ตอนที่ 828 ความจริง? ผู้รู้ความลับโบราณ
พ่อบ้านของเจ้าเมืองยืนอยู่ต่อหน้าเจ้าเมืองไถ่ถอนและรายงานทุกอย่างด้วยความเคารพ
แม้ว่าเจ้าเมืองไถ่ถอนจะเตรียมตัวทำใจไว้ก่อนแล้ว แต่ข้อมูลของพ่อบ้านยังทำให้เขากลัวและหลั่งเหงื่อเยียบเย็น.... โชคดีที่เขาเปลี่ยนจุดยืนอย่างรวดเร็ว มิฉะนั้นตระกูลของเขาทั้งหมดคงตายโดยไร้ที่กลบฝัง ล่วงเกินผู้ใหญ่ที่ไม่อาจก้าวล่วงเกินได้ แม้ว่าตำหนักกลางชั้นนอกจะมอบหมายงานให้ป้องกันลานสำเร็จโทษให้เจ้าเมืองดูแล แต่โทษยังไม่พอถึงกับประหาร
การเปลี่ยนเจ้าเมืองทำได้ง่าย ในตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ ไม่รู้ว่ามีคนมากมายเท่าใดที่แสวงหาตำแหน่งให้ตนเอง
ถ้าเขาถูกกล่าวหาว่ามีความผิด เขาสามารถตายได้!
“เจ้าพูดว่าเจ้าต้องการรู้เพียงเล็กน้อย ความรู้สึกของเจ้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ยิ่งละเอียดอ่อนก็ยิ่งดี” เจ้าเมืองไถ่ถอนไม่เพียงแต่มีความรู้สึกไวโดดเด่นเท่านั้น แต่เขายังใช้มนุษย์เป็นกระจกสะท้อนตนเอง ทำให้รู้ความผิดพลาดของตนเองได้ถูกต้องผ่านสายตาของคนอื่น
“นายท่าน, โปรดอภัยด้วยที่ผู้น้อยพูดตรงไปตรงมา” พ่อบ้านเข้าใจอารมณ์ของเจ้าเมืองไถ่ถอน นอกจากนี้พวกเขายังผูกพันผลประโยชน์ร่วมกัน เมื่อเขาภูมิใจในตนเองเขาย่อมยินดีให้คำแนะนำแก่เจ้าเมืองไถ่ถอน “ความจริงแม้ว่าสถานะของท่านผู้นั้นจะสูงส่ง แต่เป็นไปไม่ได้เลยที่จะอาจเอื้อมไม่ถึง ที่สำคัญคือสถานะห่างไกลกันเกินไป ถ้าเรารีบร้อนเกินไปจะทำให้อีกฝ่ายหงุดหงิดไม่สบายใจได้ ลองเทียบกันดู ไข่มุกสมบัติล้ำค่าของเราเป็นของที่ดีที่สุด แต่ในสายตาของอีกฝ่ายหนึ่งเหมือนกับว่าพวกเขาเป็นคนที่ผ่านงานเลี้ยงเลิศหรูมาแล้วพบกับข้าวกล่องราคาถูก มุกของเราเมื่อเทียบกับกระจกทนทุกข์ของคุณชายฉางฟงก็ไม่ต่างอะไรกับผ้าปอที่วางอยู่หน้าผ้าไหม เรายังจะพูดอะไรได้! สิ่งที่สำคัญที่สุด กระจกทนทุกข์ของคุณชายฉางฟงก็ยังไม่ได้รับความรักไว้วางใจจากท่านผู้สูงศักดิ์นั้น ดังนั้นคุณชายฉางฟงจึงละอายใจที่จะไปต่อ สิ่งที่เราต้องทำตอนนี้ไม่ใช่เรื่องอื่น ให้ทำตามคำแนะนำของอีกฝ่ายหนึ่ง ให้คุมสถานการณ์และรอโอกาส ในกรณีที่อาคันตุกะผู้สูงศักดิ์นั้นมีอารมณ์สนุกพอใจ เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เรียกเรา”
“พูดได้ดี!” เจ้าเมืองไถ่ถอนพยักหน้าพอใจ “ข้าเฉียนหู่รู้ตัวเองดี ตราบเท่าที่ข้าไม่รบกวนอาคันตุกะผู้สูงศักดิ์นั้น นั่นจะเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ เรื่องนี้เจ้าต้องจัดการ ไม่ว่าเจ้าจะใช้วิธีการแบบใดก็ตามอย่าให้ใครๆ ไปรบกวนพวกเขาอีก สำหรับทอเรนลิมาให้เขารออยู่ในตำหนักชั่วคราว บางทีก็เป็นเรื่องจำเป็นอาจต้องใช้เขาไปถามข้อมูลเจ้าหน้าที่ระดับสูง ผู้อาวุโสหวีมู่สำหรับเราไม่ใช่เรื่องสำคัญ เขาไม่มีอะไรทำเกี่ยวกับเรา กลับเป็นเหยียนเจ้า เราต้องผูกสัมพันธ์ไว้ เราต้องติดต่อผ่านเขาไปถึงหัวหน้าองครักษ์ เด็กหนุ่มคนนั้นต้องไม่ธรรมดา เราต้องมั่นใจว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ต้องนิ่งเสียก่อน... เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องถือเป็นความผิด ข้ามีความรู้สึกว่าเราอาจพลิกสถานการณ์ร้ายให้เป็นดีได้”
“ขอแสดงความยินดีกับท่านด้วย” พ่อบ้านรู้ว่าเป็นโอกาสที่ดี ถ้าเจ้าเมืองประสบความสำเร็จ การเข้าสู่สวรรค์บนก็ไม่เป็นความฝันอีกต่อไป
“ถ้าเราเจ้าเมืองมีวันที่เจริญรุ่งเรือง จะไม่ลืมเจ้าและคนอื่นๆ แน่นอน ในอนาคตเราจะมีความสุขอยู่ในสวรรค์ชั้นบน!” เจ้าเมืองไถ่ถอนพูดอย่างมีความหมายและตบไหล่พ่อบ้าน พ่อบ้านของเจ้าเมืองปลาบปลื้มจนน้ำตาคลอเบ้า
เรือเหาะสุดหรู
เจ้าเมืองโล่วฮัวจัดการสมบัติของนางอย่างอารมณ์ดี สาวยักษ์ลี่เยี่ยนตั้งใจว่ากลับไปบันไดสวรรค์ นางจะเพิ่มเวลาฝึกฝนเป็นสองเท่าทุกวัน
ไป่ลู่มองดูรอบๆ และไม่พบเจอเย่ว์หยาง นางคิดว่าเขาคงออกไปข้างนอก จึงได้แต่รออย่างอดทน คาดไม่ถึงว่าผ่านไปนานนางก็ยังไม่เห็นเขา ในที่สุดนางอดมานั่งข้างๆ เจ้าเมืองโล่วฮัวไม่ได้ และถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “น้องโล่วฮัว, หัวหน้าองครักษ์ส่วนตัวของเจ้าไม่อยู่หรือ?”
เจ้าเมืองโล่วฮัวหยุดและยิ้ม “ข้าคิดว่าท่านจะทนนั่งอยู่ทั้งวันโดยไม่ถามเสียอีก! เขาไม่ได้อยู่ที่นี่ ไม่ต้องห่วง อีกหน่อยเขาก็กลับมา!” ความจริงเย่ว์หยางเข้าไปในมิติผนึกหลุมดำเพื่อพบกับนางพญาเฟ่ยเหวินหลี
อย่างไรก็ตามโล่วฮัวไม่ต้องการพูดกับไป่ลู่มากไปกว่านี้ นางคร้านจะอธิบาย
เย่ว์หยางไม่อยู่ที่นี่ ไม่ว่าไป่ลู่จะทำอะไร นางจะรู้สึกเบื่อและเกียจคร้าน นางนอนอ่านหนังสือไม่นานก็วางหนังสือลงพลางถอนหายใจ “ภาษารูนสวรรค์บ้านี่ ซับซ้อนยากเกินไป มันยากเกินจินตนาการอย่างนี้ พวกเขาดูได้ยังไง!” ความจริงนางก็มีความเก่งชำนาญอักษรรูนสวรรค์พอสมควรนั่นไม่น่าแปลกใจแม้แต่น้อย แต่ลี่เยี่ยนกลับเชี่ยวชาญมากกว่านาง นั่นทำให้ไป่ลู่รู้สึกหงุดหงิด
ลี่เยี่ยนยังคงฝึกฝนอย่างแข็งขัน นางปาดเหงื่อและโบกมือ “ข้ายังไม่ได้หนึ่งในหมื่นของโล่วฮัวด้วยซ้ำแต่ แต่คนที่เชี่ยวชาญอักษรรูนมากที่สุดต้องยกให้แม่หญิงอู๋เหิน!” คำพูดเช่นนี้ทำให้ไป่ลู่ถึงกับต้องลอบแล่บลิ้น
ในมิติผนึกหลุมดำ
นางพญาเฟ่ยเหวินหลีหัวเราะอย่างมีความสุขและดูดซับพลังรอบๆ หลุมดำอย่างต่อเนื่อง
เย่ว์หยางกลับเข้ามาครั้งนี้สร้างความประหลาดใจให้นางเกินคาดหวังไปมาก ในสนามพลังงานที่มีจื้อจุน จักรพรรดินีราตรีและสตรีอื่นๆ ได้รับผลสะท้อนทางวิญญาณ มีการแลกเปลี่ยนขอบเขตความรู้และหลอมรวมด้วยกัน เย่ว์หยางรู้แจ้งพลังใหม่และมีฝีมือรุดหน้าอย่างไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์เป็นการหลอมรวมปราณราชันย์ที่สมบูรณ์แบบ ด้วยความรู้ความเข้าใจที่สมบูรณ์แบบนี้ แม้แต่นางพญาเฟ่ยเหวินหลีที่เคยกวาดไปทั่วแดนสวรรค์พลอยได้รับประโยชน์ได้ด้วย
เมื่อนางดูดซับพลังปราณบริสุทธิ์ของเย่ว์หยาง นางเชื่อมโยงขอบเขตพลังของเขาได้
เย่ว์หยางมีความสำเร็จบรรลุพลังระดับสูงได้
และนางพญาเฟ่ยเหวินหลีได้รับการเสริมพลังในขอบเขตปราณราชันย์ขั้นสูงสุด
“ข้าหลับไปนานเท่าใด?” เย่ว์หยางเผลอหลับลึกหลังจากนางพญาเฟ่ยเหวินหลีชักนำเขาเข้าสู่ขอบเขตพลังระดับใหม่ จนถึงตอนนี้เขาพบว่าขอบเขตพลังที่แท้จริงของนางพญาเฟ่ยเหวินหลีนั้นน่ากลัวเพียงไหน
“ไม่ถึงวัน ข้าคิดว่าเจ้าจะหลับไปสักสองสามวันเสียอีก แต่ศักยภาพของร่างกายเจ้าเกินคาดคิดจินตนาการจริงๆ” นางพญาเฟ่ยเหวินหลีจูบหน้าเขาอย่างนุ่มนวล
ด้วยพลังและระดับปัจจุบันของเย่ว์หยาง เขาจะดูดซับขอบเขตพลังของนางพญาเฟ่ยเหวินหลีอย่างสมบูรณ์ยังเป็นไปไม่ได้ แต่เขาอยู่ในขอบเขตชั้นสูงของนางพญาอย่างชาญฉลาด เหมือนกับความรู้ที่ได้รับตกทอดจากพี่สาวแม่สี่ซึ่งมีผนึกในใจชั้นแรก เขาก็ทำการดูดซับความรู้ในชั้นแรก ถ้าไม่มีความรู้ตกทอดจากพี่สาวของแม่สี่ ไม่มีการปรับเปลี่ยนพลังปราณที่สมบูรณ์แบบ เย่ว์หยางคงยังไม่ฟื้นตัวได้ง่ายๆ คาดว่าต้องหลับประมาณสิบวันหรือครึ่งเดือนเป็นอย่างน้อยกว่าจะฟื้นขึ้น
เย่ว์หยางในตอนนี้ และหลอมรวมกับขอบเขตพลังของนางพญาเฟ่ยเหวินหลี ไม่เพียงแต่หลอมรวมเข้ากับพลังปราณราชันย์เท่านั้น แต่ปราณกระบี่ไร้ลักษณ์ยังคงบรรลุเข้าสู่ระดับใหม่
ถ้าไม่ใช่เพราะอยู่ในผนึกหลุมดำ เขาแทบไม่อาจรอพบเทพธิดากระบี่ฟ้าได้
ตอนนี้เป็นครั้งแรกที่เย่ว์หยางรู้สึกถึงความเป็นนักสู้ของตนเองอย่างแจ่มชัด
ในที่สุดก็มีกระบี่ในมือที่ไม่มีใครเทียบภายใต้ความมั่นใจตนเองเต็มเปี่ยม... เหมือนกับความคิดที่เขามีในวันที่พบเห็นเทพธิดากระบี่ฟ้าในความฝันวันนั้น
ฟันเปิดพื้นที่มิติและพลังทลายโลกซึ่งเป็นไปไม่ได้ในอดีต แต่ตอนนี้ไม่ใช่ภาพมายาต่อไป เย่ว์หยางอยู่ในมิติผนึกหลุมดำ แม้ว่าร่างกายจะคงปราณแท้ไว้ แต่ว่าเก้าในสิบของพลังแบ่งให้นางพญาเฟ่ยเหวินหลีไป เขามีความรู้สึกว่ายังใช้ปราณกระบี่ทะลวงมิติหลุมดำได้! แรงกดดันที่มิติหลุมดำมีอยู่ไม่ส่งผลต่อเขาอีกต่อไป นี่เป็นความรู้สึกเข้าใจโลกง่ายๆ หรือนี่คือสำนึกเทพ? นี่ไม่ต่างจากสำนึกเทพเลย
นางพญาเฟ่ยเหวินหลีใช้มือทาบศีรษะและคอของเย่ว์หยาง นางยิ้มอ่อนโยน “ตอนนี้ขาดเพียงอีกเล็กน้อยเจ้าจะเข้าถึงระดับเทพราชันย์”
เย่ว์หยางไม่มีเวลาจะสัมผัสรู้ถึงความรักห่วงใยของนาง แต่เขาเอามือลูบหน้าและมองตานางเป็นเวลานาน “นี่คือพลังของข้าจริงๆ หรือ?”
“เฮ้อ!”
เสียงถอนหายใจอยู่ด้านหลังเขา
เสี่ยวเหวินหลีผู้ได้รับประโยชน์จากการหลอมรวมขอบเขตพลัง ไม่รู้ตัวว่าเธอมีภาพฉายปีศาจอสรพิษทองสูงร้อยเมตรตั้งแต่เมื่อใด ปีศาจอสรพิษทองที่ดูเคร่งขรึม จริงจัง ปีศาจอสรพิษยักษ์สีทองควงดาบคู่แล้วฟันใส่มิติหลุมดำอย่างหนักหน่วง ดูเหมือนว่าเธอระเบิดพลังไปตามทางผ่านในมิติหลุมดำเพื่อช่วยนางพญาเฟ่ยเหวินหลีมารดานาง
ลำแสงศักดิ์สิทธิ์เป็นล้านๆ สายกระหึ่มคำรามไปตามทางมืดมิดไม่มีที่สิ้นสุด
นี่คือลำแสงโจมตีจากปีศาจอสรพิษทอง
ผนึกมิติหลุมดำไม่อาจทนได้
มีรอยแยกปรากฏ
ในท้องฟ้าไกลออกไปมีรอยเหมือนเป็นดวงดาว
แต่ที่ด้านข้างของนางพญาเฟ่ยเหวินหลีมีพลังกฎสวรรค์ปรากฏออกมาอย่างแน่นหนาและพันธนาการนางไว้ จนนางไม่สามารถแม้แต่จะกระพริบตาได้ รอยแยกของผนึกหลุมดำหายไปและพลังกฎสวรรค์ลึกลับก็หายไปสิ้นเชิงไม่เหลือร่องรอย ผนึกหลุมดำฟื้นฟูเป็นปกติ เหมือนกับว่าไม่เคยมีช่องแยกมาก่อน
เสี่ยวเหวินหลีตะลึง
เธอคิดว่าเมื่อเธอมีพลังระดับปราณราชันย์เทพ เธอจะช่วยมารดาได้สำเร็จ
ใครจะรู้กันว่าผนึกหลุมดำซับซ้อนเกินกว่าจะจินตนาการ
ความจริงเย่ว์หยางรู้อยู่ก่อนที่เธอจะยิงพลังออกไปว่า พลังยังไม่พอจะทะลวงผ่านมิติหลุมดำได้ ในช่วงแรกก่อนนั้นนางพญาเฟ่ยเหวินหลีสามารถเปิดมิติส่งเขาออกไปได้ และทุกครั้งหลังจากนั้นมาก็ทำเช่นนี้ ถ้าเฟ่ยเหวินหลีสามารถไปจากมิติหลุมดำได้ นางคงคลายผนึกและออกจากผนึกไปนานแล้ว พลังของผนึกที่แท้จริงก็คือกฎสวรรค์ ต้องมีความสามารถทางผนึกอย่างสูงส่งจึงจะสามารถผนึกหรือหลอกล่อแล้วเปิดรอยแยกผนึกช่วยนางพญาเฟ่ยเหวินหลีออกไป!
ในผนึกหลุมดำ
จะหลบหนีออกไปได้นั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย
นางพญาเฟ่ยเหวินหลีลูบศีรษะเสี่ยวเหวินหลีที่กำลังหลั่งน้ำตา ในยามนี้นางคือมารดาที่นุ่มนวลอ่อนโยน
“ลูกแม่, เจ้าทำอย่างนี้ แม่ก็ดีใจมากพอแล้ว แต่ไม่ต้องกังวลมากไปเรื่องนี้ปล่อยให้แม่กับพ่อของเจ้าคลี่คลายเรื่องนี้เอง พ่อเจ้าจะช่วยแม่เอง ประกายเทพในอนาคตของเขาก็คือโลก มิติหลุมดำเป็นแค่ส่วนหนึ่งของโลก...”
“แค่กๆ” เย่ว์หยางเมื่อได้ยินคำว่าพ่อ รู้สึกละอายเล็กน้อยโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาอยู่ในสภาพเปลือย
“อืน..” เสี่ยวเหวินหลีก็อยู่ในสภาพเปลือย แต่เธอไม่รู้สึกอึดอัดแต่อย่างใด ตรงกันข้ามเธอชอบความรู้สึกเป็นธรรมชาตินี้มากกว่า เธอกอดนางพญาเฟ่ยเหวินหลีและกอดเย่ว์หยางเบาๆ จนในที่สุดหลังจากใช้พลังงานไปมิติหลุมดำไปมากมาย เธอจูบอำลานางพญาเฟ่ยเหวินหลีและกลับไปพักในร่างของเย่ว์หยาง
นางพญาเฟ่ยเหวินหลีพอเสี่ยวเหวินหลีเข้าไปพักแล้ว ก็เปลี่ยนจากมารดาผู้เมตตากลายเป็นนางพญาผู้พิชิตทันที
นางนอนอิงบนอกเย่ว์หยาง
กอดเขาอย่างสนิทสนม
นางยังคงประคองสติไตร่ตรอง
เป็นเวลานาน เฟ่ยเหวินมีสีหน้าเคร่งขรึม “ถานไถถูเมี่ยเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งสำหรับเจ้า แต่ก็เป็นแค่ศัตรูคนหนึ่ง สติปัญญา กลยุทธ์และฝีมือของเขา ตัดสินได้เลยว่าไม่มีทางได้เป็นศัตรูระดับชั้นยอด แต่จีอู๋ลี่นั่นคือภัยคุกคามใหญ่ที่แท้จริง! ราชาไท่หลุนนั้นข้าไม่รู้ แต่ลานสำเร็จโทษตั้งแต่โบราณกาล นักรบรุ่นเก่ารู้ว่าภายใต้ลานสำเร็จโทษมีอักษรรูนอมตะอยู่สามวง กองกำลังธรรมดาไม่สามารถสั่นสะเทือนผนึกนั้นได้แม้แต่น้อย!”
เย่ว์หยางสะดุ้งตื่นด้วยความดีใจ “มีวงเวทรูนอมตะถึงสามวงเชียวหรือ?”
นางพญาเฟ่ยเหวินหลีใช้มือปิดปากเย่ว์หยางเบาๆ บอกเป็นนัยว่าไม่ให้เขาตื่นเต้นเกินไป “วงเวทรูนอมตะทั้งสามวงนั้นยากจะรับเอามาได้ ในอดีตข้าก็เคยล้มเหลวมาแล้ว ไม่ว่าถานไถถูเมี่ยจะฆ่าคนบูชายัญเท่าใดก็ตาม มีแต่จะเสียเปล่า เจ้าไม่ควรไปเสียเวลากับลานสำเร็จโทษ แต่ควรมุ่งไปที่ดินแดนฝึกฝนมากกว่า...”
เย่ว์หยางรู้ว่านี่เป็นข่าวสำคัญที่สุด เขารีบระงับความตื่นเต้น และฟังด้วยความระมัดระวัง
“ในดินแดนฝึกฝน”... ความจริงนี่คือกระบวนการฝึกคนรุ่นหลังเพื่อให้เป็นเทพในอนาคต!-!