ตอนที่ 824 คนขลาดเขลาที่สุด
ราชาไท่หลุนจะถูกสำเร็จโทษในอีกสิบวันข้างหน้าเวลาเที่ยงวัน ยามตะวันส่องตรงศีรษะ และจะสำเร็จโทษบนแท่นประหารต่อหน้าสาธารณชน
เย่ว์หยางทราบข่าวล่าสุดนี้ตอนเดินทางได้ครึ่งทาง
ตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ประกาศลงโทษประหารชีวิต และเลือกเอาเวลาเที่ยงวัน
เพราะในแดนสวรรค์มีคำบอกต่อกันมาว่าผู้ที่ถูกประหารเวลาเที่ยงวัน วิญญาณจะได้รับการชำระมลทินผ่านรัศมีอาทิตย์ที่ร้อนแรง เป็นวิธีการชดใช้ที่ดีที่สุด
ในทางตรงกันข้ามกับคำบอกกล่าวเล่าลือนี้ หอทงเทียนจะมีคำอธิบายที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง
บรรพบุรุษของหอทงเทียนเชื่อว่าการฆ่าคนในเวลากลางวันเป็นการลงทัณฑ์ที่โหดร้ายมาก เพราะรัศมีดวงอาทิตย์ที่ร้อนแรงจะทำร้ายวิญญาณที่แยกออกมาจากกายหยาบจนบาดเจ็บเป็นสองเท่า วิญญาณของคนทั่วไปจะถูกแสงอาทิตย์ทำลายได้ง่ายมาก แม้แต่นักสู้ที่เคยถูกฆ่าตายมาครั้งหนึ่ง วิญญาณที่หลุดออกจากร่างจะถูกแสงอาทิตย์ฉายใส่ทันทีและได้รับความเจ็บปวดทรมานอย่างหนัก บรรพบุรุษของหอทงเทียนจึงเชื่อว่าการฆ่าเวลาเที่ยงวันจึงเป็นการลงทัณฑ์ที่โหดร้าย เว้นแต่เป็นอาชญากรรมบาปหนาสาหัส จะไม่มีการใช้การลงทัณฑ์แบบนี้ง่ายๆ
เรือเหาะของกลุ่มโจรเพลิงพิโรธแล่นเป็นเวลาสามสิบนาที ในที่สุดก็เห็นเป้าหมาย
มาถึงเมืองไถ่ถอน (จิ้วสือจือ)
เมืองไถ่ถอนตั้งอยู่ใต้สันเขามรณะ และที่สันเขามรณะแห่งนี้เป็นที่ใช้สำเร็จโทษราชาไท่หลุน
นอกจากกลุ่มโจรสลัดเพลิงพิโรธแล้ว ด้านนอกเมืองมีเรือเหาะชนิดต่างๆ จอดเทียบอยู่นอกเมืองรอที่จะเข้ามา
“เราจะลงไปกันดีไหม?” เจ้าเมืองโล่วฮัวรู้สึกเบื่อเล็กน้อย นางบิดตัวอย่างเกียจคร้าน “หลายวันมานี้ไม่ได้อยู่ในเมืองเลย เอาแต่อยู่ในเรือเหาะมันจำเจเกินไป บางทีเมืองไถ่ถอนนี้อาจจะมีสุดยอดพันธุ์ไม้ดอกธัญชาติของแดนสวรรค์ก็ได้ เราไปดูกันเถอะ!”
“น้อมรับบัญชา เจ้าเมืองที่รักของข้า” เย่ว์หยางปล่อยให้นางฉุดลากไปด้วย เป็นไปได้ว่าอาจปฏิเสธก็ได้ แต่การอยู่แต่ในเรือเหาะทุกวันมันจำเจน่าเบื่อ
“ถ้าคนของกลุ่มโจรตัวตลกพบเข้าล่ะ...” ลี่เยี่ยนกังวลปัญหาข้อนี้มากที่สุด
“อย่างน้อยที่นี่เขาทำอะไรไม่ได้” เย่ว์หยางในตอนนี้ไม่ได้กังวลกลุ่มโจรตัวตลก เว้นแต่ว่าผู้สนับสนุนกลุ่มโจรตัวตลกคือตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ มิฉะนั้นด้วยพลังของเสี่ยวโฉ่วก็คงไม่สามารถสร้างผลกระทบอะไรได้ สิ่งที่น่ากลัวเกี่ยวกับเสี่ยวโฉ่วคือเขารู้ความลับของหอทงเทียนมากและเขาเจ้าเล่ห์มาก ในกรณีที่เขามีความเกี่ยวข้องกับยอดฝีมือหอทงเทียนนั่นจะน่าหงุดหงิดเล็กน้อย
“เฮ้, เจ้าบอกว่าการฆ่าคนจะไม่เป็นปัญหาใช่ไหม? ยังไงก็ตามที่นี่คือแดนสวรรค์ ทั้งหมดต้องมีพลังแข็งแกร่งพอที่จะพูด เราไม่จำเป็นต้องขลาดเขลาต่อเสี่ยวโฉ่วในตอนนี้ ราชาใจสิงห์ก็เหมือนกัน” เจ้าเมืองโล่วฮัวตอนนี้ก้มหน้าก้มตาเดิน นางมีความปรารถนาจะท้าทายนักสู้ปราณฟ้าเพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าแกร่งขึ้นมากเพียงไหน
“งั้นก็ไปกัน!” ลี่เยี่ยนไม่คัดค้านอีกต่อไป อย่างไรก็ตามนางฟังเย่ว์หยาง แม้ว่าเย่ว์หยางไม่อยู่ที่นั่นนางก็ยังฟังโล่วฮัว
นางเคยคิดว่านางฉลาดมาก ไม่ว่าเรื่องใดนางสามารถรับมือได้ด้วยตนเอง
หลังจากอยู่ร่วมกับเสวี่ยอู๋เสีย องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและคนอื่น นางพบว่าตนเองยังมีการตัดสินใจที่ไม่ดี
หลังจากเดินจับจ่ายใช้สอยอยู่หลายชั่วโมงเจ้าเมืองโล่วฮัวซื้อดอกไม้ประหลาดจากแดนสวรรค์ได้มากมาย นางเดินจ่ายตลาดอย่างมีความสุข
เย่ว์หยางที่กับลี่เยี่ยนน่าสงสารทำหน้าที่เป็นจับกังหิ้วสิ่งของ แต่ละคนถือดอกไม้คนละสองกระถางเดินตามนาง เย่ว์หยางพบสัจจธรรมว่าในเวลาอย่างนี้ทำไมพวกคุณชายทั้งหลายมักจะมีธุระเสมอทั้งที่ไม่ได้มีจริงๆ
โชคดีที่สมาคมทหารรับจ้างขึ้นข้อความว่าเหยียนเจ้าที่มาถึงเมืองไถ่ถอนก่อน มาขอเข้าพบ
เมื่อเขาเห็นเย่ว์หยางกำลังถือกระถางดอกไม้ เข้ารีบเข้ามาช่วยถือ “ข้ามาแล้ว ข้ามาช่วยแล้ว!”
เย่ว์หยางถามข่าวคราวของไป่ลู่ เมื่อได้ยินว่าเหยียนเจ้ายังไม่พบนาง จึงรีบส่งเขาไปตามคน ข่าวที่รวบรวมมาได้ถูกพักเอาไว้ชั่วคราว เขาให้ความสำคัญกับการจัดลำดับความสำคัญของงาน เหยียนเจ้าส่งคืนกระถางดอกไม้และหายเข้าไปในสมาคมทหารรับจ้าง เขาคาดว่าไป่ลู่อาจจะไปรอที่นั่น เย่ว์หยางและเจ้าเมืองโล่วฮัวเดินเล่นอยู่ครึ่งชั่วโมงและพบว่ามีความปั่นป่วนกวนใจอยู่ที่ข้างหน้า
เขาลอยตัวขึ้นไปในอากาศและมองดูบนพื้นที่ล้อมรอบไปด้วยฝูงผู้คน
อดีตหัวหน้าโจรกะโหลกดำราเชลก็อยู่ในนั้นด้วย เขาเป็นคนเดียวที่เย่ว์หยางรู้จัก
อย่างไรก็ตามคนขัดแย้งไม่ใช่เขาแต่เป็นสหายของมนุษย์กะโหลก คนผู้นั้นมีลักษณะเหมือนแวมไพร์พลังไม่ต่ำทรามปราณฟ้าระดับสาม สวมชุดยาวสีแดงมีเครื่องหมายสัญลักษณ์พิเศษเหมือนว่าจะมาจากตระกูลหรือสำนักใหญ่
คนที่จ้องหน้าอยู่นั้นเป็นเผ่าพันธุ์ทอเรน (หัววัว)
พลังและความแข็งแกร่งใกล้เคียงกัน
เขาเปลือยกายท่อนเผยให้เห็นมัดกล้ามหนาแน่น ทั้งอกและหลังมีรอยสักที่น่ากลัว จมูก หูและริมฝีปากเจาะร้อยห่วงทองขนาดต่างๆ มีลักษณะดูดุร้ายน่ากลัว ใบหน้าที่น่าเกลียดน่ากลัวอย่างนี้ถ้าไปอยู่ในทวีปมังกรทะยาน ต่อให้มีพลังฝีมือระดับสูง คาดว่าสาวงามคงไม่ยอมเหลียวแล เพราะทอเรนผู้นี้อัปลักษณ์มาก อัปลักษณ์ขนาดทำให้เด็กงอแงถึงกับหยุดร้องไห้! เมื่อเย่ว์หยางเห็นคนผู้อัปลักษณ์น่ากลัวอย่างนั้น เขาลอบถอนหายใจ เติบโตขึ้นมาด้วยรูปอัปลักษณ์เช่นนี้แล้วยังกล้าที่จะมีชีวิตต่อไป หัวใจของเขาแข็งแกร่งเสียเหลือเกิน!
สิ่งที่ทำให้เย่ว์หยางยากจะเข้าใจก็คือมีหญิงงามอยู่ข้างกายทอเรน หญิงงามผู้นี้ไม่ทราบว่าเป็นเผ่างูหรือเผ่าใดกันแน่ ผิวของนางมีเกล็ดเล็กๆ และมีเมือกหล่อเลี้ยง ดูเหมือนว่าปากสีแดงของนางเดี๋ยวอ้าเดี๋ยวหุบเหมือนงูล่าหาเหยื่อให้ความรู้สึกเย็นชาแปลกประหลาด
นางงามอสรพิษนี้นอกจากแขนที่เรียวยาวกอดแขนหนาใหญ่ของทอเรน นางยังมีหางยาว หางของนางขดพันต้นขาของทอเรน
เย่ว์หยางสังเกตได้เล็กน้อย
หญิงงามเผ่างูนี้จะโบกสั่นหางเหมือนกับหางผึ้ง
“ลิมาต้องขออภัยต่อสตรีของท่น มิฉะนั้นลิมาจะแต่งงานกับท่านก็ได้!” ทอเรนและแวมไพร์เรียกตัวเองว่าลิมา
“ดูเหมือนว่าลิมาผู้นี้จะเป็นโจรอยู่ในแดนสรรค์ใต้ ข้าเคยได้ยินชื่อของเขา เขามีฝีมือร้ายกาจโหดร้าย แต่ไม่รู้เลยว่าเป็นพวกทอเรน” หัวหน้าลี่เยี่ยนอธิบายให้เย่ว์หยางฟัง นอกจากกลุ่มโจรแล้วยังมีโจรภูเขาอีกหลายคน พวกเขาไม่ต้องการจัดตั้งกองกำลังเที่ยวปฏิบัติการในพื้นที่ห้าร้อยลี้ตามลำพัง กลุ่มพ่อค้าจะเรียกพวกนี้ว่าโจรเดี่ยว ปกติโจรเดี่ยวส่วนใหญ่จะอ้างตัวเองว่าเป็นนักรบ มีไม่กี่คนเท่านั้นที่มีความดุร้ายและอวดอ้างชื่อเสียงที่ชั่วร้ายอย่างทอเรนลิมาผู้นี้
“ฮ่าฮ่าฮ่า, ข้านึกว่าใคร ที่แท้ก็เป็นลิมา เจ้าแมลงสมองกลวงนี่เอง..” แวมไพร์หัวเราะ
“ข้าไม่ได้ชื่อลิมา ข้าคือโจรเดียวดายผู้ลือชื่อเฮย์จี ลิมาเป็นแค่ชื่อเล่นที่คนภายนอกเรียกชาวทอเรน คนมีจำนวนมาก แต่ไม่มีใครรู้ชื่อจริง
“มาต่อสู้กัน พนันด้วยสตรีของเจ้า!” แวมไพร์ผายมือซีด และใช้ปลายจมูกสูดกลิ่นเบาๆ “แค่สัมผัสแค่นี้ก็รู้สึกได้ว่าไม่เลว ดูเหมือนว่าความสามารถบนเตียงต้องไม่เบาด้วยใช่ไหมลิมา, สตรีของเจ้ามีความต้องการ ถ้าเจ้าไม่ต้องการโดนเลาะฟันก็จงมอบให้มาโดยไม่ต้องใช้กำลัง การเก็บสตรีดีๆ อย่างนี้ไว้ย่อมไม่เป็นผลดีกับเจ้า”
“เจ้ารนหาที่ตาย ข้าจะเสี่ยงกับเจ้าแล้ว!”... ทอเรนโมโหฟันสันมือที่ทรงพลังออกไปเหมือนกับฟันด้วยขวาน คลื่นพลังกระแทกใส่แวมไพร์
“ฝีมือก็งั้นๆ” แวมไพร์หลบหลีกอย่างง่ายดาย และแค่นเสียงเย็นชา
เย่ว์หยางมีท่าทีเบื่อหน่าย ดูเหมือนว่าการต่อสู้แบบนี้จะยังไม่มีผลแพ้ชนะในช่วงสองสามวันนี้ พลังของทอเรนดีกว่าความเร็วของแวมไพร์เล็กน้อย และยากจะเอาชนะกันได้ทั้งสองฝ่าย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองไถ่ถอนนี้ พวกเขาไม่กล้าใช้พลังต่อสู้แบบบู๊ล้างผลาญ จึงยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะกันได้
เจ้าเมืองโล่วฮัวไม่คิดว่าจะมีอะไรคู่ควรแก่การดู มิสู้ไปหาดูพืชพันธุ์แดนสวรรค์ดีๆ
นางหันหลังเตรียมออกไปพร้อมกับเย่ว์หยางลี่เยี่ยนต้องการดูการต่อสู้แตกหัก แต่เย่ว์หยางต้องเดินตามนางไปทันที เดินซื้อของในถนนใกล้เคียงประมาณครึ่งชั่วโมง เย่ว์หยางกับลี่เยี่ยนถือกระถางต้นไม้เพิ่มอีกคนละสองสามกระถาง และแม้แต่เจ้าเมืองโล่วฮัวมองดูทั้งคู่ถืออย่างทุลักทุเล นางจึงช่วยถือหนึ่งกระถาง
ทั้งสามคนเดินไปมา
ทันใดนั้นมีเสียงบึ้ม
มีเงาสายหนึ่งปลิวลอยมาแต่ไกลเหมือนดาวตก
เป็นทอเรนที่ล้มกระแทกอย่างหนักหน่วงอยู่ต่อหน้าเย่ว์หยางและเจ้าเมืองโล่วฮัว ในท้องฟ้ามนุษย์กระดูกราเชลกับสาวงามเผ่างูเริ่มสู้กันกัน แวมไพร์หรี่ตาข้างหนึ่งและพุ่งลงมาจากท้องฟ้าด้วยความโกรธ เขาจงใจชี้ทอเรน “กล้าเจ้าทำร้ายนัยน์ตาข้า ลิมา, เจ้ายั่วข้าได้สำเร็จ วันนี้จะเป็นวันตายของเจ้า!”
“เจ้าไม่มีปัญญาป้องกันตัวเอง ยังจะกล้าโกรธข้าอีกหรือ?” ทอเรนยืนขึ้นและถ่มเลือดแค่นเสียงยั่วโมโหอีก
“ว่าไงนะ?” แวมไพร์ตะลึง
“เมื่อครู่นี้เจ้าควบคุมพลังคลื่นระเบิดไม่ได้ เจ้าโจมตีใคร เจ้ารู้หรือไม่? สนมรักของเจ้าเมืองไถ่ถอน นางยืนดูเจ้ากับข้าสู้กันที่บันได เจ้ารู้ไหม? ทำไมข้าต้องทนรับสิบหมัด สิบห้าเท้าของเจ้า? หรือว่าเจ้าตาบอดไปแล้ว? ข้าไม่รู้ว่าเจ้ามีวิธีฟื้นฟูได้หรือไม่? เจ้าได้ชื่อว่าเป็นปีศาจดูดเลือด ข้าเองก็เคยได้ยินมาเช่นกัน เหตุผลที่เจ้าทำเช่นนี้เพราะเมื่อเจ้าโกรธ เจ้าจะโจมตีจนควบคุมตัวเองไม่ได้ และจะพลาดพลั้งทำร้ายคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่จนได้รับบาดเจ็บโดยเจ้าเองก็ไม่ได้ตั้งใจ เจ้ารู้ไหม? ทำไมข้าถึงตรงไปยังทิศทางนั้น? ก็เพื่อหลอกให้เจ้ายิงพลังออกมา ในบรรดาผู้ชมดูเหตุการณ์ มีเพียงสนมของเจ้าเมืองไถ่ถอนที่ไม่ได้มีพลังระดับปราณฟ้า มีแต่นางที่จะทำให้เจ้าได้รับบาดเจ็บโดยบังเอิญได้ เจ้ายังอยากจะสู้กับข้าอีกหรือเปล่า นอกจากนี้ความแข็งแกร่งของข้าไม่ได้น้อยไปกว่าเจ้าเลย หากไม่ตั้งใจว่าจะล่อหลอกเจ้า เจ้าจะโจมตีข้าจนกระเด็นไปเป็นกิโลเมตรได้ยังไง” คำพูดของทอเรนทำให้คนที่อยู่รอบๆ และได้ยินคำนี้ต่างหลั่งเหงื่อเยียบเย็น
ใครต้องการพูดว่าทอเรนไม่มีสอง และนั่นก็เป็นจริง
มองอย่างผิวเผินแวมไพร์มีจิตใจที่สกปรก แต่ใครจะรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วทอเรนที่ดูเหมือนไม่มีสมอง
มนุษย์กระดูกราเชลและแวมไพร์เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็รีบหนีไปโดยเร็ว การทำร้ายสนมรักเจ้าเมืองอาจเป็นเรื่องใหญ่หรือเล็กก็ได้ ราเชลและแวมไพร์บินหนีไป พวกเขาหนีไปทันทีไม่กล้ารั้งอยู่แม้แต่วินาทีเดียว
มีคำพูดสองสามคำที่ทำให้ราเชลและแวมไพร์กลัว
ลี่เยี่ยนพูดไม่ออก
มิน่าเล่าทอเรนลิมาผู้นั้นถึงไปมาได้อย่างอิสระในแดนสวรรค์ คนที่เห็นเขามักถูกรูปลักษณ์ภายนอกหลอก
ทอเรนมองดูเหมือนโง่และไร้สมอง ไม่มีใครรู้ใจของเขาดี
เย่ว์หยาง โล่วฮัวและลี่เยี่ยนไม่เห็นเปลวไฟก็จากไปแล้ว
ใครจะรู้กันว่าทอเรนนั้นเหยียดมือออกขวาง “หัวหน้าลี่เยี่ยน ถ้าข้าจำได้ไม่ผิด ท่านต้องเป็นหัวหน้าลี่เยี่ยนใช่ไหม? เมื่อครู่นี้ที่ทะเลาะกันอยู่ ข้าเห็นท่านไม่ชัด แต่หัวหน้า, ท่านรีบร้อนออกไป ข้าแทบคิดว่าจะไม่ได้พบเจอท่านอีก โชคดีที่ท่านมีอารมณ์เดินจับจ่ายซื้อของอย่างสบาย มิฉะนั้นคงไม่พบว่าท่านยังอยู่ที่นี่ แม้ว่าเจ้าไบอันผู้นั้นจะมีพลังหมัดสร้างความเจ็บปวดได้บ้าง แต่ถ้าข้าฉวยโอกาสจับอาชญากรที่เป็นที่ต้องการตัวอย่างหัวหน้าลี่เยี่ยนได้ ธุรกิจครั้งนี้นับว่าไม่เลว”
ลี่เยี่ยนโกรธ “ข้าต้องการจากไป แล้วเจ้าเล่า?”
ทอเรนส่ายศีรษะและโบกมือ ตาวัวโปนโตของเขาเต็มไปด้วยอาการขู่กรรโชก “แน่นอนว่าไม่ ก่อนข้าจะมาข้าทำรายงานต่อท่านเจ้าเมืองไปแล้ว ถ้าพลั้งมือฆ่านางบำเรอเจ้าเมือง บางทีเจ้าเมืองก็ไม่สนใจ เพราะเขามีนางบำเรอเป็นร้อยคน อย่างไรก็ตามถ้าข้าจัดการให้ตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ประกาศว่าเจ้าเป็นอาชญากรที่เป็นที่ต้องการตัว ก่อนจะดำเนินการประหารส่งของขวัญให้ท่านภูตพรายฟ้า และผู้คุ้มกฎถานไถ นั่นจะเป็นความดีความชอบครั้งยิ่งใหญ่! ข้าคิดว่าท่านเจ้าเมืองคงจะตื่นเต้นอย่างแน่นอน”
เย่ว์หยางอดยกนิ้วชื่นชมทอเรนไม่ได้ “ไม่เลว ในบรรดาทอเรนที่ข้าเคยพบมา เจ้าฉลาดที่สุด และต่ำช้าที่สุด!”