ตอนที่แล้วตอนที่ 828 ความจริง? ผู้รู้ความลับโบราณ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 830 นกดีย่อมเลือกไม้ทำรัง

ตอนที่ 829 พรุ่งนี้ถล่มเทพ?


เย่ว์หยางกลับมาจากมิติผนึกหลุมดำและใช้เวลาเงียบสงบทั้งวัน

ดินแดนแห่งความฝัน

“นี่คือปราณกระบี่สามท่าที่ข้าเพิ่งรู้แจ้ง”

เมื่อเย่ว์หยางฝึกฝนอย่างสงบ เขาแสดงกระบี่ดำกุยจ้าง กระบี่ขาวซวงหัว และกระบี่แดงชี่เสี่ยวเหลียนให้เทพธิดากระบี่ฟ้าในดินแดนแห่งความฝันดู

ปราณกระบี่ที่เย่ว์หยางกลั่นสร้างได้ตอนนี้เริ่มแฝงไปด้วยพลังเทพ แม้ว่าจะด้อยกว่าเทพธิดากระบี่ฟ้าแค่ปลายนิ้ว  แต่เมื่อเทียบความก้าวหน้าที่ยิ่งใหญ่ก่อนนั้น สามารถตัดผ่าฟ้าได้ไม่สิ้นสุด

เทพธิดากระบี่ฟ้าไม่ได้วิจารณ์อะไร นางหายตัวไปเงียบๆ

บางทีนางอาจยอมรับในใจโดยปริยายถึงความก้าวหน้าของเย่ว์หยาง  หรือบางทีความรู้แจ้งของเย่ว์หยาง ยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการของนางได้ อย่างน้อยไม่ต้องเรียนรู้ความเป็นไปได้จากหลายกระบี่  ใจของเย่ว์หยางมีความมั่นคงเป็นกลางไม่ยินดีไม่ท้อแท้  ความจริงเย่ว์หยางมีพลังของเทพเจ้าที่น่าเกรงขามเกินกว่าที่เขาจะรู้ว่าพลังที่เขามีนั้นยังน้อยเกินไป... ความรู้ตกทอดของพี่สาวแม่สี่ชี้ให้เห็นว่าถ้าเขามีความสามารถ  เป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างโลกไม่ได้  เย่ว์หยางในปัจจุบันนี้ยังอยู่ห่างจากระดับสูงสุดที่นักรบที่โลกพฤกษาเคยทำไว้มาก  ในโลกพฤกษาที่พี่สาวแม่สี่ได้อธิบายถึง  ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด แม้แต่เฟ่ยเหวินหลีกับจื้อจุนก็ยังมีพลังฝีมือทิ้งห่างเย่ว์หยาง ขนาดที่เขายังต้องแหงนหน้ามอง

“ดูเหมือนว่าเจ้าจะแตกต่างไปจากเดิมเล็กน้อยหรือเปล่า?”  เย่ว์หยางพบว่าพี่เลี้ยงสาวคู่ซ้อมฝีมือของเขาค่อนข้างผิดหวัง นี่เป็นครั้งแรกที่นางฝีมือไม่เหนือกว่าเย่ว์หยาง

“....” หญิงสาวคู่ซ้อมฝีมือของเขาใช้นิ้วจิ้มผมบนศีรษะของเขา

“ถุงที่เอวท่านรู้สึกว่าคุ้นๆ”  เย่ว์หยางมองดูเอวของหญิงสาวคู่ซ้อมฝีมือของเขา หญิงสาวชำเลืองมองดูเขาและหยิบถุงนั้นมาถือไว้ในแขน  นี่ทำให้เย่ว์หยางที่ต้องการคว้ามาดูต้องหยุดสงสัย ช่างเถอะ พี่สาวนางนี้ยังเป็นตัวของตัวเอง นางไม่ได้รับอะไรเลย

เย่ว์หยางมักจะมีความปรารถนาในอดีตว่าจะเอาชนะนางให้ได้ แค่ให้ได้แตะต้องเนื้อหนังของนางถือว่าเป็นอันแก้แค้นแล้ว

ในที่สุดตอนนี้เขาก็ไล่ตามนางทันแล้ว

ในขอบเขตระดับเดียวกับนาง แต่นางไม่ต้องใช้ความพยายามใดๆ

เขานั่งข้างสาวพี่เลี้ยงคู่ซ้อมฝีมือเขาและพิจารณานางอย่างระมัดระวังและพบว่านางไม่รู้ว่าเขาเปลี่ยนไป เขาเองไม่รู้ว่าเขาเปลี่ยนไปเมื่อไหร่  ไม่ใช่แค่เปลี่ยนร่างกาย แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงทางจิตวิญญาณ  ตอนนี้นางเปลี่ยนแปลงไปมากด้วยพลังปราณกระบี่ที่เทพธิดากระบี่ฟ้าสร้างขึ้น ดูเหมือนจะยากกว่าเมื่อก่อน หรือว่านางไม่ใช่ปราณกระบี่ แต่เป็นร่างวิญญาณอมตะ?

