ตอนที่ 826 คลื่นบรอนซ์
หลังจากทวีปกวงหมิงได้รวบรวมทวีปน้อยใหญ่ในภูมิภาคตะวันตกตอนแรกชื่อ‘ทวีป’ ถูกลบออกไป และใช้ชื่อ ‘ภูมิภาค’ แต่พวกเขาไม่คาดเลยว่าทุกคนชินกับชื่อทวีปและแม้แต่คนทวีปกวงหมิงก็ยังใช้ชื่อนี้ไปด้วย มีน้อยคนมากที่จะเรียกว่าภูมิภาค แต่บางครั้งก็มีรายงานเขียนชื่อเป็นภูมิภาค
ทวีปกวงหมิงกว้างใหญ่ไพศาลทิศตะวันออกและใจกลางเป็นพื้นที่วุ่นวายที่สุด ขณะที่ตะวันตกสุดเป็นที่กันดารที่สุด ที่ทุกคนรู้ว่ากว้างใหญ่ แต่พื้นที่ตะวันตกไม่อาจเทียบได้กับด้านตะวันออกและตอนกลาง เนื่องจากว่าความอุดมสมบูรณ์ของแร่ธาตุของพวกเขาจึงมีธุรกิจการค้าไม่กี่แห่งที่ลงทุนทำเหมืองในทวีปทุ่งขาว
ทวีปทุ่งขาวกลายเป็นทวีปสำหรับการทำเหมือง
เหมืองและถ้ำแร่ถูกพบเห็นได้ทุกที่กระจัดกระจายทั่วไป และบางครั้งเรือทำเหมืองจะมาและไปเฉพาะสายแร่ขนาดใหญ่ก็จะมีค่ายขนาดใหญ่ แต่การลงทุนต้องใช้ทรัพย์มหาศาล และมีแต่ธุรกิจที่รุ่งเรืองจึงจะสามารถลงทุนเช่นนั้นได้ การทำเหมืองแร่เป็นกลุ่มที่ขับเคลื่อนโดยเรือเหมืองเล็กๆ เหมือนกับนักล่ามองเห็นได้ทั่วไป เพราะพวกเขาซื้อแร่ขนาดเล็กในถิ่นทุรกันดารเพื่อเอาไปคัดแยก
การทำเหมืองเป็นกลุ่มไม่ใหญ่นัก มีคนราวๆ 10คน ทั้งพวกเขาจะต้องมีความสามารถไม่ซ้ำใคร ถ้าไม่อย่างนั้นความสามารถในการต่อสู้ของพวกเขาก็ต้องค่อนข้างสูง พวกเขาอยู่ในถิ่นกันดาร ไม่ใช่ในเมืองที่ปลอดภัย การต่อสู้และขโมยเป็นเหตุการณ์ปกติ และการขุดแร่มีค่าจะดึงดูดคนในเส้นทางเดียวกันซึ่งมีความโลภในแร่มากจนกลุ่มทำเหมืองที่ร่วมกันเหล่านี้เหมือนกับโจรปล้นของ
หลังจากทำงานแนวนี้มาช่วงเวลาหนึ่งใครเล่าที่ไม่ฆ่าคนมาก่อน?
โชคดีสำหรับพวกเขา ผลกำไรจากเหมืองนั้นดี ถ้าพวกเขาพบกับแร่มีค่าเรือทำเหมืองจะแลกเปลี่ยนความมั่งคั่งได้ ทำให้พวกเขาอยู่ดีกินดีได้ไปหลายปี นี่คือเหตุผลที่แม้จะเสี่ยงแต่คนนับไม่ถ้วนก็ยังมาทำงาน
เรือทำเหมืองลำหนึ่งค่อยๆบินอยู่ในท้องฟ้าเหนือถิ่นทุรกันดาร เป็นเรือทำเหมืองขนาดเล็กที่ยาวไม่เกิน 30 เมตร มันดูโกโรโกโสและหักพังซึ่งทำให้มันน่าเกลียดมาก เรือส่วนใหญ่ใช้บรรทุกแร่ขนแร่ ถ้าเผชิญกับอันตรายคนเรือจะทิ้งเรือโดยไม่ลังเลใจแล้วหนีไป
ไรท์ยืนอยู่บนกราบเรือ เนื่องจากเรือบินช้ามากและไปอย่างสบายๆ
ตาของเขาสว่างเป็นแสงสีขาว หลังจากนั้นชั่วขณะ เขาพูดขึ้น “ไปทางขวา 30 องศา”
เรือแร่บินช้าและเลี้ยวไปตามตำแหน่งที่ไรท์บอก และหลังจากบิน 5 กิโลเมตร ไรท์ส่งเสียงทันที “หยุด!”
เรือขุดแร่หยุด และคนบนเรือกระโดดลงบนเหมืองดำ
“โธ่โว้ย! เราสายไปก้าวหนึ่ง!”
“คนอื่นขุดไปเรียบร้อยแล้ว”
สมาชิกทุกคนบนเรือเริ่มก่นด่า พวกเขาเต็มไปด้วยความผิดหวัง แต่ไม่ได้ลงจากเรือ แร่ถูกฝังอยู่ที่ผิวดินตื้นๆ และพบเจอได้ง่ายไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนจะพบมันก่อน ในแดนทุรกันดารกว้างขวางมีถ้ำแร่อยู่ทุกที่และบางที่ก็สร้างขึ้นมาไม่กี่ร้อยปี
เหมืองร้างรกเรื้อไปด้วยหญ้าและวัชพืช บางที่กลายเป็นบ่อน้ำและเมื่อเวลาผ่านไปก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติอีกครั้ง
ไรท์ไม่พูดอะไรสักคำ เขาจ้องมองถ้ำแร่ แสงสีขาวในดวงตาของเขาสว่างขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อเห็นว่าทุกคนยังคงเงียบ
แม้ว่าไรท์อายุยังน้อย แต่เขาก็เป็นนักหาแร่ที่ดีคนหนึ่ง แม้แต่หัวหน้าที่มีประสบการณ์ก็ยังชื่นชมไรท์ พวกเขาสามารถได้รับกำไรที่ดีก็ต้องขอบคุณไรท์เอง
แสงสีขาวในดวงตาของไรท์เป็นเคล็ดวิทยายุทธเฉพาะตัว
เนตรส่องแสงซึ่งถูกซื้อมาหนึ่งล้านเหรียญไลท์จากเมืองอาเธอร์ เนตรส่องแสงของไรท์ไม่ได้ซื้อแต่ได้รับการสอนโดยปู่ของเขา กล่าวกันว่าปู่ของเขาช่วยผู้อาวุโสตระกูลท่านหนึ่งไว้และได้รับความเชื่อถือของเขา เมื่อปู่ของเขายังสุขภาพดี ครอบครัวของเขารุ่งเรือง แต่หลังจากปู่ตายไปด้วยอุบัติเหตุ ครอบครัวของเขาจึงค่อยๆ ตกต่ำ
เนตรส่องแสงวิชาของนักสู้แสงสว่าง และกล่าวกันว่าผู้อาวุโสของทวีปกวงหมิงไม่กี่คนได้ค้นคว้าเป็นพิเศษเพื่อประโยชน์กับคนที่เหลือ
วิทยายุทธยิงแสงเหล่านี้ได้รับยกย่องเนื่องจากการใช้พลังงานที่พิถีพิถันเป็นการเปิดรูปแบบวิทยายุทธใหม่ในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ วิชายิงแสงเหล่านี้มีระบบที่ซับซ้อนซึ่งระดับสูงจะปล่อยออกมาสู่สาธารณชนให้ฝึกกันน้อยมาก มีน้อยคนนักที่จะได้ฝึก
มีหลายเหตุผลเพราะการนั้น ประการแรกมันแพง ประการที่สองมันแตกต่างจากวิทยายุทธในยุทธปัจจุบันมากเกินไป แม้ว่าจะนำไปใช้กับตาคนเพิ่มแสงสว่างแต่ก็ไม่สามารถซึมซับเข้าไปใช้ในกองทัพ
วิทยายุทธยิงแสงทั้หมดมีระดับความซับซ้อนมากจากง่ายไปลึกซึ้ง มีวิทยายุทธจากการเกิดเป็นระบบขนาดใหญ่มีวิทยายุทธทั้งดีและแย่ผสมกันอยู่ในนั้นและจุดใหญ่ของมันทำให้ทุกคนมีความสุขแท้จริงๆ เช่นการรักษาพลังงาน ในดาราจักเซียนศักดิ์สิทธิ์ที่ซึ่งพลังงานมีหนาแน่นมาก เหตุผลโง่ๆเช่นนั้นในการสร้างวิชาต่างๆ เป็นสิ่งที่ทุกคนคิดว่าไร้ประโยชน์
และเป็นเพราะความสงสัยเหล่านี้ขัดขวางการพัฒนาวิชาประเภทส่องแสง
ไรท์รู้จักมันมากกว่าคนอื่นๆเขารู้ว่าวิทยายุทธประเภทยิงแสงไม่ใช่สิ่งที่ผู้อาวุโสสร้างขึ้นมา แต่มาจากเบื้องหลังที่ลึกลับ เขามักจะฝึกฝนเนตรส่องแสงอย่างหนักเพียรพยายามไม่หยุดหย่อน ทำให้เขาสังเกตคลื่นพลังปั่นป่วนได้ดี แต่เขาก็จำต้องเพ่งและทิ้งส่วนที่รบกวนอย่างอื่น ดังนั้นมันไม่มีประโยชน์ในการต่อสู้และนับว่าเป็นความสามารถที่อ่อนแอ
จนกระทั่งเขาไปที่เหมืองของเขาเหมืองแรก จู่ๆเขาตระหนักได้ว่าพลังงานปั่นป่วนจากพื้นผิวจะต้องมีความเกี่ยวข้องกับแร่ ทำให้เขาตระหนักได้ทันทีว่าเนตรส่องแสงของเขาใช้ประโยชน์ได้
ไรท์ในปัจจุบันนี้เป็นที่รู้จักกันดี
“ขุดลงไปตรงนี้”
คำพูดของไรท์ทำให้ทุกคนตื่นตัว ไม่พูดอะไรสมาชิกที่แข็งแรงและกำยำทุกคนกระโดดลงไปในถ้ำแร่ กลุ่มพวกเขาสว่างขึ้นด้วยแสงสีขาวและบุรุษคนที่นำตัวใหญ่เหมือนหมีหิมะก้มลงไปและวางฝ่ามือลงบนชั้นหินแข็งทันที
ชี่...
พื้นหินสั่นสะเทือนและผงหินเริ่มร่วง
สมาชิกคนอื่นขยับแขนทั้งสองของเขา วืดด..ผงหินขนาดเล็กถูกควบคุมให้ลอยขึ้นเหมือนถูกลมหมุนพัด กลายสภาพเป็นมังกรดำ และผงหินลอยผ่านแขนคนงานและปลิวไปนอกรู
พวกเขาตระหนักว่ามีเส้นทางสายหนึ่งนำลงไปในรูใหญ่20 เมตร ที่ซึ่งผนังถูกตัดฟันดูเหมือนกับรอยดาบ
ทุกคนกระโดดลงไปในหลุมทันที และคนงานเหมืองเริ่มขุดโดยไม่ลังเล พวกเขาเคลื่อนไหวประสานกันได้ดี ในพริบตาพวกเขาก็ขุดลึกถึง 100 เมตร
เมื่อสายผลึกน้ำเงินปรากฏแก่สายตาพวกเขา ทุกคนอดตะโกนดีใจไม่ได้!
พลอยน้ำเงินเป็นพลอยที่มีราคาและสามารถใช้หลอมกับโลหะเสริมสร้างเรือรบและอย่างอื่นได้ ทั้งยังขายได้ง่าย แม้ว่าสายแร่จะไม่ใหญ่ แต่ก็ประมาณการอย่างน้อยที่สุดน่าจะผลิตเป็นก้อนได้70 ก้อน
คุ้มค่ามาก!
“ทุกคน,เคลื่อนไหวด้วยความระวัง!” หัวหน้ากลุ่มอดเตือนทุกคนไม่ได้ เขาดีใจเต็มที่และตบไหล่ไรท์ “ตามกฎเดิม, เจ้าได้ 20%”
ไรท์หน้าดีใจเต็มหน้าเช่นกัน เขาไม่เคยคาดว่าพวกเขาจะสามารถขุดได้โทแพซน้ำเงิน
สมาชิกทุกคนเอาเครื่องมือต่างๆที่เคยใช้ของตนเองออกมา พวกเขามีความระมัดระวังมาก กลัวว่าจะทำลายชุดโทแพซน้ำเงิน ชุดโทแพซน้ำเงินจะมีราคาเป็น 20เท่าของชุดโทแพซที่แตกหัก ดังนั้นทุกคนจึงต้องระมัดระวัง
โชคดีที่พวกคนเป็นคนงานที่มีประสบการณ์ พวกเขาขุดได้อย่างคล่องแคล่วในครึ่งชั่วโมงโทแพซน้ำเงินก็ถูกตัดและลำเลียงลงเรืออย่างระมัดระวัง
เมื่อไรท์ตรวจสอบอีกครั้งและประกาศว่าพวกเขาไม่ได้มองข้ามชุดโทแพซอีกต่อไป ทุกคนโห่ร้องดีใจ
ขณะนั้นเอง พื้นใต้เท้าพวกเขาสั่นสะเทือนทันทีเหมือนกับว่ามีม้าควบเป็นพันตัว
ทุกคนหยุดกิจกรรมที่กำลังทำทันที
หัวหน้ากลุ่มสีหน้าเปลี่ยน ถ้าคนอื่นเห็นชุดพลอยโทแพซน้ำเงินจะต้องนำคนนับไม่ถ้วนมาปล้นเขา เขาตะโกน “ทุกคนขึ้นเรือเดี๋ยวนี้ เราจะออกเรือกันแล้ว!”
หน้าของทุกคนเปลี่ยน และกระโดดขึ้นเรืออย่างงุ่มง่าม
ด้วยความเร็วเต็มที่เรือของชาวเหมืองบินไปอีกตำแหน่งหนึ่ง
ครืนน ครืนนน
พื้นยังคงดังสั่นสะเทือนมากขึ้นๆก็หมายความว่าระยะห่างระหว่างพวกเขากับพวกมันยังคงใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
หน้าของหัวหน้ากลุ่มหวาดกลัวทันที เขานึกเสียใจที่ไม่เลือกเรือขุดแร่ที่เร็วกว่านี้
หน้าของไรท์ซีดขาว เขาอยู่ในเส้นทางนี้มานานแล้ว และเขาเคยเห็นตัวเองต้องร่วมสู้ด้วยแต่เขาไม่เคยเผชิญกับการเคลื่อนไหวขบวนใหญ่อย่างนี้มาก่อน
‘สิ่งเหล่านั้นคืออะไร?’
‘สัตว์ร้าย?’
ถ้าเป็นกลุ่มขุดแร่ การต่อสู้ของเราจะต้องแหลมคมรวดเร็ว เสียงแหลมสูงดังขึ้นเหมือนเสียงกรีดร้อง แต่การเคลื่อนไหวต่อหน้าพวกเขาคือสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับเรือ เสียงดังก้องหนักแน่นสะท้านใจเขา จากนั้นเขาเห็นภาพของก้อนหินบนกระโดดอย่างต่อเนื่องจากจุดที่สั่นสะเทือนสูงเมตรครึ่ง
สมาชิกรอบตัวทุกคนมองดูตำแหน่งของเสียงด้วยสีหน้าที่หวาดกลัว
สิ่งที่มนุษย์กลัวที่สุดก็คือสิ่งที่ไม่รู้จัก
เสียงสั่นสะเทือนดังขึ้นมากทุกคน อีกฝ่ายหนึ่งใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
หัวหน้าผู้มีประสบการณ์ไม่สามารถทิ้งเรือหลบหนีได้ เขาคว้าอาวุธและคำรามลั่น “เตรียมตัวรบ!”
เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ความรู้สึกถึงอันตรายชัดเจนทำให้เขาต้องตัดสินใจ
ก่อนที่เขาจะพูดจบ แนวบรอนซ์ปรากฏอยู่ในระยะไกล
ไรท์ฝึกมาทางเนตรส่องแสงสายตาแหลมคมที่สุด เขาร้องลั่นทันที “พวกนั้นคืออาวุธจักรกล!”
‘อาวุธจักรกล!’
สายตาของหัวหน้ากลุ่มหรี่ลง ‘คนของทวีปทอง!’
ฉากภาพที่ตามมาทำให้เขาไม่ได้ยินเสียงตะโกนของเขา
อาวุธจักรกลนับไม่ถ้วนทะลักลงมาจากภูเขาเหมือนคลื่นสึนามิ ยอดภูเขาที่เตียนโล่งท่วมไปด้วยกระแสบรอนซ์ในลักษณะนั้นทันที
ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจว่าความวุ่นวายมาจากไหน
กระแสคลื่นบรอนซ์ที่น่ากลัวตรงมาทางตำแหน่งพวกเขาไวอย่างน่าประหลาด ไวมากจนทำให้ทุกคนตกตะลึง
ระยะห่างระหว่างทั้งสองฝ่ายยังร่นลง ทำให้พวกเขาเห็นอาวุธจักรกลได้ชัดเจน
พวกเขาไม่เคยเห็นอาวุธจักรกลมากมายมหาศาลอย่างนั้นมาก่อน พวกมันมีรูปร่างหนาอ้วนไม่รู้สึกถึงความงดงามใดๆเลย พวกมันดูน่าเกลียดมาก ไม่มีสี เป็นตะเข็บน่าเกลียดเหมือนกับร่างเปลือยที่ตัดออกมาโดยไม่มีการตกแต่งใดๆดูเลอะเทอะ เหมือนกับเป็นงานฝีมือที่หยาบและไร้คุณภาพ
แต่ แม้จะมีหินใหญ่ขวางทางพวกมันอยู่พวกมันไม่หลบหรือกระโดดข้ามแต่กระแทกเข้าใส่โดยตรง
หินก้อนใหญ่ถูกกระแทกเหมือนกับลูกปิงปองปลิวโด่งข้ามท้องฟ้าร่วงลงกระแทกในที่ห่างออกไปสองสามร้อยเมตร
หินก้อนใหญ่มหึมาร่วงลงพื้นจะต้องเจอกับคลื่นบรอนซ์อีกครั้ง
โจมตีต่อเนื่องทำให้ก้อนหินแตกระเบิด
สัตว์ประหลาดที่น่าเกลียดน่ากลัวจะวิ่งออกมาจากฝนเศษหินที่ร่วงพรั่งพรู
หน้าของทุกคนปราศจากสีเลือดและตาของทุกคนเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
คลื่นบรอนซ์หลั่งไหลไม่หยุดหย่อนบดขยี้ทุกอย่างที่ขัดขวางพวกเขา