ตอนที่ 895 ชิปที่ว่านี่ มีปัญหา?
หลินฟาน ได้อยู่หน้าบริษัท และได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน แต่หลังจากที่ทราบว่าการสัมภาษณ์ครั้งนี้ มีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ หลินฟาน ก็ได้กล่าวขึ้นว่า เขาจะมีข่าวเปิดเผยต่อสาธารณะ..
ครู่หนึ่ง ความอยากรู้อยากเห็นของทุกคนก็ได้ถูกกระตุ้น กลุ่ม หยงจิ่ว จะมีความเคลื่อนไหวอีกแล้ว?
เมื่อเร็วๆ นี้ ผู้คนก็ได้ถูกโจมตีด้วยข่าวที่น่าตกใจของ กลุ่ม หยงจิ่ว และการเพิ่มขึ้นในครั้งนี้ของ กลุ่ม หยงจิ่ว ก็ได้ทำให้มวลชนพากันตกใจกันมา ครั้งแล้วครั้งเล่า!
“มาตอนนี้ ผมจะขอตอบคำถามที่พวกคุณสนใจก่อน” หลินฟาน ได้กล่าวว่า “ก่อนหน้านี้มีใครพูดถึง Bay Semiconductor.. และก็ใช่แล้วว่า ..กำลังการผลิตของเราได้แซงหน้า Bay Semiconductor ไปแล้วจริงๆ ทั้งอันที่จริงแล้ว ผมเองก็ได้เปิดเผยเรื่องนี้ ไปในก่อนหน้านี้แล้วเช่นกัน แต่ดูเหมือนว่าใครหลายคนจะยังไม่เชื่อ ตัวผมเองก็ได้สังเกตเห็นเสียงที่มองโลกในแง่ร้ายบนอินเตอร์เน็ต เห็นได้ชัดว่ามีคนกําลังใช้จังหวะนี้อยู่ ทั้งแต่เดิมทีการส่งมอบตามกําหนดในครั้งนี้ เราเองก็ไม่ได้มีแผนที่จะประชาสัมพันธ์ออกไป ไม่ว่าใครที่คิดจะใช้จังหวะนี้อยู่เบื้องหลัง ผมเองก็ต้องขอขอบคุณพวกเขา ที่ได้ให้การช่วยเหลือเรา ทำการประชาสัมพันธ์จนสำเร็จเสร็จสิ้น…”
ได้ยินแบบนี้ ทุกคนก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้..
ไม่ว่าใครจะอยู่เบื้องหลัง แต่ในครั้งนี้มันก็กลับส่งผลตรงกันข้าม ไม่เพียงแต่พวกเขาไม่ได้ทําให้ กลุ่ม หยงจิ่ว เสื่อมเสียชื่อเสียงลงเท่านั้น แต่มันกลับยังทำให้เกิดความฮือฮาขึ้นอีกด้วย และหยงจิ่ว กรุ๊ป ก็ได้กลายมาเป็นผู้ที่รับผลประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด!
หน้าทีวี เว่ย เทียนเฉิง และลูกชายของเขา ก็ได้เกลียดชังจนต้องกัดฟัน..
ช่างตบหน้าคนที่อยู่เบื้องหลังได้จริงๆ! ตอนนี้พวกเขาก็ได้ถูกผู้คนหัวเราะเยาะแล้ว!
เว่ย เทียนเฉิง เคยพูดเอาไว้ในก่อนหน้านี้ว่า ..หลังจากผลออกมาเขาเองก็ต้องการที่จะเห็นการแสดงออกของ หลินฟาน ด้วยตาของเขาเอง..
มาตอนนี้เขาก็ได้เห็นมันจริงๆ แต่ หลินฟาน กลับกลายเป็นผู้ชนะ! มาตอนนี้เขาได้เห็นการแสดงออกของ หลินฟาน แต่เขากลับได้รู้สึกอึดอัดเสียเอง!
