ตอนที่ 826 ความเร็วและสถานะไม่คาดคิด
เงาร่างกระพริบวาบ
ผู้อาวุโสหวีมู่กลับมายืนอยู่ในที่เดิม ในมือขวาของเขาถือลูกตาโชกเลือด
เจ้าเมืองไถ่ถอนยิ้มมุมปาก เขารู้ว่าผู้อาวุโสหวีมู่ลงมือในกระบวนท่าเดียว ท่าควักนัยน์ตา เขาสามารถใช้สุดยอดความเร็วควักดวงตาศัตรูได้อย่างแยบยลทันทีทันใด ดวงตาที่ถูกควักออกมาแทบจะไม่เสียหายราวกับถูกผ่าตัดออกมาด้วยมีดหมอชั้นดี ด้วยความเชี่ยวชาญทางการแพทย์ ผู้อาวุโสหวีมู่ สามารถใส่ดวงตากลับคืนได้จากนั้นเชื่อมดวงตาให้หายได้ราวกับว่าไม่เคยเป็นอะไรมาก่อน
เพราะผู้อาวุโสหวีมู่ไม่เคยคิดจะใส่ดวงตากลับคืน
เขาไม่แสดงความรู้สึกทางดวงตาแม้แต่น้อย
เขาบีบทำลายดวงตาทีละดวง!
ผู้ชมดูโดยรอบสูดลมหายใจหนาวเหน็บ ผู้อาวุโสหวีมู่ผู้นี้อำมหิตไร้น้ำใจจริงๆ
อ๊า อ๊า อ๊า อ๊า
เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นในถนน
คนผู้นี้ไม่ใช่เย่ว์หยาง แต่เป็นผู้คุ้มกันที่อยู่ข้างผู้อาวุโสหวีมู่ เขาเป็นหัวหน้าองครักษ์ของเจ้าเมืองไถ่ถอนและอีกข้างหนึ่งเป็นพ่อบ้านจวนเจ้าเมือง เวลานี้ไม่ทราบว่าเพราะเหตุอะไร นัยน์ตาทั้งสองของเขาถูกควักออกไปเหลือแต่เพียงเบ้าตากลวงเปรอะเลือด แต่เจ้าผู้นี้ยังไม่รู้ตัวทันที เมื่อไม่อาจทนความเจ็บปวดได้เขาเอามือปิดเบ้าตาทั้งสองข้างร้องโหยหวนอย่างบ้าคลั่ง
ม่านตาของผู้อาวุโสหวีมู่หดลีบอย่างรวดเร็ว
เจ้าเมืองไถ่ถอนและคนโดยรอบมีความรู้สึกยิ่งกว่าถูกผีหลอก หน้าของทุกคนตกใจเหลือเชื่อ
เย่ว์หยางปรบมืออยู่คนเดียว ในท่ามกลางเสียงร้องเจ็บปวดสยดสยองที่ไม่ธรรมดา เสียงปรบมือนั้นดังสะท้านเหมือนค้อนกระหน่ำใส่หัวใจผู้คน
“ถ้าเจ้าคิดว่าจะควักลูกตาข้าได้ด้วยความเร็วราวกับเต่าคลาน อย่างนั้นเจ้าคิดผิดถนัด” เย่ว์หยางพูดไม่ทันจบนิ้วทั้งสองของผู้อาวุโสหวีมู่เริ่มแทงหนังตาเขาทันที ครั้งนี้ทุกคนมองเห็นได้ชัดว่าเด็กหนุ่มถูกควักนัยน์ตาแน่ ผู้อาวุโสหวีมู่เหมือนกับเงาที่ไม่สามารถจับได้ แต่การโจมตีของเขาทุกคนเห็นได้ชัด
ทันทีที่ผู้อาวุโสหวีมู่กลับมา เขาทำลายลูกตาที่อยู่ในมือของเขาทันที ไม่ยอมเปิดโอกาสให้ศัตรูมีโอกาสเสียใจ
“โอ๊ย..เจ็บ อู๊ยย เจ็บ!” เย่ว์หยางปิดหน้าตะโกน
“ฮึ่ม!” เจ้าเมืองไถ่ถอนแค่นเสียงเย็นชา
ถ้าเจ้าเด็กนี่ไม่ประมาท บางทีผู้อาวุโสหวีมู่คงไม่มีโอกาสควักตาเป็นครั้งที่สอง
ก่อนการบาดเจ็บนั้น ครั้งก่อนเจ้าเด็กนี่เหมือนกับมีความสามารถอยู่บ้างสามารถเปลี่ยนการบาดเจ็บของตนเองได้ แต่ครั้งที่สองนี้เล่า เขาสามารถหลบหนีอาการบาดเจ็บได้หรือไม่?
เจ้าเมืองไถ่ถอนกวาดตามองด้านหนึ่งพบว่าบริเวณรอบนอกไม่มีทหารได้รับบาดเจ็บที่ดวงตา แต่ฝ่ายตรงข้ามปิดหน้าร้องตะโกนอย่างน่ารังเกียจ เขาต้องการเปิดหน้าเจ้าเด็กนั่น และเยาะเย้ยเจ้าเด็กนั่นที่ถูกลงโทษ คาดไม่ถึงเลยว่าเขาไม่ได้แหกปากร้องอีกต่อไป แต่เป็นทหารที่อยู่ด้านหลังร้องอย่างคลุ้มคลั่ง “ไม่ใช่ๆ, นั่นมันตาข้า มาควักตาข้าทำไม ตาข้าหายไปแล้ว ข้ามองไม่เห็น!”
คนที่ชมดูรอบๆ มองไปที่เจ้าเมืองไถ่ถอนทันที
และพบว่ามีทหารคนหนึ่งในกลุ่มคนดูสะบัดศีรษะไปมาด้วยความเจ็บปวด ดวงตาของเขาถูกควักเหลือแต่หลุมเบ้าตาที่น่ากลัว
ครั้งนี้คนชมดูถอยออกไปอีกหลายสิบเมตรทันที เพราะกลัวจะเป็นเป้าหมายถ่ายเทอาการบาดเจ็บรายต่อไป
ชัดเจนแล้ว
ทำไมเจ้าเด็กนี่ถึงไม่กลัวถูกโจมตี?
เหตุผลก็คือเขามีวิธีถ่ายโอนอาการบาดเจ็บได้ ดังนั้นเขาที่เป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับสามจึงกล้าท้าทายผู้อาวุโสหวีมู่!
“กร๊อบ” ผู้อาวุโสหวีหมู่ควบแน่นกลุ่มพลังงานไว้ที่มือขวา ทันทีที่ยิงพลังออกไป ไม่เพียงแต่นักสู้ปราณฟ้าระดับสามเท่านั้น แม้แต่สิ่งก่อสร้างในเมืองไถ่ถอนจะพินาศพังทลายไปถึงครึ่งเมือง ผู้ชมดูกลัวมากกว่าพวกตนจะตาย ผู้อาวุโสหวีมู่เตรียมตัวจะลงมือ
“เดี๋ยวก่อน” ครั้งนี้คนที่กล้าขัดขวางก็คือทอเรนลิมา
ทอเรนรีบเข้ามาอยู่ข้างตัวเจ้าเมืองไถ่ถอนและรีบโบกมืออย่างเร่งรีบ “นั่นไม่ใช่การยักย้ายอาการบาดเจ็บ ฝ่ายตรงข้ามใช้สุดยอดความเร็วได้ การใช้พลังโจมตีทำลายล้างเป็นเรื่องเปล่าประโยชน์ เมืองใหญ่มีแต่จะถูกทำลาย” คำพูดนี้ทำให้ผู้อาวุโสหวีมู่หันมามอง ทุกคนเต็มไปด้วยความงงงวย ทอเรนกลืนน้ำลายเอื๊อกใช้นิ้วสั่นเทาชี้ไปที่เย่ว์หยาง ทักษะฝีมือของเขาไม่ใช้ยักย้ายอาการบาดเจ็บ แต่เป็นการเร่งความเร็ว! ตอนค้นหาแรกๆ ลิมามองเห็นไม่ชัด แต่สำหรับทหารคนที่สอง ข้าเห็นคนผู้นั้นเคลื่อนไหวก่อนผู้อาวุโสหวีมู่ไปที่ด้านหลังเจ้าเมือง จับตัวทหารและจากนั้นรอให้ผู้อาวุโสหวีมู่เข้ามาควักตาด้วยความเร็วสูง เป็นความเร็วที่ไม่สามารถจินตนาการได้”
เจ้าเมืองไถ่ถอนสะดุ้ง หนาวสะท้านไปทั้งร่าง “ว่าไงนะ?”
