ตอนที่ 848 ตาข่ายที่หลบเลี่ยงไม่ได้
‘จงหลีไป๋จำเป็นต้องมีการคุ้มกัน’ บุรุษหนุ่มคิด
จงหลีไป๋ไม่ได้แจ้งถังเทียน ไม่ได้แจ้งปิงด้วยเป็นสิ่งที่ถังเทียนคิดได้เอง ภูมิภาคตะวันตกไม่ใช่จุดรุ่งเรืองที่สุดของทวีปกวงหมิงมีศัตรูอยู่โดยรอบไม่มาก และทวีปกวงหมิงไม่มีกองทัพประจำการไว้มาก นอกจาก 12พลโทแล้ว มีเพียงกองกำลังรักษาการณ์ในภูมิภาคตะวันตกซึ่งจะถูกสังเกตได้ง่าย
ถังเทียนไตร่ตรองอย่างเคร่งขรึมในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา
เมื่อลุงปิงบอกเขาว่าต้องรีบ และว่าเวลาทั้งหมดที่พวกเขาได้รับอาจจะต้องแลกเปลี่ยนกับชีวิตผู้คนของพวกเขาก็ยิ่งส่งผลใหญ่ต่อเขา
เขารู้สึกว่าเขาต้องกระทำการบางอย่าง ‘ข้าต้องดูเวลาที่คืบคลานผ่านข้าไปขณะที่นั่งอยู่ที่นี่รอให้เรือรบรังสีกัมปนาทซ่อมแซมเสร็จอย่างนั้นหรือ? มองดูแล้วเหมือนเวลาชีวิตเสียไปโดยไม่ได้อะไร?’ ถังเทียนไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เขารู้สึกว่าเขาจำเป็นต้องกระทำการบางอย่าง
หลังจากต่อสู้มามากมายหลายศึก เขาไม่ใช่เด็กหนุ่มไร้เดียงสาเหมือนกับที่ผ่านมาอีก
ในพื้นที่กว้างขวางของภูมิภาคตะวันตกการป้องกันเบาบางคือสมรภูมิที่สมบูรณ์แบบสำหรับกองโจรที่เล็กแต่ทรงพลังแบบนี้ หลังจากเค้นสมองคิดอยู่หลายวันเขาไม่ได้คิดแผนการฉลาดอะไร แต่คิดแค่แผนง่ายๆ และมีประสิทธิภาพ
จอห์นสันเต็มไปด้วยความคาดหวัง
การแสดงพลังครั้งก่อนของถังเทียนทำให้จอห์นสันนับถือถังเทียนหมดใจ เมื่อเขาได้ยินว่าถังเทียนต้องการคนที่คุ้นเคยกับภูมิภาคตะวันตกเพื่อให้นำทางจอห์นสันอาสาโดยไม่ลังเล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาเห็นถังเทียนอยู่ในสภาพช่วงสองสามวันที่ผ่านมา เขาถึงกับตื่นเต้นมากขึ้น
‘เขาคือบุรุษที่แข็งแกร่งทรงพลัง ข้าสงสัยว่าเขาวางแผนอะไรไว้กันแน่?’
เมื่อหันหน้าเข้าหาเหล่าขุนพลและจอห์นสันผู้เต็มไปด้วยความเคารพต่อหน้าเขา ถังเทียนยังคงลักษณะที่สงบไว้และจากนั้นเขาพูดด้วยมาดของผู้บัญชาการ
“ไปเลยบุกตะลุยกันทุกที่”
จี๋เจ๋อและฝูเจิ้งจือตกใจจนนิ่งอึ้ง เมื่อจอห์นสันได้ยินคำพูดนี้เขาแทบกระอักโลหิตกุมอกล้มลงตายกับพื้น เขาเองก็เป็นชายชาติทหารคนหนึ่งที่มีบุคลิกโดดเด่นไม่อย่างนั้นเขาคงไม่มีทางถูกกลุ่มการค้าเมซฟิลด์จ้างให้เป็นหัวหน้าหน่วยคุ้มกันเป็นแน่
‘แต่...จะไปตะลุยทุกที่....’
แผนการที่ไร้ความรับผิดชอบนั้น, โอว, ไม่นะ,แผนแบบนี้ไม่มีทางตั้งชื่อได้ จอห์นสันสาบานได้ว่าในชีวิตการเป็นทหารคนหนึ่งมันเป็นแผนการที่ไม่มีทางตั้งชื่อได้เลย
เมื่อถังเทียนพูดคำพูดนี้ออกมาก่อนที่จอห์นสันจะทันตั้งตัว ถังเทียนโบกมือและพูดทื่อๆ “เดินทาง!”
‘เดินทาง...’
‘เรากำลังออกเดินทางทั้งอย่างนั้นหรือ?’
จอห์นสันคร่ำครวญในใจอยู่เป็นเวลานานและบินออกไปในท่ามกลางสายลมที่ผันผวนเป็นเวลานาน
สองสามวันต่อมา
ถังเทียนพอใจกับแผนของเขาที่ได้ตัวจอห์นสันเป็นผู้นำทาง ต้องกล่าวว่าจอห์นสันได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นผู้น่าเชื่อถือและมีประโยชน์ ตัวอย่างเช่นเขาแนะนำให้ทุกคนปลอมตัวเป็นกลุ่มพ่อค้าขนาดเล็กเพื่อไม่ให้เป็นที่ดึงดูดความสนใจใดๆ จอห์นสันทำงานอยู่ในกลุ่มการค้าเมซฟิลด์มาหลายปีและรู้จักสถานีการค้าต่างๆ และได้เปลี่ยนเครื่องหมายการค้าของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง โดยการกระทำอย่างนี้ ต่อให้พวกเขาถูกใครๆ จับตามองพวกเขาก็สามารถผ่านไปได้อย่างรวดเร็ว เมื่อคนอีกฝ่ายหนึ่งพยายามสอบสวนพวกเขา พวกเขาก็จะไม่พบอะไร
เขายังคงแนะนำถังเทียนให้ละทิ้งเป้าหมายไม่สำคัญเพื่อป้องกันไม่ให้เปิดเผยสถานะของตน
มีแต่เป้าหมายที่สำคัญเมื่อทำสำเร็จก็จะทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายและดึงดูดสายตาของทั้งภูมิภาคตะวันตก
“ข่าวร้าย”
จอห์นสันที่เพิ่งจะได้รับข้อมูลตอนกลับเข้ามาในลานมีสีหน้าไม่ดีเขาบอก “พลโทโอลิเวอร์และแลนซ์ประกาศคำสั่งร่วมเป็นพันธมิตรขอให้ทวีปต่างๆเพิ่มการป้องกันของพวกเขาและให้ตรวจสอบคนที่ไม่คุ้นเคยอย่างเคร่งครัดและขอให้กองทัพเพิ่มความเข้มงวดรักษาความปลอดภัยมากขึ้น ตราบใดที่พวกเขาพบอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับโจรทวีปทองได้ พวกเขาไม่จำเป็นต้องร่วมทำอะไร แต่ให้คอยจับตาดูพวกเขา”
สีหน้าของทุกคนเปลี่ยน ขนาดของกองทัพสัตว์ประหลาดมีกำลังพลเกินหมื่นคนยากจะปกปิดไว้ได้ ทั่วทั้งภูมิภาคตะวันตกมีการระดมกำลังกันเพราะคำสั่งของผู้บัญชาการระดับพลโททั้งสอง สถานการณ์มุ่งเน้นไปทางใต้ทันที
เมื่อกองพลสัตว์ประหลาดปรากฏตัวสิ่งที่จะรอพวกเขาอยู่ก็คือกับดัก เนื่องจากพวกเขาจะถูกโอบล้อมอย่างนั้น เพราะพวกเขาอยู่ในดินแดนห่างไกลของทวีปกวงหมิง
