ตอนที่ 847 ลาก่อนความสุขของข้า
ไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่มีทางทำให้สาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์จากไปได้
เย่ว์หยางต้องเปลี่ยนใจ
ในเมื่อนางไม่จากไป ก็ปล่อยให้นางอยู่ การปล่อยให้นางไปเป็นการแสดงการผ่อนปรนความตายที่มองไม่เห็นอย่างหนึ่ง ด้วยปณิธานปราณราชันย์ก็คงไม่มีอะไรต้องกลัว และเขาต้องการจะไปจากหุบเขาราคะ แต่ต้องเอาชนะความเป็นความตายก่อน ความจริงการผ่านด่านที่สี่ไม่มีอะไร แต่เขามุ่งมั่นเอาชนะได้ให้เหนือกว่านางพญาเฟ่ยเหวินหลี และการผ่านด่านในที่สุด ทำให้เขาต้องผ่านด่านที่สี่ หุบเขาราคะอย่างยากลำบาก
นี่ยังไม่ต้องพูดถึงการคุ้มครองป้องกันของสองพี่น้องหงส์เพลิง ไม่ต้องพูดถึงเพลิงอมฤตหวนกำเนิด
ด้วยสภาพจิตใจของตัวเขาเอง เขาควรจะก้าวหน้าครั้งใหญ่
พลังเทพวิบัติ พลังความเกลียดชังเมื่อแสนปีก่อน เป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะได้
ทำไมแพนดอราถึงได้ถูกผนึกไว้ที่นี่ นางต้องมีเหตุผล คนที่ผนึกนางไว้ได้ก็ต้องเข้าใจเหตุผลลึกซึ้ง ตราบใดที่เขาตระหนักได้ถึงจุดนั้น เขาไม่เพียงแต่ไปจากหุบเขาราคะได้เท่านั้น แต่เขาจะสามารถปล่อยแพนดอราได้โดยตรง เพื่อที่ว่าศีรษะที่ไร้ร่างของนางจะได้เป็นอิสระจากผนึกได้
“ก็ได้, ถ้าเจ้าจะอยู่ด้วยก็ไม่เป็นไร!” เย่ว์หยางตกลง สาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์ร่าเริงและเช็ดน้ำตา นางหัวเราะทั้งน้ำตาด้วยความรู้สึกเหมือนฟ้าหลังหลังฝน นางโผเข้าอ้อมกอดของเขาและจูบเขาทันที ตราบเท่าที่เขาให้นางอยู่กับเขา แม้ว่าจะต้องตายในวินาทีต่อไป นางก็เห็นว่าเป็นเรื่องไม่สำคัญ แต่ถ้านางต้องไปจากเขาตลอดชีวิต นั่นเป็นสิ่งที่นางไม่ต้องการ
“นายท่านเป็นคนดีที่สุด อืม..” สาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์พูดยังไม่ทันขาดคำ เย่ว์หยางเอามือปิดปากนางอยู่สามครั้ง
“ต่อไปห้ามขัดคำสั่งข้าอีก เรื่องนี้ยังไม่จบ รอจนกว่าออกไปข้างนอก ข้าคิดบัญชีเจ้าแน่!” เย่ว์หยางพยายามแกล้งทำตัวเป็นเจ้านายที่ดุร้าย
“ข้าน้อยทราบความผิดแล้ว!” สาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์ไม่กลัวแม้แต่น้อย นางแอบแลบลิ้นอย่างน่ารัก
“........” เย่ว์หยางไม่รู้จะจัดการกับสาวใช้น้อยนี้ยังไงดี ถ้าเขาไม่ขับไล่นางออกไป นางจะเชื่อฟังเขามากกว่าใครๆ แต่ถ้าทำในทางตรงกันข้ามนางกลับดื้อรั้นยิ่งกว่าใครๆ
เย่ว์หยางโยนปมแห่งความสุขออกไปและเข้าสู่(อสูร)โลกที่ขยายตัวมากกว่าเมื่อก่อน เขาไตร่ตรองถึงความเกลียดชังและความหวังเพื่อค้นหาจุดแตกแยก ตราบใดที่เขาตระหนักได้ถึงความจริง เขาก็สามารถมีชีวิตต่อไปได้ มิฉะนั้นเขาต้องเสี่ยงตายดูว่าจะสามารถกำจัดความเป็นและความตายเข้าสู่ระดับเทพได้หรือไม่... ตอนนี้ยังคงมีเวลาอีกครึ่งวันและเย่ว์หยางหวังว่าเขาจะสามารถคิดหาทางเริ่มต้นได้
เพียงแค่ใช้ความพยายามของตนเองออกไปจากหุบเขาราคะได้ นั่นคือความสำเร็จที่แท้จริง
มิฉะนั้น ในระดับต่อไปจะได้รับการยอมรับได้ยังไง?
เย่ว์หยางอยู่ในอสูรโลกจมลึกอยู่ในสมาธิ เขาใช้เพลิงอมฤตกลั่นพลังความเกลียดชัง และผสานเข้ากับพลังความเกลียดชัง เขาไม่ต่อต้านแม้แต่น้อย ปล่อยให้พลังความเกลียดเข้ามาในอสูรโลก จากนั้นเขาจึงได้พบความจริง
แพนดอรากับสาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์เห็นเย่ว์หยางเริ่มหาช่องทางช่วยตนเอง จึงไม่รบกวนเขา และสังเกตมองเขาอย่างเงียบงัน
หลังจากนั้นชั่วขณะ แพนดอราหันไปมองสาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์ นางมองขึ้นๆ ลงๆ พลางถอนหายใจกับเรือนร่างที่ทรงเสน่ห์ของสาวลูกครึ่งเอลฟ์ นางอดถามไม่ได้ “เจ้าเติบโตมาเพราะกินอะไร? ทำไมอกเจ้าถึงได้ใหญ่โตขนาดนั้น?”
สาวใช้น้อยพอได้ยินเช่นนั้น นางก้มหน้าส่ายหัว “ข้าไม่ทราบ บางทีอาจเป็นมาตั้งแต่เกิด ความจริงใหญ่ไปก็ไม่ดีนัก จะเดินจะวิ่งมันสั่นสะเทือนรุนแรง ถ้าเป็นเหมือนท่านหญิงอู๋เสียจะดีที่สุด! ความจริงท่านหญิงเชี่ยนเชี่ยนก็ดูดีเช่นกัน ทุกคนดูดีมาก ไม่จำเป็นต้องมีขนาดใหญ่ แม่หญิงเซี่ยอีก็ไม่ใหญ่ แต่นางก็ดูดี!”
แพนดอราคิดว่าถ้านางมีร่างกาย นางคงไม่อ่อนแอกว่าฝ่ายตรงข้ามแน่ แต่ตอนนี้นางตายแล้ว นางอดถามด้วยความรู้สึกอิจฉามิได้ “เขาตบตีเจ้าบ่อยไหม?”
สาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์อายกว่าเดิม นางเหยียดแขนออกไป และหดแขนกลับคืน เมื่อครู่นี้ทำให้เย่ว์หยางเจ็บจริงๆ และ ถ้าไม่ใช่เพราะแพนดอราสงสัย นางคงไม่สนใจอะไรมาก ยิ่งเย่ว์หยางอนุญาตให้นางอยู่ต่อ นางก็พอใจแล้ว
“ไม่เลย, นี่เป็นครั้งแรกที่นายท่านลงโทษข้าน้อย! นายท่านมักจะสุภาพเสมอ ไม่เคยด่าว่าทำร้ายทุบตี แต่ข้าน้อยดื้อดึงเล็กน้อย นายท่านจึงขุ่นเคือง” เด็กสาวลูกครึ่งเอลฟ์รู้สึกว่าการลงโทษนี้ไม่น่ากลัวแม้แต่น้อย ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวด กลับให้ความรู้สึกที่แปลก
“เวลาเขาโกรธขึ้นมา เขาจะน่ากลัว!” แพนดอรานึกถึงเหตุการณ์นั้นขึ้นมาได้ “ข้ายังกลัวว่าเขาจะสู้กับข้าจริงๆ!”
“ไม่, ไม่เป็นอย่างนั้นเลย!” สาวลูกครึ่งเอลฟ์ปลอบนางกลับ
“โอว, ข้าก็แค่ต้องการเอาชนะ... เป็นไปไม่ได้ ร่างของข้าหายไปแล้ว” แพนดอราถอนหายใจว่างเปล่า
“ศีรษะถูกตัด อย่างนั้นร่างของท่านเล่า?” สาวลูกครึ่งเอลฟ์ประหลาดใจเล็กน้อย ความจริงร่างศักดิ์สิทธิ์ไม่ควรมีวันตายไม่ใช่หรือ? ศีรษะถูกตัด ร่างก็ควรจะอยู่ด้วย
“บางทีร่างข้าอาจกลายเป็นพลังหายนะศักดิ์สิทธิ์ อา..ใช่แล้ว ข้าคิดอะไรบางอย่างออก ดูเหมือนว่าพลังหายนะศักดิ์สิทธิ์ของข้ากล้าแข็งมากเกินไปจนมีคนตัดศีรษะข้า!” แพนดอราสงสัย
“พลังศักดิ์สิทธิ์ เป็นสิ่งไม่ดีหรือ?” สาวลูกครึ่งเอลฟ์ไม่เข้าใจ
“ข้าไม่รู้ นั่นเป็นแค่เศษเสี้ยวความทรงจำของข้า และจู่ๆ มันก็ผุดขึ้นมาในใจของข้า อีกอย่างข้าไม่ต้องการมัน เวลาผ่านมานานถึงแสนปี ข้าชินกับการใช้ชีวิตโดยไม่มีร่างเสียแล้ว โอว.. เจ้ามีร่าง ให้ข้าได้ยืมร่างเจ้าบ้างได้ไหม? ข้าอยากจะยืมร่างเจ้าและใช้มือกอดเขา เขาเพิ่งเล่าให้ข้าฟังว่าคนรักต้องเริ่มจากจับมือถือแขน!” แพนดอราเริ่มจินตนาการ
“แต่ข้าน้อยยังไม่ได้จับมือถือแขนกับนายท่าน แล้วท่านจะรอให้ข้าน้อยจับมือนายท่านก่อนแล้วค่อยยืมร่างได้ไหม?” สาวลูกครึ่งเอลฟ์พูดอย่างง่ายๆ แต่นางรู้สึกว่าเป็นเรื่องต้องทำก่อน
“เอ๋? เจ้ายังไม่ได้กอดกับเขาหรือ? ข้าคิดว่าเจ้ามีอะไรกับเขาแล้วเสียอีก!” แพนดอราสงสัย
“ไม่, ข้าน้อยแค่อยู่กับนายท่าน และคอยรับผิดชอบความเป็นอยู่ประจำวันของนายท่าน”
สาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์อายและโบกมือปฏิเสธ
ความจริงนางยังต้องการจะรับใช้เย่ว์หยางให้มากกว่าที่เป็นอยู่ เพียงแต่นางไม่ได้โอกาส
ทั้งสองมองดูเย่ว์หยางทำสมาธิอยู่ใน(อสูร)โลก พวกนางยังคงคุยกันต่อ ยิ่งคุยกันก็ยิ่งรู้สึกพึงพอใจ เป็นเหตุผลให้ทั้งสองนางใกล้ชิดคุ้นเคยกันมากขึ้น! แพนดอราถามเรื่องราวชีวิตของเย่ว์หยาง สาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์พูดเฉพาะเรื่องที่นางรู้ และแพนดอราให้ความสนใจ พอเวลาผ่านไป เพราะหัวข้อสนทนากับเด็กสาวลูกครึ่งเอลฟ์ นางเริ่มระลึกถึงเศษเสี้ยวความทรงจำได้
จากปากของสาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์ แพนดอราได้รู้เรื่องของเสวี่ยอู๋เสีย และยังรู้เรื่ององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเจ้าเมืองโล่วฮัว นางรู้เรื่องเย่ว์ปิงและเย่ว์หวี่ รู้เรื่องราวในชีวิตของเย่ว์หยาง นางรู้สำนึกได้และเอ่ยขึ้น “ความจริงพวกเจ้ามีความสุขมาก ข้า ข้าจำได้ว่านานมาแล้ว เมื่อขายังมีร่างกาย เพราะพลังเทพวิบัติส่งผลตลอดเวลา ใครก็ตามที่เข้ามาใกล้ข้าจะกลับกลายเป็นผู้โชคร้ายมีอันเป็นไป ดังนั้นทุกคนจึงหลีกเลี่ยงข้าห่างไกล ข้าชอบที่เจ้ากับเขายืนสนทนาต่อหน้าข้าได้พูดคุยได้โดยไม่ต้องสงวนท่าที ทุกคนต้องการให้ข้าตาย และหวังว่าพลังศักดิ์สิทธิ์ของข้าจะไม่ปรากฏขึ้นอีกเลย ... แม้แต่ข้าก็ไม่แน่ใจ ว่านี่คงไม่เกี่ยวกับการที่ข้าถูกตัดศีรษะแต่อย่างใด แต่เป็นความโชคร้ายของข้า!”
สาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์โบกมือพัลวัล “นั่นไม่สำคัญเลย ข้าน้อยเป็นแค่เพียงสาวใช้ แต่ก็ดีใจที่ได้คุยกับท่านในฐานะสาวใช้อย่างนี้”
แพนดอรามองนาง “เจ้านายเจ้าจะฆ่าข้า เจ้าก็จะไม่เกี่ยวข้องหรือ?”
เด็กสาวลูกครึ่งเอลฟ์เงียบ หลังจากนั้นครู่หนึ่งนางส่ายหน้า “นั่นไม่ใช่สิ่งที่นายท่านต้องการทำ จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก ข้าน้อยเชื่อในตัวนายท่าน เขาเป็นคนดีที่สุดในโลก จะไม่มีอะไรสามารถย่ำยีเขาได้ ครั้งนี้เขาจะสามารถเอาตัวรอดได้แน่นอน ข้าเชื่อในปาฏิหาริย์ นายท่านเป็นคนที่สร้างปาฏิหาริย์ได้เสมอ ก่อนนั้นข้าเห็นมานับไม่ถ้วนแล้ว ดังนั้นข้าเชื่อเช่นนั้น และจะเชื่อตลอดไป ไม่ว่าในอดีต ปัจจุบันหรือในอนาคต!”
คราวนี้แพนดอราเป็นฝ่ายนิ่งเงียบบ้าง “....”
เวลาผ่านไปทุกขณะ
ครบกำหนดหนึ่งวันแล้ว
ราตรีค่อยๆ คืบคลานเข้ามา
เย่ว์หยางที่ค้นหาความจริงอย่างเงียบงันเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว มือของเขาร่ายรำอยู่ใน(อสูร)โลก และแยกพลังเกลียดชังและพลังดั้งเดิมของหุบเขาราคะออก แม้ว่าความเร็วที่ทำได้นั้นจะช้า แต่การแยกแยะความจริง แสดงว่าเย่ว์หยางทำถูก ถ้าเขามีเวลามากพอ เย่ว์หยางจะสามารถฝ่าทะลุข้อจำกัดของหุบเขาราคะและทำลายพลังความเกลียดชังที่คุกคามชีวิตเขาอยู่....
แต่สาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์มองเห็นว่าเวลาไม่เพียงพอ อีกสิบนาทีจะกำหนดเวลาของคำทำนายมรณะของแพนดอรา!
สายเกินไปแล้ว!
สาวน้อยลูกครึ่งเอลฟ์ไม่ร้อง นางกลั้นไม่ให้ตนเองหลั่งน้ำตา แต่กลับยิ้มให้แพนดอรา “ข้าจะจากไปแล้ว ข้ายินดีที่ได้พบกับท่าน แพนดอรา, ลาก่อน!”
ในมือของนางถือกริชเงิน กริชนี้เย่ว์หยางมอบให้เซี่ยอีเมื่อตอนกลับไปยังทวีปโบราณต้องการให้นางใช้ปกป้องความบริสุทธิ์ เขากลัวว่านางจะถูกจับและถูกรีดเค้นเพื่อรีดข่าวกรอง ดังนั้นนางจึงขอมีดเล่มนี้กับเย่ว์หยางเป็นพิเศษ แต่ต่อมาเซี่ยอีกลับมาโดยปลอดภัยจึงคืนมีดเงินให้เย่ว์หยาง วันนี้สาวน้อยลูกครึ่งเอลฟ์กลับเอาออกมาใช้ ในฐานะเครื่องมือลัดที่จะช่วยให้นางเข้าสู่เส้นทางปรภพร่วมกับเจ้านาย
“เพื่อเขาแล้ว เจ้าไม่คำนึงถึงความตายหรือ?” แพนดอราเข้าใจสิ่งที่สาวลูกครึ่งเอลฟ์ต้องการทำ นางสัมผัสรู้ได้
“อืม..!” สาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์ยิ้มและพยักหน้า และส่ายหน้า “ข้าเชื่อในตัวนายท่าน อย่างไรก็ตามข้าต้องเตรียมพร้อมไว้ก่อน ถ้านายท่านเดินทางสู่เส้นทางปรภพ ข้าน้อยจะตามไปรับใช้เขาด้วย ไม่ว่านายท่านไปที่ใดก็ตาม ข้าจะตามไปรับใช้เคียงข้างเขา แม้ปัญหาเรื่องสถานะตนจะทำให้ข้ารู้สึกอายถ้าจะพูดออกไป แต่ข้าชอบนายท่าน เขา เขาคือชีวิตของข้า! นายท่านคือโลกทั้งใบของข้า หากไม่มีนายท่านอยู่ในโลก ข้าน้อยคงไม่มีความสุข... ความตายไม่มีความหมายอะไรสำหรับข้า ต่อให้ทุกคนกลัวตายก็ตาม แต่ไม่สามารถเอาชนะความสุขในใจของข้าน้อยได้”
“ความสุข? ความสุขที่ความตายไม่สามารถเอาชนะได้?” แพนดอราสีหน้าเปลี่ยน ราวกับว่านางเห็นแสงสว่างในทันใด
สุดยอดพลังเทพปรากฏแล้ว
ทั่วทั้งหุบเขาราคะเต็มไปด้วยพลังเทพวิบัติที่น่ากลัว พลังแค้นเกลียดชังที่สะสมถึงแสนปีและคลื่นพายุ อย่างไรก็ตาม สีหน้าของแพนดอราแสดงถึงอารมณ์ตื่นรู้แต่ว่าไม่ถึงกับคลั่งหลงลืมสติ
แพนดอราระบายลมหายใจเบาๆ และใช้พลังคลุมสาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์อย่างนุ่มนวลช่วยให้นางสามารถต้านทานพลังเกลียดชังได้โดยไม่เป็นอะไร
นางยิ้มอ่อนโยนให้สาวน้อยลูกครึ่งเอลฟ์ “ขอบคุณเจ้า ที่ช่วยให้ข้าเข้าใจว่าความรักคืออะไร!”
“แสนปีที่แล้ว ข้าได้ตั้งจิตมั่นแน่วแน่ ข้าสาปแช่งสวรรค์บน ที่ขับไล่ข้า ในเวลานั้นข้าโกรธแค้น เพื่อให้เกิดพลังหายนะ ข้าตัดศีรษะตนเองและเปลี่ยนสภาพร่างกาย พลังเทพวิบัตินั้นหลอมละลายได้ยาก เมื่อผ่านสงครามเทพเจ้า ในคราวนั้นข้าฆ่าเทพเจ้าตายไปหลายสิบคน แต่เทพเจ้าโบราณบอกข้าว่า เมื่อข้าได้พบกับรักแท้ ข้าจะเข้าใจว่าอะไรคือความเกลียดชัง อะไรคือความรัก อะไรคือความเสียสละและอะไรคือชีวิตนิรันดร!”
“ตอนนี้ข้าเริ่มเข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว”
“ข้าเคยเป็นเทพแห่งโชคร้าย สิ่งที่ข้ายังขาดก็คือรักแท้!”
“เจ้าสามารถรักคนรัก ไม่สนใจความตาย ปกป้องความสุขของเจ้า เจ้าเป็นมนุษย์ยังสามารถทำได้... ข้าก็ทำได้เช่นกัน!”
“เมื่อเขาตื่นขึ้น โปรดบอกเขา ข้าเห็นความรักแล้ว และได้รักแล้ว! ในชีวิตข้าเหมือนว่ารีบร้อนเดินทางแต่เพียงผู้เดียว ข้าผู้โง่เขลาก็เหมือนกับเจ้า ข้ายังไม่เข้าใจความรัก เขาคู่ควรให้ข้าหลงรักเขาเช่นกัน และข้าก็คงเหมือนเจ้า ยอมสละทุกอย่างที่เจ้ามี”
“ความสุขที่แม้แต่ความตายก็มิอาจพรากไปได้... ข้าจะไม่ยอมให้หลุดรอดมือข้าไปได้!”
“โปรดอย่าลืมข้า แม้จะมีแค่บางโอกาส โปรดจดจำข้าไว้ด้วย!
“ลาก่อน! ความสุขของข้า!”