ตอนที่แล้วตอนที่ 833 ข้าทำเช่นนี้เพื่อพวกเจ้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 835 ความลับความคงกระพันของภูตพรายฟ้า  

ตอนที่ 834 ภูตพรายฟ้าบุรุษผมแดง


ร่างของผู้อาวุโสหวีมู่กระพริบวาบและกระแทกหมัดใส่หน้าของลี่เยี่ยน

ความเร็วของเขาเทียบกับเมื่อตอนสู้กับเย่ว์หยางครั้งก่อนเร็วกว่าร้อยเท่า ก่อนหน้านี้ที่เขาอยู่ที่ถนนในเมืองไถ่ถอนเมื่อเขาประลองกับเย่ว์หยาง อย่างน้อยเขาไม่ได้ใช้สมบัติวิเศษและอสูร  ตอนนี้เขาสวมรองเท้าปีกเงิน และมือของเขามีถุงมือเร่งความเร็ว และสิ่งที่สำคัญที่สุดเขามีอสูรมังกรประกายไฟฟ้าอสูรปราณฟ้าระดับห้าซึ่งผสานเข้ากับร่างของเขา ไม่ว่าจะเป็นพลังและความเร็ว ล้วนเพิ่มขึ้นเป็นร้อยเท่าเมื่อเทียบกับตอนที่ประลองกับเย่ว์หยาง!

พลังแข็งแกร่งนี้นับว่าดี แต่ความเร็วที่เกินปกติไปมาก แม้แต่ราชาใจสิงห์ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้

ลี่เยี่ยนถอยหลังไปสองสามก้าวใหญ่

มีเลือดกำเดาไหลอยู่สองสามหยด

นางยั้งตัวไว้ได้

ลี่เยี่ยนใช้มือเช็ดเลือดเบาๆ และใช้ลิ้นแตะเลือดบางส่วน  “ไม่เลว สามารถต่อยหน้าข้าได้ร้อยหมัดในอึดใจเดียว ได้รับรู้ความเร็วของผู้อาวุโสตำหนักนับว่าคุ้มค่า  แต่ว่าพลังเท่ายุงกัดแค่นี้ คิดหรือว่าจะขู่ให้ข้ากลัวจนตายได้?”

ผู้อาวุโสหวีมู่ไม่แสดงอารมณ์ความรู้สึกแต่อย่างใด และเมื่อลี่เยี่ยนกล่าว เขาหายไปอีกครั้ง

เหมือนกับระดมยิงระเบิด เสียงระเบิดดังขึ้นที่หลังศีรษะของลี่เยี่ยน

อย่างไรก็ตามครั้งนี้ผู้อาวุโสหวีมู่ไม่สามารถกลับไปยังตำแหน่งเดิมได้หลังจากโจมตีแล้ว

หมัดของเขาถูกลี่เยี่ยนคว้าไว้ได้

ลี่เยี่ยนไม่ได้หันกลับมามอง

นางเอื้อมมืออ้อมหลังและคว้าข้อมือของผู้อาวุโสหวีมู่ไว้ได้

มือขนาดใหญ่ที่มั่นคงจับข้อมือของหวีมู่ไว้ราวกับคีมหนีบที่มั่นคง ผู้อาวุโสหวีมู่ดิ้นไม่หลุด

“นี่เจ้าคิดว่าข้าจะปล่อยให้เจ้าโจมตีฝ่ายเดียว และข้าไม่มีพลังจะสู้ตอบโต้หรือ?  ลูกไม้เดิมๆ ใช้กับข้าไม่ได้ผล”  ทันทีที่ลี่เยี่ยนพูดจบ เย่ว์หยางได้ยินแล้วถึงกับเอามือเกาศีรษะ เขารู้สึกว่าสำนวนนี้คุ้นหูหรือเปล่า?

หวีมู่เตะใส่หลังของลี่เยี่ยนอีกร้อยเท้า

ลี่เยี่ยนตบใส่ไหล่ของเขาอย่างแรงและบิดหมุนรอบ และกดมือขวาใส่ร่างของหวีมู่จนเขาคุกเข่าลง

ปัง!

ผู้อาวุโสหวีมู่ถูกลี่เยี่ยนฟาดจมลงไปในพื้นลึกหลายสิบเมตร

แค่นี้ยังไม่พอ ลี่เยี่ยนตรวจสอบปราณของหวีมู่ และหวีมู่ตกไปอยู่ในเงื้อมมือยักษ์ของนางอีกครั้ง  ลี่เยี่ยนบีบศีรษะผู้อาวุโสหวีมู่และกดลงกับพื้นอีกครั้ง  ในขณะที่ศีรษะของหวีมู่จมลงไปในพื้น นางย่ำใส่อีกหนึ่งเท้า เสียงกระแทกดังราวกับฟ้าผ่าจนหูอื้อ และทุกคนในที่นั้นได้ยินเสียงกระดูกแตกหัก

ถ้าไม่ใช่เพราะด้านหน้าของลี่เยี่ยนมีนักสู้เพิ่มขึ้นมาอีกคนหนึ่ง ผู้เฒ่าหวีมู่คงไม่สามารถหลีกหนีชะตากรรมเจ็บปวดทรมานที่น่าอนาถได้

แม่ทัพเถี่ยเจี้ยนไม่รู้ว่ามาถึงหน้าลี่เยี่ยนตั้งแต่เมื่อใด

เขาเหยียดมือและยึดมือซ้ายของลี่เยี่ยนที่กำลังโจมตี

เมื่อเห็นหัวหน้าลี่เยี่ยนลงมือ คนกลุ่มหนึ่งกระจายไปทุกทิศทันที ยกเว้นมารสัมฤทธิ์ฟ้าและจักรพรรดิมังกร  ทุกคนกระจายกำลังกันโดยรอบมองดูฝ่ายตรงข้ามและเตรียมพร้อมสู้และกวาดล้างผู้ต่อต้านยึดป้อมชมดาว  ราชาใจสิงห์ยังไม่ขยับ ยืนมองโดยไม่แสดงความรู้สึกขณะที่เจ้าเมืองเฉียนหู่ยืนตัวสั่นอยู่ที่มุมอาคารด้านหนึ่ง

มารสัมฤทธิ์ฟ้าและจักรพรรดิมังกรเลือกสู้กับบัณฑิตเฒ่าหนานเป่ยไปโดยปริยาย

ขณะที่เย่ว์หยางยังคงมองดูภูตพรายฟ้าบุรุษผมแดงซึ่งนั่งอยู่กับที่กลางห้อง เขาหันควับไปที่ไป่ลู่ทันที  “เจ้าจะยืนเซ่ออยู่ทำไม,  รีบไปห้องคลังสมบัติ ไปดูว่ามีอะไรพอจะขนไปได้บ้าง”

ไป่ลู่เมื่อได้ยินนางรู้สึกอึดอัดใจ

ก่อนที่เขาจะพูดอีกครั้ง  ไม่มีใครพูด  ทุกคนไม่ยอมให้มีการเคลื่อนไหว

โดยเฉพาะผู้ที่มีพลังฝีมือด้อย ควรไปยืนด้านหลังและได้รับการคุ้มกันมากกว่า  ตอนนี้เขาเริ่มบ่นว่าคนของเขาเคลื่อนไหวไม่รวดเร็วพอ... นางแทบไม่มีเวลาคิด ขณะที่นางเห็นเจ้าเมืองโล่วฮัวบินเข้าไปในโถงภายใน นางติดตามไปอย่างรวดเร็วทันที  เย่ว์หยางเห็นพวกนางออกไปก็ลอบโล่งใจ  ด้วยพลังสาวๆ เหล่านี้อาจถูกลอบทำร้ายโดยไม่รู้ตัวในเสี้ยววินาทีได้

ราชาใจสิงห์เบนสายตาไปมองระหว่างเย่ว์หยางและภูตพรายฟ้า  การต่อสู้ระหว่างลี่เยี่ยนและแม่ทัพเถี่ยนเจี้ยน  มารสัมฤทธิ์ฟ้า จักรพรรดิมังกรและหนานเป่ยชั่วขณะหนึ่ง

เขารู้ว่า ตัวตัดสินผลการต่อสู้ทั้งหมด

ก็คือสองคนนี้

ปัง!

แม่ทัพเถี่ยเจี้ยนจับหมัดของลี่เยี่ยนได้แต่โดนนางเตะใส่จนปลิวกระเด็นออกนอกประตูป้อม

ขณะที่พวกเขาต่อสู้กันอย่างหนัก

ผู้อาวุโสหวีมู่รีบโผล่ออกมาจากพื้น

“กลิ้งลงไป” ลี่เยี่ยนจับคอของหวีมู่และไถไปกับพื้นจนกระทั่งกระแทกกำแพงใหญ่ระเบิดเป็นชิ้น  ขณะที่แม่ทัพเถี่ยเจี้ยนไล่โจมตีลี่เยี่ยนอย่างสับสน เขาถูกลี่เยี่ยนหมุนตัวเตะเข้าที่ปลายคาง

ถ้าไม่ได้การฝึกฝนที่ประตูเป็นตายและในบันไดสวรรค์  ลี่เยี่ยนคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของแม่ทัพเถี่ยเจี้ยนแน่นอน

ตอนนี้ฝีมือของลี่เยี่ยนแตกต่างจากครั้งก่อน

ในอีกด้านหนึ่งการต่อสู้ยิ่งรุนแรงมากขึ้นทุกที ด้วยพลังของบัณฑิตหนานเป่ยซึ่งมีพลังปราณฟ้าระดับห้าชั้นสูงกลับถูกมารสัมฤทธิ์ที่มีพลังปราณฟ้าระดับสี่และจักรพรรดิมังกรที่มีพลังปราณฟ้าระดับสามไล่กดดัน

การต่อสู้ครั้งนี้ไม่เพียงทำให้ราชาใจสิงห์ตะลึงเท่านั้น แม้แต่บุรุษผมแดงภูตพรายฟ้าก็ยังรู้สึกคาดไม่ถึงอย่างมาก

ถ้ามารสัมฤทธิ์ฟ้าและจักรพรรดิมังกรมีสมบัติวิเศษและอสูรศึกที่แข็งแกร่ง นั่นยังไม่เท่าใด

แต่นี่พวกเขาไม่มี

เป็นเพราะฝีมือการต่อสู้ของพวกเขาเข้าใจได้ยาก และวิทยายุทธที่ลึกล้ำ หนานเป่ยได้แต่ถอยร่นไม่สามารถตั้งรับและโจมตีตอบโต้ได้

นักสู้สองคนที่มีระดับพลังต่ำกว่า ไม่เกรงกลัวหนานเป่ยที่มีระดับพลังและแรงกดดันที่สูงกว่า..ตรงจุดนี้ ถ้าภูตพรายฟ้าและราชาใจสิงห์รู้ว่าเย่ว์หยางใช้ผู้อาวุโสตำหนักกลางสามคนมาใช้ฝึกฝนมารสัมฤทธิ์ฟ้าและจักรพรรดิมังกร ก็คงไม่แปลกใจ  มารสัมฤทธิ์ฟ้าและจักรพรรดิมังกรสู้กับผู้อาวุโสตำหนักมาอย่างหนักแทบกระอักเลือด และสร้างความกลัวไปทุกที่

“วิเศษจริงๆ, คุณชายสาม เจ้ายังอายุเยาว์แท้ๆ แต่คิดจริงๆ หรือว่าแค่นี้จะเอาชนะข้าได้?”  ภูตพรายฟ้ายังคงนั่งนิ่งอยู่บนบัลลังก์”

“แล้วไม่ได้หรือไงเล่า?” เย่ว์หยางแกล้งถามอย่างมึนงง

“ฮ่าฮ่า, ราชาใจสิงห์!  เจ้าต้องการเดิมพันกับข้าไหมเล่า?”  ภูตพรายฟ้าจู่ๆ ก็มองไปทางราชาใจสิงห์

“เดิมพันสิ่งใด?”  ราชาใจสิงห์ถาม

“ข้าเดิมพันกับเจ้า ภายในสิบกระบวนท่า ข้าสามารถฆ่าคุณชายสามที่เจ้าชื่นชอบได้”  ภูตพรายฟ้าพูดด้วยความมั่นใจทันที แต่รอยยิ้มของเขาประกอบรอยบาดแผลทำให้ดูน่ากลัว

“การพนันแม้จะไม่ใช่เรื่องโปรดของข้าซือซิน  แต่บอกตามตรง การพนันเล็กๆ น้อยๆ ก็น่าสนุกอยู่เหมือนกัน!”  ราชาใจสิงห์หัวเราะ เหมือนกับว่าเขาไม่ได้ยินคำพูดของภูตพรายฟ้า  เขาหันไปมองเย่ว์หยาง  “คุณชายสาม, ข้าซือซินอึดอัดรุ่มร้อน เจ้าจะไม่ช่วยข้าระบายหน่อยเลยหรือ?”

“ข้าจะพนันกับเจ้าก็ได้ ภายในสิบท่า ข้าจะเอาศีรษะเจ้ามาให้ได้”  เย่ว์หยางร่วมสนุกด้วย

“....” ราชาใจสิงห์อยากจะบอกว่านี่เป็นไปไม่ได้  แต่ในที่สุดเขาอดกลั้นไว้ ไม่บอกว่าสิบกระบวนท่าฆ่าภูตพรายฟ้านี่มันเรื่องตลกไม่ใช่หรือ?  ภูตพรายฟ้ามีชื่อมากว่าหมื่นปีแล้ว ในอดีตเขาได้ฆ่ายอดฝีมือของกองกำลังเฟ่ยเหวินหลีนับสิบคนในสมรภูมิเลือดด้วย?

ภูตพรายฟ้าเมื่อได้ยิน ก็หัวเราะลั่นและปรบมือ

ที่ด้านนอกประตูใหญ่แม่ทัพเถี่ยเจี้ยนเอามือกุมคางและยืนขึ้น ด้วยพลังเตะของลี่เยี่ยนทำให้ปากของเขาสั่นคลอน  แต่เขายังมีความมั่นใจว่าจะเอาชนะลี่เยี่ยนผู้ขึ้นชื่อในเรื่องความกล้าหาญได้

แม่ทัพเถี่ยเจี้ยนฉีกผ้าคลุมไหล่ด้านหลังออกและตวาดลั่น “ถ้าเจ้าคิดว่าข้าเถี่ยเจี้ยนมีพลังแค่ปราณฟ้าระดับห้า อย่างนั้นเจ้าคิดผิด!”

พลังปราณที่รุนแรงของเขาระเบิดออกทำให้พื้นที่สั่นสะเทือนไปทั่ว

แม่ทัพใหญ่เถี่ยเจี้ยนสมกับชื่อบุรุษเหล็กจริงๆ พลังของเขาคือปราณฟ้าระดับห้า!  ภายใต้การเสริมกำลังทั้งสามส่วนคืออสูรปราณฟ้า สมบัติวิเศษและทักษะแฝงเร้น เขาสามารถทะลุขีดจำกัดสะท้านฟ้าสะเทือนดินได้  ด้านหลังของป้อมชมดาวพื้นสั่นสะเทือนและมีรอยแตกร้ายเหมือนกับใยแมงมุมแตกออกมาจากพื้น ทั้งหินและฝุ่นภายใต้รอยแยกพุ่งขึ้นท้องฟ้า

คลุมไปทั้งฟ้าและดิน

ท้องฟ้าที่แต่เดิมปกคลุมไปด้วยดวงดาวกลับมืดมิดมองไม่เห็นแม้แต่นิ้ว

ในท่ามกลางความมืดมิด หวีมู่สามารถใช้ทักษะแฝงเร้นพลังหนืด ใช้พลังงานสร้างสนามพลังวงกลมคลุมรอบพื้นที่

เว้นแต่หวีมู่ผู้เดียว คนอื่นที่ติดอยู่ในสนามพลังนี้จะได้รับผลกระทบ ความเร็วลดน้อยลงไปมาก และแม้แต่พลังในร่างกายก็เฉื่อยชาลง ในที่สุดก็ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้หายใจอย่างลำบากและจมอยู่ในความตาย

“ดีล่ะ, ถึงเวลาส่งเจ้าสู่เส้นทางปรภพได้แล้ว!” แม่ทัพเถี่ยเจี้ยนมองดูลี่เยี่ยนติดอยู่ในสนามพลังหนืดของผู้อาวุโสหวีมู่ เขาเร่งพลังเต็มที่

และปล่อยหมัดสังหาร

ลำแสงพลังงานระเบิดจากข้างหน้าหมัดของแม่ทัพเถี่ยเจี้ยน

กระแทกใส่หน้าของลี่เยี่ยน...แฝงด้วยพลังทำลายล้าง ลี่เยี่ยนกระเด็นไปตกกระแทกพื้นในสนามพลังไม่ตอบสนองอยู่นาน เหมือนกับว่าถูกฆ่าโดยตรง

แม่ทัพเถี่ยเจี้ยนยืนอยู่บนปากหลุม เขาสงสัยเล็กน้อยว่า ลี่เยี่ยนที่สืบทอดเลือดมังกรจะตายง่ายๆ เชียวหรือ?

หวีมู่ก็มีท่าทีเหมือนกับเถี่ยเจี้ยน เพราะภายในสนามพลังของเขาไม่รู้สึกถึงสิ่งมีชีวิตใดๆ อีกต่อไป

ขณะแม่ทัพเถี่ยเจี้ยนหันหลังกลับเตรียมเข้าไปในป้อมชมดาว กลับมีร่างหนึ่งปรากฏอยู่ข้างหลังของเขาเงียบๆ รอให้เถี่ยเจี้ยนหันหน้าไปเจอ และเขาพบว่าเป็นสาวยักษ์ลี่เยี่ยนอยู่ข้างหน้าเขาโดยไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด  เป็นไปได้ยังไง? ม่านตาของเถี่ยเจี้ยนหดลีบ? เห็นได้ชัดว่าเขาใช้พลังที่แข็งแกร่งที่สุดไปแล้วเป็นพลังที่สามารถทำลายล้างโลกได้ และฝ่ายตรงข้ามไม่เป็นอะไรได้ยังไง?   เขาไม่เข้าใจแม้แต่น้อย  แน่นอนปฏิกิริยาแรกของเขาไม่ใช่หาสาเหตุ แต่ต้องหลบให้ได้ก่อน  ลี่เยี่ยนให้ความรู้สึกเหมือนกับว่ามีเงาความตายอยู่ข้างหน้ากดทับหัวใจเขา ทำให้เขาต้องหลบหลีกโดยไม่รู้ตัว

เผียะ

มือขนาดใหญ่ของลี่เยี่ยนกดไหล่ของเถี่ยเจี้ยนไว้

นางยิ้มจนเห็นฟันขาว “ถ้าเจ้าคิดว่าพลังปราณฟ้าระดับหกจะทำให้เจ้าเชิดหน้าไม่เห็นใครอยู่ในสายตาได้ อย่างนั้นเจ้าก็เข้าใจผิดแล้ว!  บอกกับเจ้าก็ได้ข้าเองก็มีพลังปราณฟ้าระดับหก ทั้งยังเข้าใจพลังปราณราชันย์ระดับหก มีทั้งพลังทักษะแฝงเร้นและสนามพลังของตนเอง เจ้ามีได้ และข้ามีบ้างไม่ได้หรือ?”

ลี่เยี่ยนปลดปล่อยพลังในตัวนางทันทีและพลังแรงระเบิดยังน่ากลัวมากกว่าภูเขาไฟพันลูกระเบิด

ผู้อาวุโสหวีมู่พบว่าสนามพลังของเขาถูกระเบิดกระจายหายไปทันที

พลังหนืดถูกพลังเผาผลาญหายไป

ในท้องฟ้ามีมังกรพลังหยินตัวหนึ่ง

ภาพมายามังกรทองดึกดำบรรพ์ขนาดยักษ์ขนาดเกือบหนึ่งกิโลเมตรส่องรัศมีเจิดจ้า

ร่างของสาวยักษ์มีเพลิงลวดลายมังกรโดยเฉพาะอย่างยิ่งแขนที่ทรงพลังของลี่เยี่ยนปกคลุมไปด้วยลวดลายมังกร

ลี่เยี่ยนค่อยๆ ยกมือขวาและบิดศีรษะของแม่ทัพเถี่ยเจี้ยนราวกับบิดลูกแตงโม  ขณะที่บิดศีรษะของเขา หน้าของแม่ทัพเถี่ยเจี้ยนยังคงแสดงอาการหวาดผวา  ดูเหมือนลี่เยี่ยนจะไม่สนใจคำร้องว่า “ไม่” นางโยนศีรษะของเขาไปที่ผู้อาวุโสหวีมู่

ผู้อาวุโสหวีมู่ไม่กล้ามองต่อ และศีรษะของเถี่ยเจี้ยนกลิ้งมาถึงที่เท้าของเขา

ขณะที่ลี่เยี่ยนกำลังเดินเข้าหา เขาหันหลังและวิ่งหนีด้วยความเร็วสุดชีวิต

เขาต้องการหนีไปหาภูตพรายฟ้า

เพราะด้วยพลังของเขาเป็นไปไม่ได้ที่จะสู้กับลี่เยี่ยนในตอนนี้

ลี่เยี่ยนเดินตามหลังมาช้าๆ  จนกระทั่งผู้อาวุโสหวีมู่ผ่านคนของป้อมชมดาว ผ่านเย่ว์หยางหนีไปอยู่ต่อหน้าภูตพรายฟ้า ถ้าจะไล่ให้ทันผู้อาวุโสหวีมู่ต้องเร่งความเร็วถึงพันเท่า

ปรากฏว่ามีมือขนาดใหญ่ข้างหนึ่งคว้าศีรษะของหวีมู่เอาไว้

ภายใต้สายตาของภูตพรายฟ้า ศีรษะของหวีมู่ถูกบีบจนแหลกเละกะโหลกกระจายโดยตรง

“น่าสนุกขึ้นมาบ้าง” ภูตพรายฟ้ายังนั่งอยู่บนบัลลังก์ไม่แสดงอารมณ์ทางสีหน้า  เขาปรบมือชื่นชมอย่างสบายๆ และพยายามเกลี้ยกล่อมลี่เยี่ยนให้ยอมแพ้  “ถ้าเจ้ายอมจำนนเสียแต่โดยดี ข้าจะไม่สืบสาวหาความผิดของเจ้า ทั้งจะมอบตำแหน่งของหวีมู่ให้กับเจ้า และแต่งตั้งเจ้าเป็นผู้อาวุโสลงทัณฑ์ เจ้าจะว่ายังไง? สามารถเข้าถึงปณิธานราชันย์ได้นับว่าหาได้ยากมาก ข้าไม่อยากทำลายคนที่มีพรสวรรค์อย่างนี้”

“ถามหมัดข้าก่อนแล้วค่อยเจรจากันอีกครั้ง!”  ลี่เยี่ยนปล่อยหมัด มังกรโบราณพลังหยินคำรามกึกก้องไปทั่วป้อมชมดาว หมัดมังกรของนางพุ่งโจมตีใส่ภูตพรายฟ้า

ครืนนนนนน...

ผลของพลังหมัดสังหารพอลี่เยี่ยนเริ่มใช้ ราชาใจสิงห์ที่ต่อสู้อยู่ด้านข้างถึงกับตกตะลึง

เพราะภูตพรายฟ้าใช้เพียงนิ้วชี้มือซ้ายก็สามารถปัดพลังหมัดที่หนักหน่วงของลี่เยี่ยนได้

ดูเขาผ่อนคลายสบายๆ

ไม่ได้ใช้พลังแต่อย่างใด

คนในพื้นที่ทั้งหมดยกเว้นเย่ว์หยางไม่มีใครสงบใจได้เลย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด