ตอนที่ 817 ความจริงที่บ่อน้ำพุร้อน
หลิวเย่เพิ่งฟื้นขึ้น นางรู้สึกเหมือนกับพบกับความฝันที่ยาวนานเป็นพันปี
ขอบเขต ความรู้และพลังงานที่ไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้ เหมือนกับว่าใจอิ่มเต็มเหมือนมหาสมุทร นางรู้ว่าถ้าไม่ใช่เพราะขอบเขตการรู้แจ้งของนางไม่เพียงพอจะรองรับได้มากขึ้นสิ่งที่นางจะเก็บเกี่ยวได้ในความฝันจะมากเป็นหมื่นเท่า เย่ว์หยางนำโลกที่กว้างใหญ่ไม่สิ้นสุดมาให้นาง และมีความเชื่อมั่นในระดับที่แตกต่างกัน และหลิวเย่ไม่เคยคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ โลกนี้มีความกว้างใหญ่ไพศาลเกินกว่าจะจินตนาการ เป็นความดำรงคงอยู่ของจักรวาลที่กว้างใหญ่ไพศาลไม่มีขีดจำกัด
อาจารย์!
หลิวเย่รีบลุกขึ้นนั่งเพื่อดูว่าเย่ว์หยางพบกับอุบัติเหตุใดหรือไม่
นางไม่แน่ใจว่านางหมดความรู้สึกไปก่อน จะมีผลต่ออาจารย์หรือไม่
“ตื่นแล้วหรือ?” อู๋เหินปรากฏตัวอยู่หน้าหลิวเย่และยื่นส่งแก้วน้ำให้กับนาง “ศักยภาพของเจ้าไม่เลว เจ้าหลับไปถึงสามวัน”
“สามวัน?” หลิวเย่ไม่เข้าใจว่านางหลับไปนานถึงสามวัน นั่นจะเกี่ยวอะไรกับศักยภาพ แต่นางมักจะให้ความเคารพอู๋เหินอยู่แล้ว อู๋เหินเป็นครู หลิวเย่ว์รับแก้วน้ำโดยไม่รู้ตัวและถามงงๆ “ข้าหลับไปถึงสามวันเชียวหรือ?”
“ถูกแล้วยิ่งเจ้าได้รับผลเก็บเกี่ยวในขอบเขตใหม่มาก ร่างกายก็ต้องการเวลาปรับตัวมาก เจ้าหลับไปสามวันและใช้เวลาปรับตัวที่ยาวนานซึ่งพิสูจน์ว่าเจ้าได้รับผลตอบรับมามาก! เจ้าก็รู้ คนที่ตื่นไวที่สุดก็คือเป่าเอ๋อ และเอลฟ์สาวใช้ ใช้เวลาเพียงวันเดียว ข้ากับเย่ว์หวี่ เซี่ยอีทั้งหมดใช้เวลาปรับตัวสองวันซึ่งเป็นการพิสูจน์ว่าเจ้ามีศักยภาพดีกว่าพวกเราบางคน” เมื่ออู๋เหินยื่นแก้วน้ำให้หลิวเย่อีก หลิวเย่ประหลาดใจเมื่อพบว่าในนิ้วของนางมีประกายพลังงานโปร่งแสงและแทบจะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า รากวิญญาณ หลิวเย่รู้สึกว่าใจนางเปิดกว้างเหมือนกับว่านางสามารถคุยกับอู๋เหินโดยตรงผ่านทางใจได้
“อะไรกันนี่?” หลิวเย่พบว่านิ้วตนเองเหมือนกับมีไส้หลอดพลังงาน แต่ไม่เหมือนกับรูปพลังงานของอู๋เหิน
“ปมเชื่อมใจ” อู๋เหินยิ้มและลูบไรผมที่หน้าผากของหลิวเย่เบาๆ “หลังจากฝึกการเชื่อมโยงทางใจได้สำเร็จ พวกเราแต่ละจะมีทักษะทางใจที่พิเศษ ข้ากับเย่ว์หวี่ตัดสินใจเรียกสิ่งนี้ว่า ‘ปมเชื่อมใจ’ แม้ว่ารูปร่างสำหรับทุกคนจะแตกต่างกัน แต่ก็สามารถใช้สื่อสารกันทางใจได้”
“เป็นพลังวิญญาณหรือ?” หลิวเย่ประหลาดใจเมื่อพบว่าพลังรูปแบบนี้ไม่สามารถหยุดยั้งได้ทุกสิ่งจะตกอยู่ภายใต้สิ่งที่ตนเองต้องการ
“ดู!”
อู๋เหินไม่ตอบ แต่นิ้วสีหยกแดงชี้ออกไปในระยะไกล
หลิวเย่เงยหน้าขึ้นมาและพบว่าเขตสนามพลังสร้างโลกของเย่ว์หยางเต็มไปด้วยริบบินพลังงานวิญญาณที่ยอดเยี่ยมทุกชนิด แต่ละสายเส้นจะมีรูปร่างแตกต่างกัน และมีลักษณะเฉพาะของตนเอง มีทั้งใหญ่และน้อย ถ้าดอกไม้ถูกพันไว้ ริบบิ้นจะขมวดเป็นปมสัญลักษณ์ดูลึกลับ
เย่ว์ปิงและอี้หนานยังคงหลับอยู่ ยังมีคนนอนอยู่บนพื้นอีกมากที่ยังไม่ตื่นขึ้น
พวกนางยังคงดื่มด่ำอยู่ในสนามพลังงาน
ร่างกายพวกนางยังคงมีการปรับตัวในระดับที่ต่างกันเนื่องจากการบรรลุในขอบเขตขั้นใหม่
หลิวเย่เห็นปมเชื่อมใจของจักรพรรดินีราตรีงดงามที่สุด เป็นดาวดวงแล้วดวงเล่าเชื่อมโยงกันและงดงามแพรวพราวที่สุดในกลุ่ม แสงกระพริบระยิบระยับงดงามจับตาทำให้ ‘ปมเชื่อมใจ’ ที่นางได้มาดูธรรมดาไปเลย ปมเชื่อมใจของจื้อจุนเป็นแสงรังสีกระบี่ทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า เจิดจ้าจนคนธรรมดาไม่สามารถมองดูได้ตรงๆ แม้ว่าพลังวิญญาณนั้นใกล้จะหมดสำนึกรู้ แต่ไม่มีใครกล้ามีความคิดดูหมิ่นในใจ ปมเชื่อมใจของจื้อจุนยังมีลักษณะเฉพาะ เป็นภาพผู้พิทักษ์ขนาดมหึมา ภาพฉายทางจิตที่คล้ายตัวนาง โดดเด่นสง่างามยิ่งกว่าและค่อนข้างขาดความอ่อนโยนของสตรีเพศตามปกติ... ขณะที่หลิวเย่มองรู้สึกสะท้านใจอดไม่ได้ที่บูชาเทิดทูนนาง
นางไม่รู้ว่าในกลางปมเชื่อมใจของจื้อจุนเป็นภาพเหมือนอะไร แต่คงเป็นการอ่านใจที่ตรงและศักดิ์สิทธิ์ที่สุด
ต่างจากจื้อจุนเย่ว์หยางไม่มีปมเชื่อมใจ ไม่มีภาพผู้พิทักษ์
เขากำลังนอนอยู่ตรงกลางของทุกคน
ผู้คนทั้งหมดทั่วหมดมีพลังขยายออกไปทั่วจักรวาลไม่สิ้นสุด ตลอดเวลาที่มีคนตื่นจากหลับลึกหลังจากที่พวกนางปรับตัวให้เข้ากับพลังใหม่ได้อย่างรวดเร็ว
หลิวเย่เห็นลักษณะการหลับของเย่ว์หยาง มุมปากของเขาโค้งเหมือนกับกำลังอารมณ์ดี แต่ไม่ถึงกับหัวเราะ
คัมภีร์อัญเชิญของเย่ว์หยางเปลี่ยนไปมาก มีขนาดยาวสามเมตรกว้างหนึ่งเมตร อักษรเหนือคัมภีร์เป็นประกายกระพริบ และโลกคัมภีร์ยังคงดูดซับพลังงานต่อเนื่อง เมื่อเป็นเช่นนี้หลิวเย่อดรู้สึกดีใจต่อเย่ว์หยางมิได้ นางเคยฟังเย่ว์หยางพูดมาก่อน นางมักฟังเย่ว์หยางบ่นบ่อยๆ ว่าคัมภีร์อัญเชิญก้าวหน้าพัฒนาช้า จะเลื่อนเป็นระดับเพชรอยู่แล้ว แต่ก็ไม่เลื่อนเสียที ตอนนี้อาจารย์ควรจะรู้สึกสบายใจ เป็นไปได้ไหมว่านี่คือคัมภีร์ชั้นเพชร? ดูเหมือนว่าพอเลื่อนระดับเป็นคัมภีร์เพชร มีความแตกต่างเล็กน้อยเท่านั้น แต่เมื่อเป็นอาจารย์ สถานการณ์อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้
เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงคัมภีร์อัญเชิญของเย่ว์หยาง หลิวเย่ไม่กล้าตรวจสอบมากนัก
ขณะที่อู๋เหินลุกขึ้นยืน หลิวเย่หันกลับไปเห็นเสวี่ยอู๋เสีย
นางพบว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลเสวี่ยเป็นภรรยาคนแรกของอาจารย์ เนื่องจากมีความเชื่อมโยงใจกับเย่ว์หยาง ปมเชื่อมใจของเสวี่ยอู๋เสียจึงงดงามที่สุด น่าทึ่งที่สุด เต็มไปด้วยอักษรรูน อักษรรูนหมุนวนอย่างต่อเนื่องนั้นเป็นอักษรรูนโบราณ หลิวเย่ไม่รู้จัก อย่างไรก็ตามนางมีพลังสื่อสารทางจิตได้ อักษรรูนเหล่านั้นต้องเป็นภาษาลับที่อาจารย์อู๋เสียพูดคุยกับอาจารย์แน่ คาดว่ามีแต่เพียงอาจารย์เท่านั้นที่เข้าใจความหมาย
มีอักษรรูนในปมเชื่อมใจอย่างนี้ อาจารย์จะไม่มีทางทำผิดต่อแม่นางอู๋เสียแน่
ไม่มีใครสามารถเลียนแบบนางได้
“เจ้าเองก็มีทักษะพิเศษและยังเป็นคนเดียวที่มี! ความบริสุทธิ์ ความเมตตาของเจ้าและความกล้าหาญที่ก้าวข้ามอุปสรรคทั้งหมดของเจ้าไม่มีใครเทียบได้!” อู๋เหินใช้ทักษะเชื่อมใจกับหลิวเย่และนางรู้ว่าตอนนี้หลิวเย่คิดอะไร จึงปลอบโยนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ค่ะ, ขอบคุณอาจารย์หญิง” หลิวเย่หน้าแดง
นี่คือการยอมรับของอาจารย์หญิงอู๋เหินหรือไม่?
นางไม่กล้าคิดเรื่องนี้และพยายามเบี่ยงเบนความเชื่อมโยงใจ เพราะกลัวว่าอู๋เหินจะรู้ถึงความเก้อเขินในใจนาง
อู๋เหินไม่รู้ถึงความกังวลใจของสาวน้อยนางนี้ ถึงรู้นางก็คงไม่แสดงออกนางลูบหน้าหลิวเย่เบาๆ “ไปอาบน้ำเถอะ พวกเป่าเอ๋อพากันไปอาบน้ำพุร้อนกันแล้ว ไม่ต้องห่วงเรื่องอื่น ตอนนี้รอให้เย่ว์หยางฟื้นเท่านั้น”
หลิวเย่พยักหน้าถี่
แต่ก่อนจะเดินออกไป นางอดเหลียวหลังลอบมองดูเขาอีกครั้งไม่ได้...
เมื่อนางพยายามบินขึ้นไปตามทักษะวิชาที่เย่ว์หยางสอน นางต้องพบกับความประหลาดใจว่าร่างของนางเบากว่าปกติถึงร้อยเท่า สามารถเคลื่อนไหวได้ดังใจนึกโดยไม่ต้องควบคุมร่างเหมือนอย่างเคยตามปกติ พลังงานโคจรอยู่ในร่างโดยอัตโนมัติ ระยะหนึ่งกิโลเมตรเมื่อเทียบการเทเลพอร์ตโดยผสานกับกวางทะลุมิติ ไม่มีความต่างกันเลย
มีภาพเหมือนภาพมายาว่าท้องฟ้าสั้นขึ้นและโลกมีขนาดเล็กลง
อะไรกันนี่
หลิวเย่ตกตะลึงเมื่อลงมายืนอยู่ที่น้ำพุร้อนซึ่งห่างออกมาสิบกิโลเมตร นางคาดว่าจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งนาทีกว่าจะไปถึงที่นั่น ตอนนี้ใช้เวลาเพียงสิบวินาที ถ้านางใช้กวางทะลุมิติช่วยเทเลพอร์ตคาดว่าจะเร็วกว่า
ไม่ใช่การเทเลพอร์ต หรือการบินล้วน แต่เป็นการเดินผ่านช่องว่างย่นระยะทางที่ไม่ธรรมดา
เกิดอะไรขึ้นกับร่างของนาง
เด็กสาวร่างเปลือยกระโดดเข้ามากอดหลิวเย่ เสียงกระดิ่งจากต่างหูของเป่าเอ๋อดังขึ้นอย่างไพเราะ “พี่หลิวเย่ช่างน่าทึ่งจริงๆ เป่าเอ๋ออยากได้เทวทูตเทพธิดา แต่ว่าน่าเสียดาย แค่เกือบได้!”
“ใครให้เจ้าฝึกอย่างจริงจังนักเล่า? สาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์ยังทำได้ดีกว่าเจ้าด้วยซ้ำ!” เซี่ยอีแช่น้ำร้อนอย่างสบายอารมณ์
“ไม่นะ, ข้าน้อยไม่จำเป็นต้องกลายเป็นเทพธิดาเทวทูต ตราบใดที่ข้าน้อยยังอยู่รับใช้เจ้านาย” สาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์เขินอายซ่อนตัวอยู่ในบ่อน้ำพุร้อน นางเพียงแค่โผล่ให้เห็นแต่ศีรษะ แต่ซ่อนร่างอยู่ในน้ำเพื่อไม่ให้เซี่ยอีเห็นแล้วรู้สึกว่าตัวนางด้อย แม้ว่าเซี่ยอีจะเคยเห็นมาแล้วก็ตามเมื่อตอนที่เย่ว์หยางให้สาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์สวมชุดหนัง จึงทำให้พบเห็นเสน่ห์พลังที่แท้จริงว่านางให้ความรู้สึกที่ทรงพลังเพียงไหน
“ทูตศักดิ์สิทธิ์คืออะไร?” หลิวเย่อยากจะถามเรื่องนี้กับสาวใช้เอลฟ์ แต่เมื่อพูดไปหน่อย นางต้องกล้ำกลืนคำพูดไว้
ความจริงนี่ก็นับว่าโชคดีแล้ว เมื่อเทียบกับเป่าเอ๋อเด็กสาวขี้อาย เซี่ยอีมักรู้สึกว่าอกของนางมีขนาดที่ด้อยกว่า แต่ในใจหลิวเย่นางมิได้รู้สึกด้อย สาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์คงไม่มีใครเทียบขนาดกับนางได้ยกเว้นนางมารกฎฟ้า
เซี่ยอีให้กระจกหลิวเย่ นางถึงกับร้องออกมาด้วยความตกใจ “นี่ตัวข้าหรือนี่?” ในกระจก หลิวเย่ตกใจแทบจำตัวเองไม่ได้
รูปลักษณ์สวยงามศักดิ์สิทธิ์มองดูน่าประหลาดใจไปบ้าง ไม่ว่าจะเป็นประกายรัศมี รูปหัวใจเพชรสัญลักษณ์ทูตศักดิ์สิทธิ์สะท้อนอยู่ในกระจกและเป็นเครื่องหมายว่าเลื่อนระดับเป็นทูตศักดิ์สิทธิ์ เป็นไปได้ยังไง นางเพิ่งจะผ่านระดับปราณก่อกำเนิดมาได้ไม่นาน ระดับปราณราชันย์ยังเป็นสิ่งที่อยู่ห่างไกล แล้วนางกลายเป็นทูตศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร? หรือว่ากระจกมีอะไรผิดปกติหรือเปล่า?
เย่ว์หวี่มาปรากฏอยู่ด้านหลังหลิวเย่ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อใด
บนร่างของนางกลิ่นพรหมจรรย์และมีไอระเหยออกรอบตัว หลิวเย่ตกใจเมื่อทักษะเชื่อมใจสามารถเชื่อมใจได้อย่างง่ายดายและนางก็ได้กลิ่นพรหมจรรย์นี้ด้วย
หลิวเย่เองก็ตกใจเมื่อเห็นร่างของเย่ว์หวี่ นางเปลี่ยนแปลงจริงๆ แต่ไม่เข้าใจว่าเปลี่ยนแปลงตรงที่ใด
ไม่เพียงแต่เย่ว์หวี่เท่านั้น แต่อู๋เหินก่อนนี้ เป่าเอ๋อ สาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์และเซี่ยอี พวกนางเปลี่ยนแปลงไปมากมายกันทุกคน หลิวเย่รู้สึกเหมือนอยู่ในฝันที่ไม่ใช่ความจริง หรือว่านางยังคงฝันอยู่?
“ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นหนึ่งในหลายๆ ผลเก็บเกี่ยวที่เราได้จากเสี่ยวซาน จื้อจุนและจักรพรรดินีราตรีก็มีผลตอบรับของพวกนาง ข้าเชื่อว่ามีความสามารถอีกมากมายที่รอให้เราเปิดออกใช้ หลิวเย่! เจ้าไม่ควรกังวลเครื่องหมายทูตศักดิ์สิทธิ์ที่ซ่อนอยู่ อันที่จริงเรายังไม่สามารถเป็นทูตศักดิ์สิทธิ์ได้ในขณะนี้ ขอบเขตของเราคือจื้อจุนนำเรามาและมีแนวทางแนะนำอยู่ตามเส้นทางโลกพฤกษา ผู้อาวุโสผู้ยิ่งใหญ่หลายคนล้วนใช้เส้นทางบันไดสวรรค์แห่งนี้ ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วยังไม่สามารถบรรลุเส้นทางทูตศักดิ์สิทธิ์ได้ นั่นคงเป็นเรื่องน่าผิดหวังจนเกินไป อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงขอบเขตที่เราเพิ่งเข้าถึง พลังความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเรายังไม่เพียงพอ ถ้าเป็นอย่างปกติ เสี่ยวซานก็คงพอเป็นตัวอย่างได้ เหมือนกับว่าเรามีอสูรบินในตอนนี้ แต่เรายังใช้ไม่ได้ ไม่สามารถบินได้ในอากาศ แต่ต้องมองขึ้นไปในท้องฟ้าจากพื้นดิน ตราบใดที่เรายังคงฝึกฝนต่อไป อย่างน้อยที่สุดก็ไปถึงยังขอบเขตที่เรามีอยู่ตอนนี้ได้ เราไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับศักยภาพหรือสภาวะคอขวด เพราะเสี่ยวซานและจื้อจุนช่วยให้เราผ่านจุดนั้นมาได้แล้ว สิ่งที่เราต้องทำต่อไปก็คือแค่พยายามฝึกฝนให้หนักขึ้น อย่าไปรบกวนพวกเขา เพื่อที่พวกเขาจะได้จดจ่ออยู่กับการเลื่อนระดับพลังของพวกเขา เย่ว์หวี่โอบไหล่หลิวเย่เบาๆ และพูดเหมือนกับพยาบาลอธิบายให้ผู้ป่วยที่เพิ่งได้สติฟัง
“ถูกแล้ว, ข้าน้อยรู้สึกดีใจจริงๆ!” สาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์ชูกำปั้นลุกขึ้นยืนจากสระน้ำร้อน
“หูยยย ใหญ่มากกก..” เป่าเอ๋อร้องลั่น
ทุกคนมองดูอย่างตกใจ
ใช้เวลานานกว่าเย่ว์หวี่และหลิวเย่จะสนองตอบและเบือนสายตาออกไปได้ เซี่ยอีเขกศีรษะเป่าเอ๋อ “เด็กโง่! เจ้ามองตรงไหนกัน? เจ้าไม่มีเป็นของตัวเองบ้างหรือไง?” สาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์อายจนต้องเอามือปิดหน้าและรีบดำน้ำไปซ่อนตัวเหมือนเด็กโผล่ให้เห็นแต่จมูกเล็กน้อย
เพื่อแก้เขินพฤติกรรมก่อนหน้านี้หลิวเย่รีบถอดชุดและลงไปแช่ในบ่อน้ำร้อนต่อ
ทางด้านเย่ว์หวี่ที่ลงไปอยู่ในบ่อน้ำร้อนก่อนแล้วนางกวาดสายตามาที่อกของหลิวเย่โดยบังเอิญ
นางตะลึงค้างในทันที