บทที่ 29 : ได้รับยาเสริมประสิทธิภาพยีน!
บทที่ 29 : ได้รับยาเสริมประสิทธิภาพยีน!
มนุษย์กลายพันธุ์ล้มลงพร้อมๆกับเลือดที่ไหลนองพื้น
นักเรียนรอบๆทุกคนต้องใช้เวลานานกว่าจะหายจากอาการตกตะลึงเเละรู้ตัวว่ามนุษย์กลายพันธุ์นั้นถูกชูโจวฆ่าตายไปแล้ว
"ในที่สุดสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวนี้ก็ตายแล้ว" หลิงซานและคนอื่นๆ ถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก…..ในที่สุดพวกเขาก็รอดพ้นจากหายนะครั้งนี้
"ความแข็งแกร่งของเขาแข็งแกร่งเกินไป…. เขาเหนือกว่าฉันมาก" หลิงซานมีประกายแห่งความชื่นชมในดวงตาของเขา
….
ด้านชูโจวเขายังนึกถึงพลังใบมีดผสานเมื่อครู่นี้ ประทับความสามารถเมื่อกี้เข้าไปในหัวใจของเขาทีละนิดเเละเปลี่ยนมันเป็นความทรงจำที่ไม่สามารถลบออกได้ เเละเขามีความมั่นใจว่าตราบใดที่เขาฝึกเพิ่มอีกสักระยะ เขาจะสามารถสร้างออร่าใบมีดแบบนั้นได้ตามต้องการ
"...ตอนนี้ แม้ว่ามนุษย์กลายพันธุ์จะถูกตัดหัวไปแล้ว แต่ก็ยังมีปัญหาที่ต้องจัดการ" ชูโจวพูดกับตัวเองพลางมองดูมอนสเตอร์รูปร่างคล้ายมนุษย์ตัวอื่นๆ รอบตัวเขา
"หืม ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างผิดปกติกับมอนสเตอร์รูปร่างคล้ายมนุษย์พวกนี้!" เมื่อชูโจวหันกลับมามองเขาก็พบว่ามอนสเตอร์รูปร่างคล้ายมนุษย์ที่เหลือทั้งหมดกำลังนอนอยู่บนพื้นและตัวสั่นกระตุก พร้อมกับส่งเสียงคำรามอย่างคร่ำครวญ
"เกิดอะไรขึ้นกับมอนสเตอร์พวกนี้?" หลิวเฉียนๆและคนอื่นๆ เดินไปที่ด้านข้างของชูโจวและมองดูเหล่ามอนสเตอร์ที่กระตุกอยู่บนพื้นอย่างอยากรู้อยากเห็น
ชูโจวครุ่นคิดเล็กน้อยแล้วพูดว่า "บางทีมอนสเตอร์ที่ถูกสร้างขึ้นเหล่านี้มีข้อบกพร่องร้ายแรงและไม่สามารถอยู่รอดได้เป็นเวล่นาน ตอนนี้เวลาการมีชีวิตโดยประมาณของพวกมันคือ..."
ก่อนที่ชูโจวจะพูดจบ มอนสเตอร์รูปร่างคล้ายมนุษย์ที่กระตุกเกร็งทั้งหมดก็ตัวแข็งทื่อเเละเเน่นิ่งไป
ชูโจวเดินไปไกล้ๆมอนสเตอร์คล้ายมนุษย์ และพบว่ามอนสเตอร์รูปร่างคล้ายมนุษย์ทั้งหมดนั้นไม่มีพลังชีวิตเหลืออยู่อีกต่อไปเเล้ว
"ตายหมดเเล้ว"เขาพูดเบาๆ
ในที่สุดทุกคนก็แสดงสีหน้าผ่อนคลาย ราวกับว่าพวกเขายังได้มีชีวิตรอดอยู่หลังจากเกิดหายนะ…… ณ จุดๆนี้พวกเขาปลอดภัยอย่างแท้จริงเเล้ว
นักเรียนหลายคนอดไม่ได้ที่จะร้องไห้ ครั้งนี้อันตรายเกินไปจริงๆ และเป็นความโชคดีที่รอดมาได้
…
ที่ทางเข้าเมือง
จางเหยาหยาง จู่ๆ ก็ผละออกจากการต่อสู้กับอาจารย์ลี่เกอและคนอื่นๆ จาดนั้นหยิบเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ออกมาและดูหน้าจอที่แสดงบนเครื่อง…. เเล้วก็เห็นจุดสีเทาหลายจุดบนหน้าจอ
"ในเวลาไม่ถึงชั่วโมง พวกมันตายหมดแล้วหรือ?......ดูเหมือนว่าจะต้องปรับปรุงยามอนสเตอร์ประเภท B อีกหน่อย!" เขาพูดกับตัวเองจากนั้นมองไปที่อาจารย์ลี่เกอและคนอื่นๆ
"ทุกท่าน ตอนนี้เกมส์จบแล้ว ฉันยังมีสิ่งที่ต้องทำ….ไว้ฉันจะไม่เล่นกับพวกคุณอีกในอนาคตนะ!" เขาหัวเราะออกมาดัง ๆ และหายตัวไป
อาจารย์ลี่เกอและคนอื่นๆ ไม่มีทางเลือกอื่นเพราะพวกเขาไม่สามารถหยุดจางเหยาหยางได้
"เข้าไปในเมืองกันเถอะและดูว่ามีนักเรียนเหลืรอดกี่คน" อาจารย์ลี่เกอและคนอื่นๆ ตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือความปลอดภัยของนักเรียน และพวกเขาก็รีบเข้าไปในเมืองด้วยความเร็วสูงสุด
ครู่ต่อมา อาจารย์ลี่เกอและคนอื่นๆ ก็มาถึงจุดที่ชูโจวและนักเรียนคนอื่นๆ ที่รอดชีวิตกำลังนั่งพักกันอยู่
"ชูโจว" เมื่อเห็นว่าชูโจวยังสบายดี อาจารย์ลี่เกอที่ตึงเครียดอยู่ตลอดเวลาก่อนหน้านี้ก็ผ่อนคลายลง
"อาจารย์ลี่เกอ คุณมาเเล้ว……ผมขอโทษด้วยนักเรียนสี่คนในโรงเรียนของเราตอนนี้เหลือเพียงหลิวเฉียนๆและฉันเท่านั้น...สำหรับโจวถง และจินเจิ้นหนานผมไม่เห็นพวกเขาเลย
และเกรฃว่าพวกเขาอาจเสียชีวิตใต้เงื้อมมือของมอนสเตอร์รูปเเบบมนุษย์เหล่านี้ไปแล้ว” ชูโจวกล่าว (เพราะเอ็งต่างหาก -___-)
"ดีเเล้วที่พวกเธอรอดมาได้…. สำหรับโจวถงและจินเจิ้นหนาน ฉันพูดได้คำเดียวว่าพวกเขาโชคไม่ดีเท่านั้น ปกติในการทดสอบชั้นยอดก็มักจะมีอันตรายถึงตายอยู่แล้ว เเถมครั้งนี้ยังมีอุบัติเหตุเช่นนี้เกิดขึ้นอีก มันจึงเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะเสียชีวิต..."
อาจารย์ลี่เกอรู้การกระทำที่เลวร้ายของโจวถง และจินเจิ้นหนานในระหว่างปฏิบัติการพายุเเล้ว ดังนั้นเธอจึงไม่ชอบนักเรียนสองคนนี้โดยธรรมชาติ ดังนั้นเธอจึงไม่ได้จริงจังกับชีวิตและความตายของพวกเขา
ในเวลาเดียวกันนี้ ครูชั้นนำของโรงเรียนมัธยมหลายแห่ง ตลอดจนคณะกรรมการของมหาวิทยาลัยต่อสู้ทั้ง 6 แห่ง ก็ได้รับรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดจากนักเรียนคนอื่นๆ
เมื่อพวกเขารู้ว่าชูโจวเป็นคนที่พลิกสถานการณ์การต่อสู้นี้ รวมถึงเป็นคนที่ฆ่ามนุษย์กลายพันธุ์ระดับกึ่งปลุกพลังและช่วยนักเรียนผู้รอดชีวิตทั้งหมดไว้… สิ่งนี้ทำให้พวกกเขาทั้งหมดรู้สึกตกตะลึงอย่างมาก
"นักเรียนชูโจวจากคะแนนและความสำเร็จของคุณ เรายอมรับว่าคุณเป็นอันดับหนึ่งในการทดสอบชั้นยอดนี้….. ตามกฎแล้ว เราจะให้รางวัลคุณเป็นหลอดยาเสริมประสิทธิภาพยีน"
"เเต่ในเหตุการณ์นี้คุณมีส่วนร่วมมากเกินไป และรัฐบาลจะต้องให้รางวัลอื่น ๆ เพิ่มเติมแก่คุณอย่างแน่นอน..."
หลังจากการปรึกษาหารือกัน ครูชั้นนำของโรงเรียนมัธยมสิบอันดับแรกก็ลงความเห็นกันว่าชูโจวเป็นอันดับหนึ่งในการทดสอบชั้นยอดนี้ และประกาศ ณ จุดนั้น
หลิงซาน, ซีเหมิง, หลี่ชิงฉี และนักเรียนที่รอดชีวิตทั้งหมดไม่ได้แสดงท่าทีคัดค้าน ทุกคนคิดว่านี่เป็นสิ่งที่ชูโจวสมควรได้รับ
"สำเร็จแล้ว ในที่สุดฉันก็ได้รับยาเสริมประสิทธิภาพยีน!" ชูโจวรู้สึกปลาบปลื้มในใจ……ในที่สุดเป้าหมายของเขาในการเข้าร่วมการทดสอบชั้นยอดใฝครั้งนี้ก็บรรลุผลสำเร็จแล้ว
ด้วยยาเสริมประสิทธิภาพยีน มันง่ายสำหรับเขาที่จะปลดล็อกเเละพัฒนาเป็นนักรบที่แท้จริง!
จากนั้นพวกเขาก็ประกาศว่า หลิงซานเป็นอันดับที่สอง, ซีเหมิงเป็นอันดับที่สาม และ หลี่ชิงฉี เป็นอันดับที่สี่….. สิ่งนี้ทำให้ หลิงซานเเละซีเหมิงยังได้รับรางวัลยาเสริมประสิทธิภาพยีนเเละด้วยสาเหตุนี้ทำให้หลี่ชิงฉีรู้สึกเศร้าเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม ไม่นานเธอก็ได้ความหวังกลับคืนมา เพราะครูคนหนึ่งบอกว่าเธอก็ทำผลงานได้โดดเด่นในเหตุการณ์ครั้งนี้อย่างมาก รัฐบาลอาจจะพิจรณาให้รางวัลเป็นหลอดยาเสริมประสิทธิภาพยีนให้กับเธอสิ่งนี้ทำให้หลี่ชิงฉีมองเห็นความหวังอีกครั้ง
…..
"เอาล่ะนักเรียนทุกคน ในตอนนี้จะมีประกาศเฉพาะสี่อันดับแรกของการทดสอบชั้นเท่านั้น และสำหรับอันดับอื่นๆเราจะแจ้งให้ทราบในเร็วๆ นี้..."
"สถานการณ์เลวร้ายที่นี่มีเรื่องที่น่ากลัวเกิดขึ้นมากเกินไป….. เราต้องรีบติดต่อกรมตำรวจเพื่อให้มาจัดการกับเรื่องนี้"
ครูหลายคนไม่ได้ประกาศอันดับต่อไป แต่ติดต่อกับกรมตำรวจทันทีแล้วปล่อยให้คนของกรมตำรวจจัดการเรื่องนี้ โดยเฉพาะซากศพของสัตว์ประหลาดรูปร่างมนุษย์นั้นต้องได้รับการตรวจสอบอย่างจริงจัง…….พวกเขาคาดการณ์ได้เลยว่าเหตุการณ์นี้อาจก่อให้เกิดพายุลูกใหญ่ตามมา
……..
"นักเรียนชูโจว ฉันชื่อกัวเต๋าจากมหาวิทยาลัยกองทหารที่หนึ่ง ฉันสงสัยว่าเธอจะพอมีเวลาบ้างไหม ฉันอยากคุยกับเธอเป็นการส่วนตัว"
"อะแฮ่ม...ชูโจวเพิ่งผ่านการต่อสู้อันโหดร้ายมาหมาดๆ ดังนั้นในตอนนี้เขาคงจะเหนื่อยมาก….. คุณกัวเต๋าอย่าทำให้เขาลำบากเลย นักเรียนชูโจวเธอคงจะหิวและเหนื่อยแล้ว ฉันได้จองภัตตาคารอาหารสี่ฤดูไว้เเล้ว… เราไปหาอะไรกินกันก่อนดีไหม”
"หยานชิง….คุณเรียนรู้การเล่นกลที่ใหนมากัน นักเรียนชูโจวมากับฉันดีกว่า ฉัน……… "
ในขณะนี้ชูโจวได้ ถูกรายล้อมด้วยคณะกรรมาธิการจากมหาวิทยาลัย 6 แห่ง รวมทั้งกัวเต๋า และ หยานชิง
คณะกรรมาธิการทุกคนทักทายชูโจวอย่างกระตือรือร้น และบางคนถึงกับติดสินบนเพียงเพื่อต้องการคุยกับชูโจวตามลำพัง
เเต่ก็ไม่แปลกที่คณะกรรมาธิการเหล่านี้จะกระตือรือร้นมากขนาดนี้…..นัดเรียนผู้ฝึกหัดระดับสูงคนหนึ่งสามารถฆ่าสิ่งมีชีวิตระดับกึ่งนักรบผู้ปลุกพลังได้….เด็กคนนี้มีศักยภาพมากแค่ไหนกัน? พวกเขาคงเป็นคนโง่เขลาหากไม่คิดหาทางพาชูโจวเข้ามหาวิทยาลัยในตอนนี้
ชูโจวมองคณะกรรมการมหาวิทยาลัยทั้งหลายที่จ้องมองเขาราวกับหมาป่ามองลูกเเกะ แน่นอนว่าเขารู้ว่าจุดประสงค์ของคณะกรรมาธิการเหล่านี้คืออะไร?
แต่ว่า เขายังไม่รู้ว่าจะเดินทางไปต่ออย่างไรในอนาคต ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถให้คำตอบกับคนเหล่านี้ได้…… เขาต้องกลับไปคิดให้รอบคอบว่าจะทำอย่างไรต่อไปหลังจากได้รับการเลื่อนขั้นเป็นนักรบเเล้ว
"ทุกท่าน ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายนักในตอนนี้ และไม่ต้องการที่จะคิดเกี่ยวกับการเข้ามหาวิทยาลัยนั้นในตอนนี้...ดังนั้นฉันจะให้คำตอบหลังจากที่ฉันคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกสองสามวัน"
"อาจารย์ลี่เกอ กลับกันเถอะ" ชูโจวพูดกับคณะกรรมาธิการอย่างสุภาพ แล้วขอให้อาจารย์ลี่เกอพาเขาออกไปโดยเร็ว
"โอเค กลับกันเถอะ" อาจารย์ลี่เกอพยักหน้าด้วยรอยยิ้มและก่อนที่คณะกรรมาธิการหลายคนจะทันได้รั้งพวกเขาไว้ เธอก็จับมือชูโจวและหลิวเฉียนๆจากนั้นกลายเป็นภาพติดตาและจากไป
…
ในป่าเเห่งหนึ่ง
ร่างของจางเหยาหยางกำลังควบม้าอย่างรวดเร็วเข้าไปในป่าเล็กๆ แห่งนี้เพื่อมาพบลูกน้องของเขา….. แต่เมื่อมาถึงกลับพบว่าไม่มีวี่แววลูกน้องคนใดที่เขาอยู่ที่นี่เลย
"พวกมันหายไปใหนกันหมด" เขาพูดอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย
"พวกมันกำลังรอเเกอยู่ในนรกเเล้ว" ด้านหลังของจากเหยาหยางปรากฏชายวัยกลางคนร่างอ้วนท้วนเเละกำลัวทำการหักกิ่งไม้ออกมาถือไว้ในมือ
"เเกเป็นใคร?" ร่างของจางเหยาหยางเกร็งขึ้นทันใด รูม่านตาของเขาหดลง และเขามองดูชายวัยกลางคนร่างอ้วนท้วนที่อยู่ต่อหน้าเขาด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง
เขาเป็นมหาอำนาจนักรบระดับพิเศษ แต่เขาไม่ทันสังเกตเห็นเลยว่าอีกฝ่ายอยู่ที่นี่ตั้งเเต่เมื่อไร…….นี่มันผิดปกติมาก
"คนตาย จำเป็นต้องรู้มากขนาดนั้นเลยหรอ?" ชายวัยกลางคนอ้วนพูดอย่างเฉื่อยชา
วิ่ง! ........ แม้ว่าภายนอกจากเหยาหยางจะดูก้าวร้าว เเละปกติเขาดูไม่ได้ใส่ใจกับหมายจับของรัฐบาลด้วยซ้ำ
แต่ที่จริงแล้วเขาเป็นคนที่ระมัดระวังตัวมาก มิฉะนั้นด้วยบุคลิกที่ก้าวร้าวเช่นนี้ เขาคงไม่มีชีวิตอยู่ถึงทุกวันนี้
หลังจากตระหนักว่าชายวัยกลางคนที่ดูขี้เกียจและอ้วนคนนี้อาจจะเป็นบุคคลที่อันตรายอย่างยิ่ง เขาไม่แม้แต่จะลองทดสอบพลังของอีกฝ่ายด้วยซ้ำ เขาทำการหันหลังกลับและหนีไปทันที
อย่างไรก็ตาม ขณะที่เขาหันหลังกลับและหนีออกไปได้ไม่ถึงสิบเมตร กิ่งไม้ใหม่เอี่ยมก็แทงทะลุผ่านศีรษะของเขาทันที
โผ๊ะ!
จางเหยาหยาง ผู้ทรงพลังต่อหน้าอาจารย์ลี่เกอและคนอื่น ๆ ก่อนหน้านี้ ได้เสียชีวิตลงไปอย่างเงียบ ๆ ในป่าที่ไม่มีใครรู้จักนี้
"อ่อนเเอแบบนี้ยังที่กล้ามาที่เขตเจียงเฉิงเพื่อสร้างปัญหา...ไม่รู้หรอว่าเจ้านายของฉันชอบความสงบเงียบ"
"เห้อออ….วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ดี เป็นวันหยุดที่หายากเเละฉันได้นัดกับป้าหวังและคนอื่นๆ เพื่อเต้นสแควร์แดนซ์ด้วยกัน แต่มันกลับสูญเปล่าไปแบบนี้..."
ชายวัยกลางร่างคนอ้วนพึมพำอย่างไม่พอใจ เอามือใส่กระเป๋ากางเกง ก้าวข้ามร่างของจางเหยาหยาง และเดินเฉื่อยชาไปทางด้านนอกของป่า
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะจากไป เขาได้มองลึกเข้าไปในทิศทางหนึ่งของป่าเเละหลังจากที่ชานร่างอ้วนวัยกลางคนหายไป ก็ปรากฏร่างสองร่างกระโดดลงมาจากต้นไม้ หนึ่งในนั้นคือ "จิ้งจอกเงิน" ซูไป๋ อีกคนเป็นชายร่างกำยำในชุดคลุมสีดำ
"ช่างน่ากลัวจริงๆ…. ในเขตเจียงเฉิงนี้มีมังกรซ่อนอยู่เต็มไปหมด! ถ้าฉันกล้าสร้างปัญหาที่นี่...บางที ฉันอาจจะตายที่นี่เหมือนคนงี่เง่าอย่างจางเหยาหยาง" ซูไป๋พูดกับร่างในชุดดำที่อยู่ข้างๆ เขา
"นายน้อยพูดถูก…คนในเขตเจียงเฉิงนี้น่ากลัวมาก" ร่างในชุดคลุมสีดำพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม
"เหล่าลูกน้องของฉันไม่เคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับบุคคลเเบบนั้นเลย...คาดว่ามีคนไม่มากนักที่รู้ว่ายังมีปีศาจเช่นนี้ซ่อนอยู่ในเขตเจียงเฉิง"
"เอาล่ะเขตเจียงเฉิงนี้น่ากลัวเกินไป…. เราต้องออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดเเละอย่าเผลอไปขัดขวางสายตาของใครบางคนเข้า" หลังจากที่ซูไป๋พูดจบเขาก็หายไปพร้อมกับร่างในชุดดำ
………………………