ตอนที่แล้วตอนที่ 61 หมออลัน(อ่านฟรี11/02/2566)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 63 ล่าหมูป่า(อ่านฟรี15/02/2566)

ตอนที่ 62 การตัดสินใจของเรน(อ่านฟรี013/02/2566)


ตอนที่ 62 การตัดสินใจของเรน

รถหุ้มเกราะล้อยางน้ำหนักเบา 4 ล้อเคลื่อนตัวผ่านเส้นทางในป่าไปอย่างรวดเร็วตรงไปยังโรงเลื่อยไม้ที่ซ่อนอยู่ในป่า พอมาถึงรถก็จอดที่หน้าประตู

เรนลงจากรถไปเปิดประตูรั้วให้ผู้กองเชนขับรถเข้าไปด้านใน พอรถหุ้มเกราะเข้ามาด้านในผู้กองเชน หลิน ลุงบุญและหมออลันก็พากันลงมาจากรถ

“ไม่เห็นมีพวกของนายอยู่สักคน” หมออลันถามอย่างสงสัย

“ไอราพวกเราเอง” เรนรู้ว่าคนอื่น ๆ คงได้ยินเสียงรถที่ไม่คุ้นเคยและพากันไปซ่อน

เมื่อได้ยินเสียงตะโกนเรียกของเรน ไอราก็เปิดประตูโรงนอนเดินออกมา

“เป็นพวกนายเอง สำเร็จไหม” ไอรารีบถามถึงแผนการที่พวกเขาออกไปทำกันในวันนี้

“สำเร็จ นี่หมออลัน” เรนแนะนำหมออลันให้กับไอรา ก่อนจะถามต่อว่า “คนอื่น ๆ เป็นอย่างไรบ้าง”

“พวกเขายังโอเครอยู่” ไอราตอบ

“หมอช่วยเข้าไปดูพวกของผมหน่อย แล้วจากนั้นเราค่อยมาคุยกัน” เรนหันไปพูดกับหมออลันอย่างสุภาพ แม้เขาจะพาหมออลันมา แต่หมออลันก็ไม่ใช่นักโทษ

หมออลันพยักหน้าเข้าใจ เขาถือกระเป๋าเครื่องมือแพทย์ของตนเองเดินเข้าไปในโรงนอน

“ฉันจะไปตรวจของในรถหน่อยว่ามีอะไรบ้าง” ผู้กองเชนกล่าว ก่อนจะไปตรวจดูรถหุ้มเกราะล้อยางน้ำหนักเบา 4 ล้อ ซึ่งด้านในมีกล่องของกองทัพอยู่จำนวนหนึ่ง

ลุงบุญนั้นแยกตัวออกไปล้างหน้าล้างตาและหาที่พัก เขาแก่แล้วจึงรู้สึกเหนื่อยมากเป็นธรรมดา โดยเฉพาะเรื่องราวในวันนี้ที่ต้องผ่านเหตุการณ์เป็นตายมา

เรนและหลินนั้นเดินตามหมออลันไปที่โรงนอน

“ดูท่าอาการจะหนักพอสมควร” หมออลันมองดูบาดแผลของรินดา มือของเธอนั้นโดนตัด แถมยังไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องด้วย

“หมอช่วยเธอได้ไหม” ไอราถามอย่างกังวล

“ได้อยู่” หมออลันตอบ ก่อนจะหันไปมองลีที่พอจะลุกขึ้นมานั่งได้ แต่สภาพของเขาก็เหงื่อออกไปทั้งตัวจากอาการไข้

“ผมขอดูแผลหน่อย” หมออลันแกะผ้าพันแผลออก ก็พบว่าแผลของลีนั้นเริ่มคล้ำแล้วทำให้หมออลันถึงกับขมวดคิ้วและพูดขึ้นมาว่า “แผลเขาติดเชื้อคงต้องตัดเนื้อที่ตายออก ไม่อย่างนั้นมันจะอักเสบจนติดเชื้อในกระแสเลือดและตาย”

“ผมต้องการไฟให้ในนี้สว่างและก็น้ำสะอาดกับผู้ช่วยสักคนสองคน” หมออลันหันไปบอก

“ฉันจะช่วยเอง” หลินเสนอตัว

“ฉันก็ด้วย” ไอราพูดขึ้นมาอีกคน

หมออลันพยักหน้าตกลงที่ได้สองสาวมาช่วย

“ผมจะไปเอาน้ำมาให้” เรนกล่าว ก่อนจะไปเตรียมน้ำสะอาดให้จากนั้นก็ไปรอด้านนอก เพราะอยู่ด้านในก็มีแต่จะไปรบกวนการรักษา

หมออลันเริ่มจากลีก่อน เพราะง่ายมากที่สุด

...

เรนเดินออกมาด้านนอกเห็นว่าผู้กองเชนนั้นกำลังลากกล่องกองทัพลงมาจากหลังรถ เรนจึงเข้าไปช่วยยกลงมา ทั้งสองยกกล่องกองทัพจำนวนสามกล่องมาวางอยู่ไม่ไกลจากรถ

“มาดูกันว่ามีอะไร” ผู้กองเชนกล่าว ก่อนจะกระแทกล็อกกล่องจนหลุดจากนั้นก็เปิดขึ้นก็พบว่าด้านในนั้นเต็มไปเต็มไปด้วยกระสุนปืน 5.56 มม.x45 NATO ซึ่งเป็นชนิดที่ใช้กับปืนไรเฟิล M16A4

“ถ้าเป็นอย่างที่คิดอีกกล่องก็คงเป็น” ผู้กองเชนหันไปมองอีกกล่องข้าง ๆ

เรนรีบเปิดกล่องข้าง ๆ กันก็พบกับปืนไรเฟิล M16a4 ที่ติดตั้งเครื่องยิงระเบิด M203 จำนวน 6 กระบอกอยู่ด้านใน และกล่องสุดท้ายนั้นเป็นกล่องของลูกระเบิดขนาด 40 มม.

“ดูเหมือนพวกเราจะเจอแจ็คพ็อต” ผู้กองเชนยิ้มออกมาจากนั้นก็หยิบปืนขึ้นมาดูอย่างสนใจ

เรนก็ไม่ต่างกัน การที่ได้อาวุธมาเพิ่มทำให้กลุ่มของพวกเขานั้นปลอดภัยมากขึ้น

ผ่านไปเกือบ ๆ 3 ชั่วโมงในที่สุดหมออลันก็เดินออกมาด้านนอกด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อ เรนเริ่มเดินเข้าไปถามในทันที

“หมอเป็นยังไงบ้าง”

“เสร็จแล้วแผลพวกเขาไม่เป็นอะไรแล้ว แต่ว่าต้องดูกันไปเรื่อย ๆ จนกว่าแผลจะหายดี” หมออลันตอบ ก่อนจะถามว่า “คุณรู้เรื่องห้องแล็บที่ค่ายบนภูเขาได้ยังไง ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหม”

เรนคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตกลงเขาเริ่มจากเอาเอกสารที่เก็บได้มาออกมาให้กับหมออลันก่อนจะเล่าเรื่องที่พบเจออย่างละเอียด ยกเว้นบางที่ที่เรนไม่อยากให้รู้

“เห้อ...เป็นแบบนี้นี่เองไม่คิดว่าที่นั่นก็ไม่รอดเหมือนกัน หมอกสีดำพวกนั้นอันตรายเกินไปจริง ๆ” หมออลันกล่าวพลางถอนหายใจ

“ที่ค่ายลี้ภัยเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมถึงมีแต่ผู้ติดเชื้อมากขนาดนั้น” เรนถามถึงสิ่งที่สงสัย

ผู้กองเชนก็นั่งอยู่ท้ายรถ ห่างออกไปมีไอรายืนพิงต้นเสาและหลินนั้นนั่งอยู่ที่ทางเข้าโรงนอน ส่วนลุงบุญนั้นนั่งอยู่บนท่อนไม้ พวกเขาทุกคนกำลังรอฟังสิ่งที่เกิดขึ้นกับค่ายลี้ภัยอยู่

หมออลันเงียบลงก่อนจะเปิดปากเล่าเรื่องที่เกิดขึ้น “ฉันไม่แน่ใจว่าเกิดจากอะไร แต่พวกทหารพูดกันว่าพวกมันมาจากทางท่อน้ำทิ้ง มันพังกรงเหล็กเข้ามาและเริ่มกัดผู้คน กว่าที่จะรู้ตัวเชื้อกระจายไปทั่วแล้ว สุดท้ายทั้งค่ายก็เป็นอย่างที่เห็น”

“คุณรู้ที่อยู่ค่ายลี้ภัยถัดไปไหม” เรนถามหมออลัน

“แต่ละเขตจะมีค่ายลี้ภัยอยู่แห่งหนึ่ง” หมออลันตอบ

ทุกคนนิ่งเงียบพวกเขาไม่รู้ว่าจะเอายังไงต่อ เพราะว่าถ้าเป็นตามที่หมออลันบอก ถ้าต้องการเดินทางไปที่ค่ายลี้ภัยจะต้องไปยังเขตอื่น ๆ แต่ว่ามันไกลเกินไป พวกเขาคงตายหมดก่อนที่จะเดินไปถึงที่นั่น

“คุณจะเอายังไงต่อ” เรนถามหมออลัน

“ฉันจะทำอะไรได้อีก นอกจากเข้ากลุ่มของนาย” หมออลันตอบ ที่จริงเขารู้ว่าตอนนี้ที่ปลอดภัยคือการอยู่กับกลุ่มของเรน

“อืม ผมก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น” เรนพยักเบา ๆ การมีหมอในกลุ่มนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดี

เรนหันไปมองทุกคนก่อนจะพูดด้วยท่าทางจริงจังว่า “พวกเราผมตัดสินใจว่าจะอยู่ที่นี่ พวกเราไม่อาจจะเดินทางเร่ร่อนไปเรื่อย ๆ ได้ มันอันตรายเกินไป ผมไม่บังคับใครจะอยู่หรือไป พวกคุณตัดสินใจเองได้เลย”

ทุกคนได้ยินก็มองไปที่เรนโดยไม่ได้พูดอะไร ซึ่งเป็นการบอกชัดเจนว่าพวกเขาจะทำตามความคิดของเรน

...

7 วันต่อมา

มันไม่มีฝนตกอีกแล้ว ดูเหมือนฝนก่อนหน้าที่ตกจะไม่เกิดขึ้นอีก กลุ่มของเรนเริ่มทำความสะอาดโรงเลื่อยเก่าแห่งนี้ โดยเริ่มจากขนไม้ด้านในที่ถูกทิ้งไว้ออกมาและใช้ซ่อมแซมโรงนอนกับส่วนอื่น ๆ

พวกเขายังตัดต้นไม้ออกและพวกมันมาสร้างเป็นกำแพง แม้โรงเลื่อยไม้จะมีแนวป่ากันพวกผู้ติดเชื้อ แต่การมีกำแพงก็ยังทำให้รู้สึกปลอดภัยกว่า อีกอย่างก็ช่วยกันพวกสัตว์ในป่าได้ด้วย

พูดถึงสัตว์ในป่าแล้วก็สร้างความกังวลให้กับเรนและผู้กองเชนอยู่พอสมควร พวกเขาพบว่าสัตว์แทบจะทุกชนิดนั้นเริ่มกลายพันธุ์กันจนหมด ทำให้เนื้อของพวกมันนั้นติดเชื้อไปด้วย ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย เพราะแทนที่เนื้อของสัตว์เหล่านั้นจะเป็นแห่งอาหารให้พวกเขาได้มันกลับกลายเป็นขยะไปซะได้

แต่ว่าดูเหมือนปัญญาจะได้รับการแก้ไข เพราะหมออลันนั้นเคยวิจัยพวกมันมาระยะหนึ่งและบอกว่า เชื้อของสัตว์จริง ๆ แล้วไม่ได้ติดเชื้อไปทุกส่วนยังมีบางส่วนที่สามารถกินได้ แต่ว่าตอนนั้นไม่ได้ศึกษาเรื่องนี้มากนัก ดังนั้นหมออลันจึงต้องการตัวอย่าง

เรนและผู้กองเชนจึงอาสาจะไปล่าสัตวาสักตัวมาให้ เพราะถ้าเป็นอย่างที่หมออลันบอกพวกเขาจะได้มีแหล่งอาหารเพิ่มขึ้น

“เราจะล่าอะไร” ผู้กองเชนหันมาถามเรน

“สัตว์ตัวไหนก็ได้ที่เจอ ว่าแต่คุณทำการฝ่าระดับหรือยัง” เรนเอ่ยถาม

“ยัง แต่ฉันตัดสินใจแล้วน่าจะอีกสักพักถึงจะฝ่าระดับ” ผู้กองเชนตอบ

“ถ้าอย่างนั้นเราควรหาสัตว์เผื่อทำเป็นรูนิกด้วย” เรนตอบ

ผู้กองเชนได้ยินก็คิดว่ารูนิกของเขาควรจะเป็นสัตว์ชนิดไหน

ทั้งสองเดินถือปืนไรเฟิลคนละกระบอกเข้าไปในป่า จุดที่โรงเลื่อยตั้งอยู่นั้นอยู่ในป่า แต่ก็ไม่ลึกมาก ถ้าต้องการเจอกับสัตว์กลายพันธุ์พวกเขาต้องเข้าไปลึกกว่านี้อีกหน่อย

หลังจากใช้เวลาประมาณ 20 นาทีเรนและผู้กองเชนก็ระมัดระวังตัวมากขึ้น เพราะป่านั้นอันตรายไม่ต่างจากในเมือง ในเมืองมีผู้ติดเชื้อในป่ามีสัตว์กลายพันธุ์ ทั้งสองต้องพยายามไม่เป็นจุดเด่นจนไปดึงดูดพวกระดับ 2 มา

“ตรงนั้น” ผู้กองเชนหันไปกระซิบบอกกับเรน

เรนมองตามและค่อย ๆ เดินไปดูด้านหลังเนิน พวกเขาพบลำธารสายเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง มันมีหมูป่าขนาด 2 เมตรตัวหนึ่งกำลังกินน้ำในลำธารอย่างใจเย็น ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านี่คือหมู่ป่ากลายพันธุ์

พวกเขาใช้แหวนพลังตรวจสอบมันในทันที

“หมูป่ากลายพันธุ์ระดับสัตว์ป่า ระยะแรก”

“นายคิดว่าตัวนี้จะแข็งแกร่งกว่ากวางเอลก์ตัวนั้นไหม” ผู้กองเชนถาม

“ถ้ากวางเอลก์นั้นเป็นพวกวิวัฒนาการล้มเหลวจัดไว้อยู่ระดับต่ำกว่าธรรมดา หมูตัวนี้น่าจะเป็นระดับสัตว์ป่าธรรมดา แต่ยังไม่แข็งแกร่งเท่างูยักษ์อนาคอนด้าที่เป็นเหมือนพวกขั้นสูง” เรนกล่าว

ระหว่างช่วงที่ผ่านมาเรนและอลันได้แบ่งปันข้อมูลกัน จากนั้นก็เริ่มแบ่งชนิดของสัตว์กลายพันธุ์ไว้ คือ พวกที่วิวัฒนาการล้มเหลวนับเป็นตัวที่อ่อนแอสุด

สัตว์ป่าธรรมดา ที่แข็งแกร่งกว่าสัตว์ทั่วไปแต่ก็ยังไม่มาก

สัตว์ป่าขั้นสูง คืออย่างงูยักษ์อนาคอนด้าที่เรนและพวกสู้ตายกับมัน

และสุดท้ายคือสิ่งที่หมออลันคาดการไว้ว่าอาจจะมีพวกที่พิเศษอย่างจ่าฝูงในระดับสัตว์ป่าอยู่ด้วย แต่ว่าพวกเขายังไม่เคยเจอมาก่อนและก็ไม่คิดจะเจอด้วย

“ลงมือกันเถอะ” เรนกล่าว ก่อนจะเอารูนิกคันธนูออกมา เขาไม่คิดจะใช้ปืนไรเฟิลเพราะมันจะเสียงดังเกินไป ส่วนที่เขามานั้นก็เผื่อกรณีฉุกเฉินเท่านั้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด