ตอนที่แล้วตอนที่ 818 ขอให้เอาชนะให้ได้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 820 ข้ากลับมาแล้ว

ตอนที่ 819 สุดยอดการรบ


ศัตรูหลั่งไหลเข้ามาในทวีปป่าหินทรายไม่ขาดสายเหมือนคนบ้า

อายะจำไม่ได้อีกต่อไปว่านางสู้ไปกี่ครั้งแล้ว เป็นเวลาหกวันหกคืนที่รบกับศัตรูที่หลั่งไหลเข้ามาเหมือนน้ำหลากไม่มีหยุด  ดาบใหญ่ของนางเต็มไปด้วยรู ใบหน้าที่ละเอียดอ่อนของนางเต็มไปด้วยฝุ่นเถ้ามีเพียงผมแดงเพลิงที่เป็นเอกลักษณ์ของนางที่ยังเป็นประกายสดใส

ในที่สุดก็ได้รับเวลาพักที่มีค่า  อายะกอดดาบยักษ์ของนางและหอบหายใจ  “เรายังเหลือคนอยู่เท่าใด?”

ทหารตาสามเหลี่ยมอ้าปากหอบ  แต่ไม่พูดอะไรและเอ่ยปากรายงานงานหลังจากผ่านไปชั่วขณะ “ทุกคนอยู่ที่นี่แล้ว”

อายะตะลึงค้าง

รอบๆนางล้วนแต่เป็นใบหน้าของคนคุ้นเคยที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า สมบูรณ์พร้อม

‘เหลือเพียงไม่กี่ร้อย...’

ตาของอายะเต็มไปด้วยความเสียใจ  นางนิ่งเงียบพักหนึ่งจากนั้นพูดเบาๆ“ข้าเสียใจด้วย, ทุกคน..”

“ลูกพี่หญิง, อย่าพูดอะไรแบบนั้น”  คนตาสามเหลี่ยมหัวเราะเบาๆบางครั้งเหมือนกับจะเยาะเย้ยตนเอง “เฮ้อ.. กองทหารกะโหลกชมพูจากทวีปหลูโจวคนไหนไม่ได้เตรียมตัวตายบ้างเล่า? เราเคยใช้ชีวิตในอดีตมายังไง? เฒ่าเหอ เจ้ายังจำดาบหักที่เจ้าใช้ได้ไหมเจ้าใช้มันทั้งอย่างนั้นถึงหกปี และมันก็บิ่นมากขึ้น จนแทบจะดูเหมือนเลื่อยอยู่แล้ว ตอนนี้เมื่อได้ยินว่าเศรษฐีใหม่มีแผนจะซื้อกองทัพ เราก็ไปกัน  เนื่องจากเราก็ถือว่าเป็นกองทัพเหมือนกัน  ทุกคนมีความคิดเดียวกัน ไปขุดทองของเศรษฐีนั้น  เราจะกลายเป็นผู้แข็งแกร่งขึ้น”

ทุกคนฟังอย่างเงียบสงบ  หน้าของเขามีรอยยิ้มจริงใจและอดคิดถึงชีวิตพวกเขาในอดีตไม่ได้

“จะหาเจ้านายอย่างนี้อีกไม่ได้แล้ว  เขารวยและติดอาวุธให้เราทุกคนเป็นอย่างดี  ถ้าไม่ใช่เพราะการฝึกที่ฝืนทนจนเรารู้สึกอยากจะหนีไป  ข้าคิดว่าข้าคงกลายเป็นแพะอ้วนไปแล้ว  และเมื่อใช้ชีวิตแบบนี้   ตาแก่นี้รู้สึกว่าค่อนข้างว่างเปล่า,  ทำไมน่ะเหรอ? เพราะได้รับการดูแลดีเกินไปน่ะสิ!  ทุกคนรู้ตัวเองรู้มาตรฐานของเราเอง ตาแก่ผู้นี้ไม่มีหน้าไปบอกนายท่านว่าเราไม่สมควรได้รับการปฏิบัติเช่นนั้น  หลังจากนั้นข้าถึงกับกลัว  เรากำลังขายชีวิตให้เขา  ทำกับเราเสียดีอย่างนั้น  ชีวิตของเราก็ไม่เป็นของเราอีกต่อไป  และในที่สุดเราทุกคนก็รู้แล้วนายท่านเป็นคนเจ้าเล่ห์ เราขายชีวิตของเราแต่โดยดี หึหึแต่ข้ารู้สึกว่ายินดีจะทำเช่นนั้น!”

ทุกคนหัวเราะ

ใครบางคนในกลุ่มพูดออกมา  “เจ้าก็ได้ประโยชน์เหมือนกันนี่ พี่สาม,ชีวิตบัดซบของเจ้าค่อยคุ้มกับเงินบ้างจริงๆ!”

คนตาสามเหลี่ยมเลิกคิ้วกล่าว “งั้นทำไมข้าต้องพูดว่าเรายินดีจะทำเช่นนั้นเล่า?  เราทิ้งชีวิตของเรากับเรื่องนี้ไปแล้ว  ดังนั้นชีวิตเราควรสละได้!  ตอนนี้เราได้รับบางอย่างที่คุ้มค่าชีวิตที่ไร้สาระของเราแล้วทุกคน บอกข้าที, มันคุ้มหรือไม่?”

“คุ้มจะตาย!”

“คุณชายถังไม่มีอะไรต้องพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้แน่นอน!”

“รู้สึกว่าคำพูดของพี่สามจะถูกต้อง”

“อะไรนะ?”

“การฝึกที่เหนื่อยหนักทำให้เราอยากจะหนีเสียเหลือเกิน!”

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”

……

ทุกคนพูดคุยอย่างมีชีวิตชีวาทุกคนพูดโดยไม่มีความกลัว, ถอนหายใจอย่างสงบโดยไม่มีความเศร้า

หูของอายะขยับ  นางชูดาบยักษ์ของนางขึ้นและพูดเย็นชา  “เตรียมรบ!”

**********************

ในพื้นที่ซากหักพังของป้อมพิทักษ์สมุทร

เสียงเตือนภายดังก้องไปทั้งพื้นที่

เรือรบใหญ่ลำแล้วลำเล่าตั้งแถวตรงและเร่งเข้าหาพื้นที่ปรักหักพัง

เว่ยถิงถิงและพวกที่เหลือมีสีหน้าสงสัย  พวกเขาพยายามจะทำอะไร? เรือรบขนาดใหญ่ทั้งหมดเคลื่อนที่อย่างงุ่มง่ามและไม่มีทางผ่านตรงเข้าไปที่ซากหักพังได้  มีแต่เรือล้อมตีขนาดเล็กจึงจะผ่านไปได้

อาเฮ่อรู้สึกได้ทันทีว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติความรู้สึกไม่สบายใจทำให้เขาว้าวุ่น

ทันใดนั้นเขาคิดอะไรบางอย่างได้ และมีสีหน้าตกใจทันที เขาสั่ง “กลุ่มดาวคนธนู, โจมตีเรือรบลำแรก!”

ศิษย์ตระกูลเว่ยทุกคนดึงธนูและยิงทันทีในขณะนั้นสายฝนธนูแสงระดมยิงใส่เรือรบลำแรกไม่ขาดสาย

แต่เรือรบขนาดใหญ่มีธนูแสงโจมตีใส่หนาแน่นกระทบใส่ม่านพลังป้องกันเห็นแต่เพียงรอยกระเพื่อมบางๆ  เรือรบขนาดใหญ่ยังคงเคลื่อนไหวได้ไม่หยุด และด้วยความเร็วที่น่าประหลาดดันเข้าใส่พื้นที่ซากปรักหักพังทันที

เว่ยถิงถิงเป็นคนแรกที่มีปฏิกิริยา  นางตะโกนบอก “ใช้เทพธนูทอง!”

มีแต่เทพธนูทองในมือนางวางบนคันธนูของนางปัง, เทพธนูทองพุ่งหายไปในทันที

โรววว!!!

เสียงคำรามกราดเกรี้ยวเหมือนกับเสือปรากฏในสนามรบ

เทพธนูทองที่บินอยู่เปล่งแสงสว่างเจิดจ้างดงามในอากาศ พลังงานที่ใช้บินถูกดูดกลืนโดยธนูอย่างบ้าคลั่ง ตัวลูกธนูสว่างเต็มไปด้วยหมอกเหมือนรัศมีที่ขยายออกคล้ายกับการเปลี่ยนแปลงของเนบิวลา  และยังคงแปรสภาพต่อไปในอากาศอย่างไม่แน่นอน

เมื่อธนูกระทบกับม่านพลังป้องกันของเรือรบม่านพลังป้องกันสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงเหมือนกับฟองสบู่ที่สามารถแตกได้ทุกเมื่อภายใต้พายุ

เหมือนกับสัตว์ร้ายคำรามปรากฏตัว

เทพธนูทองอีกดอกหนึ่งตัดผ่านอากาศมาถึงพอดี

ม่านพลังป้องกันเรือรบขนาดใหญ่แตกกระจายหมดสิ้น

เทพธนูทองดอกที่สามมีแสงเจิดจ้ายิงเข้าไปที่เรือซึ่งสูญเสียการป้องกันไปแล้ว

ปัง!

รัศมีแสงที่สว่างเจิดจ้ากว่าดวงอาทิตย์สว่างวาบทันที

ในขณะนั้นสายตาทุกคนพลันพร่ามัว แรงระเบิดที่น่ากลัวทำให้หูทุกคนอื้อทั้งไม่ได้ยินและมองอะไรไม่เห็นชั่วคราว

แรงระเบิดที่ปลดปล่อยออกมาเหมือนวายุพิโรธกวาดไปทั่วทุกทิศทาง ซากหักพังที่ใหญ่และหนักจากเรือล้อมตีขนาดยักษ์ถูกกวาดออกไปจากแรงระเบิดที่รุนแรง

แต่หลังจากแสงรัศมีแพรวพราวจางลงการมองเห็นของทุกคนก็ค่อยๆ ฟื้นกลับเป็นปกติ

เรือรบถูกทำลายเรียบเหลือไว้แต่กองไฟขนาดยักษ์ปรากฏในบริเวณใกล้เคียงไม่ถึง 1.5 กิโลเมตร

ฟู่...

เมื่อมีประกายนับไม่ถ้วนระเบิดออกเมื่อจู่ๆ กราบของเรือรบลำที่สองพุ่งออกจากเปลวไฟ เป็นเรือรบลำที่สอง! เรือรบนั้นไม่หลบและพุ่งเข้าหาเปลวไฟโดยตรง

และในตอนนั้นเองทุกคนก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นสีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปมาก

เรือรบขนาดใหญ่ทุกลำจะเต็มไปด้วยพลังระเบิดและเมื่อถูกกระแทกจะก่อให้เกิดการระเบิดขนาดใหญ่

โกวเฉิงเวิ่นเต้าวางแผนใช้เรือรบระเบิดเปิดทางผ่านซากหักไปไปได้!

‘เราต้องหยุดเขา!’

ทุกคนมีความคิดอย่างกันในหัวพวกเขาทันที  หลังจากการรบผ่านไปสองสามวัน  ทุกคนเข้าใจว่าถ้าไม่มีพื้นที่ซากหักพัง  พวกเขาจะไม่สามารถป้องกันได้นานและโกวเฉิงเวิ่นเต้ารู้ตรงจุดนี้ ดังนั้นเขาไม่ลังเลจะเสียสละเรือรบขนาดใหญ่สองสามลำเพื่อเปิดทางให้ใหญ่พอผ่านพื้นที่ซากหักพังได้

เพียงแค่นั้นกองกำลังของพวกเขาจะเดินหน้าต่อไปได้

เรือรบขนาดใหญ่ด้วยความใหญ่ของมันทำให้เลี้ยวกลับลำยาก  แต่ความเร็วของมันนับว่าไม่ช้าเลยแม้แต่น้อย

ปัง!

เรือรบลำที่สองที่อยู่ห่างไม่ถึงหนึ่งกิโลเมตรจากพื้นที่ซากหักพังเกิดระเบิด

หลังจากมีประสบการณ์แรกแล้ว  ปฏิกิริยาของทุกคนดีขึ้นทันที

อย่างไรก็ตามอีกฝ่ายหนึ่งก็กล้าหาญ ขณะที่เรือรบด้านหลังรีบออกมาห่างจากเรือรบที่จะระเบิด

ระยะห่างระหว่างเรือรบถูกคำนวณไว้อย่างพิถีพิถันทำให้ทุกคนที่เห็นประจักษ์มองเห็นแผนการที่ละเอียดและบ้าระห่ำของโกวเฉิงเวิ่นเต้า

แม้จะมีทุกคนโจมตีอย่างบ้าคลั่ง  พื้นที่ที่สี่ก็เข้าสู่พื้นที่ปรักหักพังอีก

การระเบิดที่น่าตื่นตาตื่นใจด้วยแรงระเบิดที่ทรงพลังกวาดผ่านพื้นที่ซากหักพังจนโล่งทันที

อาเฮ่อห้ามบริวารของเขาไม่ให้โจมตี เขามองเรือรบที่กำลังเร่งผ่านเปลวเพลิงเหมือนแมงเม่า แรงระเบิดขนาดใหญ่และเพลิงที่โหมไหม้เป็นแนวยาว  เปลวไฟยังคงลุกโหมกราดเกรี้ยวและจากนั้นค่อยๆมอดลง

ถ้าแนวซากหักพังสูญเสียไปการรบที่ตามมาไม่ง่ายที่จะต่อสู้

เป็นไปตามที่โกวเฉิงเวิ่นเต้าคาด!

อาเฮ่อยืนอยู่บนซากหักพังชิ้นหนึ่งเขาอยู่ในชุดดำถือกระบี่ของเขาตัวตรงนัยน์ตากระจ่างจ้องมองกองทัพใหญ่ข้างหน้าเขา  และจากนั้นหันหลังและพากองกำลังของเขาถอย

******************

ห้องประชุมเต็มไปด้วยควัน

แผนที่ข้างหน้าปิงเต็มไปด้วยสัญลักษณ์และหัวลูกศร  หน้าไพ่ของเขาไม่ขยับเหมือนว่ากำลังคิดลึก

งานใหม่ของเซี่ยอวี่อันคือเป็นทูตรับสมัครทหารใหม่เป็นการสลับฉากช่วงสั้นๆและสถานการณ์การสู้รบที่รุนแรงยังไม่ลดลง ถ้าต้องกล่าวกันว่าที่ป้อมพิทักษ์สมุทรนั้นโกวเฉิงวิ่นเต้ามีความแข็งแกร่งมั่นใจในตนเองและดูแคลนพวกเขา  และตอนนี้เขาเห็นสถานการณ์ของตนเองชัด

สถานการณ์ของโกวเฉิงเวิ่นเต้าในตอนนี้เป็นเหมือนหมาป่าที่บาดเจ็บและไม่เพียงแต่ถอยไม่ได้ แต่เขายิ่งเพิ่มความบ้าระห่ำมากขึ้น เวลาที่โกวเฉิงเวิ่นเต้าพ่ายแพ้ต่อเนื่องทำให้เขาเสียเวลามากเกินไป  แต่ก็ทำให้โกวเฉิงเวิ่นเต้าสูญเสียภาระทั้งหมดของเขาด้วย

นอกจากเผาเรือตัวเองแล้ว  เขาไม่มีทางเลือกอื่น

การสู้รบที่จะตามมาจะเป็นการทดสอบอย่างเข้มงวดที่แท้จริง พวกเขาจำเป็นต้องต้อนรับการโจมตีอย่างดุดันของโกวเฉิงเวิ่นเต้าและเป็นการโจมตีที่ทุ่มเทสุดตัว!

สำหรับโกวเฉิงเวิ่นเต้าการโจมตีเช่นนั้นเป็นรูปแบบที่เหมาะสมกับรูปแบบโจมตีของเขาที่สุดและยังไม่ถึงขั้นเปิดเผยความสามารถที่แท้จริงของเขา

สำหรับพันธมิตรใต้  พวกเขาไม่มีทางเลือก ได้แต่รักษาแนวต้านไว้เนื่องจากพวกเขามีเปรียบที่พื้นที่ ใครบางคนแนะนำให้ถอย และวางแผนล่อให้ศัตรูล่วงลึกเข้ามา แต่ถูกปิงห้าม