ทอเรนกลืนน้ำลายอีกครั้ง “ลิมาไม่ได้พูดไม่ถูก แม้ว่าความเร็วของผู้อาวุโสหวีมู่จะมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งแดนสวรรค์ใต้ แต่ฝ่ายตรงข้ามว่องไวกว่า!”
ผู้อาวุโสหวีมู่หันไปจ้องเย่ว์หยางอย่างจริงจังครั้งแรก
ภายใต้การจับจ้องของสาธารณชน เจ้าเด็กนี่แอบย่องเข้ามาข้างตัวเขาก่อนเล่นงานทหารปล่อยให้ถูกควักดวงตา และกลับมาได้ในที่สุด และด้วยการกระทำต่อเนื่องก็ยังผ่านสายตาของเขาไปได้หรือ? เจ้าเด็กนี่รวดเร็วขนาดไหนกันแน่? ผู้อาวุโสหวีมู่ไม่สามารถคิดได้ ครั้งแรกเขาคิดว่าเจ้าเด็กนี่ใช้กลอุบาย
เจ้าเมืองไถ่ถอนยังไม่อาจทำใจเชื่อและถามทอเรนอีกครั้ง “เจ้าเห็นได้ยังไง?”
ทอเรนฝืนยิ้ม “ลิมาสามารถใช้คลื่นกระแทกจากเท้าที่พิเศษซึ่งหูคนธรรมดาไม่ได้ยินเหมือนกับคลื่นพิเศษอย่างหนึ่งของค้างคาว ก็สามารถขยายครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด จากนั้นข้าจะสามารถฟังได้ ในช่องว่างเสียงสะท้อนนี้ เสียงจะบอกข้าทุกอย่างราวเห็นกับตา ข้าสามารถเห็นได้ แต่ไม่มีทางหยุดได้ ในทางตรงกันข้าม ข้าช้าเหมือนกับทากคลาน
ครั้งสามนี้หวีมู่เร่งความเร็วสูงสุด
คราวนี้เขาใช้ความเร็วที่เร็วที่สุด และทิ้งกลุ่มพลังเมือกหนืดแปลกประหลาดล้อมตัวเย่ว์หยาง
สองนิ้วของมือขวาเล็งที่ดวงตาของเย่ว์หยาง... เมื่อคนชมดูรู้สึกว่าเหมือนตกอยู่ในแอ่งเมือก ก็เหมือนมดตกลงไปในบ่อน้ำลึก ไม่ว่าดิ้นรนยังไงความเร็วจะช้าลง มองดูเหมือนเป็นภาพสโลว์โมชัน
พลังงานจากเมือกหนืดอยู่ในพื้นที่ตรงกลางส่วนใหญ่ ผู้คนเห็นผู้อาวุโสหวีมู่เป็นเหมือนปลาทะเล
รวดเร็วเหมือนสายฟ้า
ว่ายตรงมาอยู่ต่อหน้าเย่ว์หยางและแทงนิ้วทั้งสอง
แต่เรื่องมหัศจรรย์เกิดขึ้น ในพริบตาทุกคนเห็นว่าเด็กหนุ่มเคลื่อนไหวเร็วกว่าผู้อาวุโสหวีมู่
เทียบกับเขาแล้ว ความเร็วที่เหมือนสายฟ้าของผู้อาวุโสหวีมู่เหมือนกับเป็นความเร็วปกติธรรมดา การเคลื่อนไหวโต้ตอบของเขาหลบเลี่ยงจะจับนิ้วทั้งสองอย่างชัดเจน และถลันวูบมาอยู่ที่ข้างตัวของเจ้าเมืองไถ่ถอนและลากทหารองครักษ์กลับมาด้วยและวางรับหน้าผู้อาวุโสหวีมู่ ผู้อาวุโสหวีมู่ทั้งที่มองเห็นแต่ไม่สามารถยั้งมือไว้ได้
เมื่อเขามองดูขณะที่ตนเองควักตาของทหารนั้นออกมา จากนั้นเขาลากทหารที่บาดเจ็บสาหัสกลับไป และเพียงก้าวเดียวเขากลับมาประจำที่ก่อน
