ตอนที่ 844 เจ้ามอบความรักให้ข้าได้ไหม?
“ข้าน่ะหรือ?” เย่ว์หยางยังใจเย็นอยู่ได้
“เจ้าจะตายในวันนี้ เจ้าไม่กลัวหรือ?” หญิงสาวแพนดอราถามด้วยความรู้สึกประหลาดใจ
“เรื่องนี้ไม่จริงนี่...” เย่ว์หยางยิ้ม เป็นคนอยู่ดีๆ จะให้ตายได้ยังไง อย่าว่าแต่คนทั่วไปเป็นไปไม่ได้ที่จะมาพูดแช่งให้คนอื่นตาย
“ไม่เชื่อข้าหรือ คำทำนายข้าแม่นยำจริงๆ เป็นเวลาแสนปีมาแล้วที่ไม่มีความผิดพลาดคลาดเคลื่อน ข้าไม่รู้ว่าทำไมข้าถึงมีความสามารถทำนายเช่นนั้น แต่เมื่อข้าบอกว่าจะเป็นความจริง หลายคนมักจะไม่เชื่อ แต่พวกเขาก็ไม่รอด และตายกันทุกคน จำได้ว่าเมื่อไม่นานมานี้ มีมนุษย์อยู่คนหนึ่ง เขาแข็งแกร่งมากกว่าเจ้า ข้าบอกว่าเขาจะตายภายในหนึ่งปี” แพนดอรายกตัวอย่างให้เย่ว์หยางฟัง
“เขาตายในปีนั้นหรือ?” เย่ว์หยางถาม
“ข้าไม่รู้” แพนดอราส่ายศีรษะ “สามปีต่อมาคนที่เข้ามาทีหลังบอกว่ามนุษย์ผู้มีความแข็งแกร่งผู้นั้นตายแน่นอน ส่วนจะตายภายในปีเดียวกับที่ข้าได้ทำนายไว้หรือไม่ ตรงนี้ไม่ขอยืนยัน”
“มนุษย์ที่ทรงพลังผู้นั้นชื่ออะไร?” เย่ว์หยางถาม
“ดูเหมือนว่าเขาชื่อว่าจ้านฟง” แพนดอรากล่าว เย่ว์หยางเหงื่อตก ใครคือจ้านฟง? นั่นคือจักรพรรดิอวี้ผู้ยิ่งใหญ่หรือไม่!
“เจ้าทำนายว่าจ้านฟงจะตายยังไง?” เย่ว์หยางเชื่อความสามารถในการทำนายของอีกฝ่ายเล็กน้อย แต่ก็ยังมีข้อสงสัย
“น่าจะเป็นจากการระเบิดทำลายตนเอง!” แพนดอราพูดอย่างไม่แน่ใจเช่นกัน
“อย่างนั้นวันนี้ข้าจะตายยังไง?” เย่ว์หยางถามอีกครั้ง
“นี่ เจ้าน่าจะตายเพราะพลังเกลียดชังของหุบเขาราคะ!” แพนดอราค่อนข้างเข้าใจชัดเจนถึงสาเหตุการตายของเย่ว์หยาง
“ทำไมข้าถึงต้องตายเพราะความเกลียดชังเล่า?” เย่ว์หยางสงสัย
“เจ้าแตกต่างจากคนอื่นเล็กน้อย ร่างของเจ้าดูเหมือนจะดูดซับพลังเกลียดชังที่ตกค้างอยู่นี้โดยอัตโนมัติ... พลังแห่งความเกลียดชังนี้คงอยู่มาตั้งแต่โบราณกาลแล้ว มีพลังความคับแค้นของผู้พ่ายแพ้นับไม่ถ้วนทิ้งไว้ก่อนตาย ร่างของเจ้าไม่สามารถรองรับและแก้ไขได้ ถ้าเจ้าดูดซับพลังคับแค้นและกฎสวรรค์ที่นี่เข้าไป พลังของกฎสวรรค์ที่ดำรงอยู่ในหุบเขา จะโจมตีตอบโต้ คาดกันว่าตัวของเจ้าจะระเบิดในไม่นานหลังจากตายไป” แพนดอราวิเคราะห์อย่างระมัดระวังถึงสาเหตุการตายของเย่ว์หยาง
“เดิมทีก็เป็นแบบนี้” เย่ว์หยางไม่รู้สึกว่าคำตอบนี้จะแปลกประหลาดอันใด ภายในร่างของเขามีหลุมดำที่ดูดกลืนพลังงานทุกอย่าง นอกจากนี้ยังมีอสูรโลกที่ดูดซับพลังงานเป็นครั้งคราว
“ในเมื่อพบสาเหตุการตายแล้ว เจ้าตั้งใจจะทำยังไง?” แพนดอราประหลาดใจกับความสงบของเย่ว์หยาง
“เจ้าหมายความว่ายังไง?” เย่ว์หยางสงสัย
“ไม่กลัวหรือ?” แพนดอราคิดว่าเจ้าเด็กนี่ดูไม่เหมือนคนที่รู้ตัวว่ากำลังจะตาย พูดให้ถูกก็คือความเร็วในการตอบสนองของสมองของเขาก็ไม่นับว่าช้า? หรือว่าเขาเกิดมาไม่เข้าใจว่าอะไรคือความตาย?
“เรื่องนี้ข้าต้องกลัวด้วยหรือ?” เย่ว์หยางถามอย่างไม่แน่ใจ
“นั่นคือความตายนะ!” แพนดอรามึนงง
“เจ้าตายไปแล้ว เจ้ากลัวไหมเล่า?” เย่ว์หยางถาม
“ข้าตายมาแสนปีแล้ว ยังจะต้องกลัวอะไรอีก!” แพนดอราบอกว่านางชินมานานแล้ว
“ข้ายังไม่ตาย แล้วจะให้ข้ากลัวอะไร!” เย่ว์หยางยักไหล่และผายมือ เขาไม่เพียงแต่ใจเย็น แต่ยังมองโลกในแง่ดี “ตอนนี้ยังไม่ตายไม่ใช่หรือ?”
“......” แพนดอราพูดไม่ออก เย่ว์หยางเดินดูตุ๊กตาหินยักษ์ต่างๆ
มีเงาเหมือนเด็กอยู่ในป่า แต่ต้นไม้เหล่านี้แปลกประหลาด มีการดัดรูปจนดูคล้ายคน ต้นที่อยู่ทางด้านซ้ายมือเย่ว์หยางเหมือนกับสตรี ต้นขวาเหมือนกับบุรุษ ยิ่งเดินดูก็ยิ่งเหมือนมาก จนกระทั่งไปถึงจุดสุดท้ายอย่างรวดเร็ว ต้นไม้เหล่านี้ที่เย่ว์หยางเห็นไม่ใช่ต้นไม้จริงๆ แต่กลับมีลักษณะของต้นไม้ ซ้ายเป็นต้นไม้สตรี ขวาเป็นต้นไม้บุรุษ มองดูเหมือนอยู่ในสภาพเปลือย
ต้นไม้รูปมนุษย์เหล่านี้ไม่ว่าชายหรือหญิงพอเห็นเย่ว์หยางเดินเข้ามาต่างหลั่งน้ำตาและคร่ำครวญ “ช่วยด้วย”
เย่ว์หยางยังอยู่ในสภาพพรางตัวมองดูแพนดอราด้วยอาการประหลาดใจ “มนุษย์ต้นไม้เหล่านี้เห็นข้าด้วยหรือ?”