“หลินฟาน ไอ้เด็กน้อยอย่างแก มันก็อย่าได้ชะล่าใจไป! ฉันคนนี้ไม่เชื่อหรอกว่าแกมันจะชนะไปได้ตลอด!” เว่ย เทียนเฉิง ได้พูดจาเหม็นเปรี้ยวออกมา ทั้งยังใช้คำพูดเหล่านี้เหยียบย่ำ หลินฟาน.. แต่เมื่อเขาได้คิดไปถึงว่า หลินฟาน ได้ชนะพวกเขามาโดยตลอด.. เว่ย เทียนเฉิง ก็กลับยิ่งรู้สึกหดหู่มากยิ่งขึ้น
เว่ย เจี้ยนเซิง สังเกตเห็นอย่างอื่น และได้พูดไปว่า : “หลินฟาน ได้บอกว่ามีข่าวที่จะประกาศ ผู้ชายคนนี้มันกำลังคิดที่จะทำอะไร?”
หลินฟาน ผู้นี้มีความสามารถในการทรมานคนได้จริงๆ แต่ เว่ย เจี้ยนเซิง กลับมีความรู้สึกเชื่อมั่นเล็กน้อยว่า ครั้งนี้ หลินฟานจะไม่ทําโครงการอะไรที่ทําให้โลกต้องตกใจ ได้อีก ..แล้วมั้ง? ทั้งนี้เขาก็ต้องยอมรับว่า หลินฟาน ได้มีอะไรบางอย่างจริงๆ! จากสีหน้า และท่าทางของ หลินฟาน..
ไม่ว่าจะเป็นการผลิตรถยนต์ หรือชิป หลินฟาน ก็ได้ทำหลายอย่างที่ว่านี้ เพื่อเขย่าโลก หากโครงการของตระกูลเว่ย ได้รับความนิยมเทียบเท่ากับของ หลินฟาน และแม้ว่าจะร้อนแรงเพียงครึ่งเดียวก็ตาม พ่อ และลูกชายอย่างพวกเขา ก็ควรที่จะตื่นขึ้นมา และหัวเราะได้แล้ว..
ในเวลานี้ ได้ยินแต่ หลินฟาน พูดเพียงว่า : “หลายคนไม่ได้มองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับชิปของ เฉาฟาน โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่าข้อสงสัยเหล่านี้นั้น มีเหตุผล ในความเป็นจริงผมต้องยอมรับว่าชิปของ เฉาฟาน ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น และพวกเราเองก็เช่นกัน.. ผมเองก็ต้องขอบอกตามตรงว่าเราเองก็มีความยากลำบาก และปัญหาเป็นของตนเอง”
อะไรนะ?
ชิปที่ว่านี่ มีปัญหา?
หลินฟาน ตั้งใจที่จะเปิดเผยปัญหาที่เกิดขึ้นกับ ชิป ของเฉาฟาน ทั้งยังต้องการเผชิญหน้าต่อหน้าสาธารณะอีก?
สื่อต่างๆ ก็ได้พากันตกตะลึง หลินฟาน กำลังคิดที่จะทำอะไร?
เว่ย เทียนเฉิง ได้ขมวดคิ้ว : “หลินฟาน ไอ้เด็กคนนี้มันคิดที่จะทำอะไร? ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้ที่ เยว่เอ๋อร์ ได้พูดว่ามีปัญหาเกี่ยวกับโรงงานผลิตชิป มันไม่ใช่เรื่องโกหก และทั้งหมด มันก็เป็นแค่ฉัน ..ที่คาดเดาผิด”
เขาคิดไม่ออกจริงๆ หลินฟาน คิดที่จะพูดปัญหาของตัวเองออกไปในที่สาธารณะ แล้วนี่เขาไม่กลัวคนอื่นจะคิดสร้างปัญหาหรือยังไง?
