ตอนที่ 829 คนอันตราย
ซือหม่าเซี่ยวเองไม่รู้ว่านานเท่าใดแล้วที่เขาไม่ได้ยิ้มอย่างนั้น
หลังจากเข้าแดนบาปเขาสูญเสียความหยิ่งผยองไปหมดสิ้น อำนาจพลัง ทุกอย่างได้จากเขาไปเขาไม่ใช่ราชาแมงป่องผู้ทำให้ผู้คนสั่นสะท้านอีกต่อไป เขาทำอย่างดีที่สุดเพื่อปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมถ่อมตัว พยายามอย่างหนักเพื่อปรับตัวให้เข้ากับการฝึกของหน่วยสุญญตา
ตั้งแต่ยังเล็กเขาเข้าใจแนวคิดว่าคนไร้ค่าต้องตายแบบกระสุนมนุษย์ก่อน
และชีวิตของเขาที่หมดสีสันไปเริ่มกลับมาสู่โลกของเขาหลังจากย่างเข้าสู่ทวีปรกร้าง
โกวอวี้ของเขาดูดซับพลังงานได้ไม่มีสิ้นสุดและในที่สุดไม่กี่วันก่อนโกวอวี้กลับได้สติแล้ว
(โกวอวี้---ขุนพลวิญญาณที่หลอมรวมเข้ากับสมบัติชั้นเซียนของกลุ่มดาวแมงป่อง)
ใบหน้าที่มีเสน่ห์สามารถทำให้ทุกคนว้าวุ่นได้ บุรุษรูปงามอื่นถึงกับหน้าแดง และพลังที่ทรงพลังนั้นทำให้ทุกคนยอมรับเขาเช่นกันเมื่อเขากลับมาสู่โลกของเขา เขากลายเป็นราชาแมงป่องผู้สามารถเรียกลมเรียกฝนได้จากสิ่งที่ไม่มีอะไร
“โกวอวี้ออกมา”
สายลมพัดแผ่วกระจายอยู่ในอากาศ ผมสั้นสีแดงอ่อนนุ่มของชายหนุ่มไหวเอนตามสายลม
เสียงถอนหายใจกระจายไปผ่านมิติและเวลาโดยไม่มีเค้าลางบอกเหตุหลายคนสีหน้าเปลี่ยน
อ้าวเติ้งที่ไม่เคยแสดงสีหน้าอะไรตั้งแต่แรกในที่สุดก็เปลี่ยนสีหน้า เขาไม่รู้สึกถึงความผันผวนของพลังแต่อย่างใดภาพที่เหมือนหมอกดูเหมือนจะมาจากทุกตำแหน่ง และดูเหมือนว่าจะมาจากในใจของเขา
ม่านตาของเขาหรี่แคบทันที
โดยไม่รู้ตัวมีร่างหญิงงามคนหนึ่งปรากฏตัวอยู่ข้างบุรุษหนุ่ม
‘นางปรากฏตัวอยู่ตรงนั้นเมื่อไหร่?’
‘ข้าไม่รู้สึกถึงนางแม้แต่น้อย!’
ความรู้สึกเย็นยะเยือกผุดขึ้นมาจากใจของอ้าวเติ้ง และเขากำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัว เป็นครั้งแรกที่ความมุ่งมั่นที่กร้าวแกร่งต้องการจะเอาชนะและความมั่นใจของเขาสั่นคลอน คนที่อยู่ต่อหน้าเขาเริ่มรู้สึกแปลกประหลาดต่อเขา
เมื่อโกวอวี้ปรากฏตัวนางครองความงามไปทั้งท้องถนนแสงทั้งหมดรวมตัวอยู่ที่นาง
นางเหยียดมือออก จากนั้นบิดเอวของนางเหมือนกับเพิ่งตื่นจากการหลับ เป็นการเคลื่อนไหวที่เฉื่อยชามากจนเกิดความปั่นป่วนที่อธิบายไม่ได้กระจายอยู่ในอากาศอย่างเงียบงัน
อ้าวเติ้งรู้สึกว่าบางอย่างผิดปกติ เขารู้สึกว่าสบายตัวอยู่ภายใต้พระอาทิตย์
‘มีบางอย่างผิดปกติ!’
