ตอนที่ 836 จบสิ้นหลังจากผ่านมาหลายหมื่นปี
ถึงราชาใจสิงห์มองดู แต่เขามีความเข้าใจชัดเจน
ทำไมภูตพรายฟ้าถึงได้ทรงพลังมากมายนัก เพราะเขามีสองคนและมีทักษะแฝงเร้นระลอกพลังและสนามพลังคลื่นแผ่นดินไหว
ถ้าไม่ใช่เพราะคุณชายสามเปิดเผยเรื่องนี้ ความลับนี้ก็ยังจะถูกฝังไว้ในศพของผู้พ่ายแพ้ อย่างไรก็ตามแม้ว่าความจริงจะถูกเปิดเผย แต่คุณชายสามจะเอาชนะภูตพรายฟ้าและปีศาจฟ้าได้อย่างไร? ทั้งสองเป็นพี่น้องฝาแฝดผู้มีลักษณะหน้าตาเหมือนกัน มีทักษะแฝงเร้นระลอกพลังและสนามพลังคลื่นแผ่นดินไหว และผนึกพลังกับอสูรที่มีความสามารถดูดซับพลังโดยไม่สนใจพลังของลี่เยี่ยน มารสัมฤทธิ์ฟ้า และแม้แต่พลังสุริยะของเขา พวกเขาไม่ได้มีบทบาทอะไร
เขาจะเอาชนะภูตพรายฟ้าและอสูรฟ้าหรือไม่
ราชาใจสิงห์ไม่มีเวลาคิดเรื่องนี้ เขารู้สึกมีเงาแห่งความตายกระทบอยูในใจ
หมัดหนึ่งกระแทกจากข้างหลัง
จากนั้นยังมีอีหมัดหนึ่งซึ่งดักอยู่ข้างหน้าและขณะเดียวกันโจมตีใส่ตำแหน่งหัวใจอย่างสมบูรณ์
ภูตพรายฟ้ากับปีศาจฟ้าสองพี่น้องฝาแฝด คนแรกที่พวกเขาโจมตีไม่ใช่คุณชายสาม แต่เป็นพวกเขาเอง? ราชาใจสิงห์ตกใจ แม้เขาจะมีความเข้าใจปณิธานปราณราชันย์ แต่ไม่สามารถรักษาสภาพนี้ได้อีกต่อไป เขาสะท้านใจทันที ราชาใจสิงห์ไม่เลือกสู้ตอบโต้ แต่ก็ยากจะประคองกาย เขากลืนเลือดที่ทะลักมาถึงลำคอและหนีด้วยความเร็วสูงสุด.. ด้านตรงข้ามเขามีเงาร่างหนึ่งผ่านเขาไป ราชาใจสิงห์คาดเดาได้ถูก ราชาใจสิงห์เห็นอย่างชัดเจนว่าภูตพรายฟ้ากำลังปะทะฝีมือกับมารสัมฤทธิ์ฟ้า มารสัมฤทธิ์ฟ้าต้องการทำอะไร? เมื่อภูตพรายฟ้าสามารถบินไปหาเขา ตอนนี้พวกเขามีสองคน ตอนนี้เขาต้องการหาเรื่องตายหรือ?
“คืนหมัดให้เจ้าด้วย!”
มารสัมฤทธิ์ฟ้าตวาดลั่นพลางพุ่งผ่านท้องฟ้า หมัดสายฟ้าส่งเสียงหวีดหวิว เสียงแหวกอากาศผ่านความเร็วระดับกำแพงเสียงระเบิดดังขึ้น ร่างมารสัมฤทธิ์ฟ้าพุ่งเฉียดผ่านราชาใจสิงห์ปล่อยหมัดเข้าที่หูซ้ายของภูตพรายฟ้าคนแรก
หมัดนี้เหมือนกับหมัดที่ใช้สู้ก่อนหน้านั้นไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวหรือเป้าหมาย หรือความเฉียบขาดเหมือนกับหมัดก่อนนี้แน่นอน เพียงแต่พลังแกร่งกร้าวกว่าและความเร็วที่เหนือกว่า เห็นได้ชัดว่านี่คือพลังที่แข็งแกร่งที่สุดของมารสัมฤทธิ์ฟ้า
ภูตพรายฟ้าที่ถูกโจมตีที่หู เริ่มสร้างระลอกพลังงาน
แต่พอสร้างระลอกแล้ว ก็ความผันผวนของระลอกพลังงานก็ถูกหยุดไว้ทันที
ราชาใจสิงห์หันไปมองด้วยความประหลาดใจ และพบว่าพลังงานรอบตัวเย่ว์หยางมีแสงระยิบระยับเหมือนดวงดาวแผ่ออกราวกับท้องฟ้ายามราตรี เพื่อให้ทุกอย่างสงบเงียบเป็นพิเศษ แม้แต่พลังงานผันผวนก็ไม่สามารถก่อตัวขึ้นได้เลย ทันใดนั้นเขาเข้าใจได้เลยว่า สนามพลังคลื่นแผ่นดินไหวสะเทือนของภูตพรายฟ้าเผชิญหน้ากับสนามพลังดวงดาวของคุณชายสามก็เหมือนถูกตัดแบ่ง และสนามพลังรูปเหมือนดวงดาวของคุณชายสามสามารถสลายสนามพลังคลื่นแผ่นดินไหวได้
เมื่อสนามพลังคลื่นแผ่นดินไหวไม่สามารถก่อตัวได้ ราชาใจสิงห์พบว่าภูตพรายฟ้าผู้อยู่ยงคงกระพันเมื่อตกอยู่ภายใต้การโจมตีของมารสัมฤทธิ์ฟ้าปลิวกระเด็นเหมือนหินและกระแทกจมลึกลงไปในพื้น
ปรากฏว่าภูตพรายฟ้าไม่สามารถรักษาความคงกระพันได้เมื่อสนามพลังคลื่นแผ่นดินไหวถูกสลาย!
ขณะนั้นราชาใจสิงห์ใจชื้นขึ้นมาทันที และมีกำลังใจเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่า
ปีศาจฟ้าแฝดอีกคนหนึ่งก็เป็นเหมือนกับภูตพรายฟ้า เตะใส่ท้องของมารสัมฤทธิ์ฟ้า ขณะที่มารสัมฤทธิ์ฟ้ากระอักโลหิต เขาไล่ตามด้วยความเร็วสูงและปล่อยหมัดฝ่าอากาศ ตั้งใจจะบดขยี้ศีรษะของมารสัมฤทธิ์ฟ้า ราชาใจสิงห์รู้สึกเกลียดตัวเอง เขาเอาแต่มองการปะทะกันระหว่างสนามพลังของคุณชายสามและภูตพรายฟ้า ทำให้พลาดการช่วยเหลือ แต่ถึงแม้พลังนี้ทำร้ายมารสัมฤทธิ์ฟ้าจนตายได้ แต่ก็คงไม่ส่งผลถึงการต่อสู้โดยรวม
เขาหวังว่าจะใช้ความเร็วได้สูงสุดเท่าที่ทำได้ แต่ระยะห่างกันเกินไป เขาไม่สามารถช่วยได้ทัน เขาได้แต่มองดูปีศาจฟ้าบดขยี้มารสัมฤทธิ์ฟ้า
เงียบ!
เสียงสะท้อนทึบดัง
เขาเห็นเงาร่างคนหนึ่งบินเข้ามาอย่างรวดเร็วและปักหลักบนพื้น โล่มังกรเปล่งแสงบังป้องกันไม้ตายสังหารข้างหน้ามารสัมฤทธิ์ฟ้าไว้ได้
เป็นจักรพรรดิมังกร
จักรพรรดิมังกรป้องกันพลังของปีศาจฟ้า แขนของเขาสั่นและชาด้าน ร่างของเขาได้รับความกระทบเทือนจนถึงอวัยวะภายในจนกระอักโลกหิต
ปีศาจฟ้ากำลังจะใช้พลังสังหารหมัดที่สอง ราชาใจสิงห์ก็เข้ามาถึงและยิงแสงสุริยะไปที่มือของเขา เมื่อสูญเสียพลังปกป้องจากสนามพลังคลื่นแผ่นดินไหว ปีศาจฟ้าไม่กล้าปะทะขณะที่เขารีบถอยออกมาก่อน แม้ว่าราชาใจสิงห์จะไม่สามารถโจมตีได้ แต่เขาตวาดลั่นเพื่อเรียกความมั่นใจกลับคืนมา!
“ขนนกทอง”
ด้านหลังของราชาใจสิงห์มีปีกกริฟฟินงอกขึ้นและคลุมตัวเขาเป็นรูปลูกบอลกลม
ขณะที่ปกป้องจักรพรรดิมังกรและมารสัมฤทธิ์ฟ้า พลังขยายตัวอย่างรวดเร็วและภูตพรายฟ้าถูกพลังดันถอยไปสามก้าว ขนโลหะทองยิงกระจายออกไปเหมือนกับพายุ และภูตพรายฟ้าถูกบีบบังคับให้ต้องถอยหลัง สนามพลังขนนกทองนับล้านคอยปกป้องพื้นที่ของตนเอง ราชาใจสิงห์มองดูภูตพรายฟ้า ฝ่ายตรงข้ามด้วยความมั่นใจ และพร้อมจะท้าทาย “ข้าก็มีสนามพลังเหมือนกัน และข้าก็พร้อมจะสู้!”
ภูตพรายฟ้าพยักหน้า “งั้นข้าจะช่วยให้เจ้าสมปรารถนา”
แต่ขณะที่เขาพูด ปีศาจฟ้าแฝดอีกคนหนึ่งปรากฏที่ด้านหลังราชาใจสิงห์เงียบๆ แล้วต่อยเข้าที่เอวของราชาใจสิงห์ ขณะที่ราชาใจสิงห์อดกลั้นความเจ็บปวดและปล่อยหมัดเข้าปลายคางของภูตพรายฟ้า
“บึ้ม!”
มารสัมฤทธิ์ฟ้าควบพลังเป็นบอลพลังสายฟ้าไว้ในมือ และผลักพลังอ้อมเอวข้างหนึ่งของราชาใจสิงห์ผลักใส่ภูตพรายฟ้าที่กำลังโจมตีคางของราชาใจสิงห์ จักรพรรดิมังกรใช้โล่มังกรกระแทกสะบ้าหัวเข่าด้านขวาของปีศาจฟ้าที่กำลังไล่โจมตีราชาใจสิงห์ ราชาใจสิงห์หลบพลังโจมตีที่อันตรายได้หวุดหวิด ครั้งนี้เขาไม่ต้องหลบเลี่ยงอีกครั้ง แต่โจมตีตอบโต้ด้วยความโมโห เขารู้ว่าเมื่อมีมารสัมฤทธิ์ฟ้าและจักรพรรดิมังกรร่วมมือประสาน ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเอาชนะการโจมตีของภูตพรายฟ้าและปีศาจฟ้าได้ ถ้าสองพี่น้องนี้ยังมีสนามพลังคลื่นแผ่นดินไหวก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะศัตรูทั้งสอง!
