ตอนที่ 842 อาจารย์ลั่วซือ
เพียงแต่หลังจากพวกเขาขึ้นเรือรบรังสีกัมปนาทก็ทำให้พวกเขามีประสบการณ์กับขนาดที่ยิ่งใหญ่
ลำเรือถูกทำความสะอาดอย่างดีมีเพียงตัวลำเรือใหญ่ที่เหลืออยู่ แต่กระดูงูเป็นอย่างที่แฟรงค์พูดจริงๆ มันทนทานมาก ทุกคนได้ลองใช้วิธีการต่างๆแต่ก็ไม่สามารถสร้างรอยขีดข่วนได้ แม้แต่หมัดเทพเจ้าของถังเทียนก็ไม่สามารถสั่นสะเทือนมันได้
ในที่สุดถังเทียนก็ยิ้มออกและกล่าว “พวกเจ้าทุกคนจะยืนเฉยทำไม, รีบทำความสะอาดได้เลย!”
หลังจากคิดดูแล้วถังเทียนรู้สึกว่าการรบระหว่างเรือรบรุนแรงและกล้าแข็งยิ่งกว่าการต่อสู้ของมนุษย์ และเนื่องจากเรือรบได้ออกแบบมาให้แข็งแกร่งที่สุดกระดูกเรือของเรือรบรังสีกัมปนาทใช้วัสดุราคาแพงสร้าง มันจะถูกทำลายง่ายๆ ได้ยังไง?
ก่อนหน้านั้น ทุกคนเพียงแต่เชื่อแฟรงค์ในระดับหนึ่งเมื่อเขาบอกพวกเขาเกี่ยวกับความทนทานของกระดูกงูของเรือ แต่หลังจากทดสอบด้วยตนเองแล้วพวกเขาจึงตระหนักว่าเรือรบรังสีกัมปนาทนั้นทรงพลังมากมายขนาดไหน เมื่อได้ยินถังเทียนขอให้พวกเขาทำความสะอาด พวกเขาทุกคนทำงานกันหมด ไม่ใช่งานเล็กๆ เลย ขนาดของมันใหญ่โตจริงๆ หลังจากผ่านไป 200ปีก็กลายเป็นสิ่งที่ไม่สามารถจำแนกได้ เถาวัลย์มากมายพันรอบโครงเรือทำให้ดูเหมือนผ้าคลุมเขียวภายในตัวเรือเป็นพื้นที่อยู่ของสัตว์ป่าและมีร่องรอยและคราบสกปรกของสัตว์ป่าอยู่โดยรอบ หยากไย่มีอยู่ทุกมุม และหนอนแมลงทุกชนิดมีอยู่โดยรอบ
โชคดี ไม่มีใครในพวกเขาเบื่อหน่ายกับการทำงานหนัก
แฟรงค์อายุมากแล้วและไม่สามารถรับทำงานหนักได้ ดังนั้นเขานั่งอยู่ใกล้ถังเทียนน่าเสียดายที่เมลิซซาต้องร่วมทำเพื่อช่วยทำความสะอาดด้วย หน้าของนางเปื้อนฝุ่นถังเทียนไม่เคยรู้วิธีอ่อนโยนต่อเพศตรงข้าม
ถังเทียนที่กำลังทำงานอยู่ถามขึ้นทันที “โครงสร้างดีอย่างนี้ทำให้ถึงไม่มีใครต้องการมัน? ของฟรีไม่ใช่หรือ?”
แฟรงค์หัวเราะ “ใครบอกว่าไม่มีใครต้องการ? ก็แค่ว่าไม่มีผู้ใดกล้าเรือรบกองทัพระดับสูงสุดก็เป็นอาวุธยุทธการ เหมือนกับเรือรบล้อมโจมตีขนาดใหญ่ และไม่มีองค์กรธุรกิจใดหรือตระกูลใดกล้าอาจเอื้อมรับเอาไว้ เว้นแต่ท่านต้องการสู้กับทวีปกวงหมิงใช่ไหม? ตราบใดที่มีใครอาจเอื้อมมาที่นี่ พวกเขาจะต้องมาที่นี่และมีแก่จิตแก่ใจคุยกับท่านแน่”
ถังเทียนเข้าใจทันทีและหัวเราะ “นั่นก็จริงเป็นความจริง อย่างนั้นเราก็ได้ประโยชน์ไปเต็มๆ เราเป็นโจรนี่นา, อีกไม่นานหรอก,เราจะต้องตามหาพวกเขามาคุย”
สีหน้าแฟรงค์เปลี่ยนเป็นซึมเซา ‘นายท่าน,ท่านชอบเป็นโจรจริงๆ หรือ? แต่...ตามหาพวกเขามาพูดคุย..นั่นเป็นคำพูดที่เกินเลยไปหน่อย!’