ในตอนเริ่มแรกนางค่อนข้างรุนแรงเล็กน้อย

ตอนนี้

นางสามารถฆ่าเย่ว์หยางผู้มีโลกส่วนตัวสูงได้โดยตรง

หลังจากหยอกล้อเขามาเป็นเวลานาน หญิงสาวคู่ซ้อมรู้ว่าเย่ว์หยางเป็นคนยังไง  และเขาเตรียมพร้อมอยู่แล้ว ไม่มีอะไรต้องรายงานนาง  แต่เย่ว์หยางหยอกล้อสนุกสนาน นางย่นจมูกล้อเลียนอย่างน่ารัก ตาของนางโค้งเหมือนพระจันทร์เสี้ยวและนางดูมีความสุข  ถ้าเย่ว์หยางพูดสร้างความรำคาญให้นาง นางจะรัวหมัดใส่เขาอย่างไม่เกรงใจ

เริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ วิธีการฝึกเป็นเนื้อหาหลักสูตรใหม่

พี่สาวคู่ซ้อมใช้วิธีที่เย่ว์หยางไม่เคยเห็น พลังงานเปลี่ยนความคิด

นางทาบมือบนศีรษะเย่ว์หยางและถ่ายทอดพลังงานทั้งหมดเข้าในร่างของเขา  ขณะที่เย่ว์หยางเตรียมโคจรพลังงานคืนร่างนางคล้ายการฝึกพลังคู่รัก แต่นางปฏิเสธ  แขนของนางเปล่งประกายแสง นางก็ฟื้นฟูพลังได้เต็มที่ เมื่อเย่ว์หยางย่อยพลังงานอย่างยากลำบาก  หญิงสาวปลูกฝังแหล่งพลังงานที่เย่ว์หยางไม่สามารถเข้าใจได้ เหมือนกับเป็นพลังเล็กน้อยและอ่อนแอ แต่กลับจัดเก็บพลังไว้ได้สมบูรณ์ไม่มีที่สุด...

แหล่งพลังงานนี้เหมือนเมล็ดพฤกษาโลก

แม้ว่าจะอ่อนแอ แต่เขารู้สึกว่าเขากำลังเติบโต  เขาสามารถเสริมสร้างโลกได้ทั้งใบ

เมื่อเย่ว์หยางถอนจิตกลับมาจากดินแดนแห่งความฝันและกลับเข้าไปในโลกคัมภีร์ เขาพบว่าพื้นที่ภายในแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง   มีรูปแบบชีวิตที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนจนกระทั่งบัดนี้  โลกคัมภีร์สามารถเรียกว่าโลกได้!

อสูรรูปแบบโล่แสง และโลกเริ่มเปลี่ยนไป ไม่ได้มีการขยายเป็นสองมิติด้านหน้าและด้านหลังอีกต่อไป  แต่ขยายออกไปแปดทิศทาง รวมกับรูปแบบเดิมเป็นสิบทิศทาง

ตอนนี้มันหดตัวลงเล็กมากและยังเด็กอยู่ แต่พลังงานไม่ลดลงแม้แต่น้อย

เย่ว์หยางใช้มือจับมันได้

มีความรู้สึกเหมือนกับว่าควบคุมโลกได้ทั้งใบ

เมื่อโลกก่อตัวได้อย่างสมบูรณ์ บางทีประกายเทพในตำนานอาจจะเกิดขึ้นในตอนนี้ “ขอบเขตระดับที่สูงขึ้นยังคงอยู่ข้างหน้าอีกไกล  ข้าต้องเพียรพยายามให้มากขึ้น และเติบโตก้าวหน้าให้เร็วขึ้น!” เย่ว์หยางตอนนี้ก็ฝึกหนักอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะหลายอย่างมีอุปสรรค  เขาคงกลับไปที่บันไดสวรรค์และฝึกฝนอย่างหนักร่วมกับเสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนอีกสักสองสามปี

ตลอดเวลาที่ฝึกฝนอย่างสงบ เย่ว์หยางเข้าใจแนวคิดของนางพญาเฟ่ยเหวินหลีอย่างลึกซึ้งและหลอมรวมผสานเข้ากับปราณราชันย์ศักดิ์สิทธิ์

แม้ว่ายังคงมีระยะห่างอีกไกลกว่าจะหลอมรวมขอบเขตระดับพลังของนางพญาเฟ่ยเหวินหลีได้หมด  เย่ว์หยางก็ยังนับว่าก้าวหน้าครั้งใหญ่ในครั้งนี้  อย่างน้อยก็ในระดับปราณราชันย์  เขาข้ามขีดจำกัดไปได้ไกลอย่างเหลือเชื่อ ระดับปราณราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ ก่อนนี้ไม่มีใครสามารถทำได้อย่างนี้ แม้แต่นางพญาเฟ่ยเหวินหลีก็ยังทำไม่ได้  จักรพรรดอวี้ก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่!  อาจกล่าวได้ว่าพลังปราณราชันย์ของเย่ว์หยางเหลืออีกเพียงครึ่งก้าวจะเข้าถึงระดับปราณราชันย์ศักดิ์สิทธิ์  ซึ่งเป็นไปไม่ได้สำหรับนักรบปราณราชันย์ในโลกนี้จะก้าวหน้าได้ขนาดนี้

การบรรลุความก้าวหน้าที่โลกพฤกษาบันไดสวรรค์ครั้งก่อน เท่ากับส่งเย่ว์หยางเข้าสู่โลกระดับสูงโดยตรง

ปล่อยให้เขาไปถึงจุดสูงสุดโดยไม่ต้องสับสนในครึ่งทาง

ไปให้ถึงสุดยอด

ตราบเท่าที่พลังของเย่ว์หยางสามารถพัฒนาก้าวหน้าได้ อย่างนั้นทุกอย่างจะสามารถบรรลุผลได้ โดยไม่ต้องใช้เวลานานมากกับการสำรวจครั้งแล้วครั้งเล่า  ตอนนี้ตราบเท่าที่เขาลืมตา  เขาจะสามารถเห็นโลกได้ ตราบเท่าที่เขาเหยียดมือออกไป  เขาสามารถบินขึ้นไปในท้องฟ้าได้

ทั้งหมดนี้เย่ว์หยางไม่ได้พูด  แต่เขารู้ดี นี่ต้องยกความดีความชอบให้กับเทพธิดากระบี่ฟ้าที่ช่วยวางรากฐานให้เขาก่อนหน้านั้น

และยังมีความรู้ที่ได้รับตกทอดมาจากพี่สาวแม่สี่

ถ้าไม่มีเรื่องเช่นนั้น เย่ว์หยางสามารถทำให้สำเร็จได้  แต่ยังเป็นไปไม่ได้ที่จะได้ประกายเทพในวันนี้

ความสามารถของตัวเย่ว์หยางเองก็เป็นเหตุผลส่วนหนึ่ง การสนับสนุนของพวกเสวี่ยอู๋เสียก็เป็นอีกบทบาทหนึ่ง แต่ในความเป็นจริงผู้ที่ช่วยเหลือเย่ว์หยางมากที่สุดมักจะซ่อนตัวอยู่ในที่ที่เขาไม่รู้ คอยปกป้องเขาอยู่เงียบๆ นั่นคือเทพธิดากระบี่ฟ้า  เป็นนางที่มอบปราณกระบี่ไร้ลักษณ์ให้เย่ว์หยาง และนางได้วางรากฐานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดให้เย่ว์หยาง นางผู้มอบพลังกระบี่ให้จื้อจุนและจักรพรรดินีราตรี ทั้งใช้พลังปราณกระบี่เพื่อเชื่อมกับโลกพฤกษาบันไดสวรรค์ เพื่อที่ว่าบรรพบุรุษนักรบในขอบเขตต่างๆ  พลังกฎสวรรค์ต่างๆ เข้ามาในร่างของเขาซึ่งสามารถสร้างโลกได้ ขอเพียงถึงระดับปราณราชันย์อย่างสมบูรณ์แบบ ก็สามารถสร้างโลกให้ตัวเขาได้

“ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง”  เย่ว์หยางกำหมัดและแหงนหน้ามองฟ้าปฏิญาณในใจ

“……”

ดูเหมือนจะมีภาพลวงตาปรากฏให้เย่ว์หยางเห็นวูบหนึ่ง ซึ่งเขารู้สึกได้ว่าเป็นเทพธิดากระบี่ฟ้า ซึ่งอยู่ในสวรรค์เก้าชั้นฟ้ามองหันหลังกลับมาพร้อมกับรอยยิ้ม

เมื่อเย่ว์หยางเปิดประตูห้องนอนและเดินเข้ามาในห้องโถง นั่นเป็นเวลาสามวันต่อมานับตั้งแต่เข้าไปหานางพญาเฟ่ยเหวินหลี

โล่วฮัว ลี่เยี่ยนและไป่ลู่ สตรีทั้งสามมองเห็นเย่ว์หยางกำลังออกมา

ดวงตาของพวกนางเบิกโพลงด้วยความตกใจไม่อยากเชื่อภาพที่เห็น

ในขณะที่เปิดประตูออก  พวกนางเหมือนกับว่ามองเห็นเทพเจ้าปรากฏตัว ถ้าไม่ใช่เพราะความคุ้นเคยกัน  พวกนางคงหวาดกลัวจนแทบสิ้นสติ

พวกทหารที่เป็นมนุษย์มังกรแดนสวรรค์รู้สึกได้ถึงการปรากฏตัวของเย่ว์หยาง และรีบตามมาจนถึงห้องโถง พวกเขาหลั่งน้ำตาและมีความรู้สึกว่าจักรพรรดิมังกรทองได้ส่งพลังจากรุ่นสู่รุ่น  และตอนนี้กลับมาอยู่ต่อหน้าพวกเขาแล้ว

“เจ้าคือเย่ว์หยางจริงๆ หรือ?”  ไป่ลู่รู้สึกไม่อยากจะเชื่อ

“เฮ้, พวกเจ้าทำหน้าอย่างนั้นทำไมกัน” เย่ว์หยางเพิ่งรู้ตัว เขาตื่นเต้นจนลืมซ่อนรัศมีพลัง หลังจากเข้าใจขอบเขตและหลอมรวมพลังของนางพญาเฟ่ยเหวินหลี และปล่อยรัศมีพลังออกมาด้วยความพลั้งเผลอทำให้มนุษย์หวาดกลัวเหมือนกับพลังกฎสวรรค์  เขารีบซ่อนรัศมีพลัง และด้วยทักษะแฝงเร้นอำพราง  เขาสามารถส่งผลต่อคนอื่นได้ เขาอำพรางพลังให้อยู่ในสภาพธรรมดา และแกล้งแสดงออกว่าเป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับสาม มองดูเผินๆ ไม่เลว ไม่มีข้อบกพร่อง

“อ๊า...เจ้าทำข้ากลัวแทบตาย”  เจ้าเมืองโล่วฮัวตกใจและดีใจพร้อมกัน นางกระโดดกอดคนรักของนาง

“ก้าวหน้าอีกแล้วสินะ” ลี่เยี่ยนนั่งบนพื้นอย่างดึงดัน

เอาคนไปเทียบกับคน อาจจะบ้าได้

เด็กคนนี้ไม่พบกันสามวัน มีความก้าวหน้าจริงๆ  และเป็นความก้าวหน้าแบบก้าวกระโดดเสียด้วย

อย่าว่าแต่ไล่ตามเขาเลย  แค่ให้เห็นหลังของเขาก็ยังเป็นไปไม่ได้  ความรู้สึกแบบนี้ยอมรับไม่ได้จริงๆ

เย่ว์หยางวางเจ้าเมืองโล่วฮัวลงและเดินไปนั่งที่โซฟา และบอกให้ลี่เยี่ยนและไป่ลู่เข้ามาหา  “เพราะหลายอย่างเปลี่ยนไป  ข้ามีแผนใหม่อย่างหนึ่ง  พวกเจ้ามาดูรายละเอียดกัน”

ลี่เยี่ยนฟังและยอมรับในใจ

ความจริงเจ้าเด็กนี่เป็นสุดยอดอัจฉริยะที่ไม่ธรรมดาของหอทงเทียนที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์  ไม่มีใครเทียบได้  แล้วปาฏิหาริย์ก่อนหน้านี้เล่า?  เทียบกับเขา  ลี่เยี่ยนคิดได้ดังนั้นในใจค่อยรู้สึกดีขึ้น นางรีบเดินเข้ามาหาเย่ว์หยางและฟังแผนใหม่ของเขา  ในสายตาของไป่ลู่เต็มไปด้วยอารมณ์หลากหลาย และเมื่อมองเย่ว์หยาง นางตกใจแทบวิ่งหนี

เจ้าเมืองโล่วฮัวมองแล้วไม่ได้หึงแต่อย่างใด

เขาคือสามีนาง

ยิ่งเขาแข็งแกร่งมีพลังก้าวหน้ามากขึ้น นางก็ยิ่งภูมิใจมากขึ้น

ที่เย่ว์หยางและสามสาวไม่ทราบก็คือในส่วนห้องลับของเรือเหาะอีกด้านหนึ่งเหยียนเจ้าและพ่อบ้านของเจ้าเมืองกำลังดื่มเหล้าพูดคุยอย่างถูกอัธยาศัย ไม่ทราบว่าน้ำเหล้าในแก้วกระฉอกหกเมื่อใดโดยที่พวกเขาไม่รู้สึกตัว

“ท่านถาน?” เหยียนเจ้าเพิ่งหายตกใจ แต่แกล้งทำเป็นสีหน้าปกติทันที เหมือนกับจะบอกพ่อบ้านเจ้าเมืองว่าไม่ควรเสียมารยาทเกินไป

“อา..ช่างน่าละอายจริงๆ!”  พ่อบ้านของเจ้าเมืองยังคงสงสัยเล็กน้อย “เมื่อครู่นี้ ดูเหมือนข้ารู้สึกเหมือนกับว่าเทพเจ้ามาเยือนหรือเปล่า?”

“ในฐานะผู้สูงศักดิ์, นี่เป็นเรื่องธรรมดา” ครั้งนี้ในใจของเหยียนเจ้าก็ตื่นเต้น  ข้ามีเจ้านายเช่นนั้น  เขาทรงพลังมากมายเหลือเกิน นั่นต้องเป็นพลังของเทพที่ทรงพลังแน่นอน  เขาเชื่อว่าไม่เพียงแต่พื้นที่รอบๆ แต่ยังเป็นทั่วเมืองไถ่ถอนระดับต่างๆ เกี่ยวกับธุระของนายท่าน เขาไม่กล้าคิดถึง เขาต้องทำตามคำสั่งที่นายท่านต้องการ ทำให้พ่อบ้านเจ้าเมืองหวั่นไหว

“จริงหรือนี่?  ข้าเสียมารยาทมากเกินไปแล้ว ในเมื่อเทพเจ้ามาถึง ข้ายังไม่มีเวลาจะกราบคำนับด้วยซ้ำ” พูดจบพ่อบ้านรีบกราบคำนับครั้งแล้วครั้งเล่า

“โปรดอย่าพูดเรื่องนี้มากเกินไป  ไม่เช่นนั้นจะเหมือนกับการต่อต้านนายท่าน” เหยียนเจ้าพูดเตือน

“ข้าน้อยสมควรตายหมื่นครั้ง ข้ามิกล้าลืมเสียงของท่านเทพเป็นแน่!”  พ่อบ้านขอขมาอยู่ต่อหน้าเหยียนเจ้าคนหาข่าวชั้นล่าง  “โปรดบอกเจ้าเมืองของท่าน ถ้าท่านต้องการไปที่ใด ข้ายินดีเป็นวัวเป็นม้ารับใช้”

“ท่านถานและเจ้าเมืองของท่านมีความจริงใจ นายท่านจะต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน”  เหยียนเจ้าให้ความหวังเล็กๆ น้อยๆ กับฝ่ายตรงข้าม  เขาเปิดประตูส่งอาคันตุกะโดยมิต้องเสียเวลา  เขาเชื่อว่าเจ้านายของเขาคงจะไม่มากมารยาทกับคนเหล่านี้  เขาเองไม่รู้แผนของเจ้านาย เขาไม่อาจทำเกินสถานะตนเองมากเกินไป  มิฉะนั้นคาดว่าพ่อบ้านและเจ้าเมืองไถ่ถอนอาจจะดีใจเกินไปจนปิดเมืองฉลองสามวันสามคืน

เมื่อพ่อบ้านเร่งรีบกลับไปยังจวนเจ้าเมือง เจ้าเมืองไถ่ถอนกำลังกระวนกระวายเหมือนมดในกะทะร้อน

เขาถูมือเดินกลับไปกลับมา

เขาต้องการไปที่เรือเหาะด้วย แต่เกรงว่าจะทำให้เทพเจ้าโกรธ

เมื่อพ่อบ้านเข้ามายังไม่ทันถึง เขาส่งเสียงด้วยความสุขล้น  อาการเช่นนี้ทำให้เจ้าเมืองไถ่ถอนดีใจเหมือนกับเห็นความสว่างของรุ่งอรุณในราตรีที่มืดมิด เขารีบทักทายและถาม “เร็วเข้า รีบบอก มีข่าวดีอะไรหรือไม่?”

ถ้าให้เขารู้ความจริงของเรื่องราว คาดว่าเขาคงดีใจฉลอง

อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาดีใจแทบคลั่ง และยินดีต้อนรับเย่ว์หยาง เทพเจ้าที่พวกเขายินดีเป็นม้าเป็นลารับใช้จนตาย!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด