ตอนที่แล้วตอนที่ 34 - ติงห่าว
ทั้งหมดรายชื่อตอน

ตอนที่ 35 - ติงห่าว (2)


2/2

ตอนที่ 35 - ติงห่าว (2)

ลมกรรโชกแรงพัดเข้ามา เสียงลมหวีดหวิวผ่านรั้ว คล้ายเสียงร่ำร้อง ชวนให้ผู้ฟังรู้สึกไม่สบายใจ

เจียงหลินรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าจงชางเริ่มประหม่า

ผู้ใช้พลังที่มีความสามารถเปลี่ยนอุณหภูมิก้าวไปข้างหน้า และพยายามดัน แต่พบว่าประตูถูกล็อค

เธอจัดการเพิ่มอุณหภูมิใส่แม่กุญแจ ก่อนผลักประตูเหล็กให้เปิดออกอีกครั้ง คราวนี้สามารถผลักมันไปได้ แต่ส่งเสียงเอี๊ยดดังแสบแก้วหู

จากนั้นทหารผู้ใช้พลังคนหนึ่งก้าวออกมา แหงนหน้ามองฟ้า แผ่แสงจางๆออกจากตัว

หลังจากนั้น เมฆดำบนท้องฟ้าเริ่มกระจ่าง แสงแดดยามเช้าส่องมาอย่างอบอุ่น ลมก็หยุดเช่นกัน

ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นผู้ใช้พลังสภาพอากาศ สามารถปรับหรือทำให้สภาพอากาศ ณ ปัจจุบันเปลี่ยนแปลงได้

แสงแดดยามเช้าช่างอบอุ่น ต้นไม้ที่เหี่ยวเฉาในลานก็ถูกเคลือบด้วยแสงสีทองเช่นกัน ดูไม่น่ากลัวอีกต่อไป

เจียงหลินพบเสี่ยวชิงอยู่ข้างๆเธอถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก ในที่สุดผ่อนคลายจากความตึงเครียด เช่นเดียวกับพฤติกรรมของอันหงโถว ที่ถึงตอนนี้ค่อยคลายมือจากแขนเสื้อของพี่สาว

เจียงหลินพบว่ามันแปลก เพราะอันหงโถวมาร่วมภารกิจอีกครั้ง และคราวนี้ไม่ใช่แค่อันหงโถว แม้แต่ฉางห่าวก็ถูกส่งมาจากฐาน

อย่างไรก็ตาม ความคิดของเจียงหลินได้ถูกดึงดูดความสนใจไปอย่างรวดเร็วจากคำพูดของมู่เย่ชิง

มู่เย่ชิงขมวดคิ้วและพูดว่า “ต้นไม้ข้างในเหี่ยวเฉาหมดแล้ว ...... นี่มันเกิดขึ้นได้ยังไง ......”

ทุกคนผ่านถนนคอนกรีตกลางลานโซนหน้าและมุ่งหน้าไปยังประตูหลักของทางเข้าวิลล่า

ประตูหลักถูกปิดอยู่ เสี่ยวชิงและมู่เย่ชิงยืนอยู่ที่หน้าประตู เว้นระยะห่างพอสมควร ฝ่ายแรกส่งกระแสไฟฟ้าออกจากมือตรงไปยังลูกบิด

ต่อมา ท่ามกลางความประหลาดใจของทุกคน ประตูส่งเสียงเอี๊ยด ปลดล็อคอย่างง่ายดาย

จงชางที่กำลังก้าวไปข้างหน้าหยุดฝีเท้า ตอนแรกเธอคิดว่าถึงคราวตัวเองสำแดงพลังพังประตู แต่กลายเป็นว่าไม่ต้องถึงมือเธอ ก็สามารถเปิดประตูได้

เมื่อก้าวเข้ามาข้างใน มู่เย่ชิงและเจียงหลินก็ต้องประหลาดใจ เพราะวิลล่าหลังนี้มีขนาดใหญ่มาก มันเป็นการตกแต่งสไตล์ยุโรป เบื้องหน้าเป็นโถงใหญ่ และมีบันไดวนซ้ายขวาสำหรับขึ้นไปชั้นสอง แต่กลับไม่มีซอมบี้เลยซักตัวเดียว และเมื่อมองผ่านแสงแดด ทำให้เห็นว่าข้าวของภายในยังดูเป็นระเบียบเรียบร้อยมาก

แจกันโบราณสองใบตั้งอยู่อย่างสงบตรงทั้งสองด้านของบันได และถัดออกจากบันไดทางซ้ายและขวาทั้งสองด้านเป็นประตูสลักทรงโค้ง

“เข้าไป!” เจ้าหน้าที่ทหารประจำฐานสั่งการ ครั้งนี้ทางฐานทัพส่งบุคคลสำคัญมานำทีม เป็นผู้บัญชาการกองพลที่สองของฐาน

อย่างไรก็ตาม อันเซี่ยงสือดูจะไม่ใส่ใจรับฟังคำสั่งเท่าไหร่นัก เพราะท้ายที่สุดแล้ว เจ้าหน้าที่คนนี้เป็นผู้บัญชาการตั้งแต่ช่วงก่อนวันสิ้นโลก แต่ตอนนี้อำนาจของเขา มันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว

พวกเธอเข้ามาและปิดประตูหลัก แต่แล้วก็สัมผัสได้ถึงความหนาวเย็นที่แทรกเข้ามา ทำเอาหลายคนสะดุ้งเฮือก

“สมกับที่เป็นคนรวย วิลล่าหลังนี้เหมือนจะมีการทำความเย็นอัตโนมัติ” จงชางเอ่ยด้วยรอยยิ้มกว้าง

“ไม่ใช่หรอก คิดว่านี่น่าจะเป็นเพราะการออกแบบทางสถาปัตยกรรม” อันหงโถวกล่าว

ผู้บัญชาการทหารขมวดคิ้วแน่น เขาเป็นคนที่เฉียบแหลมมาโดยตลอด เคยมีประสบการณ์กับสงครามจริงมาก่อนวันสิ้นโลก ทันทีที่เข้ามา เขารู้สึกว่ามีบางอย่างแตกต่างออกไป ออกคำสั่งอย่างเยือกเย็น “ทุกคนระวังตัวไว้ อาจมีซอมบี้ลอบโจมตีได้ตลอดเวลา”

“รับทราบ!” เจียงหลินมองไปยังปี้ฉู่ อีกฝ่ายเป็นมักเป็นคนแรกที่เตือนพวกเธอเรื่องซอมบี้เสมอมา แต่คราวนี้กลับไม่พูดอะไร ทั้งยังดูไม่ผ่อนคลายสักนิด

ทุกคนตึงเครียด เริ่มทำการค้นหารอบๆวิลล่าที่เหมือนปราสาท แต่ค้นหามาซักพักก็ยังไม่พบซอมบี้แม้แต่ตัวเดียว

ชั้นแรกทั้งชั้นว่างเปล่า ยกเว้นเฟอร์นิเจอร์และสัมผัสลมเย็นสบายแล้ว ก็ไม่มีอะไรอีก

ทหารผู้ติดตามถือปืนในมือตลอดเวลา ทหารผู้ใช้พลังตั้งท่าพร้อมเรียกใช้ความสามารถของตนทุกเมื่อ

ในสภาพแวดล้อมที่มีความกดดันสูงและตึงเครียดเช่นนี้ ไม่นานเส้นประสาทก็เกิดอาการเหนื่อยล้า เริ่มทนไม่ไหว

“วิลล่าหลังนี้สะอาดมาก สะอาดแบบปราศจากซอมบี้ ปราศจากศพคน ไม่มีกระทั่งเลือด แล้วที่สำคัญ ยังไม่มีพืชกลายพันธุ์ด้วย” ในที่สุดปี้ฉู่ก็พูดขึ้นสีหน้าของเธอดูจริงจังมาก “เอาจริงๆคือมันไม่มีอะไรอยู่เลย”

“หรือว่ากลุ่มคนที่อาศัยอยู่ที่นี่ทั้งหมดจะหนีไปตอนเกิดวันสิ้นโลก?” เสี่ยวชิงเอ่ยถาม

“หรืออาจไม่ได้หนี เพราะมั่นใจว่าไม่มีใครเข้ามาได้” จู่ๆมู่เย่ชิงก็พูดขึ้นอย่างกะทันหัน ตั้งแต่ตอนที่เธอเห็นต้นไม้เหี่ยวเฉาบนรั้ววิลล่าหลังนี้ เธอก็รู้สึกอยู่เสมอว่าสิ่งต่างๆ มันไม่ง่ายอย่างนั้น

“เธอเห็นพืชกลายพันธุ์พวกนั้นไหม จากสภาพ ดูก็รู้ว่าต้องมีใครอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ช่วงวันสิ้นโลก ที่นี่มีหลายอย่างที่แปลก แต่ยังไงก็ควรระมัดระวังตัวกันไว้ก่อน”

ได้ยินแบบนั้น เจียงหลินก็นึกขึ้นได้ว่าตอนเข้ามา ประตูเหล็กด้านนอกมันถูกล็อคจากข้างใน และประตูหลักของวิลล่าก็ล็อคจากข้างในเช่นกัน

นี่ ....

ชั้นแรกกว้างขวางมาก ทุกคนค้นหาอย่างระมัดระวัง แต่ก็ไม่พบสิ่งใดผิดปกติ แค่ตลอดเวลา รู้สึกขนลุกแปลกๆ

อย่างไรก็ตาม พอขึ้นมาถึงชั้นสอง ทุกคนก็ยังไม่พบอะไร นี่ทำให้เส้นประสาทตึงเครียดกว่าเดิม

เมื่อขึ้นมาชั้นสาม ผู้บัญชาการจึงพูดขึ้นว่า “พวกเราแยกกันค้นหาเถอะ”

มู่เย่ชิง อันเซี่ยงสือตกใจกับคำสั่งนี้ ทั้งคู่มองหน้ากัน แต่ก็ไม่ขัดอะไร แยกย้ายไปกับทีมของตัวเอง

หลังจากทุกคนแยกย้ายออกไป ผู้บัญชาการยังคงยืนอยู่ที่เดิม ยืนนิ่งเป็นครึ่งค่อนวัน สุดท้ายยกมือขึ้นตบหน้าตัวเองอย่างแรงเพื่อเรียกสติ

ตั้งแต่ที่เข้ามา เขามักได้ยินเสียงบางอย่างอยู่ตลอด มันเหมือนกับเสียงที่แว่วเข้ามาในหู

สงสัยจะตึงเครียดเกินไปจนทำให้เกิดประสาทหลอนกระมัง?

คิดได้แบบนั้น เขาก็สั่งการให้ทีมของตัวเองเริ่มค้นหาต่อ

...

การค้นหาของมู่เย่ชิงผ่านไปด้วยดี พวกเธอยังไม่พบซอมบี้เลย มีเพียงวิลล่าหลังใหญ่ที่ว่างเปล่าและน่ากลัว

หลังจากผ่านห้องรับรองของชั้นสาม ทีมของเจียงหลินก็มาถึงห้องเก็บเครื่องประดับ

ที่นี่มีอัญมณีหลากหลายประเภท ไพลินอันสูงส่ง ทับทิมแดงเหมือนไฟ เพชรประกายระยิบระยับ และอัญมณีที่ไม่รู้จักอีกมากมาย ทำให้ห้องนี้สะท้อนไปด้วยแสงสว่างไสว

ที่นี่ดูเหมือนจะเป็นสถานที่ที่นายหญิงของตระกูลติงห่าวมีไว้ใช้เก็บเครื่องประดับส่วนตัวก่อนวันสิ้นโลก

เจียงหลินไม่มีเวลาชื่นชม เธอแค่ใส่พวกมันทั้งหมดลงในพื้นที่มิติพร้อมๆกับเพื่อนๆร่วมทีมที่คอยช่วย

....

ย้อนกลับมายังทีมทหาร พวกเขายังไม่เจอซอมบี้เช่นกัน แต่เมื่อผู้บัญชาการกำลังจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ในทางเดินที่ว่างเปล่าจากฝั่งซ้าย จู่ๆ ผู้บัญชาการก็เห็นอันเซี่ยงสือเดินช้าๆ จากสุดทางเดิน

ผู้บัญชาการรีบถาม “อันเซี่ยงสือ? ทำไมคุณมาอยู่ที่นี่ แล้วเพื่อนร่วมทีมของคุณอยู่ที่ไหน?”

อันเซี่ยงสือในทางเดินยาวก้าวเข้ามาทีละก้าว ใบหน้าของเธอสง่าและสวยงาม เดินมาจนถึงผู้บัญชาการ น้ำเสียงของเธอไพเราะเหมือนน้ำที่ไหลริน เอ่ยอย่างสงบ “พวกเขากำลังตกอยู่ในอันตราย เราแยกกันเพื่อหลบหนีซอมบี้ ตอนนี้ต้องการความช่วยเหลือจากคุณ โปรดมากับฉัน”

ผู้บัญชาการขมวดคิ้ว เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เกิดความรู้สึกไม่ชอบมาพากลในใจ

ในขณะนั้นเองฉางห่าวที่อยู่ข้างหลังเขาเอ่ยขึ้นมา “ให้ฉันช่วยหาคนอื่นๆให้ไหม?”

ความสามารถของฉางห่าวคือการแบ่งปันทุกสิ่งที่เขาเห็นให้ผู้อื่น และเพื่ออำนวยความสะดวก ก่อนออกจากฐาน เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถส่งข่าวสารกันได้รวดเร็วฉับไว เขาจึงได้ทำเครื่องหมายประทับไว้บนตัวทุกคน และคนที่ได้รับเครื่องหมายจะสามารถมองเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้าเขาได้

ฉางห่าวยกสองนิ้วขึ้นแตะขมับ ในชั่วพริบตา ทุกคนที่เข้าร่วมภารกิจก็สามารถมองเห็นภาพเบื้องหน้าเขา

ทันใดนั้น อินเตอร์คอมบนนาฬิกาผู้บัญชาการพลันดังขึ้นพร้อมเสียงตื่นตระหนกของอันเซี่ยงสือ ตามปกติแล้วอันเซี่ยงสือมักให้ความสำคัญเรื่องมารยาทเวลาพูดคุย แต่ครั้งนี้เธอสูญสิ้นความเยือกเย็น ตะโกนออกมา

“รีบหนีเร็ว! ฉันยังอยู่กับทีม! คนข้างหน้านั่นไม่ใช่ฉัน!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด