้มตั้งใจจะทำร้ายพวกเขา แต่เป็นพวกเขานั่นเองที่จะได้รับทรมาน เด็กใหม่นี่ผิดธรรมดาหรือไม่?
เย่ว์หยางยื่นมือทาบต้นขาอสูรช้างอย่างเป็นกันเอง แต่กลับทำให้อสูรช้างกลัวจนตัวสั่น เย่ว์หยางทำตัวเหมือนเป็นสหายเก่าแนะนำกล่องทองในมือต่อฝ่ายตรงข้าม “ความจริง กล่องนี้ไม่มีอะไรมาก เขาเรียกว่า ‘กล่องแพนดอรา’”
“กล่องแพนดอรา?”
ชื่อนี้เมื่อได้ยินแล้วไม่น่าจะตอแยได้ง่ายๆ
แต่คิดว่านั่นไม่ถูกต้อง กฎสวรรค์ของหุบเขาอสูร เจ้าของอสูรไม่เพียงแต่ไม่สามารถใช้ทักษะความสามารถเท่านั้น แต่สมบัติวิเศษก็ไม่สามารถใช้ได้
เย่ว์หยางเหมือนจะรู้ว่าทุกคนสับสนไม่เข้าใจ จึงพยักหน้าและอธิบาย “พวกเจ้าเข้าใจผิดแล้ว กล่องแพนดอรานี้ไม่ใช่ทั้งทักษะแฝงเร้น ทั้งไม่ใช่สมบัติวิเศษ แต่เป็นพลังชดเชยของเทพ เรื่องนี้ต้องว่ากันสามวันสามคืน ข้าขอเลือกเอาแต่ส่วนที่สำคัญมาพูดก็แล้วกัน บอกกับเจ้าก็ได้ว่าแพนดอราคือเทพธิดาแห่งโชคร้าย นางฆ่าเทพไปหลายตนมาก หลังจากนั้นนางจึงได้ตระหนัก และนางจึงได้ชดเชยให้ความหวังกับชีวิตที่ได้รับบาดแผลจากอันตราย”
อสูรปีศาจหลายตนเมื่อได้ยินเช่นนี้ก็ยังสับสนไม่เข้าใจคำพูดของเย่ว์หยาง
เย่ว์หยางเข้าใจและพยักหน้า “พวกเจ้าไม่เข้าใจไม่แปลก ด้วยสติปัญญาของพวกเจ้า คงต้องอธิบายเพิ่มเพื่อให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น! อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่เรื่องสำคัญที่เจ้าจะสามารถเข้าใจได้หรือไม่ พวกเจ้ารู้ไว้แต่เพียงว่ากล่องนี้บรรจุความหวังการกำเนิดใหม่ของเทพธิดาแห่งโชคร้าย ภายในนี้มีพลังปั่นป่วนยิ่งใหญ่ ขอเพียงเปิดออกอาจจะทำให้เกิดผลไม่เหมือนเดิมต่อไป อาจจะเพิ่มศักยภาพ และอาจจะยกระดับพลัง หรืออาจจะได้พลังรบเพิ่มขึ้น อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น!”
เหล่าอสูรปีศาจพอได้ยินก็คิดว่านี่คือของดี!
อสูรวานรผู้เปิดกล่องเงินและนางอสูรกิ้งก่าผู้เปิดกล่องทองแดงตอนนี้ลอบดีใจ
อสูรชีตาร์สองพี่น้องถามด้วยความสงสัย “กล่องทอง เงินและทองแดงทั้งสามนี้ต่างกันยังไง?”
เย่ว์หยางชมเชยพวกเขา “นี่เป็นคำถามที่ดี! ความจริงกล่องทั้งสามชนิดมีความแตกต่างกันมาก พลังปั่นป่วนที่เก็บไว้ในกล่องทอง เงิน ทองแดงทั้งสามนี้แตกต่างกันมาก กล่องทองมีพลังมากที่สุด ขณะที่กล่องทองแดงมีน้อยที่สุดและกล่องเงินมีพลังปานกลาง ที่สำคัญนอกเหนือจากพลังปั่นป่วนที่ให้ความหวังแก่ผู้คนแล้ว นอกจากนี้ยังคงมีพลังเทพวิบัติแห่งความโชคร้าย ที่สำคัญคือนี่เป็นพลังด้านลบที่เทพธิดาสร้างขึ้นในขณะที่ตนเองไม่มีสติ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่แฝงไปด้วยพลังเทพวิบัติ!”
ถ้าเย่ว์หยางไม่พูดประโยคสุดท้ายทุกคนก็คงรู้สึกร่าเริง
แต่พอเขาพูดไปดังนั้น ทุกคนกลัวกันหมด
อสูรวานรแซมซันกลัวจนตัวสั่นเหมือนกับคนป่วยที่ถูกโยนลงน้ำเย็น เขาถาม “หายนะ, พลังเทพวิบัติ?”
เย่ว์หยางตบไหล่เขาปลอบโยน “ไม่ต้องกังวล แม้ว่ากล่องแพนดอราจะมีพลังเทพวิบัติ แต่ก็ระเบิดออกไปแล้ว ปัญหาก็คือความน่าจะเป็นไปได้ โอกาสของพลังในกล่องเงินนั้นไม่ค่อยสูง มีโอกาสเพียงหนึ่งในหมื่นจะได้รับพลังเทพวิบัติ และมีโอกาสหนึ่งในแสนจะได้รับพลังแห่งความหวัง เมื่อเทียบโอกาสหนึ่งในแสนในกล่องทอง ก็มีโอกาสจะได้รับพลังวิบัติ หรือพลังความหวังมากยิ่งขึ้น!”