พลังของราชาใจสิงห์ระเบิดออก สนามพลังขนนกทองกระจายพลังลมร้อนระอุดุจแสงอาทิตย์ออกไป
ภูตพรายฟ้าและปีศาจฟ้าฝืนใจถอยโดยตรง
ราชาใจสิงห์ลูบคางและรอบเอวและเปล่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวด หากไม่ได้การช่วยหนุนเสริมจากมารสัมฤทธิ์ฟ้าและจักรพรรดิมังกร เขาเองอาจจะพ่ายแพ้อย่างน่าอนาถ
ในทางตรงกันข้ามทำให้ราชาใจสิงห์ มารสัมฤทธิ์ฟ้าและจักรพรรดิมังกรโจมตีภูตพรายฟ้าและปีศาจฟ้าต่อเนื่องซ้ำแล้วซ้ำเล่า ใบหน้าของเขาไม่มีสีหน้าเจ็บปวด มารสัมฤทธิ์ฟ้ายิงหมัดใส่หูซ้ายของภูตพรายฟ้า กล้ามเนื้อมีพลังสั่นกระเพื่อมเป็นจังหวะอย่างรวดเร็วเหมือนเมื่อตอนเริ่มต้น แม้แต่ในหูที่โดนพลังของมารสัมฤทธิ์ฟ้าก็ยังมีหนอนปีศาจคอยดูดซับพลังจนหายไปไม่เหลือร่องรอย หนอนแมลงปีศาจพอดูดพลังเสร็จ ภูตพรายฟ้าก็ฟืนฟูพลังได้ส่วนหนึ่ง
“ลุยพร้อมกัน!” ราชาใจสิงห์ไม่เคยพูดกับใครให้สู้พร้อมกันมาเป็นพันปีแล้ว
แต่ภูตพรายฟ้าและปีศาจฟ้าสองพี่น้องหลอกให้คนสู้อิสระเพียงตัวคนเดียว
ความจริงสองพี่น้องภูตพรายฟ้ามักร่วมมือสู้สองต่อหนึ่ง
เย่ว์หยางมีดวงดาวรายล้อมมากขึ้นทุกที
เกิดกลุ่มดาวกลุ่มแล้วกลุ่มเล่า ทั้งหมดนั้นเป็นพลังรูปแบบต่างๆ ที่ใช้สนับสนุนและส่งผลอิทธิพลได้ รวมทั้งราชาใจสิงห์และสองพี่น้องภูตพรายฟ้าคิดว่าสนามพลังของเย่ว์หยางคือสนามพลังดาราราย มีแต่มารสัมฤทธิ์ฟ้าและจักรพรรดิมังกรที่รู้ว่าสนามพลังของเย่ว์หยางคือสนามพลังสร้างโลก ตอนนี้เขาจำลองสร้างสนามพลังดารารายของจักรพรรดินีราตรี สร้างดารารายเต็มท้องฟ้าด้วยสนามพลังสร้างโลก
ตาย!
ราชาใจสิงห์พอได้รับกำลังหนุนก็มีความมั่นใจและสร้างพลังระเบิดได้ง่ายๆ ยิ่งสนามพลังดารารายของของคุณชายสามใช้เวลานานก็ยิ่งมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น ได้พลังช่วยเหลือเช่นนั้นภูตพรายฟ้าจะรู้สึกกลัวหรือไม่?
สองพี่น้องภูตพรายฟ้ารู้สึกว่าสนามพลังถูกข่ม และพลังของพวกเขาอ่อนลงอย่างต่อเนื่อง พวกเขาอดตะโกนเพราะตกใจมิได้
ต้องสู้ใช้กำลังตัดสินให้เร็วขึ้น มิฉะนั้นทั้งสองจะตกอยู่ในภาวะคับขัน พวกเขาระดมหมัดกระแทกใส่ฝ่ายตรงข้าม
ป้อมชมดาวที่พังทลายเพราะการโจมตีต่อสู้กันอย่างบ้าคลั่งของสุดยอดฝีมือทั้งห้าเกิดการระเบิดครั้งใหญ่ ดวงอาทิตย์สี่ดวง บอลสายฟ้าและบอลมังกรไฟโจมตีใส่แปดทิศทางถล่มฟ้าทลายดิน
เจ้าเมืองเฉียนหู่ฟื้นขึ้นมาเพราะแรงสั่นสะเทือนและเขาพบว่าตนเองยังไม่ตาย แต่กระเด็นไปตกอยู่อย่างจากป้อมชมดาวที่มีการต่อสู้เสี่ยงชีวิตกันถึงสิบกิโลเมตร พ่อบ้านของเขามีพลังชีวิตแข็งแกร่งยิ่งกว่าแมลงสาบ เขายังไม่ตาย ร่างของเขาอยู่บนระเบียงหัวห้อยลงทั้งที่มีเลือดหยดก็นยังนอนกรนอยู่ได้ สภาพยังดีกว่าทอเรนลิมาซึ่งถูกอัดอากาศกระแทกใส่ เขาไม่เคยโดนระเบิดอย่างนั้นมาครึ่งชีวิต
เขาดิ้นรนลุกขึ้นนั่งและไม่สนใจเลือดที่กำลังหลั่งไหล เขาหรี่ตามองป้อมชมดาว
ป้อมชมดาวไม่มีปรากฏให้เห็นอีกต่อไป
แต่มีหลุมขนาดมหึมากว้างราวห้ากิโลเมตร
หลังจากราชินีไท่หลุนและคนอื่นร่วงห่างออกไปเจ็ดหรือแปดกิโลเมตร พวกเขากระเด็นกระจัดกระจายไปเพราะความประมาท
มีเพียงสามคนที่ยังคงยืนอยู่ได้
คนหนึ่งคือเย่ว์หยาง
อีกสองคือสองพี่น้องภูตพรายฟ้าและปีศาจฟ้า
ภูตพรายฟ้าคนพี่ได้รับบาดเจ็บ แต่พวกเขายังดีกว่าราชาใจสิงห์และมารสัมฤทธิ์ฟ้ามาก
ราชาใจสิงห์เหมือนกับนกยูงที่ขนปีกร่วง เขาต้องการยืนหยัดขึ้นอีกครั้ง แต่เจ็บปวดที่กระดูกซี่โครงอกจนเขามึนงง เขาไม่สามารถยืนได้ตามต้องการ ที่พื้นไม่ห่างจากเขามารสัมฤทธิ์ฟ้านั่งขัดสมาธิบนพื้นพยายามฟื้นฟูกำลังอย่างไม่คาดคิดคล้ายกับว่าต้องการจะสู้อีกครั้ง จักรพรรดิมังกรมีโล่ช่วยค้ำยันตนเองไว้สีหน้าสุดฝืน เขาปาดรอยเลือดที่มุมปาก ขณะที่เย่ว์หยางลอยตัวอยู่ในกลางอากาศในมืออุ้มไป่ลู่ที่กำลังตกตะลึง แต่ไป่ลู่ถือหีบเล็กเป็นประกายระยิบระยับ ดูเหมือนว่าแม้ว่านางจะสับสนมึนงง แต่นางไม่ลืมคำสั่งของเย่ว์หยาง
ในท้องฟ้าที่สูงมีร่างคนผู้หนึ่งลอยลงมามองดูเหมือนนางฟ้า
เป็นเจ้าเมืองโล่วฮัวกำลังลอยตัวลงมา
ทันทีที่นางปรากฏพื้นที่ทั้งหมดเต็มไปด้วยกลิ่นดอกไม้และกลีบดอกไม้ในท้องฟ้าโรยตัวลงเหมือนกับหิมะกำลังตก
สนามรบต่อสู้ทั้งหมดปรากฏต่อหน้านางเหมือนกับกลายเป็นสวนดอกไม้
“โชคดีที่ข้าหนีเร็ว รอดได้อย่างหวุดหวิด!” เจ้าเมืองโล่วฮัวเอามือทาบอกอย่างอารมณ์ดีผ้าคลุมหน้าของนางยังอยู่ ร่างของนางไม่มีแม้แต่ฝุ่นจับ ก่อนหน้านี้นางหลอมรวมอสูรเขี้ยวแสงและแสงอุษาเกลียวได้ตั้งแต่อยู่ในสนามพลังเทพของเย่ว์หยาง ทำให้พลังของนางรุดหน้าแบบก้าวกระโดด
