บทที่ 14: ฟังก์ชั่นใหม่! ปลาป่าเลเวล 2 !
“ครืดดดดดด”
“โฮ่ง!”
เมื่อเขากลับมาที่ตลาดฉินหลินก็เปิดประตูบานเลื่อน เจ้าหมาดำก็เห่าพลางวิ่งมาถูไถให้การต้อนรับ
“ปะ เด๋วจะพาแกกลับบ้าน” ฉินหลินหยิบอาหารหมาสองถุงพร้อมลากสายจูง
“แฮ็ฟ!” เจ้าหมาดำเหมือนจะฟังรู้เรื่องเลยรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา
เมื่อทั้งคู่หนึ่งคนหนึ่งหมาเดินมาถึงสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าฉินหลินก็กังวลว่าเจ้าหมามันจะยอมให้ความร่วมมือขึ้นไปนั่งบนรถแต่โดยดีมั้ย? ทว่าพอหันมาดูอีกทีมันก็ขึ้นไปนั่งตรงคอรถพร้อมเอาขาหน้าวางพาดบนหน้าปัดรถแล้วซะอย่างนั้น แถมยังหันมาสะอื้นงี้ด ๆ เหมือนจะเร่งให้เขารีบ ๆ ขับไปเร็ว ๆ อีกต่างหาก
ก่อนหน้านี้ฉินหลินเคยดูคลิปหมาที่ดูเหมือนจะรู้ภาษาคน ตอนแรกเขาคิดว่ายังไง ๆ ก็ตัดต่อชัวร์ ๆ แต่ตอนนี้ดูท่าจะไม่ใช่ตัดต่อละ มีหมาบางตัวที่มันรู้ภาษาคนอยู่จริง ๆ
ฉินหลินขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าพาสมาชิกใหม่ของครอบครัวกลับบ้าน
“โฮ่ง ๆ!”
เมื่อฉินหลินกลับมาถึงบ้านและไขกุญแจเปิดห้องเจ้าหมาดำก็เห่าออกมาอย่างมีความสุข
“เสี่ยวหลิน ทำไมลูกเอาหมากลับบ้านมาด้วยล่ะเนี่ย?” หลินเฟินมองเจ้าหมาดำอย่างสนอกสนใจ
“เรื่องมันยาวครับแม่…” ฉินหลินเล่าเรื่องเจ้าหมาดำให้เธอฟัง
“แล้วผมก็เลยรับมันมาเลี้ยงนี่แหล่ะ”
เมื่อหลินเฟินฟังจบเธอก็ย่อตัวลงมาลูบหัวเจ้าหมา มันก็ยืนหัวเข้ามือเธออย่างรู้ความแถมยังเลียมือเธออย่างเป็นกันเองเลยด้วย
“แหมฉลาดจริงเชียว!” หลินเฟินชื่นชม จากนั้นก็บอกกับฉินหลินว่า “ลูกต้องดูแลมันให้ดีนะ คำโบราณท่านว่าไว้ หมูนำความยากจนมาให้ แต่หมานำมาซึ่งความร่ำรวย เจ้าตัวนี้อาจนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ครอบครัวเราก็เป็นได้นะ ว่าแต่มันชื่ออะไรล่ะ?”
“ชื่อ? ยังไม่ได้ตั้งเลยครับ!” ฉินหลินเองก็พึ่งรู้ว่าพอรับเลี้ยงมันมาแล้วต้องมีชื่อให้มันด้วย จากนั้นก็พูดกับมันว่า “ในเมื่อแกมาเพื่อมอบความเจริญรุ่งเรืองให้เรา งั้นก็ชื่อวั่งไฉ (เจริญรุ่งเรือง) ไปเลยละกัน!”
“ต่อไปนี้แกชื่อวั่งไฉนะ!” หลินเฟินยิ้มและเรียกมันว่า “วั่งไฉ!”
