ตอนที่ 830 โลหะใหม่
นอกจากนองเลือดไปหน่อยถังเทียนไม่มีความเห็นอะไรมากนัก ซือหม่าเซี่ยวไม่ใช่บริวารของเขา แต่นับได้ว่าเป็นคู่หูหุ้นส่วน แต่ต่อให้เป็นบริวารของเขาถังเทียนก็ยากจะเอาความคิดของตนเองไปฝังหัวคนอื่น
จากจุดนั้นถังเทียนจึงยังไม่มีคุณสมบัติเป็นจ้าวเหนือหัวคนหนึ่ง
แน่นอนว่าถังเทียนเองไม่ได้คิดว่าตัวเขาเองเป็นเจ้าเหนือหัวใคร เป็นเพียงการแบกรับชื่อที่ทำให้เขารู้สึกสุขใจ แต่สิ่งที่ทำให้เขามีความสุขมากกว่าก็คือฉายาหนุ่มชาวฟ้า
สำหรับกลุ่มพ่อค้าตะวันตกไม่กลัวเรื่องทำให้ถังเทียนไม่สบายใจอยู่แล้ว
เขารู้สึกว่าเขาน่าจะมีวุฒิภาวะมากขึ้นเด็ดขาดและไม่กลัวอะไร แต่พวกเขามีความหยิ่งผยองต่อเขาจริงๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่เขาทนไม่ได้
ความระมัดระวังและความปราณีไม่เคยเกี่ยวข้องกับเขา
ทันใดนั้นมีคนกลุ่มหนึ่งบินเข้ามา พวกเขาคือทหารประจำเมืองอาเธอร์ แต่เมื่อพวกเขาเห็นฉากภาพนองเลือดข้างหน้า หน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปทุกคน และคนที่อ่อนแอสองสามคนถึงกับอาเจียนทันที
สีหน้าของนายกองเปลี่ยนไปเป็นคนแรก กฎหมายและคำสั่งของเมืองอาเธอร์ไม่มั่นคง แต่การต่อสู้ที่เกิดขึ้นมักจะเป็นคดีเล็กน้อย สายตาของเขากวาดมองไปทั่วถนนและหน้ายิ่งซีดขาวมากขึ้น ‘กี่ศพกันนี่?’ ศพกองซ้อนกันอยู่ทั่วถนน และยังคงมีเลือดไหลนอง ทำให้ถนนทั้งสายราวกับนองไปด้วยเลือด
แม่น้ำเลือด
คำเหล่านั้นผุดขึ้นมาในใจของเขา
ไม่เคยมีการสู้ขนาดใหญ่แบบนี้มาในประวัติศาสตร์เมืองอาเธอร์ สิ่งที่ทำให้เขากลัวมากยิ่งขึ้นก็คือบนซากศพยังมีสัญลักษณ์ของกลุ่มพ่อค้าตะวันตก คงเป็นเรื่องใหญ่ที่กลุ่มพ่อค้าตะวันตกจู่ๆ ก็มีคนตายถึง 200 คน
และเมื่อเขากวาดตามองเห็นร่างๆหนึ่งที่คุ้นเคย ใบหน้าที่คุ้นเคยนั้นทำให้มือของเขาสั่น
‘อ้าวเติ้ง!’
โอวพระเจ้า, นั่นอ้าวเติ้ง!’
เขาเคยปะทะฝีมือกับอ้าวเติ้งหลายครั้ง แม้ว่าส่วนใหญ่พวกเขาจะมีความทรงจำที่ไม่ดี แต่เมื่อเห็นร่างอ้าวเติ้ง เขาตะลึง อ้าวเติ้งไม่ใช่คนอารมณ์ดี และไม่ใช่คนดีในทุกด้าน แต่ในแง่พลัง เขาเป็นคนที่แทบไม่มีใครในสองสามทวีปนี้จะเอาชนะได้
‘เดี๋ยวก่อน!’
‘นั่นคือหน่วยคุ้มกันส่วนตัวของอ้าวเติ้ง!’
ราวกับว่านายกองทหารรักษาเมืองถูกต่อยที่ศีรษะทำให้เขารู้สึกมึนชา
โจนาธานสามารถอวดอำนาจอิทธิพลได้เป็นเพราะมีหน่วยคุ้มกันของอ้าวเติ้ง หน่วยคุ้มกันเต็มไปด้วยนักสู้ฝีมือดีที่ได้รับการคัดเลือกทุกคนแข็งแกร่งทรงพลัง บุคลิกกร้าวไม่มีอ่อนข้อ หลังจากผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากกับอ้าวเติ้ง พวกเขาแข็งแกร่งกันทุกคน
อาจไม่ใช่เรื่องแปลกที่อ้าวเติ้งตาย แต่อ้าวเติ้งและหน่วยคุ้มกันของเขาทุกคนก็ถูกฆ่าด้วย
‘นี่...’
ในฐานะนายกองประจำเมืองก็ยิ่งหวาดกลัวมากขึ้น เขายิ่งตัวชาไปทั้งตัวเมื่อเห็นร่างของโจนาธาน
‘นี่จะต้องเป็นเรื่องแน่’
โจนาธานเป็นผู้อาวุโสสำนักคนสำคัญ และตำแหน่งของเขามีอำนาจสูงส่ง เพราะผู้อาวุโสสำนักตายไปอย่างนั้น กลุ่มพ่อค้าตะวันตกจะไม่ปล่อยเรื่องไว้แน่นอน ความโกรธเกรี้ยวของกลุ่มพ่อค้าตะวันตกจะโถมทับทั้งเมืองอาเธอร์ และเขาคงไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เป็นธรรมดา
แต่ขณะนั้น เขาไม่สนใจเรื่องนั้นอีกต่อไป ไม่สำคัญว่าความโกรธของกลุ่มพ่อค้าตะวันตกจะน่ากลัวเพียงไหนก็ยังเป็นเรื่องน่ากังวลในอนาคต
สิ่งที่เขาจำเป็นต้องเผชิญก็คือมีกลุ่มโจรอยู่ข้างหน้าเขา ไม่, ไม่ใช่กลุ่มโจรแต่เป็นเพชฌฆาต
เขาเห็นว่าพวกเขาสังเกตเห็นเขาแล้ว และสายตาพวกเขาจ้องมองมาที่เขาไม่มีแววเมตตาปราณี เขาเสียใจทันที ‘ทำไมข้าต้องรีบมาด้วยเมื่อได้ยินเรื่องวุ่นวาย?’
เขาไม่มีแม้แต่ความคิดจะต่อต้านแต่อย่างใด ถ้าอ้าวเติ้งและหน่วยคุ้มกันยังไม่สามารถสู้กับพวกเขาได้ อย่างนั้นพวกเขาที่เป็นทหารประจำเมืองก็คงไม่พออย่างแน่นอน และสิ่งที่เขาเห็นก็คือเพชฌฆาตที่มองดูเขาบินเข้าไปในขบวนทันที เขากลัวจนวิญญาณแทบหลุดจากร่าง
ตุ้บ
เขาร่วงลงมาจากท้องฟ้าเหมือนก้อนหินเมื่อถึงพื้น เขาหมอบแนบตัวกับพื้นและขอร้อง “เจ้านายทั้งหลายโปรดเมตตาไว้ชีวิตข้าด้วย!”
ทหารรักษาเมืองคนอื่นเพิ่งรู้ตัวหลังจากได้ยินเขา พวกเขาบินลงมาอย่างตื่นเต้น และทิ้งตัวคุกเข่าลงกับพื้นทุกคนร้องขอชีวิต เลือดที่ไหลนองพื้นเหมือนกับลำธาร และกลิ่นคาวเลือดรุนแรงลอยเข้าจมูกพวกเขาทำให้ความกลัวแผ่ซ่านไปทั้งตัว
พวกคนที่อยู่ต่อหน้าพวกเขาคือเพชฌฆาตที่ฆ่าคนได้ไม่กระพริบตา!
‘โอวพระเจ้า!’
‘ไม่มีเหลือรอดชีวิตเลยแม้แต่คนเดียว!’
