ตอนที่ 828 ผู้ค้าตะวันตก
“มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?สหาย”
จี๋เจ๋อหรี่ตาและก้าวออกมา
บุรุษร่างกำยำและคนของเขารู้สึกความหนาวยะเยือกกวาดผ่านพวกเขาราวกับว่าพวกเขาถูกอสรพิษจ้องอยู่ในเงาเมืด ราศีของจี๋เจ๋อเปลี่ยนเป็นเยือกเย็น ดาบพิศวงในมือของมีสีแดงสดใสดูน่าพิศวงมาก
บุรุษร่างกำยำแค่นเสียง “พวกเจ้าต้องการยื่นหัวออกรับแทนเจ้าเด็กนี่หรือ? เขาเป็นหนี้เงินก้อนโต”
พลังที่จี๋เจ๋อปล่อยออกมาทำให้เขารู้สึกกลัว
จากนั้นฝูเจิ้งจือถามเหวินกัง “เจ้าเป็นหนี้เขามากเท่าใด?”
หน้าของเหวินกังซีดขาว เป็นเรื่องที่เขากังวลมากที่สุดเมื่อมีเวลาที่พวกเขาจะได้รับโอกาสสนุกและออกจากป้อมกวงหมิงในที่สุด และขณะที่กลับเขาได้ผ่านเมืองอาเธอร์ จึงตัดสินใจเล่นพนันเล็กน้อย หลังจากแพ้เสียเงินไปจำนวนหนึ่งเขาก็ยืมมาเพิ่ม แต่คาดไม่ถึงเลยว่าจะเสียหมดทุกอย่าง ความกลัวทำให้เขาต้องหลบหนีในตอนกลางคืนและกลับไปที่ป้อมกวงหมิงไม่ว่าอีกฝ่ายจะแข็งแกร่งทรงพลังแค่ไหน พวกเขาไม่กล้าไปทวงหนี้เขาที่ป้อมกวงหมิง
แต่ใครจะรู้...
เหวินกังรู้ว่าคนที่อยู่ข้างหน้าพวกเขาจะฆ่าคนได้โดยไม่กระพริบตา เขาไม่กล้าปกปิดอะไร และพึมพำ“ห้าหมื่นเหรียญไลท์”
“ห้าหมื่น?” บุรุษร่างกำยำแค่เสียง “นั่นมันเงินต้น บวกดอกเบี้ยอีกสองหมื่นและเราจะทวงคืน”
เหวินกังสั่นทำอะไรไม่ถูก
บุรุษร่างกำยำไม่ต้องการมีปัญหาต่อไปเขาแค่ต้องการเงินคืน เขาเป็นคนที่มีประสบการณ์และรู้ว่าพวกที่อยู่ต่อหน้าเขาเป็นพวกที่ไม่รู้จัก ไม่อาจตอแยได้ง่ายนัก ถ้าพวกเขามีคนหนุนหลังยิ่งใหญ่ เขาคงจะพบกับปัญหาใหญ่
ไม่ไกลจากพวกเขาในอาคารหลังหนึ่งบุรุษวัยกลางคนจ้องมองกลุ่มคนทั้งสองที่เผชิญหน้ากัน สายตาของเขาจับตามองดูดาบสีแดงที่ปล่อยรัศมีแปลกประหลาดและตาของเขาเป็นประกายปรารถนาทันที
หลังจากทำงานในบริษัทเหมืองเป็นเวลาหลายปีเขาเคยเห็นโลหะและวัสดุมาแทบทุกชนิด สายตาของเขาแหลมคมมาก และจากการเหลือบมองครั้งแรก ตาของเขาก็จับจ้องมองอยู่ที่ดาบ
‘นั่นคือดาบที่มีชีวิต!’
เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่น่าอัศจรรย์อย่างนั้นมาก่อน ‘ต้องใช้วัสดุแบบไหนถึงจะใช้สร้างดาบเช่นนั้นได้? น่าทึ่งเสียจริง!’
ดวงตามีความต้องการมากขึ้นทุกทีและลมหายใจของเขาเร็วแรงขึ้น
‘บางทีข้าน่าจะพาอาจ๋ายมาสอบสวนคนเหล่านี้?’
ในขณะนั้นเขาตัดสินใจตาของเขากลายเป็นสีเข้มทันที และเขาเรียกคนใช้ข้างตัวเขาและพึมพำคำแนะนำบางอย่าง
ฝูเจิ้งจือมองดูถังเทียนพยักหน้า
เหรียญไลท์อยู่ในมือทั้งสองได้รับมาจากเชลย พวกเขามีสองล้านเหรียญคลาวด์ซึ่งได้รับมาจากอู่ซวนทั้งหมด เนื่องจากไม่ใช่เงินเขา ถังเทียนจึงไม่รู้สึกเสียดายที่ต้องแบ่งเงิน ไม่จำเป็นต้องยุ่งยากกับเงินสองหมื่น
“เราจะรับใช้ให้สองหมื่นเป็นพิเศษ” ฝูเจิ้งจือพูดอย่างใจเย็น
ขณะนั้นเองมีบางคนโผล่มาจากบุรุษร่างใหญ่อาจ๋ายและกระซิบกับเขา
หน้าของอาจ๋ายสงบเย็นทันทีเมื่อรู้ว่าเขามีคนหนุนหลังร่องรอยความกลัวในตัวเขาหายไป เขาแค่นเสียง “ขอโทษ, แต่ไม่ใช่ราคานั้นต่อไป”
ฝูเจิ้งจือตอบอย่างอารมณ์ดี “โอว, อย่างนั้นราคาเท่าใด?”
“หนึ่งล้าน!” หน้าของอาจ๋ายมีแววยินดีจากนั้นชี้ไปที่จี๋เจ๋อ “และดาบนั่น!”
ฝูเจิ้งจือหัวเราะ
“เจ้าต้องการดาบนี้?” จี๋เจ๋อยิ้มให้อาจ๋ายที่ไม่ได้ยิ้มตอบ
อาจ๋ายไม่กลัวอะไรและตอบอย่างอวดดี “ใช่แล้ว, คุณชายข้าสนใจในดาบของเจ้าถ้าฉลาดก็จง....”
ประกายสีแดงที่งดงามกวาดผ่านวาบ
คำพูดของอาจ๋ายถูกขัดขวาง เขาตะลึง บนคอของเขา รอยเส้นบางๆ ค่อยปรากฏและขณะต่อมา มีเลือดฉีดพุ่งออก บุรุษร่างใหญ่ล้มลงกับพื้น หน้าที่แหงนมองท้องฟ้าสายตาของเขายังคงเบิกกว้าง เขาไม่อยากเชื่อว่าอีกฝ่ายจะกล้าลงมือเคลื่อนไหว
“ไม่มีใครอื่นจะทำอะไรได้!”
จี๋เจ๋อพูดเย็นชาใบหน้าหล่อมีเสน่ห์กลับกลายเป็นอำมหิต เขาไม่ใช่คนใจดีอยู่แล้ว และเป็นผู้เหี้ยมหาญตามแนวของนักสู้ในทำเนียบยอดฝีมือมีความหยิ่งจนเข้ากระดูก ดังนั้นจะทนถูกกลั่นแกล้งให้อายของสุนัขเหล่านี้ได้ยังไง
ฝูเจิ้งจือเตือนเขา “อย่าเปลี่ยนที่นี่เป็นแดนมิคสัญญีเลย”
ก่อนที่เขาจะพูดอะไรจบ ร่างจี๋เจ๋อก็หายไปแล้ว
อีกฝ่ายหนึ่งดูเหมือนจะตื่นจากฝันเช่นกัน พวกเขาคำรามและกระโจนหาจี๋เจ๋อ
พื้นที่เมืองอาเธอร์ตะวันตกไม่เคยมีความปราณีและความสงบ จะอยู่รอดในที่นี้ได้ ผู้คนจะต้องพึ่งพาพลังของตัวเองเพื่อเอาตัวรอด ถ้าไม่อย่างนั้นเขาจะถูกคนอื่นกวาดหาย ผู้คนฝ่ายอาจ๋ายไม่ได้อ่อนแอเช่นกัน
ก่อนนี้พวกเขาไม่มีทางคิดว่าจี๋เจ๋อจะกล้าเคลื่อนไหวนอกจากนั้นดาบของจี๋เจ๋อเร็วเกินไป พวกเขาไม่ทันตั้งตัวแม้แต่น้อย
อาจ๋ายถูกฆ่าต่อหน้าพวกเขาจริงๆ!
และคนที่หนุนหลังอาจ๋ายก็คือกลุ่มพ่อค้าตะวันตก! เมื่อคิดเรื่องการลงโทษที่พวกเขาจะได้รับ ความกลัวเกาะกุมใจของพวกเขา พวกเขาทุกคนเป็นผู้ย้ายถิ่นมาเพื่อชีวิตตนเอง และขณะนั้นพวกเขาเปล่งรัศมีแสงออกตาพวกเขาเป็นประกายสีแดง พวกเขากระโจนเข้าใส่จี๋เจ๋อ
จี๋เจ๋อตกอยู่ในอันตรายทันที
พลังงานของทวีปทุ่งขาวหนาแน่นมากกว่าทวีปรกร้างดังนั้นคนจากแดนบาปจึงอ่อนแอลงมาก พวกเขาเพียงแต่สัมผัสแค่เคล็ดวิธีใช้กฎธรรมชาติควบคุมพลังงาน จี๋เจ๋อเพียงแต่อาศัยร่างกายที่โดดเด่นและวิชาดาบที่คุ้นเคยต่อต้านทั้งกลุ่ม
รังสีดาบสีขาวนับไม่ถ้วนเต็มถนน
ม่านพลังป้องกันของร้านรวงบนถนนเปิดทำงาน และเจ้าของร้านดูเหมือนไม่เห็นเป็นเรื่องแตกตื่นแม้แต่น้อย เนื่องจากพวกเขาคุ้นชินกับการต่อสู้ที่เกิดขึ้นมาบ่อยๆแล้ว
แต่ในเวลาอันรวดเร็วคนอีกฝ่ายก็สังเกตลักษณะเฉพาะของดาบพิศวงของจี๋เจ๋อไม่ว่าพลังจากรุนแรงเด็ดขาดปานใด ตัวดาบก็สามารถต้านรับพวกเขาได้ และพวกเขาสังเกตได้โดยเร็วว่าไม่มีพลังงานผันผวนออกมาจากร่างของจี๋เจ๋อแม้แต่น้อย
ก็หมายความว่าเขาอาศัยพลังร่างกายล้วนๆต้านทานพลังงาน
ดาบนี่...
คนยิ่งสนใจดาบมากขึ้น
บุรุษวัยกลางคนในอาคารฝั่งตรงข้ามถนนตัดสินใจแล้วว่าต้องชิงดาบให้ได้ ‘ข้าสงสัยจริงว่าเจ้าบ้านนอกนี่มาจากไหนถึงได้เอาสมบัติมาส่งให้ข้า มันง่ายดายจริงๆ’
‘พวกเขาทุกคนไม่มีพลังงานปั่นป่วนแม้แต่น้อย คนบ้านนอกเหล่านี้ไร้เดียงสาจริงๆ พวกเขาคิดว่าสามารถอยู่ในเมืองอาเธอร์โดยอาศัยแค่เรี่ยวแรงล้วนๆหรือ?”
สถานการณ์ของจี๋เจ๋อยากลำบากจริงๆพลังของศัตรูแข็งแกร่งมากกว่าที่เขาคาด และดูเหมือนมีรูปแบบเฉพาะการรุกและการผ่อน เขาคิดถึงสิ่งที่นายท่านได้พูดไว้ก่อนว่ากองทัพเรือของดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์เป็นกองทัพอันดับหนึ่ง และสิ่งที่เขาเห็นประจักษ์เป็นครั้งแรกก็คือแม้แต่พลเมืองก็ยังรู้วิธีสู้ประสานงาน
สภาพใจของจี๋เจ๋อสงบมากเขาไม่ตื่นเต้นแม้จะอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก แม้ว่าพลังของกฎธรรมชาติจะได้รับผลกระทบ แต่พลังร่างกายยังจะใช้ได้อย่างอิสระ เพิ่มพลังของร่างกาย การเคลื่อนไหวของเขาก็ทำได้ดีขึ้นมาก ทุกครั้งที่ดูเหมือนเขาจะถูกเล่นงานเขาก็หลบเลี่ยงการโจมตีได้
“ฆ่า!”
ศัตรูคำราม
รังสีดาบมากกว่าสิบเล่มปลดปล่อยออกมา และคลุมเต็มถนนป้องกันไม่ให้จี๋เจ๋อหลบอีก
ตาของจี๋เจ๋อกลายเป็นเยือกเย็น เขาย่อตัวและตวัดดาบพิศวงฟันขึ้นบน
รังสีดาบพิศวงที่แฝงไปด้วยพลังดาบสมบูรณ์แบบฟันลงบนรังสีดาบสีขาวเล่มหนึ่ง
รังสีดาบสีขาวถูกฟันผ่านไป แต่ร่างของจี๋เจ๋อสั่น เขารู้สึกชาข้อมือ
จี๋เจ๋อตาเป็นประกาย ‘รังสีดาบที่สร้างจากการรวมพลังค่อนข้างทรงพลังและไม่อาจดูถูกได้
เขาเปลี่ยนดาบไปถือมือซ้ายและเคลื่อนดาบไปข้างหน้าทันที
บุรุษวัยกลางคนในอาคารเบนสายตาจากดาบพิศวงไปดูบุรุษหนุ่มในกลุ่มคนที่ห้อมล้อมพยายามหาดูว่าสิ่งที่หนุนหลังเขามาจากไหน ‘ยังเยาว์วัยนักก็มีองครักษ์หลายคน สงสัยจริงว่ามาจากตระกูลใดกันแน่’
‘แต่ นั่นจะทำอะไรได้?’
ทันใดนั้นปากของเขายิ้มและพูดขึ้น“เจ้าเห็นว่าไงบ้าง?”
มีคนศีรษะโล้นร่างใหญ่มายืนอยู่ข้างเขาตั้งแต่เมื่อใดไม่ทราบ บุรุษร่างใหญ่ศีรษะโล้นนี้มีแผลเป็นที่คิ้วซ้ายลากผ่านใบหน้าของเขาทำให้เขาดูดุร้าย
บุรุษหัวล้านร่างใหญ่ชื่ออ้าวเติ้งเป็นหัวหน้าหน่วยคุ้มกันเขา เมื่ออ้าวเติ้งยังอายุน้อย เขาก็รับผิดชอบเป็นผู้บัญชาการ และผู้บัญชาการเหนือเขาเวลานั้นก็คือเจียย่าหนึ่งในห้าแม่ทัพใหญ่ของทวีปกวงหมิง
เนื่องจากได้รับบาดเจ็บสาหัสในการรบอ้าวเติ้งไม่มีทางเลือกจำต้องปลดประจำการและเนื่องจากมีการแข่งขันที่รุนแรงเขามีขุนพลที่มีชื่อเข้าแทนที่เขา แต่เนื่องจากความสำเร็จที่หลากหลายของเขา เขาคือคนที่ไม่มีใครกล้าเข้าถึง แต่บุรุษวัยกลางคนใช้ทรัพย์มากมายจัดการจึงพบเขาได้เป็นการส่วนตัว
อ้าวเติ้งไม่ทำความผิดหวังให้เขา ด้วยการแนะนำของเขากำลังของหน่วยป้องกันแข็งแกร่งขึ้นมากกว่ากองทัพธรรมดา พวกเขาเผชิญกับโจรมากมายเหมือนกับเต้าหู้เจอกับหน่วยป้องกัน
บุรุษวัยกลางคนมั่นใจในตัวอ้าวเติ้ง
อ้าวเติ้งกล่าวต่อ “พลังส่วนตัวของเขานับว่าทรงพลังและวิชาดาบของเขาก็ยอดเยี่ยม”
บุรุษวัยกลางคนถามต่อ “เจ้าคิดว่าใครจะชนะ?”
อ้าวเติ้ง “นักดาบ”
บุรุษวัยกลางคนไม่พูดอะไรต่อจากนั้นถามอีกคำถาม “ถ้าเป็นหน่วยป้องกันที่เจ้านำเองเล่า เจ้าเอาชนะได้ไหม?”
อ้าวเติ้ง “ก็น่าตื่นเต้น”
บุรุษวัยกลางคนมีท่าทีพอใจ
จี๋เจ๋อสามารถรับตำแหน่งยอดฝีมือในทำเนียบนับสู้แดนบาปได้ เขายังอายุเยาว์แค่เพียงต่อสู้เขาก็มีประสบการณ์ต่อสู้มากมายที่เข้ากันได้กับความสามารถต่อสู้ของเขา เขาต่อสู้อยู่ในวงล้อมอย่างยากลำบาก แต่ค่อยๆเข้าใจจุดแข็งจุดอ่อนของนักสู้ดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ รัศมีพลังงานทรงพลังจนถึงระดับที่น่าตกใจ และใครจะมุ่งโจมตีอย่างเดียวจะต้องได้รับบาดเจ็บแน่ แต่สำหรับจี๋เจ๋อพลังโจมตีของพวกเขาทุกคนดูจะน่ากลัว แต่พวกเขาก็แค่ยืมพลังของพลังงานและวิทยายุทธของพวกเขายังธรรมดามาก
การประสานพลังของดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์อาจจะแข็งแกร่งมากกว่าแดนบาป แต่ความประณีตและการเน้นในวิชาต่อสู้ยังไม่อาจเทียบได้กับแดนบาป
หลังจากเข้าใจจุดอ่อนของพวกเขา ตาของจี๋เจ๋อเป็นประกายพร้อมกับรัศมีดาบพิศวง
เพียงสะบัดข้อมือดาบพิศวงก็สร้างม่านพลังสีแดงเข้มและพลังโจมตีที่รุนแรงที่ยิงเข้าเหมือนโคที่วิ่งลงทะเลกระจายหายไปในม่านพลังแดง ร่างของจี๋เจ๋อกระพริบมีภาพตามหลังสองสามภาพและเบี่ยงเบนพลังโจมตีของศัตรูทันทีและยืมพลังนั้นจู่โจมเข้าไปในกลุ่มคน
รังสีดาบสีแดงเข้มคล้ายกับเมฆกระพริบผ่าน
โลหิตฉีดพุ่งออกเหมือนดอกไม้บาน
มีคนสองสามคนค่อยๆ ล้มลงกับพื้นทุกคนได้รับบาดแผลอย่างเดียวกันมีรอยเส้นปรากฏอยู่ที่คอของพวกเขา
ทุกคนที่สังเกตการณ์ต่อสู้สูดหายใจหนาวเหน็บไม่มีใครเห็นวิชาดาบที่งดงามอย่างนั้นมาก่อน
“เขาเป็นคนที่รู้แจ้งกฎธรรมชาติแน่นอน!”
“ข้าไม่เคยคิดเลยว่าจะมีคนที่รู้แจ้งกฎธรรมชาติอยู่ด้วย”
จี๋เจ๋อรั้งดาบและยืดตัวตรงสีหน้าของเขาเป็นปกติ ยกเว้นหอบเล็กน้อย
ทันใดนั้นมีการก่อกระบวนรบในที่ใกล้ๆอีกฝั่งหนึ่งของถนน ที่ซึ่งบุรุษศีรษะโล้นร่างใหญ่กำลังนำคนเข้ามา
รังสีฆ่าฟันกระจายไปทั่วถนนและคนสังเกตการณ์ทุกคนเริ่มพูด
“ครั้งนี้ท่านอ้าวเติ้งจะลงมือด้วยตัวเองหรือนี่?”
“แน่นอนอยู่แล้วคนตายไปตั้งมากมาย กลุ่มการค้าตะวันตกจะปล่อยให้เป็นแบบนั้นได้ยังไง?
…...
หลังจากเดินเข้ามาใกล้ อ้าวเติ้งหยุดห่างถังเทียน30 เมตร และพูดอย่างเฉยเมย “จะยอมแพ้หรือตาย”
ด้านหลังของเขาเป็นนักสู้เกราะแดง 200คนลุกขึ้นยืนเช่นกัน
หน้าของจี๋เจ๋อเปลี่ยน เขาสามารถรู้สึกได้ถึงพลังจากอีกฝ่ายหนึ่งพลังงานผันผวนทั้งหมดจากพวกเขาแข็งแกร่งกว่ากลุ่มก่อนหน้านี้หลายเท่า รูปขบวนที่แน่นและเข้มงวดพิสูจน์ว่าพวกเขาผ่านการฝึกมาและสามารถเปล่งรังสีฆ่าได้...
เขาเข้าใจถึงรังสีฆ่าฟันเช่นกัน และรังสีฆ่าฟันที่ดูเหมือนจะมีความหมายว่าพวกเขาฆ่าคนมานับไม่ถ้วน
ถังเทียนกระตือรือร้นเตรียมเข้าต่อสู้ แต่ยังช้ากว่าอีกคนไปก้าวหนึ่ง
ซือหม่าเซี่ยยิ้มน่ากลัวขณะที่เขาก้าวออกมา
“ศึกนี้ข้าขอลุยเอง”