ตอนที่ 843 ทำนายว่าเจ้าจะต้องตายวันนี้
ความโกรธบ้าคลั่งในการไล่ล่าภาพลวงตาอย่างเอาเป็นเอาตายนั้นคล้ายกับภาพลวงตาของประตูเป็นตาย เมื่อจิตสำนึกยอมรับร่างกายก็ได้รับความเสียหายไปด้วยเช่นกัน
ไม่ใช่แค่เพียงเท่านั้น หายนะนี้เป็นเพราะตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของกฎราคะ
ในที่สุด เมื่อถลำลึกลงไป ก็ยากจะตื่นขึ้นได้
แม้ว่ารองเจ้าตำหนักเซิ่นตู้จะมีพลังที่แข็งแกร่งน่าเกรงขาม แต่ผลลัพธ์ที่เขาได้รับต้องบอกกล่าวว่าไม่สามารถหลุดพ้นไปได้
ภาพลวงตายังคงดำเนินต่อไป เพื่อให้ได้สตรีมากขึ้นและอภิรมย์กับพวกนางมากยิ่งขึ้น และเพื่อให้ได้สมบัติสูงสุดให้ได้อยู่เหนือผู้คนนับไม่ถ้วน รองเจ้าตำหนักเซิ่นตู้ต่อสู้ทั้งวันทั้งคืน
กลางวันเป็นเทพนักรบพิชิตศัตรูชิงสตรีให้ได้มากขึ้น
ในเวลากลางคืนเขาเป็นนักรักที่ไม่เคยหยุดพัก
กลางวันศึกรบ กลางคืนศึกรัก ไม่ทำให้รองเจ้าตำหนักเซิ่นตู้รู้สึกเหนื่อยแม้แต่น้อย ในทางตรงกันข้ามเขากลับเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ ถ้าไม่ใช่เพราะในใจของเขายังมีความคิดจะแยกออกเดินทางอยู่เล็กน้อย เขายินดีที่จะอยู่ที่นี่ตลอดไป ศัตรูทั้งหมดที่นี่ล้วนอ่อนแอ แม้จะมีศัตรูที่ทรงพลังอยู่หลายคน แต่ไม่สามารถคุกคามชีวิตของเขาได้ ทำให้เขาแค่ต้องคอยระวังหลังปกป้องสตรีของเขาไม่ให้ถูกจู่โจม ยิ่งมีผู้ยอมรับความพ่ายแพ้และเทิดทูนบูชาเขา สตรีของเขาก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น เป้าหมายก็คือเพื่อให้ได้รับผู้สืบสายเลือดที่โดดเด่น
อยู่ข้างนอกหุบเขารองเจ้าตำหนักเซิ่นตู้ เป็นแค่รองเจ้าตำหนักคนหนึ่ง
แต่อยู่ที่นี่, เขาเป็นจักรพรรดิ!
จักรพรรดิที่ไม่มีใครอาจเอื้อมถึง
มีนางสนมมากกว่าพันนางอยู่ในวัง แต่ไม่มีนางใดทำให้เขาเหน็ดเหนื่อยได้สตรีทุกคนทำให้เขามีความสุขอย่างหาที่เปรียบมิได้ รองเจ้าตำหนักเซิ่นตู้ชอบชีวิตเช่นนั้น แม้ว่าท้ายที่สุดจะต้องจากไป แต่เขาตัดสินใจเป็นจ้าวอยู่ที่หุบเขาราคะ และจะเอาชนะได้รับรางวัลนำพาทุกคนออกไป ก่อนหน้านั้นเขาจะไม่คิดอะไรอื่น