จอห์นสันรู้ว่าทุกคนไม่คุ้นเคยกับทวีปกวงหมิงและกล่าว “กลุ่มการค้าตะวันตกทุ่มเทมากในครั้งนี้สองผู้บัญชาการะดับพลโทยังถูกระดมกำลังเข้ามาไม่ใช่เรื่องแปลกที่พลโทโอลิเวอร์เคลื่อนไหว เนื่องจากเขาสนิทกับกลุ่มการค้าตะวันตก แต่ข้าไม่คาดเลยว่าพลโทแลนซ์ก็เคลื่อนไหวด้วยเช่นกัน”
“แลนซ์ผู้นี้แข็งแกร่งมากไหม?” ฝูเจิ้งจือถาม
“มาก”จอห์นสันตอบโดยไม่ลังเล “ท่านแลนซ์คือพลโทที่อายุเยาว์ที่สุดมีพรสวรรค์ที่น่าประหลาด เขาได้รับยกย่องว่าอยู่ในเส้นทางจะได้เป็นหนึ่งในห้าแม่ทัพใหญ่กวงหมิงรุ่นต่อไป แต่น่าเสียดายกำลังหนุนหลังของเขาไม่ดีและไม่ได้รับโอกาสเท่าที่ควร ถ้าไม่อย่างนั้นข้าคิดว่าท่านแลนซ์คงไม่ถูกผลักดันมาภูมิภาคตะวันตกเป็นแน่”
“ท่าทางจะแข็งแกร่งทรงพลัง” ถังเทียนลูบคาง เขาค่อนข้างตื่นเต้น “คิดถูกแล้วที่เรามา! ถ้าไม่อย่างนั้นกองพลสัตว์ประหลาดจะต้องตกอยู่ในความยุ่งยากแน่! เราจะสร้างความสับสนวุ่นวายเพื่อดึงดูดสายตาเจ้าคนชื่อแลนซ์นั่น”
คนที่เหลือผงกศีรษะกองพลเกราะเทพเจ้ามีกำลังพลเพียง 200 คนและสามารถทำตัวเป็นเหมือนผู้คุ้มกันองค์กรการค้าได้ ไม่มีใครเคยคิดว่าพวกเขาจะเป็นกองทัพ ดังนั้นพวกเขาจึงอำพรางตัวเองได้ง่าย”
“อย่างนั้นเราสามารถไปกลุ่มการค้าตะวันตกได้” จอห์นสันคิดชั่วขณะและกล่าว “กลุ่มการค้าตะวันตกค่อนข้างใหญ่อยู่ในเมืองวายุน้ำเงิน ถ้าเราลงมือโจมตีที่นั่นอย่างฉับพลันบางทีความน่าจะเป็นของความสำเร็จจะค่อนข้างสูง
“ความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มการค้าตะวันตกและกองกำลังท้องถิ่นก็น่าจะดีอยู่ใช่ไหม?”ถังเทียนถาม
“จัดว่าดีมาก”จอห์นสันกล่าว “กลุ่มการค้าตะวันตกฝังรากลึกในภูมิภาคตะวันตกและหลังจากผ่านไปหลายปี พวกเขาสนิทใกล้ชิดกับการฝึกฝนกองทัพในภูมิภาคตะวันตก นอกจากนายพลแลนซ์แล้ว ท่านแลนซ์สามารถระดมกำลังภูมิภาคตะวันตกได้ในเวลาไม่นานและข้าสงสัยว่ากลุ่มการค้าตะวันตกคงได้หลอกล่อท่านแลนซ์ไว้แล้วด้วย”
“อย่างนั้นเราสามารถทำเช่นนั้นได้เลย” ถังเทียนตัดสินใจ “เราจะลอบเข้าไปในกลุ่มการค้าตะวันตกก่อนซึ่งควรจะเป็นคลังสินค้าของพวกเขา จากนั้นเราจะเตรียมกับดักขณะที่กลุ่มการค้าตะวันตกจะต้องขอความช่วยเหลือจากกองกำลังท้องถิ่นจากนั้นเราจะสามารถโจมตีพวกเขาอย่างหนักหน่วง”
“นั่นเป็นแผนที่ดี”จี๋เจ๋อเป็นคนแรกที่สนับสนุน
ไม่ได้เป็นกลยุทธที่แปลกประหลาดอะไร เป็นเรื่องง่ายและสร้างผลกระทบกับศัตรูอย่างคาดไม่ถึงและน่าประหลาดใจ
ฝูเจิ้งจือจอห์นสันและคนที่เหลือพยักหน้าเห็นด้วย
“พี่ฝูกับข้าจะไปค้นหาตำแหน่งของเบาะแสคลังสินค้า”จอห์นสันเริ่มยื่นข้อเสนอซึ่งฝูเจิ้งจือก็ยืนขึ้นเช่นกัน
ดาบพิศวงของจี๋เจ๋อมีความเด่นชัดเกินไป ถ้าเขาเคลื่อนไหวผู้คนจะจำเขาได้ง่าย
จอห์นสันและฝูเจิ้งจือออกเดินทางโดยเร็ว ขณะที่คนที่เหลือนั่งขัดสมาธิ พวกเขาในตอนนี้อยู่ในลานกว้างขนาดใหญ่ที่พวกเขาเช่าไว้นั่นถูกสร้างขึ้นมาเป็นพิเศษสำหรับให้องค์กรธุรกิจใช้งาน และกองเรือขนาดเล็กจอดได้ง่ายด้วยกำแพงที่สูงและหอสังเกตการณ์มีถึงสี่มุม สำหรับเรือขนส่งได้จอดพักภายนอกและมีการห้ามรบกวนผู้อื่นเนื่องจากอาจก่อให้เกิดความวุ่นวายและความไม่ปลอดภัยได้เช่นกัน
ตลอดการเดินทางจอห์นสันยังคงเตือนพวกเขาให้รั้งเก็บรังสีฆ่าฟันที่เปล่งออกจากร่างขณะที่พวกเขาทำตัวเป็นเหมือนกลุ่มการค้า ดังนั้นเมื่อพวกเขาก้าวเข้าเมืองวายุน้ำเงินจึงไม่ตกเป็นที่สนใจของคนอื่น
มีเรือสินค้าอื่นมากมายจอดเทียบท่าอยู่ทุกที่
ภายในลานบ้านทุกคนต่างพักฟื้นหรือไม่ก็ลับอาวุธรอให้ราตรีมาถึง
***************
จงหลีไป๋ต้องพบกับความยุ่งยาก
จุดดำเล็กๆ สองสามจุดในระยะไกลทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจเหมือนกับว่าพวกมันเป็นแมลงวัน ในที่สุดเขาก็ตระหนักถึงข้อบกพร่องของสัตว์ประหลาดเมื่อต้องเผชิญกับฝ่ายตรงข้ามที่อยู่ในกลางอากาศ พวกเขาขาดความสามารถเข้าถึงพวกมัน
จงหลีไป๋เม้มริมฝีปาก จงหลีไป๋หดหู่ ในฐานะที่เป็นแม่ทัพทหารเขารู้ว่าลำพังชะตาของกองทัพโดดเดี่ยวในดินแดนห่างไกลของศัตรูจะเป็นยังไงถ้าพวกเขาถูกหน่วยสังเกตการณ์ของศัตรูจับตา มีความเป็นไปได้ที่กองพลของทวีปกวงหมิงกำลังถูกเรียกระดมและเหมือนกับว่าตาข่ายใหญ่กำลังกางรอพวกเขาอยู่ข้างหน้า
‘ข้าจำเป็นต้องกำจัดแมลงวันน่ารำคาญ’
จงหลีไป๋หรี่ตาของเขาผ่านไปสองสามวันเขาเค้นสมองหาวิธีรับมือหน่วยสอดแนม
พวกเขาบินกันเร็วมากในระดับที่สูงและรักษาระยะห่างไว้ ปล่อยให้จงหลีไป๋จนใจ สัตว์ประหลาดเป็นอาวุธจักรกลวิญญาณประเภทสู้รบ แม้ว่าจะมีความสามารถบินได้แต่ความเร็วและเพดานบินของมันยังไม่น่าพอใจกลับเป็นความเร็วของศัตรูที่มีความเร็วมากและพวกเขาระมัดระวังตัวอย่างมากด้วยความสามารถในการบินที่น่าสมเพชของสัตว์ประหลาดพวกเขาไม่สามารถรับมือหน่วยสอดแนมของศัตรูได้
‘จะรับมือพวกเขา ข้าจำเป็นต้องพึ่งพาอย่างอื่น’
จงหลีไป๋รออย่างอดทน แม้ว่าเขารู้ว่ายิ่งพวกเขาลากเวลานานเท่าใดพวกเขาก็ยิ่งตกอยู่ในความยุ่งยากเท่านั้น แต่เขาเหมือนกับสุนัขจิ้งจอกแก่ที่รอโอกาสของเขาอย่างอดทน
กองทัพสัตว์ประหลาดส่งเสียงกึกก้องอยู่บนภาคพื้น เขาเลือกเส้นทางกว้างใหญ่และรกร้างเป็นพิเศษโดยไม่ผ่านเมืองใดๆ ในกรณีนี้ ถ้าเขาเผชิญหน้ากับศัตรูใดๆ เขาจะมีพื้นที่มากพอให้เคลื่อนไหว นอกจากนี้หลังจากไตร่ตรองผลที่เขาต้องการได้รับแล้ว เขาต้องการได้เวลาจากศัตรู
เขาไม่ลืมหน้าที่ของเขาเอง
แม้ว่าเขาจะไม่พบกับศัตรู แต่เขาก็สามารถรู้สึกได้ถึงอันตรายที่แฝงอยู่ในอากาศและยังเปลี่ยนแปลงตำแหน่งอย่างต่อเนื่องขณะที่เคลื่อนไหวอย่างไม่มีคำเตือน
เป็นการเปลี่ยนตำแหน่งกะทันหันครั้งที่หก
เมฆครึ้มส่งเสียงครืนๆ สายฟ้าหนาแน่นก่อตัวเป็นข่ายแสงพาดผ่านเมฆหนาใจกลางสายฟ้าครอบคลุมทั่วพื้นปฐพี พลังงานของดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์หนาแน่นและสูงกว่าสวรรค์วิถี ดังนั้นพลังสายฟ้าจึงรุนแรงมากกว่า
เมื่อเขาเห็นแมลงร่วงลงจากฟ้าจงหลีไป๋แค่นเสียง
ซู่...
ฝนเทลงมาทันที
ทัศนวิสัยสลัวลงมากขนาดยื่นมือออกไปก็ยังไม่เห็นนิ้ว
รอยยิ้มของจงหลีไป๋กว้างขึ้นทุกทีดวงตาของเขาแฝงแววป่าเถื่อนอำมหิตหนาแน่นมากขึ้นทุกที
ข้างหน้าเขาเป็นหุบเขาขนาดใหญ่
เสียงกึกก้องจากกองพลสัตว์ประหลาดถูกพายุกลืนพวกเขาเข้าไปในเส้นทางหุบเขาอย่างเงียบงัน
หน่วยสอดแนมห้าคนที่ไล่ตามพวกเขาตระหนักได้ว่ากองพลสัตว์ประหลาดเข้าไปในหุบเขาจึงไล่ติดตามไปทันที ขณะที่ความคิดหนึ่งผ่านเข้ามาในใจของเขา ‘หรือว่าโจรทวีปทองต้องการหลบหนี!’
หุบเขาขนาดมหึมามีชื่อว่าหุบเขาบิล มีความสูงชันและเด่นสง่างดงามขยายยืดยาวต่อเนื่องเป็นพันไมล์ มีอุโมงค์หลายแห่งเชื่อมโยงกัน
ถ้าพวกเขาไม่ระมัดระวังให้ดีพวกเขาจะคลาดกับโจรทวีปทองและจะพลาดร่องรอยพวกเขาเนื่องจากภูมิประเทศมีความซับซ้อนมากเกินไป
‘ไอ้สายฝนสายฟ้าระยำเอ๊ย!’
ทั้งห้าคนกำลังก่นด่า ทัศนวิสัยของเขาถูกบดบังและนั่นหมายความว่าการไล่ตามพวกโจรมีความยากลำบากมากขึ้น
โจรทวีปทองกำลังฉวยโอกาสหลบหนี
ทั้งห้าคนเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเป็นแนวขวางอยู่ในกลางท้องฟ้า พวกเขาพุ่งเข้าไปในหุบเขาใหญ่เหมือนกับลูกธนูห้าดอก
เมื่อเข้ามาในหุบเขาตาของพวกสอดแนมหรี่แคบทันที
กลุ่มสัตว์ประหลาดรอต้อนรับพวกเขาและดูพวกเขาอย่างเยาะเย้ย
สัตว์ประหลาดเกิน 100ชุดกระโจนขึ้นในอากาศจากผนังทั้งสองด้าน เหมือนกับกระสุนปืนใหญ่
ภายใต้เสียงฝนเทอย่างหนักทัศนวิสัยของทั้งห้าพลันมืดมิด
ตาข่ายที่หลบเลี่ยงไม่ได้