ตอนที่ 831 ความหวัง ความพยายาม
“เขาแค่เหนื่อยหน่าย” ราชินีไท่หลุนถอนหายใจเบาๆ
“อะไรนะ?” เจ้าเมืองเฉียนหู่ตะลึง
“ความจริงข้ากับเขา เราทั้งคู่หลบหนีมาจากคุกจางเหิน ข้าชื่อว่าควงฮัว มาจากแดนทมิฬ” ขณะราชินีกล่าวเย่ว์หยางยังคงสงบ แต่เจ้าเมืองเฉียนหู่สะดุ้งตกใจ ควงฮัวเป็นใคร? หมื่นปีที่แล้วแดนสวรรค์มีนางโจรที่บ้าคลั่งที่สุด หัวหน้าลี่เยี่ยนในตอนนี้มิอาจเทียบได้กับนาง! ควงฮัวได้บุกรุกรานดินแดนของยอดฝีมือระดับราชาหลายอาณาจักร ผู้คุมกฎถานไถและบริวารที่ทรงพลังที่สุดอย่างภูตพรายฟ้า และปีศาจฟ้าต้องผนึกกำลังกันสู้กับนางสามวันสามคืนและคร่ากุมนางได้สำเร็จ
ควงฮัวยังไม่เป็นที่รู้จักกันในช่วงแรกๆ นางเป็นสตรีที่รักสงบไม่ชอบสู้ เป็นทหารรับจ้างหญิงที่เดินทางไปทั่ว
ต่อมาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
นางกลายเป็นนางโจร
ปล้นชิงไปทั่ว
เพราะนางพญาเฟ่ยเหวินหลีพิชิตไปทั่วแดนสวรรค์ คุกคามต่อตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ มีการเชิญวีรบุรุษและวีรสตรีที่โดดเด่นและจอมภพจากแดนตะวันตก ตะวันออก ใต้และเหนือ นางรวบรวมแดนสวรรค์ใต้ทั้งหมดและจักรพรรดิครองดินแดนทั้งหมดรวมกันกับแดนสวรรค์ตะวันตกและประลองกับพวกนักสู้ระดับสูงประจำดินแดน จึงทำให้แนวหลังของพื้นที่ส่วนใหญ่ว่างเปล่า นักสู้หลายคนฉวยโอกาสลุกฮือ โดยเฉพาะนักสู้ระดับจักรพรรดิที่ตายไปในการต่อสู้ ทำให้นักสู้จำนวนมากแข่งขันกันเพื่อจะยึดดินแดนพวกเขา
กลุ่มโจรควงฮัวคือกลุ่มโจรป่าปล้นสะดมภ์ที่ไม่มีความคิดเข้าใจในสถานที่
พวกเขาปล้นเมือง ชิงทรัพยากรแม้แต่นักสู้ระดับราชาก็ยังมิอาจปราบปรามได้
จนกระทั่งนางพญาเฟ่ยเหวินหลีถูกผนึก และผู้ยิ่งใหญ่ประจำท้องถิ่นกลับมา จักรพรรดิประจำดินแดนเริ่มกลับมาปกครองดินแดนอีกครั้ง และตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ส่งกองทัพออกไปปราบปรามและสงบศึกในแดนสวรรค์
ส่วนราชาไท่หลุน ถ้าเขามาจากแดนทมิฬ...
เจ้าเมืองเฉียนหู่ลอบสั่นสะท้านและรู้สึกว่ามีเรื่องบางอย่างที่เขาไม่ควรรู้ แน่นอนว่ารู้ไปย่อมไม่ใช่เรื่องดี
เขารีบถอยกลับไปหาเย่ว์หยางอย่างรวดเร็ว ความลับบางอย่างไม่ควรรู้ ยิ่งรู้น้อยก็ยิ่งปลอดภัย
“ไท่หลุนไม่ได้ชื่อว่าไท่หลุน เขาเป็นผู้ลี้ภัยหนีออกมาจากแดนทมิฬ เขาแค่หนีมายังอาณาจักรไท่หลุนและพบกับข้าก่อนใช้ชื่อเป็นไท่หลุน ข้าพบเขาและเรารักกัน เผ่าพันธุ์และแนวคิดไม่สามารถหยุดความรักเราได้ อย่างไรก็ตามเราทั้งสองคนล้วนประสบชะตากรรมเป็นคนที่ถูกโลกทอดทิ้ง ข้าเป็นลูกสาวของนักโทษในเรือนจำจางเหินที่ถูกกล่าวหาใส่ร้ายอย่างไม่เป็นธรรม เพราะต้องปกป้องสมาชิกของครอบครัวไม่ให้ถูกฆ่าล้างครอบครัว จึงต้องหนี แต่ไท่หลุนไม่พูดอะไร เขาเป็นนักรบแดนทมิฬเกิดมาเพื่อเป็นนักโทษ แม้ว่าจะประสบความสำเร็จหนีออกจากแดนทมิฬได้ แต่เขาเป็นเหมือนหนูที่ไม่สามารถเห็นแสงสว่างได้ตลอดชีวิต” ราชินีไท่หลุนมีประกายตารำลึก
“อย่างนั้นท่านก็เป็นคนก่อตั้งกองโจรบุปผาคลั่งหรือ?” ลี่เยี่ยนถาม
“ไม่, คนอย่างพวกเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะไม่มีคนสนใจเรา แล้วข้าจะตั้งกลุ่มกองโจรได้อย่างไร นั่นเป็นคำขอของถานไถถูเมี่ย หรือบางทีอาจเป็นคำขอของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์” ราชินีตอบคำถามที่ทำให้ลี่เยี่ยนและไป่ลู่ประหลาดใจ
“ถานไถถูเมี่ยจับท่านได้เมื่อไหร่?” ไป่ลู่ประหลาดใจ ถานไถถูเมี่ยต้องการสร้างกองโจรบุปผาคลั่งเพื่ออะไร?
“เขาพบว่าเรารักกันมาปีหนึ่งหรือราวๆ นั้น ขณะนั้นข้ากำลังตั้งครรภ์ ถานไถถูเมี่ยพาภูตพรายฟ้าและปีศาจฟ้ามาปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าเรา เป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะต่อต้านเขาต่อหน้าตรงๆ เป็นเรื่องสิ้นหวังอย่างสิ้นเชิง เขาจับเราขังในคุกจางเหิน และจากนั้นเมื่อเด็กเกิด เขาพรากลูกไปจากเรา เราไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากเชื่อฟังคำสั่งเขาก่อตั้งกองโจรบุปผาคลั่งและปล้นสะดมไปทุกที่ เนื่องจากเรามอบสิ่งของที่ปล้นมาให้กับเขา และจริงๆ แล้วเราไม่ใช่คนพวกแรกที่ถูกเขาคุกคาม ทั้งไม่ใช่คนสุดท้าย ตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์รับเอาทรัพยากรมามากมายเพื่อควบคุมแดนสวรรค์ และเพื่อรักษาภาพลักษณ์ให้ดูดี ด้วยรูปแบบจัดตั้งกลุ่มกองโจรนับไม่ถ้วน พวกเขาได้ครอบครองเมือง ดินแดนในแดนสวรรค์นับไม่ถ้วนแล้วในตอนนี้ ดินแดนเกือบทั้งหมดที่ไม่ถูกโจมตีก็คือดินแดนที่ตกอยู่ในความควบคุมของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ เว้นแต่เขตปกครองของจักรพรรดิหรือจอมภพผู้ยิ่งใหญ่ หรือสถานที่อย่างที่ปกครองโดยนักสู้ปราณฟ้าระดับราชา ตราบใดที่ไม่ได้ตกอยู่ในความควบคุมดูแลของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ พวกผู้ปกครองจะไม่ยอมอยู่ในบังคับของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ หลังจากนั้นจะตกกลายเป็นเป้าโจมตี ราชินีไท่หลุนได้บอกความลับที่คนทั่วไปรู้กันน้อยมาก
“อย่างนั้นบิดาของข้าก็ถูกฆ่าเพราะเรื่องนี้เอง...” ไป่ลู่ร้องขึ้น ตอนนี้นางตระหนักรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น
“ถูกแล้ว เท่าที่ข้ารู้ กลุ่มโจรตัวตลกก็เป็นหนึ่งในหมากในมือของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์” เย่ว์หยางพบเหตุผลที่เสี่ยวโฉ่วสามารถอยู่ได้ทั้งแดนสวรรค์ตะวันตกและแดนสวรรค์ใต้ นั่นต้องเป็นเพราะการสนับสนุนจากคนของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์
กลุ่มโจรตัวตลกเป็นกลุ่มทำลายล้างอย่างแท้จริง แต่ไม่เคยปักหลักอยู่ในเมือง
แต่พวกเขาก็ปล้นสิ่งของในทุกเมือง
ถ้าไม่ใช่เพราะเบื้องหลังมีสัมพันธ์แน่นหนากับตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาคงถูกนักรบระดับราชากำจัดไปแล้ว
ตรงกันข้ามกับความจริง ราชาใจสิงห์ที่แทบอยู่ในระดับจักรพรรดิ เกี่ยวกับโจรตัวตลกดูเหมือนชื่นชอบเป็นพิเศษ ถ้าไม่ใช่เพราะตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์รับรอง จะให้ราชาใจสิงห์ร่วมมือกับกลุ่มโจรตัวตลกได้นั้นเป็นไปไม่ได้เลย! แน่นอนว่าเสี่ยวโฉ่วก็เข้าใจหลายอย่าง ดูเหมือนว่ายังไม่เพียงพอจะก่อกวนแดนสวรรค์ ที่แท้ตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ใช้กลุ่มโจรตัวตลกโดยมีจุดมุ่งหมายอยู่ที่หอทงเทียน ไม่ทราบว่าจักรพรรดิอวี้ในอดีตก่อสงครามกับสามจอมภพแดนสวรรค์ตะวันตก จะต้องมีความเกี่ยวข้องกับเสี่ยวโฉ่วเป็นแน่
ดูเหมือนว่าเขาจะต้องตามหาเฉียนเย่และเทียนหลุนและนักสู้หอทงเทียนรุ่นเก่าก่อนเพื่อหาความจริงเพิ่มเติม
หลังจากนั้นราชินีไท่หลุนพยักหน้ายืนยันกับเย่ว์หยาง
นางมองดูไป่ลู่ “เรื่องของบิดาเจ้า ข้าเคยได้ยินมา กล่าวกันว่าเขาถูกลงโทษเพราะแหล่งสมบัติที่บิดาของเจ้าได้มานั้นไม่ใช่ของดีที่สุด เขาควรจะมอบสมบัติดีๆ ออกมา ตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์แจ้งให้เขาทราบ แต่เขาปฏิเสธจะส่งออกมาและในที่สุดก็มีคนก่อกบฏ และสหายทอดทิ้งเขา”
ไป่ลู่ตกใจ “แต่ข้าไม่เคยได้ยินว่าบิดาข้ามีสมบัติพิเศษอะไร!”
“ถ้าเจ้ารู้ ข้าเกรงว่าเจ้าไม่ตายก็คงกลายเป็นขอทาน” หลังจากนั้นราชินีไท่หลุนก็ส่ายหน้าและถอนหายใจ เรื่องบางเรื่องในโลกนี้ เจ้ารู้ไปก็กลายเป็นหายนะ เจ้าไม่รู้อะไรเลยนั่นยังนับว่าเป็นโชคดี”
“ท่านกับราชาไท่หลุนถูกจับ ก็ควรจะถูกคุมขังไว้ที่จางเหิน ต่อมากลายเป็นว่าราชาไท่หลุน กลับถูกกล่าวหาร้องเรียน... ถานไถถูเมี่ยจะทำอะไรกันแน่?” ไป่ลู่รู้สึกตัว ถ้ามีความปรารถนาดีจึงจับราชาและราชินีไท่หลุนก็หมายความว่าภูตพรายฟ้าและปีศาจฟ้าดำเนินการจับกุมได้ นั่นเป็นเรื่องปกติ แต่พวกเขาจะกลายเป็นราชาของกลุ่มได้อย่างไร?
“ถูกแล้ว” ราชินีไท่หลุนพยักหน้า “เพราะมีมือพวกเขาค้ำคอไว้ เราจึงฟังพวกเขา กลายเป็นราชาในแดนสวรรค์ใต้ ควบคุมดินแดนต่างๆ และรวบรวมเหล่งทรัพยากรให้พวกเขาเป็นเวลาหลายปี ขณะที่พวกเขาปฏิบัติต่ออาสาสมัครอย่างใจดี แต่เราซึ่งมีคดีติดตัวค่อยรู้สึกสบายใจขึ้นบ้างเล็กน้อย
“เป็นไปได้ไหมที่จะกำจัดการควบคุมนี้และช่วยเหลือลูกของท่านออกมา?” ลี่เยี่ยนถาม
“พ่อหนุ่ม! เจ้าคิดว่ายังไง?” ราชินีไท่หลุนถามเย่ว์หยาง
“ไม่, เป็นไปไม่ได้” เย่ว์หยางรู้ว่าหลายสิ่งหลายอย่างไม่ง่ายอย่างนั้น คนอย่างราชาและราชินีไท่หลุนไม่ได้ถูกควบคุมไว้เพราะลูกเป็นประกันแน่นอน
“ความจริงในปีนั้นลูกของเราตายไปแล้ว” ราชินีถอนหายใจและเอามือปิดหน้า นี่เป็นเรื่องเศร้าของนางแน่นอน
“อย่างนั้นทำไมราชาไท่หลุนถึงต้องยอมรับคำสั่งพวกเขา?” ลี่เยี่ยนไม่เข้าใจ
“เพราะสิ่งเดียว นั่นคือความหวัง” นัยน์ตาของราชินีไท่หลุนเหมือนมีหมอกกั้น
ใช่แล้ว เรายังมีหวัง
คำนี้ทำให้ลี่เยี่ยนและไป่ลู่ประหลาดใจตกตะลึง
ถ้าเย่ว์หยางคิด เขาจะเข้าใจราชินีเพิ่มขึ้นเล็กน้อยว่าหมายถึงแดนทมิฬ ราชาไท่หลุนเป็นนักโทษที่หนีออกมาจากแดนทมิฬ ถ้าเขาตายไป ชาวแดนทมิฬจะหมดหวังอย่างสิ้นเชิง เพราะการหนีออกมาได้นี้ ไม่ทราบว่าชาวแดนทมิฬจะต้องเสียสละชีวิตไปมากน้อยเท่าใด เพราะฉะนั้นราชาไท่หลุนจึงต้องมีชีวิตต่อไป
ทำไมจู่ๆ เขาก็ไม่เต็มใจร่วมมือทำงานกับตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์? หรือว่าตอนนี้เขาพยายามอย่างเต็มที่? ควรจะรู้ว่าคนในกลุ่มจะต้องเผชิญอันตรายอย่างสมบูรณ์ หรือว่าจะตัดขาดความหวังอย่างสิ้นเชิง
ราชินีมองดูเย่ว์หยาง “ความจริงข้ากับไท่หลุนไม่ได้สนใจความเป็นความตายของตนเองมานานแล้ว คนอย่างพวกเราควรตายไปก่อนนั้นแล้ว นอกจากนี้เจ้าก็รู้ว่าเรื่องของเราเป็นแค่แผนการ ถานไถถูเมี่ยแค่ต้องการใช้ข้ออ้าง เรื่องของวันนี้ข้าเกรงว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต ถ้าเราตายเรา เราคงได้ทอนบาปกรรมของเราลงไปบ้าง”
เย่ว์หยางก้มหน้าครุ่นคิดและเงยหน้าเล็กน้อยมองดูราชินีไท่หลุน “ตอนนี้ข้าให้สัญญาท่านไม่ได้ แต่ในอนาคต บางทีสักวันข้าจะฆ่าถานไถถูเมี่ย ถ้าท่านกับราชาไท่หลุนสามารถรอได้ ก็ขอให้อดทนรอ! ท่านอาจไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ตราบใดที่ท่านกลับใจได้ ท่านอาจจะแก้ไขความผิดในก่อนและสร้างตัวเองใหม่ ข้าไม่รู้เรื่องแดนทมิฬมากนัก แต่ในแดนสวรรค์ตะวันตก ข้าพบเห็นนักรบแดนทมิฬมากกว่าหมื่นคนปรากฏตัว แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถกำจัดการควบคุมได้อย่างสิ้นเชิง แต่อย่างน้อยก็ยังมีความเป็นไปได้”
“สิ่งเหล่านี้เป็นการเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้นแค่เพียงผิวเผิน ถ้าไม่โค่นล้มตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ แดนทมิฬจะไม่มีวันเห็นแสงสว่าง และตกเป็นหมากให้พวกเขาเดินเล่นเสมอ” ราชินีส่ายหน้าเล็กน้อย แต่ในที่สุดนางมองเย่ว์หยาง “หนุ่มน้อย, ถ้าเจ้าสามารถบอกต่อถึงเทพเจ้าได้ ข้าขอฝากถ้อยคำถึงเทพเจ้า”
“ท่านต้องการฝากคำพูดอะไร?” เย่ว์หยางถาม
“แดนทมิฬชำระบาปกรรมครั้งในอดีตด้วยชีวิตของคนรุ่นหลังมานับไม่ถ้วน และตอนนี้ตั้งอยู่ในศีลธรรมและหวังจะกลับตัวฟื้นฟูอีกครั้ง แต่คนของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ปิดกั้นคำอธิษฐานของเรา ข้ากับไท่หลุนยินดีสาบานด้วยหัวใจ จิตวิญญาณ ด้วยหวังว่าบารมีแห่งเทพจะแผ่มาถึงแดนทมิฬในอีกไม่นาน นี่คือสิ่งที่เราสวดอ้อนวอนมาถึงหมื่นปี นี่คือความหวังที่ยังคงอยู่และไม่เปลี่ยนแปลงตลอดไป” ราชินีไท่หลุนหลั่งน้ำตาเป็นทาง สายน้ำตาหยดลงบนพื้น
“ข้าไม่อาจให้สัญญากับท่านได้ แต่ข้าจะบอกความจริงกับท่าน ถ้าเป็นไปได้ ข้าอาจจะไปแดนทมิฬและดูความจริง” เย่ว์หยางประทับใจกับความหวังของราชาและราชินีไท่หลุน ที่มีชีวิตถูกควบคุมความเป็นความตายมานานถึงหมื่นปี แต่ก็ยังคงมีความหวัง
น่าชื่นชมคนเช่นนี้
ช่างเข้มแข็งเหลือเกิน
เย่ว์หยางไม่จำเป็นต้องเคารพผู้อาวุโสของเขา แต่เขาเคารพนักสู้ผู้มีความยึดมั่นในชีวิตแบบนี้! พลังแบบนี้ไม่ได้มาจากอำนาจ แต่มาจากจิตวิญญาณ!
เมื่อเทียบกับผู้ที่หวังจะหลบหนีออกมาจากแดนทมิฬตลอดกาล ทวีปมังกรทะยานได้สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น บรรพบุรุษที่รอดชีวิตจากการต่อสู้นองเลือดก็เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เหลือรอดอยู่ เหมือนกับเย่ว์หยางและราชาไท่หลุนไม่ใช่หรือ? เพียงแต่ว่าการต่อสู้นั้นแตกต่างกัน และวิธีจำกัดแตกต่าง
เย่ว์หยางคือความหวังของทวีปมังกรทะยาน ความหวังของหอทงเทียน เขาสามารถยกระดับหอทงเทียน ถ้าแดนทมิฬมีความเหมาะสมเหมือนกันก็ทำได้เช่นกัน
ทำไมไม่นำคนเหล่านั้นยกระดับด้วยกันและโค่นล้มตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์?
เย่ว์หยางยังไม่มีความสามารถเช่นนี้
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้เขากำหนดเป้าหมายนี้ไว้แล้ว!
ตราบเท่าที่เขายังฝึกฝนหนักต่อไป ด้วยทักษะแฝงเร้นและการสนับสนุนทุกคนไม่รู้จบ วันนั้นคงจะอยู่อีกไม่ไกล...