รองเจ้าตำหนักเซิ่นตู้ไม่รู้ว่ายังมีอีกคนหนึ่งคอยสังเกตดูเขาอยู่เงียบๆ
เขาไม่รู้ว่าเย่ว์หยางใช้เขาเป็นกระจกเพื่ออธิบายหลักการของหุบเขาราคะอย่างไม่หยุดยั้ง
เขาเพียงแต่ดำรงชีวิตอยู่ในโลกลวงตาที่เขาเห็น
ในโลกลวงตานี้ เขากำจัดมนุษย์ครึ่งม้านับไม่ถ้วน ฆ่ามังกรดำที่น่ากลัวด้วยตนเอง แม้กระทั่งเอาชนะคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง
ในโลกของเซิ่นตู้เวลาผ่านไปสิบปี
ภายใต้บริวารผู้ภักดีและยอมสู้ถวายชีวิตมีมากกว่าแสนนาย นางสนมในตำหนักมีมากกว่าหมื่นคน
แต่ละนางมีความงามที่โดดเด่น
แต่ละนางมีความสามารถโดดเด่นในทุกคืนสามารถปรนนิบัติจนเขาได้รับความสุขสุดยอด
อย่างไรก็ตาม เวลาในโลกของเย่ว์หยาง พื้นที่ซึ่งเย่ว์หยางอยู่เวลาผ่านไปเพียงสองวันกว่า ไม่ถึงสามวัน... สิ่งที่เหมือนเดิมก็คือเซิ่นตู้ยังคงระบายอารมณ์รักอย่างบ้าคลั่ง
ภายใต้กฎแห่งราคะ รองเจ้าตำหนักเซิ่นตู้ใช้พลังร่างกายไปด้วยระดับความเร็วที่น่าทึ่ง
การสูญเสียนี้ เป็นความพอใจเป็นสำนึกที่ผิดพลาด และส่งเสริมให้เซิ่นตู้ใช้พลังเพิ่มมากขึ้นไปอีกโดยไม่เก็บรั้งสำรองไว้
“ท่านจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ ท่านคือผู้ที่ข้าราชบริพารทั้งชายและหญิงเทิดทูนอย่างที่สุด เราห่างจากการเข้าถึงระดับขั้นสุดท้ายเพียงสองขั้นเท่านั้น” หญิงสาวที่เขาช่วยไว้คนแรกกลายเป็นสนมคนโปรดของรองเจ้าตำหนักเซิ่นตู้ นางคือแหล่งแห่งความสุขของเขา เกือบทุกคืนนางจะสนองตอบความรักของเขาทุกท่วงท่าทำให้เขามีความสุข สิ่งที่นางบอกจะทำให้เอาชนะฝ่ายตรงข้ามผู้แข็งแกร่งสองคนสุดท้าย ถือเป็นคู่ต่อกรสำคัญของเซิ่นตู้ และเป็นผู้อาวุโสที่เข้ามาก่อนเซิ่นตู้ นั่นคือ ‘อั่นชาน’ กับ ‘เยี่ยนหัว’
“ถูกแล้ว แม้ว่าครั้งหนึ่งพวกเขาเคยเป็นสหายของเราจักรพรรดิ แต่พวกเขากำลังสร้างความเป็นพันธมิตรกับคนอื่น ถือว่าไม่ซื่อสัตย์และคอยตามกวนใจถือมีดฟันเราลับหลัง ครั้งนี้เราจักรพรรดิจะไม่อดทนกับพวกเขาอีกต่อไป การทำลายสัญญาพันธมิตรเป็นสิ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผู้ชนะสุดท้ายมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น