พวกเขาเหมือนห่านที่ถูกแขวนคอ ร่างของพวกเขาสั่นเป็นเจ้าเข้ารอการตัดสินชีวิตพวกเขา
ถังเทียนและพวกที่เหลือสะดุ้งตกใจกับการกระทำของพวกเขา จะเกือบจะลงมือเมื่อพวกเขาบินลงมา
และเจ้าของร้านอื่นที่เห็นพวกเขาวิ่งหนีอย่างแตกตื่นทันทีถนนว่างเปล่าทันทีและร้านค้าปิดกันหมด
“จะให้เราไว้ชีวิตพวกเจ้าไม่ยากเลย” ถังเทียนกล่าว “คลังสินค้าของกลุ่มพ่อค้าตะวันตกอยู่ที่ไหน? พาเราไปที่นั่น”
เนื่องจากพวกเขาคับข้องใจกับการกระทำของกลุ่มพ่อค้าตะวันตก ถังเทียนถือโอกาสก้าวไปอีกขั้น และเป็นโจร
ทหารเมืองตัวสั่นกันหมด ถ้าพวกเขาไม่เห็นด้วย พวกเขาจะต้องถูกฆ่า ถ้าพวกเขานำโจรไปที่โกดังสินค้าของกลุ่มพ่อค้าตะวันตก อย่างนั้นกลุ่มพ่อค้าตะวันตกจะตามหาเขาในอนาคตเนื่องจากพวกนั้นไม่สนใจว่าพวกเขาถูกบังคับหรือไม่ก็ตาม
‘ช่างมัน,ใครจะมาสนใจอนาคตในเวลาอย่างนี้เล่า?’
นายกองประจำเมืองขบกรามแน่น “ข้าน้อยจะพานายท่านไปที่นั่นเดี๋ยวนี้”
เมื่อเปิดประตูโกดังสินค้าของกลุ่มพ่อค้าตะวันตก ทุกคนตะลึงกับสิ่งที่พวกเขาเห็น
โลหะทุกชนิดถูกวางไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย โลหะสีต่างกองกันเป็นภูเขาเลากา ทั้งหมดนั้นสูงไม่น้อยกว่า 20 เมตร แก้วผลึกเป็นประกายสีใสบริสุทธิ์เป็นเงาสะท้อนอยู่ใต้แสงไฟทุกคนตาพร่าจนแทบลืมตาไม่ขึ้น
ทุกๆสามเดือนกลุ่มพ่อค้าตะวันตกจะมีกองเรือขนส่งแร่และโลหะออกไป
สิ่งที่ทำให้ถังเทียนตื่นเต้นมากยิ่งขึ้นก็คือหินดวงดาวปริมาณมากกองอยู่ที่มุมโกดัง กลุ่มพ่อค้าตะวันตกร่ำรวยมหาศาลจริงๆ ขณะที่หินดวงดาวทั้งหมดถือว่าเป็นหินดวงดาวคุณภาพสูงสุดในสวรรค์วิถี ทั้งหมดนั้นถูกนำใช้กับเรือขุดแร่
มีคำพูดผุดขึ้นมาในใจของถังเทียน ‘เรารวยแล้ว!’
*******************
เมืองสามวิญญาณ
ความสับสนวุ่นวายในการใช้ความพยายามสร้างอาวุธจักรกลวิญญาณในเมืองสามวิญญาณจบแล้ว เมื่อว่ากันไปแล้วทุกคนยินดีและภูมิใจ เมื่อใดก็ตามที่พลเมืองรวมตัวกัน พวกเขาจะพูดคุยคาดเดาว่ากลุ่มดาวไหนที่นายท่านจะนำทัพจักรกลเข้าบีฑา
แต่หลังจากผ่านคืนเป็นวันผ่านวันเป็นสัปดาห์ที่ผลิตอาวุธจักรกลวิญญาณพวกเขาทั้งหมดก็ได้ฝึกร่างกายให้แข็งแกร่งไปด้วย หลังจากการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ที่กวนจิตใจทุกคนมาตรฐานและสายตาของทุกคนเพิ่มมากขึ้นดังนั้นคำสั่งเก่าที่สามารถทำให้พวกเขาตื่นเต้นได้ก็ไม่ได้กระตุ้นพวกเขาเหมือนเมื่อก่อน
เมืองสามวิญญาณกลายเป็นเมืองเฉื่อยชามากขึ้น
เฉียนเซินก็เหมือนกันไม่ใช่แค่เพียงเขาเท่านั้นช่างจักรกลของร้านเขาไม่ตื่นเต้นกับคำสั่งใหม่ทั้งหมด เพราะบางเหตุผลทุกคนยังคงคิดและปรารถนาภารกิจเร่งด่วนต่อช่วงเวลาที่เลือดลมพลุกพล่าน ความรู้สึกถึงความสามัคคี
ช่างจักรกลไม่เคยเป็นอาชีพหลักและการเพิ่มขึ้นของตำแหน่งของพวกเขาเพิ่งเกิดขึ้นมาไม่กี่ปี ทุกคนปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงด้วยการเพิ่มขึ้นในอาชีพของพวกเขา พวกเขามีเงินมากขึ้น แต่มักจะรู้สึกว่าพวกเขาขาดอะไรบางอย่าง
จนกระทั่งภารกิจเร่งด่วนที่ทุกคนร่วมมือกันเมื่อสิ่งต่างๆเปลี่ยนแปลงไปอย่างเงียบๆ
เฉียนเซินไม่คิดเรื่องนี้มากเกินไป เขาก็เป็นแค่ช่างวิศวกรจักรกลคนหนึ่ง แม้ว่าเขาจะมีธุรกิจขนาดเล็กที่ทำกำไรได้ แต่เขาไม่สามารถถูกจัดอยู่ในระดับชั้นสูงในเมืองสามวิญญาณ ‘นั่นคือสิ่งที่คนสำคัญจะคิดถึงกัน เพื่อตัวข้าเองข้าควรเน้นอยู่ที่ร้านจักรกลของข้า’
แต่เมื่อเห็นทุกคนเกียจคร้าน เขาไม่ได้กระตุ้นพวกเขา เพราะช่วงเวลานั้นทุกคนเหนื่อยล้าเกินไป
“พ่อ!” เฉียนเหลียนลูกชายของเขาวิ่งเข้ามาอย่างกระวนกระวาย
“เจ้าไม่ได้ไปเรียนหรือ?” เฉียนเซินขมวดคิ้วทันที หน้าของเขาเข้ม “ทำไมเจ้าถึงกลับมาบ้าน?”
เพื่อให้ได้ฟังวิศวกรจักรกลที่เก่งกว่าคอยสอนเป็นโอกาสดีที่ยากจะหาได้ โอกาสที่เขาต้องใช้ความพยายามนับไม่ถ้วนจึงจะได้มา ‘เจ้าเด็กนี่โดดเรียนหรือ?’
“ในตอนแรกก็มีเรียน แต่ในที่สุดครูสอนบอกว่านายท่านต้องการให้อะไรบางอย่างกับทุกคน ดังนั้นเขาจึงให้หยุดเรียน” เฉียนเหลียนเหงื่อไหลท่วมตัวและหอบหายใจขณะเล่าให้บิดาของเขาฟัง
“ให้ของบางอย่างกับทุกคน? ของอะไร?” เฉียนเซินตาสว่างวูบ
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ช่างจักรกลสองสามคนลุกขึ้นและเดินมาหาทันที
“ใช่แล้วใช่แล้ว เสี่ยวเหลียน มันคืออะไร?”
“สิ่งที่มาจากมือของนายท่านไม่ใช่ของธรรมดาแน่นอน!”
เฉียนเหลียนส่ายศีรษะ “อาจารย์ไม่บอก เขาเพียงแต่บอกเรื่องที่นายท่านต้องการจะขอบคุณเราที่ช่วยสนับสนุน เฉพาะพวกที่รับภารกิจสร้างเจ้าสัตว์ประหลาด พวกเขาสามารถไปที่หอประชุมบรอนซ์ได้ทุกคน”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นเฉียนเซินรีบออกจากร้านโดยไม่รีรอและวิ่งไปที่หอประชุมบรอนซ์
เมื่อเวลาที่เฉียนเซินมาถึงหอประชุมบรอนซ์ก็เต็มแล้ว
“นายท่านมีน้ำใจกับเรานัก!”
