ตอนที่ 841 สุสานเรือรบ
ถ้ามีใครบอกว่าก่อนหน้านี้แฟรงค์ยังมีความกังวลเต็มที่เกี่ยวกับทางเลือก แล้วตอนนี้....
ถูกแล้วต่อให้เป็นแฟรงค์ไม่สามารถอธิบายถึงอารมณ์ของเขาเองได้เนื่องจากเขาอยู่ในอาการตกใจ
‘โจรทวีปทองเป็นบริวารของนายท่าน!’
‘โจรทวีปทองที่เพิ่งทำลายกองพลกลางวัน, เป็นบริวารของนายท่าน!’
เป็นครั้งแรกที่แฟรงค์รู้สึกเหมือนกับว่าเขามีชีวิตอย่างไม่ได้อะไร,ไม่ต้องคิดเปรียบเทียบระหว่างตัวเขาเองกับนายท่าน นายท่านเป็นอัจฉริยะ และแฟรงค์เชื่อว่านายท่านแตกต่างจากมนุษย์ทั่วไป
และเขาเริ่มสงสัยกับสายตามองการณ์ไกลของเขาเอง
แฟรงค์มักจะมั่นใจในสายตาตนเองอยู่เสมอ ภูมิปัญญาที่สั่งสมมาหลายปีและประสบการณ์มากมายของเขาทำให้เขามีสายตาที่เฉียบคม และเป็นเขาที่รับผิดชอบมากที่สุด แต่การต้องเจ็บตัวจากการพ่ายแพ้กับส่วนที่เขาต้องรับผิดชอบมากที่สุด สำหรับต่อเจ้านายเป็นบางครั้ง ไม่ว่าความรู้สึกตัดสินใจที่ไม่ดีหรือว่าเป็นสิ่งที่เขาคาดหมายแท้จริง
เป็นครั้งแรกที่แฟรงก์รู้สึกว่าเขาไม่สามารถเข้าใจได้อย่างแท้จริงไม่เคยมีใครรู้ว่าเขามีไพ่เด็ดอยู่มากมายเท่าใดและทุกครั้งเมื่อใครคิดว่าพวกเขามองเห็นไพ่ทีเด็ดของท่านแล้ว ไม่นานต่อมาเขาก็ต้องตระหนักว่าเขาคิดตื้นและโง่เพียงไหน
แฟรงค์ดึงสติกลับมาไว้กับตัวเอง หลังจากเขาเองตกใจอยู่นาน
‘ข้าดีใจที่การตัดสินใจของข้าไม่ผิด’ นั่นคือความยินดียิ่งใหญ่ของแฟรงค์ ‘พลังที่นายท่านแสดงออกไม่ใช่ธรรมดาแน่นอน’ แฟรงค์พอสงบใจได้ก็สามารถคิดได้
‘หรือว่านายท่านมาจากทวีปทอง?’
นั่นเป็นกระบวนคิดที่เป็นธรรมชาติอย่างไม่ต้องสงสัย โจรทวีปทองมีจำนวนเกินหมื่น และใช้อาวุธจักรกลนั่นไม่ใช่สิ่งที่องค์กรอื่นสามารถทำได้
สำหรับทวีปกวงหมิงเป็นพวกต่างถิ่นประเทศแน่นอน ทวีปทองตั้งอยู่ในทิศตะวันออก และทวีปกวงหมิงอยู่ทางทิศตะวันตกด้วยระยะที่ไกลกันเป็นแสนลี้ ขณะที่ทวีปทุ่งขาวซึ่งอยู่ไกลไปทางทิศตะวันตกในทวีปกวงหมิงเป็นที่ซึ่งไกลจากทวีปทองมาก
ความเข้าใจของพวกเขาที่มีต่อทวีปทองหยุดความรู้ไว้ที่ว่าทวีปทองเป็นทวีปที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคตะวันออกและเป็นจ้าวปกครองที่นั่น
สิ่งที่ทำให้พวกเขารู้สึกสนใจก็คือหุ่นจักรกลวิญญาณของทวีปทอง หุ่นจักรกลวิญญาณเป็นธรรมเนียมอย่างหนึ่งของทวีปทอง และด้วยประวัติศาสตร์เกินหมื่นปีเป็นระบบที่แตกต่างกันไปอย่างสิ้นเชิง อาจกล่าวได้ว่าวิชาฝีมือที่นักสู้ทวีปทองใช้ฝึกมาแตกต่างจากทวีปกวงหมิง เนื่องจากพวกเขาจำเป็นต้องใช้เวลานานเพื่อควบคุมหุ่นวิญญาณ
‘ถ้านายท่านมาจากทวีปทอง...’
เมื่อคิดออกมาอย่างนั้นเขาไม่รู้จะทำอย่างไร แฟรงค์ไม่สนใจความสัมพันธ์ที่ไม่เป็นมิตรกับทวีปกวงหมิงแล้วเนื่องจากเขาไม่มีความรู้สึกที่ดีต่อทวีปกวงหมิง
สำหรับโลกภายนอกทวีปกวงหมิงมีความเป็นเอกภาพและทรงอำนาจ จากเบื้องสูงลงมาข้างล่างทุกคนคือองค์กรที่เข้มงวดทั้งหมด แต่การผนวกรวมทวีปต่างๆในภูมิภาคตะวันตกของทวีปกวงหมิงกระทำการอย่างรวดเร็วมาก แค่เพียงสองสามร้อยปีเทียบกับประวัติศาสตร์ยาวนานเกินหมื่นปี ทวีปกวงหมิงคือเจ้าปกครองใหม่ ขณะที่ราชตระกูลของทวีปต่างและตระกูลชั้นสูงพวกเขาถูกโยนเข้าแดนบาปกันหมด แต่ทวีปต่างๆ ทั้งหมดยังมีความรู้สึกไม่ดีต่อการควบรวมนี้ เพียงแต่ว่าทวีปกวงหมิงเน้นการกดดันทางการเมืองต่อทวีปทั้งหลายทำให้พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้ มีแต่ต้องทนเก็บความโกรธไว้ในใจ
ไม่ต้องสงสัยความแข็งแกร่งของทวีปกวงหมิง แต่กับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเป็นนามธรรมก็ยังช่วยอะไรไม่ได้ในบางแง่มุม
แฟรงค์เป็นหนึ่งในกรณีตัวอย่าง แผ่นดินของพวกเขาถูกพิชิต พวกเขาไร้พลังต่อต้านและสูญเสียความเชื่อมั่น พวกเขาไม่กล้ากบฏต่อทวีปกวงหมิง แต่ความโกรธและความเกลียดในหัวใจพวกเขาไม่เคยคลี่คลาย ทวีปกวงหมิงยังคงเข้าใจจุดนี้นั่นคือเหตุผลที่ผลประโยชน์ของทวีปกวงหมิงมักจะมอบให้พวกอย่างกลุ่มพ่อค้าตะวันตกเป็นผู้อยู่ใต้พวกเขาไม่ใช่กลุ่มการค้าเมซฟิลด์
สำหรับแฟรงค์ความสนใจของตระกูลมักจะถูกจัดไว้สูงกว่าทวีปกวงหมิง ถ้าพวกเขาต้องไปจากทวีปกวงหมิงและไปทวีปทองจะปล่อยให้ตระกูลของพวกเขาขยายออกไปได้หรือไม่?
เบื้องหลังนายท่านเป็นกองกำลังที่ทรงพลังและยิ่งใหญ่มหึมาและมีแนวโน้มว่าจะเป็นหนึ่งในตระกูลระดับสูงของทวีปทอง แฟรงค์ยังเชื่อว่าพลังของนายท่านเป็นแค่เพียงปลายยอดภูเขาน้ำแข็ง
แฟรงค์ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้น
ก่อนนี้, เขาตัดสินใจร่วมกับถังเทียนเพราะพลังของถังเทียนและกองพลเกราะเทพเจ้า ถ้ากลุ่มการค้าเมซฟิลด์มีกองทัพระดับสูงเคยปกป้องพวกเขาก็จะเป็นประโยชน์อย่างมาก และเพราะกองทัพระดับสุดยอดนี้มีองค์กรใหญ่อยู่เบื้องหลังพวกเขา พลังของมันก็เพิ่ม 10 ถึง 100 เท่า นั่นคือสิ่งที่ไกลเกินกว่าเขาจินตนาการ
เป็นระดับที่แตกต่างสิ้นเชิง
เป็นอนาคตที่แตกต่างสำหรับพวกเขา
แฟรงค์กลายเป็นตื่นเต้นกระตือรือร้นมากขึ้น
สุสานเรือรบอยู่ในที่รกร้างมากดังนั้นกองเรือของกลุ่มการค้าเมซฟิลด์จึงออกไปโดยเร็ว กองพลเกราะเทพเจ้าไม่เดินทางด้านนอกอีก แต่เข้ามาฝึกฝนในเรือ
ประโยชน์ที่พวกเขาได้รับจากการสู้รบมีมากยิ่งกว่าตอนที่พวกเขาฝึก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากกองพลเกราะเทพเจ้ามีรากฐานลึกซึ้งอยู่แล้วและเพียงแต่ต้องการปรับตัวเท่านั้น
ถังเทียนและคนที่เหลือฟังแฟรงค์คุยด้วยความสนใจ
“ทวีปกวงหมิงมีสุสานเรือรบมากกว่าสิบแห่งและเกือบทั้งหมดที่มีอยู่ในภูมิภาคตะวันตก ก็มีแปดแห่งแล้ว เนื่องมันตั้งอยู่ในที่รกร้างประชากรเบาบางพวกเขาจึงหาที่สร้างสุสานเรือรบได้ง่าย และหลังจากถอดอุปกรณ์ที่มีค่าบางอย่างออกไปเรือเหล่านั้นจะถูกโยนเข้าสุสาน
“นั่นเสียของจริงๆโยนเรือใหญ่ทิ้ง” ถังเทียนพูดอย่างมีอารมณ์
เขาไม่ลืมความขมขื่นที่เขาต้องดิ้นรนมีชีวิตในอดีต ที่ซึ่งเขาต้องยอมบากหน้าเพื่อให้ได้เงินสองสามพันดอลลาร์ จอมเกเรถังเคยยากจนมาก่อนเช่นกัน และรู้ว่าความลำบากเป็นเช่นไรและเขาจะไม่มีทางยอมเสียทรัพยากรอย่างนั้นเป็นแน่!
สิ่งเขาไม่อาจทนได้มากไปกว่านั้นก็คือจอมเกเรถังไม่สามารถเสียสิ่งเหล่านั้นได้!
ถังเทียนคงไม่มีทางโยนของแบบนั้นทิ้งแน่ และไม่ใช่เขาที่จะทำอย่างนั้น
‘แค่รอข้า,รอข้าอยู่ที่นั่นแหละ’ บุรุษหนุ่มพึมพำอย่างหงุดหงิดในใจเขา
“เรือรบทั้งหมดเหล่านี้โดยพื้นฐานสร้างขึ้นใช้จนตลอดอายุขัยของมัน และเป็นการไม่คุ้มค่ามาก ทั้งยังต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก มันแตกต่างจากอดีตวัสดุสำหรับทำเรือรบผ่านการคัดแยกไม่สามารถนำกลับมาใช้ได้อีกและไม่สามารถเพิ่มมูลค่าได้แต่อย่างใด อาวุธของมันได้รับความเสียหายอย่างหนักและยังมีความก้าวหน้าในวิทยาการจึงไม่มีใครต้องการมัน อาวุธอย่างนั้นใช้เพื่อรักษาชีวิตพวกเขาจึงเป็นธรรมดาที่ต้องซื้อของดีมากมาใช้” แฟรงค์อธิบาย
ทุกคนพยักหน้า แฟรงค์พูดถูก ทุกคนล้วนเป็นนักสู้ตราบใดที่เกี่ยวข้องถึงชีวิต พวกเขาคงไม่มีทางตระหนี่อาวุธอย่างนั้นได้
เมื่อแฟรงค์ยังอายุน้อย เขาท่องโลกและหาประสบการณ์ด้วยตนเอง เขาเองก็ช่างเจรจาและได้ของที่น่าสนใจทุกอย่างดังนั้นการเดินทางของพวกเขาจึงไม่เครียดและน่าเบื่อแม้แต่น้อย
สองวันต่อมาพวกเขาก็มาถึงสุสานเรือรบที่แฟรงค์พูดถึง
ถังเทียนและพวกตกใจกับสิ่งที่พวกเขาเห็น
กองซากเรือรบอัปปางเป็นภูเขาเลากา กองเหล่านั้นถูกรวมกันไว้ชิดติดกันกินพื้นที่เกินกว่า10 ลี้มีสีเทาทั้งหมด ไม่มีสีสันอย่างอื่นในที่นั้น มันคือสุสานสีเทา บ้านของเรือรบ มีเรือรบขนาดต่างๆมีร่องรอยการรบและเสียหาย และมีหลายลำผุพังและทรุดโทรมมาก ใยแมงมุมมองเห็นได้อยู่ทั่วทุกที่ และมองเห็นสัตว์ป่าปรากฏเป็นระยะ
ที่นี่มีเรือรบอยู่กี่ลำ? ไม่มีใครรู้
เมื่อเผชิญหน้ากับโลกสีเทาข้างหน้า ทำให้ทุกคนรู้สึกลึกๆถึงความแข็งแกร่งของทวีปกวงหมิงเป็นครั้งแรก
เพียงแต่หลังจากผ่านไปขณะหนึ่งทุกคนก็รู้สึกตัว แต่ทุกคนมีแววนับถืออยู่บนใบหน้า เรือรบที่ทรุดโทรมถูกซ้อนกองกันเหมือนกระดูก เรือรบทุกลำเสียหายอย่างหนักเห็นได้ชัดว่าผ่านไฟสงครามมาแล้ว
พวกมันเหมือนทหารผ่านศึกที่แก่กำลังหลับอย่างเงียบงัน
อดีตที่รุ่งเรืองของพวกมันไม่อาจมองเห็นได้อีกต่อไปภายใต้แสงอาทิตย์ เสียงลมพัดหวีดหวิวไม่ได้นำมาซึ่งเสียงกึกก้องคำรามที่ทำให้ศัตรูของพวกเขาครั่นคร้าม
หลายปีผ่านไปได้พรากเอาสหายของพวกมันไป และยังทำให้พวกมันเอายุเก่าแก่ยิ่งขั้น พวกมันหลับใหลอยู่ที่นี่อย่างเงียบงันผ่านกาลเวลาไปอย่างช้าๆ
ไม่ต้องต้องคำนึงถึงจุดยืนของพวกมันเมื่ออยู่ต่อหน้าทหารผ่านศึกที่หลับใหลทุกคนจริงจังและนับถือ
ถังเทียนไม่มีการหัวเราะเหมือนอย่างปกติทำให้เขาคิดถึงปิงและกองทัพดาวกางเขนใต้ เขาคิดถึงตนเอง คิดถึงกลุ่มดาวหมีใหญ่และสัมพันธมิตรใต้
พวกเขาไม่เคยยอมแพ้และต่อสู้เคียงข้างกันเพื่อป้องกันความฝันของพวกเขา
พวกเขาเดินไปตามเส้นทางของบรรพบุรุษของพวกเขาในเปลวเพลิงสงครามและดาบท่ามกลางเสียงร้องคำรามของเรือรบ พวกเขาต่อสู้เคียงข้างกัน
กาลเวลาผ่านไป พวกมันเก่าแก่เช่นกันและพวกมันก็ต้องจากไปด้วยเช่นกัน เดี๋ยวนี้มนุษย์ยังจะจำพวกมันได้หรือ
ถังเทียนหัวเราะทันที ดวงตาของเขากระจ่างสดใส
‘แม้แต่ชื่อของพวกมันก็เลือนหายไปในประวัติศาสตร์ แม้ว่าพวกมันจะไม่ประสบความสำเร็จในการดำเนินการใด แต่ทุกคนก็ต่อสู้เคียงข้างกันและเราสามารถพิสูจน์ได้ อารมณ์ทั้งหมดของเราเป็นจริงจัง และความฝันของเราก็อยู่ในใจจะติดตามทุกคนไปตลอดเวลาที่เหลือของเรา
‘’มีชีวิตเพียงหนึ่งเดียวก็พอแล้ว มีชีวิตเป็นอมตะเกี่ยวอะไรกับข้า?’
ถังเทียนสูดหายใจลึก ทันใดนั้นขาคำนับให้กับเรือเก่านับไม่ถัวน
กองพลเกราะเทพเจ้าด้านหลังเขาโค้งตัวคำนับกันทุกคน
เมลิซซาตกใจการกระทำของพวกเขาและหลุดคำพูดออกมาโดยไม่รู้ตัว “พวกท่านเป็นโจรไม่ใช่หรือ? พวกท่านเป็นศัตรูกับพวกมันไม่ใช่หรือ?”
“ใช่”ถังเทียนพูดโดยไม่หันหลัง “ผิดด้วยหรือที่ข้าจะให้เกียรติศัตรู?”
เมลิซซาพูดไม่ออก
ซือหม่าเซี่ยวรู้สึกจมอยู่ในความคิดที่ลึกเขามองดูถังเทียนอย่างลึกซึ้งและในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทำไมถังเทียนถึงสร้างปาฏิหาริย์ได้ครั้งแล้วครั้งเล่า
แฟรงค์มีท่าทีชื่นชม และพูด“นายท่านแบกภาระมากกว่าคนธรรมดา โจรจะทำแบบนั้นได้ยังไง?”
ถังเทียนหันไปจ้องมองชายชราอยู่นาน
แฟรงค์รู้สึกว่าเจ้านายตรวจจับกลิ่นอายความหมายพื้นฐานของเขา
“ท่านกำลังดูถูกพวกโจรหรือ?” ถังเทียนมองดูชายชราอย่างแข็งกร้าว แม้ว่าเขาจะเป็นโจรคนหนึ่งในช่วงเวลาสั้นๆ แต่เขาก็ยังปกป้องศักดิ์ศรีของอาชีพ
แฟรงค์ตกใจ
เมื่อเห็นเช่นนั้นซือหม่าเซี่ยวไม่อาจทนต่อไปได้ เขาหัวเราะลั่น
แฟรงค์รู้ว่าเรือรบรังสีกัมปนาทจอดอยู่ในสุสานข้างในแต่ไม่แน่ใจว่าอยู่ทางตำแหน่งใดกันแน่ กลุ่มพวกเขาเริ่มค้นหาทั่วสุสานและหลังจากค้นหาอยู่ชั่วโมงหนึ่ง พวกเขาก็พบเป้าหมายได้ในที่สุด
โครงเรือมหึมาขนาดเท่าภูเขากองอยู่เงียบๆ
มันอยู่ในศูนย์กลางสุสานและไม่เหมือนกับเรือรบอื่นที่วางไว้ลวกๆ รอบๆ เรือในรัศมี 200 เมตรเป็นพื้นที่ว่าง
แม้แต่ในสุสาน มันยังเหมือนกับราชาผู้งามสง่ายังคงมีความเด่นสง่า ราวกับว่าเรือรบทั้งหมดในสุสานกำลังปกป้องอยู่ด้านข้างของมัน
ตำนานแห่งอดีตครั้งหนึ่งเคยเป็นจ้าวครองความเป็นใหญ่ในท้องฟ้า เรือรบรังสีกัมปนาท