นั่นคือเราจักรพรรดิ! พวกเขาไม่คำนึงถึงมิตรภาพเก่าในอดีตก็อย่าได้โทษว่าเราจักรพรรดิโหดร้ายไร้น้ำใจ ประวัติศาสตร์และเกียรติยศจะถูกจารึกไว้เพื่อผู้ชนะตลอดไป!” รองเจ้าตำหนักที่เคยเป็นมิตรสหายกับอั่นชานและเยี่ยนหัวมาก่อน ได้เอาชนะฝ่ายตรงข้ามมามากมาย เมื่อเขาเผชิญหน้ากัน ในฐานะจักรพรรดิ เขาจะฆ่ามิตรสหายเก่าได้โดยไม่ลังเล
“ฝ่าบาท..มีปรีชาญาณยิ่งนัก เราเหล่าข้าราชบริพารจะติดตามฝ่าบาทตลอดไป” หญิงสาวผู้ภักดีมีความกังวล “ฝ่าบาทไร้เทียมทาน ถ้าทำสงครามกับฝ่ายตรงข้ามสองคน ถ้าฝ่าบาทสามารถดูดซับพลังงานได้มากขึ้น นั่นจะทำให้บรรลุความสำเร็จได้เต็มร้อยแน่นอน”
“เข้าใจแล้ว ข้าจะใช้พลังลับนั่น”
พลังลับที่รองเจ้าตำหนักเซิ่นตู้กล่าวก็คือบูชายัญด้วยการแสดงความรักสังวาสต่อหน้าเทพเจ้าจากนั้นรับเอาพลังวิเศษ
ทั้งหมดที่เขาต้องทำก็คือทำให้เทพพอใจ
ก็จะได้ทุกอย่างที่ต้องการ
เย่ว์หยางมองด้วยตาทิพย์จากระยะไกลทราบว่า ทุกอย่างนั้นไม่มีอยู่จริง
แม้แต่สองผู้อาวุโสอั่นชาน และเยี่ยนหัวก็ตายไปนานแล้ว และวิญญาณของพวกเขายังติดอยู่ในหุบเขาราคะกลายเป็นหนึ่งในคำสาปที่เกลียดชัง
ในโลกลวงตาของรองเจ้าตำหนักเซิ่นตู้ เทพีในร่างเปลือยที่มาถึงงดงามจนไม่มีคำบรรยาย ทำให้รองเจ้าตำหนักเซิ่นตู้และสาวๆ ในฮาเร็มตื่นเต้นแทบคลั่ง เทพเทวีถามว่าเขายินดีจะทำทุกอย่างเพื่อเทพหรือไม่? และเจ้าตำหนักเซิ่นตู้ตอบตกลงทุกอย่างโดยไม่ยั้งคิด
การโรมรันก็เริ่มขึ้น
ระหว่างที่รองเจ้าตำหนักมีความสุขอย่างยิ่ง วิญญาณของเขาลอยละล่องออกจากร่างไปอยู่กับดวงวิญญาณผู้พ่ายแพ้นับไม่ถ้วน ภูมิปัญญาถูกทำลายล้าง เหลือแต่เพียงสัญชาตญาณจมอยู่กับความเจ็บปวดตลอดไป
หลังจากล้มเหลวในการใช้ม่านพลังป้องกัน พลังกฎสวรรค์จึงทำงานได้ทันที
ตามทัณฑ์ทรมาน ร่างของรองเจ้าตำหนักเซิ่นตู้กลายเป็นยักษ์ศิลาขนาดใหญ่ ก่อนที่เขาจะตายเขาคิดว่ารูปสลักหินนับพัน นอกจากเขาแล้วยังมีผู้อาวุโสตำหนักสองคนที่เข้ามาก่อนเขารวมอยู่ด้วย ต้นไม้ก็มีลักษณะเหมือนกัน พวกเขาตายอยู่ในภาพลวงตาเดียวกัน ตายเพราะความหมกมุ่นในราคะอย่างไม่มีวันตื่น!
ถ้ารองเจ้าตำหนักเซิ่นตู้สามารถรับมือสถานการณ์ที่น่ากลัวทั้งหมดด้วยความสุขุมไม่ประมาท ทั้งที่เขามีความแข็งแกร่งมากมายอยู่แล้ว เขาคงไม่เดินเข้าสู่จุดจบอย่างนี้แน่นอน
น่าเสียดายเขาคือเซิ่นตู้ แต่พฤติกรรมของเขาไม่สมกับชื่อตัวของเขาเลย
เย่ว์หยางสามารถมองเห็นกระบวนการทั้งหมดได้
จนกระทั่งรองเจ้าตำหนักเซิ่นตู้เปลี่ยนไปเป็นรูปปั้นหินยักษ์ทั้งตัว เขาจึงค่อยๆ ลุกขึ้นยืน
เขาไม่เคยสับสนกับภาพมายา ไม่ต้องดิ้นรนกับสิ่งยั่วยวน แค่เดินก้าวเท้าผ่านรูปสลักหินยักษ์ที่เกิดจากร่างของผู้แพ้ไปจนกระทั่งถึงท้ายหุบเขาราคะ สามารถผ่านด่านหุบเขาราคะ และเขาสามารถไปจากหุบเขาราคะได้
อย่างไรก็ตาม เย่ว์หยางผู้เข้าใจสนามพลังสร้างโลกในประตูเป็นตายไม่ยินดีจะจากไป ในหุบเขาราคะ เขารู้สึกว่ามีพลังตกค้างที่กล้าแกร่งนอกจากกฎแห่งราคะค้างอยู่ แม้แต่นางพญาเฟ่ยเหวินหลีผู้มากประสบการณ์ก็ยังไม่เข้าใจ เพราะในเวลานั้นนางพญาเฟ่ยเหวินหลีอยู่ในช่วงเร่งรีบจึงไม่ได้คิดไตร่ตรอง เร่งรีบจนถึงท้ายหุบเขาและผ่านด่านหุบเขาที่วุ่นวายนี้ไปได้
นางบอกเขาว่าตราบใดที่ไปถึงที่สุดท้ายหุบเขาจะใช้หยดน้ำตาหรือเลือดบริสุทธิ์ก็จะผ่านด่านที่สี่หุบเขาราคะได้สำเร็จ
เย่ว์หยางรู้คำตอบทั้งหมดแล้ว
แต่เขายังไม่พอใจ
เขาหวังจะสังเกตด้วยตาตนเองและใช้ตัวหมาก(เซิ่นตู้) เพื่อค้นหาความจริงของพลังเกลียดชังที่แฝงอยู่ในหุบเขาราคะ
“ในท้ายหุบเขามีตุ๊กตาหินที่แตกหักอยู่สองตัวซึ่งเหมือนกับรูปสลักหินที่ปากทางเข้ามาก ตุ๊กตาหินทั้งสองตัวแรกเป็นบุรุษ หยดเลือดลงบนฝ่ามือของตุ๊กตาบุรุษ หยดน้ำตาลงบนฝ่ามือของตุ๊กตาหินอีกตัวหนึ่ง ผลทั้งสองดูเหมือนจะเหมือนกัน ข้ามัวแต่ตั้งใจจะผ่านหุบเขาราคะไปให้ได้ หากเจ้าไม่ได้เตรียมตัวล่วงหน้าในการผ่านหุบเขาราคะไปให้ได้ ชีวิตสตรีมากมายที่นี่คือผู้ที่พ่ายแพ้และวนเวียนกลับมาเกิด กล่าวกันว่าตราบเท่าที่ได้รับความรักจากสตรีเหล่านี้ ก็จะสามารถผ่านด่านไปได้ แต่จะไม่มีอะไรรับประกันได้เลย เจ้ายังต้องเตรียมตัวให้ดี!” นี่คือประสบการณ์การผ่านด่านหุบเขาราคะของนางพญาเฟ่ยเหวินหลี
“น้ำตาและเลือด ข้ามีแล้ว” เย่ว์หยางแบมือและพึมพำกับตัวเองอย่างไม่ตั้งใจ “แต่พลังเกลียดชังที่ยังตกค้างอยู่นี้คืออะไรกันแน่?”
“เจ้ารู้สึกได้ถึงพลังเกลียดชังที่ตกค้างอยู่หรือ?”
มีเสียงเหมือนดังมาจากสวรรค์ ดังขึ้นด้านหลังของเย่ว์หยาง
วิญญาณของเย่ว์หยางเหมือนถูกสายฟ้าฟาด เขาสะดุ้งตกใจ
เขาไม่รู้สึกว่ามีคนอยู่ด้านหลังของเขา
นี่ นี่ไม่น่าเป็นไปได้...ภายใต้การปกป้องของสนามพลังสร้างโลก และยังมีพลังตาทิพย์ ต่อให้เป็นเทพเจ้า เป็นไปไม่ได้ที่จะมากลั่นแกล้งอยู่ข้างหลังของเขาโดยที่ตัวเขามิได้สังเกต อย่าว่าแต่รอบๆ ตัวเขาเองมีพลังกฎสวรรค์น้อยแฝงอยู่ และภายในระยะร้อยเมตรไม่น่าจะมีคนอื่นเข้ามาได้
ทำไมกัน?
ใครทำเช่นนี้ได้?
เย่ว์หยางแผ่ปณิธานปราณราชันย์ทันที สงบจิตใจมิให้ปั่นป่วน
นั่นเป็นสตรีผู้งดงามจนสุดจะพรรณนาคนหนึ่ง เมื่อเปรียบเทียบกับเทพธิดาที่เซิ่นตู้พบเห็นก่อนนั้น เหมือนกับเอาหิ่งห้อยไปประชันแสงกับพระจันทร์
น่าเสียดายที่สตรีผู้นี้มีแต่เพียงศีรษะ
ส่วนร่างกายตั้งแต่คอลงไปไม่ทราบถูกตัดไปอยู่ที่ไหน
ถึงอย่างนั้นใบหน้าของนางก็งดงามน่าลุ่มหลง แม้เย่ว์หยางจะควบคุมสติด้วยพลังปณิธานราชันย์ไว้ แต่ก็ยังอดรู้สึกปั่นป่วนใจเล็กน้อยมิได้ หากมิใช่เพราะพลังจื้อจุน พลังนางพญาเฟ่ยเหวินหลีและโลกพฤกษา แนวทางหลายอย่างของสุดยอดนักสู้โบราณ ทำให้เย่ว์หยางเข้าใจขอบเขตพลังเทพและสำเร็จปณิธานราชันย์ได้สมบูรณ์ เขาคงมิอาจต้านทานเสน่ห์ของฝ่ายตรงข้ามได้
นี่เห็นแค่เพียงศีรษะเท่านั้น
ถ้านางมีร่างกาย เย่ว์หยางรู้สึกว่าปณิธานราชันย์ของเขาก็อาจต้านนางไม่อยู่!
น่ากลัวจริงๆ!
เย่ว์หยางไม่เคยคิดว่าจะพบกับสาวที่งดงามในระดับที่น่ากลัว! งามลักษณะนี้เรียกว่างามล่มเมืองเป็นพิษที่ร้ายแรงที่สุดของบุรุษทุกคน เขาเชื่อว่าบุรุษทุกคนคงประเคนทุกอย่างในโลกและยินดีสยบอยู่ใต้ชายกระโปรงของนาง
“เจ้ากลัวข้าด้วยหรือ?” สตรีงามนั้นยิ้ม รอยยิ้มของนางทำให้โลกเปลี่ยนสีได้ทันที
“อา..เจ้าคือแหล่งของพลังเกลียดชังนี่เอง!” ในใจของเย่ว์ยาง เขารู้สึกถึงการมีอยู่ของอีกฝ่ายอย่างคาดไม่ถึง ปณิธานปราณราชันย์ของเขาสั่นสะท้านทันทีและตกใจ “ไม่, เจ้าคือแหล่งพลังงานทั้งหมดของหุบเขาราคะ มิน่าเล่าข้าถึงไม่รู้สึกถึงความคงอยู่ของเจ้าก่อนนั้น เจ้าคือกฎแห่งหุบเขาราคะ.. ไม่ กฎแห่งหุบเขาราคะทั้งหมดไม่ใช่กฎแห่งราคะ ความคงอยู่ของสิ่งนี้มีเพื่อผนึกเจ้าเอาไว้ แต่เจ้ากลับหลอมรวมเข้ากับกฎแห่งราคะ, พระเจ้า, เจ้าคือใครกันแน่?”
“ข้าคือแพนดอรา ข้าตายมาแสนปีแล้ว ข้าจำอดีตไม่ได้ มีแต่ความเกลียดชังที่ไม่รู้จักหมดสิ้น” หญิงงามยิ้มแล้วถาม “เจ้าพอใจกับคำตอบนี้ไหม? อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนข้าเกิดมาเพื่อทำนายความตาย เจ้าอยากรู้ไหมว่าเจ้าจะตายเมื่อไหร่? โอว.. ดูเหมือนจะเป็นวันนี้สินะ?”