“ตาย!” ก่อนที่ภูตพรายฟ้าจะเลือดหมดตัวเขายิงลำแสงสีแดงไปที่ระหว่างคิ้วของเจ้าเมืองโล่วฮัวอย่างรวดเร็ว
“ช้าเกินไป” เจ้าเมืองโล่วฮัวยกมือ
แสงอุสารูปหัวมังกรแปดหัวม้วนเป็นเกลียวรวมกันเป็นหัวมังกรขนาดใหญ่
นอกจากนี้ยังเร็วมากกว่าลำแสงสีแดงถึงร้อยเท่าและกลืนลำแสงสีแดงทั้งหมดและปะทะซึ่งหน้าภูตพรายฟ้า ทั้งความเร็วและพลังอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนทำให้แม้แต่หน้าของราชาใจสิงห์ถึงกับกระตุก เพราะเจ้าเมืองโล่วฮัวยิงลำแสงอุษาในระยะห่างกว่าสิบกิโลเมตร
เป็นครั้งแรกที่ภูตพรายฟ้าบาดเจ็บหนักขนาดนั้น แม้แต่พลังโจมตีของมารสัมฤทธิ์ฟ้าก่อนนี้ที่ระเบิดใส่หูของเขาจนมึนงง ก็ยังไม่ถึงกับทำให้เขาร้องได้
จักรพรรดิมังกรยิ้ม “ปณิธานปราณราชันย์ สามารถใช้อย่างนี้นี่เอง”
ราชาใจสิงห์ตกใจและถาม “ว่าไงนะ?”
ขณะที่ถามเขาตระหนักได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น พลังของสาวน้อยสวมหน้ากากยังไม่รุนแรงเท่ากับพลังสุริยะของเขา แต่ทำไมถึงทำร้ายภูตพรายฟ้าได้? เหตุผลก็คือลำแสงของนางแฝงไปด้วยเจตจำนงสังหาร กล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือความปรารถนาและพลังโจมตีของนางประสานกันเป็นหนึ่ง ทำให้ทักษะแฝงเร้นคลื่นพลังงานของภูตพรายฟ้าไม่สามารถสลายผลกระทบเสียหายได้ ด้วยพลังโจมตีที่สมบูรณ์แบบจึงดูเหมือนสร้างความเจ็บปวดให้กับเขา...หลังจากที่ราชาใจสิงห์ต้องการจะทำความเข้าใจ เขามีความรู้สึกว่าเหมือนกับเปิดหน้าต่างข้างหน้าและเห็นแสงสว่างทันที
กลับกลายเป็นว่าปณิธานราชันย์แท้จริงจะไม่มีความหวั่นไหว มีอยู่ทั่วไป เมื่อโจมตีก็จะรวมเป็นหนึ่งเดียวกับพลังโจมตี
เขาเพิ่งจะสัมผัสจุดเริ่มต้น!
ปีศาจฟ้ามาปรากฏตัวด้านหลังเจ้าเมืองโล่วฮัวและการลอบโจมตีของเขาทำให้แม้แต่ราชาใจสิงห์ก็ยังไม่สามารถหลบได้พ้น
เจ้าเมืองโล่วฮัวไม่หันกลับมองด้านหลัง ร่างของนางมีกลิ่นหอมเพิ่มขึ้น สาวจิ้งจอกปรากฏร่างขึ้นและสะบัดพลังวังวนกลิ่นจนคลุมทั้งร่างของอสูรฟ้า พลังวังวนจะหายไปหลังจากคงอยู่สามวินาที ปีศาจฟ้าถูกเทเลพอร์ตไปอยู่ห่างหมื่นเมตรและร่วงลงกับอย่างอ่อนล้า
“โจมตีโดยไม่มีพลังโจมตีหรือ?” ราชาใจสิงห์มองดูตะลึง และการต่อสู้ที่พิเศษนี้ทำให้เขาลบล้างความเข้าใจในการต่อสู้ก่อนนั้นออกไป
“อสูรศักดิ์สิทธิ์จะหลอมรวมกับทักษะแฝงเร้นที่ไม่เหมือนใครและเทเลพอร์ตส่งออกไป” จักรพรรดิมังกรยิ้ม
“นี่ยังแค่อสูรศักดิ์สิทธิ์ ถ้าเป็นอสูรเทพล่ะ?” ราชาใจสิงห์คิดว่าตนเองต้องปรับกระบวนการความคิดของตนเองใหม่
“ปณิธานของอสูรเทพเมื่อใช้ออก นั่นจะเป็นตัวแทนของความตาย”
จักรพรรดิมังกรพูดด้วยความมั่นใจ
เหมือนกับว่าเป็นการยืนยันคำของเขา ภูตพรายฟ้ากลั่นควบพลังงานสีแดงเป็นบอลพลังงานเตรียมฆ่าเจ้าเมืองโล่ฮัวจากระยะไกล
เขาเห็นว่าพลังของศัตรูไม่แข็งแกร่งเท่าใดนัก แต่ขอบเขตความรู้อยู่ในระดับสูง ความรู้ก็สูง และอีกอย่างหนึ่ง นางยังไม่เติบโตเต็มที่ ก็เหมือนกับคุณชายสาม! พลังปราณฟ้าระดับสาม และจะต้องถูกกำจัดโดยตรงด้วยพลังคลื่นระเบิดจากนักสู้ที่มีระดับพลังสูงกว่าปราณฟ้าระดับหก
ทันใดนั้นภูตพรายฟ้ายิงบอลพลังงานออกไปทันที
ท้องฟ้าเป็นรอยแตกแยกทันที
ราวกับมีมีดตัดผ่านท้องฟ้าจนแยกออกเป็นสองส่วน...
ปีศาจฟ้าตะโกนอย่างบ้าคลั่งทันที ภูตพรายฟ้าหันหลังกลับและพบว่าปีศาจอสรพิษทองอยู่ที่ด้านหลังของเขากำลังควงดาบคู่ยักษ์สีทองที่สามารถผ่าฟ้าและโลกได้
สถานการณ์นี้ดูคุ้นมาก
ดูเหมือนว่าหลังจากผ่านมาหมื่นปีแล้ว สนามรบที่มีการฆ่าฟันโดยปกติ กลับข้ามเวลามาปรากฏให้เห็นอีกในปัจจุบัน
ภายใต้การจับตามองของราชาใจสิงห์ จักรพรรดิมังกรและเจ้าเมืองเฉียนหู่และคนอื่น ปีศาจอสรพิษไม่ทราบว่าปรากฏตั้งแต่เมื่อใด
นางควงดาบในมือ ดาบที่ไม่มีอะไรหยุดได้ตัดร่างของภูตพรายฟ้าขาดครึ่งตั้งแต่ไหล่ลงมาถึงเอว ทักษะแฝงเร้นและพลังจากสนามพลังใดๆ พลังของอสูรศึกและของวิเศษล้วนไร้ประโยชน์... ในปีนั้นภาพนักรบปีศาจอสรพิษปรากฏในทันที ทั้งฟ้าและดินแยกขาดเป็นสองส่วน
จุดแตกต่างก็คือเทพปีศาจอสรพิษนั้นร่างโชกเลือดอยู่ในสภาพอ่อนเพลีย แต่นางยังสามารถฆ่าสหายของภูตพรายฟ้าได้นับสิบ แม้แต่พลังของภูตพรายฟ้าเมื่อเผชิญหน้ากับนางก็ยังไม่เพียงพอจะฆ่านางได้ ภูตพรายฟ้ากลับต้องบาดเจ็บสาหัสจนต้องหนีตาย
วันนี้ภาพนี้กลับมาปรากฏอีกครั้ง ฝ่ายตรงข้ามมาปรากฏที่ฝั่งตรงข้ามเหมือนครั้งก่อนนั้น แต่ครั้งนี้เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะโชคดีเหมือนกับครั้งก่อน
ดวงของภูตพรายฟ้าบุรุษผมแดง ปรากฏแววหวาดกลัวและสิ้นหวังทันที!