ตอนที่ 845 แสนปีแห่งความเกลียดชัง
เมื่อนางเห็นว่าเย่ว์หยางสงสัยในตัวนางเอง แพนดอราขุ่นเคือง “ข้าจริงจังนะ!”
เย่ว์หยางทำเหมือนกับว่าไม่ได้ยินอะไร เขาล้างมือและเช็ดมือตามตัวไม่เงยหน้ากลับมามองนาง “เจ้าบอกว่าในหุบเขาราคะ ไม่ควรเชื่อใครง่ายๆ ไม่ใช่หรือ?”
แพนดอราอยากจะกัดเจ้าเด็กนี่นัก “ยกเว้นข้า!”
เย่ว์หยางกลัวว่านางจะกัดเขาจริงๆ จึงยกมือยอมแพ้ แต่อดแสดงความเห็นส่วนตัวไม่ได้ “จู่ๆ เจ้าคิดเรื่องที่น่าเบื่อแบบนี้ได้ยังไง?”
“ความรักเป็นเรื่องน่าเบื่อที่ไหนกัน?” สาวงามผู้ตายมาแสนปีโมโหแทบคลั่ง
“ไม่น่าเบื่อก็จริง แต่นั่นเป็นเรื่องโง่เขลา!” เด็กหนุ่มจากโลกอื่นสรุป
“....” หญิงสาวพูดไม่ออก
เมื่อแพนดอราโกรธ เย่ว์หยางต้องพยายามช่วยตัวเองให้รอด
ที่สำคัญไม่ว่าเขาจะเห็นตัวเองตกอยู่ในอันตรายหรือไม่ เขาก็ต้องลองดูก่อน
อันดับแรกเย่ว์หยางเรียกคัมภีร์อัญเชิญออกมา และแตะอสูรโลกตัวน้อยและแปลงพลังความเกลียดชังทั้งหมด เพลิงอมฤตพุ่งเป็นลำและพลังความเกลียดชังในโลกนี้เริ่มถูกเปลี่ยนไปเป็นพลังงานปั่นป่วน แต่กระบวนการจะช้ามาก และเย่ว์หยางกลั่นพลังเหล่านั้นด้วยเพลิงอมฤตความความตั้งใจตนเองซึ่งเป็นความคิดที่ท้าทายมาก
พลังงานร้ายที่อยู่ภายใต้เพลิงอมฤตของเย่ว์หยางเหมือนกับหิมะที่ถูกต้มจนร้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเย่ว์หยางทรมานมนุษย์พฤกษาจอมโกง เขาลองดูดซับพลังงานความเกลียดชัง มันกลั่นได้ง่ายมาก และกลายเป็นพลังปั่นป่วนที่วุ่นวาย ไม่ถูกความคิดใดครอบงำ
อสูรโลกใหม่ดูดซับพลังงานทั้งหมด อย่างไรก็ตามแม้แต่ธาตุพลังงานก็ยังเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง ยกเว้นพลังปั่นป่วน ไม่มีพลังใดคงอยู่ได้ตลอดไป
เย่ว์หยางรู้ว่ามีบางอย่างที่คล้ายกับอัญมณีสร้างโลกระดับเทพใหม่ที่เขายังควบคุมไม่ได้ แต่ทั้งจักรพรรดินีราตรีและจื้อจุนบอกว่าอัญมณีสร้างโลกถูกใช้เพื่อเปิดโลก ชีวิตที่แท้จริงจะถือกำเนิด และอสูรโลกจะเป็นโลกที่สมบูรณ์แบบที่แท้จริง.. ก็เหมือนเหมือนคัมภีร์อัญเชิญ ตอนแรกเป็นคัมภีร์ทองแดง เติบโตขึ้นเป็นคัมภีร์เงิน, ทองและวิวัฒนาการไปอย่างนั้น โลกภายในคัมภีร์อัญเชิญสามารถมอบที่อยู่อาศัยดำรงชีวิตให้เจ้านาย แต่เจ้านายจะต้องปฏิบัติตามกฎการมีอยู่ของโลก และโลกของเย่ว์หยางนี้จะแตกต่างจากสมบัติวิเศษ เย่ว์หยางจะเป็นเหมือนพระเจ้าในโลกนี้
เพลิงอมฤตโหมกระหน่ำ พลังงานเกลียดชังของมนุษย์พฤกษาถูกแปลงไปเป็นพลังของเย่ว์หยาง
อย่างไรก็ตามพลังเกลียดชังของพวกเขาแตกต่างจากพลังเกลียดชังในหุบเขาราคะราวกับมดกับทะเล พลังเกลียดชังที่มนุษย์พฤกษาได้รับเมื่อพวกเขาถูกทรมาน ต่อให้เทียบกับพลังเกลียดชังของผู้พ่ายแพ้ในช่วงแสนปี ก็ยังมีระยะห่างเหมือนกับต้นไม้ กับป่าทั้งผืน เย่ว์หยางสามารถกลั่นพลังเกลียดชังของพวกเขาได้ภายในนาทีเดียว แต่ถ้าต้องการกลั่นพลังเกลียดชังของผู้แพ้ทุกคน อย่างน้อยต้องใช้เวลาหนึ่งเดือน
แต่การชำระพลังงานความเกลียดชังของหุบเขาราคะทั้งหมด ไม่นับพลังสะท้อนกลับของกฎสวรรค์ แค่เฉพาะเวลาอย่างเดียว คาดว่าต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่งปี
ตอนนี้เย่ว์หยางมีเวลาเต็มที่
เพียงหนึ่งวัน
หนึ่งวันจะทำอะไรได้?
สามารถกลั่นพลังงานความเกลียดชังทั้งหมด เหมือนกับกลั่นน้ำจากทะเลน่ะหรือ?
แม้แต่คนโง่ก็ยังรู้ว่าเป็นไปไม่ได้..แต่เย่ว์หยางยังไม่หยุด เพลิงอมฤตยังคงเผากลั่นต่อไปอย่างไม่รู้จักอิ่ม
“ทำไมเจ้าถึงดื้อรั้นนัก?” แพนดอราถามด้วยความสงสัย
“เพราะเจ้าไม่ใช่ข้า เจ้าจึงไม่เข้าใจข้า” เย่ว์หยางยิ้มตอบ
แพนดอรอเห็นเขายิ้ม ตอนแรกนางตะลึงชั่วขณะ แต่ดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างได้ นางขมวดคิ้วกล่าว “เจ้ายิ้มให้ข้า ดูเหมือนจะชอบข้าบ้างแล้ว!”
เย่ว์หยางทำคอย่น “ข้าเป็นบุรุษ แม้ว่าข้าจะยิ้มอีกครั้ง ก็คงจะไม่เหมือนกับเจ้า!”
แพนดอราค้อนเขา “ข้าหมายถึงเสน่ห์ ปกติเจ้าทำสีหน้าจริงจังไม่ให้ความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่ แต่ แต่รอยยิ้มจริงใจ จะส่งพลังงานไม่ชัดเจน แต่ดึงดูดใจผู้อื่นก็เหมือนกับข้า แน่นอนว่าข้าแข็งแกร่งกว่าเจ้า ไม่ว่าข้าจะหัวเราะหรือร้องไห้ โกรธหรือมีความสุข ข้าดึงดูดใจได้เสมอ แม้ว่าข้าจำไม่ได้ว่าใครเคยพูดเช่นนี้ แต่ข้าแน่ใจมากว่า บางคนเคยพูดถึงข้าบอกข้าว่าข้ามีเสน่ห์ไม่มีที่สิ้นสุด!”
เย่ว์หยางเกาหัวแกรกๆ “เจ้าพูดเช่นนั้น ข้าควรจะมีความสุขด้วยหรือ?”
แพนดอราถามกลับอย่างสงสัย “เจ้าไม่มีความสุขหรือ?”
เย่ว์หยางส่ายศีรษะและเหยียดมือ “จะมีชีวิตได้อีกเพียงครึ่งวัน ไม่มีสาวงามอยู่รอบๆ แม้ว่าเจ้าจะดูดี แม้รอยยิ้มจะดึงดูดใจ แต่จะเอาไปใช้ทำอะไรได้?”
“ไม่มีใครอยู่ใกล้ๆ เจ้ายิ้มให้ข้าได้ไหม?”
“ยิ้มเป็นเรื่องน่าเบื่อ และทำให้เมื่อยหน้าง่าย”
“เจ้า...”
นางตั้งใจว่าจะไม่สนใจเจ้าเด็กนี่อีก แต่หลังจากสิบนาทีผ่านไป แพนดอราพบว่าเขายังไม่ทำอะไรจริงจังเสียที
ไม่มีทาง นางแค่ต้องการการยืนยันเพียงครั้งเดียว
ต่อหน้าคนหน้าโง่นี้ แพนดอราไม่รู้ว่าจะหัวหรือร้องไห้ดี นางพบว่าบางครั้งเขาก็ใจอ่อนได้ง่ายๆ ไม่ว่าเขาทำผิดหรือทำถูก ไม่มีความหมายอะไรกับเขา แพนดอราลอยเข้ามาใกล้อีกเล็กน้อย มองดูเพลิงอมฤตในมือของเขา นางถอยออกไปอย่างตกใจกลัว “ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะมีเพลิงอมฤตอยู่ด้วย! อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเจ้าใช้เพลิงอมฤตช่วยชำระ ก็ต้องใช้ชำระพลังเกลียดชังของหุบเขาราคะ แต่คาดว่าต้องใช้เวลาหลายเดือน...”
เย่ว์หยางปฏิเสธ “หลายเดือนก็ยังไม่ดี อย่างน้องต้องหลายปี นอกจากนี้พลังของกฎสวรรค์ต้องไม่อยู่สภาพสะท้อนกลับด้วย”
แพนดอราประหลาดใจ “เจ้ายังทำเรื่องที่ไร้ประโยชน์นี้อีกหรือ?”
เย่ว์หยางได้ยินแล้วถึงกับหัวเราะลั่น “ข้าจะทำอะไรได้เล่า? ยังอีกนานกว่าข้าจะตาย การรอความตาย จะทำอะไรก็เบื่อเหมือนกัน?”
แพนดอรา “......”
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมงต่อมา แพนดอราอดพูดไม่ได้ “พูดกับข้าดีกว่าเอาแต่รอความตายอย่างเดียว เจ้ามีบางอย่างที่ต้องทำ แต่ว่าข้ากำลังเบื่อ” ไม่รอให้เย่ว์หยางได้ปฏิเสธ นางถามต่อ “เล่าเรื่องของเจ้าให้ข้าฟังได้ไหม ข้าสงสัยจริงๆ เจ้าอยู่ในที่แบบไหน พ่อแม่แบบไหนถึงให้กำเนิดเด็กประหลาดอย่างเจ้าได้ เจ้าแตกต่างจากคนอื่นอย่างสิ้นเชิง!”
เย่ว์หยางเหงื่อตก “ความจริงข้าไม่ใช่คนที่บ้าชอบดูส่วนเว้าโค้ง อย่ามองหน้าข้าอย่างนั้น”
“ส่วนเว้าโค้งหมายความว่าอะไร?”
“ก็เหมือนกับสัตว์ป่านั่นแหละ มักอยู่กับสัตว์ป่า”
“แล้วนี่เกี่ยวอะไรด้วย?”
“ปัญหานี้ลึกซึ้ง ข้าเคยได้ยินมาบ้างเกี่ยวกับหลังเขา แต่ความจริงแล้วข้าไม่แน่ใจ”
“นั่นไม่เกี่ยวกับหัวข้อนี้ จริงสิ, เจ้ามีสตรีที่ชอบบ้างไหม?”
“มี”
“เยอะไหม, เจ้ามีสตรีที่ชอบเยอะไหม? ไม่รู้เลยว่าเจ้าเป็นคนอย่างนั้น เจ้าสามารถต้านทานเสน่ห์ของข้าได้ไม่ใช่หรือ?”
“ปัญหาก็คือเสน่ห์ของสตรีบางคนทำให้ข้าไม่อยากต้านทาน และเสน่ห์ของสตรีบางคนข้าก็ไม่กล้าต้านทาน ในเวลานั้นยากจะพูดได้ชัดเจน ความรักเป็นเรื่องซับซ้อนมาก ผู้เชี่ยวชาญบางคนที่สมองมีปัญหาพูดว่าเป็นปฏิกิริยาทางเคมี และบางคนก็บอกว่าเป็นบุพเพสันนิวาส ทุกอย่างสับสนเอาแน่เอานอนไม่ได้ ขอเพียงแต่ยืนยันได้ว่าเขาชอบนาง และนางก็ชอบเขาเท่านั้นเป็นพอ” เด็กหนุ่มจากโลกอื่นยากจะบอกความจริงได้ว่า คนกำลังจะตาย จะให้คำพูดของเขาดีได้อย่างไร?”
“เป็นอย่างนั้นหรือ? ดูเหมือนข้าจะเข้าใจขึ้นมาบ้าง!” หญิงสาวจากแสนปีก่อนไม่มีเวลาจะพูดเรื่องความรัก นางเลิกคิ้วน่ารัก
“เจ้าเข้าใจก็ดีแล้ว!” เด็กหนุ่มจากโลกอื่นกำลังสอนความรักโง่ๆ
“ถ้าเจ้าไม่ตาย เจ้าจะรักข้าไหม?”
“นั่นคงไม่ดีนัก รักกับศีรษะที่ลอยต่องแต่งไปมา ถ้าพอมีอะไรกันได้ ข้าจะรับไว้พิจารณา”
“มีอะไรกัน ยังไงหรือ?”
“ก็เรื่องอย่างว่าที่ผู้ชายกับผู้หญิงทำกัน...”
“แบบนั้นน่ะหรือ?”
“เจ้าไม่ใช่มีแต่หัวที่ลอยไปมาเท่านั้น แต่เจ้ายังตาบอดอีกด้วย!” เด็กหนุ่มจากโลกอื่นเริ่มหงุดหงิด
“เฮ้, ข้าเข้าใจเรื่องที่บุรุษกับสตรีทำกัน แต่นั่นมันเลอะเทอะเกินไป ตัณหาราคะเต็มไปด้วยเรื่องอย่างนั้น นั่นเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจจริงๆ ข้าไม่รู้ว่าทำไมข้าถึงถูกจองจำไว้ที่นี่ แต่หลายอย่างที่นี่ทำให้ข้าเกลียด ข้าเกลียดทุกอย่างที่นี่!” แพนดอราโกรธ ความเกลียดชังของนางส่งผลต่อพลังกฎสวรรค์ทันที และเย่ว์หยางตระหนักได้ทันทีว่าเมื่อนางโกรธ นางจะมีพลังเกลียดชังด้านลบที่ผสานเข้ากับกฎสวรรค์ได้สมบูรณ์แบบ ความคิดของนางบริสุทธิ์ แต่พลังงานด้านลบติดอยู่ที่หุบเขาราคะ ทำให้หุบเขาราคะมีพลังทำลายล้างที่อธิบายไม่ได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
แพนดอราน่ากลัวเมื่อนางโกรธ แต่รีบสงบใจได้เร็ว
นอกจากนี้รัศมีที่ศีรษะขาดกลับคืนสู่สภาพปกติ
นางรำพึงอย่างมีอารมณ์เล็กน้อย “ข้าถูกตัดศีรษะ และข้าไม่มีร่าง”
เย่ว์หยางรู้สึกได้ว่าแพนดอรานี้ดูเหมือนจะมีพลังทำลายล้างเป็นพิเศษ ไม่ใช่พลังทำลายล้างโดยตรงเหมือนกับวงจักรล้างโลก แต่เป็นพลังที่มองไม่เห็นซึ่งมีอิทธิพลต่อการทำลายล้าง
พลังทำลายล้างจากการขาดสติของนางที่ถูกส่งออกมา จะกลายเป็นพลังเกลียดชัง และจากนั้นก็หลอมรวมกับกฎสวรรค์ของหุบเขาราคะ
ท้ายที่สุดปณิธานของนางก็ถูกเชื่อมโยงอย่างแนบแน่น
กล่าวอีกนัยหนึ่งเหตุผลที่นางไม่สามารถจากไปได้เป็นเพราะนางไม่ต้องการจากไป พลังของหุบเขาราคะนี้จะทำให้นางหมดสติ ทุกอย่างจะทำงานโดยปณิธานของนาง แต่นางไม่เคยใช้พลังนี้จนกระทั่งมันปรากฏและดึงดูดความสนใจของนางเพื่อต้องการให้นางอยู่กับมัน พลังงานทำลายล้างที่มองไม่เห็น ผ่านการดูดซับพลังงานของมัน... พลังทำลายล้างของแพนดอรานี้ กับโลกที่ดูดซับพลังไว้เหมือนกับแม่เหล็กหยินหยางที่ดูดเข้าหากัน
ถ้าไม่ใช่เพราะทั้งสองพิเศษมาก อย่างนั้นนางคงไม่ยอมให้ใครตัดศีรษะนาง และพวกเขาจะไม่ตายกันทั้งหมด
“เจ้ายังจำได้ไหมว่าใครตัดศีรษะเจ้า?” เย่ว์หยางถาม
“ข้าจำไม่ได้” แพนดอรามีอารมณ์ซึมเซาลงเรื่อยๆ
“ไม่มีใครก็ไม่เป็นไร!” เย่ว์หยางปลอบใจนาง “ข้ามีสหาย ร่างของเขาหายแต่ในที่สุดข้าใช้เพลิงอมฤตชุบชีวิตนาง นางกลายเป็นภูตเพลิง เพียงความทรงจำของนางหายไป แต่ตอนนี้นางก็ดีขึ้นเรื่อยๆ”
“ก่อนหน้านี้ข้ามิได้รู้สึกถึงอะไรมากนัก แสนปีผ่านไปข้าหลับลึก และมีความรู้สึกดีมาก แต่เมื่อข้าพบเจ้า ใจของข้าก็ลังเล และเจ้าก็กำลังจะตาย เจ้าแตกต่างจากคนอื่นอย่างสิ้นเชิง มีคนมากมายที่สามารถเอาชนะอุปสรรคได้ และสามารถเห็นข้าได้ บางคนก็พูดคุยกับข้า บางคนในอดีตไม่มีอะไรเกี่ยวกับข้าโดยตรง พวกเขามาแล้วก็ผ่านไป ข้าไม่มีความรู้สึกอะไร แต่เจ้าต่างกัน ถ้าเจ้าตายก็จะไม่มีใครพูดกับข้า เป็นครั้งแรกที่ข้ามีความสุข เจ้าไม่ตายได้ไหม?” แพนดอรายิ่งเศร้ามากขึ้นทุกที นางหลั่งน้ำตาเป็นสาย
“นี่, ยังมีเวลาอีกครึ่งวันไม่ใช่หรือ?” เย่ว์หยางหลั่งเหงื่อเยียบเย็น เขาต้องการบอกว่าเป็นเพราะจิตใต้สำนึกของเจ้าต้องการจะรั้งข้าไว้ มันจึงกลายเป็นเช่นนี้
“แต่ข้าไม่ต้องการเวลาครึ่งวัน ข้าคิดจะอยู่กับเจ้าตลอดไป” แพนดอราร้องไห้อย่างน่าสงสาร
“แต่บางอย่างไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะมีได้” เย่ว์หยางถอนหายใจ
“ข้าต้องการ ทำไมข้าถึงไม่ได้สิ่งที่ข้าต้องการ? ทำไมข้าถึงเป็นเทพธิดาแห่งโชคร้ายที่ทุกคนคอยหลบเลี่ยง ทำไมข้าถึงไม่เป็นเทพธิดาแห่งโชคที่ทุกคนชอบ! ทำไม? ทำไมข้าถึงต้องถูกตัดศีรษะ? ทำไมเจ้าถึงกักข้าไว้ในหุบเขาราคะที่สกปรกนี้ ข้าเกลียด ข้าเกลียดทุกคน!” แพนดอราลืมตัว และความทรงจำที่เก็บไว้ในส่วนลึกของใจพรั่งพรูออกมาทำให้นางคลั่ง เสียงกรีดร้องด้วยความโกรธดังผ่านม่านเมฆ และกฎสวรรค์ทั่วทั้งหุบเขาราคะปั่นป่วน พลังทำลายล้างที่มองไม่เห็นกวาดไปทั่วพื้นปฐพี
เย่ว์หยางพบว่าโลกที่อยู่ข้างหน้านาง ขยายใหญ่ด้วยความเร็วน่าตกใจ พลังงานความเกลียดชังหลากไปทั่วปฐพี และนางกลายเป็นเป้าหมายของการโจมตี กลายเป็นว่าเป้าหมายยั่วให้นางระบายความโกรธ เมื่อเปรียบเทียบกับเทพธิดาแห่งโชคและเทพธิดาแห่งโชคร้ายในแสนปีที่ผ่านมา
เพลิงอมฤตของข้ายากที่จะกลั่นได้ทั้งหมด
ด้วยความเร็วขนาดนี้ มีหวังตายภายในครึ่งวัน
คำทำนายตลกนั่น นับว่าไม่ผิดจริงๆ