“เราไม่ได้สูญเสียอะไรกับการทำตามนายท่านเทียบกับกลุ่มดาวอื่นแล้วและอย่างที่ท่านบอก นายท่านไม่เคยเอาอะไรจากเราและยังมีแต่ให้อะไรเราหลายอย่าง!”
“ใช่,แต่ข้าสงสัยจริงว่านายท่านจะให้อะไร?”
“นั่นน่ะสิ”
…..
หอประชุมบรอนซ์เป็นเหมือนกับตลาดสดทุกคนตื่นเต้นและคาดหวัง
เมื่อกุ้ยหยวนและกลุ่มคนปรากฏ ทุกคนพากันเงียบสายตาของพวกเขาทุกคนมองดูหีบไม้ที่ใหญ่และหนักที่คนที่อยู่ด้านหลังกุ้ยหยวนแบกตามมา
‘นั่นสำหรับทุกคนหรือ?’
ทุกคนใจจดใจจ่ออย่างรวดเร็ว
ขณะเดินขึ้นเวทีใหญ่กุ้ยหยวนยิ้มและมองไปรอบๆ จากนั้นนางจึงพูดขึ้น “ในช่วงภารกิจเร่งด่วนครั้งก่อนนั้นทุกคนทำให้เราได้รับการสนับสนุนจากพวกท่านและนายท่านก็เคลื่อนไหวทันที นอกจากรางวัลที่ได้จากภารกิจแล้ว นายท่านจะมอบของขวัญบางอย่างให้กับทุกคน ทุกท่านจะมีส่วนแบ่งอย่างละหนึ่ง ดังนั้นไม่ต้องกังวล เพราะปริมาณว่ากันตามผลงานในภารกิจ”
ทุกคนยิ่งเพิ่มความสนใจมากขึ้น
“แม่นางกุ้ยหยวนนั่นคืออะไร?”
คนที่กังวลแต่กล้าหาญคนหนึ่งอดใจถามไม่ได้
กุ้ยหยวนยิ้ม “ครั้งนี้สิ่งที่เราจะให้เป็นวัสดุโลหะรูปแบบพิเศษสองชนิด”
‘วัสดุโลหะ?’
บางคนแสดงสีหน้าผิดหวัง แต่ก็มีหลายคนที่แสดงท่าทางคาดหวังมากขึ้น
‘คราวนี้เป็นวัสดุที่ค้นพบใหม่สองชิ้น คงจะแตกต่างจากโลหะที่เป็นที่รู้จักในปัจจุบัน”
ทุกคนส่งเสียงอุทานตกใจ แม้แต่วิศวกรจักรกลผู้ผิดหวังตอนแรกถึงกับประหลาดใจวิศวกรจักรกลจะมีความรู้สึกไวต่อโลหะมาก เพราะคุณสมบัติของโลหะมีผลต่อคุณภาพของอาวุธจักรกลวิญญาณโดยตรง
ทุกคนรู้ว่ามูลค่าและความเป็นไปได้ไม่สิ้นสุดจากโลหะใหม่ทั้งสองนี้หมายความว่ายังไง
พวกเขาทุกคนมีสีหน้าตื่นเต้นขึ้น
“ตามผลการค้นคว้าของแม่นางเซรีนโลหะทั้งสองนี้สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพของโลหะผสม และที่สำคัญที่สุด มันเหนือกว่าทำให้มีขีดการใช้พลังงานมากขึ้นเมื่อเทียบกับโลหะที่เรารู้จักในปัจจุบันข้าเชื่อว่าทุกท่านคงทราบว่านี่หมายถึงอะไร”
ประโยคนี้เหมือนกับโยนระเบิดเข้าไปในหอประชุมบรอนซ์
หอประชุมบรอนซ์มีเสียงฮือฮาทันที