ตอนที่ 816 การบรรลุที่ไม่มีใครเหมือน
เย่ว์หยางรู้สึกเหมือนหิมะถล่มไหลอย่างรวดเร็ว ด้วยความช่วยเหลือของเสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเสี่ยวเหวินหลีเป็นเรื่องที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
แต่ละวินาทีจะมีความรู้สึกใหม่เกิดขึ้น
ในตอนเริ่มแรกเย่ว์หยางคิดว่าสำนึกของขอบเขตปราณราชันย์มาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว ก่อนนั้นไม่มีวิวัฒนาการอะไรน่าจะเป็นขอบเขตของทั้งหมดแล้ว แต่ตอนนี้เขาค้นพบได้ในไม่ช้าว่า จุดสิ้นสุดเดิมที่เขาคิดว่าทิ้งไว้แล้วที่เบื้องหลัง กลับมีสิ่งใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมายอยู่ต่อหน้าเขา โดยที่เขาแทบจะรู้สึกว่าสายเกินไป เนื่องจากไม่จำเป็นต้องกังวลถึงความปลอดภัยส่วนบุคคล ร่างของเขาสามารถดื่มด่ำอยู่ในขอบเขตความรู้แจ้งอย่างใหม่ และมีแหล่งพลังงานไม่มีที่สิ้นสุดจากกฎสวรรค์ของวิหารปีศาจดิน... กระบวนการความก้าวหน้าของเย่ว์หยางจึงรวดเร็วเหมือนติดปีกบินจนถึงระดับที่ไม่เคยมีใครคาดคิดถึงมาก่อน
แน่นอนว่าไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น แต่รวมถึงเสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนที่ผูกพันจิตใจร่วมกับเขาด้วย
แม้แต่เสี่ยวเหวินหลี หน้าของเธอผุดผ่องเป็นประกาย
เปล่งประกายสีสันของการรู้แจ้งอย่างชัดเจน
เห็นได้ชัดว่าเธอฟื้นคืนความทรงจำทักษะรบในชาติก่อนกลับมาได้
ไม่ทราบว่าเวลาผ่านไปเท่าใด ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นในพื้นที่ภายนอก หัวใจสี่ดวงผสานรวมกัน เอาชนะพลังงานและปณิธานโลกใหม่ เย่ว์หยางที่เป็นผู้นำเองก็ยังไม่รู้ว่าขอบเขตความรู้แจ้งนี้จะจบสิ้นเมื่อใดและไม่รู้ว่าจะเพิ่มระดับไปถึงไหน
เขารู้เพียงเล็กน้อย
นี่แค่เพียงเริ่มต้น... การเลื่อนระดับที่แท้จริง และการเข้าถึงกระแสพลังที่ไม่รู้จบนี้ยังห่างไกลกว่าจะถึงขีดจำกัด!
ลำแสงพลังงานซึ่งมีรัศมีถึงพันเมตรค่อยๆ สว่างขึ้นช้าๆ ขณะที่เย่ว์หยางคิดว่าจะค่อยๆ เติบโตไปสู่ระดับใหม่อย่างไม่หยุดยั้ง
ทั่วทั้งบันไดสวรรค์ทั้งหมดถูกครอบคลุมไปด้วยพลังงานวิเศษที่ลึกลับและน่าทึ่ง อู๋เหิน เย่ว์หวี่และปิงเอ๋อกลับลงมาจากบนบันไดสวรรค์มาถึงที่กลุ่มชั้นต้น เพราะพวกนางกลัวว่าจะส่งผลต่อเย่ว์หยาง พวกนางได้แต่มองดูอย่างตื่นเต้นไม่กล้าเข้าไปใกล้ แต่เย่ว์ปิงและอี้หนานกลับมาจากบันไดสวรรค์ชั้นสูงกว่าแซงหลิวเย่ เซี่ยอี ไห่หลานและมาอยู่ที่เชิงบันไดสวรรค์ในไม่กี่วินาที
ต่างจากเย่ว์หวี่ เย่ว์ปิงและพี่ชายมีความรู้สึกที่สื่อถึงกันอย่างช่วยไม่ได้
นางไม่สนใจคำปรามของเย่ว์หวี่และวิ่งเข้าไปหาเย่ว์หยางโดยไม่รู้ตัวและกระโจนเข้าสู่กระแสโลกแห่งการรู้แจ้ง ด้วยความรู้สึกที่ไม่เหมือนใครของนางที่คิดจะช่วยพี่ชาย เป็นพลังช่วยเหลือเล็กๆ ที่ขาดไม่ได้
“ปิงเอ๋อผ่านไปได้ ไม่เป็นไรจริงๆ หรือ?” เย่ว์หวี่กังวลมากว่าน้องสาวจะส่งผลต่อการฝึกฝนของเย่ว์หยาง
“ไม่เพียงแต่ไม่มีปัญหา แต่ดูเหมือนจะช่วยได้มากขึ้น” อู๋เหินก็ตัดสินใจเช่นกัน
“แล้ว, เราจะทำยังไงดี?” พวกกลุ่มหลิวเย่ก็เพิ่งมาถึง
พวกนางต้องการผ่านไปช่วยเย่ว์หยาง แต่พวกนางกังวลว่าพวกนางจะไม่สามารถหลอมรวมได้เหมือนกับเย่ว์ปิง เมื่อรู้ว่าเย่ว์ปิงและเย่ว์หยางมีทักษะร่วมกันวิหารเจมินี่ร่วมกันและทักษะหัวใจกระจกสามารถใช้งานได้ทุกเมื่อ การทำความเข้าใจก็คงไม่มีปัญหาแน่นอน พวกนางไม่รู้ว่าการรุกล้ำเข้าไปของพวกนางจะเป็นประโยชน์ต่อเย่ว์หยางหรือไม่ จึงลังเลใจที่จะเคลื่อนไหว
แม้แต่อู๋เหินที่รู้จักเย่ว์หยางดีที่สุดก็ยังมองอี้หนานด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ
อี้หนานร่วมผ่านด่านวิหารเทพสตรีได้ทักษะภูตกระจกโดยร่วมคณะกับเย่ว์หยาง เย่ว์ปิงและเสวี่ยอู๋เสียในการผ่านด่านสิบสองนักษัตร นอกจากนี้ยังผ่านการฝึกปรือคู่รักมาแล้วจึงมีความเข้าใจไม่ด้อยไปกว่าเย่ว์ปิง
สำหรับความช่วยเหลือของทุกคน อี้หนานไม่ค่อยรู้ว่าจะทำอะไรได้เท่าใดนัก
ตอนนี้นางปรารถนาจะเข้าไปในสนามพลังให้เร็วเท่าที่เป็นไปได้ แต่นางไม่แน่ใจว่าคนอื่นจะสามารถผสานพลังได้เช่นเดียวกันหรือไม่
ในช่วงที่ตัดสินใจนี้ ราชันย์ปีศาจใต้ จุ้ยมาวอวี้และมารเคราะห์ฟ้าวิ่งลงมาสมทบ ในฐานะที่เป็นระดับหัวหน้าเผ่าภูตบูรพามาเป็นเวลานาน ราชันย์ปีศาจใต้ผ่านงานปกครองมานับพื้นที่ไม่ถ้วน นางมีความสามารถในการตัดสินใจที่ดีกว่าคนทั่วไป นางให้คำแนะนำว่าให้เด็กอย่างอี้หนานและหลิวเย่ผู้มีจิตใจบริสุทธิ์เข้าไปผสานดูก่อนว่าสามารถให้ความช่วยเหลือเย่ว์หยางได้มากหรือไม่
ไห่หลานหรือไห่อิงอู่ที่กลายเป็นจักรพรรดินีสมุทรและมารเคราะห์ฟ้าก็เห็นดีให้การสนับสนุนด้วย
ในที่สุดอี้หนานและหลิวเย่แบกความหวังของทุกนางเข้าไป
พวกนางเดินหวาดๆ ผ่านสนามพลังเข้าไปหาเย่ว์หยางในใจกลาง
พวกนางผสานเข้ากันได้โดยไม่มีการต่อต้าน... นี่เป็นการตอบสนองที่ดีมาก ดังนั้นทุกคนจึงสบายใจ แต่ถึงอย่างนั้นพวกนางก็ยังมีข้อสงสัยและอู๋เหินและเย่ว์หวี่ก้าวผ่านสนามพลังงานเห็นถึงความเป็นไปได้ที่จะโดนพลังงานโต้กลับ ความจริงพวกนางกังวลใจมากเกินไป ตอนนี้เย่ว์หยางไม่เพียงแต่ไม่ต่อต้านการผสานใจกับพวกนาง แต่ยังต้อนรับด้วยความยินดี
การเข้าร่วมฝึกของทุกคนจะส่งผลให้พัฒนาการของเขาก้าวกระโดด
ถ้าหัวใจเย่ว์หยางตอนนี้เป็นเหมือนแม่น้ำ อย่างนั้นทุกคนที่เข้ามาช่วยผสานใจก็เหมือนกับสายลำธารน้อย แม้ว่าจะไม่อาจเทียบกับเขาได้ แต่ก็เข้ากันได้ดี ในกระบวนการรวมใจนี้ไม่เพียงแต่ทำให้เย่ว์หยางก้าวหน้าเท่านั้น แต่ยังทำให้พวกนางก้าวหน้าด้วย
เด็กสาวยักษ์ อาหง อาหมัน ตั่วตั่ว อิคคาที่ฝึกอยู่ในบันไดสวรรค์ขั้นสูงวิ่งลงมาอย่างตื่นเต้น
จักรพรรดินีราตรีและจื้อจุนก็กลับลงมาด้วยความเร็วสูงสุด
ระยะห่างของพวกเขาลดลงอย่างรวดเร็ว
คาดว่าอีกไม่นานก็คงแซงพวกนาง
นางเซียนหงส์ฟ้าแซงขึ้นหน้าพวกนางอย่างกระตือรือร้นและไล่ทันลี่เยี่ยนกับภูตเพลิงฟ้า สาวแฝดองครักษ์มังกรและสาวมังกรไร้เขาเจี้ยงอิงในระหว่างทาง เมื่อเห็นอาการกระวนกระวายของนางเซียนหงส์ฟ้าที่มุ่งหน้าจะลงไปยังพื้นล่าง พวกนางไล่ตามไปอย่างกระชั้น นางทิ้งระยะห่างจากลี่เยี่ยนและภูตเพลิงฟ้าห่างออกไปทุกที
“ปราณฟ้าระดับหก นี่ข้ายังอ่อนแอกว่าหรือนี่” ลี่เยี่ยนถอนหายใจ
“....” ภูตเพลิงฟ้าไม่มีสติปัญญาคิดอะไรมาก แต่นางสามารถอ่านความต้องการจะร่วมผสานพลังงานในสนามพลังงานให้เร็วเท่าที่เป็นไปได้ เพื่อช่วยให้เจ้านายนางเลื่อนระดับพลัง ลี่เยี่ยนขบฟันแน่นไล่ตามหลังนางไป ถ้านางไม่สามารถไล่ทันสาวแฝดมังกรได้ ไม่สามารถไล่ทันเจี้ยงอิงและมารกฎฟ้าได้ ลี่เยี่ยนคงต้องยอมรับสภาพ แต่ถ้าไล่ตามภูตเพลิงฟ้าไม่ทันนางจะไม่ยกโทษให้ตนเองเด็ดขาด
เวลาผ่านไป
ครึ่งชั่วโมง หนึ่งชั่วโมง สองชั่วโมง..
หากไม่มีความรู้ตกทอดที่ได้มาจากพี่สาวของแม่สี่ก่อนหน้านี้ เย่ว์หยางคงไม่สามารถรับระดับความคิดที่แตกต่างกันมากมายอย่างนี้ แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่าเหมือนเป็นแม่น้ำใหญ่ ไม่ว่าจะมีกระแสน้ำไหลมาสมทบเท่าใดก็ไม่รู้สึกเป็นภาระ ไม่เกินขอบเขตความอดทนแต่กลับเปลี่ยนแปลงไปเป็นพลังที่แข็งแกร่ง
ความรู้สึกของทุกคนในการต่อสู้แต่ละครั้งแตกต่างกัน เย่ว์หยางไม่เคยคิดว่าสักวันหนึ่งเขาจะสามารถรับประสบการณ์ของคนหลายคนได้พร้อมกัน
การผสานแง่มุมความคิดที่แตกต่างหลากหลายมีความสมบูรณ์มาก
แม้ว่าจะไม่สูงไปกว่าความรู้ที่ได้รับตกทอดจากพี่สาวแม่สี่ แต่ซับซ้อนมากกว่าและละเอียดอ่อนมากกว่า
เย่ว์หยางใช้ประโยชน์จากความช่วยเหลือของทุกคนมุ่งมั่นต่อการเติบโตก้าวหน้าในทุกวินาที พร้อมกับการหลอมรวมความรู้ทั้งหมดในเวลาเดียวกัน ตนเองก็ยังพยายามก้าวข้ามระดับของตนเข้าสู่ขอบเขตใหม่ ในขณะที่ทำความเข้าใจความรู้ที่ยังไม่ชัดเจนที่พี่สาวแม่สี่ตกทอดไว้ให้.. อาจกล่าวได้ว่าในตอนนี้เขาฝึกฝนแบบยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว
การฝึกฝนแบบนี้คือสิ่งที่เขาไม่เคยคิดมาก่อน
ยังคงเป็นเรื่องที่ทุกคนไม่สามารถนึกภาพออกเช่นกัน
เป็นเรื่องบังเอิญและเป็นโชคพิเศษที่เกิดขึ้นในการฝึก เป็นโอกาสที่จะไม่มีใครสามารถลอกเลียนแบบได้อีก
จะไม่มีใครสามารถทำได้สำเร็จอย่างเย่ว์หยาง สิ่งนี้คือแนวความคิดของคนที่เข้ากันได้อย่างสมบูรณ์ จะไม่มีใครสามารถทำได้เหมือนเขาที่อนุญาตให้คนช่วยเขาได้โดยไม่ต้องแย่งกัน ไม่เหมือนกับความรู้ที่รับได้ตกทอดหรือพลังอื่น การหลอมรวมแหล่งพลังงานเหมือนกับเป็นร่างเดียวกัน โอกาสที่สร้างขึ้นมานี้จะไม่มีใครลอกเลียนแบบได้อีกต่อไปไม่ว่าจะมีกำลังคนหรือทรัพยากรเพียงใดก็ตาม นี่จะเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์ จะเป็นสิ่งเดียวในประวัติศาสตร์
เมื่อนางเซียนหงส์ฟ้ากลับมาถึง เย่ว์หยางพบว่าความช่วยเหลือที่ช่วยให้เขาก้าวหน้าได้มาถึงแล้ว
หากเขาทำตัวเหมือนกระแสน้ำที่เร่งรี่ จากนั้นได้รับความช่วยเหลือจากเสวี่ยอู๋เสีย องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน และเสี่ยวเหวินหลี ก็จะมีสภาพเหมือนกับลำธารที่กระแสพุ่งแรง เมื่อเพิ่มเย่ว์ปิง เย่ว์หวี่ ความเร็วในการก้าวหน้าราวกับกระแสแม่น้ำเชี่ยวกราก มีพลังไม่สิ้นสุด รุนแรงไม่สามารถหยุดได้
จื้อจุนและจักรพรรดินีราตรีเพิ่งมาถึงก็ประหลาดใจกับทุกอย่างที่เห็นต่อหน้า
ทั้งหมดนี้ไกลเกินกว่าพวกนางจะคาดถึง
เมื่อพวกนางกำลังมองดู ที่ด้านหลัง อาหมันและตั่วตั่ว อิคคาและคนอื่นๆ เร่งรีบตามถึง.. รอจนกระทั่งเด็กสาวยักษ์วิ่งเข้าไปในสนามพลังงาน พลังลำแสงฟ้าเพิ่มขึ้นสูงเป็นสองกิโลเมตร จื้อจุนและจักรพรรดินีราตรีถึงกับมองตะลึง
ไม่เคยมีใครพยายามฝึกฝนแบบนั้นมาก่อน และไม่มีใครเคยรู้ว่าการฝึกแบบนี้จะทำได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตามจักรพรรดินีราตรีและจื้อจุนมั่นใจแล้วในตอนนี้
การฝึกของเย่ว์หยางในครั้งนี้จะต้องสำเร็จแน่นอน แต่ขอบเขตที่เขาจะไปถึงนั้นด้วยความช่วยเหลือของทุกคนจะเป็นแบบไหน ยังไม่มีใครทำนายได้
ครึ่งชั่วโมงต่อมา หัวหน้าลี่เยี่ยนและภูตเพลิงฟ้าก็เข้ามาสมทบ เย่ว์หยางทำการรู้แจ้งด้วยความช่วยเหลือจากทุกคนเป็นเวลาสามชั่วโมง ในความรู้สึกของเขาพลังลำแสงอาณาเขตรู้แจ้งขยายไปถึง 2300 เมตรและยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เพียงแต่เพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ
“นี่กระมังที่เรียกว่าสวรรค์โปรด ในเมื่อสวรรค์ไม่ถือสาเขา อย่างนั้นเราจะช่วยเขาก็แล้วกัน!” จักรพรรดินีราตรีพูดเสียงดัง นางไม่กังวลเรื่องความล้มเหลวของจื้อจุน สำหรับเย่ว์หยางเมื่อเทียบกับจื้อจุน เขามีความเข้มงวดมากกว่านาง ก็แค่หลอมรวมเข้ากับสนามพลังเพื่อช่วยเขา ด้วยหน้าของจื้อจุนนางไม่พบเหตุผลหักล้างเรื่องเป็นการประทานจากสวรรค์ ในอนาคตเมื่อเผชิญหน้ากับเสวี่ยอู๋เสียจะเป็นเรื่องทำให้ค่อนข้างอึดอัดใจ ที่สำคัญการหลอมรวมกับสนามพลังงาน ทุกคนจะต้องเปิดใจ คิดในสิ่งเดียวกันช่วยเย่ว์หยางให้เต็มที่ ความลับส่วนตัวบางอย่างอาจเก็บรักษาไว้ไม่ได้
“.อืม” จื้อจุนพยักหน้าเล็กน้อยไม่ยืนเฉยอีกต่อไป
นางรู้ว่าถ้านางกับจักรพรรดินีราตรีเข้าร่วมด้วย เจ้าเด็กเย่ว์หยางจะสร้างสนามพลังรู้แจ้งขยายไปถึงสามพันเมตร
สิ่งนี้จะเป็นผลประโยชน์กับเขามาก ต้องทราบว่านี่เป็นเรื่องยากหนักหนาสาหัส ในทุกระยะร้อยเมตรจะมีความต่างกันโดยสิ้นเชิง
นอกจากนี้ การร่วมกับเขาเพื่อช่วยเขาก็เป็นประโยชน์ต่อตัวนางเองไม่เป็นอันตรายเช่นกัน
แม้ว่าเขาจะได้รับความก้าวหน้าในระดับสูงสุด แต่การตระหนักรู้ขอบเขตดินแดนใหม่ร่วมกันกับเขา พวกเขาจะได้รับประโยชน์ร่วมกันหรือไม่?
เมื่อจักรพรรดินีราตรีและจื้อจุนเข้าไปในสนามพลัง ทั้งใจและกายก็สัมผัสได้ถึงร่างของเย่ว์หยาง ร่างของเย่ว์หยางน่าตกตะลึงยิ่งนัก และมีมวลพลังงานขนาดใหญ่โตมโหฬาร ทันใดนั้นสนามพลังทั้งหมดขยายคลุมมากกว่าชั้นหนึ่ง รัศมีแสงรูปครื่งวงกลมสว่างเจิดเจ้าคล้ายกับรุ้ง พลังลำแสงสนามพลังเพิ่มสูงขึ้นอีกหลายร้อยเมตรและทะลุผ่านระดับที่สามพันเมตรไปอย่างง่ายดาย...
ถ้าการยกระดับของเย่ว์หยางก่อนนี้เหมือนกับแม่น้ำที่ไม่สามารถหยุดได้ อย่างนั้นด้วยความช่วยเหลือของจักรพรรดินีราตรีและจื้อจุนทั้งสองนี้เหมือนน้ำในทะเลสาบใหญ่ พลังงานในการรู้แจ้งของเย่ว์หยางไร้ขอบแขตเกินที่เขาคาดไปมากจนทำให้เขาได้รับผลกระทบ และพูดไม่ออกโดยสิ้นเชิง
เวลาผ่านไปและเย่ว์หยางยังคงไม่รู้แจ้งขอบเขตความรู้ใหม่ที่จื้อจุนและจักรพรรดินีราตรีเพิ่มเข้าไปได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งจื้อจุน
นางรู้สึกว่านางไม่ได้ล้ำนำหน้าแต่กลับถูกฉุดลากด้วยความเร็วดุจเหินบิน.. ไม่เพียงแต่นางเท่านั้นที่รู้สึกเช่นนี้ เสวี่ยอู๋เสียและทุกคนที่อยู่ในสนามพลังงานและแบ่งปันซึ่งกันและกัน ทุกคนใช้เย่ว์หยางเพื่อเข้าถึงความรู้ไหม่ของผู้อื่นเพื่อเสริมพลังตัวเองโดยผ่านเย่ว์หยางในทุกครั้งที่ทุกคนอ่อนล้า
ไม่ทราบว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใด ขณะที่เย่ว์หยางและจื้อจุนกำลังจะบรรลุผ่านระดับสุดท้ายพลังงานในลำแสงจึงหยุดเพิ่มระดับช้าๆ
ในท้องฟ้านกหงส์เพลิงร้องกึกก้องเสียงดังทะลุม่านเมฆ
สาวกิเลนปิงหยินกระโดดออกมาและวิ่งตรงไปอยู่ที่ด้านหลังเย่ว์หยาง นางเชื่อมโยงกับทุกคนทันทีด้วยความซุกซน
การปรากฏตัวของนางทำให้เสวี่ยอู๋เสียประหลาดใจและรู้ว่าสาวกิเลนนี้ไม่ใช่อสูรธรรมดา แต่นางกลับเต็มใจออกมาในช่วงเวลาสงบสุขนี้
นอกจากนี้ความรู้สึกใหม่สองแบบที่จื้อจุนและจักรพรรดินีราตรียากจะสัมผัสถึง พวกนางเพ่งความรู้สึกไปที่เย่ว์หยาง คนอื่นรู้ว่ามีความแตกต่าง แต่พวกเขาไม่สามารถรู้สึกได้ถึงความคงอยู่ของพลังงานชนิดนี้ จื้อจุนรู้สึกตกใจหนัก นางคิดว่านางเข้าไปถึงระดับสูงสุดได้แล้ว และกลับมีโลกลึกลับแบบใหม่ไร้ที่สิ้นสุด.. นางรู้สึกว่ามีกระบี่เล่มหนึ่งในร่างนางไปและแทงเข้าที่ระหว่างคิ้วของเย่ว์หยาง กระบี่นี้ไม่เพียงแต่ทะลวงขอบเขตสูงสุดที่เย่ว์หยางกับนางเข้าถึง แต่ทะลุขึ้นไปในท้องฟ้า
ไม่ ไม่ใช่ท้องฟ้า
เป็นกฎสวรรค์ของโลกพฤกษา
ใครกัน?
ใครกันที่บรรลุระดับขอบเขตนี้ได้? ใครใช้ปราณกระบี่เชื่อมโยงทั่วทั้งโลกพฤกษาได้
จื้อจุนไม่มีเวลาคิดและนางพบว่ากฎสวรรค์ของโลกพฤกษาเชื่อมโยงกับเย่ว์หยางอย่างน่าทึ่ง
แหล่งกฎที่ไร้การควบคุมที่เย่ว์หยางดูดซับเข้าไปแทนที่ในตอนนี้ก็มีพลังแทนอยู่แล้ว พลังกฎสวรรค์ที่มากมายหลังจากหลุดออกมาจากแหล่งพลังเดิม พอไร้การควบคุมก็ส่งผลต่อร่างของเย่ว์หยาง เย่ว์หยางในขณะนี้มีความเข้าใจผิดรู้สึกว่ามีศูนย์กลางแห่งจักรวาลขนาดใหญ่ระเบิดพร้อมกันทำให้จิตใจขยายตัวไม่หยุดหย่อน
ในพวกเขากลุ่มคนที่อ่อนแออย่างเป่าเอ๋อ เซี่ยอีและเย่ว์หวี่ พวกนางหมดสติไปในเวลาไม่ถึงวินาทีและจิตใจของพวกนางหลุดออกจากการมีส่วนร่วมพลังระเบิดจักรวาล
เย่ว์ปิงและอี้หนานต้านทานได้สามวินาที
อาหงและอาหมันในฐานะขุนพลเทพดิน พวกนางถึงขีดจำกัดในเวลาห้าวินาที นางเซียนหงส์ฟ้า โล่วฮัว องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกัดฟันทนได้เจ็ดวินาที และในที่สุดก็ล้มลงกับพื้น มีแต่เพียงเสวี่ยอู๋เสียที่ได้รับพลังสนับสนุนของสนามพลังศักดิสิทธิ์ของนางทนได้ถึงสิบวินาที จักรพรรดินีราตรีมีพลังทนได้มากกว่าสามสิบวินาที มีแต่จื้อจุนคนเดียวที่สามารถทนอยู่ได้จนถึงหนึ่งนาที
ในที่สุดนางก็หมดสติพร้อมกับเย่ว์หยางในสภาพผสานใจตลอดเวลา
ก่อนจะหมดสติ จื้อจุนดูเหมือนจะเห็นคัมภีร์สว่างเจิดจ้าใหญ่ขนาดสิบเมตรฉายแสงอยู่หน้าเขา
คัมภีร์เทพ?
นางไม่สามารถคิดอะไรได้อีก ล้มลงนอนพาดอยู่บนตัวเย่ว์หยาง นางเหนื่อยล้าจนหลับไป