ขวัญกำลังใจสงครามนองเลือดไม่เพียงแต่แนวรับต้องมั่นคง แต่ขวัญกำลังใจของพันธมิตรใต้ต้องมั่นคงด้วย กองทัพสัมพันธมิตรใต้ไม่ได้อ่อนแอต่อไปเหมือนอย่างที่เป็นมาในอดีตแล้ว  แม้ว่าความตั้งใจจะเอาชนะจะเป็นไปไม่ได้ก็ตามแต่ความสิ้นหวังที่พวกเขามีในใจก่อนนั้นก็หายไปด้วย  ถ้าพวกเขาต้องถอยในเวลาอย่างนั้นขวัญกำลังใจที่คิดจะสู้ก็ยากจะมั่นคง และพังทลายได้โดยเร็ว

ตอนนี่ทั้งสองฝ่ายต่างรีบพักหายใจเอาแรงเท่าที่พวกเขาสามารถทำได้  ใครก็ตามที่ละเลยก็จะพ่ายแพ้

สงครามเข้าสู่จุดสูงสุดจนได้

ไม่มีการเบี่ยงเบนไปจากที่ปิงคาดหวัง รายงานต่อเนื่องที่ส่งเข้ามาทำให้คนอื่นรู้สึกตกใจ

เขายังคงเงียบ  หน้าเหมือนไพ่ของเขาซ่อนอยู่หลังควันบุหรี่มองดูคลุมเครือ

เขาทรมานกับความเจ็บปวดที่คุ้นเคยในใจเขาทำให้เขาสั่นสะท้าน ไม่มีอะไรที่ทำให้ลูกผู้ชายคนหนึ่งต้องกังวลมากไปกว่าเห็นเหล่าสหายต้องจากไปคนแล้วคนเล่า  แต่ในฐานะที่เขาเป็นผู้บัญชาการสูงสุดเขายังคงทำใจให้มั่นคง ดังนั้นเขาเห็นด้วยกับแผนของอูหม่าเทียนซึ่งในช่วงนี้เป็นแผนที่ดีที่สุด

เขาคิดถึงผู้บัญชาการคิดถึงอาซิ่น คิดถึงลั่วซือ คิดถึงใบหน้าที่คุ้นเคยทั้งหมดที่จางหายไปหลายไป

‘ข้ายังคงกังวลมากเกินไป’  ปิงหัวเราะเยาะตนเอง  ‘แรงกดดันเล็กน้อยนี้ทำให้ข้าเป็นแบบนี้’

‘ถ้าเพียงแต่ถังห้าวอยู่ที่นี่ในตอนนี้...’

จู่ๆปิงก็มีความคิดเช่นนี้

ทันใดนั้นสายใยความปั่นป่วนอย่างอธิบายไม่ถูกผุดขึ้นมาในใจของเขา

“เฮ้, ลุงปิง, ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ!”

เขาชะงักค้าง

‘สงสัยจะหูแว่วไปเอง’

‘ดูเหมือนว่าข้ากังวลมากเกินไป  ก็เลยมีอาการหูแว่ว’

‘เป็นเสียงที่แปลกประหลาดมาก  ถังห้าวแปลกไปตราบเท่าที่มีบางอย่างที่เขาไม่ชอบ เขาจะไปก่อเรื่องยุ่งยาก ข้าไม่เคยคิดเลยว่าหลังจากไม่พบเห็นเขามาช่วงเวลาหนึ่งข้ายังมีความปรารถนาอยู่บ้าง’

‘พอเป็นพอ!  ข้ามัวแต่หวังจะเอาชนะเขามากไป  ข้าตกต่ำลงขนาดนี้เมื่อไหร่กัน?’

ปิงหัวเราะเย้ยหยันตนเอง  เขาพ่นบุหรี่เป็นวงอีกครั้ง ‘ข้าต้องกดดันมากเกินไปแน่  สงสัยต้องหาอาหารเสริมกินบ้างแล้ว’

‘เฮ้ย,ทำไมขุนพลวิญญาณต้องกินอาหารเสริมกับเขาด้วยเล่า?’

“เอ่, ทำไมไม่มีการตอบ?  เขาได้ยินข้าหรือเปล่า?  มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า?  ตาแก่โบราณจากกองทัพกางเขนใต้ไม่น่าเชื่อถือเลย!  จบแล้ว จบแล้ว,แล้วข้าจะแก้เรื่องนี้ยังไงดี...”

เสียงบ่นที่คุ้นเคยพล่ามออกมาจนรับไม่ไหว

ปิงตะลึง,บุหรี่หลุดจากปากตกลงพื้น ประกายไฟกระจาย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด