ตอนที่ 837 ถังเทียนเคลื่อนไหว
เปลวไฟสว่างไสวอยู่ในท้องฟ้ายามราตรีสะท้อนใบหน้าของถังเทียนกระพริบวูบวาบ
หน้าของบุรุษหนุ่มเยือกเย็นเหมือนกับหิน ม่านตาของมีแววเฉยเมย ชิ้นส่วนที่ปลิวกระจายและกระแสอากาศที่ปั่นป่วนทั้งหมดไม่สามารถกระตุ้นอารมณ์ใดๆในตัวเขาได้ สมรภูมิที่ปั่นป่วนไม่มีผลต่อเขาแต่อย่างใด บุรุษหนุ่มผู้อยู่ในสภาวะตื่นรู้ดูเหมือนจะปลีกออกจากอารมณ์ทุกอย่าง แต่ผลักดันสัญชาตญาณต่อสู้นำหน้าให้มากที่สุด
สนารบใหญ่ตกอยู่ในมือของเขา
ซิดนี่ย์คำรามด้วยความโกรธสองครั้งทำให้ถังเทียนสังเกตเห็นเขาได้ทันที
“จี๋เจ๋อ!”
เมื่อได้ยินถังเทียนเรียกจี๋เจ๋อรีบเข้ามาหาอย่างไม่ลังเล
กลุ่มใบมีดสายลมปรากฏอยู่ใต้เท้าจี๋เจ๋อสร้างสิ่งที่ดูเหมือนกับสะพาน สหายที่ใช้กฎธรรมชาติลม 20 คนออกมาพร้อมกัน
จี๋เจ๋อถือดาบพิศวง และเหมือนกับปีศาจเขาก้าวไปบนสะพานดาบสายลมและหายไปในอากาศเบาบาง
ซิดนี่ย์ไม่รู้ตัวว่าเขาเขาตกเป็นเป้าหมายขณะที่สนามรบตกอยู่ในสภาพปั่นป่วน เรือลำเลียงที่เล่นออกมาจากหมอกพิษได้ทุกลำมุ่งหน้ากระจายไปในตำแหน่งต่างๆ และยังทำให้ระยะระหว่างพวกเขาเองกว้างมากขึ้นเรือขนส่งเหมือนกับแมลงวันไร้ศีรษะ ทั้งหมดไม่รู้ว่าจะทำอะไร
เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดที่ทหารจะเข้ามาใกล้กัน
ซิดนี่ย์ไม่ใช่บุรุษที่ไม่มีความสามารถ เขาเป็นคนแรกที่รู้ตัว และตะโกนสุดเสียง “สละเรือ! ทุกคนสละเรือและมารวมตัวกับข้า!”
ทหารทั้งหมดตื่นจากฝัน พวกเขาสละเรือและรีบมาหาซิดนี่ย์ มีทหารสองสามคนที่สติปัญญาไวช่วยตะโกนบอกเช่นกัน “สละเรือ ทุกคนสละเรือและมารวมตัวกับแม่ทัพ! ทุกคนมารวมตัวที่แม่ทัพเดี๋ยวนี้!”
ทหารทุกคนพบแกนนำแล้วก็สงบใจลงได้และเริ่มมุ่งหน้าเข้ามารวมตัวกัน
ซิดนี่ย์สงบใจลงเรือขนส่งเป็นเป้าหมายใหญ่เกินไปและง่ายต่อการถูกโจมตี และเมื่อถูกโจมตี พลังป้องกันของเรือจะอ่อนด้อย พวกมันมีแต่จะถูกทำลาย การโจมตีที่น่าทึ่งของศัตรูทำได้สำเร็จอย่างมิต้องสงสัย แต่พวกเขายังไม่ชนะอย่างเด็ดขาด แม้พวกเขาจะสูญเสียหนัก แต่พวกเขาก็ยังได้เปรียบที่จำนวน
ตราบเท่าที่พวกเขาสามารถจัดรูปกระบวนรบได้ พวกเขาก็มีโอกาสตอบโต้และเอาชนะได้!
ซิดนี่ย์กัดริมฝีปากจากเสียงระเบิดที่กระจายออกมาเป็นครั้งคราวจากกลุ่มคนเปลวเพลิงที่สว่างเจิดจ้าและมีอุณหภูมิที่สูงเป็นเหมือนอสูรร้ายที่น่ากลัวที่คอยกลืนกินทหาร ใบมีดน้ำแข็งเย็นจะกวาดเอาชีวิตของพวกเขาจากความมืดมิด ที่ใดก็ตามที่มีกระแสงูไฟฟ้าหนาแน่นผ่านไปก็จะมีผู้คนล้มตาย
เขาไม่เคยเห็นวิธีโจมตีที่แปลกประหลาดแบบนั้นมาก่อน
ใช่แล้ว, เขาไม่เคยเห็นอะไรแบบนั้นมาก่อน
กองทัพของดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์เน้นที่การประสานพลัง และประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทหารก็คือการสำรองพลังงานขณะเคลื่อนไหวพร้อมกันเป็นกลุ่มและการโจมตีที่พวกเขาสามารถปล่อยออกมาโดยใช้แม่ทัพนายกอง กล่าวอีกนัยหนึ่งเป็นการรวมเอาพลังงานของทหารทั้งหมดเข้าด้วยกันไว้ที่แม่ทัพนายกองทหารและสร้างพลังที่เป็นเอกลักษณ์ที่แข็งแกร่ง
แต่กองทัพที่อยู่ต่อหน้าเขาแหกกฎความรู้ของเขาไปอย่างสิ้นเชิง
เขาตระหนักได้แล้วว่ามีพลังงานที่มีองค์ประกอบแตกต่างกันสองสามอย่างใช้ในการโจมตี ซึ่งมักจะหมายความว่าการโจมตีของทหารลึกลับนี้มาจากทหาร
ถ้าเขาไม่เห็นเองกับตาเขาคงได้หัวเราะเยาะเย้ยกับกลยุทธนั้นแล้ว และเขาคงจะถือว่าเป็นความล้มเหลว โดยไม่ต้องเสริมพลังผ่านการผสานพลัง พลังโจมตีจะอ่อนแอลงมาก และพวกเขาสามารถประสานงานเข้าโจมตีได้แต่ไม่รวมพลังเข้าด้วยกัน
‘คิดไม่ถึงเลยว่าข้าจะพ่ายแพ้จากยุทธวิธีเช่นนั้น’
‘ไม่, ข้าถูกลอบโจมตี ตราบใดที่ข้าตั้งหลักได้ ข้าสามารถพลิกสถานการณ์ได้แน่’ ซิดนี่ย์สงบจิตใจตัวเอง เขายังถือดีว่าได้เปรียบจำนวน ‘ตราบใดที่ข้าไม่สับสน ข้าจะชนะแน่นอน’
ขณะนั้นทหารที่ปกป้องอยู่ด้านหน้าของเขาชะงักค้างทันที
อันตรายที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนคลุมไปทั้งตัวซิดนี่ย์และเขาแทบจะร้องโพล่งออกมา “อ๊า..”
ทหารเริ่มร่วงลงไปทีละคนๆขณะที่ร่างเงาดำปรากฏออกมาจากด้านหลังทหารทันที รังสีดาบที่งดงามและสีแดงฟันใส่พวกเขาจากแง่มุมที่คาดไม่ถึง
ทันใดนั้นทหารสองคนคำรามและพุ่งออกมาข้างหน้าและใช้ร่างชนกับรังสีดาบ
รังสีดาบดูเหมือนจะตัดผ่านร่างทั้งสองเหมือนกับตัดเต้าหู้
ดาบพิศวงดูเหมือนจะกินเลือดของพวกเขา แสงสีแดงมีพลังมากขึ้นรัศมีงดงามเข้มข้นขึ้น ถึงขนาดที่มันเริ่มเปล่งเสียงสั่นสะเทือนในอากาศ ดาบสีแดงเลือดพลันเปลี่ยนเป็นอ่อนนุ่มทันทีกลายเป็นงูโลหิตที่ไร้กระดูกกวาดผ่านร่างทหารและเปลี่ยนเป็นตาข่ายโลหิตพุ่งเข้าหาซิดนี่ย์
เสียงคำรามดังขึ้นไม่จบสิ้นขณะที่ทหารทั้งหมดรอบตัวเขาวิ่งตรงเข้าหาตาข่ายโลหิตอย่างไม่คิดชีวิต
ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ
ตาข่ายโลหิตตัดผ่านทหารเหมือนกับมีดคมกริบในทันทีทำให้ทั่วพื้นที่กลายเป็นฝนโลหิต
แต่ในขณะนั้นเอง ซิดนี่ย์ซ่อนตัวอยู่ในกลุ่มคนขณะที่มีทหารมากขึ้นวิ่งเข้ามาปกป้องแม่ทัพของพวกเขา
จี๋เจ๋อหน้าบิดเบี้ยว โอกาสที่เขาใช้โจมตีล้มเหลวจริงๆทำให้เขาโกรธ เขาแค่นเสียงและเหมือนกับปีศาจร้าย เขาหายไปและปรากฏอีกด้านหนึ่ง ดาบสีเลือดของเขาสว่างวาบและมีสองศีรษะปลิวขึ้นท้องฟ้า
“ป้องกันไว้!”
ซิดนี่ย์กระตุ้น
ในที่สุดการฝึกฝนของกองพลกงล้อก็แสดงผลที่ลงแรงออกมา ทหารมีรัศมีสว่างกันทุกคน ระลอกพลังงานสะท้อนอยู่รอบกระบวนศึกของพวกเขา ซิดนี่ย์หายใจลึกขณะที่ม่านพลังขนาดใหญ่ปกป้องพวกเขา
รังสีดาบแดงงดงามฟันลงบนม่านพลังงาน
แคล้ง!
ม่านพลังงานสั่นสะเทือน แต่มั่นคงได้โดยเร็ว
ซิดนี่ย์ถอนหายใจโล่งอก เป็นครั้งแรกของเขาที่ตั้งแนวป้องกันศัตรูโจมตีได้สำเร็จนับแต่การโจมตีกะทันหัน สิ่งที่ทำให้เขายินดีมากขึ้นก็คือเป็นการยืนยันการคาดเดาของเขากลยุทธแปลกประหลาดของศัตรูคล่องแคล่วและโจมตีสุ่ม แต่ขณะเดียวกัน ยิ่งกระจายกัน เขาเชื่อว่าตอนนี้พวกเขาตั้งขบวนได้แล้วได้เวลาที่ศัตรูจะต้องพ่ายแพ้
ทหารข้างตัวเขาโห่ร้องทุกคน กำลังใจดีขึ้นมาก
“ตั้งขบวนพวกเจ้าให้มั่นคง!” ซิดนี่ย์ตะโกนลั่น “ทุกคน...มารวมตัวรอบข้า!”
ขณะนั้น ซิดนี่ย์เต็มไปด้วยความมั่นใจไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับกองทัพหนึ่งๆจะตกอยู่ในความวุ่นวายหลังจากเผชิญกับการซุ่มโจมตีที่น่ากลัว แต่ตราบใดที่เขาพบที่หยั่งเท้าได้ เขาจะรอดและกองทัพจะไม่ล่มสลาย
ศัตรูแข็งแกร่งทรงพลังกันทุกคน แต่พวกเขามีจุดอ่อนที่ร้ายแรง พวกเขามีจำนวนน้อยเกินไป ในแง่ของจำนวน พวกเขาไม่สามารถป้องกันทหารไม่ให้มารวมกลุ่มได้ ตราบใดที่เขาตั้งหลักและจัดกระบวนทัพได้ ทหารทุกคนที่กลับมาหาเขาจะเพิ่มชัยชนะให้พวกเขาทีละก้าวๆ
เป็นไปตามคาด เมื่อพวกเขาเห็นแม่ทัพของพวกเขาตั้งหลักได้ ทหารกองพลกงล้อที่กำลังจะล่มสลายก็มีกำลังใจสูงขึ้นทันที และพวกเขารีบตรงไปที่ตำแหน่งของซิดนี่ย์ทันที
ถังเทียนยังคงสงบไม่มีความรู้สึก
การโจมตีของจี๋เจ๋อที่ล้มเหลวไม่ได้ทำให้เขาแปลกใจ พลังของจี๋เจ๋อฟื้นคืนมายังไม่เท่ากับฝูเจิ้งจือซึ่งเป็นเพราะกฎธรรมชาติที่พวกเขาฝึก จี๋เจ๋อฝึกในกฎโลหิต และเนื่องจากพลังงานหนาแน่นของดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ เขาจึงไม่สามารถสร้างอิทธิพลต่อเลือดของศัตรูได้ ขณะที่กระบี่พญาเขียวของฝูเจิ้งจือเดินตามแนวกฎอวกาศและพิษซึ่งไม่ได้รับผลจากพลังงานแม้แต่น้อย
แต่เพราะซิดนี่ย์สามารถตั้งหลักได้นั่นทำให้เขาประหลาดใจอีกครั้ง
‘ตามที่ทวีปกวงหมิงคาดไว้แม่ทัพนายกองของพวกเขาจะต้องมีมาตรฐาน’
จี๋เจ๋อโมโหหนัก การโจมตีติดต่อกันของเขาไม่สามารถทำลายกระดองเต่าได้ทำให้เขาโกรธจัด เขาหยิ่งมาแต่กำเนิดด้วยสายตาของที่เล็งจุดมุ่งหมายสูงสุด นอกจากแพ้ถังเทียนแล้ว เขาเคยแพ้มาก่อนเมื่อใดกัน? การถูกศัตรูของเขาข่มเหงทันทีที่เขาก้าวเข้ามาในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์เขาจะทนเรื่องนั้นได้อย่างไร?
นิสัยบ้าระห่ำของเขาเผยตัวออกมา เขาโจมตีอย่างดุเดือด ความเร็วของเขาถึงระดับสุดยอดของเขา ท้องฟ้าเต็มไปด้วยรัศมีดาบสีเลือดปะทะใส่ม่านพลังงานดุจสายฝน
แคล้ง แคล้ง แคล้ง!
เสียงโจมตีดังหนักแน่นทำให้คนรู้สึกฟันชา
หน้าของซิดนี่ย์เปลี่ยน ตาของเขามีแววเหลือเชื่อ ‘พลังส่วนตัวของคนผู้เดียวถึงระดับที่น่ากลัวอย่างนั้นได้ยังไง?’
เป็นเวลาครึ่งนาทีสำหรับการโจมตีดุดันที่ถล่มลงมาเหมือนสายฝน
ร่างของซิดนี่ย์สั่นสะท้าน ทุกๆดาบแสงที่โจมตีลงมาจะทำให้ม่านพลังงานสั่นสะเทือน และส่งผ่านพลังส่วนหนึ่งเข้ามาในร่างของเขา แม้ว่าจะถูกกรองออกไปและพลังที่มาถึงแล้วไม่ถึงกับแข็งแกร่ง แต่ก็ยังมีมากเกินไปอยู่ดี!
แต่เมื่อเขาเห็นว่าจี๋เจ๋อร่างอาบไปด้วยเหงื่อราวกับว่าเพิ่งขึ้นมาจากบ่อหอบหายใจหนักหน่วงขณะจ้องมองเขาอย่างดุร้าย ซิดนี่ย์หัวเราะ
‘ใช่แล้ว!’
‘ต่อให้เจ้าแข็งแกร่ง แต่เจ้าจะต้องหมดแรง เจ้าไม่สามารถทนอยู่ได้นานแน่
และเมื่อเขาสังเกตว่าทหารของเขากำลังหนุนเนื่องเข้ามาเหมือนคลื่นทหารที่ใกล้ที่สุดอยู่ห่างเขา 10 เมตร รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็มีมากขึ้นทุกที
ทันใดนั้นรัศมีแสงที่ให้ความรู้สึกเหมือนดวงอาทิตย์ฉายเข้ามาในสายตาของเขาโดยไม่มีคำเตือน
ที่ตามมาจากนั้นเป็นรังสีแสงที่น่ากลัวครอบคลุมไปทั้งสนามรบเหมือนกับว่าสัตว์ประหลาดดุร้ายที่หลับมาเป็นหมื่นปีถูกปลุกให้ตื่นจากการหลับใหลและลืมตาขึ้น แม้แต่พลังงานในอากาศก็พลันเงียบงันราวกับว่ามันตกใจ
รอยยิ้มค้างอยู่บนใบหน้าซิดนี่ย์ ตลอดทั้งร่างของเขาแข็งชะงักอยู่กับที่ ‘นี่มัน…’
กลุ่มทหารที่กำลังเข้าหาเขาหน้าซีดทันทีทุกคนมองมาทางซิดนี่ย์ด้วยอาการตกตะลึง
เทพอสูรที่ดูเหมือนจะคงอยู่มาตลอดเวลาผ่านเวลามานานปรากฏขึ้นข้างนอกม่านพลังโดยไม่รู้ตัว เกราะสีทองครอบคลุมทั้งตัวเขาแน่นมองเห็นแต่เพียงตาซึ่งเย็นชาดูเหมือนจะหายมานานเป็นพันๆ ปี
แต่สายตาทุกคนจับนิ่งอยู่ที่หมัดที่เขาเงื้อขึ้นราวกับว่ากำลังกำดวงอาทิตย์
บุรุษหนุ่มผู้มองดูเหมือนเทพอสูรคลุมอยู่ในเกราะย่อเอวและยกแขน
เวลาดูเหมือนจะคืบคลานช้าลง ความเคลื่อนไหวของเขาช้าและชัดมากความเคลื่อนไหวที่ตามมาของกำปั้นเขาทำให้พลังงานในอากาศตื่นขึ้นทันทีและทะลักเข้าไปในหมัดถังเทียนอย่างต่อเนื่อง
รังสีหมัดที่สว่างเหมือนดวงอาทิตย์จางลงอย่างเห็นได้ชัด
ซี่ ซี่ ซี่ ราวกับว่ามีงูหมื่นตัวกำลังพุ่งไปข้างหน้าและเสียงเกิดจากการไหลของพลังงานความเร็วสูง หมัดของถังเทียนเหมือนกับหลุมไร้ก้นพลังงานรุนแรงถูกดูดเข้าไปในหมัดของเขาอย่างต่อเนื่องมากขึ้นทุกทีและยิ่งมันสูบพลังมากแสงก็จางลงปลดปล่อยพลังผันผวนที่ทำให้ใจสั่นสะท้าน
หลังจากนั้นสายผิวสีดำผุดขึ้นมาบนรังสีหมัดของถังเทียนดูเหมือนรอยแยกมิติก่อขึ้นนำไปสู่ช่องว่างไม่มีสิ้นสุด
ร่างของบุรุษหนุ่มเป็นเหมือนคันธนูที่ถูกเหนี่ยวสุดล้าเต็มไปด้วยพลังระเบิด
สายตาเยือกเย็นของเขากระพริบแสงเยือกเย็น
เมื่อเขาหายใจออก เหมือนกับสัตว์ร้ายหายใจเสียงกระหึ่มต่ำดังเหมือนฟ้าคำราม
ร่างที่ย่อดูเหมือนจะเต็มไปด้วยพลังพลุกพล่านรุนแรงขณะที่หมัดของเขาจมหายไปอย่างกะทันหัน
แครก...
ม่านพลังงานหนาแตกออกเหมือนกับขนมอบกรอบและหมัดยิงพลังเข้าไปในข้อมือขวาเขา ฉากภาพดูเหมือนถูกแช่แข็ง และบนผิวม่านพลังเทพอสูรผู้น่ากลัวยืนอยู่กับที่พร้อมกับกำปั้นที่ปลดปล่อยออกมา
รอยแยกร้าวสีทองสลับกับสีดำคลุมไปทั้งม่านพลัง