เมื่อเจ้าหมาดำได้ยินหลินเฟินเรียกดังนั้นเห็นได้ชัดว่ามันงง ๆ ไปเล็กน้อย แต่ว่าด้วยความฉลาดรู้ความมันเลยเข้าใจได้ในเวลาไม่นานว่าอีกฝ่ายกำลังเรียกมันอยู่มันเลยเห่าตอบเธอไป
หลังกินมื้อเย็นฉินหลินก็หากะละมังมาเทอาหารหมาให้เจ้าวั่งไฉกิน แล้วก็หาลังกระดาษมาให้มันใช้นอนด้วย ตอนนี้บ้านเล็กนิดเดียวก็เอาแบบนี้ไปก่อนแล้วกัน มันไม่มีทางเลือก
เสร็จแล้วฉินหลินก็กลับเข้าห้องเปิดจอเกม เขาเห็นว่ามีแจ้งเตือนว่าหญ้าขึ้นอีกแล้วก็สั่งให้ตัวละครไปถอนหญ้าซะ เสร็จเรื่องเกมก็เปิดวีแชทคุยกับจ้าวโม่ชิงและเล่าเรื่องวั่งไฉให้เธอฟัง
.......................................................................................................................................…
เช้าวันรุ่งขึ้นฉินหลินก็เหมือนเดิม คือเปิดจอเกมเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วตีแปลงปลูกใหม่
เมื่อเปิดประตูห้องออกไปก็เห็นว่าเจ้าวั่งไฉมันนั่งรอเขาอยู่หน้าประตูแล้ว พอเห็นเขาออกมามันก็ครางหงิง ๆ เอาหัวมาถูขา
“มันคื่นมานั่งรอลูกตั้งแต่เช้าเลยนะ แต่มันก็รู้ความนั่งนิ่ง ๆ ไม่เห่าเลย” หลินเฟินเดินมาพร้อมกับข้าวต้มและเอ่ยปากชมเจ้าวั่งไฉ
ฉินหลินยิ้มพลางลูบหัวมัน
เจ้าหมานี่ช่างรู้ประสาดีแท้
หลังจากกินโจ๊กไปสองชามฉินหลินก็บอกลาแม่แล้วเตรียมตัวไปที่โกดังเช่าเพื่อโหลดสินค้า
“โฮ่ง ๆ!”
เจ้าหมาดำวิ่งตามไปที่ประตูพลางคาบสายจูงไปให้เขาเหมือนจะบอกว่าอย่าทิ้งหนูน้า~ อะไรประมาณนั้น
เดิมทีฉินหลินอยากทิ้งมันไว้บ้านเป็นเพื่อนแม่ แต่เมื่อเห็นท่าทางแบบนี้แล้วก็ทำได้แค่รับสายจูงจากมันแล้วพาไปด้วยเท่านั้น
เขาขี่สกู๊ตเตอร์ไปที่ตลาดและเปลี่ยนเป็นรถสามล้อบรรทุกบุโรทั่ง
เขาให้เจ้าหมาไปนั่งหลังกระบะแล้วขับรถมุ่งหน้าไปที่โกดังเช่า
ทันทีที่ถึงโกดังก็ล็อคประตูแล้วรีบเข้าเกมทำให้ตัวเขาหายวับไปทันที
“โฮ่ง ๆ ๆ ๆ!” เจ้าหมาวั่งไฉมองจุดที่เขาหายตัวไปแล้วาะดุ้งตัววิ่งไปตรงนั้นพลางหันไปหันมาอย่างกระวนกระวายลนลาน มันถึงกับใช้ขาหน้าขุดดินเพื่องหาตัวเขาเลยทีเดียว
จากนั้นจู่ ๆ ฉินหลินก็โผล่มาพร้อมกับตะกร้าใส่สตรอว์เบอร์รี่ซะอย่างนั้น เจ้าหมามันก็ตกใจสะดุ้งถอยหลัง และเมื่อเห็นว่าเป็นฉินหลินที่โผล่มามันก็จะกระโจนใส่เขาอย่างดีใจ ทว่าฉินหลินกลับวางตะกร้าลงแล้วหายวับไปอีกครั้ง
ผ่านไปสองสามรอบตอนนี้เจ้าหมาก็เอ๋อแดกไปแล้ว
เมื่อขนผลผลิตขึ้นรถหมดแล้วเขาก็ขับรถพาทั้งของทั้งหมาไปยัง RT-Mart
หลังจากวิถีชีวิตประจำวันเสร็จสิ้นเวลาก็ผ่านไปสองชั่วโมง
.....................................................................................................…
หลังจากมื้อเที่ยงจ้าวโม่ชิงก็มาหา เมื่อคืนเธอได้พูดคุยเรื่องเจ้าหมาทางวีแชทแล้ว วันนี้เลยมาหาเจ้าวั่งไฉโดยเฉพาะ
ฉินหลินเข้าไปต้อนรับเธอด้วยการกอดจูบและแอบลูบ ๆ คลำ ๆ
เจ้าวั่งไฉได้เห็นฉากนี้ก็รู้ความว่าอะไรเป็นอะไร มันรู้ด้วยว่าต้องทำยังไงเลยเดินเข้าไปเอาหัวถูกขาเจ้าโม่ชิงอย่างประจบประแจง
“ฉินหลิน นี่ใช่วั่งไฉป๊ะ?” จ้าวโม่ชิงย่อตัวลงมากอดคอเจ้าหมา
วั่งไฉคร่ำครวญงี้ด ๆ ใส่จ้าวโม่ชิงพยายามทำตัวน่ารักเพื่อประจบสอพลอ
จ้าวโม่ชิงตกหลุมของมันจนอดไม่ได้ต้องมือถือของเธอออกมาเซลฟี่กับมัน
เจ้าหมามันก็รู้เรื่องอีก ยิ้มกว้างยิงฟันใสกล้องให้ความร่วมมือกับเธอเป็นอย่างดี
และไม่ว่าจะเปลี่ยนท่าแบบไหนมันก็รู้เรื่องทำให้จ้าวโม่ชิงยิ่งแต่จะประหลาดใจแถมยังถูกใจมันมาก ๆ เลยด้วย
“ไม่ไหวแล้วฉินหลิน เจ้านี่มันฉลาดเกิน ฉันชอบมันจนทนไม่ไหวแล้ว” เธอพูดด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจดั่งดอกไม้บาน
ฉินหลินเองก็อึ้งไปเหมือนกัน
เพราะหมาปกติมันต้องไม่รู้เรื่องอย่างแน่นอน เว้นแต่ก่อนหน้านี้จะมีคนจับมันเซลฟี่บ่อย ๆ
แถมมันยังฉลาดอย่างที่ว่าจริง ๆ เพราะดูเหมือนมันจะรู้วิธีทำให้คนรอบข้างพึงพอใจ ตั้งแต่แม่เขาจนมาถึงเมียเขาต่างก็โดนมันตกไปแล้ว
จ้าวโม่ชิงเล่นกับเจ้าวั่งไฉจนสาแก่ใจก่อนจะหันมากำชับให้ฉินหลินดูแลมันให้ดี ๆ ด้วยแล้วค่อยกลับไปทำงาน
เห็นได้ชัดว่าเธอตกหลุมรักเจ้าหมาตัวนี้ในเวลาอันสั้น
เสร็จจากเรื่องหมากับเมียฉินหลินก็ไปนอนเอกขเนกบนเก้าอี้เอนและสั่งให้ตัวละครเดินสำรวจรอบ ๆ แมพเผื่อว่าจะมีภารกิจอะไรเด้งขึ้นมาให้ทำ
แต่สุดท้ายก็ไม่เห็นจะมีภารกิจอะไรโผล่มาเลย จากนั้นก็ให้ตัวละครกลับไปที่ฟาร์ม ทว่าก็ต้องเจอกับสิ่งที่ต่างจากเดิมคือมีตัวละครอีกตัวพร้อมไอคอน ‘…’ ปรากฏขึ้น
‘เนื้อเรื่องเหรอ?’
ฉินหลินสั่งให้ตัวละครไปสนทนากับอีกฝ่าย เจ้าตัวนี้ชื่อแซ็คเป็น NPC ของเกม
แซ็ค: เนื่องจากพืชผักผลไม้ที่ตัวละครในเกมขายให้นั้นได้ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจของเมืองแร่ดิบ หวังว่านายจะพยายามต่อไปนะ!
แซ็คยังส่งเบ็ดตกปลาและถุงใส่เหยื่อโดยบอกว่าเขาสามารถไปตกปลาที่ริมแม่น้ำได้ ที่นั่นมีปลาป่า (ปลาที่อาศัยอยู่กันตามธรรมชาติ) มากมายในแม่น้ำที่เป็นที่นิยมมากอยู่ด้วย
หลังจากที่แซ็คจากไปแล้วฉินหลินก็เห็นว่าในช่องเก็บเครื่องมือมีเบ็ดตกปลากับถุงใส่เหยื่อเพิ่มเข้ามา
‘ฟังก์ชั่นใหม่!’
ฉินหลินรู้อยู่แล้วว่าแม่น้ำอยู่ที่ไหนจึงสั่งให้ตัวละครรีบไปทันที
หยิบเป็นเลือกเหยื่อแล้วก็โยน!
จากนั้นก็รอ
ไม่นานเกมก็แจ้งเตือนว่าปากินเหยื่อแล้ว เขาจึงสั่งให้ตัวละครดึงเบ็ดขึ้นมา ไม่นานปลาก็ถูกตกขึ้นมาจากน้ำ
เขาสั่งให้ตัวละครเอาปลาใส่ไว้ในช่องเก็บของและเกมก็แจ้งเตือน:
[จับปลาตะเพียนป่าได้ (เลเวล 2)!]
ฉินหลินรู้เรื่องปลาตะเพียนป่ามาบ้างว่ามันมีชื่อเสียงในด้านการบำรุงร่างกาย ตัวอย่างเช่นแม่เขาที่สุขภาพไม่ดีเจ้าปลานี่ก็มีผล ไม่ใช่แค่ช่วยเสริมสร้างโปรตีนเท่านั้น แต่ยังช่วยในเรื่องม้าม ช่วยเรื่องการไหลเวียนโลหิตและยังลดไขมันอุดตันในเส้นเลือดได้ดีด้วย
ซึ่งเขาเองก็มักจะซื้อปลาตะเพียนมาให้แม่กินเพื่อบำรุงร่างกายอยู่บ่อย ๆ และราคาของปลาตะเพียนป่าก็ปาเข้าไปจินละ 30 หยวน
แต่ที่ทำให้ฉินหลินอึ้งไปนั้นคือปลาตะเพียนป่าเลเวล 2 ต่างหาก
ตอนนี้เขาได้รับรู้แล้วว่าของเดิม ๆ ตามท้องตลาดคือเลเวล 0 ของในเกมเลเวล 1 นั้นคุณภาพสูงกว่าเยอะ และเลเวล 2 นั้นก็สูงกว่าเลเวล 1 อย่างเห็นได้ชัดมากทั้ง ๆ ที่ค่าคุณสมบัติต่างกันแค่จาก +1 เป็น +2 เท่านั้นเอง
ผลผลิตจากเกมอย่างน้อย ๆ ก็อยู่ที่เลเวล 1
ฉินหลินรีบเดินไปเข้าห้องน้ำในร้านแล้วปิดประตูล็อค จากนั้นก็เข้าไปในเกม
นอกจากสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับเก็บพืชผักผลไม้แล้วในโกดังของเกมยังมีสระน้ำเพิ่มเข้ามาอีกหลายลูกด้วยซึ่งเห็นได้ชัดว่าเอาไว้เก็บพวกสัตว์น้ำ และในตอนนี้มีสระลูกหนึ่งที่น้ำเต็มและมีปลาว่ายอยู่ตัวหนึ่ง
ฉินหลินหยิบตาข่ายข้าง ๆ ตัวเขาขึ้นมาช้อนปลาและข้อความก็เด้งขึ้น
[ปลาตะเพียนป่า: เลเวล 2 (10 จิน)]
[คุณสมบัติ: ปลาตะเพียนป่าบริสุทธิ์ เป็นปลาขนาดใหญ่ ผลผลิตจากเกมไม่มีมลพิษใด ๆ อุดมไปด้วยโปรตีน +2, ย่อยและดูดซึมง่าย +2, ม้ามชุ่มชื้น +2, การไหลเวียนโลหิต +2, เรียกน้ำย่อย +2, น่ากิน +2, เนื้ออร่อย +2, รสสัมผัส +2]
+2 ชุดนี้ทำให้ฉินหลินมีความสุขที่สุด เพราะมันคือสิ่งที่จะช่วยแม่เขาได้
แถมยังหนักตั้ง 10 จินด้วย (5 กิโลกรัม)
ปลาตะเพียนกว่าจะโตจนหนัก 5 กิโลฯได้นี่ต้องใช้เวลาอย่างน้อย ๆ ก็สามปี ยิ่งเป็นปลาป่าด้วยแล้วยิ่งต้องใช้เวลานาน แถมปลาตะเพียนป่า 5 กิโลฯอีก บอกเลยว่าโคตรหายากเพราะมลพิษทางสิ่งแวดล้อมและถูกล่าไปหมดแล้ว ตามท้องตลาดแค่ตัวละโลหรือโลครึ่งก็ถือว่าใหญ่แล้ว โดยทั่วไปที่มีนั้นไม่ถึงครึ่งโลด้วยซ้ำ
เขาเคยเห็นข่าวเรื่องแข่งขันตกปลาในป่า ปลาตะเพียนป่าที่โดนตกได้ตอนนั้นหนัก 11.5 จิน ซึ่งถูกขายในราคาจินละเกิน 200 อีก
และตอนนี้เขาจับปลาตะเพียนป่าบริสุทธิ์ไร้สารพิษปนเปื้อนหนัก 10 จินได้แถมยังเป็นเลเวล 2 อีกต่างหาก ปลานี่ตัวโคตรใหญ่แถมยังเป็นปลาที่ต่อให้มีเงินก็หาซื้อที่ไหนไม่ได้ด้วย
ช่างเป็นเกมที่สวดยวดอะไรปานนี้~!
การจับปลาตัวใหญ่ได้ทำให้ฉินหลินรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาหน่อย ๆ
เขาออกจากโลกในเกมแล้วสั่งตัวละครให้ตกปลาต่อ ไม่นานก็มีตัวมากินเหยื่อ
[จับปลาตะเพียนป่าได้ (เลเวล 1)!]