ตอนที่ 824 เรา
“เจ้าบอกว่าถังเทียนกลับมาอย่างกะทันหันหรือ? และว่าเขาสั่งซื้อสัตว์ประหลาดจำนวนมหาศาล?”
ผู้อาวุโสที่อยู่ข้างหลิวย่าจือและฌอนมีสีหน้าเครียด เห็นได้ชัดว่าพวกเขามองการกลับมาของถังเทียนว่ามีความสำคัญมาก
หลิวย่าจือและฌอนก็เครียดกับถังเทียน เลโอนอาจจะทรงพลัง แต่ราชสีห์แก่แล้วดังนั้นสำหรับทั้งสองคน วิหารเซียนในอนาคตมีศัตรูเพียงผู้เดียวและนั่นคือถังเทียน คนที่ขนานนามว่าหนุ่มชาวฟ้า!
กลุ่มดาวหมีใหญ่ใช้พลังที่ไม่ธรรมดา แต่สิ่งที่ทำให้ผู้อาวุโสอันรู้สึกกลัวจริงๆก็คือความกระตือรือร้นและความมีชีวิตชีวาที่กลุ่มดาวหมีใหญ่แสดงออกมาเป็นสิ่งที่กลุ่มดาวอื่นไม่เคยมี สิบสองตำหนักระนาบสุริยุปราคาซึมเซาและแก่ แต่กลุ่มดาวหมีใหญ่เหมือนคนหนุ่มที่เต็มไปด้วยเลือดและพลังงานสามารถทำอะไรก็ได้
สำหรับวิหารเซียนเก่าซึ่งก็คือกลุ่มดาวกวงหมิงในปัจจุบัน ไม่เคยสูญเสียความสนใจต่อกลุ่มดาวหมีใหญ่เลย ดังนั้นรายงานใดๆที่ถูกปล่อยออกมาโดยกลุ่มดาวหมีใหญ่จะถูกรายงานมาที่ผู้อาวุโสอันตั้งแต่แรก
“ขอรับ,นายท่าน ตามรายงานที่ส่งมาจากเมืองสามวิญญาณ จู่ๆ ถังเทียนก็กลับมาเมื่อวานซืน และเขากางแขนบนหอคอยประกาศการกลับมาของเขา” ผู้จัดการผู้ฉลาดพูดด้วยความเคารพ “ในวันที่สอง,หอประชุมบรอนซ์เมืองสามวิญญาณส่งภารกิจเร่งด่วนระดับสูงสุดเพื่อซื้อสัตว์ประหลาด กำหนดเวลาของพวกเขาคือ หนึ่งสัปดาห์!”
“หนึ่งสัปดาห์?” ตาของฌอนหรี่แคบ“เป็นไปได้ไหมว่าเขาเตรียมจะลงมือ?”
“ผู้น้อยช่างไร้ประโยชน์ไม่สามารถล้วงลึกข้อมูลได้มากกว่านี้” ผู้จัดการตอบทันที
ทุกคนมองหน้ากันเองในเวลากระชั้นอย่างนั้น ต้องแน่ใจว่าพวกเขาเตรียมจะลงมือ!
“ทำไมต้องเป็นสัตว์ประหลาด?” หลิวย่าจือไม่เข้าใจ “ข้าเคยศึกษาแบบของอาวุธจักรกลวิญญาณนี้มาก่อน ความสามารถในการต่อสู้ของมันค่อนข้างแหกกฎ และมีความสามารถเป็นพิเศษ แต่มีอาวุธจักรกลวิญญาณที่ดีกว่าในเมืองสามวิญญาณ พวกเขามีนักสู้สายจักรกลคุณภาพสูงอยู่ด้วยเช่นกัน”
ผู้จัดการเริ่มหลั่งเหงื่อเยียบเย็น เขาตอบอย่างกระวนกระวาย “ผู้น้อยก็สงสัยมากเช่นกัน ดังนั้นข้าจึงส่งคนไปสืบดู แต่จนกระทั่งบัดนี้ยังไม่มีรายงานกลับ”
ขณะนี้บรรยากาศในห้องประชุมค่อนข้างอึดอัด
ตั้งแต่ถังเทียนหายไปกลุ่มดาวหมีใหญ่ก็กลายเป็นเก็บตัวมากขึ้นและไม่ลงมือโจมตี วิหารเซียนต้องเผชิญหน้ากับแรงกดดันจากกลุ่มดาวราชสีห์และด้วยแรงกดดันที่น้อยลงทำให้พวกเขากล้าเริ่มจัดระเบียบกลุ่มดาวมีน แต่ตอนนี้จู่ๆถังเทียนกลับมาและส่งคำสั่งขนานใหญ่สร้างแรงกดดันมหาศาลให้กับพวกเขา
ไม่ใช่ครั้งแรกที่ต้องขวางดาบใส่ถังเทียน
สำหรับพวกเขาแล้ว ถังเทียนอันตรายมากกว่าเลโอนพญาราชสีห์แม้จะดุ แต่การกระทำของเขายังสามารถคาดการได้ แต่สำหรับถังเทียนเขาไม่มีรูปแบบที่แน่นอน ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเขาล้วนเหลือเชื่อและไม่ชัดเจน แต่เขามักเอาชนะศัตรูได้ หลังจากนั้นพอแค่ฝุ่นจางลงพวกเขาก็ตระหนักว่าถังเทียนลงท้ายด้วยการเป็นผู้ชนะเสมอ
ผู้อาวุโสอันตบพนักพิงบนเก้าอี้ของเขาโดยไม่รู้ตัว“ถังเทียนผู้นี้เจ้าเล่ห์ยิ่งนักและมีแผนลึกซึ้ง เขามักจะวางแผนและดำเนินการหลายอย่างในนาทีสุดท้าย ความเคลื่อนไหวของเขามีการวางแผนอย่างละเอียดถี่ถ้วน อาจเป็นไปได้ว่าพวกเขาคงเตรียมการสำเร็จแล้วและได้ทำล่วงหน้ามานานแล้ว เราต้องไม่ประมาทและระมัดระวังอยู่ตลอดเวลา ส่งคำสั่งไป ยกเลิกความเคลื่อนไหวทั้งหมดและให้กองทัพทั้งหมดเตรียมพร้อมระดับสูง”
“ขอรับ!”
ฌอนและหลิวย่าจือตอบ
“หน่วยงานข่าวกรอง ข้าต้องการให้พวกเจ้าอยู่จับตาถังเทียน ใช้ทุกวิธีที่พวกเจ้ามีข้าต้องรู้ให้ได้ถังเทียนกำลังคิดอะไร?” ผู้เฒ่าอันพูดอย่างตั้งใจ
“ขอรับ!” ผู้จัดการที่รายงานตอบรับทันที
***************
กลุ่มดาวราชสีห์
“สัตว์ประหลาด?” ตาของราชสีห์เต็มไปด้วยความสงสัยเขาคิดเกี่ยวกับอาวุธจักรกลวิญญาณที่สร้างความประทับใจลึกต่อเขา หลังจากโกรธกับสัตว์ประหลาดแม่ทัพนายกองของกลุ่มดาวราชสีห์ใช้เวลามากมายค้นคว้าเจ้าสัตว์ประหลาด พวกเขาเข้าใจว่าคนประเภทไหนจึงเป็นเป้าหมายของสัตว์ประหลาด
‘แต่ทำไมต้องสัตว์ประหลาด?’
นั่นคือสิ่งที่ทุกคนสงสัย
ถังเทียนประโคมอย่างยิ่งใหญ่ว่าพวกเขามีแผน แม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะตกลงเป็นพันธมิตรแน่นอน แต่พวกเขาก็ยังทำหน้าที่อย่างอิสระ ราชสีห์เลโอนหรือถังเทียนไม่ใช่คนที่ยินดีอยู่ภายใต้อำนาจใครอื่น โลโอนกับถังเทียนเคยพบกันมาก่อนและเลโอนก็ระงับความกลัวที่มีต่อถังเทียน
“ไปดูก่อน” เลโอนพูด “ส่งคนสองสามคนไปดูที่เมืองสามวิญญาณ”
“อย่างนั้นมีแผนครึกโครมอะไรกันแน่?” อังเดรเงยหน้าและมองบิดาของเขา
“รอจนกว่าเราจะได้รับการชี้แจงเรื่องนี้”เลโอนไม่ลังเลในช่วงเวลาอ่อนไหวเช่นนั้น แผนโกลาหลจะกระตุ้นให้เกิดผลต่อเนื่องตามมาอย่างคาดไม่ถึง
“ขอรับ”ทุกคนปฏิบัติตาม พวกเขาทุกคนคิดว่าปลอดภัยกว่าด้วยวิธีนั้น
ถังเทียนต้องการสัตว์ประหลาดมากมายเท่าใดกันแน่? ในหนึ่งสัปดาห์เมืองสามวิญญาณจะผลิตสัตว์ประหลาดได้เท่าใดกันแน่? ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ แต่ดึงดูดสายตาจากทุกคนในสวรรค์วิถี ความสามารถในการผลิตของเมืองสามวิญญาณเกี่ยวข้องกับศักยภาพในการต่อสู้ของกลุ่มดาวหมีใหญ่โดยตรง และผลิตสัตว์ประหลาดหลายตัวมากเมื่อตกอยู่ในมือนักสู้จักรกลที่ดีที่สุดที่อาศัยอยู่ในกลุ่มดาวหมีใหญ่ พลังที่พวกเขาจะแสดงออกมาไม่ใช่เรื่องดูแคลนได้เลย อย่างนั้นถังเทียนวางแผนจะใช้มันกับใคร?
ทั่วทั้งสวรรค์วิถีจับตามองดูเมืองสามวิญญาณ
สวรรค์วิถีที่ปกคลุมไปด้วยไฟสงครามอยู่ในสภาพสงบชั่วคราว มหาอำนาจต่างๆ หยุดกิจกรรมต่างๆและเพิ่มความสนใจให้กับถัเงทียนบุรุษผู้ได้รับฉายาว่าหนุ่มชาวฟ้าเป็นคนที่มีประวัติยอดเยี่ยมเหลือเชื่อ ตราบใดที่เขามีส่วนร่วมในการสู้รบใด ไม่ว่าจะเริ่มต้นยังไงก็ตามแต่ลงท้ายชัยชนะและผลประโยชน์ยังคงตกอยู่กับเขา
กลุ่มดาวหมีใหญ่ต้องการขยายอำนาจต่อต้านกดดันกลุ่มดาวกวงหมิง?
นั่นคือเรื่องใหญ่ที่พูดกันทั่วบ้านทั่วเมืองทำให้ถูกมองว่าเป็นทางเลือกเดียวที่กลุ่มดาวหมีใหญ่จะทำได้ ถ้ากลุ่มดาวหมีใหญ่ไม่ขยายอำนาจและรอให้กลุ่มดาวกวงหมิงกลืนสี่ตำหนักระนาบสุริยุปราคา อย่างนั้นกลุ่มดาวหมีใหญ่จะสูญเสียความหวังทั้งปวง
กลุ่มดาวหมีใหญ่มีเพียงโอกาสเดียว
คำสั่งที่น่ากลัวถูกส่งออกไปทำให้เกิดความสงสัยไปทั่วสวรรค์วิถีถังเทียนเล็งดาบไปที่ไหนและกับใครกันแน่?
ในช่วงเวลานั้นทุกคนในสวรรค์วิถีต่างรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยสำหรับพวกเขา
ทั่วทั้งเมืองสามวิญญาณอยู่ในช่วงปฏิบัติการ วัสดุนับไม่ถ้วนถูกส่งและหลั่งไหลเข้าไปในเมือง เตาหลอมลุกโชนย้อมท้องฟ้าเป็นสีแดง เสียงเครื่องจักรกลและกรรมกรทำงานอยู่ทั่วทุกมุมเมือง
“นี่คือสมบัติดวงดาวขบวนที่สี่” ผี่ผาพูด้วยความตื่นเต้น “สมบัติเหล่านี้มีระดับที่แตกต่างและพัฒนาคุณภาพแตกต่างกันไปส่วนใหญ่เป็นสมบัติเงินที่ส่งสัญญาณว่าจะกลายเป็นสมบัติทอง ขณะนั้นสมบัติดวงดาว 22ชิ้นเปลี่ยนเป็นสมบัติระดับทองได้สำเร็จ”
สมบัติทอง 22 ชิ้นนั่นเป็นสมบัติที่น่าหลงใหลมาก
แม่ทัพนายกองที่รายล้อมถังโฉ่วทุกคนมีสีหน้าตื่นเต้น
สมบัติดวงดาวระดับทอง 22 ชิ้นสะสมมูลค่ามหาศาลไว้ซึ่งสามารถส่งผลต่อสถานการณ์สงคราม ถ้าพวกเขาใช้สมบัติดวงดาวระดับทองสร้างเป็นสมบัติวิญญาณจะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับหน่วยเซียนอีกมากมาย เซียนจะมีพลังต่อสู้อย่างสูงสุดและสามารถเปลี่ยนกระแสในสนามรบได้
มีสมบัติระดับทองน้อยมาก และแม้แต่ในสิบสองตำหนักระนาบสุริยุปราคา พวกเขาก็มีเพียงไม่กี่ชิ้น และสมบัติระดับทองถูกมองว่าทรงพลังมากที่สุดในกลุ่มดาวต่างๆ และไม่ค่อยได้ใช้กัน กลุ่มดาวมีความมั่นคงมากขึ้น พวกเขาจะใช้มันน้อยลง มีแต่กลุ่มดาวที่มีความแปรปรวนทั้งหมดที่ไม่สามารถปกป้องตนเองได้ จึงจะนำสมบัติระดับทองมาใช้
ถังโฉ่วตรวจสอบสมบัติระดับทองอย่างระมัดระวังด้วยอารมณ์เฉยๆ
แต่เขาตกใจกับผลของมันทันที ตาของเขาไม่ถูกตรึงหรือลุ่มหลงต่อสมบัติดวงดาวระดับ 22 ชิ้น แม้ว่านี่จะเป็นของดีและสามารถยกระดับความสามารถในการต่อสู้ของพวกเขาได้ แต่สถานการณ์โดยรวมไม่สามารถเปลี่ยนไปได้ด้วยสมบัติระดับทอง 10 หรือ 100ชิ้น
สิ่งที่ทำให้ถังโฉ่วตื่นเต้นก็คือเขาเห็นว่าแผนที่ถังเทียนเสนอเพื่อใช้ดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์เป็นที่จัดหาทรัพยากรให้กลุ่มดาวหมีใหญ่มีความเป็นไปได้จริง
เป็นแผนที่สามารถส่งผลลึกซึ้งต่อสถานการณ์โดยรวม
“เราสามารถส่งสมบัติเหล่านี้ไปที่แนวหน้าก่อน” ผี่ผาหัวเราะพลางกล่าว
แม่ทัพนายกองที่ตื่นเต้นแต่เดิมก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้น พวกเขาอยากกระโจนคว้าสมบัติใจจะขาด
ถังโฉ่วส่ายศีรษะทันที “ไม่, ผนึกเก็บไว้ก่อนและเพิ่มระดับความลับให้มากขึ้น”
แม่ทัพนายกองตะลึง พวกเขาไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเอง พวกเขาได้รับแรงกดดันใหญ่ขณะที่พวกเขาอยู่แนวหน้า และกองทัพกลุ่มดาวกวงหมิงกำลังต่อสู้หนักมือมากขึ้น ถ้าการติดตั้งอาวุธสมบัติเหล่านี้ถูกส่งไปแนวหน้า ก็จะช่วยคลายความกดดันพวกเขาได้มาก
ผี่ผาประหลาดใจเช่นกัน แต่นางก็เข้าใจแผนของถังโฉ่วได้โดยเร็ว “แม่ทัพใหญ่,ท่านมีแผนจะให้ศัตรูประหลาดครั้งใหญ่ใช่ไหม?”
“ถ้าเราต้องเล่น เราจะเล่นให้หนัก” ตาของถังโฉ่วมีแววระห่ำ “เมื่อเรามีสมบัติดวงดาวมากพอเราติดอาวุธให้กับทหารทั้งหมด จากนั้นเราจะเปลี่ยนพวกเขาทั้งหมด”
ผู้ใต้บังคับบัญชาของพวกเขาทุกคนสูดหายใจหนาวเหน็บ ‘เจ้านายจะกระทำการใหญ่จริงๆ!’
เมื่อคิดถึงภาพที่สง่างามอลังการนั้นแล้วพวกเขาทั้หมดปั่นป่วนทันที ใช่แล้วถ้าพวกเขาเปิดเผยความสามารถในการเพิ่มพลังสมบัติดวงดาว ไม่เพียงแต่จะเพิ่มความสนใจให้ศัตรู แต่จะส่งผลต่อการนำเข้ามาของสมบัติดวงดาว
แม้ว่ากลุ่มดาวหมีใหญ่จะมีผลิตภัณฑ์เป็นสมบัติดวงดาวของตนเองหลายอย่าง แต่ก็ยังไม่พอและไม่สามารถสนับสนุนให้กองทัพทั้งหมดได้ เมื่อกลุ่มดาวอื่นได้รับข้อมูล พวกเขาจะควบคุมการส่งออกสมบัติดวงดาวและราคาของสมบัติดวงดาวจะสูงขึ้น
“แนวหน้ายังทนไหวหรือเปล่า?” ผี่ผาถามด้วยความกังวล
“ไม่ต้องห่วง”ถังโฉ่วพูดอย่างเฉยเมย
จากนั้นผี่ผาคิดอะไรบางอย่างได้ จากนั้นยิ้ม “ไม่เป็นไร ในเวลาอันรวดเร็วนี้แรงกดดันของพวกท่านทั้งหมดจะคลายแน่”
“ทำไม?”ถังโฉ่วถาม และแม่ทัพนายกองให้ความสนใจนางทันที
ผี่ผาหัวเราะ “เมื่อว่ากันโดยเวลา ติงตังน่าจะส่งจดหมายไปที่กลุ่มดาวแมงป่องแล้วใช่ไหม?”
“กลุ่มดาวแมงป่องเกี่ยวข้องอะไร?”ถังโฉ่วเริ่มคิด
******************
บนสนามฝึก
“สัตว์ประหลาด.....”
ลั่วซือมีอาการแปลก ใครจะรู้ว่าเขากำลังคิดอะไร
แต่โคลินตื่นเต้น “อาจารย์,ท่านคิดว่าเราจะมีส่วนร่วมในสงครามได้หรือ?”
ข่าวหอประชุมบรอนซ์ปล่อยภารกิจเร่งด่วนแพร่กระจายไปนานแล้ว แม้ว่าทุกคนไม่สามารถเข้าใจแผนการของนายใหญ่ แต่พวกเขาทุกคนรู้ว่าสัตว์ประหลาดในปริมาณที่น่าตกใจจะต้องใช้ต่อสู้ เมื่อพูดเกี่ยวกับสัตว์ประหลาด หน่วยสัตว์ประหลาดของพวกเขาเป็นที่รู้จักกันดีทั่วทั้งฐาน
ตั้งแต่เมื่อโคลินปลดปล่อยศักยภาพของสัตว์ประหลาดได้เมืองสามวิญญาณมีการสร้างกองกำลังพิเศษที่ใช้เจ้าสัตว์ประหลาด และลั่วซือเป็นคนคอยแนะนำพวกเขา
โคลินยังคงเต็มไปด้วยความตื่นเต้น “เมื่อใช้สัตว์ประหลาด จะไม่รวมพวกเราเข้าไว้ด้วยยังไง?”
ลั่วซือสะดุ้งคำถามนั้นลอยเข้ามาในใจของเขาอย่างรวดเร็ว
‘เมื่อใช้เจ้าสัตว์ประหลาด พวกเขาจะไม่รวมเราไว้ได้ยังไง?’
‘เรา...’
ประโยคนั้นดูเหมือนกระตุ้นความทรงจำที่ว่างเปล่าของเขา และภาพเลือนรางผุดขึ้นมาต่อเนื่อง ใบหน้าเลือนราง อาวุธจักรกลหักพังเลือนราง ควันที่ลอยอยู่ในอากาศ...
‘และเสียงเลือนรางที่ดูเหมือนจะลอยมาตามลมคล้ายคุ้นเคย คล้ายไม่คุ้นเคย มันคืออะไรกัน?’
“....ไขควง...ไขควงอยู่ไหน...”
“....เจ้าเด็กน้อย...อย่าตายดีกว่า, หัวหน้า, ท่านอย่าตาย...”
“...กองทัพกางเขนใต้,เดินหน้า!”
ร่างของเขาสั่นมากขึ้น และน้ำตาไหลโดยไม่อาจควบคุมได้
‘ทำไม?ทำไมข้ารู้สึกหวาดหวั่นนัก? ข้าจำอะไรไม่ได้อีกต่อไป แต่ทำไมข้ารู้สึกหวาดหวั่นนักเล่า?’
‘เรา... เป็นเราที่อยู่ด้วยกัน...ฮือๆๆๆ... แต่...’
‘พวกเจ้าทุกคน... เดี๋ยวนี้พวกเจ้าไปอยู่ไหนกันหมด...’