อย่างไรก็ตาม เว่ย เทียนเฉิง ก็ได้มีความคิดนี้อยู่แล้ว ดังนั้นก็มาดูกันว่า ปัญหาที่ หลินฟาน จะพูดถึงนี้มันคืออะไร และเมื่อถึงตอนนั้น เขาก็แค่ทำการเฝ้าดูสถานการณ์ และจะคิดหาช่องทางที่จะทำให้ หลินฟาน ต้องสะดุด!
เว่ย เจี้ยนเซิง กล่าวว่า : “ผมคิดว่า หลินฟาน กำลังคิดที่จะล่องลอยไปเรื่อยๆ เมื่อคนๆ หนึ่งได้ล่องลอยออกไปเรื่อยๆ มันก็มักที่จะตายอย่างง่ายๆ ไม่เป็นไร เราเองก็มารอฟังสิ่งที่เขาจะพูด พอถึงตอนนั้นเราก็แค่จะเพิ่มความยากลําบากให้กับเขาขึ้น.. ไปอีกหน่อย”
เว่ย เจี้ยนเซิง ได้กล่าวออกมา ถึงตอนนั้นเมื่อไหร่ ..ล่ะก็ เขานี่แหละจะชกต่อยมันออกไปแบบไม่ยั้ง!
ผู้คนก็ได้สงสัยมากเช่นกัน ชิปของ เฉาฟาน ได้มีปัญหาอะไร?
“หรือว่าคุณภาพ ชิปของ เฉาฟาน ไม่ดี?”
“มีความเป็นไปได้ อย่างไรเสีย เทคโนโลยีที่ เฉาฟาน ใช้ เราเองก็ไม่รู้!”
“หรือว่า หลินฟาน กลัวว่าปัญหามันจะถูกเปิดเผยออกมาในภายหลัง เลยเลือกที่จะสารภาพออกมาด้วยตัวเอง?”
ทุกคนได้พากันคาดการณ์ และคนส่วนใหญ่ก็ได้คิดไปว่า ชิปของ เฉาฟาน อาจมีปัญหาด้านคุณภาพ ท้ายที่สุดแล้ว เฉาฟาน ก็ได้ใช้เทคโนโลยีใหม่ที่ซึ่งแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงจากทางต่างประเทศ! ทั้งนี้โลกภายนอกก็ไม่มีทางรู้ได้เลย เกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ ที่ว่ามานี้
ทั้งมันก็ยังมีความเป็นไปได้มากที่ความเร็วของการผลิต ชิปของ เฉาฟาน จะแซงหน้า Bay Semiconductor ได้อย่างแน่นอน แต่ในเรื่องคุณภาพของชิป มันก็อาจจะตามไม่ทัน ก็ได้…
เช่นเดียวกับผู้เข้าสอบสองคน ผู้เข้าสอบคนหนึ่งได้ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงในการทํากระดาษคําตอบให้เสร็จ ทั้งยังสอบได้คะแนนเต็ม ส่วนผู้เข้าสอบอีกคนที่ได้ใช้เวลาเพียง 20 นาทีในการทํากระดาษคําตอบให้เสร็จ ความเร็วมีมากเป็นถึงสามเท่าของอีกคน แต่ผลการเรียนดันไม่ผ่าน ดังนั้นกําลังการผลิตที่รวดเร็ว มันก็ไม่ได้หมายความว่า มันจะดี ได้..
เฉิน เหลียง นักข่าวของช่องเศรษฐกิจ และการเงิน ได้กล่าวว่า “คุณหลิน ผมได้เห็นชาวเน็ตหลายคนในห้องถ่ายทอดสด คาดเดากันออกมาว่าสิ่งที่ คุณหลิน กําลังจะพูดถึงคือ ปัญหาด้านคุณภาพของชิป เฉาฟาน แต่เราเองก็ไม่ทราบว่าใช่หรือไม่? แม้ว่ากําลังการผลิตของ เฉาฟาน จะขึ้นแซงหน้า Bay Semiconductor แต่ในด้านคุณภาพของชิป ก็อาจไม่ได้แซงหน้า Bay Semiconductor ได้เลย เรื่องนี้ไม่ทราบว่า?”
“โอ้ มีปัญหาด้านคุณภาพ?” เว่ย เทียนเฉิง ได้ยิ้มอย่างเย็นชา “ถ้าชิปของ หลินฟาน มีปัญหาด้านคุณภาพจริงๆ แผนการเดิมที่เราได้เตรียมเอาไว้มันก็ยังยกกลับมาใช้ได้ แต่มันก็ต้องเปลี่ยนแปลงสักเล็กน้อย!”
เว่ย เจี้ยนเซิง ได้ยิ้ม และพูดว่า “จริงเช่นนั้นครับ คุณพ่อ!”
แต่เมื่อนั้น หลินฟาน ก็กลับส่ายหัว และพูดว่า “สิ่งที่ผมจะพูดไม่ใช่ปัญหาด้านคุณภาพ ทุกคนอย่าได้เข้าใจผิดไป ชิปของเรามีคุณภาพที่ดีมาก สิ่งนี้ก็ได้รับการทดสอบ และได้รับการยอมรับโดยผู้เชี่ยวชาญจากทาง จงเหว่ย โมบาย ทั้งนี้ประสิทธิภาพของชิปของเรานั้น ก็สูงกว่าของซัพพลายเออร์รายอื่นๆ หากทุกคนไม่เชื่อผม โทรศัพท์มือถือระดับไฮเอนด์ ทั้งระดับกลาง และรุ่นต่อๆ ไปของ จงเหว่ย จะเลือกใช้ชิปที่ทางเราผลิต ในเวลานั้นทุกคนจะสามารถรับรู้ถึงมันได้โดยสัญชาตญาณ และจะมีข้อมูลการประเมินโดยละเอียดเกิดขึ้นในเวลานั้นครับ”
หลินฟาน ได้ปฏิเสธทุกการคาดเดาของ ทุกคน!
ชิปของ เฉาฟาน ยอดเยี่ยมกว่าชิปอื่นๆ และไม่ได้มีปัญหาด้านคุณภาพ!
“คุณหลิน ชิปของ เฉาฟาน ที่คุณได้พูดถึงว่า มีปัญหานั้น มันคือปัญหาอะไรกันแน่ครับ?” นักข่าว ได้สอบถาม
หลินฟาน ได้ถอนหายใจ และกล่าวว่า : “ปัญหาของ เฉาฟาน มีอยู่ 2 ประเด็นหลักๆ ประเด็นแรก เนื่องจากเราเป็นช่วงก่อตั้ง ปัจจุบันจึงยังคงขาดแคลนบุคลากรเป็นจํานวนมาก แม้ว่าเราจะพยายามอย่างหนักเพื่อสรรหาบุคลากร แต่บุคลากรที่เหมาะสมยังคงเป็นช่องว่าง โดยเฉพาะบุคลากรด้านการวิจัย และพัฒนา ดังนั้นผมจึงอยากที่จะใช้โอกาสนี้ในการโฆษณาหวังว่าบุคลากรในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องจะสามารถมาที่ เฉาฟาน เซมิคอนดักเตอร์ เพื่อร่วมกันพัฒนาชิปไปด้วยกันได้ ทั้งนี้ไม่ต้องกังวลว่าเราจะไม่สามารถดูแลพวกคุณได้ บริษัทของเราไม่ได้ขาดเงิน แต่ขาดคน…..”
นี่...
หน้าผากของทุกคนได้มีเหงื่อเย็นๆ ไหลออกมา ..อย่างอื่นไม่มีอะไรเลย สมองของทุกคนในตอนนี้ได้สะท้อนกับคำว่า “บริษัทไม่ขาดเงิน”
กลุ่ม หยงจิ่ว ร่ำรวย และมีอำนาจจริงๆ
นึกว่ามันจะเป็นปัญหาอะไรอีก ที่แท้ หลินฟาน ก็เป็นปรมาจารย์ด้านแวร์ซาย เขาอยากที่จะถือโอกาสนี้ ลงโฆษณารับสมัครงาน!
ต้องบอกว่า หลินฟาน มีทักษะที่สูงจริงๆ ทั้งโฆษณานี้ก็ไม่ได้ฟรีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่มันกลับยังส่งผลได้ดีอย่างน่าประหลาดใจ มาตอนนี้ ทุกคนก็ได้รู้แล้วว่า กลุ่ม หยงจิ่ว ได้กำลังโปรยเงินเพื่อรับสมัครคน!
แล้วแบบพวกเขาจะไปเดือดร้อนเรื่องเงินได้ที่ไหนกัน!
ในชั่วขณะหนึ่ง ผู้คนนับไม่ถ้วนก็ได้เริ่มกระสับกระส่ายอยู่ในใจแล้ว และบางคนก็ได้เริ่มกระตือรือร้นที่จะเคลื่อนไหวแล้ว
หลินฟาน ได้กล่าวเสริมว่า : “ที่กล่าวไปก่อนหน้านี้คือ ประเด็นแรก และประเด็นที่สอง แม้ว่ากําลังการผลิตของเราจะสูงกว่าเพื่อนๆ ของเราถึงสามเท่า แต่ด้วยความเร็วที่ว่านี้ มันก็ยังไม่ได้เป็นที่น่าพอใจของเรา เพราะคําสั่งซื้อของเรามีมากขึ้นเรื่อยๆ และด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน ชิปที่เราต้องดำเนินการผลิตในโรงงานมันก็ล้นหลาม และถ้ามันยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป เราก็จะเกิดมีปัญหาที่ว่า ไม่สามารถทํางานให้เสร็จสิ้นตรงตามเวลาได้จริงๆ ซึ่งจะกลายมาเป็นความยากลําบากที่ใหญ่ที่สุดของเรา ในปัจจุบัน..”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทุกคนก็ได้พากันเหงื่อแตกพลั่งๆ หลินฟาน.. นี่เขาได้รู้สึกแย่จริงๆ ใช่ไหม? หลินฟาน คนนี้ เขานี่มันราวกับยกพระราชวังแวร์ซายออกมาได้จริงๆ ไม่งั้นเขาคงไม่เสแสร้งพูดออกมาแบบนี้ ทั้งคำพูดนี้ของ หลินฟาน มันก็ได้สะท้อนความคิดของทุกคนไปในประโยคที่ว่า ‘ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของฉันในตอนนี้ ก็คือ.. มันร้อนแรงเกินไป’.. ในวันต่อมา ทั่วโลกอินเตอร์เน็ตก็มีคำพูดที่มีความคล้ายคลึงกันออกมาเป็นจำนวนมาก…
หลังจากคาดหวังให้ หลินฟาน เปิดเผย เว่ย เทียนเฉิง ซึ่งกำลังรออยู่นั้น เขาก็ได้โกรธจนขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน : “ไอ้เด็กน้อย หลินฟาน หากแกไม่แสร้งทำเป็นบังคับ แกมันจะตายหรือยังไง!”
“สําหรับสถานการณ์ตอนนี้ เราเองก็ได้ตัดสินใจที่จะสร้างโรงงานใหม่ขึ้น และนี่มันก็คือข่าวที่ผมจะประกาศในวันนี้ ทั้งนี้เมืองที่อยู่โดยรอบๆ ก็เป็นเหมือนเป้าหมายสำหรับการสํารวจของเรา เช่น เมืองหางโจว!”
หลินฟาน ได้กล่าวออกมา..
อะไรนะ?
เว่ย เจี้ยนเซิง ได้กระโดดขึ้น : “หลินฟาน กำลังพิจารณาที่จะมาสร้างโรงงานที่ หางโจว?”
ไอ้เด็กน้อย.. หลินฟาน แกได้คิดไหมว่าพวกเรา ตระกูลเว่ย จะปล่อยให้แกทำมันสำเร็จได้!