“นายท่านมีความคิดจะฟื้นมันขึ้นมาใหม่อย่างนั้นหรือ?” แฟรงค์ถามด้วยสีหน้ากังวล “มีอู่ต่อเรือสองสามแห่งในเมืองดินแดงแต่ข้าเกรงว่าความสามารถของอู่เหล่านั้นคงไม่พอรับมือกับเรือรบมาตรฐานขนาดนั้นได้”
เขาไม่ต้องการให้ข้อมูลล้มเหลว เรือรบชั้นสูงสุดเป็นเรือรบคุณภาพสุดยอด และมีกลุ่มพวกที่ฟื้นฟูหรือซ่อมแซมเรืออย่างนั้นได้จะต้องเป็นอู่ต่อเรือมือชั้นปรมาจารย์ กลุ่มการค้าเมซฟิลด์ไม่มีช่างระดับนั้น แต่แม้แต่ทวีปกวงหมิงก็มีอยู่เพียงสองสามคน
แฟรงค์เริ่มพูดคุย “ทวีปกวงหมิงน่าจะมีมือชั้นปรมาจารย์สร้างเรืออยู่สามคนที่มีความสามารถมากพอจะฟื้นฟูเรือรบรังสีกัมปนาทอาจารย์วิลโลว์อยู่ไกลถึงทวีปวิลโลวซึ่งอยู่ห่างไกลมาก อาจารย์คาเมรอนและอาจารย์เฟรดริคอยู่ในสภา..เอ่อ..เราจะมองหาผู้ดูแลการสร้างเรือด้วยหรือ? น่าเสียดาย...”
ก่อนหน้านั้น เขาไม่มีความคิดเรื่องนี้และพูดไปขณะที่ยังตื่นเต้น แต่ตอนนี้พอพวกเขาได้รับเรือรังสีกัมปนาทจริงๆเขาตระหนักได้ว่าละเลยส่วนที่สำคัญที่สุดไป แม้ว่าเขาจะหาพบ แต่น่าเสียดาย จะหาช่างสร้างเรือสุ่มสี่สุ่มห้าอาจจะทำให้เสียโครงเรือที่ดีไป
“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น” ถังเทียนโบกมือและกล่าว “ข้าจะจัดการเอง”
แฟรงค์ตกใจ ‘นายท่านมีช่างชั้นปรมาจารย์หรือ?’
เขาปฏิเสธจะคาดเดาทันที ช่างต่อเรือชั้นปรมาจารย์ไม่ใช่ระดับที่จะรับกันได้ง่ายทวีปกวงหมิงและภูมิภาคใต้มีมาตรฐานในการต่อเรือที่สูงมากที่ภูมิภาคใต้จะเชี่ยวชาญในการสร้างเรือประเภทเรือขนส่ง ขณะที่ทวีปกวงหมิงจะเชี่ยวชาญในการต่อเรือรบ ภูมิภาคใต้มีช่างชั้นปรมาจารย์อยู่สองคน ขณะที่ทวีปกวงหมิงมีอยู่สามคนด้วยช่างต่อเรือชั้นปรมาจารย์ห้าคน พวกเขาทุกคนมีชื่อเสียงและศักดิ์ศรี
ถังเทียนไม่สนใจพยายามอธิบายและก้มหน้าก้มตาทำงาน
หลังจากทำความสะอาดสองวันสองคืนเรือรบรังสีกัมปนาทที่ดูเหมือนซากปรักหักพังกลายเป็นเหมือนของใหม่ไม้ผลึกใสเป็นประกายแพรวพราวและความจริงมันดูงดงามจนพวกเขาตะลึง โลหะผสมที่ผสมจากหินกวงหมิงและเหล็กดาราเปล่งแสงนุ่มนวลยามราตรี
แม้ว่าแฟรงค์เองจะเป็นทหารผ่านศึกคนหนึ่งเคยได้ยินชื่อเรือรบรังสีกัมปนาทในตำนานมาก่อน แต่เมื่อเขาเห็นกับตาตนเองในที่สุดเขาก็ยังตะลึงกับความสิ้นเปลืองของวัสดุเรือรังสีกัมปนาท
ถ้าตัวเรือเป็นแก้วผลึกทั้งลำสามารถลอกออกมาได้แม้แต่เล็กน้อย แค่หนึ่งชิ้นก็สามารถทำมูลค่าราคาได้อย่างมหาศาล และแม้แต่ตอนนี้เมื่อทุกคนเห็นการเปลี่ยนแปลงของลำเรือพวกเขาถึงกับน้ำลายหก
ทันใดนั้นทุกคนเห็นกองเรือบินมาจากที่ไกล
แฟรงค์แก่แล้วและไม่สามารถมองเห็นได้ชัด แต่เขาได้ยินจอห์นสันตะโกน “กองพลกลางวัน!”
แม้ว่าตราสัญลักษณ์บนเรือจะถูกฉีกลงมา แต่จอห์นสันคุ้นเคยกับเรือรบของกองพลกลางวันและจำได้ทันที
‘กองพลกลางวันถูกโจรทวีปทองทำลายไปไม่ใช่หรือ?’
‘เป็นพวกเขา!’
จอห์นสันเคร่งเครียดตาที่มืดมัวของแฟรงค์เป็นประกายทันที ขณะที่เมลิซซายืนอยู่ข้างๆ มองดูด้วยความสงสัย โจรทวีปทองตอนนี้มีชื่อเสียงอยู่ในทวีปทุ่งขาวและเรือสินค้าที่หนีออกมาจากทวีปทุ่งขาวจะอธิบายพวกเขาว่าเป็นปีศาจและภูตพราย
เมื่อกองเรือมาอยู่เหนือสุสานเรือมีกลุ่มคนกระโดดลงมาโดยมีจงหลีไป๋เป็นคนนำ
“จะมาถึงตำแหน่งนี้ได้นับว่าไม่ง่ายเลย!”
จงหลีไป๋บ่น สีหน้าเขาค่อนข้างบิดเบี้ยว สมาชิกข้างตัวเขาทุกคนมีสีหน้าอ่อนแรงเมื่อพวกเขาชินกับการใช้ความเร็วของสัตว์ประหลาด พวกเขาไม่เคยนั่งเรือรบความรู้สึกว่าทำอะไรไม่ได้ทำให้ขุนพลเหล่านี้รู้สึกอึดอัดกระสับกระส่าย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากคนควบคุมเรือรบทั้งหมดล้วนแต่เป็นมือสมัครเล่น
ครืนน!
สมอเรือรบถูกโยนลงและบังเอิญตกใส่บนกองซากปรักหักพังทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจาย
“เฮ้ย!” จงหลีไป๋เอามือปิดหน้าของเขา และแสดงอารมณ์โกรธ จากนั้นหันไปคุยกับถังเทียนโดยตรง “นายท่าน, นายท่าน, ข้ารู้สึกว่าเราต้องเพิ่มระยะการฝึกฝนของการซุ่มโจมตีของพวกเรา เราสามารถใช้วิธีเคลื่อนที่เร็วได้ ผลของมันจะต้องออกมาเป็นที่ประจักษ์แน่นอนท่านไม่ต้องกังวลกับกลุ่มกระต่ายที่อ่อนแอนี้!”
ต่อให้เขาถูกทุบตีเขาไม่มีทางต้องการนั่งอยู่ในเรือรบอีกต่อไปแน่ มันทรมานจริงๆ! แค่ควบคุมสัตว์ประหลาดและบินออกไปก็นับว่าเป็นลูกผู้ชายตัวจริงพอแล้ว
ในที่สุดจงหลีไป๋ก็เป่าปาก
ก่อนจะเข้าดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ เขาก็ถูกเนี่ยชิวข่ม แต่หลังจากได้รับสัตว์ประหลาดความสามารถในการต่อสู้ของพวกเขาได้รับการปลดปล่อยในที่สุด ศึกแรกของพวกเขาทำให้ทุกคนจับตามองงงงวยเนื่องจากพวกเขาทำลายกองพลกลางวันได้
เรือรบที่หน่วยสุญญตาใช้ในปัจจุบันล้วนเป็นพวกเขาปล้นมาทั้งหมด หลังจากมองดูเรือส่ายไปส่ายมาดูราวกับว่าพวกเขากำลังเมา จงหลีไป๋มีความรู้สึกว่าเขาเหนือกว่า แต่เขาตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่ขึ้นไปนั่งบนเรือรบที่เนี่ยชิวคุมอีกเลย
แต่ในทางตรงกันข้ามถังเทียนไม่สบายใจเกี่ยวกับการดำเนินการของหน่วยสุญญตา เรือรบมีความซับซ้อนในการควบคุมและแม้แต่เขาก็ยังจับเค้าอะไรไม่ได้
ขุนพลนายกองของหน่วยสุญญตาปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าถังเทียนพวกเขาทุกคนหน้าซีดมีความรู้สึกอึดอัดการปฏิบัติหน้าที่ได้ย่ำแย่ต่อหน้าเจ้านายเป็นเรื่องน่าขายหน้าจริงๆ แต่เนี่ยชิวมีสีหน้าเฉยเมยเนื่องจากเขาไม่ใส่ใจเรื่องนี้
เมื่อเมื่อขุนพลนายกองเห็นส่วนที่ยังเหลือของเรือรบรังสีกัมปนาทพวกเขาตกใจแสดงออกมาทางสีหน้า
ตั้งแต่เริ่มต้นแฟรงค์ลอบสังเกตดูบริวารของเจ้านาย เขาตรวจสอบดูทุกคน ซึ่งแต่ละคนมีพลังไม่ธรรมดา และจากเท่าที่เห็นเขารู้ว่าพวกเขาทุกคนทรงพลังทั้งนั้น
“ถังห้าว,นี่จะเป็นเรือรบของเราในอนาคตหรือ?” ตาของอาโมรี่เป็นประกาย ราวกับว่าเห็นของเล่นชิ้นใหญ่
“ถ้ามันสามารถซ่อมแซมได้นะ” ถังเทียนพูดด้วยความยินดี เขาหันไปถาม“ลั่วซืออยู่ที่ไหน?”
“อาจารย์ลั่วซืออยู่ที่นั่น” หน้าของจงหลีไป๋กลายเป็นเคารพเทิดทูนทันทีเมื่อพูดถึงลั่วซือ ทั้งกองทัพสัตว์ประหลาดล้วนเรียกลั่วซือว่า“อาจารย์ลั่วซือ”
กลุ่มคนแยกออกเหมือนทะเลแดงเปิดทางให้ลั่วซือ
ลั่วซือมองดูเรือรบรังสีกัมปนาทที่เหลืออย่างว่างเปล่าราวกับว่าเป็นของแปลก
“ลั่วซือ!” ถังเทียนตะโกน
“หือ?”ลั่วซือหันมามองถังเทียน
“เรือลำนี้ซ่อมได้หรือไม่?” ถังเทียนถามอย่างคาดหวัง
แฟรงค์และพวกหันไปมองดูลั่วซือทันที พวกเขารู้สึกตกใจ ‘เป็นไปได้ยังไงที่ขุนพลวิญญาณที่มัวตะลึงอยู่นี้เป็นปรมาจารย์ผู้สร้างเรือรบได้?’
“ข้าไม่รู้”ลั่วซือส่ายศีรษะ “ข้าไม่รู้เรื่องเรือรบเท่าใดนัก”
เพราะเหตุผลบางประการแฟรงค์ถอนหายใจโล่งอก ถ้าขุนพลวิญญาณเป็นปรมาจารย์สร้างเรือได้โผล่ขึ้นมากะทันหันเขารู้สึกได้ว่าเขากำลังจะบ้า ‘ขุนพลวิญญาณตนหนึ่งซึ่งเป็นปรมาจารย์สร้างเรือได้ ผู้เชี่ยวชาญในความเป็นจริงแล้ว เป็นบุตรของผู้อาวุโสในสภาฯไม่ใช่หรือ?
แต่แฟรงค์ที่จับตามองถังเทียนรู้สึกอะไรบางอย่างได้ทันที ‘ทำไมนายท่านถึงไม่ผิดหวังหรือว่าเขายังมีทางอื่น?’
เป็นไปตามคาด ถังเทียนพูดขึ้น“อย่างนั้นท่านสำรวจและทำแผนผังออกมาได้ไหม? เราจะให้เซรีนและม่อเหล่งค้นคว้าอย่างระมัดระวัง”
‘เซรีน?ม่อเหล่ง? ยังมีเซรีนและม่อเหล่งด้วยหรือ? พวกเขาเป็นใคร?’
คำถามทั้งหมดนี้วนเวียนอยู่ในหัวของแฟรงค์
ถังเทียนเต็มไปด้วยความมั่นใจนั่นคือไพ่เด็ดของเขา ด้วยสามปรมาจารย์สายจักรกล ทำงานร่วมกันและมีเวลา,วัสดุเพียงพอ แม้เขาก็มั่นใจในการฟื้นสภาพเรือรบรังสีกัมปนาท เทียบกับผู้เชี่ยวชาญใหญ่ในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ความสามารถของถังเทียนในการเข้าใจแนวคิดและสะสมความมั่งคั่งของเขาน่ากลัวอยู่แล้ว เป็นเวลานานแล้วที่ถังเทียนส่งวัสดุสองสามชิ้นจากเรือรบดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ไปให้เซรีน เพียงแต่ไม่มีวัสดุมากพอให้เซรีนสร้างเรือรบได้
เขาเชื่อว่านั่นจะไม่เป็นปัญหาด้วยนิสัยบ้าเรียนรู้ของเซรีนจะรวบรวมความคิดทั้งหมดได้ ประกอบกับมีลั่วซือและม่อเหล่งสนับสนุน
มีเพียงสิ่งเดียวที่เขากังวลก็คือเวลา การทำลายล้างกองพลกงล้อและกองพลกลางวันจะเป็นข่าวที่แพร่กระจายออกไปแน่นอนด้วยเรือสินค้าหลายลำที่หลบหนีออกไปจากทวีปทุ่งขาว กองทัพทหารที่อยู่ทวีปใกล้เคียงและกลุ่มการค้าตะวันตกจะต้องทราบข่าวแน่นอน
ใครจะรู้กันว่าถ้าอาจมีทหารส่งมากดดันแล้วก็ได้ ดังนั้นยิ่งหน่วยสุญญตาสามารถมีพลังสู้ได้เร็วก็จะยิ่งทำให้พวกเขาได้เปรียบ
“ได้เลย”ลั่วซือไม่มีเกี่ยงงอน เขาพยักหน้าจากนั้นหันไปทางจงหลีไป๋ “กล่องเครื่องมือของข้า”
“ข้าจะนำมาให้เดี๋ยวนี้” จงหลีไป๋หมุนตัวและวิ่งไปโดยไม่พูดอะไร
ถังเทียนงงจงหลีไป๋เป็นคนหยิ่งและอารมณ์ร้อน เขาไม่คาดเลยว่าลั่วซือจะปราบเขาอยู่หมัด และนั่นทำให้เขาประหลาดใจจริงๆ
ครู่ต่อมา จงหลีไป๋แบกหีบเหล็กสูง 1.5เมตรวิ่งกลับมา
ต่อหน้าลั่วซือ เขาวางหีบเหล็กกับพื้นอย่างแผ่วเบาความระมัดระวังของเขาทำราวกับว่าเขากำลังแบกหีบสมบัติล้ำค่าที่อาจแตกหักได้เมื่อถูกกระทบ
หีบบรอนซ์ไม่มีรอยแกะสลักอื่นนอกจากเครื่องหมายกองทัพดาวกางเขนใต้
ถังเทียนอดมองลั่วซือไม่ได้ ‘เครื่องหมายกองทัพดาวกางเขนใต้สลักลึกอยู่ในวิญญาณลั่วซือมานานแล้ว’
ลั่วซือยังคงไร้ความรู้สึกและยื่นมือไปที่กล่องเครื่องมือบรอนซ์