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือเพราะความเร็วนี้รวดเร็วเกินไป ทหารองครักษ์นั้นไม่ทันตระหนักว่าดวงตา ของเขาถูกควักออกไป
เมื่อผู้อาวุโสหวีมู่ถือลูกตาทั้งสองไว้ในมือ
องครักษ์ผู้นั้นจึงตระหนักได้ว่าเขาตาบอด เจ็บปวดร้องครวญครางคุกเข่าลงกับพื้น
หากไม่มีกลุ่มพลังเมือกหนืดทอนความเร็วให้ช้าลง คงไม่มีใครเห็นความเคลื่อนไหวของเย่ว์หยาง หรือแม้แต่การโจมตีของผู้อาวุโสหวีมู่
ตอนนี้ทุกคนเห็นอย่างชัดเจน ความเร็วของผู้อาวุโสหวีมู่นั้นเร็วมาก คนทั่วไปมาเทียบกับเขาเท่ากับทากคลาน อย่างไรก็ตามความเร็วที่น่าภาคภูมิใจของเขาเมื่อเทียบกับเด็กหนุ่มอีกฝ่ายหนึ่งพบว่าไม่ได้อยู่ในระดับใดๆ เลย ถ้าความเร็วของผู้อาวุโสหวีหมู่เหมือนกับปลา ความเร็วของเด็กหนุ่มก็เหมือนกับอินทรีเหิน หรืออาจไวกว่าสายฟ้า ไม่มีใครเคยคิดว่าคนเราจะมีความเร็วได้ถึงระดับนั้น ภายใต้การควบคุมของพลังเมือกหนืด เขาสามารถใช้ทหารที่อยู่ห่างออกไปสิบเมตรมาถูกควักนัยน์ตาแทนได้แล้วเอากลับไปคืนที่เดิม
น่ากลัวเหลือเกิน!
ความเร็วขนาดนี้ทำให้ผู้คนตกใจอย่างหนัก ไม่ใช่แค่ความเร็วเท่านั้น แต่เป็นความน่ากลัว
ความน่ากลัวจนผู้คนรู้สึกเย็นสันหลังวาบ.... เมื่ออยู่ต่อหน้าความเร็วอย่างนี้ ทุกคนจะรู้สึกว่าเหมือนกับตัวเล็กและไร้ประโยชน์
“เรื่องในวันนี้เพิ่งจะเริ่มเท่านั้น” ผู้อาวุโสหวีมู่ขยี้ดวงตาที่อยู่ในมือของเขาและทิ้งคำพูดสุดท้ายไว้ให้เย่ว์หยางก่อนจากไปอย่างว่างเปล่าและหายวับไปในทันที
“แล้วข้าจะรอนะ เจ้าเต่าเชื่องช้า!” เย่ว์หยางโบกมือให้ในทิศที่ผู้อาวุโสหวีมู่หายไปเหมือนกำลังส่งเพื่อนเก่า
เจ้าเมืองไถ่ถอนตอนนี้รู้สึกอึดอัดใจ
ผู้อาวุโสหวีมู่ไม่สามารถทำอะไรเจ้าเด็กนี่ได้ แต่กลับได้รับความอับอายเพิ่มขึ้น
ก่อนหน้าปัญหานี้เขาได้บอกก่อนแล้ว เขาไม่ต้องการจะทำอะไร แต่เจ้าเมืองไถ่ถอนนี้ไม่ใช่คนตาขาว
เขาตั้งหลักได้และปรบมืออย่างหนักหน่วง “ก็ได้ เจ้าไวมาก มีร่างกายที่ดี เคลื่อนไหวได้ยอดเยี่ยม! ความจริงในหมู่พวกเราคงจะมีความเข้าใจผิดกันนิดหน่อย ถ้าทุกคนพูดกันชัดเจนแล้วก็ไม่เป็นไร โจรผู้มีความกล้าหาญอย่างหัวหน้าลี่เยี่ยน เราเจ้าเมืองชื่นชมเสมอ สำหรับน้องชายผู้นี้ผู้อาวุโสหวีมู่กลายเป็นวีรบุรุษผู้น่าสงสารและเขาถูกชิงคันชั่งดีชั่วที่เขารัก ข้าดีใจที่มีเด็กหนุ่มอย่างนี้ สำหรับเรื่องนี้...”
คำพูดของเจ้าเมืองไถ่ถอน ทำให้คนบนถนนแทบจะเลี่ยนตาย
หัวหน้าลี่เยี่ยนมีจิตใจที่กล้าหาญมานานแล้ว เจ้าเพิ่งจะมาชมเอาตอนนี้หรือ?
คันชั่งฟ้าตัดสินดีชั่วถูกคนอื่นยึดไป! ผู้อาวุโสหวีมู่ได้แต่ผายลม ความเร็วก็สู้คนอื่นไม่ได้ ผู้อาวุโสหวีมู่ตั้งใจจะควักลูกตาของเจ้าเด็กนั่น และเขาหลบหลีกได้อย่างสบาย แต่เจ้าเมืองผู้นี้กลับพูดขึ้นอย่างไร้ยางอาย ไม่สามารถอธิบายให้ถูกต้อง! ถ้าบอกว่าเจ้าผู้นี้หน้าหนา ก็ยังถือว่าพูดสุภาพเกินไป?
ความจริงเจ้าเมืองไถ่ถอนนับเป็นบุคคลเจ้าเล่ห์คนหนึ่งในแดนสวรรค์ใต้!
เดิมทีเจ้าเมืองไถ่ถอนให้ความสนใจหญิงงามอย่างเจ้าเมืองโล่วฮัว แต่นางไม่เปิดโอกาสให้เขา
ดวงตาของนางไม่ได้มองมาทางฝั่งตรงข้าม เหมือนกับว่าเจ้าเมืองไถ่ถอนไม่มีตัวตน นางสั่งนักสู้ปราณฟ้ารอบๆ ตัวนางให้ช่วยย้ายกระถางดอกไม้และกวักมือเรียกเย่ว์หยางและลี่เยี่ยน “ไปกันเถอะ, ไม่มีอะไรสนุกสักหน่อย ผู้อาวุโสตำหนักอะไรกัน เหมือนกับลิงค่าง น่าเบื่อ น่าเบื่อเหลือเกิน! เอาล่ะ องครักษ์ส่วนตัวของข้า จะทำยังไงกับดวงตาของเขา?”
“กำลังรอคำสั่งของท่านอยู่?” เย่ว์หยางพูดว่าถ้าไม่มีคำสั่ง หัวหน้าองครักษ์ที่ว่าง่ายนี้ก็ไม่สามารถฆ่าใครได้
“อย่างนั้นค่อยทุบตีเขาในครั้งต่อไป ข้าเกลียดคนที่ไม่รู้จักประมาณตนเองนัก!” เจ้าเมืองโล่วฮัวพูดด้วยความเข้าใจ
“ตามที่ท่านปรารถนา” เย่ว์หยางในฐานะหัวหน้าองครักษ์แสดงได้สมบทบาท
“เอาคันชั่งฟ้าออกมาดูหน่อย..ดูแล้วไม่ใช่ของดีเลย คันชั่งฟ้าดำนี้เป็นของเจ้า ส่วนขนนกเงินข้าจะเก็บไว้!” เจ้าเมืองโล่วฮัวส่งคันชั่งฟ้าดำให้เย่ว์หยาง แต่ด้วยการกระทำที่กลมกลืน เย่ว์หยางทำสีหน้าเหมือนสำนึกบุญคุณ “ขอบคุณท่านเจ้าเมือง วันนี้ท่านเป็นเจ้าเมืองที่ใจดีที่สุดในสวรรค์บนแล้ว”
“เรื่องเล็กน้อย, ต่อไปอย่าให้เราเจ้าเมืองต้องขายหน้าอีก มิฉะนั้นเจ้าจะไม่ได้เป็นหัวหน้าองครักษ์ส่วนตัว ใครตอแยข้าอีก ให้ฆ่าได้โดยตรง และข้าเกลียดพวกเห็บเหาอย่างผู้อาวุโสตำหนัก! แต่ว่าช่างเถอะ กลับกันเถอะ!” เจ้าเมืองโล่วฮัวส่งขนนกเงินให้ลี่เยี่ยน ลี่เยี่ยนพลอยผสมโรงกับนาง นางคำนับด้วยความเคารพและรับของไว้
คนที่อยู่รอบๆ ปล่อยให้เจ้าเมืองโล่วฮัวผ่านไป พวกเขาตัวสั่น
ผู้อาวุโสตำหนักกลางซึ่งมีสถานะที่มีเกียรติ ยังไม่คู่ควรพูดต่อหน้านาง อย่างนั้นหญิงงามผู้นี้มีสถานะใดกันแน่? หรือว่านางคือบุคคลในตำนาน... เจ้าเมืองไถ่ถอนหลั่งเหงื่อพรั่งพรู แต่ไม่กล้าเช็ด เขารีบคำนับด้วยท่าทีนอบน้อม เขากลัวจริงๆ ว่าเจ้าเมืองโล่วฮัวจะบอกเย่ว์หยางให้ทำลายเขา
สำหรับทอเรนลิมายิ่งไม่ง่ายหนักขึ้น เขากลัวจนคุกเข่ากับพื้น
ตอนนี้ต่อให้เจ้าเมืองโล่วฮัวตัดศีรษะของเขา เขาย่อมไม่กล้าคัดค้าน
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเด็กหนุ่มที่เอาชนะความเร็วของผู้อาวุโสหวีมู่ได้ และหัวหน้าลี่เยี่ยนที่มีพลังปราณฟ้าระดับห้าล้วนทำงานให้นาง มิน่าเล่านางถึงกล้าบอกให้คนแปลกหน้าทำงานให้นางได้เหมือนกับสั่งงานตามปกติ คนเหล่านั้นหลายคนถือกระถางดอกไม้ให้นางอาจมีความภูมิใจก็ได้ หากพวกเขารู้สึกตัวเองว่าไม่มีคุณสมบัติ พวกเขาอาจจะเกลียดตัวเองที่ยืนห่างเกินไป ถ้าพวกเขายืนอยู่ด้านหลังสาวงามชนชั้นสูง พวกเขาเชื่อว่ามีโอกาสที่จะกลายเป็นคนมีเกียรติมากไปด้วย
ลี่เยี่ยนและเย่ว์หยางลอยตัวขนาบเจ้าเมืองโล่วฮัวบินจากไป
ผู้คนที่อยู่บนถนนเหมือนกับปั่นป่วนตะลึงมอง และใช้สายตาส่งนางจากไป ไม่มีใครกล้าดูแคลนนางแม้แต่น้อย
เจ้าเมืองไถ่ถอนตัวเปียกโชก ทุกคนเป็นเหมือนกับปลาได้น้ำ แต่ผู้อาวุโสหวีมู่นับว่าโชคดีแล้ว มิฉะนั้นเขาคาดว่าเขาคงไม่ยอมให้สาวงามตัดศีรษะแน่ อย่างน้อยก็คงควักตาเขาจนบอดเหมือนกับบริวารเคราะห์ร้ายทั้งสามของเขา
“เร็วเข้า มุกมีค่าที่ข้ารวบรวมเก็บไว้ ให้ส่งไปให้ท่านผู้มีเกียรตินี้ นอกจากนี้พยายามรวบรวมข่าวทั้งหมด ข้าต้องการรู้สถานะของท่านผู้มีเกียรตินี้ให้ได้ ถ้าพวกเจ้าขัดขวางพวกเขา ข้าจะตัดศีรษะของเจ้า! เดี๋ยวก่อน จำเอาไว้ เมื่อพวกเจ้าไป อย่าได้เสียมารยาทเด็ดขาด!” เจ้าเมืองไถ่ถอนรู้สึกคันหัวใจยากจะเกา
เขารู้ว่าเพราะการดำเนินการประหารราชาไท่หลุน เมืองของเขาจะมีผู้มีสถานะสูงส่งมาเยือน
คนผู้นี้คือใคร?
ไม่สามารถนึกภาพออก!
แต่คงเป็นบุคคลชั้นสูงในสวรรค์บนแน่
เป็นการยากที่จะแนะนำตัว และเป็นไปไม่ได้ที่จะขอพบเป็นการส่วนตัว คนชั้นสูงแบบนั้นไม่ใช่ว่าทุกคนจะพบได้
ถ้านางรู้ว่าผู้อาวุโสตำหนักกลางเป็นคนอย่างนั้น แล้วยังไม่แลมองหรือให้ความสนใจเหมือนกับเป็นมดแมลง ใครจะนึกจะฝันกันเล่า!