แพนดอราลอยตามเย่ว์หยางอย่างต่อเนื่อง นางพูดพร้อมกับยิ้ม “สิ่งมีชีวิตใดๆ พอเข้าหุบเขาราคะ คิดจะเอาชนะอุปสรรคให้ได้ ไม่ว่าจะใช้สมบัติวิเศษหรือทักษะแฝงเร้นใดเพื่อพรางตัว ก็ไม่มีส่วนช่วยเหลือเท่าใด ตราบเท่าที่ยังมีระดับต่ำกว่ากฎสวรรค์ ทุกอย่างก็ยังจะมองเห็นได้”
เย่ว์หยางถามต่อ “มนุษย์ต้นไม้นี้เห็นเจ้าหรือเปล่า?”
แพนดอราปฏิเสธ “ข้าอยู่นอกเหนือกฎสวรรค์ นอกจากเจ้ามีน้อยคนนักที่จะรู้สึกถึงพลังเกลียดชังที่เป็นอุปสรรคขัดขวาง คนอื่นๆ ไม่รู้ว่าข้ามีอยู่!”
“ได้โปรด ช่วยข้าด้วย! พาข้าออกไปจากที่นี่ อยากได้อะไรข้าจะให้ทั้งหมด!” นอกจากเย่ว์หยางแล้วยังมีสตรีสามคน แน่นอนว่าทั้งสามนี้ไม่ได้มีสตรีคนเดียวแต่หลอมเข้ากับเสาสามต้น แม้ว่าร่างกายจะขยับได้บ้าง แต่ไม่สามารถแยกออกจากกิ่งก้านที่หลอมรวมได้ ต้นไม้สตรีเริ่มพูดอย่างเร่งด่วนพยายามเอื้อมแขนมาหาเย่ว์หยางตั้งใจจะยื้อยุดเขาไว้ แต่พอยืดแขนออกมาเท่านั้นก็มีแสงฉายใส่แขนไฟลุกไหม้ทันที ต้นไม้สตรีกรีดเสียงร้องโหยหวน
“ถ้าเจ้ายินจะช่วยข้า ข้าจะยอมเป็นทาสเจ้า จะให้ทำอะไรก็ยอม” ต้นไม้รูปผู้ชายอีกด้านหนึ่ง อ้อนวอนเย่ว์หยางด้วยเช่นกัน
“เสียใจด้วย ข้าไม่ต้องการทาส” เย่ว์หยางเสริมต่อ “และข้าจะตายวันนี้เสียด้วย”
“เจ้าฝ่าฝืนกฎสวรรค์หรือ?” ใบหน้าของต้นไม้สตรีมีแววปั้นยาก
“แม้ว่าจะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม....” เย่ว์หยางพยักหน้า
“ไสหัวไป, ทำให้บิดาเสียเวลา!” ต้นไม้ด้านตรงข้ามที่ได้ยินเย่ว์หยางบอกว่าละเมิดกฎสวรรค์ เปลี่ยนสีหน้าทันที
“จะโกรธคนตายไปทำไม เรารอโอกาสเพื่อเอาชนะในครั้งต่อไป” ใกล้ๆ กับต้นไม้บุรุษยังมีต้นไม้บุรุษที่อยู่ไม่ห่าง พยายามบิดตัวอยู่บนเสาค้ำสามเสา ผิวของมันเปื้อนไปด้วยเมือก และดูน่ารังเกียจขยะแขยง เมื่อร่างทั้งสองอยู่ด้วยกัน ต้นไม้ทั้งสองไม่สนใจเย่ว์หยางอีกต่อไป กลับหันกลับไปโรมรันกันเอง
ผ่านไปครู่หนึ่งต้นไม้บุรุษทั้งสองก็หอบหายใจเหมือนวัว แต่มนุษย์ต้นไม้รอบๆ คล้ายกับว่าตาบอด
พวกมนุษย์ต้นไม้ที่เกิดราคะมักจะมีเรื่องราวตามมา
ในไม่ช้าต้นไม้ทั้งสองฝ่ายก็สั่น
เย่ว์หยางมองเห็นแล้วอดหลั่งเหงื่อเยียบเย็นมิได้
มีแต่ต้นไม้สตรีที่ถูกแสงฉายแขนจนไหม้ ยังคงหลั่งน้ำตามองดูเย่ว์หยาง “เจ้าจะตายวันนี้ เจ้ามอบความรักให้ข้าได้ไหม? ตราบเท่าที่ข้าได้รับความรัก ข้าจะสามารถไปจากที่นี่ได้! ก่อนที่เจ้าจะตายข้าจะอยู่กับเจ้าเป็นเวลาหนึ่งวัน จะช่วยให้เจ้าได้มีความสุขที่สุดก่อนตาย เจ้าสามารถทิ้งเชื้อสายเผ่าพันธุ์ไว้ มอบลูกให้ข้าในอนาคต! ในเมื่อเจ้ากำลังจะตาย เจ้าจะไม่ทิ้งอะไรบางอย่างไว้ในโลกหรือ? อย่างน้อยที่สุด เจ้ายังจะมีอะไรต้องเสียใจ? ข้าสามารถทำให้เจ้าพอใจได้และปล่อยให้เจ้าไปอย่างมีความสุข ข้าจะรักเจ้าตลอดไป และอยู่กับลูกในอนาคตของเจ้า สอนให้เขาเป็นมนุษย์ จะให้เขาได้เป็นนักรบที่ดีที่สุดในแดนสวรรค์ กลับมานี่เถิดคนดี!”
วันนี้เย่ว์หยางดูเหมือนจะใจดี เขาโน้มตัวเข้าไปใกล้และถาม “ข้าจะช่วยเจ้าได้ยังไง?” แพนดอราถอนหายใจอย่างไม่พอใจอยู่ด้านหลังเขา และมีความรู้สึกว่าเขาไม่น่าโง่เกินไป
ในหุบเขาราคะไม่มีใครเชื่อถือได้
เย่ว์หยางยังคงไม่รู้ตัวเหมือนเดิม เขาเหมือนกับจะคิดว่าตนเองเป็นพระโพธิสัตว์กวนอิม
ต้นไม้สตรีหลั่งน้ำตาร้องไห้สะอึกสะอื้น ในที่สุดก็ข่มใจพูดด้วยเสียสั่นเครือ “ตราบใดที่เจ้าจูบข้า ข้าจะได้รับอิสรภาพคืน เมื่อข้าได้อิสรภาพคืน ข้าจะมอบความสุขทั้งหมดให้กับเจ้า เราจะมีความรักกันทั้งวัน ถ้าไม่ใช่เพราะเวลาของเจ้าเร่งรัด ข้าสามารถอยู่กับเจ้าได้ถึงสองสามปี หรือแม้แต่ตลอดชีวิต เจ้าคงไม่รู้หรอกว่าข้าเป็นยังไง? ข้ารักเจ้า ข้ารักเจ้าทั้งชีวิต ตราบใดที่เจ้าช่วยให้ข้าได้รับอิสรภาพ ข้าจะรักเจ้าตลอดไป”
“จูบเหรอ? เจ้าอยู่ไหนที่รัก?” เย่ว์หยางเข้าไปใกล้ เขากวาดตาไปที่เนินอกขาวโดยไม่จงใจ และนางต้นไม้สตรีนี้จงใจอ้าขากว้าง
“สัมผัสก็ได้เหมือนกัน” มนุษย์ไม้หญิงอาย ก้มหน้าไม่กล้ามองเย่ว์หยาง เสียงนางสั่นเครือ
เย่ว์หยางเมื่อได้ยิน “สัมผัส? ง่ายขนาดนั้นเชียวหรือ?” เขาแกล้งทำเป็นไอและขยับจัดเสื้อผ้าตนเอง เขาหวีผมแทบไม่ต้องส่องกระจกเลยว่าลักษณะเป็นยังไง ในที่สุด เขาวางมาดเป็นสุภาพบุรุษผู้ช่วยชีวิต และแตะที่หน้าอกต้นไม้สตรี
เมื่อเย่ว์หยางลังเลทำท่าดึงมือกลับ ต้นไม้สตรียิ้มทันที นางจงใจดิ้นอยู่บนต้นอย่างรุนแรงและร่วงหล่นบนพื้น ขณะที่นางคลานอยู่ในเมือกสีเขียว เย่ว์หยางปลิวเข้าหาเสาไม้ทันที ยิ่งดิ้นมากเท่าใดก็ยิ่งติดอยู่ในต้นไม้ เย่ว์หยางร้องด้วยความตกใจทันที “เกิดอะไรขึ้น?”
นั่นทำให้มนุษย์ต้นไม้สตรียิ้ม “ย่อมแน่นอนว่า เจ้าจะเข้าแทนที่ข้า! เจ้าคงไม่รู้สินะว่าที่นี่ ไม่ว่าอิสรภาพของใครก็ตามจะต้องแลกเปลี่ยนกับอิสรภาพของคนอื่น บางทีในอนาคต รอให้คนโง่อีกคนหลงเข้ามาแทนเจ้า แต่ก่อนอื่น ข้าต้องล่วงหน้าไปก่อนหนึ่งก้าว สุดที่รักหน้าโง่ของข้า ข้าจะสอนเจ้าเอาบุญ ต่อไปอย่าได้เชื่อคนแปลกหน้า และอย่าทำข้อตกลงกับคนแปลกหน้าง่ายๆ ในแผ่นดินฝึกฝนนี้ ไม่มีใครตายได้รวดเร็วกว่าคนใจดีอีกแล้ว”
เย่ว์หยางทำท่าทางหวาดกลัวและจู่ๆ เขานึกได้อย่างหนึ่งทันที “เจ้าบอกไม่ใช่หรือว่าจะรักข้าตลอดไป? เจ้าจะต้องให้กำเนิดลูกชายให้ข้า!”
หลังจากมนุษย์ต้นไม้สาวยืนขึ้น นางเปลี่ยนร่างเป็นบุรุษวัยกลางคน
เขาหัวเราะอารมณ์ดี “เจ้าหน้าโง่! ในหุบเขาราคะ บุรุษกลายเป็นสตรี สตรีกลายเป็นบุรุษ บุรุษและสตรีที่เจ้าเห็น มีการเปลี่ยนแปลงทุกวัน! เอาแต่มองลักษณะภายนอกหลอกลวงทำให้เจ้ายอมรับจะช่วยเหลือ! นอกจากนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องเช่นนั้น เจ้ายังจะยอมเชื่อข้าหรือ? ข้ารอมาเป็นเวลานานแล้ว ในที่สุดก็มีคนมาแทนข้า ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าจะค่อยๆ เชื่อมโยงกับต้นไม้ช้าๆ คาดกันว่าหลังจากผู้คนหลายพันผ่านไปมา ก็จะถึงคราวของเจ้าต้องเกลี้ยกล่อมคนเดินทาง อันที่จริงก็ไม่ถึงกับแย่นักหรอกกับการเดี๋ยวกลายเป็นหญิง เดี๋ยวกลายเป็นชาย ถ้าเจ้าเกลียดสตรี เจ้าสามารถปล่อยให้คนอื่นเล่นกับเจ้าได้ ตราบเท่าที่มีคนอยู่ในต้นไม้ เจ้าก็เล่นได้ จะหนึ่งต่อหนึ่ง หรือว่าเกิดอาการเบื่อเจ้าจะเรียกหลายๆ คนมารวมกันก็ได้ ถ้าเจ้าไม่รู้สึกหนำใจนะ ฮ่าฮ่าฮ่า!”
เย่ว์หยางคร่ำครวญราวกับหญิงหม้ายเสียลูก “ข้ามันโง่เอง ข้าก็รู้ว่าเป็นเรื่องเท็จ ข้ามันโง่เอง แต่ข้าก็ยังเชื่อใจคนอื่น...” บุรุษวัยกลางคนหัวเราะ “ใจเย็นๆ ข้าก็ค่อยๆ ชอบที่นี่และในไม่ช้าก็จะชินไปเอง ข้าจะหลอกสหายพี่น้องที่ตามมาที่นี่ภายหลังเพื่อให้อยู่แทนเจ้า เจ้ารอไปก่อน ข้าจะไปแล้ว!” โดยไม่สนใจคำพูดของมนุษย์ต้นไม้โดยรอบ บุรุษวัยกลางคนเกรงว่าจะบินออกไปไม่ได้
ก่อนจากไป เขายังคงใช้เท้าเกี่ยวเอากระเป๋าสะพายหลังที่เย่ว์หยางเพิ่งวางไว้บนพื้น แน่นอนว่าเขาต้องการสัมภาระของเย่ว์หยาง พอบินออกไปได้ร้อยเมตร ภาพทุกอย่างก็แตกสลายในทันที
ภาพทุกอย่างเหมือนกระจกแตก และสลายหายไปในทันที
บุรุษวัยกลางคนผู้บินห่างออกไปร้อยเมตรยังคงเป็นมนุษย์ต้นไม้สาว และคราบน้ำตาของนางยังไม่แห้งเหือด
แต่เย่ว์หยางซึ่งติดกับลำต้นไม้ แท้จริงแล้วยังคงยืนยิ้มอยู่ในท่ามกลางป่าไม้โดยมิได้เคลื่อนไหวแม้แต่ก้าวเดียว กระเป๋าสัมภาระบนหลังของเขาจากที่ตกอยู่บนพื้น ก็ยังคงอยู่บนหลังของเขา
“ภาพลวงตา?” หน้าของมนุษย์ต้นไม้สตรีเปลี่ยนไป
“ผิด! นั่นคือภาพลวงตาที่แท้จริง แต่นี่เป็นสินค้าชั้นสูง เจ้าไม่รู้ก็คงไม่แปลก! เย่ว์หยางเปิดกระเป๋าสะพายหลังและเอาผลึกฟอฟเฟตกองใหญ่ออกมา เขาโยนผลึกทีละก้อนตามรายทาง เมื่อผ่านระยะหนึ่งก็จะวางไว้ก้อนหนึ่ง ความจริงนี่ไม่ใช่กระเป๋าสะพายหลังของเขา เป็นของที่ชิงมาจากแหวนเก็บสมบัติของรองเจ้าตำหนักเซิ่นตู้ เดิมทีคิดว่าจะเป็นสมบัติ ใครเล่าจะต้องการผลึกฟอสฟอรัสแดง นี่ทำให้เย่ว์หยางผิดหวัง
“เจ้าจะทำอะไร?” ไม่เพียงแต่มนุษย์ต้นไม้สตรีเท่านั้น มนุษย์ต้นไม้อื่นพลอยตื่นเต้นไปด้วย
“ง่ายมาก เผาฟืน!” เย่ว์หยางยิ้มเฉิดฉันเหมือนแสงอาทิตย์ ราวกับเทพสุริยาส่องแสงมายังโลกมนุษย์ “อากาศมันหนาว ถ้าไม่จุดไฟเผาข้ากลัวว่าพวกเจ้าจะเป็นหวัด” พูดไม่ทันจบประโยชน์ เมฆฝนลอยต่ำลงมาทุกที่ ทั้งพายุฝนและหิมะทำให้เกิดน้ำค้างแข็ง อากาศเย็นแทบจะถึงศูนย์องศา มนุษย์ต้นไม้เหล่านี้มีพลังไม่ต่ำกว่าระดับจักรพรรดิ
ผลึกฟอสฟอรัสแดงอยู่บนพื้นตรงกันข้าม ภายใต้เกล็ดหิมะร่วงหล่น เขาปล่อยเพลิงบัวแดง และพลังไฟระเบิดพ่นเปลวไฟที่ร้อนรองอยู่โดยรอบ
เพลิงสวรรค์ และ น้ำแข็งสองชั้น
มนุษย์ต้นไม้ทั้งหมดร้องโหยหวนแสดงสีหน้าเจ็บปวดจนแทบไม่อยากมีชีวิตต่อ... เย่ว์หยางยิ้มเหมือนกับว่ากำลังฟังเพลงไพเราะในโลก “พวกเจ้าต้องร้องให้ดังขึ้นกว่านี้!”
“ยกโทษให้เราด้วย ยกโทษให้เราด้วย” ขณะที่แผดเสียงร้อง ทั้งเปลวเพลิงและน้ำแข็งระเบิดใส่พวกเขา “เราผิดไปแล้ว อภัยให้เราด้วย เมตตาสงสารเราเถิด ยกโทษความผิดที่น่ารังเกียจของเราด้วย”
“นี่คือการลงโทษเล็กๆ น้อยๆ กับการที่บังอาจพูดว่ารักข้า! หลอกข้า โกหกขอให้ข้าช่วยเหลือ แล้วยังชิงสมบัติของข้า ข้าอับอายจริงๆ” เย่ว์หยางยกมือ เกิดฟ้าร้องฟ้าลั่นนับพันๆ สายในท้องฟ้า ฝนเริ่มตก พวกมนุษย์ต้นไม้ถูกฟ้าผ่าจนดำเป็นเขม่าก้นหม้อ แต่ภายใต้การจองจำด้วยกฎสวรรค์ พวกเขาจะไม่ตาย และผิวของต้นไม่จะสร้างใหม่ เป็นแค่ความเจ็บปวดที่ยากจะหลีกเลี่ยง และมนุษย์ต้นไม้เหล่านี้รู้สึกว่าตายยังดีกว่าอยู่
“เจ้าก็ช่างกระไร, ในเมื่อเจ้าไม่ได้ถูกหลอก ทำไมเจ้าต้องลงโทษพวกเขาเล่า?” แพนดอราไม่พอใจ นางเห็นว่าต้นไม้เหล่านั้นน่าสงสารและทนดูไม่ได้
“ก็ข้าเบื่อและไม่มีอะไรจะทำ นอกจากนี้ข้าจะตายวันนี้ไม่ใช่หรือ? คนกำลังจะตาย อารมณ์ย่อมไม่ดีเป็นธรรมดา ภายใต้การทรมานของพวกเขาข้ายังต้องมีเหตุผลด้วยหรือ?” เย่ว์หยางกำลังบอกว่าเขามีเหตุผลที่ดีที่จะทำเช่นนั้น
“เจ้าคิดว่าเจ้าจะอารมณ์ดีได้ยังไง?” แพนดอราสับสน
“เพราะข้าสามารถยืนยันได้สิ่งหนึ่ง” เย่ว์หยางยิ้ม ครั้งนี้เขาหัวเราะจริงๆ หัวเราะด้วยความภาคภูมิใจ
“ยืนยันเรื่องอะไร?” แพนดอราสงสัย
“ผู้พ่ายแพ้เหล่านี้มีพลังความเกลียดชังจริงๆ เมื่อข้าลงโทษพวกเขา พวกเขาจะมีพลังความเกลียดชังมากมาย แต่แม้ว่าจะมีพลังสะสมมานานถึงแสนปี พลังก็ยังไม่ถึงหนึ่งในร้อยเมื่อเทียบกับพลังเกลียดชังในหุบเขาราคะ? แหล่งพลังงานเกลียดชังที่แท้จริงก็คือเจ้า แพนดอราคนงาม!” เย่ว์หยางถามเหมือนกับกำลังคุยกับสหาย “เจ้าจำได้ไหมใครเป็นคนตัดศีรษะเจ้า?”
“ไม่, ข้าจำไม่ได้แม้แต่น้อย” แพนดอราคิดอย่างหนักและในที่สุดนางส่ายศีรษะ “สมองของข้าเวิ้งว้างว่างเปล่า”
“ช่างเถอะ, นั่นไม่สำคัญ ข้าไม่มีเวลายุ่งเรื่องของชาวบ้าน” เย่ว์หยางเลิกมองหาคำตอบ
“เจ้ายังมีเวลาอีกวันหนึ่งไม่ใช่หรือ?” แพนดอราปลอบใจ “ตอนนี้เจ้ามองโลกในแง่ดีเกินไป”
“นั่นมันแค่เมื่อครู่นี้” เย่ว์หยางกำลังจะบอกว่าอารมณ์คนเปลี่ยนกันได้
“.....” แพนดอราพูดไม่ออก ต่อให้อารมณ์เปลี่ยน แต่นี่เปลี่ยนเร็วเกินไปหรือไม่?
เมื่อมาถึงท้ายด่าน มีรูปสลักคล้ายบุรุษคู่หนึ่งเหมือนอย่างที่เฟ่ยเหวินหลีกล่าว นี่คือทางออกจากด่าน
เย่ว์หยางไม่ได้หยดเลือด เขาพบว่าตนเองตกอยู่ภายในกฎของหุบเขาราคะ ตลอดทั้งตัวถูกพลังแห่งความเกลียดชังกักเอาไว้ หลุมดำและอสูรโลกในร่างของเขากำลังจะดูดกลืนพลังงานอย่างเต็มที่ เขาไม่แน่ใจว่าเขาจะร่างระเบิดในที่สุดหรือไม่ แต่เขารู้ว่าเขายังไม่ผ่านด่านได้อย่างแท้จริง นางพญาเฟ่ยเหวินหลีและจักรพรรดิอวี้ พวกเขาผ่านได้ง่ายด้วยเงื่อนไขนี้ แต่เขาไม่สามารถผ่านได้ด้วยเงื่อนไขเดียวกัน
บางทีอาจเป็นร่างกายของเขาด้วยที่ทำให้ปวดหัว
แพนดอรามองดูเด็กคนนี้เอาอาหารโอชะมาวางอยู่ข้างหน้า นางถามด้วยความประหลาดใจ “เจ้าจะทำยังไง?”
เย่ว์หยางไม่หันกลับมา “กินอาหาร, กินเสียแต่ตอนนี้ จะได้ไม่กลายเป็นปีศาจหิวโหย”
แพนดอรานิ่งอึ้งพูดไม่ออก ในที่สุดนางเห็นเจ้าเด็กนี่กินและดื่ม เอนกายนอนบนสนามหญ้ารับแสงอาทิตย์ ในมือถือน่องไก่ที่ยังไม่ได้แทะกินทันที นางมีความคิดอย่างหนึ่งและโพล่งขึ้นทันที “ไหนๆ เจ้าก็จะตายอยู่แล้ว เจ้ามอบความรักให้ข้าได้ไหม? ข้าไม่เคยชอบบุรุษหนุ่มมาก่อนเลย เจ้าดูเหมือนจะแตกต่างไปจากคนอื่น เจ้าน่าสนใจดี ตายไปก็น่าเสียดาย ช่วยทำให้ข้าจดจำเจ้าตลอดชีวิตได้ไหม?”
ขาไก่สองข้างที่อยู่ในมือของเย่ว์หยางร่วงลงพื้นทันที เขาหลั่งเหงื่อเยียบเย็น “ข้าบอกได้เลยว่าแพนดอราเจ้าพูดกับข้าเหมือนกับที่มนุษย์พฤกษานั้นพูด!-!”