ทันใดนั้นเขาตื่นตัวทันทีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอีกครั้ง ในที่สุดเขาก็เรียกความรู้สึกกลับมาได้ พลังงานในอากาศกลายเป็นมีชีวิตชีวา
‘นางทำอะไรกันแน่?’
เขาไม่เคยได้ยินวิชาเช่นนั้นมาก่อน เขาต่อต้านความตกใจในหัวใจและถาม “พวกเจ้าเป็นใคร?”
“ข้าคิดว่าเจ้าไม่เคยได้ยินชื่อพวกเรามาก่อน”
บุรุษหนุ่มผมสั้นยิ้มเสียงของเขาเป็นกันเองเหมือนดวงอาทิตย์
“เกิดอะไรขึ้น?เจ้าหยาบคายกับแขกผู้ทรงเกียรติของเราได้ยังไง! กล้าทำแบบนี้ได้ยังไง!”
ทันใดนั้นมีร่างหนึ่งส่งเสียงคำรามและลอยตัวลงมาจากฟ้าเป็นบุรุษวัยกลางคนที่อยู่ในอาคาร เขาคำรามใส่อ้าวเติ้งด้วยความโกรธ ก่อนนี้ เขาเห็นการเผชิญหน้ากันและเมื่ออ้าวเติ้งถามว่า “พวกเจ้าเป็นใคร” เขารู้ว่าพวกเขาเผชิญกับเรื่องยุ่งยาก
อ้าวเติ้งเป็นคนที่ไม่เคยชอบพูดเรื่องไร้สาระ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่ออยู่หน้าการสู้รบ สำหรับเขาการถอยทัพและไม่เข้าร่วมสู้รบแต่ถามเบื้องหลังอีกฝ่าย ก็หมายความว่าเขาไม่มั่นใจว่าจะชนะได้
บุรุษวัยกลางคนรู้ตัวได้เร็วเขารู้ว่าอ้าวเติ้งต้องการความช่วยเหลือ และปรากฎตัว
อ้าวเติ้งถอนใจโล่งอก แต่ทำเหมือนว่าเขาไม่รู้อะไร และคำนับบุรุษวัยกลางคน “นายท่าน”
บุรุษวัยกลางคนหันหน้ามายิ้มให้ “บริวารผู้น้อยของข้าไม่ได้รับการสอนสั่งอย่างดีและล่วงเกินพวกท่านทั้งหลายภายใต้การดูแลของข้า ข้าหวังว่าพวกท่านทุกคนจะให้โอกาสข้าขออภัย ข้าชื่อโจนาธาน และข้าเป็นผู้อาวุโสสำนักของกลุ่มผู้ค้าตะวันตกข้ารับผิดชอบพื้นที่นี้ ทุกคน,พวกท่านทุกคนจะเป็นสหายของข้าจากนี้ ถ้าพวกท่านต้องการอะไรที่นี่โปรดถามข้าได้ไม่ต้องเกรงใจ”
ซือหม่าเซี่ยเอียงคอและมองดูโจนาธานพร้อมยิ้มซึ่งดูไม่เหมือนยิ้ม
ด้วยเหตุผลบางอย่างบุรุษหนุ่มผมสีน้ำตาลต่อหน้าเขายิ้มเหมือนดวงอาทิตย์ แต่มันทำให้เขารู้สึกถึงอันตราย เขาบังคับตนเองให้สงบใจเขาพบทางออกของสถานการณ์ แต่ถ้าอีกฝ่ายไม่มีกลยุทธ เขาก็ไม่กลัวเหมือนกัน กลุ่มพ่อค้าตะวันตกไม่ว่าจะเป็นทอม ดิคหรือแฮรี่และเขามีความมั่นใจในตนเอง
ในภูมิภาคตะวันตกของทวีปกวงหมิงไม่มีใครกล้าทำตามอำเภอใจตัวเองเมื่ออยู่ต่อหน้ากลุ่มพ่อค้าตะวันตก ในฐานะผู้ทำธุรกิจสูงสุดในทั่วทั้งทวีปกวงหมิง กลุ่มพ่อค้าตะวันตกมีสัมพันธ์กับทางการของทวีปกวงหมิงมากมายและผูกขาดอุตสาหกรรมเหมืองแร่ในทวีปกวงหมิง นอกจากนี้ภูมิภาคตะวันตกนับว่าเป็นแผ่นดินของพวกเขา ดังนั้นพวกเขาไม่กลัวใคร
เหตุผลที่เขาให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาไปพิสูจน์เพื่อดูว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่ง และถ้าพวกเขาไม่แข็งแกร่งจริงเขาสามารถกินรวบได้ และถ้าฝ่ายตรงข้ามเป็นตัวยุ่งยาก เขาจะโดดออกไปและหาทางออกให้พวกเขา และทำเป็นตำหนิบริวารของเขา
นั่นเป็นลูกไม้ที่เขาพยายามทดสอบมาหลายครั้ง
พวกที่ไม่มีคนแข็งแกร่งหนุนหลังจะต้องถูกเขากินเป็นธรรมดา สำหรับพวกที่มีคนหนุนหลังและเป็นตัวปัญหา เขาก็จะตำหนิบริวารของเขา และจากนั้นด้วยทัศนคติที่ดี เขาให้หาทางออกให้พวกเขา และอีกฝ่ายก็จะยอมเห็นแก่หน้าเขา
ใครจะกล้าสร้างความยุ่งยากให้กับกลุ่มพ่อค้าตะวันตกเล่า? พวกเขาต้องการออกจากเมืองอย่างมีชีวิตหรือไม่?
ในที่แห้งแล้งกันดารนี้ เป็นเรื่องธรรมดาที่มีคนตายจากอุบัติเหตุ
ซือหม่าเซี่ยวเห็นว่าอ้าวเติ้งรู้สึกปลอดภัยกับผู้หนุนหลังของตนซึ่งไม่น่าแปลกใจสำหรับเขา
‘แต่คนที่อยู่หลังเขา...’
ซือหม่าเซี่ยวยิ้มกว้างกว่าเดิม, ‘นั่นคือคนเถื่อนควบคุมไม่ได้อย่างแท้จริง!”
“ฆ่าเขา”
สายลมพัดผมสีน้ำตาของชายหนุ่มขณะที่เขาพูด
โจนาธานสะดุ้ง เขาคิดว่าได้ยินผิด ‘ฆ่าเขา? จิตใจของเขายังเป็นปกติอยู่หรือเปล่า?’
ทันใดนั้น เสียงถอนหายใจดังอยู่ข้างเขา และลมเย็นกวาดผ่านคอของเขาผมขนทุกเส้นบนร่างของโจนาธานลุกชัน และเขารู้สึกบางอย่างแปลก ก่อนที่เขาจะรู้ตัวความเจ็บแผ่กระจายจากอกของเขา
“กล้าทำได้ยังไง!”
“หยุดนะ!”
….
ในกลุ่มอุทานออกมาพร้อมกับเสียงคำรามของอ้าวเติ้ง แต่พวกเขาช้าเกินไปเสียแล้ว
โจนาธานมองดูอกของตนเองมือเรียวบอบบางเหมือนหยกโผล่ออกมาจากอกของเขา ดูเหมือนว่ามือมีวิชาเฉพาะบางอย่างป้องกันไม่ใช่เลือดเปรอะมือไม่มีแม้แต่รอยเลือด มันเหมือนกับเสน่ห์ที่ไม่สามารถอธิบายได้ซึ่งเขามองไม่เห็น
มือที่งดงามหายไปอีกครั้งและเลือดเริ่มฉีดพุ่งย้อมร่างกายท่อนบนของเขา
เสียงรอบตัวเขาดูเหมือนห่างไกล สติของเขาเริ่มเลือนราง โจนาธานยืนอยู่กับที่มองดูอกของเขาที่หลั่งเลือดอย่างว่างเปล่า แม้เมื่อสติดับลงเขาก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายทำไมถึงกล้าฆ่าเขา
‘ทำไม..’
หัวของอ้าวเติ้งมึนงง หน้าของเขาเขียวซีด ขณะที่ความกลัวที่มองไม่เห็นครอบคลุมทั้งตัวเขา
‘โจนาธานถูกฆ่า!’
ชีวิตของเขาเหมือนถูกผนึกไปชั่วครู่เมื่อโจนาธานตายต่อหน้าของเขา ถ้าเขากล้าหนี ครอบครัวของเขาคงถูกประหาร หลังจากทำงานภายใต้บังคับของโจนาธานมาหลายปี เขารู้ว่ากลุ่มพ่อค้าตะวันตกนั้นมีอำนาจมากมายเพียงไหน และพวกเขาน่ากลัวอย่างไร พวกเขาสามารถส่งอิทธิพลต่อแผนของทวีปกวงหมิงและสามารถผูกขาดอุตสาหกรรเหมืองในทวีปกวงหมิงได้โดยไม่ต้องพึ่งพาสมบัติของพวกเขา
‘นี่จะเป็นสุสานของข้า ตายที่นี่อย่างน้อยข้าก็จะไม่เกี่ยวข้องกับครอบครัวของข้า’
อ้าวเติงตระหนักที่จุดนั้น จึงสงบได้มากขึ้น
เขาจ้องมองกลุ่มคนที่ยืนอยู่ข้างหน้าเขา พวกเขาเป็นคนที่มีประวัติแข็งแกร่งทรงพลังแน่นอน พวกเขาไม่กลัวกลุ่มพ่อค้าตะวันตกแม้แต่น้อยซึ่งนับว่าไม่ธรรมดาแล้ว อ้าวเติ้งรู้ตัวดีว่าจำนวนของตระกูลใหญ่และมีอำนาจมากกว่ากลุ่มพ่อค้าตะวันตกแทบจะนับได้ด้วยมือข้างเดียว แม้แต่ห้าแม่ทัพพยัคฆ์ก็ไม่กล้าบุ่มบ่ามทะเลาะกับกลุ่มพ่อค้าตะวันตก
‘หรือว่าพวกเขาจะเป็นศัตรูของกลุ่มพ่อค้าตะวันตก?’
อ้าวเติ้งโยนความคิดนั้นออกไปจากใจของเขาทันที กลุ่มพ่อค้าตะวันตกมีศัตรูของเขา แต่ไม่มีศัตรูคนไหนที่วิ่งเข้ามาหาถึงดินแดนของกลุ่มพ่อค้าตะวันตกและภายใต้สายตาผู้คนมากมาย ยังฆ่าผู้อาวุโสสำนัก นั่นเป็นการประกาศสงคราม และจะสู้กับอิทธิพลใหญ่อย่างกลุ่มพ่อค้าตะวันตกก็อาจทำให้เกิดอันตรายต่อทวีปกวงหมิงได้ทั้งหมด ไม่มีใครกล้าปลุกระดมให้เกิดกระแสวุ่นวายใหญ่โตขนาดนั้น และทวีปกวงหมิงหมิงคงจะต้องขัดขวางเรื่องอย่างนี้
‘อย่างนั้นพวกเขาเป็นใคร?’
‘ขุนพลวิญญาณที่ทรงพลังขนาดนั้น!’
โกวอี้กลับมาอยู่ข้างซือหม่าเซี่ยวเมื่อใดไม่ทราบ ความงามของนางทำให้ผู้คนสำลักและดูเหมือนกับว่าทุกอย่างที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับนาง
อ้าวเติ้งเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง เขารู้ว่าเขาเผชิญหน้ากับขุนพลวิญญาณสุดยอดในตำนาน นางไม่ยังไม่ได้เปิดเผยพลังอะไรซึ่งแสดงให้เห็นว่าการควบคุมพลังของนางอยู่ในระดับที่ลึกซึ้ง ถ้าไม่ใช่เพราะเขาเห็นกับตาว่านางฆ่าโจนาธาน อ้าวเติ้งคงไม่มีทางคิดว่านางอันตราย
เขาไม่เคยได้ยินว่าขุนพลวิญญาณของใครจะแข็งแกร่งมากขนาดนั้น
แค่ขุนพลวิญญาณสตรีก็สามารถฆ่าพวกเขาได้ทั้งหมด
อ้าวเติ้งอดถามอย่างสงสัยไม่ได้ “พวกเจ้าเป็นใครกันแน่?”
ซือหม่าเซี่ยวยิ้มน่ากลัวเหมือนกับดวงตะวันอีกครั้ง “โกวอวี้, ฆ่าพวกเขาให้หมด”
ร่างของโกวอวี้หายไปอีกครั้ง
จี๋เจ๋อและพวกที่เหลือตะลึงสิ้นเชิง พวกเขาตกใจจนตัวชากันหมด ซือหม่าเซี่ยวท่าทางดูอ่อนแอและดูอ่อนโยนจนดูเหมือนกับตัวเขาไม่มีอยู่ และไม่มีใครประทับใจกับเขา ไม่มีใครเคยเห็นโกวอวี้ที่จู่ๆ ปรากฏออกมาฉับพลันเมื่อซือหม่าเซี่ยวอาสาออกสู้ ทุกคนยังคงสงสัยเกี่ยวกับตัวเขา
แต่เมื่อพวกเขาเห็นโกวอวี้โจมตีศัตรู พวกเขาตะลึงกันหมด
โกวอวี้ดูเหมือนจะเดี๋ยวหายเดี๋ยวเห็นเหมือนกับวิญญาณและไม่มีใครสามารถแตะต้องชุดของนางได้ แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือมือที่ไม่มีรอยเปื้อนมลทินของนางดูเหมือนว่าที่ใดก็ตามที่มือเรียวงามของนางถูกต้องทำให้ทุกคนกังวลว่ามือนางจะแตกจะหัก แต่กับทำลายทุกอย่างที่นางสัมผัสได้
ความเคลื่อนไหวของนางสง่างามเหมือนกับว่านางลอยไปรอบๆเหมือนกับหมอก
ตาของอ้าวเติ้งแดง เขาตระหนักได้ว่าเขาไม่สามารถตรึงวิญญาณที่น่ากลัวนี้ได้ ความเคลื่อนไหวของนางท้าทายตรรกะแนวคิด การโจมตีของพวกเขาทั้งหมดไม่สามารถแตะต้องนางได้ ที่ใดก็ตามที่นางไปจะมีผู้คนล้มลง ทุกที่มีโลหิตไหลนอง และชีวิตถูกปลิดปลง
เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกจนใจ
“ฆ่าเขา!”
ความกลัวอย่างไม่เคยมีมาก่อนทำให้อ้าวเติ้งบ้าภาพที่ดูเหมือนไกลเข้ามาใกล้ทันที เสียงดังผ่านหูเขา อ้าวเติงสั่นและใช้วิชาสังหารโจมตีด้านหลังทันที
ไม่กระทบอะไร
เขารู้สึกเจ็บที่คอและสิ่งที่เขาเห็นก็คือศพที่ไร้หัวใต้เขาล้มลงกับพื้น
‘ในที่สุดก็จบหรือ?’
หน้าของเขารู้สึกเหมือนเป็นอิสระ
รอยยิ้มบนใบหน้าของซือหม่าเซี่ยวเฉิดฉายยิ่งขึ้น ‘โกวอวี้แข็งแกร่งมากขึ้น’
สามนาที
เลือดย้อมถนน ศพกระจัดกระจายอยู่บนพื้น กลิ่นคาวเลือดรุนแรงลอยอยู่ในอากาศ นอกจากร่างที่ขาวราวหิมะไม่มีใครอื่นยืนอยู่
เงียบเหมือนป่าช้า
ทุกคนมีประสบการณ์ต่อสู้ แต่การฆ่าหมู่และฝนโลหิตทำให้พวกเขาหนาวยะเยือกและหน้าซีดขาว
“ขออภัยข้าอาจจะล้ำเส้นไปสักเล็กน้อย”
ซือหม่าเซี่ยวตอบอย่างอายๆและหัวเราะอย่างเขินอาย โกวอวี้ลอยมาอยู่ข้างเขาเหมือนภูตน้อย
ทุกคนหันหน้าหนีทันที ราวกับว่าพวกเขาทุกคนเห็นงูพิษ
‘ข้าต้องอยู่ห่างจากคนผู้นี้จำเดิมแต่บัดนี้’